ผิวแห้งเป็นสภาพผิวที่สามารถเกิดขึ้นได้กับผิวหน้าและผิวกาย ซึ่งหากคุณเป็นคนผิวแห้งคุณจะรู้ดีว่ามันยากลำบากมากสำหรับการแก้ปัญหา เพราะทุกส่วนของคุณจะแห้งเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในตอนที่อากาศหนาวเย็น จะเกิดปัญหาผิวลอกหรือหน้าลอกเป็นขุยก็สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณ สำหรับผิวกายคุณสามารถเลือกซื้อโลชั่นสำหรับผิวแห้งในการแก้ปัญหาตรงส่วนนี้ได้ แต่สำหรับเรื่องผิวหน้านั้น การดูแลก็จะยากขึ้นมากเพราะผิวหน้านั้นเป็นบริเวณผิวที่บอบบางและแพ้ง่าย หากจะใช้อะไรกับผิวหน้าก็ต้องพิถีพิถันเล็กน้อย หากคุณมีปัญหาผิวหน้าแห้ง การลงทุนใน “มอยส์เจอร์ไรเซอร์” ที่ดีเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในฤดูหนาว
ผิวแห้งสามารถเกิดได้ง่าย บางครั้งอาจจะมาจากปัจจัยอื่น ๆ อย่างอายุหรือการสัมผัสกับองค์ประกอบต่าง ๆ ที่สามารถทำให้ผิวหน้ารู้สึกตึงและคันได้ ดังนั้นการให้ความชุ่มชื้นอย่างเพียงพอ จึงเป็นกุญแจสำคัญในการมีผิวที่อ่อนนุ่มและมีสุขภาพดี และวันนี้เราจะขอแนะนำ “มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแห้ง” ที่ดีที่สุดกัน ก่อนที่จะไปเลือกซื้อคุณต้องเข้าใจก่อนว่า ไม่ใช่ว่าคนผิวแห้งทุกคนจะมีปัญหาที่เหมือนกัน คุณต้องทำความเข้าใจในเรื่องความต้องการของผิวกันก่อนไม่ว่าจะเป็น ผิวแห้งที่เป็นสิวง่าย, ผิวแห้งที่เป็นผื่นแพ้ง่าย หรือผิวผสม เพราะจะช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดได้ค่ะ
สำหรับใครที่ต้องการบำรุงมากกว่า “มอยส์เจอร์ไรเซอร์” คุณอาจจะใช้ ครีมบำรุงผิวหน้าตอนกลางคืน (Night Cream) ควบคู่ไปด้วย และหากวันไหนที่รู้สึกว่าผิวหน้าต้องการการดูแลอย่างเร่งด่วนก็จะใช้ Sleeping Mask แบบเข้มข้น ในคืนนั้นได้ สำหรับเซรั่มบํารุงผิวหน้า ก็เหมาะสำหรับสาว ๆ ผิวแห้งเช่นกัน ยิ่งคุณเริ่มมีอายุมากขึ้น ผิวของคุณก็ยิ่งขาดน้ำยิ่งขึ้น ก็อาจจะก่อให้เกิดริ้วรอยได้ ดังนั้น เซรั่มป้องกันริ้วรอย อย่าง เซรั่มไฮยารูลอน หรือ เซรั่มคอลลาเจน จะเป็นการชะลออายุของผิวได้เป็นอย่างดี แต่หากต้องการให้ครบวงจรอย่าลืมเลือกใช้โฟมล้างหน้าสำหรับผิวแห้ง, โทนเนอร์สำหรับผิวแห้ง, รองพื้นสำหรับผิวแห้งและคลีนซิ่งบาล์มกันด้วยนะคะ เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะตอบโจทย์มากสำหรับคนที่มีผิวแห้งมากค่ะ
มอยเจอร์ไรเซอร์ คืออะไร ? (1)
มอยเจอร์ไรเซอร์นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวของเรา ใช้สำหรับการปกป้องความชุ่มชื้นให้อยู่กับผิว และเป็นผลิตภัณฑ์หล่อลื่นผิวให้เรียบเนียน โดยปกติแล้วการทำงานเหล่านี้จะทำโดยซีบัมที่ผลิตโดยผิวหนังทำให้ผิวเนียนน่าสัมผัส ตัวมอยส์เจอร์ไรเซอร์จะเสริมเกราะป้องกันผิวของคุณ ช่วยป้องกันการขาดน้ำ และการทำร้ายจากสิ่งแวดล้อมด้วยการเสริมสร้างปริมาณน้ำมันตามธรรมชาติของผิว
มอยเจอร์ไรเซอร์มีให้เลือกหลายแบบไม่ว่าจะเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์แบบครีม, เซรั่ม, เจล หรือบาล์ม มันจะเข้าไปบำรุงผิวหน้าของคุณอย่างเข้มข้น มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยลดการสูญเสียน้ำในผิวได้ และช่วยบำรุงผิวของคุณ รวมถึงช่วยการทำงานของเซลล์ที่สำคัญต่อผิวทั้งหมด เพื่อให้คุณมีสุขภาพดีและเปล่งประกาย
วิธีเลือกซื้อมอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแห้ง
1. รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์
มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวแห้งมีให้เลือกใช้หลายชนิด เช่น เนื้อครีม เนื้อเจล หรือเนื้อโลชั่น โดยทั่วไปโลชั่นเหมาะสำหรับผิวแห้ง เพราะมันเป็นครีมบำรุงสำหรับกลางวันที่ดี เนื่องจากมีเนื้อครีมมีความเนียนสม่ำเสมอซึ่งจะล็อคความชื้นให้กับผิวได้อย่ามีประสิทธิภาพ
สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งมากหรือผู้ที่มีปัญหาผิว เช่น กลากหรือสะเก็ดเงิน ให้หาครีมที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้นตลอดทั้งวัน หากคุณมีแนวโน้มที่จะเกิดสิวหรือมีผิวผสม (ทั้งผิวแห้งและมัน) คุณไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่หนักเกินไปซึ่งอาจทำให้ผิวรู้สึกหนักมากอย่างครีมและโลชั่นจะไม่เหมาะกับคุณ เพราะอาจทำให้อุดตันรูขุมขน คุณควรให้เลือกใช้เป็นแบบเจลหรือเซรั่มที่ให้ความชุ่มชื้นแทนค่ะ
2. เลือกส่วนผสมที่มีคุณภาพ
2.2 กรดไฮยาลูโรนิก (2)
มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีกรดไฮยาลูโรนิกเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการคืนความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้ง มันต่างจากกรดอื่น ๆ ที่ใช้กันทั่วไปในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเช่น AHAs และ BHAs
เพราะกรดไฮยาลูโรนิกไม่ได้เป็นสารที่ช่วยขัดผิว แต่เป็นสารให้ความชุ่มชื้น มันช่วยคืนความชุ่มชื้นที่สูญเสียไปและให้ผิวดูอวบอิ่มดูอ่อนเยาว์ ชื่อสามัญอื่น ๆ ของกรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกว่า HA ที่คุณอาจจะพบบนฉลากผลิตภัณฑ์สกินแคร์ต่าง ๆ ได้ อาทิเช่น โซเดียมไฮยาลูโรเนต, ไกลโคอะมิโนไกลแคน และโซเดียมไฮยาลูโรเนตครอสพอลิเมอร์ ซึ่งเป็นกรดไฮยาลูโรนิกที่ได้รับการดัดแปลงค่ะ
2.3 เซราไมด์ (3)
เซราไมด์เป็นลิพิดประเภทหนึ่งที่ผลิตโดยผิวหนังตามธรรมชาติซึ่งช่วยสร้างเกราะป้องกันผิว เมื่อเซราไมด์ตามธรรมชาติของเราหมดลงผิวของเราจะต้องเผชิญกับสิ่งรุกรานจากสิ่งแวดล้อมที่เราไปเผชิญ เช่น สารระคายเคืองหรือมลภาวะที่ทำให้ผิวของเรารู้สึกแห้งและคัน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีเซราไมด์ช่วยเติมเต็มการป้องกันตามธรรมชาติของผิวเพื่อการกักเก็บความชุ่มชื้นที่ดีขึ้นและทำให้การระคายเคืองผิวน้อยลง
2.4 ยูเรีย (4)
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยูเรียเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเป็นขุยและผิวหยาบกร้านที่เกิดจากสภาพผิวแห้งมาก โดยทั่วไปมันใช้ในการรักษาสภาพต่าง ๆ เช่นโรคสะเก็ดเงินและโรคผิวหนัง ยูเรียจะส่งเสริมการสร้างใหม่ของผิวหนังโดยการละลายเซลล์เกี่ยวพันของผิวชั้นนอกสุด สิ่งนี้ทำให้มันค่อย ๆ คลายตัวและหลุดลอกออกไป เมื่อเวลาผ่านไปการสะสมของเซลล์ผิวที่ตายแล้วหยาบและเป็นเกล็ดจะถูกทำลายลงเพื่อเผยให้เห็นผิวใหม่ออกมา
2.5 ว่านหางจระเข้ (5)
หากคุณพบว่าผิวของคุณแตกและลอกในช่วงฤดูหนาวให้ลองใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ เจลของพืชว่านหางจระเข้ถูกนำมาใช้ตลอดเพื่อให้ความเย็นและบรรเทาอาการระคายเคือง นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังมีปริมาณน้ำสูงซึ่งช่วยให้ดูดซึมทางผิวหนังได้ง่าย นอกจากนี้เจลว่านหางจระเข้เป็นแหล่งวิตามินอีตามธรรมชาติซึ่งเป็นสารต้านการอักเสบที่รู้จักกันดี
2.6 เชียร์บัตเตอร์ (6)
หากคุณต้องการครีมเพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวให้หาครีมที่มีเชียร์บัตเตอร์ หรือ Butyrospermum Parkii เป็นไขมันพืชชนิดหนึ่งที่มาจากถั่วของต้นเชีย เช่นเดียวกับส่วนผสมส่วนใหญ่ที่อุดมไปด้วยน้ำมันถั่วเชียร์บัตเตอร์จะค่อย ๆ ซึมเข้าสู่ผิวทำให้ผิวรู้สึกนุ่ม นอกจากนี้ยังมีความสม่ำเสมอของเนื้อครีมทำให้เกลี่ยง่ายและทาได้ง่าย
3. หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ (7,8,9)
คุณคงเคยได้ยินมาว่าเราควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นที่มีแอลกอฮอล์ นี่คือเรื่องจริงค่ะ แอลกอฮอล์ เช่น เอทานอล (Ethanol), ไอโซโพรพิลแอลกอฮอล์ (Isopropyl Alcohol), แอลกอฮอล์ดีแนต (Alcohol denat) และเมทานอล (Methanol) จะถูกใช้เพื่อเพิ่มการดูดซึมของผลิตภัณฑ์ น่าเสียดายที่สิ่งเหล่านี้อาจทำให้ผิวแห้งและระคายเคือง ซึ่งไม่ดีสำหรับผิวที่ขาดความชุ่มชื้น อ่านบทความเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอทานอล vs เมทานอล
อย่างไรก็ตามมีแอลกอฮอล์บางชนิดที่ปลอดภัยสำหรับผิวแห้ง อย่างในเบนซิลแอลกอฮอล์ มักใช้ในมอยส์เจอร์ไรเซอร์ออร์แกนิกหรือจากธรรมชาติใช้เพื่อเป็นสารกันบูด ป้องกันการเติบโตของแบคทีเรีย มันมีความเข้มข้นต่ำและจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
อีกทั้งยังมีแอลกอฮอล์ไขมันที่มาจากพืช เช่น Cetearyl Alcohol, Stearyl Alcohol, Cetyl Alcohol และ Behenyl Alcohol ทำหน้าที่เป็นสารทำให้ผิวเนียนนุ่ม แอลกอฮอล์เหล่านี้ใช้ในการทำให้ผลิตภัณฑ์เป็นอิมัลชันและมีความสม่ำเสมอของครีมที่ช่วยปกป้องและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
เจลว่านหางจระเข้ Nature Republic Aloe Vera 92% Moisture Soothing Gel

ราคา 230 บาท*
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | เจล |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ว่านหางจระเข้และกรดไฮยาลูโรนิก |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
เซรั่มโลชั่น HADA LABO GokuJyun Super Hyaluronic

ราคา 315 บาท*
ปริมาณ | 140 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | เซรั่ม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดไฮยาลูโรนิก 3 ชนิด |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
เซรั่ม The Ordinary Hyaluronic Acid 2% + B5 Hydration

ราคา 445 บาท*
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | เซรั่ม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดไฮยาลูโรนิก |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
ครีมบำรุงหน้า Neutrogena Hydro Boost Water Gel

ราคา 499 บาท*
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | เจลครีม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดไฮยาลูโรนิกและกลีเซอรีน |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
มอยซ์เจอร์ไรซิ่ง CERAVE Facial PM Moisturizing Lotion

ราคา 655 บาท*
ปริมาณ | 52 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | โลชั่น |
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดไฮยาลูโรนิกและเซราไมด์ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
KIEHL'S ULTRA FACIAL CREAM มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวหน้า

ราคา 790 บาท*
ปริมาณ | 28 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | ครีม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | น้ำมันอะโวคาโด้ น้ำมันมะกอกและน้ำมันถั่วเหลือง |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✘ |
LANEIGE Water Bank Moisture Cream EX ครีมบำรุงผิวหน้า

ราคา 920 บาท*
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
ปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | ครีม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | กะหล่ำบรัสเซลส์ อาร์ติโช้คและถั่วลิม |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
CeraVe SA Smoothing Cream มอยเจอร์ไรเซอร์

ราคา 1,050 บาท*
ปริมาณ | 340 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | ครีม |
ส่วนผสมที่สำคัญ | วิตามินดี กรดซาลิไซลิกและเซราไมด์ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
มอยเจอร์ไรเซอร์ CLINIQUE Moisture Surge extended replenishing hydrator

ราคา 1,421 บาท*
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์ | ครีมเนื้อเจล |
ส่วนผสมที่สำคัญ | กรดไฮยาลูโรนิกและว่านหางจระเข้ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว มอยเจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวแห้ง ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
เจลว่านหางจระเข้ Nature Republic Aloe Vera 92% Moisture Soothing Gel |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
มอยเจอร์ไรเซอร์ CLINIQUE Moisture Surge extended replenishing hydrator |
|
เคล็ดลับการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
การมีผิวที่แข็งแรงขึ้นอยู่กับว่าคุณเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ชนิดใด วิธีการทาครีมบำรุงผิวก็สำคัญเช่นกัน คำแนะนำในการใช้ประโยชน์สูงสุดจากมอยส์เจอร์ไรเซอร์ของคุณมีดังนี้
- ทาครีมบำรุงผิว เมื่อผิวของคุณยังชื้นเล็กน้อยหลังอาบน้ำหรือตัวเปียก
- หากคุณมีผิวแพ้ง่ายให้ใช้มอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยผ่อนคลาย แต่ต้องปราศจากแอลกอฮอล์ น้ำหอม และสีย้อม
- ทำการทดสอบก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ตัวใหม่ที่ไม่เคยใช้มาก่อน
- ซื้อผลิตภัณฑ์จากแบรนด์ที่มีชื่อเสียงที่คุณไว้วางใจ
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนหรือน้ำอุ่นในการอาบน้ำและเมื่อล้างหน้า
- เติมน้ำให้ผิวแบบเพียงพอด้วยการดื่ม 8 แก้วต่อวัน
- พิจารณาใช้เครื่องเพิ่มความชื้นในอากาศในเวลากลางคืน หรือใช้เครื่องทำความชื้นขนาดเล็กไว้บนโต๊ะทำงานในระหว่างวัน
- ทาผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้นอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง และทามากขึ้นเมื่อผิวของคุณแห้งเป็นพิเศษ
- ผสมน้ำมัน เช่น โจโจ้บาหรือน้ำมันโรสฮิปลงในมอยส์เจอไรเซอร์หากผิวของคุณแห้งมาก
บทสรุป
เช่นเดียวกับที่เราชอบดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ และสวมเสื้อสเวตเตอร์ที่น่ารักที่สุดเมื่ออากาศหนาวเย็น นั่นเป็นเพราะเรารู้ดีว่าอากาศหนาวเย็นสามารถส่งผลกระทบต่อผิวหนังได้โดยตรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันจะทำให้คุณมีอาการแห้งหรือเป็นผื่นแดงอย่างไรก็ตามการใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เหมาะสมนั้น จะเข้ากับกิจวัตรการดูแลผิวของคุณ สามารถช่วยลดการผลัดเซลล์ผิวและลดการระคายเคืองได้ ทำให้ผิวของคุณเปล่งประกายสุขภาพดีไม่ว่าจะแต่งหน้าหรือไม่แต่งหน้าก็ตาม คนมีแนวโน้มที่จะผิวแห้งควรมองหามอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมที่ป้องกันการสูญเสียน้ำและซ่อมแซมผิวหนังจากการสูญเสียความชื้น
References: