การขาดความชุ่มชื้นจะทำให้ผิวเกิดปัญหาตามมามากมายทั้งสิว ระคายเคืองและปัญหาริ้วรอย ดังนั้นการใช้ผลิตภัณฑ์ที่เน้นเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นเรื่องที่จำเป็นมากค่ะ หากใครที่ติดตามผลงานของผู้เขียนอยู่บ้างจะเห็นว่าช่วงนี้ผู้เขียนให้ความสนใจกับเรื่องความชุ่มชื้นเป็นพิเศษเพราะได้แนะนำทั้งเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้น มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้นรวมไปถึงมาสก์เพิ่มความชุ่มชื้น แต่ยังมีอีกหนึ่งอย่างที่ผู้เขียนอยากแนะนำคือ “สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น” นั้นเองค่ะ
สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นหรือสเปรย์ฉีดหน้า (Face Mist) เป็นสกินแคร์ที่เราควรมีเพราะนอกจากจะเพิ่มความชุ่มชื้นแล้วยังสามารถเพิ่มความสดชื่นและปลอบประโลมผิวได้ด้วย ในการใช้งานเราสามารถใช้สเปรย์ได้ตลอดเวลาที่เราต้องการ หากวันนี้คุณกำลังหาซื้อสเปรย์ฉีดหน้าอยู่ก็ต้องห้ามพลาดเพราะเราจะมาแนะนำกันค่ะ
สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น แตกต่างจาก สเปรย์น้ำแร่ ไหม ?
สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นสเปรย์ฉีดหน้าที่ช่วยในการเพิ่มความชุ่มชื้น ช่วยเตรียมผิวและช่วยเพิ่มสารอาหารให้กับผิว เมื่อใช้แล้วตัวสเปรย์จะช่วยฟื้นฟูผิวและลดความแห้งกร้านของผิวได้ดีมากด้วย ส่วนใหญ่แล้วในสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นจะมีส่วนผสมของกรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีนและเซราไมด์เป็นหลักเพื่อให้ความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมที่ช่วยปลอบประโลมและต้านการอักเสบเพื่อปลอบประโลมผิวที่ระคายเคืองด้วย

หากถามว่าสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นแตกต่างจากสเปรย์น้ำแร่ไหม ? บอกเลยว่าต่างกันที่ส่วนผสม เพราะในสเปรย์น้ำแร่จะต้องมีส่วนผสมของน้ำแร่ 100% ถึงจะเรียกว่าเป็นสเปรย์น้ำแร่ได้ แต่ในสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นจะต้องมีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นเป็นหลักและสามารถมีส่วนผสมน้ำแร่อยู่ในนั้นได้ด้วย แน่นอนว่าสเปรย์ทั้งสองชนิดมีไว้บำรุงผิวเหมือนกัน และมีสเปรย์น้ำแร่หลายตัวเลยที่สามารถให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดี ดังนั้นบทความนี้เราเลยแนะนำสเปรย์ทั้งสองแบบให้ทุกคนได้เลือกซื้อกัน
หากถามว่าสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นเหมาะกับใครมากที่สุด ? ตอบเลยว่าเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวค่ะ หากคุณมีผิวแห้งสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นจะสามารถลดความแห้งกร้านของผิวได้ แต่ถ้าคุณมีผิวมันสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นก็มีประโยชน์เช่นกันเพราะสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิวโดยเพิ่มความมันให้กับผิว อีกทั้งสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นยังสามารถฉีดได้ทุกเวลาตามที่เราต้องการด้วย
เคล็ดลับในการเลือกซื้อสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น
1. เช็กส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น

สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นไปที่การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวหน้าเป็นหลัก ดังนั้นนอกเหนือจากการใช้น้ำเป็นวัตถุดิบหลักแล้ว มักจะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นอื่น ๆ เช่น กรดไฮยาลูโรนิก, คอลลาเจน, เซราไมด์, สควาเลนและอัลลันโทอินด้วย ในการเช็กส่วนผสมทุกคนจะต้องรู้ก่อนว่าส่วนผสมที่ระบุไว้ในลำดับที่แรกเป็นส่วนผสมที่มีสัดส่วนและปริมาณเยอะที่สุด ดังนั้นเมื่อต้องการซื้อสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นอย่าลืมใช้เวลาเพื่อตรวจสอบรายการส่วนผสมเพื่อค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะกับตัวเอง
2. หลีกเลี่ยงส่วนผสมที่ระคายเคือง
ผลิตภัณฑ์สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นบางแบรนด์มีการเติมส่วนผสม เช่น น้ำหอม, สี, แอลกอฮอล์และสารกันบูดลงไปเพื่อปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานหรือยืดระยะเวลาการใช้งาน อย่างไรก็ตามส่วนผสมเหล่านี้เป็นส่วนผสมที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้ง่ายและอาจยิ่งทำให้ผิวแห้งยิ่งขึ้น ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่ายหรือไม่ได้มีปัญหานี้ก็ควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมดังกล่าวให้มากที่สุด หากคุณไม่แน่ใจว่าสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นที่คุณเลือกจะทำให้เกิดอาการแพ้หรือไม่ แนะนำให้ทดสอบสเปรย์ที่ท้องแขนก่อน หากไม่แสบผิวหรือไม่ระคายเคืองก็สามารถใช้กับผิวหน้าได้
3. เช็กแพ็กเกจจิ้ง
แพ็กเกจด้านนอกของสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นส่วนใหญ่จะเป็นพลาสติก แก้วและขวดแบบอัดก๊าซ ข้อดีของขวดแก้วและขวดพลาสติกคือกดง่ายและสังเกตปริมาณคงเหลือของสเปรย์ได้ง่าย แต่จะให้แรงกดที่แตกต่างกันอาจทำให้เกิดการพ่นสเปรย์ที่ไม่สม่ำเสมอหรือปริมาณที่กดออกมาอาจน้อยเกินไปส่งผลให้เราใช้สเปรย์ได้ยากขึ้น
ส่วนขวดสเปรย์อัดก๊าซนั้นมีแรงดันแก๊สจึงสามารถทำให้ของเหลวเป็นละอองได้ละเอียดและสม่ำเสมอยิ่งขึ้น อีกทั้งเรายังควบคุมปริมาณได้ง่ายตามแรงกดด้วยแต่สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นที่มาพร้อมขวดอัดก๊าซจะมีราคาที่แพงกว่าค่ะ อีกทั้งขวดสเปรย์แบบแรงดันสูงหรือผ่านการอัดแก๊สจะนำขึ้นเครื่องบินไม่ได้
4. เลือกตามปัญหาผิวที่มี
นอกจากปัญหาผิวแห้งแล้วหลาย ๆ คนก็ยังประสบปัญหาผิวอื่น ๆ อีกมากมายเช่น ผิวมีน้ำมันเยอะ มีรูขุมขนกว้างและระคายเคืองง่าย หากคุณต้องการปรับปรุงสถานการณ์ของปัญหาผิวข้างต้นพร้อมกับเพิ่มความชุ่มชื้นไปด้วย ทางเราอยากแนะนำให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีหน้าที่ในการควบคุมความมันได้ ตัวอย่างเช่น สารสกัดจากพืชบางชนิดสามารถช่วยทำความสะอาดรูขุมขนและปรับสมดุลของน้ำมันและน้ำได้ ส่วนวิตามินบี 5 (กรดแพนโทธีนิก) สามารถปรับปรุงผิวโดยรวมได้ นอกจากนี้ยังมีสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น วิตามินซีที่มีผลในการลดความหมองคล้ำให้เราเลือกซื้อด้วย ดังนั้นก่อนซื้อสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นก็อย่าลืมเช็กปัญหาผิวของตัวเองก่อนเพื่อจะได้เลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว
สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น (Face Mist) ยี่ห้อไหนดี ?
- สเปรย์ที่ใช้กรดไฮยาลูโรนิกเป็นหลัก ลดความแห้งกร้านและเพิ่มความชุ่มชื้นได้: Eucerin Hyaluron Mist Spray สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น
- สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นสำหรับผิวแพ้ง่าย ปราศจากสารระคายเคืองผิว: Curel Moisture Spray สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น
- สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นที่ใช้งานได้หลากหลาย ตัวเลือกที่ดีสำหรับผิวบอบบาง: Avene Thermal Spring Water Face Mist สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น
- สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นขั้นสุด ตอบโจทย์คนที่มีผิวแห้ง: Physiogel Daily Moisture Therapy Facial Mist สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น
- สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นจากเกาหลี ช่วยล็อกเมคอัพให้ติดทน: CNP Laboratory Propolis Mist Ampoule สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น
Eucerin Hyaluron Mist Spray สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 752 บาท*
Eucerin Hyaluron Mist Spray เป็นหนึ่งในสเปรย์ฉีดผิวหน้าที่ได้รับความนิยมมาก ส่วนผสมหลักที่ให้ความชุ่มชื้นของสเปรย์จากยูเซอรินคือกรดไฮยาลูโรนิก แน่นอนว่าส่วนผสมนี้เป็นส่วนผสมที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีในผลิตภัณฑ์ให้ความชุ่มชื้น เพราะจากข้อมูลพบว่ากรดไฮยาลูโรนิกสามารถกักเก็บน้ำได้ 1,000-10,000 เท่า นอกจากกรดไฮยาลูโรนิกแล้วในสเปรย์ฉีดหน้ายังมีส่วนผสมของ Glyco-glycerol (สารประกอบที่พบในสาหร่ายสีน้ำเงินแกมเขียว) ที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าช่วยกระตุ้นการถ่ายเทความชื้นระหว่างเซลล์และช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นของผิวจากภายในได้
อีกทั้งทางแบรนด์ยังได้เพิ่มส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นอื่น ๆ เช่น BG กลีเซอรีนและแพนธีนอลเพื่อช่วยปลอบประโลมผิวอีกด้วย สำหรับการใช้งานสามารถใช้ได้ทุกสภาพผิวเลยค่ะเพราะผลิตภัณฑ์ได้รับการพิสูจน์และทดสอบทางผิวหนังแล้วว่ามีประสิทธิภาพในการให้ความชุ่มชื้นสูงแม้กับผิวที่บอบบาง
ข้อดี
- เมื่อฉีดสเปรย์แล้วจะทำให้ผิวฉ่ำมากยิ่งขึ้นและทำให้เมคอัพติดทน
- ทุกสภาพผิวสามารถใช้งานได้ง่ายแม้แต่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้
- หัวสเปรย์สามารถกระจายได้ง่ายฉีดพ่นได้ทั่วหน้าได้อย่างสบาย ๆ
ข้อควรพิจารณา
- จากรีวิวมากมายยังไม่พบข้อเสียของสเปรย์แต่มีหลายคนแอบบ่นเรื่องราคา
ปริมาณ | 150 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิก, กลูโคกลีเซอรอล, กลีเซอรีน, แพนธีนอล ฯลฯ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Curel Moisture Spray สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 855 บาท*
Curel Moisture Spray เป็นสเปรย์ฉีดหน้าอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราอยากแนะนำค่ะ หากใครเคยใช้ผลิตภัณฑ์จากคูเรลมาก่อนจะรู้เลยว่าผลิตภัณฑ์จากทางแบรนด์ส่วนใหญ่ปราศจากน้ำหอม แอลกอฮอล์และสี อีกทั้งยังผ่านการทดสอบอาการแพ้ด้วย ดังนั้นแม้แต่คนที่มีผิวแห้งและแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้ค่ะ หลายคนอาจจะอยากรู้ว่าคุณสมบัติเหมือนกับ Eucerin Hyaluron Mist Spray ไหม ตอบเลยว่าคุณสมบัติและส่วนผสมแตกต่างกันค่ะ ตัวนี้จะเน้นเรื่องความชุ่มชื้นแบบขั้นสุดและตอบโจทย์คนที่มีผิวแพ้ง่ายและผิวแห้งเป็นหลักค่ะ
คุณสมบัติที่พิเศษของทางแบรนด์คือได้ใช้เทคโนโลยีไมโครไนเซชันแบบพิเศษสามารถกระจายละอองได้ดีและซึมผ่านผิวหนังได้อย่างดีเยี่ยม ทางแบรนด์เคลมมาว่าหากใช้สเปรย์อย่างต่อเนื่องปราการผิวหนังและการเก็บกักความชื้นจะดีขึ้น อีกทั้งยังสามารถช่วยปรับปรุงการลอก การตกสะเก็ดและปัญหาผิวอื่น ๆ ที่เกิดจากความแห้งกร้านได้ นอกจากจะใช้งานกับผิวหน้าได้แล้วสเปรย์ยังสามารถใช้กับผิวกายได้ด้วยค่ะ
ข้อดี
- ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวแห้งได้อย่างล้ำลึก เมื่อฉีดผิวแล้วจะทำให้ผิวรู้สึกสดชื่นมากยิ่งขึ้น
- ลดการระเคืองได้เป็นอย่างดีแม้แต่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้
- สามารถใช้ฉีดผิวหน้าและผิวกายให้ความคุ้มค่าได้เป็นอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | เซราไมด์, กลีเซอรีน, อัลลันโทอิน ฯลฯ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ผิวแพ้ง่ายและผิวแห้ง |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Uriage Eau Thermale Thermal Water Face Mist สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 255 บาท*
Uriage Eau Thermale Thermal Water Face Mist เป็นสเปรย์น้ำแร่ที่เราอยากแนะนำมากค่ะ ส่วนผสมหลักของสเปรย์เป็นน้ำแร่น้ำธรรมชาติจากเทือกเขาแอลป์ซึ่งมีชื่อเสียงในด้านความสะอาดและบริสุทธิ์ จุดเด่นของน้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์จะมีอุณหภูมิคงที่และมีความสมดุล อีกทั้งทางแบรนด์ยังเคลมมาว่ามีแรงดันไอโซโทนิกที่ใกล้กับผิวหนังมนุษย์ทำให้ซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวชั้นในได้อย่างรวดเร็ว เมื่อฉีดผิวแล้วจะสร้างฟิล์มบางๆ ช่วยให้ผิวนุ่มชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้น
เรื่องคุณภาพสามารถมั่นใจได้เลยเพราะสเปรย์ได้ผ่านการวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังมากแล้วว่าจะไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองแม้ว่าจะใช้หลายครั้งต่อวันก็ตาม สำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้นะคะเพราะไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์แต่ถ้าใครที่แพ้น้ำหอมไม่แนะนำค่ะเพราะสเปรย์ยังมีน้ำหอมอยู่ค่ะ สเปรย์จะมีให้เลือก 2 ไซซ์นะคะคือขวด 50 มล. และ 150 มล. สามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบแต่ถ้าอยากพกพาแนะนำไซซ์ 50 มล. เลยค่ะเพราะพกพาได้ง่ายสามารถเติมความชุ่มชื้นให้แก่ผิวได้ทันทีที่ต้องการ
ข้อดี
- เป็นสเปรย์น้ำแร่จากธรรมชาติช่วยเพิ่มความสดชื่นให้กับผิวได้
- เพิ่มความชุ่มชื้นได้เป็นอย่างดีสามารถใช้ได้กับทุกสภาพผิว
- อ่อนโยนต่อผิวและลดการระคายเคืองของผิวได้เป็นอย่างดี
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของน้ำหอมอาจจะต้องทดสอบก่อนใช้
ปริมาณ | 50 และ 150 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำแร่จากเทือกเขาแอลป์ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ปราศจากน้ำหอม | ✘ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Avene Thermal Spring Water Face Mist สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 644 บาท*
Avene Thermal Spring Water Face Mist เป็นสเปรย์น้ำแร่เช่นเดียวกับ Uriage Eau Thermale Thermal Water Face Mist ค่ะ ส่วนผสมหลักของสเปรย์คือน้ำแร่จากอาเวนที่ผ่านการบรรจุขวดในสภาพแวดล้อมที่ปลอดเชื้อเพื่อให้เรามั่นใจในความบริสุทธิ์ของผลิตภัณฑ์ ทางแบรนด์เคลมมาว่าในน้ำแร่ของอาเวนอุดมไปด้วยโพสไบโอติกมีประสิทธิภาพในการช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น ปรับปรุงสภาพผิวและฟื้นฟูเกราะป้องกันผิวให้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
สำหรับเรื่องความปลอดภัยผลิตภัณฑ์นี้เป็นผลิตภัณฑ์ของแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังที่ออกแบบมาสำหรับผิวแพ้ง่ายโดยเฉพาะอยู่แล้วและได้รับการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง ดังนั้นสเปรย์แร่น้ำแร่จาก Avene Thermal Spring เหมาะสำหรับผิวเกือบทุกสภาพผิวด้วยความจุที่มีให้เลือก 3 ขนาดคือ 50, 150 และ 300 มล. สามารถเลือกได้อย่างอิสระ อีกทั้งสเปรย์ยังปราศจากน้ำหอม ปราศจากพาราเบน ปราศจากแอลกอฮอล์และปราศจากมิเนอรัลออยล์จึงอ่อนโยนต่อผิว
ข้อดี
- ช่วยบรรเทาและปลอบประโลมผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ฉีดผิวได้ตลอดทั้งวันและสามารถใช้เป็นโทนเนอร์หลังล้างหน้าได้
- รักษาสมดุลค่า pH ของผิวได้ดี ใช้ผสมรองพื้นได้และล็อกเมคอัพได้
ข้อควรพิจารณา
- จากรีวิวมากมายยังไม่พบข้อเสียของสเปรย์แต่มีหลายคนแอบบ่นเรื่องราคา
ปริมาณ | 50, 150 และ 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำแร่อาเวน |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
La Roche-Posay Eau Thermal Face Mist สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 710 บาท*
La Roche-Posay Eau Thermal Face Mist เป็นสเปรย์น้ำแร่จากแบรนด์เวชสำอางที่ต้องห้ามพลาดเลยเลยค่ะ เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อใช้สเปรย์แล้วผิวจะรู้สึกสดชื่นและชุ่มชื้นขึ้นทันที เพราะในสเปรย์น้ำแร่ของลาโรชโพเซย์มีปริมาณซีลีเนียมสูงมาก ซึ่งซีลีเนียมเป็นแร่ธาตุต้านอนุมูลอิสระที่มีความสามารถในการปลอบประโลมผิวได้เป็นอย่างดี หากใครที่เคยใช้สกินแคร์จากทางแบรนด์มาแล้วแนะนำให้ใช้สเปรย์ด้วยเลยค่ะเพราะประสิทธิภาพดีจริง ๆ
แต่ขอบอกก่อนนะคะว่าผลิตภัณฑ์นี้ไม่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นพิเศษใด ๆ ดังนั้นผลิตภัณฑ์จึงเหมาะที่สุดสำหรับคนที่ต้องการความชุ่มชื้นเพียงเล็กน้อยและไม่มีปัญหาผิวแห้ง แต่หากใครที่มีผิวแห้งมากทางเราไม่อยากแนะนำนักเพราะมันไม่ได้ช่วยในเรื่องผิวแห้งเท่าไหร่ หากอยากใช้จริง ๆ แนะนำ Eucerin Hyaluron Mist Spray ดีกว่า แต่หากใครไม่มีปัญหาผิวแห้งก็ใช้ได้เลยเพราะสเปรย์เป็นสูตรอ่อนโยนไม่มีสารกันบูด, น้ำมัน, น้ำหอม, พาราเบน ฯลฯ ใครที่เป็นโรคผิวหนังก็สามารถใช้งานได้นะคะ
ข้อดี
- อุดมไปด้วยแร่ธาตุและสารต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติช่วยดูแลผิว
- ให้ความสดชื่นแก่ผิว ช่วยบรรเทาผิวที่อักเสบและระคายเคืองได้ดี
- ปราศจากสารอันตรายหลากหลายชนิดแม้ผิวแพ้ง่ายก็ใช้งานได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแห้งกร้าน
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำแร่ลาโรชโพเซย์ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ผิวธรรมดาและผิวแพ้ง่าย |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Vichy Mineralizing Thermal Water สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 520 บาท*
Vichy Mineralizing Thermal Water เป็นสเปรย์น้ำแร่อีกเช่นเคยค่ะ จุดเด่นของสเปรย์คือน้ำแร่ที่เป็นเอกสิทธิ์ของทางแบรนด์ที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าภายในน้ำแร่มีแร่ธาตุ 15 ชนิดที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีความปลอดภัย เมื่อใช้งานแล้วน้ำแร่จะช่วยเสริมสร้างการป้องกันตามธรรมชาติของผิว นอกจากนี้น้ำแร่ยังสามารถช่วยปลอบประโลมผิว ลดผื่นและปรับสมดุลระดับ pH ของผิวได้เป็นอย่างดี หัวสเปรย์ก็สามารถฉีดได้ง่ายแนะนำเลยค่ะ
สำหรับเรื่องความปลอดภัย Vichy Mineralizing Thermal Water เป็นสเปรย์น้ำแร่ที่ปราศจากน้ำหอม ปราศจากพาราเบนและผ่านการทดสอบด้านผิวหนังแล้วสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยแม้แต่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้ค่ะ หากถามว่าสเปรย์น้ำแร่เหมาะกับใครมากที่สุดตอบเลยว่าเหมาะกับทุกสภาพผิวค่ะผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้แต่หากใครที่มีผิวแห้งมากไม่แนะนำค่ะเพราะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นมากนัก
ข้อดี
- ผลิตจากน้ำแร่บริสุทธิ์ 100% อุดมด้วยแร่ธาตุกว่า 15 ชนิดช่วยบำรุงผิวให้แข็งแรง
- เหมาะสำหรับผิวที่มีปัญหาการระคายเคืองและช่วยลดการอักเสบได้
- บรรเทาและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเหมาะสำหรับผิวที่ไหม้แดดในช่วงฤดูร้อน
ข้อควรพิจารณา
- ตัวสเปรย์น้ำแร่อาจจะไม่ได้ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวมากนัก
ปริมาณ | 50 และ 150 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | น้ำแร่วิชชี่ (ภูเขาไฟฝรั่งเศส) |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ผิวธรรมดาและผิวแพ้ง่าย |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Physiogel Daily Moisture Therapy Facial Mist สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 245 บาท*
Physiogel Daily Moisture Therapy Facial Mist เป็นสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นที่ผู้เขียนชอบค่ะและเคยซื้อมาใช้ด้วย สาเหตุที่ผู้เขียนชอบใช้ก็เพราะว่าเคยใช้มอยส์เจอไรเซอร์ของทางแบรนด์นั่นเองค่ะ แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้ซื้อมาใช้ค่ะไม่ใช่ว่ามันไม่ดีนะคะแต่เป็นเพราะว่ามันราคาสูงไปหน่อยเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณที่มี ส่วนผสมหลักของสเปรย์คือกรดไฮยาลูโรนิก กลีเซอรีนและแพนทีนอลสามารถเพิ่มความชุ่มชื้นได้ดีมาก
ผลลัพธ์หลังจากการใช้คือผิวจะแห้งกร้านน้อยลงและให้ความฉ่ำกับผิวได้ดีด้วย ในการใช้งานสามารถใช้ก่อนหรือหลังแต่งหน้าได้ค่ะรับรองว่าจะทำให้เครื่องสำอางติดทนขึ้น หากถามว่าสเปรย์เหมาะกับใครบอกเลยตอบว่าเหมาะกับคนที่มีผิวแห้งและมีผิวแพ้ง่ายเป็นพิเศษค่ะเพราะไม่มีน้ำหอมและไม่มีแอลกอฮล์ด้วย
ข้อดี
- สเปรย์สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวได้และลดความแห้งกร้านได้ดี
- ปราศจากสารระคายเคืองผิวแม้ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้
- สามารถใช้งานตลอดทั้งวันรวมไปถึงก่อนและหลังแต่งหน้า
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณที่ได้รับ
ปริมาณ | 100 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิก, กลีเซอรีน, แพนทีนอล ฯลฯ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ผิวแห้งและผิวแพ้ง่าย |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
CNP Laboratory Propolis Mist Ampoule สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 290 บาท*
CNP Laboratory Propolis Mist Ampoule เป็นสเปรย์บำรุงผิวจากเกาหลีที่เราไม่อยากให้คุณพลาดค่ะ เพราะสเปรย์ไม่เพียงแต่ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นของผิวเท่านั้น แต่ทางแบรนด์ยังเคลมมาว่าสามารถช่วยเติมพลังให้กับผิวที่เหนื่อยล้าได้ด้วย ส่วนผสมหลักของสเปรย์คือโพลิส, กรดไฮยาลูโรนิก, แพนทีนอล และเบทาอีน ส่วนผสมเหล่านี้เป็นส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้อย่างล้ำลึก ปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวและทำให้ผิวนุ่มขึ้น
สำหรับเรื่องประสิทธิภาพสามารถมั่นใจได้เลยค่ะเพราะจากรีวิวผู้ใช้มากมายพบว่าสเปรย์ช่วยเพิ่มความเงางามของผิวได้ดี คงความชุ่มชื้นได้และช่วยให้ผิวดูเปล่งประกายตลอดทั้งวัน อนุภาคของสเปรย์มีความเนียนละเอียดใช้งานได้ง่าย ใครที่อยากได้สเปรย์ที่ให้ความชุ่มชื้นได้ ล็อกเมคอัพได้แนะนำ CNP Laboratory Propolis Mist Ampoule เลยค่ะ
ข้อดี
- สเปรย์สามารถให้ความชุ่มชื้นได้อย่างรวดเร็วช่วยลดความแห้งกร้าน
- ช่วยล็อกเมคอัพได้เป็นอย่างดีสามารถใช้หลังการแต่งหน้าได้
- ลดการระคายเคืองผิวได้เป็นอย่างดีและไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
ข้อควรพิจารณา
- ยังคงมีส่วนผสมของน้ำหอมและน้ำมันจากดอกไม้ควรทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิก, กลีเซอรีน, กรดแลคโตไบโอนิก, น้ำมันจากดอกไม้ ฯลฯ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ปราศจากน้ำหอม | ✘ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Pyunkang Yul Calming Moisture Mist สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 390 บาท*
Pyunkang Yul Calming Moisture Mist เป็นสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นจากเกาหลีเช่นเดียวกับ CNP Laboratory Propolis Mist Ampoule ส่วนผสมหลักของสเปรย์คือสารสกัดจากไม้ไผ่ซึ่งทางแบรนด์เคลมมาว่าสามารถให้ความสดชื่นและช่วยให้ผิวชุ่มชื้นโดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ถัดมาคือสารสกัดจากใบบัวบก ทีทรีและสารสกัดจากดอกสายน้ำผึ้งช่วยปลอบประโลมผิวที่บอบบางได้เป็นอย่างดีค่ะ เนื้อสเปรย์มีความใสนะคะสามารถฉีดได้ง่ายเพราะเป็นขวดคล้ายน้ำหอมทั่วไปเลย
หากถามว่าสเปรย์เหมาะกับใครมากที่สุดตอบเลยว่าเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวรวมไปถึงผิวมันเพราะในสเปรย์มีสารสกัดจากเปลือกวิลโลว์สีขาว กรดแลคติค และกรดอัลฟ่าไฮดรอกซีช่วยสลายความมันส่วนเกินและทำให้รูขุมขนสะอาด เมื่อใช้งานแล้วตัวสเปรย์บำรุงผิวหน้าจะไม่เหนียวเหนอะหนะ อีกทั้งยังผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนังแล้วว่าปลอดภัยค่ะ
ข้อดี
- สเปรย์สามารถให้ความชุ่มชื่นและผ่อนคลายผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ค่า pH ของสเปรย์ต่ำและไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองผิว
- สเปรย์เป็นสูตรวีแกนเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวแม้แต่ผิวแพ้ง่ายก็ใช้ได้
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะไม่เหมาะกับคนที่ต้องการความชุ่มชื้นกับผิวอย่างหนักหน่วง
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | สารสกัดจากไม้ไผ่, สารสกัดจากใบบัวบก, ทีทรี, สารสกัดจากดอกสายน้ำผึ้ง ฯลฯ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Clinique Moisture Surge Face Spray Thirsty Skin Relief สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น

ราคา 200 บาท*
เมื่อพูดถึงสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นแน่นอนว่าขาด Clinique Moisture Surge Face Spray Thirsty Skin Relief ไปไม่ได้ บรรจุภัณฑ์ของสเปรย์มีให้เลือกทั้งไซซ์เต็มและไซซ์ทดลองนะคะสามารถหาซื้อได้เลย จุดเด่นของสเปรย์คือเนื้อสเปรย์มีความเนียนละเอียดมาก ซึมเร็วมาก เมื่อฉีดเข้าผิวไปแล้วสามารถซึมเข้าผิวได้โดยไม่ต้องแตะแถมยังใช้เป็นโลชั่นได้สะดวกมากเลยทีเดียวค่ะ
ส่วนผสมหลักของสเปรย์คือกลีเซอรีน ว่านหางจระเข้และสารสกัดใบบัวบกที่สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นและปลอบประโลมผิวได้ อีกทั้งสเปรย์ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอมด้วย ส่วนเรื่องกลิ่นสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นจากคลีนิกข์ไม่มีกลิ่นฉุนนะคะ เมื่อใช้งานแล้วจะสามารถบรรเทาความแห้งตึงของผิวได้ทันทีจะใช้ในฤดูไหนก็ได้ตามสะดวกเลยค่ะ
ข้อดี
- ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวและช่วยปลอบประโลมผิวได้ดีมาก
- ละอองของสเปรย์มีความละเอียดและซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว
- ใช้งานได้ทุกสภาพผิวแม้แต่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถใช้งานได้
ข้อควรพิจารณา
- ราคาของสเปรย์ค่อนข้างสูงเมื่อเปรียบเทียบกับปริมาณ
ปริมาณ | 30, 125 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลัก | กลีเซอรีน, ว่านหางจระเข้, สารสกัดใบบัวบก ฯลฯ |
ปัญหาผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
ปราศจากน้ำหอม | ✔ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการใช้สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้น
สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้ง่ายค่ะใคร ๆ ก็ใช้งานได้แต่หลายคนอาจจะไม่รู้วิธีใช้ที่แท้จริงเราเลยอยากแนะนำกัน ในการใช้งานแนะนำให้ถือขวดสเปรย์ให้ห่างจากใบหน้าประมาณ 15 – 20 ซม. ควรฉีดสเปรย์ให้เท่ากัน จากบนลงล่างแต่อย่าลืมหันด้านซ้ายและด้านขวาฉีดด้วย หลังจากนั้นให้ปล่อยสเปรย์ทิ้งไว้ประมาณ 10 วินาที ถัดมาให้ใช้มือทั้งสองข้างตบเบา ๆ ให้ทั่ว ใบหน้าเพื่อให้สเปรย์ดูดซึมเข้าสู่ผิวได้หมด จากนั้นให้ทำการแต่งหน้าต่อได้เลย
แต่หากคุณต้องการบรรเทาอาการไม่สบายที่เกิดจากความแห้งกร้าน คุณสามารถฉีดสเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นลงบนสำลีหรือทิชชู่เปียกเพื่อประคบผิวแบบเปียกได้ แต่ทางเราอยากแนะนำให้หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมระเหยง่าย เช่น แอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะดึงความชื้นออกจากผิวหนังและทำให้ผิวแห้งมากกว่าเดิม สำหรับเวลาในการใช้สเปรย์เพิ่มความชุ่มชื้นสามารถใช้ได้ตามช่วงเวลาดังต่อไปนี้
- ก่อนนอนและหลังตื่นนอน : ช่วยให้ผิวผ่อนคลาย
- ก่อนและหลังการแต่งหน้า : ช่วยให้เมคอัพติดทนนานขึ้น ให้ความชุ่มชื้นและช่วยให้รองพื้นดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- หลังจากกำจัดขนและหลังจากออกแดด : ทำให้ผิวรู้สึกสบายขึ้นและช่วยลดอาการแสบร้อนบนผิวหนัง
- ก่อนใช้โทนเนอร์หรือมอยส์เจอไรเซอร์ : ช่วยให้ผิวพร้อมรับสกินแคร์ในขั้นตอนต่อไป
- หลังออกกำลังกาย : ทำให้ผิวเย็นลงและให้ความรู้สึกสดชื่นทันที