นักดื่มกาแฟทุกคนย่อมทราบกันดีว่าเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ดีที่ผ่านการคั่วมาอย่างพิถีพิถันจะให้รสชาติของกาแฟได้ดีกว่ากาแฟซองสำเร็จรูปหรือกาแฟกระป๋องทั่วไป และอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ก็คือ “วิธีการชงกาแฟ” ในรูปแบบต่าง ๆ ที่จะส่งผลให้รสชาติกาแฟอร่อยยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่าหากคุณมี “เครื่องชงกาแฟที่ดี” คุณก็สามารถกำหนดรสชาติของกาแฟในรูปแบบที่คุณชอบได้ ซึ่งมันก็จะมีเครื่องชงกาแฟตามประเภทการใช้งานต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องชงกาแฟสดที่ให้รสชาติเข้มข้นถึงใจแต่ต้องบดกาแฟด้วยตัวเอง, เครื่องชงกาแฟแคปซูลที่มีการปรับปรุงรสชาติมาแล้วในตัวจึงให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วและเหมือนเดิมทุกครั้งที่ทำ หรือจะเป็นเหยือกดริปกาแฟที่ถึงแม้รสชาติอาจจะไม่ค่อยเข้มข้นแต่ขั้นตอนใช้งานไม่ยุ่งยากและราคาถูก แต่ไม่ว่าจะเป็นเครื่องชงกาแฟรูปแบบไหนคุณก็ยังคงต้องใช้ไฟฟ้าเป็นตัวช่วยให้เครื่องทำงานอยู่ดีใช่มั้ยคะ?
หากคุณมีความจำเป็นที่ต้องใช้ชีวิตโดยไม่มีไฟฟ้าอย่าง “การตั้งแคมป์ปิ้ง” ที่เน้นไลฟ์สไตล์ท่ามกลางธรรมชาติ แต่คุณก็ยังต้องการดื่มด่ำไปกับกาแฟรสชาติดีที่คุณคุ้นเคย คุณจะต้องมีอุปกรณ์ชงกาแฟแบบดั้งเดิมที่สามารถทำให้รสชาติของกาแฟยังคงความอร่อยได้ ซึ่งสิ่งที่เราจะนำเสนอคุณในวันนี้ก็คือ “หม้อต้มกาแฟ” หรือ “Moka Pot (มอคค่าพอท)” ค่ะ มอคค่าพอทเป็นหม้อต้มกาแฟที่กำลังในรับความนิยมในหมู่นักตั้งแคมป์ มันถูกออกมาแบบมาให้ใช้ง่าย, พกพาสะดวก, แข็งแรงทนทาน, มีราคาไม่แพง และดูแลรักษาทำความสะอาดง่ายสุด ๆ ซึ่งหากคุณยังไม่มี Moka Pot ไว้ครอบครอง ให้บทความของเราในวันนี้เป็นผู้ช่วยในการเลือกซื้อหม้อต้มกาแฟที่เหมาะกับคุณดูไหมคะ? เรารับรองว่าคุณจะได้รับทั้งความรู้และสินค้าที่คุณถูกใจกลับไปหลังจากอ่านบทความของเราจบ 🙂
Moka Pot มอคค่าพอท คืออะไร
หม้อต้มกาแฟ หรือ Moka Pot (มอคค่าพอท) เป็นหนึ่งในอุปกรณ์แคมป์ปิ้งที่เหล่านักดื่มคอกาแฟทุกคนรู้จักกันดี เพราะหม้อต้มกาแฟจะเป็นตัวช่วยให้คุณดื่มด่ำไปกับบรรยากาศของธรรมชาติในตอนเช้าด้วยรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เนื่องจากมอคค่าพอทใช้วีธีในการชงกาแฟแบบดั้งเดิมที่ไม่ใช้ไฟฟ้า แต่จะเป็นการต้มบนเตาแก็สปิคนิคแทน (หรือเตาไฟฟ้าก็ได้ค่ะในกรณีที่ทำในบ้าน) โดยอาศัยแรงดันของน้ำผ่านตัวกาแฟขึ้นมาจนกลายเป็นน้ำกาแฟสุดเข้มข้นพร้อมด้วยรสชาติที่ยอดเยี่ยมที่ชวนให้นึกถึงเอสเปรสโซ ซึ่งกลไกของมันก็ทำงานเรียบง่ายโดยประกอบไปด้วยตัวเหยือกสำหรับใส่น้ำเปล่าเป็นฐานด้านล่างเรียกว่าหม้อไอน้ำ, ชั้นกรองที่ใส่กาแฟบดมีรูเล็ก ๆ และมีท่อตรงกลางยื่นลงไปในหม้อไอน้ำอีกที และส่วนบนสุดจะเป็นเหยือกสำหรับเก็บน้ำกาแฟที่ดันขึ้นมาจากข้างล่างค่ะ

รสชาติกาแฟที่ได้จะมีความใกล้เคียงกับเครื่องชงกาแฟเอสเปรสโซ่ แต่ด้วยมอคค่าพอทสามารถสร้างแรงดันได้สูงสุด 1-2 บาร์เท่านั้น จึงทำให้นักดื่มพันธุ์แท้ทั้งหลายรู้สึกว่ากาแฟยังเข้มไม่ถึงใจเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรก็ตามก็ถือว่ามอคค่าพอทได้ให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจในระดับหนึ่งเลยค่ะ ซึ่งกาแฟที่ได้นั้นก็สามารถทำต่อยอดได้หลากหลายเมนูไม่ว่าจะเป็นเอสเปรสโซ่, คาปูชิโน หรือลาเต้
หมายเหตุ โดยปกติแล้วการเดินทางไปต่างจังหวัดหรือการตั้งแคมป์จะใช้เพียงแต่ตัว มอคค่าพอท, กาแฟบด และเตาแก๊สพกพาเท่านั้น แต่สำหรับใครที่อยากได้ความสดใหม่ของกาแฟในทุก ๆ แก้วที่คุณดื่ม คุณอาจจะพกที่บดกาแฟแบบมือหมุนติดตัวไปด้วยก็ได้ค่ะ
หม้อต้มกาแฟ Moka Pot ใช้อย่างไร
เริ่มแรกให้ใส่น้ำลงไปในหม้อไอน้ำส่วนล่าง แต่อย่าใส่น้ำให้เกินวาล์วปล่อยไอน้ํานะคะ จากนั้นนำชั้นกรองวางลงไป และใส่กาแฟบดจนเต็ม ซึ่งกาแฟที่ใช้จะเป็นแบบบดพอดี ๆ ไม่ละเอียดเกินไปและไม่หยาบเกินไป เพราะหากละเอียดเกินไปจะทำให้น้ำกาแฟของเรามีผงกาแฟผสมอยู่ได้ และต้องใส่ให้เต็มในชั้นกรองแต่ไม่จำเป็นต้องกดให้แน่นเหมือนเครื่องชงกาแฟที่คุณเคยเห็นนะคะ จากนั้นให้นำเหยือกส่วนบนมาปิดและขันสกรูให้แน่นสนิท ซึ่งในส่วนบนนั้นไม่ต้องใส่อะไรเลยค่ะ นำไปตั้งบนเตาและรอให้น้ำเดือด เมื่ออุณหภูมิของน้ำร้อนได้ที่ น้ำจากด้านล่างจะดันขึ้นมาด้านบนพร้อมกับกลิ่นกาแฟหอม ๆ และเสียงวาล์วปล่อยไอน้ําที่ดังบอกเวลาให้เรารู้ว่าใกล้เสร็จพร้อมดื่มแล้ว โดยระยะในการชงทั้งหมดนี้ใช้เวลาไม่เกิน 5 นาทีเท่านั้นค่ะ ด้วยเหตุนี้ Moka Pot จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคอคาเฟอีนในตอนเช้าที่เร่งด่วน

วิธีเลือกซื้อหม้อต้มกาแฟ (มอคค่าพอท)
1. ขนาดและน้ำหนัก
หม้อต้มกาแฟเป็นอุปกรณ์สำหรับชงกาแฟที่มีจุดขายตรงที่การพกพาสะดวก ดังนั้นหากคุณตั้งใจจะนำมันติดตัวไปทุกที่ในทริปท่องเที่ยวของคุณ คุณจะต้องเลือกหม้อต้มกาแฟที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาไว้ก่อน เพื่อที่จะประหยัดพื้นที่ในกระเป๋าเป้เดินป่าของคุณ
2. ความจุ
นอกจากขนาดและน้ำหนักแล้ว ความจุของหม้อหรือปริมาณน้ำกาแฟที่จะได้ในแต่ละครั้ง ก็เป็นตัวกำหนดการตัดสินใจของผู้ซื้อได้ดีเช่นกัน หากคุณมีจุดประสงค์ที่จะใช้งานมากกว่า 1-2 คน ก็ควรจะดูจากขนาดความจุของเหยือกด้วยนะคะ เพราะบางรุ่นบางยี่ห้อก็ระบุว่าเป็น 2/4/6 cups แต่แก้วหรือถ้วยของแต่ละเจ้าก็มีความหมายที่ไม่เหมือน ดังนั้นควรจะตรวจสอบหน่วยปริมาณให้แน่ใจว่าขนาด cups หรือถ้วยที่ว่านั้น คือกี่ มล. เพื่อให้คุณสามารถคำนวณได้อย่างคร่าว ๆ ว่าคุณจะเลือกความจุขนาดไหน โดยรายการต่อไปนี้จะเป็นเพียงไกด์ไลน์อย่างคร่าว ๆ ที่แนะนำให้คุณเลือกซื้อค่ะ
-
- สำหรับชงดื่ม 1 คน ใช้ขนาด 1 / 2 / 3 cups
- สำหรับชงดื่ม 2 คน ใช้ขนาด 4 / 6 cups
- สำหรับชงดื่ม 3 คน ใช้ขนาด 6 / 9 cups
- สำหรับชงดื่ม 4 คน ใช้ขนาด 9 / 12 cup
3. วัสดุที่ใช้ผลิต
หม้อต้มกาแฟบางรุ่นก็อาจจะไม่ทนทานต่อการใช้งาน เมื่อโดนความร้อนบ่อย ๆ ก็อาจจะพังหรือเสียเอาง่าย ๆ เพื่อไม่ให้คุณต้องเสียอารมณ์และเสียเงินซื้อใหม่หลาย ๆ ครั้ง คุณควรจะมองหาหม้อต้มกาแฟที่มีวัสดุแข็งแรงทนทาน ทนต่อแรงกระแทกต่าง ๆ ได้ดี และรวมถึงหูจับต้องทนต่อความร้อนได้ด้วย ซึ่งเราขอแนะนำให้เลือกตัวหม้อเป็นวัสดุจาก “อะลูมิเนียม” หรือ “สแตนเลสสตีล” ค่ะ
อะลูมิเนียม | สแตนเลสสตีล |
ราคาถูกกว่า | ราคาแพงกว่า |
น้ำหนักเบากว่า | น้ำหนักเยอะกว่า |
นำความร้อนได้ดีกว่า | นำความร้อนได้ดีน้อยกว่า |
มีความทนทานน้อยกว่า | มีความทนทานมากกว่า |
ทนต่อการกัดกร่อนน้อยกว่า | ทนต่อการกัดกร่อนได้ดีกว่า |
ไม่ปลอดภัยต่อเครื่องล้างจาน | ปลอดภัยต่อเครื่องล้างจาน |
เนื่องจากสแตนเลสสตีลช่วยป้องกันในเรื่องของการเกิดสนิมและลดการกัดกร่อนได้ดี ทั้งยังมีน้ำหนักเบาและมีความแข็งแรงไปด้วยในตัว ส่วนอะลูมิเนียมนั้นจะมีความแข็งแรงและทนต่อการกัดกร่อนเช่นกัน (แต่น้อยกว่าสแตนเลส) สามารถนำความร้อนได้ดีกว่าสแตนเลสทั้งยังมีน้ำเบากว่าอีกด้วยค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่คุณว่าต้องใช้งานแบบไหน แต่หากให้เราแนะนำการใช้หม้อต้มกาแฟแบบสแตนเลสสตีลจะช่วยทำให้อายุการใช้งานยาวนานกว่าอะลูมิเนียมค่ะ
4. จะใช้กับเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
วัตถุประสงค์ในการเลือกของข้อนี้ก็ดูจากวัสดุที่ใช้นั่นเองค่ะ เพราะหม้อต้มกาแฟหรือ Moka Pots ไม่สามารถใช้ได้กับเตาทุกประเภทเสมอไป บางชิ้นก็ใช้ได้สำหรับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้หรือบางชิ้นก็ใช้ได้กับเตาแบบเปลวไฟเท่านั้น ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเลือกหม้อที่ถูกต้องสำหรับการใช้ของคุณ
-
- หากคุณอยากให้มันสามารถใช้กับพวกเตาแก๊สหรือเตาไฟฟ้า คุณก็ต้องเลือกหม้อต้มกาแฟที่ทำจากอะลูมิเนียม
- แต่หากคุณต้องให้มันครอบคลุมการใช้ที่รวมถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้าด้วย ก็ต้องเลือกสแตนเลสสตีลค่ะ
5. ความปลอดภัย
แน่นอนว่าหม้อต้มกาแฟใช้เทคนิคแรงดันจากไอน้ำเป็นตัวดำเนินการ ดังนั้นความปลอดภัยขณะที่ใช้เครื่องมือเหล่านี้จึงเป็นปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้ข้ออื่น ๆ เพราะแรงดันที่สูงเช่นนี้อาจจะทำให้หม้อของคุณระเบิดได้ หรืออาจจะทำให้น้ำพุ่งจนหกเลอะเทอะ หากยี่ห้อไหนที่ไม่มีการรับรองด้านความปลอดภัยใด ๆ แต่คุณยังยืนยันว่าต้องการซื้อ คุณอาจจะต้องลองเสี่ยงดวงดูนะคะ นอกจากนี้คุณจะต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าหม้อต้มกาแฟได้การปิดจนสนิทแล้วก่อนนำไปตั้งความร้อนหรือตั้งไฟ
รีวิว หม้อต้มกาแฟ Bialetti รุ่น Venus ขนาด 6 ถ้วย (เบียเล็ตติ้ วีนัส)

ราคา 2,257 บาท*
หม้อต้มกาแฟ Moka Pot จากแบรนด์ดังอย่าง Bialetti ซึ่งเป็นที่เข้าใจตรงกันว่าเป็นแบรนด์ที่ไม่เคยทำให้ผิดหวัง หากคุณกำลังมองหาหม้อต้มกาแฟที่สามารถใช้งานกับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้ก็ต้องรุ่นวีนัสเลยค่ะ เพราะตัววัสดุเป็นสแตนเลสสตีลเกรด 18/10 อย่างดี ทั้งยังจุได้มากถึง 400 มล. มาพร้อมการออกแบบที่ดูหรูหรามีสไตล์ ตรงที่จับมีฉนวนป้องกันความร้อนอย่างดี จับง่ายถนัดมือป้องกันการลื่น ออกแบบให้การยกเทกาแฟไม่หกเลอะเทอะ ความหนาส่วนล่างของหม้อเพิ่มขึ้น 20 % นอกจากนี้ Bialetti ก็ไม่เคยทำให้แฟน ๆ ผิดหวังในเรื่องของรสชาติที่เข้มข้น อร่อย และละมุนเช่นเดิม
- หากคุณกำลังใช้รุ่นนี้กับเตาแก๊สระวังอย่าให้หูจับโดนเปลวไฟ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้มันละลาย
- สามารถใช้ได้กับเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า
ทำจากวัสดุ | สแตนเลสสตีล |
---|---|
ปริมาณการชงต่อครั้ง | 6 cups / 400 มล. |
ขนาด (กว้างxยาวxสูง) | 11 x 13.5 x 21 ซม. |
รีวิว มอคค่าพอท Bialetti รุ่น New Brikka 2020 ขนาด 2 ถ้วย (เบียเล็ตติ้ บริกก้า)

ราคา 2,490 บาท*
Brikka ที่ผลิตจากอิตาลีซึ่งเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีประวัติที่ดีมาอย่างยาวนาน ซึ่งรุ่นนี้ Brikka ยังคงรูปลักษณ์ที่ดูคลาสสิกและน่าสนใจได้ดี อีกทั้งยังอัปเกรดมาด้วยความพิเศษของหัววาล์วแบบใหม่ที่จะช่วยเพิ่มความหนานุ่มของครีม่าโฟมมากขึ้นถึง 20% และเพิ่มแรงดันภายในได้ดีกว่ารุ่นปกติถึง 2 เท่า จึงช่วยทำให้รสชาติกาแฟออกมาเข้มข้น ทั้งยังเพิ่มความร้อนของเครื่องดื่มให้สูงขึ้นอีก 5 °C ผลิตจากอะลูมิเนียมเกรดอาหารที่แข็งแรงทนทาน, ปลอดภัย, นำความร้อนได้ดี และน้ำหนักเบามาก
- เพื่อความปลอดภัย ควรบิดตัวหม้อก่อนต้มให้แน่น เนื่องจากรุ่นนี้จะทำแรงดันได้สูงมาก ๆ
- ใช้ได้กับเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าเท่านั้น เตาเเม่เหล็กไฟฟ้าใช้ไม่ได้
- ข้อเสียเปรียบเพียงประการเดียวคือรุ่นนี้ทำจากอะลูมิเนียม ดังนั้นมันอาจจะไม่ทนทานเท่าไหร่ เมื่อเทียบกับสแตนเลสสตีลหากคุณเก็บรักษาไม่ดี
ทำจากวัสดุ | อะลูมิเนียม |
---|---|
ปริมาณการชงต่อครั้ง | 2 cups / 100-120 มล. |
ขนาด (กว้างxยาวxสูง) | 10 x 14 x 17 ซม. |
รีวิว Bialetti รุ่น หม้อต้มกาแฟ Moka pot รุ่น Moka Express (เบลเล็ตติ โมคาเอ็กซ์เพรส )

ราคา 1,590 บาท*
ยังคงอยู่กับ Moka pot จาก Bialetti แบรนด์ใหญ่ในอุตสาหกรรมกาแฟที่มีมาตั้งแต่ปี 1950 ซึ่งคราวนี้เป็นรุ่นขายดีอย่าง Moka Express สาเหตุที่รุ่นนี้เป็นนิยม เนื่องจากรูปลักษณ์สไตล์วินเทจและโครงสร้างอะลูมิเนียมขัดเงาที่ดูคลาสสิกและสวยงาม มาพร้อมกับขนาดเล็กที่แข็งแรงและทนทาน ทั้งยังมีฐานเป็นแปดเหลี่ยมที่ช่วยทำให้ความร้อนกระจายตัวได้ดี ส่งผลให้กาแฟที่ได้มีความเข้มข้นแต่แฝงไปด้วยสัมผัสที่นุ่มละมุน ซึ่งสามารถชงเอสเปรสโซนุ่ม ๆ ได้ภายในเวลาไม่ถึง 5 นาที ทั้งยังมีให้เลือกหลายขนาดอีกด้วย
แม้ว่าตอนนี้จะมีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว แต่เนื่องจากพึ่งออกเมื่อตอน 2020 จึงทำให้ผู้คนอาจจะไม่ได้ลองเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างสองรุ่นนี้อย่างจริงจัง แต่ถ้าให้ผู้เขียนแนะนำ New Brikka 2020 ดูเหมือนจะเพิ่มคุณสมบัติได้ดีกว่าเล็กน้อยในบางเรื่อง แต่ก็มาพร้อมกับราคาที่แพงขึ้นเช่นกัน
- แน่นอนค่ะว่ารุ่น Moka Express ที่เป็นอะลูมิเนียม ก็ยังคงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
- ส่วนมือจับเป็นพลาสติกที่อาจจะละลายอย่างรวดเร็ว หากคุณปล่อยทิ้งไว้ใกล้เปลวไฟ แต่แบรนด์นี้มีอะไหล่เปลี่ยนได้ค่ะ
ทำจากวัสดุ | อะลูมิเนียม |
---|---|
ปริมาณการชงต่อครั้ง | 3 cups / 150 มล. |
ขนาด (กว้างxยาวxสูง) | 10 x 14 x 17 ซม. |
รีวิว หม้อต้มกาแฟสด เอสเพรสโซ่ ขนาด 3 ถ้วย

ราคา 392 บาท*
หม้อต้มกาแฟสดที่มีราคาประหยัดสบายกระเป๋า เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากลองใช้ Moka Pot แม้ว่าจะมีราคาที่จับต้องได้แต่ก็มาในความจุถึง 150 มล. เหมาะสำหรับ 1-2 คน วัสดุทำจากอะลูมิเนียม ตัวหูจับเป็นพลาสติกไนล่อนที่ทนต่อความร้อน ทำให้คุณมั่นใจได้ว่ามันจะไม่ทำให้คุณมือพองระหว่างการใช้งานแน่นอนค่ะ ทั้งยังมีขนาดเล็กน้ำหนักเบา ถือว่าตัวนี้สะดวกต่อการพกพาไปทุกที่จริง ๆ ค่ะ
- ใช้งานได้ทั้งบนเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า หรือเตาถ่านก็ได้ แต่ไม่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้า
- ตรงฝาเปิดใช้งานแล้วรู้สึกติดขัดบ้างเล็กน้อย แต่อยู่ในจุดที่ยอมรับได้
ทำจากวัสดุ | อะลูมิเนียม |
---|---|
ปริมาณการชงต่อครั้ง | 3 cups / 150 มล. |
ขนาด (ความสูง) | 12.5 ซม. |
รีวิว Bialetti หม้อต้มกาแฟ รุ่น Mini express ลาย Red emotion ขนาด 2 cups

ราคา 1,990 บาท*
หลายคนอาจไม่ค่อยคุ้นตากับหม้อต้มกาแฟในรูปทรงนี้ แต่มันก็ค่อนข้างใช้งานง่ายพอ ๆ กับแบบที่เป็นตัวหม้อเลยค่ะ ทั้งยังให้รสชาติที่ไม่ต่างกัน เนื่องจากเป็นของแบรนด์ดังอย่าง Bialetti มีเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้ผู้เขียนรู้สึกว่ามันน่าสนใจนั้นคือ คุณจะไม่ต้องเสียเวลาล้างทำความอุปกรณ์หลาย ๆ ชิ้น เนื่องจากรุ่นนี้สามารถใช้แก้วลองรับกาแฟตรงฐานได้เลยโดยไม่ต้องยกเทให้เสียเวลาและเลอะเทอะอีกต่อไป ทั้งยังมีขนาดเล็กมาก ๆ เหมาะจะพกพาไปไหนมาไหนที่สะดวกสุด ๆ แถมมาพร้อมกล่อง Gift Box ที่มีแก้วเอสเพรสโซแถมมาถึง 2 ใบในลายน่ารัก ๆ เข้ากับคอนเซ็ปท์คู่รักคอกาแฟมาก ๆ ค่ะ
- เป็น Limited Edition (Collection Valentine) จาก Bialetti ที่มีดีไซน์ทันสมัยไม่เหมือนใคร
- แน่นอนค่ะว่ามันทำจากอะลูมิเนียมที่แม้ว่าจะมีน้ำหนักเบา แต่ก็ใช้ได้เพียงกับเตาแก๊สและเตาไฟฟ้าเท่านั้น ไม่สามารถใช้กับเตาแม่เหล็กไฟฟ้าได้นะคะ
ทำจากวัสดุ | อะลูมิเนียม |
---|---|
ปริมาณการชงต่อครั้ง | 2 cups / 100 มล. |
ขนาด (กว้างxยาวxสูง) | 8 x 13 x 16 ซม. |
รีวิว หม้อต้มกาแฟแบบแรงดัน มอคค่าพอทสแตนเลส ขนาด 6 ถ้วยเล็ก

ราคา 169 บาท*
หม้อต้มกาแฟขนาดใหญ่ที่จุได้ถึง 300 มล. เหมาะสำหรับการตั้งแคมป์กับกลุ่มเพื่อนสนิทหรือครอบครัว ทำจากสแตนเลสที่แข็งแรงทนทานและสามารถใช้กับเตาประเภทไหนก็ได้รวมถึงเตาแม่เหล็กไฟฟ้าด้วยเช่นกัน แม้ว่ารุ่นนี้จะไม่เหมาะสำหรับพกพาสักเท่าไหร่ แต่ด้วยรูปทรงที่สวยงามทันสมัยและการออกแบบให้ใช้งานง่ายดาย ทำให้เราสามารถมองข้ามในเรื่องของขนาดไปได้ค่ะ อีกทั้งยังมีหูจับที่แข็งแรงใช้งานถนัดมือ ทำจากพลาสติก Bakelite ที่ทนความร้อนได้ดี
- สามารถใช้ได้กับเตาแก๊ส เตาไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า
- ฝาค่อนข้างบางและคม ตามรอยเชื่อมส่วนอื่น ๆ ก็คมเช่นกัน ต้องใช้ความระมัดระวังในการล้างทำความสะอาด แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงมากจึงเข้าใจได้ว่าคุณภาพตามราคา
ทำจากวัสดุ | สแตนเลส + เหล็ก |
---|---|
ปริมาณการชงต่อครั้ง | 6 cups / 300 มล. |
ขนาด (กว้างxยาวxสูง) | 7.2 x 9.8 x 20 ซม. |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ แนะนำ หม้อต้มกาแฟ Moka Pot ยี่ห้อไหนดี ปี 2021 | ||||
---|---|---|---|---|
รูปภาพ | ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ข้อมูลเพิ่มเติม | |
หม้อต้มกาแฟ Bialetti รุ่น Venus ขนาด 6 ถ้วย (เบียเล็ตติ้ วีนัส) |
| |||
มอคค่าพอท Bialetti รุ่น New Brikka 2020 ขนาด 2 ถ้วย (เบียเล็ตติ้ บริกก้า) |
| |||
Bialetti รุ่น หม้อต้มกาแฟ Moka pot รุ่น Moka Express (เบลเล็ตติ โมคาเอ็กซ์เพรส ) |
| |||
| ||||
Bialetti หม้อต้มกาแฟ รุ่น Mini express ลาย Red emotion ขนาด 2 cups |
| |||
|
ตอนนี้แบรนด์ใหญ่ในอุตสาหกรรมกาแฟอย่าง Bialetti ได้ย้ายฐานผลิตไปที่ประเทศจีนแล้วเพื่อลดต้นทุนด้านแรงงาน ทำให้บางครั้งหากคุณเลือกร้านที่ไม่ดีก็อาจจะได้สินค้าก็อปเกรด A มาแทน ดังนั้นโปรดอ่านรีวิวจากผู้ซื้อจริงในหน้าสินค้านั้น ๆ เพื่อใช้ในการประกอบการตัดสินใจของคุณ เนื่องจากบางร้านก็เป็นแค่ผู้นำ Bialetti เข้ามาขายไม่ได้เป็นร้านของทางแบรนด์จริง ๆ จึงควรอัปเดตรายละเอียดของสินค้าโดยการอ่านรีวิวจากผู้ใช้ด้วยนะคะ ทั้งนี้หากคุณยังไม่แน่ใจในการซื้อหม้อต้มกาแฟแบบ Moka Pot ว่าตัวไหนเป็นอย่างไรเด่นเรื่องอะไรบ้าง เรามีตารางสรุปอย่างคร่าว ๆ มาฝากกันค่ะ
ยี่ห้อ / รุ่น | ทำจากวัสดุ | เตาแก๊ส | เตาไฟฟ้า | เตาแม่เหล็ก | น้ำหนักเบา | ทนทาน |
|
อะลูมิเนียม | ![]() |
![]() |
![]() |
||
|
สแตนเลสสตีล | ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
|
อะลูมิเนียม | ![]() |
![]() |
![]() |
||
|
อะลูมิเนียม | ![]() |
![]() |
![]() |
||
|
สแตนเลส | ![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
|
|
อะลูมิเนียม | ![]() |
![]() |
![]() |
หากให้ตอบว่าหม้อต้มกาแฟตัวไหนดีที่สุด ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการลงทุนในระยะยาวหรือไม่? หากคำตอบของคุณคือต้องการลงทุนในระยะ เราแนะนำให้คุณเลือกใช้วัสดุที่ทำจากสแตนเลสสตีลอย่าง Bialetti รุ่น Venus เลยค่ะ แต่หากคุณต้องการลงทุนระยะยาวด้วยและต้องการเน้นพกพาไปไหนอย่างสะดวก คำตอบของเราคือ Bialetti รุ่น New Brikka 2020 และ Bialetti รุ่น Moka Express
ซึ่งหากจะดูรายละเอียดจริง ๆ ขอบอกว่า New Brikka 2020 ทำออกมาได้ดีกว่า เนื่องจากเป็นการปรับเปลี่ยนพัฒนาสินค้าจากรุ่นเดิม ๆ ให้ดีขึ้น แต่ราคาก็จะสูงขึ้นมาเช่นกัน ดังนั้นหากไม่ได้ซีเรียสเกี่ยวกับการต้องใช้รุ่นใหม่เสมอแต่เน้นราคาที่ประหยัดลงมา Moka Express ก็ดูจะเข้าท่ามากที่สุดค่ะ เพราะมันมีราคาที่ถูกกว่ามาก
แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น คุณจะต้องเข้าใจว่าการที่หม้อต้มกาแฟออกแบบมาให้เน้นใช้งานนอกสถานที่เป็นหลัก มันจะต้องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบาไว้ก่อน ซึ่งมันจึงจำเป็นต้องทำจากวัสดุอะลูมิเนียมที่มีน้ำหนักเบา แต่อะลูมิเนียมกลับมีความทนทานน้อยกว่าแบบสแตนเลสสตีลค่ะ ดังนั้นได้อย่างก็ต้องเสียอย่างนะคะ อยู่ที่ว่าคุณสะดวกแบบไหน
สำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับการเดินป่าหรือตั้งแคมป์ เรามีบทความรีวิวสินค้าไว้ให้คุณเลือก โดยคุณสามารถเข้าไปอ่านศึกษาวิธีการเลือกได้เลยค่ะ วิธีตั้งแคมป์สำหรับมือใหม่, วิธีเลือกเต็นท์ตั้งแคมป์ที่ดีที่สุด, เข็มทิศบอกทาง, โต๊ะพับได้ สำหรับกิจกรรมเอาท์ดอร์, เปลญวน เปลเดินป่า, ซื้อเก้าอี้สนามแบบไหนดี, ถุงนอนตั้งแคมป์, ซื้อเต็นท์นอน เต็นท์กันน้ำ แบบไหนดี