หลังจากที่เรากำลังเข้าสู่ในช่วงครึ่งแรกของปี 2023 กัน หลาย ๆ คนอาจจะอยากทราบว่าตอนนี้มีมือถือรุ่นไหน ? ยี่ห้อไหน? ที่น่าสนใจบ้าง ? บอกเลยว่าบทความในวันนี้เราได้รวบรวมมือถือทุกยี่ห้อมาให้คุณโดยเฉพาะ โดยเราจะแยกออกเป็นเดือน ๆ ซึ่งจะมีหลากหลายราคามากค่ะ เริ่มตั้งแต่มือถือราคาประหยัดไปจนถึงรุ่นเรือธงกันเลยทีเดียว ใครที่กำลังมองหามือถือใหม่ล่าสุดรับรองว่าคุณจะต้องถูกใจบทความของเราในวันนี้แน่นอนค่ะ
ตารางสรุปโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2023 (ครึ่งปีแรก)
มกราคม |
กุมภาพันธ์ |
มีนาคม |
เมษายน |
พฤษภาคม |
มิถุนายน |
โทรศัพท์มือถือออกใหม่ในเดือนพฤษภาคม 2023
พฤษภาคม : realme C53
![]() |
|
Realme C53 เป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่นำเสนอชุดฟีเจอร์ที่น่าประทับใจ มาพร้อมกับราคาที่เหมาะสม ด้วยการออกแบบที่โฉบเฉี่ยว โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่บางและน้ำหนักเบา สามารถใช้งานด้วยมือข้างเดียวได้อย่างสะดวกสบาย ๆ หน้าจอสีสันที่สดใส มอบภาพที่คมชัดและประสบการณ์การรับชมวิดีโอได้อย่างดี โดยรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Unisoc Tiger T612 ทำให้ Realme C53 ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ให้ผลลัพธ์ราบรื่นและไม่กระตุกสำหรับการใช้งานประจำวันทั่วไป ช่วยให้คุณสลับระหว่างแอปต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย รุ่นนี้ทำงานบน Android 13 ควบคู่ไปกับ Realme UI T ซึ่งมีอินเทอร์เฟซที่สะอาดตาและใช้งานง่ายมาก ๆ กล้องหลัก 50MP ที่น่าประทับใจ ให้ภาพความละเอียดและความคมชัดที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าคุณจะถ่ายภาพทิวทัศน์หรือถ่ายภาพระยะใกล้ กล้องจะทำงานได้ดีในสภาพแสงต่าง ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบเล่นแอปโซเชียลมีเดียและผู้ใช้มือถือทั่วไป หากคุณอยากได้สมาร์ทโฟนที่มีฟีเจอร์ครบครัน ราคาไม่แรงจนเกินไป Realme C53 เป็นอีกตัวเลือกที่คุณควรจะพิจารณาค่ะ
พฤษภาคม : OPPO A98 5G
![]() |
|
OPPO A98 5G สมาร์ทโฟนที่มาพร้อมกับการใช้งานในระบบ 5G สำหรับรุ่นนี้เรียกว่ามีราคากลาง ๆ ไม่ถูกเกินไป และก็ไม่ได้แพงมาก เป็นราคาที่จับต้องได้ สเปกที่ให้มาก็สมเหตุสมผลค่ะ มาพร้อมกับฟีเจอร์ดี ๆ อาทิเช่น จอแสดงผล FHD+ ขนาดใหญ่ อัตรารีเฟรช 120Hz นั้นยอดเยี่ยมสำหรับการดูวิดีโอและเล่นเกม โทรศัพท์มีความสว่างสูงสุด 950 nits ส่วนกล้องหลักเป็น AI 64MP ในส่วนของชิปเป็น Snapdragon 695 5G แม้ว่าจะไม่ใช่ชิปเซ็ตที่เร็วที่สุด แต่ก็ทำงานได้ลื่นไหล โทรศัพท์ระดับกลาง หากคุณแค่ใช้มือถือสำหรับเล่นแอปโซเชียลมีเดียและถ่ายรูป เราคิดว่า A98 จะไม่ทำให้คุณผิดหวังแน่นอนค่ะ
พฤษภาคม : Xiaomi Redmi A2+
![]() |
|
Xiaomi Redmi A2+ เป็นสมาร์ทโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่มีราคาไม่แพงเลยค่ะ เรียกว่าเป็นมิตรกับกระเป๋าสตางค์มาก ๆ ส่วนสเปกที่ทางแบรนด์ให้มานั้นก็เหมาะสมราคาดีค่ะ คุณภาพของกล้องและวิดีโอไม่ได้สักทีเดียวแม้ว่ามันจะความคมชัดที่ต่ำมากก็ตาม สิ่งเราชอบคือทางแบรนด์ยังคงใส่ช่องเสียบหูฟังแจ็ค 3.5 มาให้เช่นเดิม พร้อมกับพอร์ตชาร์จแบบใหม่ USB-C เหมาะสำหรับคนที่กำลังพิจารณาโทรศัพท์ราคาประหยัด โดยรุ่นนี้จะทำงานบนระบบปฏิบัติการ Android 12 (Go Edition) และ MIUI ทำให้การทำงานของโทรศัพท์ราบรื่น ไม่หนักเกินไป รองรับการใช้งานซิมคู่ด้วยนะคะ
พฤษภาคม : Nokia C32
![]() |
|
จริง ๆ แล้ว Nokia C32 เปิดตัวมาได้สักระยะแล้วค่ะ แต่เนื่องจากเพิ่งมาเปิดตัวอย่างเป็นทางการในไทยในเดือนนี้ ดังนั้นเราจึงนำ Nokia C32 มาใส่ในเดือนพฤษภาคมด้วยซะเลย 🙂 สำหรับรุ่นนี้เป็นสมาร์ทโฟนสเปกเริ่มต้นมีราคาไม่แพงมาก ขนาดของแรมและรอมไม่ได้เยอะ และชิปที่ใช้เป็น Unisoc SC9863A (ชื่อเดิมคือ Spreadtrum) ซึ่งจะมอบประสิทธิภาพการทำงานแบบโทรศัพท์เริ่มต้นทั่วไป แต่ทว่าสิ่งน่าสนใจในรุ่นนี้คือกล้องหลัก 50MP และกล้อง Dual 2MP สำหรับกล้องเซลฟี่นั้นเป็น 8MP ซึ่งถือว่าสเปกกล้องค่อนข้างดีเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับราคาค่ะ หากคุณกำลังมองหาโทรศัพท์ที่เรียบง่ายสำหรับการโทร ใช้งานโซเชียลมีเดีย และใช้ฟังก์ชันพื้นฐานในชีวิตประจำวันอื่น ๆ คุณควรพิจารณา Nokia C32 เนื่องจากเป็นโทรศัพท์ระดับเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
โทรศัพท์มือถือออกใหม่ในเดือนเมษายน 2023
เมษายน : realme C53
![]() |
|
Redmi Note 12 Pro+ เป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดใน Redmi Note 12 ทั้ง 4 รุ่นที่ออกมา มาพร้อมกับกล้อง 200MP, การชาร์จเร็ว 120W และคุณสมบัติ Dolby รอบด้าน แน่นอนว่ากล้องนั้นทาง Redmi ทำให้เราได้ทึ่งเป็นรอบที่สอง เพราะมันสามารถมอบคุณภาพของภาพถ่ายและวิดีโอในระดับที่ไม่มีใครเทียบได้ ในส่วนสเปกกล้องอัลตร้าไวด์ 8MP, มาโคร 2MP และกล้องเซลฟี่ 16MP ก็ยังคงเหมือนกับรุ่นเก่า นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังใช้จอ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมการรีเฟรช 120Hz และ Dolby Vision ลำโพง Dolby Atmos หนึ่งคู่เพื่อช่วยให้คุณรับชมคอนเทนต์ได้อย่างเต็มที่อีกด้วย
เมษายน : Redmi Note 12 Pro 5G
![]() |
|
Redmi Note 12 Pro 5G มีความสามารถในการถ่ายภาพที่น่าประทับใจมากค่ะ โดยรุ่นนี้จะมาพร้อมกับกล้องหลัก Sony IMX766 50MP และ OIS หรือระบบป้องกันภาพสั่นมาให้ด้วย นอกจากนี้ทางแบรนด์ Xiaomi ก็ยังอ้างว่ากล้องของ Redmi Note 12 Pro รุ่นนี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็นหนึ่งในกล้องที่ดีที่สุดในแง่ของสมาร์ทโฟนที่ให้เฉดสีภาพที่สวยงาม มาพร้อมจอแสดงผล FHD+ OLED ขนาด 6.67 นิ้ว ความละเอียด 2400 X 1080 พิกเซล อัตราส่วนภาพ 20:9 อัตราการรีเฟรช 120Hz อัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz, Dolby Vision, HDR10+ และความสว่างสูงสุด 900nits โทรศัพท์ใช้พลังงานจากชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1080 SoC บน MIUI 13 ที่ใช้ Android 12 อีกที โดยมีคุณสมบัติการเชื่อมต่อ 5G, 4G LTE, Wi-Fi 6, Bluetooth 5.0, NFC, GPS มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอที่ยอดเยี่ยม บรรจุแบตเตอรี่ 5000mAh พร้อมรองรับการชาร์จเร็ว 67W อีกด้วยนะคะ
เมษายน : Redmi Note 12 5G
![]() |
|
หากไม่อ่านชื่อรุ่นดี ๆ คุณจะเห็นว่า Redmi Note 12 4G และ Redmi Note 12 5G มีดีไซน์ที่คล้ายกันมาก สมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นใช้กรอบพลาสติกเหมือนกัน ส่วนด้านหลังเป็นโพลีคาร์บอเนต สำหรับด้านหน้าจะใช้เป็นกระจก Corning Gorilla Glass 3 สำหรับป้องกันการกระแทก อย่างไรก็ตาม ความแตกต่างระหว่างทั้ง 2 อยู่ที่ด้านหลังค่ะ เพราะ Note 12 4G มีด้านหลังที่แบนราบ ในขณะที่รุ่น 5G มีด้านหลังที่โค้งเล็กน้อย ซึ่งช่วยเพิ่มการยึดเกาะได้ดีกว่า ไม่หลุดมือง่าย ๆ นอกจากนี้หน้าจอของรุ่น 5G ก็ยังมีสีสันที่สดใสและแม่นยํามากกว่า มาพร้อมกับความสว่างสูงสุด 1,000 nits ถือว่าเป็นจอภาพคุณภาพสูงเลยทีเดียวค่ะ ใช้ส่วนของชิปประมวลผลนั้น รุ่น 5G จะใชชิปเซ็ตที่ดีกว่า ซึ่งก็คือ Qualcomm Snapdragon 4 Gen 1 SoC ดังนั้นในแง่ประสิทธิภาพการทำงานรุ่น 5G จึงรวดเร็วกว่ารุ่น 4G ค่ะ
เมษายน : Redmi Note 12 4G
![]() |
|
สำหรับรุ่นนี้ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นรุ่นที่รองรับได้แค่ 4G เท่านั้น ดังนั้นใครที่ต้องการให้การรับส่งข้อมูลในอินเทอร์เน็ตให้เป็นไปอย่างรวดเร็วด้วยการใช้สัญญาณ 5G เราไม่แนะนำรุ่นนี้นะคะ เพราะว่ามันใช้เครือข่าย 5G ไม่ได้ค่ะ ในส่วนของสเปกอื่น ๆ ถือว่า Redmi Note 12 4G ทำออกมาได้ดี เป็นสมาร์ทโฟนที่มีราคาย่อมเยา หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว ในความละเอียด Full HD+ และอัตราการรีเฟรช 120Hz มาพร้อมกับกล้อง 3 ตัวด้านหลัง ซึ่งประกอบด้วยกล้องหลัก 50MP กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และเลนส์มาโคร 2MP สำหรับการถ่ายภาพเซลฟี่และการสนทนาทางวิดีโอใช้กล้องหน้า 13MP ค่ะ
เมษายน : Infinix Hot 30
![]() |
|
Infinix Hot 30 มีจอแสดงผลขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว อัตราการรีเฟรช 90Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 270Hz สามารถรองรับสีที่หลากหลาย DCI-P3 96% และ WideVine L1 สำหรับการสตรีมแบบ FHD+ ทำให้ภาพหน้าจอมีความสว่างสดใสคมชัด ให้การสัมผัสลื่นไหล มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอที่ยอดเยี่ยม ทำให้คุณเพลิดเพลินกับการรับชมภาพยนตร์หรือซีรีส์ใน Netflix ได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ได้อัปเกรดโปรเซสเซอร์เป็นชิปเซ็ต Helio G88 ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่า Helio G85 ในรุ่นก่อนมาก ๆ สำหรับ RAM ก็ได้รับการอัปเกรดเป็น 8GB อีกด้วย โดยรวมแล้ว Infinix Hot 30 จะให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่รวดเร็ว เหมาะสำหรับงานประจำวันและการเล่นเกมแบบเบา ๆ ตัวเครื่องมาพร้อมกับแบตเตอรี่ 5000mAh ซึ่งรองรับการชาร์จเร็ว Type-C 33W สามารถใช้งานหนักได้ตลอดทั้งวัน
เมษายน : iQOO Z7 5G
![]() |
|
iQOO ไม่ใช่แบรนด์ที่จะเปิดตัวโทรศัพท์จำนวนมากในแต่ละปี แต่โดยทั่วไปแล้ว รุ่นที่ทาง iQOO ปล่อยออกมาแต่ละครั้งนั้นค่อนข้างน่าประทับใจมากเลยทีเดียว หลายคนอาจไม่ทราบว่า iQOO ก็คือแบรนด์ในเครือของ vivo ดังนั้นเรื่องคุณภาพจึงไม่ต้องเป็นกังวลเลยค่ะ สำหรับรุ่นนี้ทางแบรนด์ได้นำเสนอจอแสดงผล AMOLED ที่สวยงาม มาพร้อมอัตราการรีเฟรช 90Hz ที่ยอมรับได้ และความละเอียด FHD+ ถือว่าเหมาะสำหรับการชมภาพยนตร์หรือรายการทีวีมาก ๆ ค่ะ นอกจากนี้ก็ยังรับรอง Widevine L1 หมายความว่าคุณจะสามารถสตรีมเนื้อหาในรูปแบบ HD จากบริการอย่าง Netflix ได้ ในส่วนของกล้องหลัก 64MP มาพร้อม OIS ระบบกันสั่นที่รองรับการถ่ายภาพจำนวนมาก ส่วนกล้องหน้ามีเซ็นเซอร์ 16MP ที่มาพร้อมกับโหมดถ่ายภาพที่หลากหลาย ขุมพลังของ iQOO Z7 5G คือชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 920 ซึ่งเป็นชิปเซ็ตที่เร็วในระดับหนึ่ง ทำงานได้ดี อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ให้ความรู้สึกค่อนข้างราบรื่นเมื่อใช้งานค่ะ
เมษายน : iQOO Z7x
![]() |
|
iQOO Z7x โทรศัพท์ขนาดกลาง ที่มาพร้อมกับหน้าจอ FHD+ IPS LCD ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด 2388×1080 พิกเซล โดยมีอัตราการรีเฟรช 120Hz และอัตราการสุ่มตัวอย่างแบบสัมผัส 240Hz ตัวเครื่องทำงานบนระบบ Android 13 เวอร์ชันล่าสุด สามารถเชื่อมต่อกับ 5G, Dual 4G VoLTE, Wi-Fi 802.11 ac, Bluetooth 5.1, GPS และใช้พอร์ต USB Type-C มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มาก ๆ ถึง 6000mAh พร้อมการชาร์จเร็วอีก 80W สำหรับงานกล้องนั้น มีกล้องหลัก 50MP พร้อมแฟลช LED และเซ็นเซอร์ความลึก 2MP สำหรับคนที่รักการเซลฟี่ กล้องหน้าความละเอียด 8MP ถือว่าเพียงพอสำหรับการการถ่ายและวิดีโอแชทแล้วค่ะ
เมษายน : Huawei P60 Pro
![]() |
|
Huawei P60 Pro เป็นส่วนหนึ่งของซีรีส์สมาร์ทโฟนเรือธงที่เน้นการถ่ายภาพเป็นหลัก โดยทางแบรนด์ได้ต่อยอดจากรุ่น P50 Pro และ Mate 50 Pro ให้มีจอแสดงผล เซ็นเซอร์กล้อง และการเชื่อมต่อให้ดีมากยิ่งขึ้น โดยหน้าจอที่ใช้เป็น LTPO OLED ขนาดใหญ่ที่มีความละเอียดสูง อัตราการรีเฟรช 120Hz ให้ภาพสวยคมชัด ในส่วนของชิปเซ็ตยังคงเหมือนกับใน Mate 50 Pro ซึ่งก็คือ Snapdragon 8+ Gen 1 แม้ว่าตอนนี้จะมีรุ่นใหม่ออกมาแล้ว แต่ชิปตัวนี้ก็ถือว่าเร็วและมีประสิทธิภาพที่มากพอ นับว่าเป็นแพลตฟอร์มชิปที่ดีที่สุดอันดับ 2 ในตลาด
ส่วนที่เป็นไฮไลท์ของ Huawei P60 Pro คือการมีกล้อง 3 ตัวที่ด้านหลัง ได้แก่ กล้องหลัก 48MP พร้อมรูรับแสงแบบปรับได้และเลนส์ที่เสถียร, เทเลโฟโต้ 48MP พร้อมออปติคัลซูม 3.5x และตัวเลือกเทเลมาโคร และเลนส์มุมกว้างพิเศษ 13MP พร้อมโฟกัสอัตโนมัติ สำหรับกล้องหน้ายังคงเหมือนกับกล้องในโทรศัพท์ Huawei ระดับไฮเอนด์รุ่นล่าสุด นั่นคือกล้องถ่ายภาพ 13MP พร้อมเลนส์มุมกว้าง 18 มม. มาพร้อมกับแบตเตอรี่ 4,815mAh ที่สามารถชาร์จเร็วแบบมีสาย 88W และไร้สาย 50W อย่างไรก็สิ่งหนึ่งที่คุณควรทราบคือมันทำงานบน EMUI 13.1 ซึ่งมีแกนหลักเป็น Android 12 แต่จะไม่มีบริการ Google Mobile Services ค่ะ
ในส่วนของยี่ห้ออื่นหรือรุ่นอื่น ๆ ที่จริงแล้วมีการเปิดตัวในช่วงเดือนเมษายน 2023 ไปหลายตัวเลยค่ะ แต่จะเป็นการเปิดตัวที่ต่างประเทศเท่านั้น ดังนั้นหากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่ม ทางเว็บไซต์ของเราก็มีลิสต์รายชื่อมาฝากกันด้วยนะคะ
- Samsung Galaxy M54
- Samsung Galaxy F14
- OPPO Find X6 Pro
- OPPO Find X6
- vivo iQOO Z7i
- Huawei P60 Art
- Huawei Mate X3
- Huawei P60
- Nokia C12 Pro
โทรศัพท์มือถือออกใหม่ในเดือนมีนาคม 2023
มีนาคม : realme C55
![]() |
|
realme C55 เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่เป็นกระแสมากที่สุด ณ ตอนนี้ เนื่องจากเป็นมือถือราคากลาง ๆ ที่ให้สเปกในราคาหลักหมื่น ตัวบอดี้มาในสี Sunshower ให้ภาพลักษณ์ที่ดูสวยมาก ๆ มีการเคลือบผิว Dual-coating ที่เล่นแสงสะท้อนได้อย่างสวยงาม

มาพร้อมกับหน้าจอ IPS LCD ขนาด 6.72 นิ้ว ที่มีความละเอียด FHD+ ในอัตราส่วน 20:9 และอัตรารีเฟรชที่ 90Hz ให้ภาพดูคมชัดสมจริง กล้องหลังเป็นเลนส์ AI ที่ใช้เซ็นเซอร์เลนส์หลัก 64MP พร้อม PDAF และเลนส์ Depth & Macro 2MP มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ล้ำสมัย ทำให้การประมวลผลภาพมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมีฟีเจอร์การถ่ายภาพอีกครบครัน

มีการใช้ชิป MediaTek Helio G88 ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการถ่ายรูปขั้นสูง ตัวชิปเซตทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถเปิดหลายแอปพร้อมกันได้ ทำงานบน realme UI 4.0 ที่มาพร้อมกับ Android 13 เวอร์ชันใหม่ ช่วนให้คุณใช้งานได้ยาว ๆ ได้อีกหลายปีเลยค่ะ อ่านรีวิวทดลองใช้งานจริงฉบับเต็มได้ที่ รีวิว realme C55 ซื้อดีไหม? ราคาถูก จอใหญ่ กล้อง AI 64MP
มีนาคม : Samsung Galaxy A34 5G
![]() |
|
Samsung Galaxy A34 5G เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ และก็ได้กลายเป็นโทรศัพท์ตัวเลือกยอดนิยมในหมู่ลูกค้าอย่างรวดเร็ว เนื่องจากสเปคที่น่าทึ่งและราคาที่น่าสนใจ โดยรุ่นนี้จะมอบความคุ้มค่าให้กับคุณด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 1080 ขนาด 6 นาโนเมตร และ SoC ที่ล้ำสมัย สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว มาพร้อมกับฟังก์ชันที่ช่วยประหยัดแบตเตอรี่มากกว่าเดิม อีกทั้งยังช่วยให้คุณบันทึกหรือสตรีมวิดีโอ 4K HDR ได้ในทุกสภาพแสง เพราะมีการใช้เทคโนโลยีใหม่มาช่วยลดนอยส์ทำให้คุณเล็งและถ่ายภาพได้อย่างง่ายดายมากขึ้น แถมชิปตัวนี้ยังมีหน่วยประมวลผล AI แบบมัลติคอร์ที่จะช่วยให้ลูกเล่นของกล้องมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าเดิม โดยรวมถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนตัวเลือกที่เหมาะสำหรับสาย Video Blog (Vlog) และผู้ที่ชอบสตรีมเซลฟี่ ในส่วนของจอแสดงผลเป็น Super AMOLED 120Hz ที่สวยงาม มาพร้อมความละเอียด FHD+ สามารถให้ภาพที่คมชัดและคอนทราสต์ที่สูง
มีนาคม : Samsung Galaxy A54 5G
![]() |
|
Samsung Galaxy A54 เป็นหนึ่งของกลุ่มผลิตภัณฑ์ Galaxy A ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยรุ่นนี้จะมีราคากลาง ๆ ไม่แพงและไม่ถูกเกินไป แต่กลับให้ความรู้สึกสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม มีความสามารถด้านกล้องถ่ายรูปที่ดีและจอแสดงผลที่ให้สีสันสดใส เพราะเป็นหน้าจอแบบ Super AMOLED ขนาด 6.4 นิ้ว โดยมีความละเอียด FHD+ และอัตราการรีเฟรช 120Hz และยังมีความสว่างสูงสุด 1,000 nits อีกด้วย เหมาะสำหรับการชมโซเชียลมีเดียหรือดูคลิปใน YouTube ส่วนของงานกล้องหลักนั้นต้องขอชม Samsung สักหน่อยเพราะทางแบรนด์ใช้เซ็นเซอร์ 50MP ทำให้ภาพถูกบันทึกด้วยรายละเอียดที่ชัดเจน และยังมีช่วงไดนามิกมากมายให้เล่นอีกด้วย มาพร้อมกับฟังก์ชันโฟกัสอัตโนมัติที่รวดเร็วและระบบกันสั่นที่ช่วยให้ได้ภาพเสถียรมากขึ้น
มีนาคม : Samsung Galaxy A14 5G
![]() |
|
Samsung Galaxy A14 5G สมาร์ทโฟนระดับกลาง ราคาไม่แพง เหมาะใช้งานทั่วไป มาพร้อมกับหน้าจอ Full HD+ ที่ให้ความสว่างและความคมชัดในระดับที่คุณสามารถรับชมหนังซีรีส์ เล่นเกมออนไลน์ หรือท่องเว็บต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่ มีโมดูลกล้องมาให้ 3 ตัว คือกล้องหลัก, เลนส์ Macro และเลนส์ Depth แม้ว่าเลนส์ Macro และ Depth อาจจะดูไม่ค่อยหวือหวา แต่ก็เป็นสเปกที่สูงพอสมควรในราคาที่ถูกเช่นนี้ ส่วนกล้องหน้ามีความละเอียดที่สูงถึง 13MP มาพร้อมกับรูรับแสงขนาด ƒ/2.0 ซึ่งจะช่วยให้คุณถ่ายรูปเซฟฟี่ได้ในทุก ๆ สภาพแสง โดยรวมแล้วใครก็ตามที่กำลังมองหาสมาร์ทโฟนที่รองรับ 5G เน้นประสิทธิภาพคุ้มค่าคุ้มราคา มาพร้อมด้วยความสามารถของกล้องที่ดี และอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ยาวนาน Galaxy A14 5G เป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากค่ะ
มีนาคม : OPPO Find N2 Flip
![]() |
|
OPPO Find N2 Flip เป็นมือถือพับได้ เมื่อคุณพับหน้าจอลงมันจะมีขนาดเหลือเพียง 3.26 นิ้วเท่านั้น เหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบพกกระเป๋าใบเล็ก ๆ โดยทาง OPPO ได้มีการปรับรูปลักษณ์ของ Find N2 Flip ให้บางมากขึ้น มาพร้อมกับตัวเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือด้านข้างและกล้องคู่ที่สวยงาม หน้าจอแสดงผลขนาดเล็กด้านนอกช่วยให้คุณมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในส่วนของจอหลักนั้นเป็นแบบ FHD 120Hz OLED ที่ให้แสงสว่างสูงสุดถึง 1,600 nits สำหรับไฮไลท์ที่ต้องขอชมทาง OPPO ในรุ่นนี้คือรอยพับตรงกลางจอทำออกมาได้ดีมาก มีความตื้นมากขึ้นกว่าเดิม มาพร้อมกับเทคโนโลยี “Flexion Hinge” ที่ช่วยให้โทรศัพท์เปิดและปิดได้อย่างราบรื่น อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญคือ Find N2 Flip มีการใช้ชิป MediaTek Dimensity 9000+ SoC ชิปเซตตัวนี้มีประสิทธิภาพมากพอสำหรับการใช้งานทั่วไปจนถึงระดับกลาง ๆ มาพร้อมกับ ColorOS 13.0 ที่ใช้ Android 13 เป็นระบบปฏิบัติการเวอร์ชันล่าสุดของ Google อีกด้วยนะคะ
มีนาคม : vivo V27
![]() |
|
Vivo V27e สมาร์ทโฟนน้องเล็กจาก Vivo V27 Serie ที่มีกล้องสวยระดับโปร มาพร้อมไฟวงแหวน Aura Light แถมสเปกของเครื่องก็ถือว่าโดดเด่นใช้ได้เลยค่ะ ดีไซน์การออกแบบที่ดูหรูหราสวยงามมาก ๆ โดยเฉพาะกับสี Lavender Purple นี่จะต้องเป็นสีโปรดของใครหลาย ๆ คนอย่างแน่นอน หน้าจอเป็น AMOLED ขนาด 6.62 นิ้ว FHD+ และมีอัตรารีเฟรชเรท 120Hz ช่วยให้ภาพที่คมชัด ดูสมูทขึ้น ตัวชิปเซตใช้ Helio G99 ที่มีประสิทธิภาพระดับกลาง แต่เมื่อทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ของ Vivo แล้วทำให้มันทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับ RAM สูงสุด 12GB , ROM 256GB และยังทำงานบน Funtouch OS 13 ร่วมกับ Android 13 ตัวล่าสุด ช่วยให้รองรับการอัปเดทได้อีกหลายปี ทำงานได้อย่างลื่นไหล สำหรับการถ่ายภาพรุ่นนี้จะเน้นไปที่กล้องหน้า 50MP มาพร้อมสกินโทนช่วยให้ภาพดูน่าประทับใจมากขึ้น ในส่วนกล้องหลังใช้ไฟวงแหวน Aura Light ทำให้คุณสามารถถ่ายภาพในพื้นที่ที่มีแสงน้อยได้ง่ายขึ้นค่ะ
มีนาคม : Infinix Smart 7
![]() |
|
Infinix Smart 7 มาพร้อมจอแสดงผล HD+ ขนาด 6.6 นิ้ว และรอยบากทรงหยดน้ำสำหรับติดตั้งกล้องเซลฟี่ ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ 1600 x 720 พิกเซล โดยจะมีความสว่างสูงสุด 500 nits และอัตราส่วนคอนทราสต์ 1500:1 ในส่วนของโปรเซสเซอร์นั้น ทางแบรนด์ใช้เป็น Unisoc SC9863A1 ที่จับคู่กับ IMG8322 GPU สำหรับกราฟิก มาพร้อมกับ RAM 4GB LPDDR4x และ ROM อีก 64GB ที่สามารถขยายได้สูงสุด 2TB แน่นอนค่ะว่า Infinix Smart 7 ทำงาน Android 12 ที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์ XOS 12 แม้ว่าจะไม่ใช่ OS ตัวใหม่ล่าสุด แต่ในด้านคุณสมบัติการเชื่อมต่อก็รองรับ 4G LTE, dual-band Wi-Fi ac, Bluetooth 5.0, GPS และแจ็คเสียง 3.5 มม. โดยมีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือด้านหลังเครื่องสำหรับระบบรักษาความปลอดภัย มาพร้อมกล้องหลัก 13MP พร้อมรูรับแสง f/2.0 และเลนส์ AI ในส่วนของกล้องหน้ามีความคมชัด 5MP บรรจุแบตเตอรี่ขนาด 5000mAh สามารถใช้งานได้ตลอดทั้งวัน เป็นสมาร์ทโฟนราคาประหยัดที่คุณภาพโดยรวมไม่ได้แย่เลยสักนิดค่ะ รองรับว่าใช้งานขั้นพื้นฐานได้อย่างสบาย ๆ
มีนาคม : Redmi 12C
![]() |
|
Redmi 12C จัดว่าเป็นโทรศัพท์ราคาประหยัดที่เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันมาก ๆ มาพร้อมกับความสามารถในการถ่ายภาพที่ดี ให้เฉดสีที่สดใส เก็บรายละเอียดความคมชัดด้วยกล้องหลัก 50MP และกล้อง Depth สำหรับถ่ายรูปหน้าชัดหลังเบลออีก 0.08MP ภาพที่ได้ออกมาค่อนข้างโอเค ไม่ได้ดูหลอกตาเกินไป การแสดงเฉดสีและคอนทราสต์ถือว่าดี ยิ่งถ่ายรูปในที่มีแสงที่เหมาะสม ก็ยิ่งเก็บรายละเอียดได้มากยิ่งขึ้น ในส่วนของหน้าจอแสดงผลเป็นจอ HD+ ขนาด 6.71 นิ้ว ชิปเซ็ตที่ใช้เป็น Helio G85 ซึ่งจัดเป็นชิปที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมระดับพื้นฐานในสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่แพง ถือว่าสเปกเครื่องโดยรวมค่อยข้างน่าสนใจมากเลยทีเดียวค่ะ
มีนาคม : realme C33 (2023)
![]() |
|
สำหรับ realme C33 รุ่นนี้เคยเปิดตัวไปแล้วเมื่อเดือนตุลาคมในปี 2022 แต่เนื่องจากทางแบรนด์มีการอัปเกรดคุณสมบัติบางอย่าง จึงทำให้มีการแยกรุ่นเป็น realme C33 ปี 2023 ออกมาด้วย อย่างไรก็ตาม หากถามว่าทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างไร ? คำตอบคือโดยส่วนใหญ่แล้วสเปกแทบจะคล้ายกันมาก แต่รุ่นใหม่นี้จะมีหลายสีให้เลือกอย่างสี Sandy Gold, Aqua Blue และ Night Sea ในส่วนของฮาร์ดแวร์ก็ได้มีการอัปเกรด RAM จาก 3GB เป็น 4GB แทน ช่วยให้ตัวเครื่องทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างราบรื่นมากกว่าเดิม มาพร้อมกับการเพิ่มขนาด ROM จาก 64GB เป็น 128GB และสามารถขยายการ์ด microSD ได้สูงสุด 1TB ในส่วนของ UI ก็ใช้เป็นเวอร์ชันใหม่ Realme UI S Edition ที่ช่วยให้คุณใช้งานระบบได้สะดวกสบายและง่ายดายขึ้น จัดว่าเป็นมือถือ realme ที่มีราคาไม่แพงมากนัก
มีนาคม : realme 10T 5G
![]() |
|
Realme 10T 5G สมาร์ทโฟนระดับกลางจากแบรนด์ Realme ใช้โปรเซสเซอร์ MediaTek Dimensity 810 ที่จับคู่กับ LPDDR4X RAM สูงสุด 8GB ใช้งานร่วมกับ ROM UFS 2.2 ในขนาด 256GB มาพร้อมกับความจุแบตเตอรี่ 5000mAh ที่รองรับการชาร์จเร็ว 18W ผ่านพอร์ตชาร์จ USB Type-C ในส่วนของหน้าจอแสดงผลใช้ FHD+ IPS LCD ในขนาด 6.6 นิ้ว มาพร้อมอัตราการรีเฟรช 90Hz แม้ว่าหน้าจออาจจะไม่ค่อยสู้แสงมากนักเพราะว่าความสว่างสูงสุด 400 nits แต่สำหรับงานกล้องเซลฟี่นั้นกลับคมชัดถึง 16MP ในส่วนของกล้องหลัง ทางแบรนด์ใช้เป็นกล้องหลัง AI เป็นจำนวน 3 เลนส์ คือเลนส์หลัก 50MP, Portrait 2MP และ Macro อีก 2MP นอกจากนี้ Realme 10T 5G ก็ยังมีคุณสมบัติเด่นอื่น ๆ ที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น การสามารถใส่ซิมคู่, เชื่อมต่อด้วยระบบ 5G, ใช้ Bluetooth 5.1, WiFi 6, แจ็คเสียง 3.5, ช่องเสียบการ์ด microSD และที่สแกนลายนิ้วมือด้านข้างได้ด้วยค่ะ
ในส่วนของยี่ห้ออื่นหรือรุ่นอื่น ๆ ที่เปิดตัวในช่วงเดือนมีนาคม 2023 ก็ยังมีหลายเครื่องเลยค่ะ แต่จะเป็นการเปิดตัวที่ต่างประเทศเท่านั้นตามลิสต์รายชื่อดังนี้นะคะ
|
|
โทรศัพท์มือถือออกใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2023
กุมภาพันธ์ : Samsung Galaxy S23 Ultra
![]() |
|

Samsung Galaxy S23 Ultra เป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนฝั่ง Android ระดับพรีเมียมที่คุณสามารถซื้อได้ในขณะนี้ บอกเลยว่าทาง Samsung ได้ทำบาร์ไว้สูงมากเลยทีเดียวค่ะ เรียกว่าโดดเด่นสร้างเรื่องของจริง เพราะไฮไลท์ของเขาคือกล้องหลักเลนส์ 200MP ใช่ค่ะ!! คุณอ่านไม่ผิด!! มันมีความละเอียดสูงถึง “สองร้อยล้านพิกเซล” มาพร้อมกับความสามารถในการซูมที่คมชัดสุด ๆ (สามารถซูมได้ 100x) แม้ว่าเราจะถ่ายรูปจากระยะไกลก็ยังคงเก็บรายละเอียดได้อย่างดี อีกหนึ่งสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือปากกา S-Pen ที่จะช่วยให้คุณใช้งานได้สะดวกมากขึ้น


Samsung Galaxy S23 Ultra ใช้โปรเซสเซอร์ Qualcomm Snapdragon 8 Gen 2 ที่เร็วที่สุดในโลกสำหรับ Samsung รุ่น Galaxy มาพร้อมกับจอแสดงผล Dynamic AMOLED ที่มีอัตราการรีเฟรชแบบปรับได้ตั้งแต่ 1-120Hz ความละเอียด 1,440 x 3,088 พิกเซล รองรับ HDR10+ และให้ระดับความสว่างสูงสุดถึง 1,750 nits ถือว่าเป็นจอแสดงผลที่สวยงาม ล้ำสมัย และให้สีสันสดใสมาก ๆ โดยรวมแล้วหากคุณต้องการโทรศัพท์ที่มีกล้องถ่ายรูปที่ดีที่สุด Samsung Galaxy S23 Ultra เป็นตัวที่เหมาะสมกับคุณมากค่ะ (สามารถอ่านบทความ เปรียบเทียบ Samsung Galaxy S23 Ultra กับ iPhone 14 Pro Max)
กุมภาพันธ์ : Samsung Galaxy S23+
![]() |
|
Samsung Galaxy S23+ รุ่นนี้มีจอแสดงผลสีสันสดใส แถมยังใช้ชิปประมวลที่มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับแนวหน้าอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 ทำให้ความเร็วแทบไม่ต่างกันกับรุ่นพี่ S23 Ultra เลยสักนิด มาพร้อมกับอายุแบตเตอรี่ที่ยาวนาน ทำงานได้ดีในพื้นที่ 4G และ 5G อีกทั้งยังมีราคาไม่แพงมากเกินไปด้วยนะคะ แม้ว่าคุณภาพของเลนส์กล้องจะสู้ S23 Ultra ไม่ได้ แต่ S23+ ก็จัดว่าเป็นมือถือที่มีกล้องถ่ายรูปสวยในระดับโปร โดยรวมแล้วหากคุณต้องการโทรศัพท์ที่มีการรับสัญญาณเซลลูลาร์ (Cellular) ที่ดี มีกล้องสวย มีสเปกโดยรวมที่ได้มาตรฐาน Galaxy S23+ จะเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับคุณที่สุดค่ะ
กุมภาพันธ์ : Samsung Galaxy S23
![]() |
|
Samsung Galaxy S23 เป็นโทรศัพท์ขนาดกะทัดรัดที่มีสเปกและประสิทธิภาพในระดับไฮเอนด์ ใช้ชิป Snapdragon 8 Gen 2 เหมือนรุ่นพี่ที่ออกมาพร้อมกัน หากคุณกำลังมองหามือถือ Android ขนาดเล็ก มีความเสถียรภาพสูง และจัดอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับพรีเมียม เราขอนำเสนอ Galaxy S23 ที่สามารถถ่ายภาพและบันทึกวิดีโอด้วยมือข้างเดียวได้อย่างสะดวกสบาย หน้าจอเป็นแบบ Dynamic AMOLED 2X, 120 Hz, 1,750 nits โดยคุณภาพของกล้องจะมีสเปกเดียวกับ S23+ เลยค่ะ แต่เป็นรุ่นที่มีราคาถูกกว่า
กุมภาพันธ์ : Xiaomi 13 Pro
![]() |
|
Xiaomi 13 Pro มาพร้อมกล้องหลังระดับโปรถึง 3 ตัว คือ 50MP ทั้งหมด โดยเป็นเลนส์ของแบรนด์ Leica รุ่นนี้ได้ใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Gen 2 เวอร์ชันล่าสุดที่ดีที่สุด จับคู่กับ GPU Adreno 740 สำหรับงานด้านกราฟิก รวมถึงยังได้ใช้ RAM ที่สูงถึง 12GB ร่วมกับ ROM พื้นที่เก็บข้อมูล 512GB (แต่ไม่สามารถขยายเพิ่มเติมได้) ส่วน UI จะเป็นรุ่น MIUI 14 ที่ใช้ Android 13 มาช่วยดูแลด้านซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีหน้าจอ AMOLED 1.07 พันล้านสี ในขนาด 6.73 นิ้ว ความละเอียด 1440 x 3200 พิกเซล พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz, HDR10+ และความสว่างสูงสุดอีก 1,900 nits จุดเด่นของ Xiaomi 13-Series คือการร่วมมือกันกับแบรนด์ Leica ที่มีเซ็นเซอร์หลัก Sony IMX800 50MP เลนส์เทเลโฟโต้ 50MP และเซ็นเซอร์อัลตร้าไวด์อีก 50MP ส่วนกล้องด้านหน้าจะเป็น 32MP สำหรับใช้ถ่ายรูปเซลฟี่ ส่วนอีกหนึ่งจุดไฮไลท์ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยเช่นกัน ก็คือการรองรับชาร์จไวที่มากถึง 120W และรองรับชาร์จไร้สาย 50W อีกด้วยค่ะ
กุมภาพันธ์ : Xiaomi 13
![]() |
|
Xiaomi 13 มาพร้อมกับโปรเซสเซอร์ Snapdragon 8 Gen 2 เช่นเดียว Xiaomi 13 Pro แต่ตัวนี้จะรองรับคุณสมบัติการชาร์จเร็ว 67W และการชาร์จไร้สาย 50W ในส่วนของระบบกล้องเป็นแบบระดับพรีเมียมจากแบรนด์ Leica ที่มีสเปกสูงถึง 50MP มีหน้าจอ OLED 24-bit 16 ล้านสี มาในขนาด 6.36 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2400 พิกเซล พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz, HDR10+ และความสว่างสูงสุด 1,900 nits เป็นอีกรุ่นที่มีสเปกเลนส์กล้องรองมาจาก Xiaomi 13 Pro แต่ประสิทธิภาพโดยรวมถือว่าแทบไม่ต่างกันมากนัก เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดงบประมาณลงมาอีกสักหน่อยค่ะ
กุมภาพันธ์ : OnePlus 11 5G
![]() |
|
โทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพดีเป็นเวลาหลายปี ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาวมาก ๆ ดังนั้นรุ่นนี้จึงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ผู้คนเลือกซื้อสมาร์ทโฟนในแบรนด์ OnePlus เนื่องจากเป็นโทรศัพท์ที่มีอายุการใช้งานยาวนาน โดย OnePlus 11 5G อัดแน่นไปด้วยด้านฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ล่าสุดที่ทันสมัย สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วและราบรื่น ชิปที่ใช้ก็คือ Snapdragon 8 Gen 2 SoC นอกจากนี้ยังรองรับ LPDDR5X RAM สูงสุด 16GB และที่เก็บข้อมูล UFS 4.0 ขนาด 256GB ซึ่งมันจะให้ประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น ดังนั้นคุณจึงวางใจได้ว่าโทรศัพท์รุ่นนี้จะยังคงทำงานเร็วและราบรื่นต่อไปอีก 4 ปีได้เลยค่ะ
นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้มันโดดเด่นกว่าแบรนด์คู่แข่ง ตัวอย่างเช่น จอแสดงผล AMOLED ที่สวยงาม ในขนาด 6.7 นิ้ว พร้อมอัตราการรีเฟรช 120Hz และสามารถเปลี่ยนจาก 10Hz เป็น 120Hz ได้แบบไดนามิกด้วยเทคโนโลยี LTPO อีกด้วย ในส่วนของระบบกล้องมาจากบริษัท Hasselblad ที่ได้ใช้เซ็นเซอร์ Sony IMX 890 50MP, เซ็นเซอร์ Sony IMX 581 48MP และกล้องเทเลโฟโต้ 32MP 2X พร้อมเซ็นเซอร์ Sony IMX 709 โดยรวมแล้วคุณภาพของกล้อง OnePlus 11 5G ถือว่าได้รับการปรับปรุงหลายอย่างเลยค่ะ น่าสนใจมาก ๆ
กุมภาพันธ์ : OPPO Reno8 T 5G
![]() |
|
OPPO Reno8 T ที่มีดีไซน์สวยหรูระดับพรีเมียม มาพร้อมจอแสดงผล Full HD+ ในขนาด 6.7 นิ้ว มีอัตราการรีเฟรช 120Hz โดยรุ่นนี้ได้ใช้ชิปประมวลผลจาก Qualcomm Snapdragon 695 5G SoC และยังจับคู่กับ Adreno GPU สำหรับการใช้งานด้านกราฟิก ซึ่งจะมี RAM ให้เลือกขนาดเดียวคือ 8GB และ ROM สูงสุด 128GB ในส่วนของ UI เป็นเวอร์ชัน ColorOS 13.1 ที่ทำงานบน Android 13 ถือว่าค่อนข้างเป็นมิตรกับผู้ใช้เป็นอย่างมาก สำหรับการใช้เลนส์นั้นรุ่นนี้จะมีกล้อง 3 ตัวที่ด้านหลัง ซึ่งก็คือ เซ็นเซอร์หลัก 108MP เซ็นเซอร์ความลึก 2MP และกล้อง Micro 40x ในขณะที่กล้องหน้าคมชัดถึง 32MP เหมาะสมสำหรับผู้ใช้ส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ต้องการเล่นเกมระดับไฮเอนด์ (เล่นเกมแบบฮาร์ดคอร์) แต่กำลังมองหาโทรศัพท์ที่มีสเปกกล้องดี ๆ มาพร้อมกับราคาที่ไม่แพงเกินไป
กุมภาพันธ์ : Nokia X10
![]() |
|
สิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้คือ Nokia X10 เป็นมือถือราคาประหยัดที่เปิดตัวในต่างประเทศตั้งแต่ปี 2021 แต่อย่างไรก็ตาม รุ่นนี้กลับเพิ่งมีวางจำหน่ายในไทยเมื่อต้นปี 2023 ดังนั้นด้วยสเปกเครื่องที่ค่อนข้างล้าสมัย ทำให้ Nokia X10 จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางที่มีราคาไม่แพง โดยปัจจุบันทาง Nokia ได้มีการอัปเดต OS ให้เป็น Android 13 ซึ่งเป็นเวอร์ชันล่าสุดเรียบร้อยแล้ว มีหน้าจอ FHD+ ขนาด 6.67 นิ้ว และแบตเตอรี่ 4470mAh ขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต Snapdragon 480 ที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ 5G แม้ว่าชิปเซ็ตตัวนี้จะมีประสิทธิภาพการทำงานไม่ได้สูงมาก แต่ก็ถือว่าเป็นชิปเซ็ตที่ทันสมัยในระดับหนึ่ง ยิ่งได้จับคู่กับ RAM 6GB ทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานขั้นพื้นฐานมาก ๆ มาพร้อมกับเลนส์กล้องจาก ZEISS ซึ่งเป็นผู้ผลิตเลนส์คุณภาพเจ้าใหญ่จากเยอรมันอีกด้วย
กุมภาพันธ์ : Nokia C12
![]() |
|
Nokia C12 จัดเป็นสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่มีราคาถูกมากกกก ตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ต้องการเน้นงบประมาณจำกัด อย่างไรก็ตาม แม้ว่าราคาที่ถูกแสนถูกเช่นนี้ แต่ทาง Nokia ค่อนข้างทำได้ดีเกี่ยวกับคุณภาพของกล้อง เพราะว่าเป็นโทรศัพท์ที่มีกล้องหลังเซ็นเซอร์ 8MP ตัวเดียว มาพร้อมแฟลช LED โดยมีโหมดกลางคืนและโหมด Portrait มาให้ด้วย ซึ่งหมายความว่าคุณสามารถเพลิดเพลินกับการถ่ายภาพแฟนซีได้เท่าที่คุณต้องการ และหากคุณชอบถ่ายเซลฟี่มาก ๆ กล้องหน้า 5MP ก็ถือว่าเพียงพอแล้วต่อการใช้งานสำหรับสมาร์ทโฟนที่มีราคาไม่เกิน 3,000 บาท นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ OS เวอร์ชัน Android 12 (Go Edition) ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับระบบปฏิบัติการที่ปราศจากแอปพลิเคชันที่ไม่จำเป็น ช่วยให้แอปเปิดใช้งานเร็วขึ้น 30% พร้อมกับประสบกรณ์ภาพเคลื่อนไหวที่นุ่มนวลมากขึ้น หากคุณกำลังมองหามือถือราคาไม่แพง แต่เน้นการอัปเดตซอฟต์แวร์เพิ่มความปลอดภัยเป็นอย่างสม่ำเสมอ เราคิดว่า Nokia เป็นอีกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือมาก ๆ ค่ะ
กุมภาพันธ์ : POCO X5 Pro 5G
![]() |
|
จะว่าไปแล้ว POCO X5 Pro 5G ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนักเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนนี้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่ามันจะเป็นสมาร์ทโฟนที่ไม่มีความสามารถอะไรเลย เพราะรุ่นนี้ก็ยังมอบประสิทธิภาพโดยรวมที่ดีได้ หลัก ๆ คือเหมาะสำหรับคนที่ชอบรับชมคลิป ดูหนัง หรือดูซีรีส์มาก ๆ เพราะหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว พร้อมกระจกกันรอย Corning Gorilla Glass 5 ความละเอียด FHD+ มีอัตราการรีเฟรช 120Hz และมีขอบจอที่บางกว่า X-series รุ่นก่อนหน้า รองรับ Dolby Vision และ HDR10+ สามารถแสดงสีได้มากกว่า 1 พันล้านสี ในอัตราส่วนคอนทราสต์สูง 5,000,000:1 มาพร้อมกับระบบลำโพงสเตอริโอที่ครบครัน ในขณะที่กล้องถ่ายรูปนั้นจัดว่าเทียบเท่ากับแบรนด์คู่แข่งได้แบบสบาย ๆ มีกล้องหลังถึง 3 ตัว ประกอบไปด้วยเซ็นเซอร์หลัก Samsung ISOCELL HM2 108MP จับคู่กับเลนส์อัลตร้าไวด์ 8MP และเซ็นเซอร์มาโคร 2MP ในขณะที่กล้องหน้าเป็น 16MP ด้านอายุการใช้งานแบตเตอรี่มีความจุในระดับมาตรฐาน 5000mAh มาพร้อมกับการชาร์จเร็ว 67W อีกด้วยนะคะ
กุมภาพันธ์ : POCO X5 5G
![]() |
|
POCO X5 5G มีหน้าจอ Full HD+ AMOLED ขนาด 6.67 นิ้ว มาพร้อมกับอัตราการรีเฟรช 120Hz, ความสว่างสูงสุดของหน้าจอคือ 1,200 nits ใช้กระจกกันรอยอย่างดีด้วย Corning Gorilla Glass 3 โดยรุ่นนี้จะขับเคลื่อนผ่านชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G SoC ซึ่งเป็นชิปที่รองรับ 5G ในระดับกลาง ที่ด้านหลังมีกล้องหลังหลัก 48MP พร้อมด้วยกล้องอัลตราไวด์ 8MP และกล้องมาโคร 2MP ด้านหน้ามีกล้องเซลฟี่ 13MP รวมถึงความจุแบตเตอรี่ 5,000mAh พร้อมระบบชาร์จเร็วอีก 33W โดยรวมแล้วเราคิดว่า POCO X5 มีคุณสมบัติหลายอย่างเหมือนกับ X4 Pro ของ X-series เมื่อปีที่แล้วมากค่ะ แต่สิ่งที่ดีกว่าคือซอฟต์แวร์ล่าสุดและความจุที่สูงกว่า
ในส่วนของยี่ห้ออื่นหรือรุ่นอื่น ๆ ที่จริงแล้วมีการเปิดตัวในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2023 ไปหลายตัวเลยค่ะ แต่จะเป็นการเปิดตัวที่ต่างประเทศเท่านั้น ดังนั้นหากเพื่อน ๆ สนใจศึกษาข้อมูลเพิ่ม ทางเว็บไซต์ของเราก็มีลิสต์รายชื่อมาฝากกันด้วยนะคะ
- Samsung Galaxy F04
- POCO C55
- OnePlus Ace 2
- OnePlus 11R
- realme GT Neo 5
- realme GT Neo 5 (240W)
โทรศัพท์มือถือออกใหม่ในเดือนมกราคม 2023
มกราคม : OPPO A78 5G
![]() |
|
OPPO A78 5G มาพร้อมกับกล้องคู่ 50MP ที่ใช้ชิปเซ็ต Dimensity 700 SoC ของ MediaTek และมีความจุแบตเตอรี่สูงถึง 5000mAh มีรองรับการชาร์จไว 33W โดยจะใช้เวลาประมาณ 90 นาทีเท่านั้น ในส่วนของหน้าจอเป็นแบบ LCD HD+ ขนาด 6.5 นิ้ว ที่มีอัตราการรีเฟรช 90Hz โดยรวมถือว่าเป็นโทรศัพท์ราคาย่อมเยาเหมาะสำหรับใช้รับชมคอนเทนต์ต่าง ๆ ชิปประมวลที่ใช้สามารถตอบสนองการใช้งานขั้นพื้นฐานได้อย่างราบรื่น ไม่ว่าจะเป็น การสลับเบราว์เซอร์และแอปโซเชียลมีเดีย หรือการรับชมคลิปใน YouTube สิ่งเหล่านี้ไม่ได้ทำให้ CPU ทำงานหนักเกินไป ในแง่ของการเล่นเกมแนะนำให้เลือก RAM สูงสุด 8GB จะช่วยให้คุณเล่นเกมได้สนุกมากขึ้น
ในส่วนของยี่ห้ออื่น ๆ นั้นก็มีเปิดตัวในช่วงเดือนมกราคม 2023 หลายเจ้าและหลายรุ่นเลยค่ะ แต่เป็นการเปิดตัวที่ต่างประเทศซึ่งไม่มีวางจำหน่ายในประเทศไทย ดังนั้นหากเพื่อน ๆ สนใจ ทางเว็บไซต์ของเราก็มีลิสต์รายชื่อมาฝากกันด้วยนะคะ
|
|
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดในครึ่งปีแรกของ 2023 เรียกว่ายกกันมาทั้งวงการสมาร์ทโฟนเลยก็ว่าได้ อ่านจนเหนื่อยแย่เลยใช่มั้ยคะ (อิอิ) อย่างไรก็ตามก็ยังมีอีก 2 เดือนที่เรายังไม่ได้อัปเดต ซึ่งก็คือเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายน หากมีความคืบหน้าอย่างไรทางเว็บไซต์ของเราจะรีบมาแจ้งให้ทราบโดยทันทีค่ะ
สำหรับวันนี้ต้องขอตัวลาไปพักผ่อนยาว ๆ สักหน่อยค่ะ เพราะผู้เขียนเองก็หาข้อมูลจนตาลายแล้วเหมือนกัน แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้านะคะ สวัสดีค่ะ