การใช้ครีมกันแดดเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องทำค่ะเพราะว่าแสงแดดอันตรายต่อผิวมาก หากเราสัมผัสแสงแดดทุกวันโดยไม่ได้ป้องกันผิวของเราจะคล้ำ เป็นฝ้า ผิวไหม้และอาจจะพัฒนาเป็นโรคผิวหนังได้ แน่นอนว่าครีมกันแดดมีมากมายหลายแบบให้เราได้เลือกค่ะและทางเบสท์รีวิวของเราก็ได้แนะนำครีมกันแดดไปมากมาย แต่ส่วนตัวแล้วผู้เขียนจะชอบซื้อครีมกันแดดที่ทาง่ายค่ะโดยจะเลือกซื้อครีมกันแดดเนื้อเจล ครีมกันแดดแบบมีสีและสเปรย์กันแดดมาใช้บ่อย ๆ เพราะคิดว่ามันใช้งานได้ง่ายมากที่สุดและตอนนี้ผู้เขียนก็กำลังสนใจ “กันแดดเนื้อน้ำนมจากญี่ปุ่น” อยู่เหมือนกัน
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมผู้เขียนถึงสนใจกันแดดเนื้อน้ำนมจากญี่ปุ่น ตอบเลยค่ะว่าในญี่ปุ่นมีกันแดดเนื้อน้ำนมให้เลือกซื้อเยอะมาก จุดเด่นเลยคือมันทาได้ง่าย ไม่เหนียวและมีหลายสูตรให้เลือกค่ะ ใครที่กำลังคิดจะซื้อกันแดดเนื้อน้ำนมก็ห้ามพลาดบทความนี้นะคะ เพราะผู้เขียนจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับครีมกันแดดชนิดนี้และจะแนะนำสินค้ากันด้วยไปกันเลยค่ะ
กันแดดเนื้อน้ำนมจากแบรนด์ไหน เนื้อบางเบา ทาได้ง่าย ป้องกันแสงแดดได้ดีที่สุด ?
- กันแดดเนื้อน้ำนมที่เหมาะจะใช้ในชีวิตประจำวัน เนื้อบางเบา ให้ความชุ่มชื้นได้ดี: Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม
- กันแดดเนื้อน้ำนมสูตรพิเศษ เหมาะสำหรับคนที่มีผิวมันและผิวผสม: Kose Sekkisei Skincare UV Milk SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม
- กันแดดเนื้อน้ำนมหาซื้อได้ง่าย ใช้เป็นเมคอัพไพรเมอร์ได้: Biore UV Perfect Milk SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม
- กันแดดคุณภาพเยี่ยม เหมาะสำหรับใช้ทาตอนทำกิจกรรมกลางแจ้ง: Shiseido Perfect UV Protector SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม
- กันแดดที่เหมาะสำหรับผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย ปราศจากน้ำหอมและแอลกอฮอล์ : Curel UV Protection Face Milk SPF50+ PA+++ กันแดดเนื้อน้ำนม
ข้อดีของกันแดดเนื้อน้ำนมคืออะไร ทำไมต้องเลือกใช้ ?
กันแดดเนื้อน้ำนม (Milky Sunscreen) คือผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดหนึ่งที่มีเนื้อสัมผัสไม่หนาเกินไป มีความบางเบาและสามารถใช้งานได้ง่ายกว่าครีมกันแดดชนิดอื่น กันแดดเนื้อน้ำนมบางแบรนด์ไม่มีสารเคมี อ่อนโยนต่อผิวและเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย แม้แต่เด็กทารกที่มีอายุ 6 เดือนขึ้นไปก็สามารถใช้งานได้ค่ะ แต่หากต้องการซื้อกันแดดเนื้อน้ำนมให้กับเด็กอย่าลืมเช็กส่วนผสมและสูตรทุกครั้งนะคะว่าเหมาะกับผิวของเด็กไหม ทางที่ดีให้เลือกซื้อครีมกันแดดที่ระบุว่าเหมาะกับผิวเด็กจะดีกว่าค่ะ

ปกติแล้วครีมกันแดดแบรนด์ไทยและแบรนด์ยุโรปจะไม่ค่อยมีกันแดดเนื้อน้ำนมค่ะ แต่ในญี่ปุ่นมีกันแดดเนื้อน้ำนมมากเป็นพิเศษ ผู้เขียนเองค่อนข้างชอบกันแดดเนื้อน้ำนมเลยเพราะมันทาง่าย เนื้อบางเบาและซึมเข้าสู่ผิวเร็วมาก ส่วนใหญ่แล้วกันแดดเนื้อน้ำนมจากญี่ปุ่นจะเป็นกันแดดชนิดเคมีเป็นหลักค่ะ มีประสิทธิภาพในการกันน้ำ เหงื่อและสามารถครอบคลุมการใช้งานของเราได้ แต่ข้อเสียคือเนื้อกันแดดจะมีสีขาวเป็นหลักซึ่งอาจจะทำให้เกิดคราบได้ ในการซื้ออย่าลืมเลือกซื้อสูตรที่ไม่มีคราบนะคะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบที่ผิวนั่นเองค่ะ ใครที่ชอบครีมกันแดดที่ทาง่ายให้ความรู้สึกเหมือนทาเซรั่มแนะนำเลย
เคล็ดลับในการเลือกซื้อกันแดดเนื้อน้ำนม
1. เลือกกันแดดที่มีค่า SPF และ PA สูง
ปัจจัยแรกที่เราต้องให้ความสำคัญก่อนเลือกซื้อกันแดดคือค่า SPF/PA ค่ะ หากในแต่ละวันคุณออกแดดเพียงเล็กน้อยกันแดดที่มีค่า SPF 20/PA++ ก็เพียงพอที่จะป้องกันรังสียูวีได้แล้ว แต่หากต้องอยู่กลางแจ้งเป็นเวลานานหรืออยู่ในบริเวณที่มีค่าดัชนีรังสียูวีสูงให้เลือกกันแดด SPF50/PA++++ เพราะจะสามารถป้องกันแสงแดดได้ดีกว่า แต่นอกจากการเลือกค่ากันแดดที่เหมาะสมแล้วการทาครีมกันแดดในปริมาณที่พอเหมาะและการทาครีมกันแดดซ้ำเป็นประจำเป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกันค่ะ เพราะหากเราตากแดดทั้งวันโดยไม่ได้ทากันแดดซ้ำเลยการทากันแดดก็จะไม่เห็นผลและไม่ได้ช่วยอะไรด้วยค่ะ ในการทากันแดดแนะนำให้ทาซ้ำ ๆ ทุก 2 ชม. เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดดค่ะ
2. เลือกระหว่างครีมกันแดดเคมีหรือครีมกันแดดกายภาพ
ครีมกันแดดที่ปกป้องผิวจากรังสี UV แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ ครีมกันแดดแบบเคมีและครีมกันแดดแบบกายภาพค่ะ ครีมกันแดดแบบเคมีจะทำงานโดยการดูดซับรังสีจากดวงอาทิตย์ ส่วนครีมกันแดดแบบกายภาพจะทำหน้าที่สร้างเกราะป้องกัน ช่วยกระจายและช่วยสะท้อนรังสีของดวงอาทิตย์ ในแง่ของการใช้งานผู้เขียนชอบครีมกันแดดแบบกายภาพมากกว่าเพราะมันระคายเคืองต่อผิวหนังน้อยกว่า จึงสามารถตอบโจทย์สำหรับเด็กและคนที่มีผิวแพ้ง่ายได้ดี แต่ถ้าให้พูดเรื่องเนื้อสัมผัสครีมกันแดดแบบเคมีจะดีกว่าค่ะ เพราะมันบางเบา ซึมง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่ครีมกันแดดแบบเคมีก็มีข้อเสียคือเหมือนกันเพราะมักสร้างฟิล์มสีขาวบนผิวหนัง ทำให้รู้สึกมันเยิ้มและจะทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่าย แต่การเลือกประเภทของครีมกันแดดขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละคนด้วย ชอบแบบไหนสะดวกแบบไหนก็เลือกแบบนั้นเลยค่ะ
3. เลือกสูตรที่กันน้ำและกันเหงื่อ
ผลิตภัณฑ์กันแดดบางแบรนด์มีความสามารถในการกันน้ำในตัวเพื่อให้เหมาะกับความต้องการและกิจกรรมที่แตกต่างกัน เช่น การว่ายน้ำ การออกกำลังกาย การทำงานกลางแจ้ง ฯลฯ แต่ถึงแม้ว่าครีมกันแดดจะกันน้ำได้แต่ประสิทธิภาพการกันน้ำก็อยู่ได้ไม่นานนักค่ะ หากต้องการลงน้ำจริง ๆ ควรทาครีมกันแดดซ้ำด้วยเพื่อให้ปกป้องผิวจากแสงแดดให้ดีขึ้น นอกจากนี้ไม่ว่าคุณจะใช้ครีมกันแดดชนิดใดสิ่งสำคัญอีกอย่างคือการทำความสะอาดครีมกันแดดค่ะ ผลิตภัณฑ์กันแดดบางชนิดมีส่วนผสมที่ล้างออกได้ยากด้วยน้ำเปล่า ดังนั้นควรใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์ล้างเครื่องสำอางที่อ่อนโยนเพื่อทำความสะอาดผิวอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
4. เลือกครีมที่มีเนื้อเนียนละเอียดและซึมซาบเร็ว
โดยทั่วไปแล้วกันแดดเนื้อน้ำนมควรมีเนื้อบางเบาและซึมซาบเร็วค่ะ แต่กันแดดแบบกายภาพส่วนใหญ่มักจะซึมซาบได้ช้าและมีความเหนียวเหนอะหนะเล็กน้อย ส่วนครีมกันแดดแบบเคมีก็มักจะทิ้งคราบขาวไว้บนผิวได้ง่าย ในการเช็กว่ากันแดดเนื้อน้ำนมที่เราซื้อมาบางเบาหรือทาง่ายไหมให้อ่านที่คำเคลมของแบรนด์หรืออาจจะอ่านจากรีวิวของคนอื่นก็ได้เพราะจะทำให้เราสามารถเลือกซื้อกันแดดได้ง่ายขึ้น เรื่องสีของกันแดดก็มีความสำคัญเหมือนกันค่ะ ปกติแล้วกันแดดเนื้อน้ำนมจะมีให้เลือกทั้งแบบมีสีและไม่มีสีเราสามารถเลือกได้ตามความชอบได้เลย ส่วนตัวแล้วผู้เขียนชอบกันแดดแบบมีสีมากกว่าเพราะผู้เขียนเป็นคนไม่ค่อยอยากใช้รองพื้นแต่อยากให้ผิวกระจ่างใสขึ้นเลยเลือกที่จะใช้กันแดดแบบมีสี แต่หากซื้อกันแดดแบบมีสีอย่าลืมเช็กสีให้ดีเพราะหากสีของกันแดดไม่เหมาะกับผิวของเราจะทำให้หน้าเราลอยได้
Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 875 บาท*
เปิดตัวกันด้วยกันแดดเนื้อน้ำนม Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N หากใครที่เคยใช้มาบ้างคงรู้ว่าครีมกันแดดจากอเนสซ่าอยู่ในเครือเดียวกับ Shiseido Perfect UV Protector และทางเราก็เคยได้รีวิวฉบับเต็มกันไปแล้วใน ครีมกันแดดญี่ปุ่น Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk จุดเด่นของครีมกันแดดน้ำนมจากทางแบรนด์คือสามารถใช้เป็นเมคอัพไพรเมอร์ได้ ตัวผลิตภัณฑ์จะมี 2 ความจุให้เราเลือกค่ะคือ 60 มล. และ 20 มล. ในรูปของเราเป็น 20 มล. นะคะมีขนาดกะทัดรัดพกพาสะดวกมากเลย

กันแดดมาพร้อมค่า SPF50+ PA++++ สามารถป้องกันรังสียูวีได้ดีมากแต่ไม่ค่อยเหมาะกับการใช้งานกลางแจ้งเท่าไหร่ค่ะเพราะประสิทธิภาพในการกันน้ำกันเหงื่ออยู่ในระดับปานกลางเท่านั้น ผู้เขียนค่อนข้างชอบเนื้อสัมผัสเพราะเป็นเนื้อน้ำนมที่เนียนนุ่มและบางเบา แม้ว่าจะมีความรู้สึกเหนอะหนะเล็กน้อยตอนที่ทาแต่ก็ไม่ทิ้งคราบขาวเอาไว้ ส่วนในเรื่องความชุ่มชื้นทางแบรนด์ทำได้ดีเลยค่ะเพราะมีส่วนผสมของซูเปอร์ไฮยาลูโรนิก คอลลาเจนและกลีเซอรีนไว้บำรุงผิว
แต่ผู้เขียนติดเรื่องกลิ่นนิดหน่อยค่ะเพราะเป็นกลิ่นออกแนวสบู่ส้มที่ผู้เขียนไม่ค่อยชอบแต่ก็รับได้ สำหรับใครที่กำลังมองหาครีมกันแดดสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันที่มีความสมดุลระหว่างประสิทธิภาพในการปกป้องผิว เนื้อสัมผัส การกันน้ำและการพกพาแนะนำ Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N เลยค่ะ
ข้อดี
- ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นพิเศษจึงเหมาะกับผิวที่ขาดความชุ่มชื้น
- เนื้อบางเบา ซึมเร็วและไม่ทิ้งคราบมันไว้บนผิวใช้ทาเป็นไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าได้
- เกลี่ยง่ายไม่มีคราบขาวติดผิวและจะไม่ติดคอเสื้อเมื่อทา
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 20 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้ง |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Kose Sekkisei Skincare UV Milk SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 830 บาท*
ถัดมาเป็น Kose Sekkisei Skincare UV Milk ค่ะ กันแดดตัวนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นเมคอัพไพรเมอร์เช่นเดียวกับ Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N แต่ผ่านการออกแบบมาสำหรับคนผิวที่มีมันมากโดยเฉพาะ เพราะภายในกันแดดมีส่วนผสมที่สามารถดูดซับความมันเพื่อป้องกันไม่ให้ใบหน้าเกิดความมันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งทางแบรนด์ยังเคลมมาว่ากันแดดสามารถปกป้องผิวจากสิ่งสกปรกได้ดีด้วย
จุดเด่นของครีมกันแดด Sekkisei คือมีความสามารถในการปกป้องผิวจากรังสี UV ที่ดีค่ะโดยมีค่ากันแดดอยู่ที่ SPF50+ PA++++ สามารถกันน้ำได้ดีเลยทีเดียวแต่หลังทาแล้วต้องรอให้ครีมกันแดดแห้งสนิทก่อนนะคะเพราะมันเกาะติดผิวได้ไม่ค่อยดีนักต้องรอแห้งก่อนที่จะทำอย่างอื่นต่อได้ กันแดดเนื้อน้ำนมมีความเนียนละเอียด ไม่เหนียวเหนอะหนะเมื่อทาลงบนผิวแล้วผิวจะรู้สึกชุ่มชื่นและนุ่มขึ้นด้วย ใครที่มีปัญหาผิวมันหรือผิวผสมแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- เนื้อกันแดดเป็นน้ำนมสีขาวเมื่อทาแล้วจะไม่เป็นคราบ
- เมื่อทาแล้วไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่ทำให้ผิวมันเลย
- สามารถปรับสภาพผิวและทำหน้าที่เป็นไพรเมอร์ก่อนแต่งหน้าได้
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมันและผิวผสม |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Biore UV Perfect Milk SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 276 บาท*
Biore UV Perfect Milk เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมชนิดเคมีที่มีส่วนผสมของ Zinc Oxide และ Otinoxte ที่สามารถป้องกันรังสี UVB, UVA1, UVA2 ได้ดีทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถป้องกันแสงแดดได้สูงสุดประมาณ 90% อีกทั้งยังสามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้นานถึง 80 นาทีด้วย ผู้เขียนเคยใช้กันแดดสูตรนี้มาก่อนค่ะ บอกเลยว่าซึมซาบเร็วมากและเป็นสูตรที่ไม่อุดตันรูขุมขนที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวด้วย ราคาของกันแดดค่อนข้างถูกสามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกายเลยค่ะ
เนื้อครีมกันแดดจะเป็นสีขาวนะคะแต่เมื่อทาแล้วจะไม่เป็นคราบ ผู้เขียนชอบตรงที่เนื้อไม่ได้เหลวมากทำให้เราสามารถทาบนผิวได้ง่าย ประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดคือ SPF50+ PA++++ เมื่อเปรียบเทียบการกันน้ำแล้ว Biore UV Perfect Milk กันน้ำได้ดีกว่า Anessa Perfect UV Sunscreen Skincare Milk N ดังนั้นกันแดดบิโอเรจึงเหมาะกับกิจกรรมกลางแจ้งและเหมาะกับกิจกรรมทางน้ำด้วย
ข้อดี
- เนื้อบางเบา ทาง่าย ซึมเร็วและไม่ทิ้งคราบขาวเอาไว้บนผิว
- สามารถกันน้ำและเหงื่อได้อย่างดีเยี่ยมเหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- สามารถทาทับเมคอัพระหว่างวันได้เลยไม่ต้องกังวลว่าจะเป็นคราบ
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- อาจจะควบคุมความมันบนผิวได้ไม่ดีนัก
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 40 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Shiseido Perfect UV Protector SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 1,399 บาท*
Shiseido Perfect UV Protector เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งเช่นเดียวกับ Biore UV Perfect Milk ค่ะ แต่เมื่อเปรียบกันแล้วชิเชโด้จะเหมาะกับกลางแจ้งมากกว่าค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าผลิตภัณฑ์มีเทคโนโลยี SychroShield ที่สามารถช่วยสร้างฟิล์มบนผิวหนัง เมื่อผิวหนังรู้สึกร้อนจากเหงื่อหรือน้ำชั้นป้องกันนี้แหละค่ะที่จะช่วยกันรังสี UV และมลภาวะออกจากผิว ค่ากันแดดจะอยู่ที่ SPF50+ PA++++ ถือว่าพอเหมาะและมีประสิทธิภาพสำหรับกลางแจ้งจริง ๆ
ผู้เขียนมองว่าความสามารถในการปิดกั้นรังสียูวีของ Shiseido Perfect UV Protector นั้นดีมากเลย ไม่เพียงเท่านั้นนะคะเพราะประสิทธิภาพการกันน้ำยังสูงมากด้วย เนื้อสัมผัสของกันแดดเป็นเนื้อน้ำนมนุ่มเหมือนโลชั่น ไม่ทิ้งคราบขาวและผิวจะเรียบเนียนขึ้นเมื่อกันแดดแห้ง แต่ราคาของกันแดดแอบแรงไปหน่อยค่ะแต่ก็คุ้มหากคุณทำกิจกรรมกลางแจ้งเป็นประจำ
ข้อดี
- เนื้อบางเบา สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม้ทิ้งความมันไว้บนผิว
- สามารถกันน้ำและเหงื่อได้อย่างดีเยี่ยมเหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
- ทาก่อนลงรองพื้นได้เพราะจะทำให้รองพื้นและเมคอัพติดทนนานขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ราคาของกันแดดค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Curel UV Protection Face Milk SPF50+ PA+++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 720 บาท*
Curel UV Protection Face Milk เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่มีส่วนผสมของ Stearyl Glycyrrhetinate ทางแบรนด์เคลมมาว่าเป็นสารที่มีฤทธิ์ต้านการอักเสบ อีกทั้งผลิตภัณฑ์ยังผ่านการทดสอบแล้วว่าไม่ระคายเคืองและไม่ก่อให้เกิดการอุดตันผิวจึงเหมาะสำหรับคนมีผิวแพ้ง่ายมาก ตัวครีมกันแดดเป็นครีมกันแดดแบบกายภาพนะคะไม่ได้เป็นแบบเคมีเหมือน Biore UV Perfect Milk จึงตอบโจทย์คนที่ไม่อยากใช้กันแดดแบบเคมี
แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นครีมกันแดดแบบกายภาพแต่ Curel UV Protection Face Milk ก็มีข้อดีตรงที่ไม่ค่อยเหนียวเหนอะหนะ คนที่มีผิวแห้งก็สามารถใช้ได้นะคะเพราะครีมกันแดดมีเซราไมด์ที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถช่วยปกป้องผิวจากความเสียหาย กันแดดเนื้อบางเบาทาง่ายและให้เนื้อสัมผัสที่เรียบเนียน ปราศจากสารดูดซับรังสียูวี น้ำหอม สี และแอลกอฮอล์แม้แต่ผิวของทารกก็ใช้งานได้ค่ะ
ข้อดี
- ไม่มีส่วนผสมของเคมี น้ำหอม สีและแอลกอฮอล์ใช้งานได้อย่างปลอดภัย
- มีส่วนผสมของสารให้ความชุ่มชื้นมากมายตอบโจทย์ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย
- เนื้อสัมผัสมีความบางเบา ทาง่ายและซึมเร็วไม่เหนียวผิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาของกันแดดค่อนข้างสูงกว่าแบรนด์อื่น ๆ
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดกายภาพ |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA+++ |
Rohto Skin Aqua UV Super Moisture Milk SPF50 + PA ++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 321 บาท*
Rohto's Skin Aqua Super Moisture Milk เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่มีเนื้อบางเบาค่ะ ทางแบรนด์ออกแบบมาหลายสูตรโดยรุ่นที่เราแนะนำเป็นรุ่นสีฟ้าเมื่อเกลี่ยลงบนผิวแล้วจะไม่มีสีค่ะ ส่วนสูตรสีชมพูจะสามารถช่วยปรับสีผิวให้กระจ่างใสขึ้นได้ ในการเลือกซื้อสามารถเลือกได้ตามความชอบเลยนะคะไม่ว่าสูตรไหนก็ปังหมด ค่ากันแดดจะอยู่ที่ SPF50+ PA++++ นะคะป้องกันแดดได้ดี สามารถกันน้ำได้ในระดับปานกลาง เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน
แพ็กเกจของกันแดดมีความคล้ายกับ Biore UV Perfect Milk ค่ะ ผู้เขียนสับสนหลายครั้งมาก แต่ฝาของ Rohto's Skin Aqua Super Moisture Milk จะเรียวและแหลมกว่า เนื้อสัมผัสของกันแดดมีความบางเบาจะไม่ทิ้งคราบขาวเอาไว้บนผิว ขวดของครีมกันแดดก็เล็กกะทัดรัด พกพาสะดวกเมื่อออกไปข้างนอก
ข้อดี
- เนื้อกันแดดบางเบา เนียนนุ่มและเกลี่ยเข้าสู่ผิวได้ง่าย
- เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันเพราะไม่เหนียวเหนอะหนะ
- มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นมากมายจึงตอบโจทย์กับคนที่มีผิวแห้งได้ดี
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 40 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแห้ง |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Biore UV Athlizm Skin Protect Essence Protect Milk SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 599 บาท*
Biore UV Athlizm Skin Protect Essence Protect Milk เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อป้องกันแสงแดดขั้นสุดค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่าสูตรนี้แตกต่างจาก Biore UV Perfect Milk อย่างไร บอกตรง ๆ เลยว่าค่อนข้างแตกต่างค่ะเพราะ Biore UV Perfect Milk จะเหมาะสำหรับกีฬากลางแจ้งธรรมดา ๆ แต่สูตรสีแดงที่เราแนะนำจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการครีมกันแดดประสิทธิภาพสูงเพื่อทำกิจกรรมกลางแจ้งที่ยาวนานค่ะ
ครีมกันแดดสามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังได้ใช้เทคโนโลยี Tough Boost & Outer Skin ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเฉพาะที่ใช้โพลิเมอร์สามารถทนต่อแรงเสียดทานทำให้ครีมกันแดดติดทนนาน แต่ไม่ต้องกังวลว่าครีมกันแดดจะหนักผิวนะคะเพราะมันบางเบาและให้ความชุ่มชื้นได้ดี ครีมกันแดดจะเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแต่จะเหมาะสำหรับการทาตอนเดินป่า ตอนไปชายหาดหรือเล่นกีฬากลางแจ้งค่ะ
ข้อดี
- กันแดดสามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้นาน 80 นาทีเหมาะสำหรับใช้ตอนทำกิจกรรมกลางแจ้ง
- มีสารบำรุงผิวมากมายเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นมากยิ่งขึ้น สามารถใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย
- กันแดดติดทนนานมากและทนทานต่อการเสียดสีได้เป็นอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 70 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Allie Extra UV Protector Perfect SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 548 บาท*
Allie Extra UV Protector Perfect เป็นกันแดดเนื้อน้ำนมที่มีเนื้อสัมผัสบางเบา เกลี่ยง่ายและให้ความนุ่มนวลต่อผิว ก่อนที่จะทาแนะนำให้เขย่าก่อนเพื่อให้เนื้อสัมผัสเข้ากับผิว ตัวครีมกันแดดเป็นเคมีมีส่วนผสมของซิงค์ออกไซด์และไททาเนียมไดออกไซด์เช่นเดียวกับ Biore UV Perfect Milk และแน่นอนว่าสารเหล่านี้เป็นตัวป้องกันรังสียูวี ลักษณะเนื้อน้ำนมมีความคล้ายบิโอเรเลยค่ะ ตอนแรกที่ทาอาจจะมีคราบขาวเล็กน้อยแต่จะค่อย ๆ กลมกลืนกับผิวเมื่อกันแดดแห้งแล้วค่ะ ค่าป้องกันแสงแดดอยู่ที่ SPF50+ PA++++ เหมาะสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวัน
ในการใช้งานสามารถทาเพื่อป้องกันแสงแดดได้หรือจะใช้เป็นเมคอัพเบสก็ได้เหมือนกัน เมื่อทากันแดดแล้วผิวจะได้รับความชุ่มชื้นไม่แห้งกร้าน ตัวกันแดดปราศจากน้ำหอมและสามารถกันน้ำได้ แต่ครีมกันแดดจะล้างออกยากนิดหน่อยนะคะแนะนำให้ล้างด้วยคลีนซิ่งออยล์เพื่อป้องกันการอุดตันผิวและสิวค่ะ ใครที่กำลังหาซื้อกันแดดแบบไม่มีน้ำหอมแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- เนื้อสัมผัสของครีมกันแดดมีความบางเบาสามารถกันน้ำได้
- สามารถใช้ได้กับทั้งผิวหน้าและผิวกาย
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยไม่ระคายเคือง
ข้อควรพิจารณา
- มีสารให้ความชุ่มชื้นก็จริงแต่อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์กับผิวที่แห้งมาก
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Kose Suncut Perfect UV Milk SPF50+ PA++++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 300 บาท*
Kose Suncut Perfect UV Milk เป็นครีมกันแดดที่โดดเด่นในเรื่องความสามารถในการกันน้ำค่ะ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ต้องใช้เวลานอกบ้านเป็นเวลานานเป็นประจำ อีกทั้งครีมกันแดดจาก Kose ยังสามารถใช้กับผิวที่เปียกได้จึงเป็นครีมกันแดดที่เหมาะสมเมื่อไปชายหาดและไปว่ายน้ำค่ะ หลายคนอาจจะสงสัยว่า Kose Suncut Perfect UV Milk กับ Kose Sekkisei Skincare UV Milk แบบไหนดีกว่า บอกก่อนนะคะว่าทั้งสองแบรนด์อยู่ในเครือเดียวกันก็จริงแต่คนละคอลเลกชันกันเลย อีกทั้ง Suncut ยังมีหลากหลายคอลเลกชันย่อยแต่ Suncut Perfect UV นั้นโดดเด่นเรื่องกันน้ำเป็นพิเศษ
ประสิทธิภาพในการกันแดดอยู่ที่ SPF50+ PA++++ สามารถกันแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ข้อดีอีกอย่างคือมีความบางและเบา เมื่อครีมกันแดดแห้งเราจะรู้สึกตึงผิวเล็กน้อยแต่ไม่ได้ทำให้ผิวแห้งแต่อย่างใด สำหรับใครที่อยากซื้อครีมกันได้ที่กันน้ำได้ดีเหมาะสำหรับเล่นกีฬากลางแจ้งและไม่ทิ้งคราบเหนียวเหนอะหนะขณะทาต้อง Kose Suncut Perfect UV Milk เท่านั้นค่ะ
ข้อดี
- เนื้อกันแดดเป็นสีขาว บางเบาแต่ไม่เหลวจนเกินไปซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ดี
- ให้ความชุ่มชื้นได้ดีสามารถใช้เป็นมอยส์เจอไรเซอร์ได้
- กันน้ำและกันเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์อยู่
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 60 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✘ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++++ |
Rohto Acnes Mentholatum Smooth Base UV Milk SPF 50+ PA++ กันแดดเนื้อน้ำนม

ราคา 355 บาท*
Rohto's Acnes Medicinal Smooth Base UV Milk Sunscreen เป็นครีมกันแดดเนื้อน้ำนมที่มีสีค่ะโดยสีจะเป็นสีเบจเหมาะสำหรับคนที่อยากได้ครีมกันแดดที่สามารถปรับสีผิวได้ ตัวครีมกันแดดสูตรนี้จะแตกต่างจาก Rohto's Skin Aqua Super Moisture Milk เพราะเป็นเวชสำอางที่มีส่วนผสมของ Isopropylmethylphenol และ Stearyl glycyrrhetinate ที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ต้านการอักเสบจึงเหมาะและออกแบบมาเพื่อคนที่มีปัญหาสิวโดยเฉพาะ
ค่ากันแดดจะอยู่ที่ SPF50+ PA++ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนยังไม่เคยใช้นะคะ แต่จากรีวิวมากมายพบว่ากันแดดสามารถทนต่อรังสี UV ได้ดีและมีความเสถียรสูง อีกทั้งยังกันน้ำและกันเหงื่อได้ดีด้วย เนื้อสัมผัสของกันแดดเกลี่ยง่ายนะคะไม่ว่าโทนสีผิวไหนก็สามารถใช้งานได้ไม่ทำให้หน้าลอยอย่างแน่นอน แต่ก่อนใช้แนะนำให้เขย่าก่อนนะคะเพื่อให้ส่วนผสมเข้ากันหากไม่เขย่ามันจะไม่ค่อยกลืนกับผิวเท่าไหร่นักค่ะ
ข้อดี
- ครีมกันแดดมีสีสามารถใช้ปรับสีผิวแทนรองพื้นได้อย่างสบาย ๆ
- มีส่วนผสมป้องกันสิวสามารถใช้กับคนที่มีปัญหาสิวได้
- สามารถกันน้ำและกันเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถใช้งานได้ทุกวัน
ข้อควรพิจารณา
- สีของครีมกันแดดมีไว้เพื่อปรับสีผิวเท่านั้นไม่สามารถปกปิดจุดบกพร่องของผิวได้
ชนิดของครีมกันแดด | ครีมกันแดดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิวโดยเฉพาะคนเป็นสิว |
ช่วยปรับโทนสีผิว | ✔ |
ค่า SPF / PA | SPF50+ PA++ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ทากันแดดเนื้อน้ำนมยังไงให้ป้องกันแดดได้ดี ?
เมื่อทากันแดดเนื้อน้ำนมบนใบหน้าให้ทา 2 ข้อนิ้วเช่นเดียวกับครีมกันแดดแบบอื่น ๆ ค่ะ โดยให้ทา 5 จุดบนใบหน้าเมื่อทาครบแล้วให้เกลี่ยครีมเป็นวงกลมเพื่อให้ครีมกระจายทั่วใบหน้าอย่างสม่ำเสมอ แต่หากคุณเป็นคนที่ชอบแต่งหน้าควรทาครีมกันแดดในขั้นตอนสุดท้ายของขั้นตอนการดูแลผิวและทาก่อนลงรองพื้น หากปล่อยให้กันแดดแห้งประมาณ 10 นาที เมคอัพก็จะติดทนนานขึ้นค่ะ แต่ครีมกันแดดบางแบรนด์เช่น Biore UV Perfect Milk จะมีประสิทธิภาพเหนือกว่ากันแดดแบรนด์อื่น ๆ อยู่หน่อยเพราะสามารถทาได้ตลอดเวลาค่ะและทาทับเมคอัพได้ด้วยเหมาะสำหรับคนที่อยากเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันแสงแดดค่ะ

ส่วนระยะเวลาวันหมดอายุของครีมกันแดดจะมีอายุประมาณตั้งแต่เปิดฝาประมาณ 3 หรือ 4 เดือนค่ะ แต่หากกันแดดที่คุณซื้อเป็นกันแดดออร์แกนิกระยะเวลาในการหมดอายุก็จะเร็วขึ้น หากใครที่เปิดใช้ครีมกันแดดมากว่าหนึ่งปีแล้วแต่ใช้ไม่หมดไม่แนะนำให้ใช้อีกค่ะเพราะอาจจะมีแบคทีเรียปะปนอยู่ได้ซึ่งไม่ดีต่อผิว ส่วนใครที่ต้องการยืดระยะเวลาของครีมกันแดดควรจัดเก็บครีมกันแดดไว้ในห้องเย็น หลีกเลี่ยงอุณหภูมิสูงและอย่าลืมตรวจสอบสีหรือเนื้อสัมผัสของครีมกันแดดทุกครั้งที่ใช้ด้วย