ทุกวันนี้กล้องถ่ายภาพ มีอยู่หลายประเภทมาก ๆ ซึ่งในแต่ละประเภทก็จะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไปอย่าง กล้องคอมแพค ก็จะใช้งานง่าย พกพาสะดวก, กล้องฟิล์ม ก็จะให้ภาพที่คลาสสิค, กล้อง DSLR ก็จะให้คุณปรับค่าแสง และค่าต่าง ๆ ในกล้องได้อิสระ เพื่อให้ได้ภาพอย่างที่คุณจินตนาการ แต่มีกล้องอยู่หนึ่งประเภท ที่ได้เอาข้อดีของกล้องหลาย ๆ ประเภทมาไว้ในตัวมันเอง ทำให้มีขนาดเล็ก ใช้งานง่าย พร้อมกับสามารถปรับค่าต่าง ๆ ได้ตามต้องการเหมือนกล้อง DSLR เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้หลายคนก็อาจจะรู้แล้วว่า เราหมายถึงกล้องอะไร ? ใช่ค่ะ ! กล้องที่เราพูดถึง คือ กล้องมิเรอร์เลส (Mirrorless Camera) นั่นเอง
กล้องมิเรอร์เลส (Mirrorless Camera)
|
หากกำลังมองหากล้องที่เหมาะกับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นช่างภาพมือสมัครเล่น หรือช่างภาพมืออาชีพ กล้องมิเรอร์เลส จะเป็นกล้องที่เหมาะที่สุดครับ ซึ่งในวันนี้เราก็ได้ทำการรวบรวมข้อมูลที่คุณต้องรู้มาฝากกัน เพื่อให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อกล้องที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุดได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งเรายังเลือกกล้องมิเรอร์เลสที่เราคิดว่าดีที่สุดในระดับราคาต่าง ๆ มารีวิวด้วยค่ะ และเพื่อให้ทุก ๆ คนเข้าใจตรงกัน เราไปทำความรู้จัก กล้องมิเรอร์เลส (Mirrorless Camera) ให้มากขึ้นกันก่อนดีกว่า |
สำหรับปี 2023 นี้ ณ วันที่เราอัพเดทบทความนี้ กล้องมิเรอร์เลส (Mirrorless Camera) มีกล้องรุ่นใหม่ ๆ เปิดตัวออกมาแค่ไม่กี่รุ่นค่ะ ดังนั้นกล้องส่วนใหญ่ที่เราเลือกมาก็จะมีทั้ง รุ่นเก่าและรุ่นใหม่ ๆ ที่เพิ่งเปิดตัวมา ผสม ๆ กัน โดยบางรุ่น ก็ยังหาซื้อมือหนึ่งได้อยู่ แต่บางรุ่นก็อาจจะมีเหลือเฉพาะมือสองเท่านั้น
กล้องมิเรอร์เลส (Mirrorless Camera) คืออะไร ?
Mirrorless camera กล้องมิลเลอร์เลส หรือ กล้องมิเรอร์เลส เป็นการนำกล้อง DSLR มาย่อส่วนลง พร้อมปรับหน้าตา เพื่อให้ดูเป็นมิตรกับผู้ใช้มากขึ้น ตัดส่วนที่ซับซ้อนออกไป แต่ยังคงมีประสิทธิภาพ และอิสระในการถ่ายภาพที่สูงอยู่ ช่วยให้การถ่ายภาพแบบมืออาชีพทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้การตัดบางส่วนออกไปยังช่วยลดขนาดและน้ำหนักของกล้องลงไปด้วยค่ะ
เปรียบเทียบกล้อง DSLR และ Mirrorless
จากภาพเปรียบเทียบเราจะเห็นเลยว่า ระหว่างกล้อง DSLR กับกล้อง Mirrorless ขนาดจะต่างกันมาก โดยกล้องมิเรอร์เลสจะดูเล็ก และน้ำหนักเบากว่ามาก หมายความว่า การพกพาและการถือถ่ายภาพ มันจะทำได้ง่ายกว่า ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ถือได้สบาย ๆ นอกจากนี้ถ้าหากดูดี ๆ กล้องทั้ง 2 ประเภทนี้สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้ และมีที่รองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ด้วย ดังนั้นทั้งคู่จึงตอบโจทย์ได้ทั้ง มืออาชีพ และมือใหม่ ที่ต้องการฝึกฝนเลย สรุปทั้งคู่มีข้อดี-ข้อเสียต่างกัน ดังนั้นการจะเลือกใช้งาน คุณก็ควรดูจากการใช้งาน และความต้องการของคุณเองว่า กล้องประเภทไหน ตอบโจทย์คุณได้มากกว่ากัน ?
กล้องมิเรอร์เลส รุ่นไหนดี เหมาะกับคุณที่สุด ?
- Canon EOS M50 Mark II – กล้องมิเรอร์เลส Canon ที่คุ้มค่าที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่ มีฟังก์ชันเพียบพร้อม
- Nikon Z30 / Nikon Z50 – กล้องมิเรอร์เลส Nikon ที่คุ้มค่าที่สุด เหมาะสำหรับมือใหม่ รองรับทุกการใช้งาน
- Fujifilm X-A7 – กล้องมิเรอร์เลส Fujifilm รุ่นประหยัด ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด สำหรับคนที่เน้นถ่ายภาพชิล ๆ
- Olympus OM-D E-M10 Mark IV – กล้องมิเรอร์เลส Olympus ดีไซน์คลาสสิค ฟีเจอร์ครบเครื่อง ตอบโจทย์มือใหม่
- Canon EOS R50 – กล้องมิเรอร์เลส Canon รุ่นใหม่ล่าสุด มีฟังก์ชันครบ ตอบโจทย์คอนเทนต์ครีเอเตอร์สุด ๆ
- Nikon Z fc (ZFC) – กล้องมิเรอร์เลส Nikon สุดหล่อ ลุคคลาสสิค สำหรับพกติดตัว ถ่ายภาพท่องเทียว
- Fujifilm X-S20 / Fujifilm X-S10 – กล้องมิเรอร์เลส Fujifilm ที่ดีที่สุด สำหรับสาย Vlog สาย Content Creator
- Sony A6400 – กล้องมิเรอร์เลส Sony ขนาดเล็ก บางเบา ถือถ่ายภาพ เซลฟี่ ทำคอนเทนต์ได้สะดวก
Canon EOS M50 Mark II (EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM) กล้องมิลเลอร์เลส สาย Vlogger | Nikon Z30 Mirrorless Camera Kit 16-50 mm. Lens | Fujifilm X-A7 Kit 15-45 mm. | Olympus OM-D E-M10 Mark IV Kit 14-42 mm. |
เหตุผลที่คุณควรใช้ กล้องมิเรอร์เลส มีอะไรบ้าง ?
1. ประสิทธิภาพที่สูง แต่ใช้งานง่าย
หากเปรียบเทียบระหว่าง Mirrorless Camera กับ DSLR Camera คุณจะเห็นได้ว่า ประสิทธิภาพมันแทบไม่ได้ต่างกันเลยค่ะ แต่สิ่งที่ต่างกันคือ ความยากง่ายในการใช้งาน พูดง่าย ๆ กล้อง Mirrorless จะมีโหมดอัตโนมัติมาให้มากกว่า ส่วนกล้อง DSLR เราต้องปรับค่าต่าง ๆ เองซะส่วนใหญ่ ดังนั้นถ้าหากคุณต้องการแค่ถ่ายภาพออกมาให้สวยเลย โดยไม่ต้องผ่านการตกแต่งใด ๆ กล้องมิเรอร์เลสจะทำได้ดีกว่า เนื่องจากผู้ผลิตกล้องมีการใส่ตัวช่วยมาให้ด้วย เพื่อคอยปรับให้ภาพของคุณมีสีสันที่สวยงามอยู่แล้ว ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็จะมีโทนสีที่แตกต่างกัน ดังนั้นคุณสามารถเลือกกล้องโดยดูภาพตัวอย่างจากกล้องรุ่นนั้น ๆ ได้ค่ะ
2. เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น
หากคุณเพิ่งเริ่มต้นถ่ายภาพและกำลังมองหากล้องที่ดีที่สุด เราขอแนะนำให้คุณลองเปิดใจกับกล้องมิเรอร์เลสดู เพราะมันจะอยู่ตรงกลางระหว่างความยาก กับความง่าย หมายถึง มันสามารถใช้งานง่าย ๆ ด้วยโหมดอัตโนมัติต่าง ๆ ได้ไม่ต่างจากกล้องของสมาร์ทโฟนเลย หรือว่าคุณจะฝึกฝีมือโดยการปรับค่าต่าง ๆ เองก็ได้ ซึ่งการฝึกปรับค่าแสง ค่าชัตเตอร์ และค่าอื่น ๆ เองจะช่วยให้คุณมีพื้นฐานการถ่ายภาพที่ดีขึ้นได้ จนสามารถสร้างภาพอย่างที่คุณจินตนาการได้ในที่สุด
3. เป็นกล้องสำรองให้กับช่างภาพมืออาชีพได้
Sony Alpha a6400 รูปภาพจาก sony.co.th
|
แม้ว่า กล้อง DSLR บางตัวยังคงจัดอยู่ในกล้องที่ดีที่สุด แต่ปัจจุบันนี้ กล้องมิเรอร์เลสบางรุ่น ก็ทำได้ออกมาดีไม่แพ้กัน ทั้ง ความสะดวก ประสิทธิภาพ คุณสมบัติที่ล้ำสมัย และรวมไปถึง อุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ซึ่งทั้งหมดนี้มันตอบโจทย์ ช่างภาพมืออาชีพได้เป็นอย่างดี เพราะในบางสถานการณ์ มันต้องใช้ความง่าย และความรวดเร็ว เพื่อให้ได้ภาพที่ดี แต่ถ้าคุณต้องมานั่งปรับนู้นปรับนี่อยู่ในกล้อง DSLR มีหวังคุณต้องพลาดช๊อตสำคัญ ๆ อย่างแน่นอนค่ะ ดังนั้นกล้องมิเรอร์เลสจึงจะเป็นกล้องเสริมที่ดีให้กับช่างภาพมืออาชีพ |
หากคุณกำลังมองหา กล้อง DSLR ในยุคนี้มีเพียง 2 แบรนด์เท่านั้นที่ทำออกมาได้ดีนั่นก็คือ Canon และ Nikon ค่ะ ดังนั้นนี่จึงถือว่าเป็นตัวเลือกที่ค่อนข้างน้อย แต่หากคุณมองหา กล้องมิเรอร์เลส ในปัจจุบันจะพบว่ามีอยู่หลากหลายแบรนด์มากซึ่งต่างก็ทำออกมาได้ดี และมีคุณภาพสูง ฉะนั้นการที่ตลาดมีตัวเลือกเยอะแบบนี้ มันถือเป็นประโยชน์สำหรับผู้ใช้อย่างเราค่ะ และนี่คือ กล้องมิเรอร์เลส ที่เราคิดว่าดีที่สุด ในระดับราคาต่าง ๆ ซึ่งจะมีรุ่นไหน ? ยี่ห้ออะไร ? และตรงใจคุณบ้างไหม ? มาดูกันค่ะ
Canon EOS M50 Mark II (EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM) กล้องมิลเลอร์เลส สาย Vlogger
รูปภาพจาก th.canonราคา 24,990 บาท*
Canon EOS M50 Mark II กล้องมิลเลอร์เลส ซีรีส์ EOS-M รุ่นยอดนิยม ที่ต่อยอดมาจากกล้อง EOS M50 กล้องที่ออกแบบมาเพื่อมือใหม่โดยเฉพาะ ซึ่งรุ่นใหม่ได้มีการปรับปรุงข้อเสียต่าง ๆ และอัดสเปกที่ดีกว่าเดิมมาให้ เริ่มต้นด้วยเซ็นเซอร์ APS-C ความละเอียด 24.1MP ที่มีจุดเด่นด้านคอนทราสต์ที่ดีและให้สีสันที่เป็นธรรมชาติ ทำงานกับระบบโฟกัส Eye Detection AF ที่แม่นยำ พร้อมชิป DIGIC 8 ที่มีทั้ง ความเร็ว และความแม่นยำ โดยอัพเกรดจากรุ่นก่อนพอสมควรเลย ช่วยให้ประสิทธิภาพโดยรวมดีขึ้น แถมยังบันทึกวิดีโอได้ที่ความละเอียดสูงสุดถึง 4K พร้อมมีระบบกันสั่นในตัว และรองรับการถ่ายวิดีโอแนวตั้งผ่านกล้องได้เลย และยังใช้เป็นกล้อง Live Stream ได้ด้วย
ทดสอบการใช้งาน Canon EOS M50 Mark II กล้องมิลเลอร์เลส สาย Vlogger
ทั้งหมดนี้คือฟังก์ชันเด่น ๆ ที่ทำให้กล้อง EOS M50 Mark II เป็นกล้องที่ตอบโจทย์ผู้ใช้สายวิดีโอคอนเทนต์ และสายวิดีโอล็อกเกอร์มากที่สุดค่ะ ซึ่งด้วยความครบเครื่อง บวกกับราคาที่เข้าถึงง่าย มันจึงเหมาะกับการเป็นกล้องตัวแรกให้กับมือใหม่ และยังช่วยเพิ่มสะดวกสบายให้ช่างภาพมืออาชีพได้ด้วย ด้วยขนาดที่กะทัดรัด คุณจึงใส่กระเป๋าไว้ใช้เป็นกล้องสำรองได้สบาย ๆ ค่ะ
อ่านรีวิวฉบับเต็มจากเราได้ที่: รีวิว Canon EOS M50 Mark II กล้อง Vlog ที่มีฟังก์ชันครบ จบในตัวเดียว
เซนเซอร์ | 24.1MP APS-C CMOS |
เมาท์เลนส์ | EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM |
ชิปประมวลผล | DIGIC 8 |
ระบบโฟกัส | Dual Pixel CMOS AF พร้อม Eye Detect AF |
การถ่ายภาพ | 10 ภาพ/วินาที (One-Shot AF) |
การถ่ายวิดีโอ | 4K 24p |
การเชื่อมต่อ | Micro-USB / Wi-Fi / Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | สูงสุด 305 ภาพ |
น้ำหนัก | 517 g |
ปีที่เปิดตัว | 2020 |
Nikon Z30 Mirrorless Camera Kit 16-50 mm. Lens
รูปภาพจาก nikon.co.thราคา 25,900 บาท*
ปีก่อน ๆ เราได้เลือก Nikon Z50 มา แต่ในปี 2023 นี้ มันหาซื้อมือหนึ่งแทบไม่ได้แล้ว เนืองจากมันมีรุ่นใหม่อย่าง Nikon Z30 ที่เปิดตัวออกมาในปี 2022 โดยเป็นกล้องมิเรอร์เลส รุ่นเล็กสุดในซีรีส์ Z ที่มีราคาประหยัดที่สุด แต่มาพร้อมฟังก์ชันส่วนใหญ่ของ Z50 เลย ทั้ง เซ็นเซอร์ DX (APS-C) มีความละเอียด 20.9MP พร้อมชิปฯ Expeed 6 ที่เด่นในการรวมแสง ให้ภาพที่คมชัด สีสันสดใสแม่นยำ แม้ถ่ายในที่แสงน้อย ส่วนออโต้โฟกัสก็ใช้เป็น Hybrid AF พร้อม Eye-Detection AF ที่จับดวงตาได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ ซึ่งชิป และโฟกัสได้ยกมาจากรุ่นพี่ Z6 / Z7 เลย
โดยสามารถถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 11 ภาพ/วินาที ส่วนการบันทึกวิดีโอยังไม่มีระบบกันสั่นมาให้เหมือนเดิม แต่จะสามารถบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30fps แบบต่อเนื่องได้ ซึ่ง Z50 บันทึกต่อเนื่องได้แค่ 30 นาที เท่านั้น ดังนั้นเหมาะมากกับสายวิดีโอครีเอเตอร์ หากิมบอลดี ๆ มาใช้คู่กันสักตัว ก็จบเลยค่ะ นอกจากนี้ยังมีการปรับจอสัมผัสให้เล็กลงเหลือ 3 นิ้ว และออกแบบให้พับออกด้านข้างแทน เพื่อแก้ปัญหาจากรุ่นเดิม ที่เมื่อใช้กิมบอล หรือขาตั้ง จะไม่สามารถพับจอลงได้ และก็ได้ตัดช่องมองภาพออกไป ทำให้มีขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาลงค่ะ ซึ่งถ้าเทียบกันระหว่าง Z30 กับ Z50 รุ่นใหม่จะคุ้มค่ากว่ามากค่ะ
(รีวิวปี 2022) Nikon Z50 Mirrorless Camera Kit 16-50 mm. Lens
รูปภาพจาก nikon.co.th
|
Nikon Z50 กล้องมิเรอร์เลส ซีรีส์ Z รุ่นเริ่มต้น ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2019 และเป็นรุ่นแรกของค่ายที่ใช้เซ็นเซอร์ DX (APS-C) ในตัวกล้องตัวเล็ก มีความละเอียด 20.9MP ใช้ชิปฯ Expeed 6 ที่รวมแสงได้ดี ช่วยจับภาพที่คมชัด สีสันแม่นยำ ส่วนออโต้โฟกัส ใช้ Hybrid AF และ Eye-Detection AF ช่วยจับดวงตาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งทั้งชิปและโฟกัสยกมาจากรุ่นพี่อย่าง Z6 และ Z7 เลย คุณภาพสูงแน่นอนค่ะ โดยใช้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 11 ภาพ/วินาที และบันทึกวิดีโอได้สูงสุด 4K 30fps มาพร้อมแอปฯ สำหรับการใช้งานที่สะดวกขึ้น แถมยังใช้ Live Stream ได้ด้วย ส่วนด้านหลัง ก็มีหน้าจอสัมผัส 3.2 นิ้ว แบบพับลง ใช้ถ่ายเซลฟี่ได้ พร้อมช่องมองภาพที่ชัดเจน ไว้ใช้ในที่แสงจ้า
|
เซนเซอร์ | 20.9MP DX CMOS (APS-C) |
เมาท์เลนส์ | Z mount Kit 16-50 mm. |
ชิปประมวลผล | Expeed 6 |
ระบบโฟกัส | Hybrid phase-detection/ contrast AF พร้อม Eye Detection AF |
การถ่ายภาพ | 11 FPS |
การถ่ายวิดีโอ | 4K 30p (ไม่จำกัด) |
การเชื่อมต่อ | USB-C / Wi-Fi / Bluetooth / Type D HDMI / Jack 3.5 mm |
อายุแบตเตอรี่ | - 330 ภาพ (CIPA)
- บันทึกวิดีโอ 75 นาที
|
น้ำหนัก | 350 g |
ปีที่เปิดตัว | 2022 |
Fujifilm X-A7 Kit 15-45 mm.
รูปภาพจาก fujifilm-x.comราคา 16,599 บาท*
Fujifilm X-A7 กล้องมิเรอร์เลส ที่ได้รับความยอดนิยมสูงมาก ๆ ด้วยหน้าตาที่เหมือนกล้องดิจิตอล ดูเรียบง่าย เล็ก กะทัดรัด แถมยังมีหลายสีให้เลือก ทำให้มันเหมาะกับมือใหม่มาก ๆ ค่ะ มีครบทั้ง ความสวยงาม และการใช้งานที่ง่ายดาย เนื่องจากปุ่มต่าง ๆ จัดวางมาเป็นอย่างดี ดูเป็นมิตรกับผู้ใช้มาก ๆ โดยรุ่นนี้มาพร้อมเซ็นเซอร์ APS-C ความละเอียด 24.2MP ที่รับแสงได้ดี ถ่ายภาพกลางคืนได้ไม่ปัญหา ทำงานคู่กับระบบออโต้โฟกัสอัตโนมัติแบบไฮบริด ที่มี 425 จุด พร้อมมี Face Detection และ Eye AF ที่จับโฟกัสได้อย่างแม่นยำ และรวดเร็วมาก ๆ นอกจากนี้ยังมีโหมดถ่ายรูปอัตโนมัติ AI ที่ให้ภาพสวย ๆ ได้ง่ายมาก ๆ โดยไม่ว่าใครก็ถ่ายออกมาสวยค่ะ
สำหรับรุ่นนี้ใช้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้สูงสุด 6 ภาพ/วินาที และบันทึกวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30p เลยทีเดียว แต่จะบันทึกต่อเนื่องได้แค่ 15 นาที เท่านั้นนะคะ แต่ถ้าบันทึกที่ Full HD จะบันทึกได้นาน 30 นาทีค่ะ ส่วนด้านหลังมีจอสัมผัสที่พับได้ 3.5 นิ้ว ที่คมชัด ให้สีสันตรง ไม่ผิดเพี้ยน แต่ไม่มีช่องมองภาพมาให้นะคะ นอกจากนี้ Fujifilm ยังโดดเด่นเรื่องโหมดการใช้งานด้วย โดยเฉพาะโหมดบิ้วตี้ที่ช่วยมอบสีสันเป็นธรรมชาติ สาว ๆ น่าจะชอบกันนะคะ แถมมีเชื่อมต่อไร้สาย และมีสายครบเลย มีเลนส์คิทที่อเนกประสงค์ และมี Clean HDMI ไว้ Live Streaming ด้วย สำหรับ X-A7 ที่มาแทน X-A5 ซึ่งถึงแม้ว่า มันจะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ถ้าเทียบกับราคาในปี 2023 นี้ จะพบว่า มันคุ้มค่าสุด ๆ โดยเฉพาะกับมือใหม่
เซนเซอร์ | 24.2MP APS-C CMOS |
เมาท์เลนส์ | X Kit 15-45 mm. |
ชิปประมวลผล | X |
ระบบโฟกัส | Face / Eye detection AF |
การถ่ายภาพ | 6 FPS |
การถ่ายวิดีโอ | 4K 30p (สูงสุด 15 นาที) |
การเชื่อมต่อ | USB-C / Wi-Fi / Bluetooth / Type D HDMI / 2.5 mm 3-pole mini jack |
อายุแบตเตอรี่ | - ถ่าย 440 ภาพ (Economy)
- วิดีโอ 55 นาที (4K 30p)
|
น้ำหนัก | 320 g |
ปีที่เปิดตัว | 2019 |
Olympus OM-D E-M10 Mark IV Kit 14-42 mm.
รูปภาพจาก olympusimaging-th.comราคา 24,490 บาท*
Olympus OM-D E-M10 Mark IV กล้องมิเรอร์เลสซีรี่ส์ E-M10 รุ่นยอดนิยมของค่าย โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่ดูสุดคลาสสิค เป็นเอกลักษณ์ ปรับ Grip ใหม่เล็กน้อย ช่วยให้จับถือเข้ามือยิ่งขึ้น พร้อมอัพเกรดสเปกใหม่ ใช้เซ็นเซอร์ 4/3 Live MOS ความละเอียด 20.3MP ที่มีการยกมาจากรุ่นพี่ EM5 Mark III ช่วยมอบภาพที่มีความละเอียดที่สูง มีคุณภาพไฟล์ที่ดีขึ้น แถมยังทำให้ขนาดตัวกล้อง เลนส์ต่าง ๆ และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ขนาดเล็ก และน้ำหนักเบาลงด้วย ใน ส่วนออโต้โฟกัส High-speed imager AF และ EYE AF ก็มีการพัฒนาใหม่ เพื่อให้ติดตามได้รวดเร็วและแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งตัวนี้ถ่ายภาพต่อเนื่องได้ 15FPS และถ่ายวิดีโอที่ความละเอียดสูงสุด 4K 30p ค่ะ
ซึ่งมาพร้อมกับระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัวแบบห้าแกน (IBIS) ซึ่งเป็นระบบเดียวกันกับที่อยู่ในซีรีส์ E-M1 กล้องเรือธงที่ได้รับรางวัลของโอลิมปัส ซึ่งก็ทำงานดีมาก ๆ สามารถลากสปีดชัตเตอร์ 3-4 วินาที สบาย ๆ ค่ะ ถ่ายเส้นไฟถนน สายน้ำตกพริ้ว ๆ ได้ง่าย ๆ เลย ด้านหลังมีจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ที่สามารถพลิกหน้าจอมาถ่ายเซลฟี่ได้ พร้อมกับช่องมองภาพสำหรับใช้ถ่ายในที่ที่มีแสงมาก ๆ หากคุณเป็นมือใหม่ที่ต้องการเรียนรู้เพื่อจะก้าวไปอีกขั้นของการถ่ายภาพ นี่ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมค่ะ
เซนเซอร์ | 20.3MP Micro Four Thirds MOS Sensor |
เมาท์เลนส์ | Micro Four Thirds Mount |
ชิปประมวลผล | N/a |
ระบบโฟกัส | High-speed imager AF พร้อม EYE AF |
การถ่ายภาพ | 15 FPS |
การถ่ายวิดีโอ | 4K 30p (สูงสุด 29 นาที) |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi & Bluetooth |
อายุแบตเตอรี่ | - ถ่าย 360 ภาพ (CIPA)
- วิดีโอ 80 นาที (JEITA)
|
น้ำหนัก | 383 g |
ปีที่เปิดตัว | 2020 |
Canon EOS R50 with RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM กล้อง Mirrorless รุ่นล่าสุด
รูปภาพจาก th.canonราคา 24,900 บาท*
Canon EOS R50 กล้องมิเรอร์เลสรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวออกมาสด ๆ ร้อน ๆ ซึ่งต่อยอดมาจาก EOS M50 รุ่นยอดนิยม โดยดีไซน์ก็ไม่ได้ต่างไปจากมากนักค่ะ ยังให้อารมณ์เหมือนกล้อง DSLR อยู่นิด ๆ แต่จะมีขนาดเล็ก และเบากว่า มาพร้อมเซ็นเซอร์ APS-C CMOS ประมวลผลด้วยชิป DIGIC X ที่มีประสิทธิภาพสูง จับภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น พร้อมกับ Multi Shot Noise Reduction เข้ามาช่วยลดสัญญาณรบกวน ทำให้ได้คุณภาพของภาพถ่ายที่สูงขึ้น เทียบเท่ากับกล้องรุ่นพี่ระดับไฮเอนด์อย่าง EOS R10 เลย โดดเด่นด้วยระบบโฟกัสอัตโนมัติ EOS iTR AF X และ Dual Pixel CMOS AF II ซึ่งช่วยให้การโฟกัสอัตโนมัติทำได้อย่างแม่นยำ แยกได้ตั้งแต่ คน, สัตว์ และรถ
Canon EOS R50 กล้อง Mirrorless รุ่นล่าสุด สำหรับถ่าย Vlog ถ่ายวิดีโอ ทำคอนเทนต์ออนไลน์
โดยมันสามารถกดถ่ายภาพรัว ๆ ได้สูงสุด 15 ภาพต่อวินาที (E Shutter) และบันทึกวิดีโอได้ที่ ความละเอียดสูงสุด 4K 30p แบบไม่ครอป แต่ใช้การบีบอัดความละเอียดจาก 6K มาเป็น 4K ช่วยให้คุณสามารถบันทึกวิดีโอระดับ 4K ด้วยมุมมองภาพที่กว้าง และคมชัดขึ้น โดยมีสัญญาณรบกวนภาพต่ำมาก ๆ เมื่อเทียบวิดีโอ 4K แบบปกติ และมีฟีเจอร์เด่นอย่าง Close Up ที่จะจับโฟกัสวัตถุที่เข้าใกล้เลนส์ได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้ได้ทั้งตอนถ่ายวิดีโอปกติ และ Live Streaming เลย บวกกับมีระบบ Movie Digital IS กันภาพสั่นแบบ 5 แกน ในตัว ช่วยลดการสั่นไหวของภาพเมื่อเคลื่อนไหวกล้อง นอกจากนี้ยังมีโหมดบันทึกภาพวิดีโอแนวตั้ง โหมด Hybrid Auto ฟังก์ชัน Aspect Marker และอื่น ๆ ส่วนจอก็มีทั้งจอสัมผัสที่พับมาเซลฟี่ได้ และช่องมองภาพในตัว ตอบโจทย์คอนเทนต์ครีเอเตอร์สุด ๆ ค่ะ
เซนเซอร์ | 24.2MP APS-C CMOS |
เมาท์เลนส์ | RF/RF-S |
ชิปประมวลผล | DIGIC X |
ระบบโฟกัส | Dual Pixel CMOS AF II (EOS iTR AF X) |
การถ่ายภาพ | 15 FPS |
การถ่ายวิดีโอ | 4K 30p |
การเชื่อมต่อ | USB C / Wi-Fi / Bluetooth / HDMI (Type-D) / Jack 3.5mm |
อายุแบตเตอรี่ | - ถ่ายภาพ 370 ภาพ (CIPA)
- วิดีโอ 60 นาที (CIPA)
|
น้ำหนัก | 505 g |
ปีที่เปิดตัว | 2023 |
Nikon Z fc (ZFC) Mirrorless Digital Camera Kit 16-50mm กล้องมิเรอร์เลส สุดคลาสสิค
รูปภาพจาก nikon.co.thราคา 37,900 บาท*
Nikon Z fc เป็นกล้องมิเรอร์เลส ที่ผสมผสานดีไซน์คลาสสิค เข้ากับเทคโนโลยี Z series ได้อย่างลงตัว ซึ่งดีไซน์จะเหมือนกับ Nikon FM2 กล้องฟิล์ม SLR รุ่นตำนานเลย แต่จะใช้เลนส์เมาท์ Z ของปัจจุบัน จับภาพด้วยเซนเซอร์ DX CMOS (APS-C) ความละเอียด 20.9MP จับคู่กับชิป Expeed 6 ที่ประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว แถมรับแสงได้ดีเยี่ยม ซึ่งสามารถเร่ง ISO ได้ตั้งแต่ 100-51,200 พร้อมกับขยายได้สูงสุดถึง 204,800 เลยทีเดียว ช่วยให้ได้ภาพนิ่งและวิดีโอคุณภาพสูง ด้านออโต้โฟกัสใช้แบบ Hybrid AF 209 จุด ช่วยครอบคลุมพื้นที่ในภาพได้กว่า 85% พร้อมมีระบบตรวจจับดวงตาอัตโนมัติ ที่แยกแยะคน และสัตว์ได้ โดยรุ่นนี้กดถ่ายรัวได้สูงสุดที่ 11 ภาพต่อวินาที และบันทึกวิดีโอบันทึกได้สูงสุดที่ความละเอียด 4K 30p ค่ะ
Nikon Z fc (ZFC) กล้องมิเรอร์เลส ดีไซน์คลาสสิค แต่ใช้เทคโนโลยีใหม่
ด้วยการออกแบบในสไตล์กล้องฟิล์ม ทำให้ตัวกล้องมีวงแหวนปรับค่าต่าง ๆ อยู่ค่อนข้างเยอะ ทำให้อาจจะไม่เหมาะกับมือใหม่สักเท่าไหร่ แต่ยังดีที่มีจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ความละเอียด 1.04 ล้านจุด ที่ออกแบบมาให้สามารถพลิกมาเซลฟี่ได้ ส่วนช่องมองภาพเป็น OLED ความละเอียด 2.36 ล้านจุด กำลังขยาย 1.02 เท่า ให้คุณจัดองค์ประกอบในภาพได้ง่ายยิ่งขึ้น การเชื่อมต่อก็รองรับได้ครบครันค่ะ ทั้ง Wi-Fi Bluetooth และพอร์ตต่าง ๆ โดยรวมแล้วเป็นกล้องที่เหมาะกับคนที่มีทักษะถ่ายภาพมาในระดับนึงแล้วค่ะ ใครที่หลงไหลในหน้าตาแบบกล้องฟิล์ม แต่ใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน รุ่นนี้นับว่าตอบโจทย์สุด ๆ ค่ะ
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว (มีเฉพาะที่ตัวเลนส์)
- สเปกใกล้เคียงกับ Nikon Z30 / Z50 แต่มีราคาสูงกว่ามาก
เซนเซอร์ | 20.9MP DX CMOS (APS-C) |
เมาท์เลนส์ | Nikon Z mount |
ชิปประมวลผล | Expeed 6 |
ระบบโฟกัส | Hybrid phase-detection/contrast AF พร้อม AF assist |
การถ่ายภาพ | 11 FPS |
การถ่ายวิดีโอ | 4K 30p (สูงสุด 29 นาที) |
การเชื่อมต่อ | USB-C / Wi-Fi / Bluetooth / Type D HDMI / Jack 3.5 mm |
อายุแบตเตอรี่ | - ถ่ายภาพ 300 ภาพ (CIPA)
- บันทึกวิดีโอ 75 นาที
|
น้ำหนัก | 390 g |
ปีที่เปิดตัว | 2021 |
Fujifilm X-S20 Kit 15-45mm กล้องมิเรอร์เลส สาย Vlog น้อง ๆ เรือธง รุ่นใหม่
รูปภาพจาก fujifilm-x.comราคา 49,990 บาท*
Fujifilm X-S20 กล้องมิเรอร์เลส รุ่นใหม่ล่าสุด ที่มีสเปกน้อง ๆ เรือธง มาในกล้องหน้าตาโดดเด่น ให้อารมณ์เดียวกับกล้อง Rangefinder เลย ที่จะมีเหลี่ยมมุมที่ชัดเจน ดูเท่ มีสไตล์ ส่วนขนาดกำลังดี ค่อนไปทางใหญ่ เพราะมีทั้งกริปจับขนาดใหญ่ ภายในใช้เซ็นเซอร์ X-Trans CMOS ความละเอียด 26.1 MP ใช้ชิป X-Processor 5 ใหม่ที่มีการประมวลผลเร็วขึ้นถึง 2 เท่า ทำให้ได้ภาพที่มีคุณภาพสูง ส่วนออโต้โฟกัสเป็นแบบ Intelligent Hybrid AF ที่มีการนำ AI เข้ามาช่วยตรวจจับใบหน้าและดวงตา ทั้งยังแยกตรวจจับ และติดตามวัตถุอัตโนมัติได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ โดยถ่ายภาพนิ่งได้สูงสุดถึง 20 ภาพ/วินาที และบันทึกวิดีโอได้สูงสุดถึง 6.2K 30p และ 4K 60p เสริมด้วยกันสั่น 5 แกนในตัวที่มีประสิทธิภาพ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่
กล้องมิเรอร์เลสรุ่นใหม่ Fujifilm X-S20 ที่ออกแบบมาเพื่อเหล่าคอนเทนต์ครีเอเตอร์โดยเฉพาะ
ด้านหลังมีหน้าจอสัมผัสขนาด 3 นิ้ว ที่ออกแบบให้ปรับพลิกมาถ่ายเซลฟี่ได้ พร้อมกับมีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ OLED EVF ความละเอียดสูง ไว้สำหรับจัดองค์ประกอบภาพ มีโหมดถ่ายภาพ และมีฟิลเตอร์ให้เลือกเล่นหลายแบบเลยค่ะ ในด้านการเชื่อมต่อรุ่นนี้ก็รองรับได้ครบทุกอย่างทั้ง แบบไร้สาย Wi-Fi และ Bluetooth รวมไปถึงพอร์ตเชื่อมต่อต่าง ๆ แถมยังมีแอปฯ มาให้ด้วย สำหรับควบคุมการทำงานของกล้องผ่านสมาร์ทโฟนและการถ่ายโอนไฟล์ได้ง่ายขึ้น โดยรวมจัดว่าเป็นกล้อง mirrorless ที่ดูน่าสนใจมาก ๆ ในปี 2023 เหมาะกับการพกพาไฟถ่ายรูปตามสถานที่สวย ๆ สุด ๆ ค่ะ
(รีวิวปี 2022) Fujifilm X-S10 Mirrorless Camera Kit 15-45 mm. Lens
รูปภาพจาก fujifilm-x.com
|
หากคุณเป็นมือใหม่ รุ่นเก่าอย่าง Fujifilm X-S10 จะเป็นรุ่นที่น่าสนใจกว่าค่ะ ซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้า ที่เปิดตัวปี 2020 ทำให้หน้าตา และสเปกที่ใช้ไม่ได้แตกต่างกันมากครับ ใช้เซ็นเซอร์ X-Trans (APS-C) ความละเอียด 26.1MP เท่ากัน แต่ชิปฯ จะเป็น X-Processor 4 ตัวเก่ากว่า ประสิทธิภาพจึงน้อยกว่า ส่วนโฟกัสใช้ Intelligent Hybrid AF ที่มี AI ช่วยตรวจจับดวงตาอัตโนมัติ พร้อมกับถ่ายภาพรัวได้สูงสุด 20 ภาพ/วินาที เท่ากัน เพียงแต่การถ่ายวิดีโอ จะมีความละเอียดสูงสุดที่ 4K 30fps ค่ะ ซึ่งก็มากพอ แล้วกับการใช้งานทั่วไป และอีกอย่างที่ต่างกันคือ อายุการใช้งานที่น้อยกว่าครึ่งนึง ซึ่งจะถ่ายภาพได้ 325 ภาพ และถ่ายวิดีโอได้ 40 นาทีค่ะ เหมือนกล้องทั่วไป ดังนั้นสเปกที่ไม่ได้สูงเกินไป ราคาที่ถูกกว่า รุ่นนี้จึงเหมาะกับมือใหม่กว่า
|
เซนเซอร์ | 26.1MP X-Trans CMOS (APS-C) |
เมาท์เลนส์ | X mount |
ชิปประมวลผล | X-Processor 5 |
ระบบโฟกัส | Intelligent Hybrid AF (TTL contrast AF / TTL phase detection AF) |
การถ่ายภาพ | 20 FPS |
การถ่ายวิดีโอ | 6.2K 30p / 4K 60p |
การเชื่อมต่อ | USB C / Wi-Fi / Bluetooth / Type-D HDMI / Jack 3.5mm |
อายุแบตเตอรี่ | - ถ่ายภาพ 800 ภาพ (Economy Mode)
- วิดีโอ 80 นาที
|
น้ำหนัก | 491 g |
ปีที่เปิดตัว | 2023 |
Sony Camera A6400 Kit 16-50 mm.
รูปภาพจาก sony.co.thราคา 29,990 บาท*
Sony A6400 เป็นกล้อง Mirrorless จากในซีรี่ส์ A6xxx Series ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ค่ะ ซึ่งถึงแม้มันจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่า เป็นตัวเลือกที่ดี สำหรับมือใหม่ที่คิดจะจริงจังด้านการถ่ายภาพ โดยรุ่นนี้มีจุดเด่นที่ตัวบอดี้ขนาดเล็กกะทัดรัด และน้ำหนักเบาสุด ๆ ช่วยให้ถือถ่ายภาพนาน ๆ ได้ แถมพกพาติดตัวได้สะดวก ปุ่มต่าง ๆ จัดอยู่ในตำแหน่งที่ดี ใช้งานง่าย รับภาพด้วยเซ็นเซอร์ APS-C ความละเอียด 24.2MP ช่วยมอบสีสัน และไดนามิกเรนจ์ที่ยอดเยี่ยม ระบบออโต้โฟกัสใช้จุดตรวจจับคอนทราสต์ 425 จุด ซึ่ง Sony บอกว่า นี่คือระบบโฟกัสที่เร็วเป็นอันดับต้น ๆ โดยเป็นรองแค่รุ่นพี่อย่าง A6600 เท่านั้น
อีกทั้งยังมีการติดตามแบบเรียลไทม์ เพื่อการโฟกัสที่มีคุณภาพ ในระยะสั้นจะใช้อัลกอริทึมในการตรวจจับรูปแบบ เพื่อจดจำวัตถุ และเปลี่ยนจากการติดตามวัตถุ ไปเป็นการตรวจจับดวงตาได้อย่างราบรื่นและแม่นยำ ช่วยให้การโฟกัสมีความต่อเนื่องมากขึ้น สำหรับด้านหลังมีช่องมองภาพ กำลังขยาย x0.7 ช่วยให้จัดองค์ประกอบภาพได้ง่าย พร้อมกับหน้าจอทัชสกรีน ขนาด 3.0 นิ้ว ที่พับมาเซลฟี่ได้ ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากยิ่งขึ้นค่ะ ใครที่เป็น Blogger หรือ Youtuber เจ้า A6400 เหมาะสุด ๆ ค่ะ
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีระบบป้องกันภาพสั่นไหวในตัว (มีเฉพาะที่ตัวเลนส์)
- เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019
เซนเซอร์ | 24.2MP Exmor CMOS (APS-C) |
เมาท์เลนส์ | Sony E Mount |
ชิปประมวลผล | N/a |
ระบบโฟกัส | Fast Hybrid AF (phase detection AF/contrast detection AF) |
การถ่ายภาพ | 11 FPS |
การถ่ายวิดีโอ | 4K 30p (ไม่จำกัด) |
การเชื่อมต่อ | Micro USB / Wi-Fi / NFC / Bluetooth / Type-D HDMI / Jack 3.5mm |
อายุแบตเตอรี่ | - ถ่ายภาพ 410 ภาพ (CIPA)
- วิดีโอ 75 นาที (CIPA)
|
น้ำหนัก | 403 g |
ปีที่เปิดตัว | 2019 |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
|
 รูปภาพจาก th.canonCanon EOS M50 Mark II (EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM) กล้องมิลเลอร์เลส สาย Vlogger | - เซนเซอร์: 24.1MP APS-C CMOS
- เมาท์เลนส์: EF-M15-45mm f/3.5-6.3 IS STM
- ชิปประมวลผล : DIGIC 8
- ระบบโฟกัส: Dual Pixel CMOS AF พร้อม Eye Detect AF
- การถ่ายภาพ: 10 ภาพ/วินาที (One-Shot AF)
- การถ่ายวิดีโอ: 4K 24p
- การเชื่อมต่อ: Micro-USB / Wi-Fi / Bluetooth
- อายุแบตเตอรี่: สูงสุด 305 ภาพ
- น้ำหนัก: 517 g
- ปีที่เปิดตัว: 2020
| |
 รูปภาพจาก nikon.co.thNikon Z30 Mirrorless Camera Kit 16-50 mm. Lens | - เซนเซอร์: 20.9MP DX CMOS (APS-C)
- เมาท์เลนส์: Z mount Kit 16-50 mm.
- ชิปประมวลผล: Expeed 6
- ระบบโฟกัส: Hybrid phase-detection/ contrast AF พร้อม Eye Detection AF
- การถ่ายภาพ : 11 FPS
- การถ่ายวิดีโอ : 4K 30p (ไม่จำกัด)
- การเชื่อมต่อ: USB-C / Wi-Fi / Bluetooth / Type D HDMI / Jack 3.5 mm
- อายุแบตเตอรี่:
- 330 ภาพ (CIPA)
- บันทึกวิดีโอ 75 นาที
- น้ำหนัก: 350 g
- ปีที่เปิดตัว: 2022
| |
 รูปภาพจาก fujifilm-x.comFujifilm X-A7 Kit 15-45 mm. | - เซนเซอร์: 24.2MP APS-C CMOS
- เมาท์เลนส์: X Kit 15-45 mm.
- ชิปประมวลผล : X
- ระบบโฟกัส: Face / Eye detection AF
- การถ่ายภาพ : 6 FPS
- การถ่ายวิดีโอ : 4K 30p (สูงสุด 15 นาที)
- การเชื่อมต่อ : USB-C / Wi-Fi / Bluetooth / Type D HDMI / 2.5 mm 3-pole mini jack
- อายุแบตเตอรี่:
- ถ่าย 440 ภาพ (Economy)
- วิดีโอ 55 นาที (4K 30p)
- น้ำหนัก: 320 g
- ปีที่เปิดตัว: 2019
| |
 รูปภาพจาก olympusimaging-th.comOlympus OM-D E-M10 Mark IV Kit 14-42 mm. | - เซนเซอร์: 20.3MP Micro Four Thirds MOS Sensor
- เมาท์เลนส์: Micro Four Thirds Mount
- ชิปประมวลผล : N/a
- ระบบโฟกัส : High-speed imager AF พร้อม EYE AF
- การถ่ายภาพ : 15 FPS
- การถ่ายวิดีโอ : 4K 30p (สูงสุด 29 นาที)
- การเชื่อมต่อ : Wi-Fi & Bluetooth
- อายุแบตเตอรี่ :
- ถ่าย 360 ภาพ (CIPA)
- วิดีโอ 80 นาที (JEITA)
- น้ำหนัก : 383 g
- ปีที่เปิดตัว: 2020
| |
 รูปภาพจาก th.canonCanon EOS R50 with RF-S18-45mm f/4.5-6.3 IS STM กล้อง Mirrorless รุ่นล่าสุด | - เซนเซอร์ : 24.2MP APS-C CMOS
- เมาท์เลนส์ : RF/RF-S
- ชิปประมวลผล : DIGIC X
- ระบบโฟกัส : Dual Pixel CMOS AF II (EOS iTR AF X)
- การถ่ายภาพ : 15 FPS
- การถ่ายวิดีโอ : 4K 30p
- การเชื่อมต่อ : USB C / Wi-Fi / Bluetooth / HDMI (Type-D) / Jack 3.5mm
- อายุแบตเตอรี่ :
- ถ่ายภาพ 370 ภาพ (CIPA)
- วิดีโอ 60 นาที (CIPA)
- น้ำหนัก : 505 g
- ปีที่เปิดตัว : 2023
| |
 รูปภาพจาก nikon.co.thNikon Z fc (ZFC) Mirrorless Digital Camera Kit 16-50mm กล้องมิเรอร์เลส สุดคลาสสิค | - เซนเซอร์ : 20.9MP DX CMOS (APS-C)
- เมาท์เลนส์ : Nikon Z mount
- ชิปประมวลผล : Expeed 6
- ระบบโฟกัส : Hybrid phase-detection/contrast AF พร้อม AF assist
- การถ่ายภาพ : 11 FPS
- การถ่ายวิดีโอ : 4K 30p (สูงสุด 29 นาที)
- การเชื่อมต่อ : USB-C / Wi-Fi / Bluetooth / Type D HDMI / Jack 3.5 mm
- อายุแบตเตอรี่ :
- ถ่ายภาพ 300 ภาพ (CIPA)
- บันทึกวิดีโอ 75 นาที
- น้ำหนัก : 390 g
- ปีที่เปิดตัว : 2021
| |
 รูปภาพจาก fujifilm-x.comFujifilm X-S20 Kit 15-45mm กล้องมิเรอร์เลส สาย Vlog น้อง ๆ เรือธง รุ่นใหม่ | - เซนเซอร์ : 26.1MP X-Trans CMOS (APS-C)
- เมาท์เลนส์ : X mount
- ชิปประมวลผล : X-Processor 5
- ระบบโฟกัส : Intelligent Hybrid AF (TTL contrast AF / TTL phase detection AF)
- การถ่ายภาพ : 20 FPS
- การถ่ายวิดีโอ : 6.2K 30p / 4K 60p
- การเชื่อมต่อ : USB C / Wi-Fi / Bluetooth / Type-D HDMI / Jack 3.5mm
- อายุแบตเตอรี่ :
- ถ่ายภาพ 800 ภาพ (Economy Mode)
- วิดีโอ 80 นาที
- น้ำหนัก : 491 g
- ปีที่เปิดตัว : 2023
| |
 รูปภาพจาก sony.co.thSony Camera A6400 Kit 16-50 mm. | - เซนเซอร์: 24.2MP Exmor CMOS (APS-C)
- เมาท์เลนส์: Sony E Mount
- ชิปประมวลผล : N/a
- ระบบโฟกัส : Fast Hybrid AF (phase detection AF/contrast detection AF)
- การถ่ายภาพ : 11 FPS
- การถ่ายวิดีโอ : 4K 30p (ไม่จำกัด)
- การเชื่อมต่อ: Micro USB / Wi-Fi / NFC / Bluetooth / Type-D HDMI / Jack 3.5mm
- อายุแบตเตอรี่:
- ถ่ายภาพ 410 ภาพ (CIPA)
- วิดีโอ 75 นาที (CIPA)
- น้ำหนัก: 403 g
- ปีที่เปิดตัว: 2019
| |
วิธีเลือก กล้องมิเรอร์เลส ที่เหมาะสมสำหรับคุณ !
1. คุณอยู่จัดในกลุ่มไหน ?
ในอันดับแรก คุณต้องรู้ตัวเองก่อนว่า คุณอยู่กลุ่มไหน ? ระหว่างกลุ่มผู้เริ่มต้น หรือกลุ่มผู้ที่มีทักษะ ประสบการณ์ เพราะ กล้อง Mirrorless ก็คือ กล้อง DSLR ที่ถูกตัดบางส่วนออกไป ดังนั้นกล้องบางรุ่นยังคงความเป็นกล้อง DSLR อยู่ สามารถจะมอบประสิทธิภาพที่สูง ซึ่งคุณก็ต้องใช้ความชำนาญในการใช้งานมากพอสมควร แต่ในบางรุ่นก็ถูกตัดออกไปมาก จนทำให้มันเปรียบเสมือนกล้องคอมแพคที่เปลี่ยนเลนส์ได้ ฉะนั้นถ้าคุณอยากที่จะอัพเกรดทักษะการถ่ายภาพของตัวเอง และเปลี่ยนจากกลุ่มผู้เริ่มต้น ไปอยู่กลุ่มผู้ที่มีทักษะดูค่ะ คุณจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ จากกล้องประสิทธิภาพสูง แต่ถ้าคุณเน้นถ่ายภาพง่าย ๆ ไม่ปรับอะไร แต่ได้ภาพสวย ๆ คุณสามารถเลือกรุ่นที่คุณชื่นชอบได้โดยดูที่โหมดการใช้งานค่ะ
2. ขนาดเซ็นเซอร์
เซนเซอร์กล้อง เป็นชิ้นส่วนที่ซึ่งอยู่ภายในกล้อง มันคือชิ้นส่วนที่ได้นำเซลล์ไวแสงหลายล้านชิ้นมารวมกันเรียกว่า โฟโต้ไซด์ (Photosites) แต่เราจะคุ้นเคยกับคำว่า พิกเซล (Pixel) มากกว่าค่ะ เซนเซอร์จะมีหน้าที่รับแสง และแปลงเป็นสัญญาณไฟฟ้า เพื่อส่งไปเก็บในการ์ดหน่วยความจำเป็นภาพ พูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ มันเป็นตัวที่ทำหน้าที่รับภาพ ฉะนั้นหากกล้องของคุณ มีตัวรับภาพขนาดใหญ่ ภาพถ่ายของคุณก็จะมีคุณภาพของภาพที่ดีขึ้น เพราะการที่ใช้ตัวรับภาพขนาดใหญ่ หรือเซนเซอร์ขนาดใหญ่ โฟโต้ไซด์ที่อยู่ภายในมันก็จะใหญ่ขึ้นด้วย ส่งผลให้กล้องมีความไวแสงมากขึ้นและสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้มากกว่าเซ็นเซอร์ขนาดเล็ก แต่ก็แน่นอนค่ะ ประสิทธิภาพที่สูงกว่า ราคาก็จะสูงขึ้นด้วย
เซ็นเซอร์ APS-C และเซ็นเซอร์ Micro Four Thirds
|
ในปัจจุบัน เซนเซอร์กล้อง ก็มีอยู่หลากหลายขนาดค่ะ ซึ่งในกล้องแต่ละประเภทก็จะมีการใช้เซ็นเซอร์ต่างกัน คุณจะสังเกตได้จากขนาดของตัวกล้อง ซึ่งเซนเซอร์ที่เล็กที่สุดก็คือ เซนเซอร์ของกล้องสมาร์ทโฟนค่ะ นี่เป็นเหตุผลว่า ทำไมกล้องสมาร์ทโฟนถึงไม่สามารถมาแทนที่กล้องถ่ายรูปจริง ๆ ได้ ส่วนเซ็นเซอร์ที่มักจะใช้ในกล้องมิเรอร์เลสส่วนใหญ่ก็จะเป็น APS-C และก็ 4/3 Micro Four Thirds ค่ะ ซึ่งจากภาพเราจะเห็นว่าเซ็นเซอร์ APS-C มีขนาดใหญ่กว่า แน่นอนมันสามารถให้ภาพที่ดีกว่า แต่เราก็ไม่ได้หมายความว่า APS-C จะให้ภาพที่สวยกว่านะคะ หากคุณต้องการถ่ายปุ๊บ อัพลงโซเชียลปั๊บ เซ็นเซอร์ทั้ง 2 ตัวนี้ สามารถให้ภาพที่สวยเหมือนกันได้ แต่ถ้าคุณต้องการแต่งภาพก่อนอัพลงโซเชียลมีเดียเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่มันจะดีกว่าค่ะ |
3. ช่องมองภาพ หน้าจอแสดงผล
ช่องมองภาพ (Viewfinder) คืออีกส่วนที่สำคัญค่ะ กล้องมิเรอร์เลสหลาย ๆ รุ่น มักไม่มีช่องมองภาพมาให้ เพื่อทำให้กล้องมีขนาดเล็กลง แต่สิ่งนี้มันส่งผลกระทบต่อคุณอย่างแน่นอนหากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบถ่ายภาพกลางแจ้ง เช่น ชายทะเล ทุ่งหญ้า หรือที่อื่น ๆ ที่ต้องถ่ายกลางแจ้ง นั่นก็เป็นเพราะ แสงแดดมันทำให้คุณมองเห็นหน้าจอได้ไม่ชัด (เหมือนกับหน้าจอมือถือ ที่เมื่อเราจะใช้งานกลางแดด ก็ต้องเอามือมาบัง) ฉะนั้น ช่องมองภาพ มันจะมีประโยชน์มาก ๆ หากคุณชอบถ่ายกลางแจ้ง แต่ถ้าเน้นถ่ายในที่ร่มมากกว่า ช่องมองภาพก็ไม่จำเป็นค่ะ
4. หน้าจอแสดงผล
หน้าจอแสดงผล เป็นส่วนที่สามารถทำให้การใช้งานของคุณสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยในกล้องรุ่นใหม่ ๆ สวนใหญ่ มักจะมาพร้อมหน้าจอที่รองรับการทัชสกรีนได้แล้ว ซึ่งก็ช่วยให้การใช้งานมีความง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้นค่ะ และอีกอย่างที่สำคัญ คือ หากคุณเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายแบบเซลฟี่ หรือถ่ายวิดีโอบล็อกของตัวเอง ให้คุณมองหากล้องที่สามารถพับหน้าจอได้ มันจะสามารถช่วยให้คุณมองเห็น และจัดตำแหน่งของภาพได้ง่ายขึ้นค่ะ
5. การเชื่อมต่อ
สำหรับการถ่ายโอนข้อมูลอย่างรวดเร็วนั้นกล้องรุ่นใหม่ ๆ มักมาพร้อมกับเทคโนโลยี Wi-Fi หรือ Bluetooth ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อไร้สายที่จะช่วยให้คุณถ่ายโอนภาพต่าง ๆ ได้สะดวกและง่ายดายมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นนี่ก็เป็นอีกประเด็นที่คุณไม่ควรมองข้าม เพราะเทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถช่วยให้กล้องของคุณเชื่อมต่อกับ โทรศัพท์, แล็ปท็อป, Macbook หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อส่งข้อมูลได้ทันที ทำให้คุณสามารถอัพโหลดภาพลงโซเชียลมิเดียได้เลย และไม่ต้องกังวลว่าความจุใน SD Card จะเต็ม นอกจากนี้คุณก็ไม่ต้องพก SD Card Reader อีกต่อไปค่ะ
บทส่งท้าย
ทุกวันนี้ กล้อง Mirrorless มีให้เลือกอยู่หลายรุ่นมาก ๆ ค่ะ เนื่องจากมันเป็นกล้องที่มีฟังก์ชัน และประสิทธิภาพพอ ๆ กับกล้อง DSLR เลย แต่ใช้งานง่ายกว่ามาก ช่วยให้มือใหม่ส่วนใหญ่ หรือแม้แต่มืออาชีพหันมาเลือกใช้กล้อง กล้องมิเรอร์เลสกันมากขึ้น ด้วยความนิยมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ละแบรนด์จึงได้หันมาพัฒนา กล้องประเภทนี้อย่างจริง ๆ จัง ๆ ทำให้ในตลาดมีกล้องมิเรอร์เลสให้เลือกทุกระดับราคาเลย โดยทุกรุ่นที่เราเลือกมาก็เป็นรุ่นที่เราคิดว่า ดีที่สุดในเรทราคาต่าง ๆ แล้วค่ะ ดังนั้นก็คุณสามารถเปรียบเทียบรุ่นต่าง ๆ และเลือกรุ่นที่เหมาะกับคุณได้ง่ายขึ้น
ซึ่งถ้าเทียบ กล้อง Mirrorless กับกล้องประเภทอื่น ๆ ในระดับราคาเดียวกัน มันถือว่าคุ้มค่าที่สุด ซึ่งนี่จะเป็นตัวช่วยชั้นดีในการใช้ฝึกฝนฝีมือการถ่ายภาพ หากคุณรู้จักค่าต่าง ๆ และเคล็ดลับการถ่ายภาพที่สำคัญ คุณก็จะพัฒนาฝีมือได้อย่างรวดเร็ว และสุดท้ายนี้หากคุณมีกล้องแล้วก็อย่าลืมหาซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ มาใช้ร่วมกับกล้องของคุณนะคะ อย่าง กระเป๋ากล้อง, ขาตั้งกล้อง, สายคล้องคอ, เครื่องปริ้นรูป ฯลฯ เพื่อเพิ่มความสะดวก ประสิทธิภาพ และที่สำคัญ เพื่อให้คุณสนุกกับการถ่ายภาพมากที่สุด