สวัสดีค่ะสาว ๆ วันนี้เราก็กลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ แน่นอนค่ะว่าสำหรับวันนี้เองเราก็มีผลิตภัณฑ์เพื่อความงามมานำเสนอกันอีกแล้วค่ะ แต่สำหรับคราวนี้ผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกมานั้นบอกเลยว่ามีประโยชน์แบบ 2 in 1 โดยสามารถที่จะใช้ได้กับทั้งผิวพรรณและเส้นผมได้ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้จะอะไรไปไม่ได้เลยค่ะหากไม่ใช่น้ำมันสกัดเย็นใช้สำหรับด้านความงาม แน่นอนว่าน้ำมันเหล่านี้จะต่างจากน้ำมันพืชที่ใช้ประกอบอาหารทั่วไป โดยปัจจุบันการดูแลผิวพรรณและเส้นผมด้วยน้ำมันนั้นกำลังเป็นที่นิยมกันอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันมะพร้าว, น้ำมันอัลมอนด์, น้ำมันอาร์แกน และตัวสุดท้ายที่ฮอตฮิตตลอดกาลก็คือ “น้ำมันมะกอก (Olive oil)” นั่นเองค่ะ ขอบอกเลยว่าน้ำมันแต่ละตัวจะมีคุณสมบัติเด่น ๆ ที่ต่างกัน แต่ในวันนี้เราจะมาพูดถึงน้ำมันมะกอกที่กำลังเป็นเทรนด์กันอยู่ในขณะนี้ ว่าเหตุใดมันถึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

เมื่อพูดถึงชื่อน้ำมันมะกอกแล้วหลาย ๆ คนก็มักจะติดกับภาพของน้ำมันมะกอกที่ใช้สำหรับทำอาหารเสียซะส่วนใหญ่ใช่มั้ยคะ? แต่จริง ๆ น้ำมะกอกนั้นถือเป็นน้ำมันที่มีสรรพคุณครอบจักรวาลเลยก็ว่าได้นะคะ เพราะนอกจากจะนำไปใส่ในอาหารเพื่อให้ประโยชน์แก่ร่างกายได้แล้วก็ยังนำมาใช้งานกับผิวและเส้นผมของเราได้ดีอีกด้วยค่ะ
สำหรับในวันนี้ในส่วนของประโยชน์ที่ของน้ำมันมะกอกที่เราหยิบมานำเสนอนั้นก็จะพุ่งเป้าไปที่เรื่องของความงามกันโดยตรงเลยนะคะ สาว ๆ คนไหนที่กำลังประสบปัญหาผิวขาดความชุ่มชื้น มิหนำซ้ำผมกลับมาแห้งเสียหรือถูกทำร้ายจากความร้อน ถือว่าวันนี้บทความนี้จะเป็นตัวช่วยดี ๆ ที่จะมาแนะนำผลิตภัณฑ์จากน้ำมันมะกอกที่จะช่วยคุณแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ค่ะ ว่าแต่ก่อนที่เราจะไปดูกันนั้น เรามาทำความรู้จักกับน้ำมันมะกอก รวมถึงประโยชน์ของมันก่อนดีกว่านะคะ
น้ำมันมะกอกสกัดเย็น คืออะไร ?

น้ำมันมะกอกสกัดเย็นก็คือวิธีการสกัดเอาน้ำมันในผลมะกอกออกมา โดยที่ไม่ใช้ความร้อนหรือการใช้สารเคมีใด ๆ ซึ่งจะเริ่มจากการบดผลมะกอกให้เป็นเนียนละเอียด แล้วจากนั้นใช้แรงกดเพื่อที่จะแยกน้ำมันเอาออกจากเนื้อของผลมะกอก ซึ่งตามมาตรฐานของแล้วอุณหภูมิที่ใช้ต้องไม่เกิน 27 องศาเซลเซียสค่ะ ซึ่งถือว่าเป็นอุณหภูมิที่ไม่ได้สูงมาก ดังนั้นข้อดีของการสกัดน้ำมันมะกอกแบบนี้ ก็คือมันจะเป็นการรักษาคุณค่าทางโภชนาการไว้ เนื่องจากสารอาหารและประโยชน์ต่าง ๆ ที่ได้จากน้ำมันมะกอกนั้นคงอยู่ ไม่ได้สลายไปไหนคะ
น้ำมันมะกอกสกัดเย็นดีกว่าน้ำมันมะกอกทั่วไปอย่างไร ?
น้ำมันมะกอกสกัดเย็นนั้นจัดว่าเป็นน้ำมันมะกอกเกรดดี คุณภาพสูง มีกลิ่นที่หอมเฉพาะตัว อุดมไปด้วยประโยชน์นานาชนิด สามารถนำมารับประทานหรือบำรุงผิวพรรณและเส้นผมเพื่อเสริมด้านความงามได้หมดเลยค่ะ แต่ก็จะมีราคาที่สูงกว่าน้ำมันมะกอกแบบอื่น ๆ หากถามว่าน้ำมันมะกอกสกัดเย็นและแบบไม่สกัดเย็นแบบไหนดีกว่ากัน? ก็ต้องบอกว่าแบบสกัดเย็นดีกว่าในแง่คุณค่าสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่หลงเหลืออยู่ แต่ก็ใช่ว่าน้ำมันมะกอกแบบไม่สกัดเย็นจะไม่ดีนะคะ เพียงแต่ปริมาณสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ก็จะลดน้อยกว่าเท่านั้น ซึ่งข้อดีก็คือมันจะมีราคาที่ถูกกว่ามากและสามารถหาซื้อได้ง่ายค่ะ
วิธีการสังเกตน้ำมันมะกอกสกัดเย็นกับน้ำมันมะกอกทั่วไป
วิธีการสังเกตน้ำมันมะกอกสกัดเย็นประเภทนี้คือคุณจะต้องตรวจสอบในส่วนของฉลากสินค้าค่ะ โดยน้ำมันมะกอกที่สกัดเย็นนั้นจะมีคำว่าสกัดเย็นกำกับ หรือจะใช้คำว่า ‘Extra virgin olive oil (EVOO)’ แต่ถ้าเกิดว่ามีแค่เฉพาะคำว่า ‘olive oil’ นั่นอาจจะหมายถึงน้ำมะกอกที่ได้จากกรรมวิธีการกลั่นโดยอาจมีการใช้สารเคมีหรือส่วนผสมจากน้ำมันพืชอื่น ๆ ก็เป็นได้ค่ะ ดังนั้นหากว่าคุณต้องการน้ำมันมะกอกที่ให้ประโยชน์สูงสุดก็แนะนำให้เลือกน้ำมันมะกอกสกัดเย็นก็จะดีที่สุดค่ะ
ประโยชน์ของน้ำมันมะกอกสำหรับผิวและเส้นผม
1. มีสารต้านอนุมูลอิสระ (1-6)
น้ำมะกอกมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) ทำหน้าที่ป้องกันและยับยั้งการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันค่ะ ซึ่งการออกซิเดชันก็เป็นกระบวนการผลิตอนุมูลอิสระ ซึ่งเป็นสารเคมีที่อาจเข้าไปทำลายเซลล์ตามส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย และอาจนำไปสู่การพัฒนาของมะเร็งได้ค่ะ ดังนั้นการที่คุณนำน้ำมะกอกมีส่วนประกอบของสารต้านอนุมูลอิสระชโลมลงบนผิว สารต้านอนุมูลอิสระเหล่านี้ก็จะแทรกซึมเข้าชั้นผิว และจะเข้าไปช่วยซ่อมแซม ฟื้นฟูเซลล์ผิว ทั้งยังช่วยป้องกันและชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควรได้ค่ะ นอกจากนี้แล้วก็ยังมีงานวิจัยบางชิ้นที่ระบุว่าการทาน้ำมันมะกอกบนผิวหนังหลังออกไปเจอแดด อาจช่วยต้านเซลล์ที่ก่อให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ด้วยนะคะ เนื่องจากสารต้านอนุมูลอิสระประสิทธิภาพสูงที่อยู่ในน้ำมันมะกอกนั้น เชื่อกันว่าสามารถต่อต้านผลกระทบที่เป็นอันตรายของรังสี UV ได้
2. อุดมไปด้วยวิตามินนานาชนิด (1-3 , 6-7)
น้ำมันมะกอกประกอบไปด้วยวิตามินกลุ่มที่ละลายได้ในไขมัน (fat-soluble vitamin) อันได้แก่ วิตามิน A, วิตามิน D, วิตามิน E และวิตามิน K ซึ่งวิตามินบางชนิดนั้นเป็นประโยชน์ต่อผิวพรรณค่ะ อย่างวิตามิน E เองก็เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในไขมันได้ และที่สำคัญวิตามิน E นั้นมีการใช้งานด้านการรักษาโรคผิวหนังมานานกว่า 50 ปี ทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหลายชนิดด้วยค่ะ ซึ่งวิตามิน E ยังช่วยปกป้องผิวจากผลกระทบอันเนื่องมาจากรังสี UV โดยทำหน้าที่เป็นสารกำจัดอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ก็ยังช่วยบำรุงผิว มอบความชุ่มชื่น แล้วก็ยังช่วยดูแลเรื่องของรอยแผลต่าง ๆ
หรืออย่างวิตามิน K ที่ดูเหมือนว่าจะมีปริมาณสูงพอสมควรเช่นกันค่ะ ซึ่งประโยชน์ของวิตามิน K ก็เป็นอีกหนึ่งวิตามินที่สามารถพบได้ในครีมสำหรับทาผิว สามารถช่วยรักษาสภาพผิวที่หลากหลายทั้งรอยฟกช้ำ รอยแผลขนาดเล็ก หรือรอยแผลขนาดใหญ่อย่างแผลผ่าตัดเองก็ช่วยได้ด้วยค่ะ ที่สำคัญคือแพทย์ก็มักใช้ครีมที่มีวิตามิน K กับผู้ป่วยที่เพิ่งได้รับการผ่าตัด เพื่อช่วยลดอาการบวมและช้ำ ช่วยเร่งให้แผลสมานตัวได้เร็วขึ้นอีกด้วยนะคะ
3. ให้ความชุ่มชื้น
น้ำมันมะกอกเสมือนเป็นมอยส์เจอไรเซอร์ธรรมชาติยอดนิยมที่ใช้กันมานานเป็นเวลาหลายปี มักใช้ชโลมลงบนผิวเพื่อทำให้ผิวพรรณนั้นนุ่มลื่นและช่วยกับเก็บความชุ่มชื่นเอาไว้ได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ เลยก็ได้ค่ะ แค่ใช้น้ำมันมะกอกตัวเดียวก็เอาอยู่แล้ว
4. ดูแลเส้นผม (8-10)
องค์ประกอบทางเคมีหลัก ๆ ของน้ำมันมะกอก ได้แก่ กรดโอเลอิก, กรดปาลมิติก และสควาลีน สิ่งเหล่านี้เป็นสารที่ให้ความชุ่มชื่น มีคุณสมบัติในการทำให้ผิวหรือเส้นผมเนียนนุ่ม อันที่จริงแล้วพวกแชมพูบำรุงผม ครีมนวดผม และผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมหลายๆ ชนิดเองก็มีสารพวกนี้เป็นส่วนผสมเช่นกันค่ะ แต่จะเป็นสารที่ไม่ได้มาจากธรรมชาติส่วนใหญ่ แล้วก็จะเป็นสารที่ผลิตขึ้นในห้องปฏิบัติการนั่นเองค่ะ

แต่สำหรับน้ำมันมะกอกนั้นมันสามารถช่วยเพิ่มความนุ่มและความแข็งแรงให้กับเส้นผมได้โดยไม่มีสารเคมีตกค้างอย่างแน่นอน นอกจากจะยังช่วยรักษาความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยทำให้ผมแลดูเรียบและดูเงางามเป็นพิเศษ เนื่องจากน้ำมันจะเข้าไปทำให้ส่วนที่อยู่เปลือกนอกสุดของเส้นผมหรือที่เรียกว่าส่วน Cuticle ที่มีลักษณะเป็นเกล็ดนั้นเรียงตัวเรียบสวย เป็นระเบียบนั่นเองค่ะ
น้ำมันมะกอกบำรุงผิวและเส้นผม ศิริบัญชา

ราคา 25 บาท*
ปริมาณ | 60 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✘ |
การใช้งาน | บำรุงผิวและเส้นผม |
ส่วนประกอบ | Mineral oil , Olive oil , perfume |
ซันเดย์ น้ำมันมะกอกบำรุงผมและผิว

ราคา 29 บาท*
ปริมาณ | 50 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✘ |
การใช้งาน | บำรุงผิวและเส้นผม |
ส่วนประกอบ | Olive oil , Perfune, CI47005 |
วิทยาศรม น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ไม่ใส่น้ำหอม

ราคา 59 บาท*
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ตราวิทยาศรมเป็นน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์แบรนด์ไทยที่ได้รับการผลิตที่มีคุณภาพ ปลอดภัย ไม่เป็นอันตราย และที่สำคัญคือยี่ห้อนี้จะไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม น้ำมันจะเป็นกลิ่นหอมของมะกอกอ่อน ๆ อุดมไปด้วยคุณค่าจากธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูให้ผิวที่เสียจากมลภาวะ ผิวแห้งหยาบกร้าน ผิวแห้งแตกเป็นขุยกลับมานุ่มชุ่มชื่นแลดูมีน้ำมีนวล
ทั้งยังช่วยนวดและหมักผมเพื่อเร่งฟื้นฟูให้ผมเสีย ผมฟูแห้งกร้านกลับมาแลดูเงางาม นุ่มสลวย และด้วยส่วนผสมที่ปราศจากน้ำหอมยังทำให้น้ำมันมะกอกยี่ห้อนี้สามารถใช้เพื่อล้างเครื่องสำอางรวมถึงสิ่งสกปรกที่สะสมบนผิวหน้าได้ด้วยค่ะ
ปริมาณ | 60 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✘ |
การใช้งาน | เส้นผม, ผิวพรรณ และใช้ล้างเครื่องสำอาง |
ส่วนประกอบ | ไม่ระบุ |
น้ำมันมะกอก จำปาทอง ใช้บำรุงผิวและเส้นผม

ราคา 99 บาท*
มาถึงคิวน้ำมันมะกอกจำปาทองกันบ้าง บอกเลยว่าแบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่ทุกคนจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะนอกจากจะหาซื้อได้ง่ายแล้ว ก็ยังมีราคาเบา ๆ ไม่แพงมากแต่ได้ปีปริมาณของน้ำมันเยอะมาก รับรองว่าขวดเดียวใช้งานได้นานอย่างแน่นอนค่ะ สำหรับน้ำมันมะกอกจำปาทองก็จะมีด้วยกัน 2 สูตรให้คุณได้เลือกค่ะ นั่นก็คือสูตรสีเหลืองที่จะมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ และสูตรสีขาวก็จะเป็นสูตรที่ได้มาจากมะกอกขาวไร้กลิ่นค่ะ
โดยทั้ง 2 สูตรก็ต้องบอกเลยว่าเวิร์คทั้งคู่เพราะว่าจะเป็นการใช้งานกับผิวที่แห้งแตกหรือเส้นผมที่เสียจากการขาดการบำรุงหรือจากสารเคมีและความร้อนก็สามารถช่วยฟื้นฟูได้ แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยไร้สารอันตราย สามารถใช้ได้บ่อยตามต้องการเลยค่ะ
ปริมาณ | 450 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✘ |
การใช้งาน | บำรุงผิวและเส้นผม |
ส่วนประกอบ | ไม่ระบุ |
น้ำมันมะกอกหอม Olio essence olive oil

ราคา 109 บาท*
ปริมาณ | 60 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✘ |
การใช้งาน | บำรุงผิวและเส้นผม |
ส่วนประกอบ | ไม่ระบุ |
Bioaqua Olive oil serum เซรั่มบำรุงผิวและเส้นผม

ราคา 129 บาท*
Bioaqua เซรั่มบำรุงผิวและเส้นผมที่อุดมด้วยคุณค่าจากธรรมชาติที่ได้มาจากน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 100% ประกอบด้วยวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณและเส้นผสม สารสกัดที่ได้จากมะกอกนั้นเป็นสารสกัดจากธรรมชาติแท้ ๆ มีความอ่อนโยนต่อผิว ช่วยทำให้ชุ่มชื้นและเนียนนุ่ม ซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่ทำให้คุณรู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ให้สัมผัสที่แห้งเบาสบายผิว
ส่วนในเรื่องของการบำรุงเส้นผมเองก็มีประสิทธิภาพไม่น้อยหน้าค่ะ เพราะสามารถเข้าไปบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างล้ำลึก เสริมสร้างให้ผมดูมีวอลลุ่ม ช่วยฟื้นฟูและเร่งซ่อมแซมเส้นผมโดยเฉพาะส่วนของปลายให้กลับมาดูสวยและดูเงางาม
ปริมาณ | 150 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✘ |
การใช้งาน | บำรุงผิวและเส้นผม |
ส่วนประกอบ | น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ 100% |
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ AROMATIC SPA OLIVE OIL สูตรเข้มข้น สำหรับผิวกายและเส้นผม

ราคา 169 บาท*
สำหรับน้ำมันมะกอกตัวนี้จะเป็นน้ำมันมะกอกที่ผสมผสานศาสตร์การบำรุงแบบอโรมา เทอราพีให้กลิ่นสมุนไพรที่หอมอบอวลราวกับอยู่ในสปาขนาดย่อม ตัวน้ำมันมะกอกจะเร่งคืนความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ให้เส้นผมจากที่ดูแห้งกร้านกลับมาดูนุ่มลื่นและดูเงางามสุขภาพดี ไม่ว่าผมเสียจากการทำเคมีหรือความร้อนสูตรนี้ก็สามารถช่วยคืนสภาพให้ผมกลับมาดูแข็งแรงด้วยการฟื้นฟูและบำรุงไปในคราวเดียว
อโรมาติก สปา โอลีฟ ออยล์ยังอุดมด้วยสารสกัดน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ซึมซาบเข้าฟื้นบำรุงผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาเนียนนุ่มเด้งน่าสัมผัส พร้อมทั้งมีส่วนช่วยให้การรักษาและฟื้นฟูผิวที่คล้ำเสียและอาการผิวไหม้จากแสงแดดได้อีกด้วยค่ะ ตัวของน้ำมันจะค่อนข้างที่จะบางเบา ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทำให้เหนียวเหนอะหนะ และที่สำคัญคือยังได้รับการรับรองความปลอดภัยจากอย.ด้วยค่ะ
ปริมาณ | 450 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✔ |
การใช้งาน | บำรุงผิวและเส้นผม |
ส่วนประกอบ | White Mineral Oil, Fragrance, Olea Europaea (Olive) Fruit Oil, Ci 47000 |
น้ำมันมะกอกสกัดเย็น Extra Virgin Oliver Oil

ราคา 198 บาท*
สำหรับน้ำมันมะกอกตัวสุดท้ายนี้ก็จะเป็นน้ำมันมะกอกแบบไหนไปไม่ได้ค่ะ นอกจากน้ำมันมะกอกสกัดเย็น โดยตัวนี้ไม่ใช่แค่มีประโยชน์ในเรื่องของการฟื้นบำรุงผมและทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวพรรณอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันยังใช้สำหรับรับประทาน ใช้ประกอบอาหารที่ไม่จำเป็นต้องผ่านความร้อน รวมถึงยังใช้เพื่อการบำรุงเล็บ ขนตา และผิวที่ไหม้แดดได้ดีอีกด้วย
น้ำมันมะกอกบรรจุขวดขนาด 500 มล.เป็นน้ำมันมะกอกที่ผ่านกรรมวิธีการสกัดเย็นที่ยังคงคุณค่าและประโยชน์ไว้อย่างเต็มเปี่ยม น้ำมันจะเป็นสีเหลืองทองใสบริสุทธิ์ มีกลิ่นของมะกอกอ่อน ๆ ไม่มีกลิ่นเหม็นหืนหรือคราบตะกอนนอนก้นอย่างแน่นอน สำหรับใครที่กำลังมองหาน้ำมันมะกอกคุณภาพดี ราคาไม่แพงแบรนด์นี้ก็ถือว่าตอบโจทย์มากค่ะ
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✔ |
การใช้งาน | รับประทาน , ประกอบอาหาร, ล้างเครื่องสำอาง บำรุงผมและผิว |
ส่วนประกอบ | น้ำมันมะกอก |
น้ำมันมะกอก 100% ตราซีซ่า (SESA) น้ำมันมะกอกสกัดเย็น

ราคา 199 บาท*
น้ำมันมะกอกตราซีซ่าเป็นน้ำมันที่สกัดมาจากผลมะกอกคุณภาพ ผ่านการสกัดที่ไม่ใช้ความร้อนและสารเคมี อุดมไปด้วยคุณประโยชน์จากธรรมชาติที่มีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม มีประโยชน์ต่อสุขภาพทั้งยังมีสรรพคุณด้านความงามอีกด้วยค่ะ น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์สามารถใช้ทาผิวเพื่อล็อกความชุ่มชื่นไม่ทำให้ผิวแห้งแตก ช่วยคงสภาพดูอ่อนเยาว์และนุ่มลื่นทุกครั้งที่สัมผัส
นอกจากนี้ก็ยังมีส่วนช่วยปกป้องผิวจากการทำร้ายจากแสงแดด ฝุ่นและมลภาวะภายนอก ช่วยบำรุงผมและเล็บให้ชุ่มชื่นเงางามแลดูสุขภาพดี คุณสาว ๆ มั่นใจได้ถึงเรื่องปลอดภัย ไร้สารอันตรายเพราะได้รับการรับรองจากอย.
ปริมาณ | 150 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✔ |
การใช้งาน | ทำอาหาร, บำรุงผิว และบำรุงผม |
ส่วนประกอบ | น้ำมันมะกอก 100 % |
น้ำมันมะกอกสกัด (Pomace Olive Oil) สำหรับใช้ในด้านความงาม

ราคา 214 บาท*
น้ำมันมะกอกสกัด (Pomace Olive Oil) จาก TCS MART จะเป็นน้ำมันมะกอกที่สกัดจากเนื้อมะกอกหลังจากการกดครั้งแรก ทำให้สีนั้นจะค่อนข้างใสและมีกลิ่นที่เจือจางหรือแทบจะไม่มีกลิ่นเลยแต่นั่นก็แสดงให้เห็นว่ามันไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมค่ะ ดังนั้นใครที่ไม่ชอบกลิ่นหรือกลัวว่าจะแพ้เพราะส่วนผสมของน้ำหอมก็ไร้กังวล
น้ำมันมะกอกมาในขนาดที่ใหญ่ 500 มล. บรรจุมาในขวดหัวปั๊มทำให้ใช้งานได้ง่ายและสะดวก น้ำมันมะกอกสูตรนี้นิยมนำมาทาผิวเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่น ทำให้ผิวแลดูเรียบเนียนดูอ่อนเยาว์ ดูแลผิวที่โดนทำร้ายจากแสงแดด แถมด้วยประสิทธิภาพในการบำรุงผมเสียให้กลับมาดูสวยเงางามเปล่างประกายและดูมีน้ำหนักยิ่งขึ้น
ปริมาณ | 500 มล. |
---|---|
ผ่านการสกัดเย็น | ✘ |
การใช้งาน | บำรุงผิวและเส้นผม |
ส่วนประกอบ | ไม่ระบุ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว น้ำมันมะกอก สำหรับบำรุงผิวและเส้นผม ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
น้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ AROMATIC SPA OLIVE OIL สูตรเข้มข้น สำหรับผิวกายและเส้นผม |
| |||
| ||||
| ||||
|
ประโยชน์ของการใช้งานน้ำมันมะกอก
1. ใช้เพื่อให้ผิวชุ่มชื่น (11-13)
เนื่องจากน้ำมันมะกอกนั้นอุดมไปด้วยไขมัน มันเลยมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นแกผิว ซึ่งจะช่วยให้ผิวของคุณนุ่ม เรียบเนียน และชุ่มชื้น อีกทั้งยังซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่ยาวนาน บางคนใช้น้ำมันมะกอกเป็นเสมือนโลชั่นที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นโดยทาลงบนผิวโดยตรงก่อนที่จะซับน้ำมันส่วนเกินออก หรืออาจจะทาน้ำมันลงบนผิวในขณะที่ผิวเปียกหมาด ๆ ก็ได้ค่ะ จากนั้นก็ค่อย ๆ นวดจนน้ำมันนั้นซึมซับเข้าสู่ชั้นผิว นอกจากจะใช้แค่น้ำมันมะกอกอย่างเดียวแล้ว คุณสามารถผสมน้ำมันมะกอกร่วมกับน้ำมันมะพร้าวเข้าด้วยกันเพื่อให้การบำรุงและความชุ่มชื้นแก่ผิวที่ดียิ่งขึ้นได้

สำหรับใครที่โกนขนบ่อย ๆ ก็สามารถที่จะเติมน้ำมันมะกอก 2-3 หยดลงในครีมโกนขนก็สามารถช่วยให้โกนขนได้อย่างราบรื่นยิ่งขึ้น มันจะไม่ฝืด และที่สำคัญคือยังช่วยลดความแห้งกร้านของผิวและการระคายเคืองที่อาจเกิดขึ้นในภายหลังได้ด้วยค่ะ
ข้อควรระวัง : แม้ว่าน้ำมันมะกอกจะมีคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้น แต่ก็ไม่ได้เหมาะสำหรับการใช้งานกับทุกคนนะคะ สำหรับผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายหรือกำลังประสบปัญหาเรื่องสภาพผิว เช่น ผู้ที่เป็นโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ในกรณีเช่นนี้ น้ำมันมะกอกอาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีนักนะคะ แต่สำหรับผู้ที่ต้องการใช้งานก็แนะนำให้เลือกซื้อน้ำมันมะกอกแบบออร์แกนิคและแบบ extra virgin แล้วก็อย่าลืมเลือกซื้อจากร้านที่น่าเชื่อถือด้วยเช่นกันนะคะ
2. ใช้เป็นสครับ

ในการขัดผิวหน้าและผิวกาย และรักษาบริเวณที่ผิวแห้งหรือเป็นสะเก็ด คุณสามารถผสมน้ำมันมะกอกกับเกลือสปาขัดผิวเพื่อทำให้เป็นสครับขัดผิวได้ค่ะ แต่คุณต้องเลือกใช้เกลือสปาให้เหมาะกับบริเวณที่คุณต้องการจะสครับค่ะ คุณควรเลือกใช้เกลือเม็ดละเอียดสำหรับการสครับใบหน้าและบริเวณอื่น ๆ ที่มีผิวที่บอบบางค่ะ แต่สำหรับบริเวณหัวเข่า ข้อศอก หรือบริเวณที่ต้องการการสครับมากเป็นพิเศษก็สามารถเลือกใช้เป็นเกลือสปาเม็ดใหญ่ได้ค่ะ
3. ใช้ล้างเครื่องสำอางรอบดวงตา

ไม่ว่าจะเป็นอายไลน์เนอร์หรือมาสคาร่าที่ติดแน่นทนนานขนาดไหน หากใช้น้ำมันมะกอกก็จะช่วยทำให้เช็ดออกได้อย่างง่ายดายมากขึ้น เนื่องจากน้ำมันมะกอกจะเข้าไปสลายสารกันน้ำในเครื่องสำอางสำหรับดวงตาค่ะ ส่วนวิธีการก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่หยดน้ำมันมะกอกสองสามหยดลงบนสำลีสำหรับเช็ดเครื่องสำอางจากนั้นก็เช็ดบริเวณรอบดวงตาเบา ๆ เท่านี้เองค่ะ
4. ซ่อมแซมผิวไหม้แดด (11)
สำหรับการมาส์กผิวนั้นก็แค่ผสมเจลว่านหางจระเข้ที่สกัดสดใหม่ (ควรแช่เย็นไว้ล่วงหน้า) กับน้ำมันมะกอก 1 – 2 ช้อนชา แล้วทาส่วนผสมนี้ลงบนผิวที่ไหม้แดด หลังจากนั้นปล่อยทิ้งไว้ 10 – 12 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำเย็นก็จะช่วยบรรเทาอาการผิวไหม้ได้ค่ะ
ข้อควรระวัง : คุณไม่ควรใช้วิธีการเช่นนี้กับผิวที่ไหม้จากแสงแดดทันทีทันใดเพราะจะยิ่งเข้าไปทำให้ผิวเสียหายมากขึ้นกว่าเดิมได้ ทางที่ดีคือคุณควรทำให้ผิวหายร้อนก่อน และเมื่อบริเวณนั้นเย็นลงแล้ว คุณสามารถใช้น้ำมันมะกอกและน้ำมันมะพร้าวเล็กน้อยเพื่อช่วยซ่อมแซมผิวได้ค่ะ
5. รักษาริ้วรอย (1-6)
เนื่องจากน้ำมันมะกอกนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างที่เราเกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้น ทำให้น้ำมันมะกอกอาจช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้ โดยคุณสามารถทาน้ำมันลงไปบริเวณรอบดวงตาในเวลากลางคืนหรือหลังแสงแดดได้
6. ช่วยลดรอยแผลเป็น (6)
วิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ ในน้ำมันมะกอกอาจทำให้รอยแผลเป็นจางลงได้ด้วยการเร่งให้เซลล์ผิวนั้นเกิดการสร้างใหม่ วิธีการใช้งานในลักษณะนี้ก็ทำได้ง่าย ๆ เพียงแค่ทาน้ำมันลงรอยแผลเป็นจากนั้นก็นวดไปเรื่อยๆ หรืออาจจะผสมกับน้ำมะนาวเพื่อรักษาบริเวณที่รอยดำเนื่องจากรอยแผลเป็นก็ได้ค่ะ
7. รักษาส้นเท้าแตก

สำหรับการรักษาเรื่องของส้นเท้าแตกนั้นให้คุณผสมน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่คุณต้องการ 4 – 5 หยด ลงในน้ำมันมะกอก 2 ช้อนโต๊ะ คุณสามารถเพิ่มน้ำมันมะพร้าวหรือเชียบัตเตอร์ 1 – 2 ช้อนโต๊ะลงในส่วนผสม แต่นี่เป็นทางเลือกเท่านั้นนะคะ หากไม่มีก็ไม่เป็นไรค่ะ จากนั้นก็ผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันแล้วขัดด้วยหินขัดตัว ล้างส้นเท้าและซับให้แห้งเล็กน้อยแล้วทาน้ำมันมะกอกที่ส้นเท้าแล้วนวดอีกครั้ง
คำแนะนำ : เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ให้ทาน้ำมันมะกอกที่ส้นเท้าของคุณก่อนเข้านอน เพื่อให้น้ำมันอยู่บนผิวของคุณได้นานและช่วยให้การดูดซึมได้เต็มที่มากขึ้น
8. ใช้บำรุงผม
สำหรับการใช้งานเพื่อการบำรุงเส้นผม หากคุณไม่เคยทดลองใช้น้ำมันมะกอกเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเส้นผมมาก่อน ให้ใช้เพียงหนึ่งหรือสองช้อนโต๊ะสำหรับการรักษาครั้งแรกค่ะ ปริมาณน้ำมันมะกอกที่คุณควรใช้นั้นขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกแค่ไหน หากคุณกำลังดูแลทั้งศีรษะ คุณจะต้องมีอย่างน้อย ¼ ถ้วย แต่ถ้าหากเป็นคนผมหนาหรือผมยาวมากอาจจะต้องเพิ่มปริมาณค่ะ
ขั้นตอนต่อมาให้คุณนวดน้ำมันให้ลึกลงไปในเส้นผมของคุณสักประมาณสองถึงสามนาที นอกจากนี้คุณยังสามารถนวดมันลงบนหนังศีรษะของคุณได้ค่ะหากว่าคุณมีหนังศีรษะที่แห้ง และเพื่อให้การบำรุงและฟื้นฟูอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ให้ห่อด้วยหมวกอาบน้ำแล้วปล่อยให้ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 นาที จากนั้นก็ให้หวีผมด้วยหวีซี่ห่าง วิธีนี้ก็จะทำให้หวีและจัดแต่งทรงได้ง่ายขึ้น จากนั้นก็ให้สระผมตามปกติโดยหากว่าครั้งแรกสระแล้วคุณยังรู้สึกว่าความมันนั้นยังคงอยู่ก็ให้สระประมาณ 2 รอบนะคะ
ผลกระทบจากการใช้น้ำมันมะกอก (12-13)
ถึงแม้ว่าน้ำมันมะกอกจะมีคุณสมบัติที่ช่วยในการบำรุงผม ผิวพรรณ หรือผิวหน้าหลาย ๆ ประการด้วยกัน แต่มันก็มีโอกาสทำเกิดอาการแพ้หรือเกิดปัญหาอื่นตามมาได้เหมือนกันนะคะ แต่ต้องขอบอกก่อนว่าปัญหาพวกนี้อาจจะเกิดขึ้นแค่เฉพาะกับบางคนเท่านั้นนะคะ เนื่องจากสภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็แล้วแต่ก็อย่าลืมตรวจสอบชนิดของน้ำมันมะกอก รวมถึงคุณภาพก่อนที่จะตัดสินใจซื้อนะคะ และเมื่อได้มาแล้วก็อย่าลืมใช้งานให้ถูกต้องและถูกประเภทกันด้วยนะคะ
เกิดอาการคันระคายเคือง
อย่างที่เราบอกไปค่ะว่าสภาพผิวของแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน สำหรับบางคนอาจมีความไวต่อน้ำมันมะกอก ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการแพ้ หรืออาการคันระคายเคืองผิวได้ ดังนั้นก่อนการใช้งานก็ควรตรวจสอบดูให้แน่ใจด้วยการทดสอบโดยการทาลงบนพื้นที่เล็ก ๆ ของผิวก่อน จากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้ 48 ชั่วโมง หากว่าไม่พบความผิดปกติ นั่นก็หมายถึงคุณไม่มีอาการแพ้ค่ะ แต่ถ้าหากว่าเกิดอาการคันหรือมีอาการผิดปกติก็ควรหยุดใช้ทันที
นอกจากผิวของคนที่แพ้ง่ายหรือผิวไวต่อน้ำมันมะกอกจะไม่เหมาะกับน้ำมันประเภทนี้แล้ว ผิวของเด็ก โดยเฉพาะเด็กทารกเองก็ไม่สามารถใช้น้ำมันมะกอกได้ค่ะ เนื่องจากผิวของเด็ก ๆ นั้นบอบบางมาก ๆ ดังนั้นเราจึงไม่แนะนำให้ทาน้ำมันมะกอกให้กับเด็ก ๆ นะคะ
อาจทำให้เกิดการอุดตันได้
น้ำมันมะกอกถือว่าเป็นน้ำมันที่ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้ค่อนข้างยาก โดยเฉพาะกับผิวหน้าและยังเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งอาจจะทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดปัญหาสิวตามาได้ในภายหลัง ซึ่งในเรื่องนี้ก็ต้องใช้งานอย่างระมัดระวังนะคะ
References :
- Olive oil
- Vitamin E
- Vitamin E in dermatology
- Potential of herbs in skin protection from ultraviolet radiation
- Protective effect of topically applied olive oil against photocarcinogenesis following UVB exposure of mice
- The use of anti stretch marks’ products by women in pregnancy: a descriptive, cross-sectional survey
- Vitamin K
- Hair Cosmetics: An Overview
- Potential Health Benefits of Olive Oil and Plant Polyphenols
- Critical Review on the Significance of Olive Phytochemicals in Plant Physiology and Human Health
- Novel antibacterial and emollient effects of coconut and virgin olive oils in adult atopic dermatitis
- Effect of olive and sunflower seed oil on the adult skin barrier: implications for neonatal skin care
- Olive Oil, Sunflower Oil or no Oil for Baby Dry Skin or Massage: A Pilot, Assessor-blinded, Randomized Controlled Trial (the Oil in Baby SkincaRE [OBSeRvE] Study)