รีวิว โทรศัพท์มือถือ OPPO ราคาไม่เกิน 10,000 บาท รุ่นไหนดี ปี 2023

เปิดตัวเมื่อตุลาคม 2022 ราคาเปิดตัว 5,499 บาท

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าโปรเซสเซอร์ Helio G35 เป็นชิปประมวลที่ใช้พลังงานต่ำ ดังนั้นชิปตัวนี้จึงช่วยประหยัดแบตเตอรี่ได้ดี แต่ในแง่ของการทำงานนั้นอาจมีอาการหน่วงเล็กน้อย อาทิเช่น หากคุณต้องการเปิดใช้งานแอป Facebook หรือ IG อาจต้องใช้เวลาประมาณ 2-3 วินาทีค่ะ ซึ่งก็ไม่ได้ถือว่าเป็นระยะเวลาที่นานเลยค่ะ เรียกว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เหมาะสำหรับใช้เล่นอินเทอร์เน็ต ท่องเว็บไซต์ และเล่นเกมเบา ๆ โดยสามารถใช้งานได้ยาวนานต่อเนื่องกันหลายชั่วโมง

ในส่วนของหน้าจอราคาประมาณนี้ ค่อนข้างน่าเสียดายที่ความคมชัดระดับเป็นเพียง HD+ เท่านั้น รวมถึงอัตรารีเฟรชก็มีค่า 60Hz ดังนั้นการสัมผัสใช้งานและรับชมภาพอาจจะไม่ได้ให้อรรถรสได้อย่างเต็มที่ แต่โชคดีที่ความสว่างของหน้าจอสูงถึง 600 nits จึงถือว่าสู้แสงแดดได้ดีค่ะ สำหรับกล้องถ่ายรูปน่าสนใจมากทีเดียวค่ะ เนื่องจากกล้องหลักที่ใช้คือ 50MP รูรับแสง f/1.8 ช่วยให้ภาพออกมาสวยงามดูสมจริง มีระบบโฟกัสอัตโนมัติ มาพร้อมกับกล้องหน้า 5MP ที่ถือว่าโดยรวมแล้วเป็นกล้องที่ยอดเยี่ยมทั้งคู่ค่ะ

ข้อดี

• รวดเร็วเพียงพอสำหรับงานในประจำวัน สามารถเล่นเกมง่าย ๆ ทั่วไปได้
• ความสว่างของหน้าจอสูงสุดที่ 600 nits
• สามารถเพิ่มพื้นที่เก็บข้อมูลด้วย MicroSD ได้สูงสุด 1TB
• อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ชาร์จเร็วที่ 33W
• คุณภาพกล้องที่ดี

ข้อควรพิจารณา

• ราคาไม่ได้ลดจากเดิมมากนัก
• ไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมหนักหรือกราฟฟิกสูง เพราะจะทำให้เครื่องหน่วงได้

เปิดตัวเมื่อมกราคม 2023 ราคาเปิดตัว 8,499 บาท

สำหรับรุ่นนี้ทาง OPPO เพิ่งจะเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2023 เป็นมือถือระดับกลางที่รองรับสัญญาณ 5G ช่วยให้คุณจัดการข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตได้เร็วขึ้นในราคาไม่ถึง 1 หมื่นบาทเท่านั้น โดยรุ่นนี้หน้าจอจะมีอัตราการรีเฟรชที่ดีกว่ารุ่น OPPO A17 นั่นก็คือ 90Hz ส่งผลให้การใช้งานราบรื่นไม่มีสะดุด ในส่วนของความละเอียดของหน้าจอนั้นยังคงใช้ HD+ เช่นเดิมค่ะ

สำหรับกล้องหลังก็มีสเปกเหมือน OPPO A17 ทุกอย่าง ดังนั้นมันจึงเป็นมือถือที่เก็บรายละเอียดได้ดีพอสมควร ทั้งยังโฟกัสได้อย่างรวดเร็ว มีช่วงไดนามิกและการเปิดรับแสงในปริมาณที่เหมาะสม โทนสีภาพจะออกไปทางนุ่มนวลมากกว่าสีที่ดูหลอกตาเกินไป นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติ Ultra-Clear Image 108MP ที่เพิ่มความละเอียดจาก 50MP เป็น 108MP ทำให้ภาพได้ออกมามีคอนทราสต์เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในส่วนของกล้องเซลฟี่นั้น 8MP ถือว่าเป็นความละเอียดระดับมาตรฐานไม่ได้สูงและไม่ได้ต่ำเกินไป สามารถประมวลผลใบหน้าได้อย่างรวดเร็ว

สำหรับโปรเซสเซอร์ที่ทางแบรนด์ใช้ แม้ว่าจะเป็นชิป Dimensity 700 ที่ใช้จะค่อนข้างเก่าแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ชิปรุ่นนี้ก็ยังคงทำงานได้รวดเร็วในระดับดี คุณสามารถสลับแอปไปมาได้อย่างสบาย ๆ และจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วินาที ในการเปิดแอปแต่ละตัว ในแง่ของฟังก์ชันการเล่นเกมนั้น จากที่เราได้ทดลองเล่นเกม Asphalt 9 บอกเลยค่ะว่ารุ่นนี้เล่นได้ไม่มีปัญหา มาพร้อมกับลำโพงคู่ที่จะมอบความสุขให้คุณอย่างเต็มที่

ข้อดี

• เพิ่งเปิดตัว 2023
• ประสิทธิภาพโดยรวมเป็นที่น่าพอใจ
• กล้องถ่ายรูปที่ดี
• โปรเซสเซอร์ที่รองรับ 5G
• ความสว่างของหน้าจอสูงถึง 600 nits
• อายุแบตเตอรี่ที่ดี พร้อมการชาร์จ 33W

ข้อควรพิจารณา

• ราคาไม่ได้ลดจากเดิมมากนัก
• ไม่ใช่มือถือที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมหนัก ๆ เพราะโทรศัพท์อาจอุ่นขึ้นเล็กน้อยระหว่างเล่นเกม
• ความละเอียดของหน้าจอเป็น HD+ ในราคานี้ถือว่าควรเปลี่ยนเป็นจอแบบ Full HD

เปิดตัวเมื่อพฤษภาคม 2022 ราคาเปิดตัว 5,999 บาท

OPPO A57 รุ่นนี้จะใช้โปรเซสเซอร์ Helio G35 แบบเดียวกับ OPPO A17 เลยค่ะ ดังนั้นจึงเป็นสมาร์ทโฟนที่ช่วยประหยัดพลังงานแน่นอน ในส่วนของเรื่องความช้านั้นก็ไม่ได้แย่มากนัก จริง ๆ แล้ว มันค่อนข้างเร็วและตอบสนองได้ดี จัดอยู่ในมาตรฐานโทรศัพท์ระดับกลาง แต่อย่างไรก็ตาม เราต้องบอกตามตรงว่ารุ่นนี้มีสเปกที่คล้ายกับ A17 หลายอย่างมากค่ะ แต่สิ่งที่ทำให้ A17 ยอดเยี่ยมกว่าคือคุณภาพของกล้องหลังที่ให้ความคมชัดได้ดีกว่า

แต่ทว่า สิ่งที่น่าแปลกใจคือรุ่น A57 มียอดขายที่ดีกว่า นั่นเป็นเพราะหลายคนไม่ได้ต้องการโทรศัพท์ที่มีสเปกกล้องหลักสูง โดยสิ่งที่รุ่นนี้มีความโดดเด่นก็คือกล้องเซลฟี่ที่คมชัดมากกว่า มาพร้อมกับลำโพงสเตอริโอคุณภาพดี บอกเลยว่ารุ่นนี้กล้องเซลฟี่ถ่ายรูปออกมาได้ดูดี มีสีสันสดใส และการปรับโทนสีผิวที่ถูกใจสาว ๆ แน่นอนค่ะ ถ้าคุณต้องการมือถือที่สามารถถ่ายรูปแล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดียได้ทันที OPPO A57 คือคำตอบของคุณค่ะ

ข้อดี

• กล้องเซลฟี่สวย
• รวดเร็วเพียงพอสำหรับงานในประจำวัน สามารถเล่นเกมง่าย ๆ ทั่วไปได้
• มีลำโพงสเตอริโอที่ดีกว่าโทรศัพท์ราคาประหยัด
• อายุแบตเตอรี่ใช้งานได้ตลอดทั้งวัน ชาร์จเร็วที่ 33W

ข้อควรพิจารณา

• ราคาไม่ได้ลดจากเดิมเลย แม้ว่าจะเปิดตัวไปนานแล้วก็ตาม
• คุณภาพกล้องหลังค่อนข้างธรรมดา
• มีแอป Bloatware เยอะเกินไป แต่สามารถถอนการติดตั้งได้
• ไม่เหมาะสำหรับการซื้อมาเล่นเกม

เปิดตัวเมื่อพฤศจิกายน 2022 ราคาเปิดตัว 4,499 บาท

ยังอยู่กับ OPPO ซีรีส์ A17 แต่ครั้งนี้เป็นรุ่น A17K ที่เปิดตัวตามหลังได้ไม่นานนัก แน่นอนว่าทางแบรนด์ยังคงใช้ชิป Helio G35 เหมือนเดิม ดังนั้นโปรเซสเซอร์ตัวนี้จึงให้การตอบสนองได้รวดเร็วในระดับที่ยอมรับได้ค่ะ ใช้เวลาในการเปิดใช้งานแอปประมาณ 2-3 วินาที และสามารถเล่นเกมทั่วไปได้อย่างราบรื่น

แต่อย่างไรก็ตาม A17K อาจจะเปิดใช้งานหลาย ๆ แอปพร้อมกันแล้วติดขัดนิดหน่อยนะคะ นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ A17K ตกมาอยู่ในลำดับที่ 4 ของบทความนี้ เนื่องจากจำนวน RAM ที่น้อยเกินไปเพียง 3GB ทำให้ตัวครื่องรองรับคำสั่งหลาย ๆ อย่างพร้อมกันไม่ได้ รวมถึงคุณภาพกล้องที่อยู่ในเกณฑ์สมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้นที่ไม่ได้โดดเด่นมากนัก แต่ด้วยราคาที่ไม่แพงจนเกินไปทำให้ข้อจำกัดเหล่านี้ไม่ใช่อุปสรรคในการใช้งาน อันที่จริงแล้วด้วยสเปกระดับนี้ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแบบทั่วไปค่ะ เพราะคุณสามารถใช้เล่นเกมเบา ๆ , ดู Youtube หรือเล่นโซเชียลมีเดียในแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้

ข้อดี

• เหมาะสำหรับการใช้งานเบา ๆ
• หน้าจอสามารถให้ความสว่างสูดสุด 600 nits เหมาะสำหรับใช้งานพื้นที่แดดจ้า
• อายุแบตเตอรี่ที่ยอดเยี่ยม

ข้อควรพิจารณา

• การชาร์จ 10W
• ราคาลดลงจากเดิมไม่มากนัก
• ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่หนักหน่วง
• คุณภาพกล้องจัดอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับเริ่มต้น

เปิดตัวเมื่อมีนาคม 2021 ราคาเปิดตัว 8,999 บาท

มาต่อกันที่ OPPO A74 5G แม้ว่ารุ่นนี้จะเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 2021 แต่ต้องบอกเลยว่าสเปกของเครื่องไม่ธรรมดาค่ะ สิ่งที่เป็นไฮไลท์ในรุ่นนี้คือกล้องถ่ายรูปให้มาถึง 4 ตัว โดยจะมีกล้องหน้า 16MP, กล้องหลังหลัก 48MP, กล้องอัลตร้าไวด์ 8MP และมาโครกับ Depth อีกอย่างละ 2MP ช่วยให้คุณสนุกกับการถ่ายรูปในโหมดต่าง ๆ มาพร้อมกับหน้าจอคมชัดระดับ FHD+ หรือ 1080 x 2400 พิเซล ที่เหมาะสำหรับใช้รับชมคอนเทนต์เป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การดูหนัง ซีรีส์ รวมถึงการสตรีมมิ่งออนไลน์ต่าง ๆ ก็ช่วยให้คุณได้รับความสุขจากภาพที่คมชัดได้อย่างเต็มที่

แม้ว่าชิปประมวลผลของรุ่นนี้ที่ใช้อาจจะสู้รุ่นใหม่ ๆ ไม่ได้ แต่ก็ยังถือเป็นสมาร์ทโฟนที่ตอบสนองการใช้งานได้อย่างครอบคลุมและมีความเร็วในระดับที่ดีพอประมาณค่ะ แถมยังรองรับสัญญาณ 5G อีกด้วยนะคะ เรียกว่าในราคามือถือที่ถูกเช่นนี้แต่กลับได้สเปกกล้องระดับโปร มาพร้อมกับหน้าจอคมชัดสีสันสดใส และชิปประมวลที่มีความเร็วระดับกลาง ๆ แต่กินพลังงานน้อยมากกกก ช่วยให้คุณใช้งานได้ตลอดทั้งวันด้วยการชาร์จเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้นค่ะ ใครที่สนใจในรุ่น OPPO A78 แต่สู้ราคาไม่ไหว แนะนำ OPPO A74 สามารถใช้แทนกันได้ค่ะ แถมยังมี RAM มากกว่าด้วยนะคะเพราะรุ่นนี้ใส่ RAM 6GB ในขณะที่ OPPO A78 ใช้ RAM เพียง 4GB

ข้อดี

• คุณภาพกล้องโดยรวมดีมาก ๆ เมื่อเทียบกับราคา
• เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
• หน้าจอคมชัดในระดับ FHD+
• จำนวน RAM และ ROM ที่น่าประทับใจ
• อาุยการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดี
• รองรับสัญญาณ 5G

ข้อควรพิจารณา

• รองรับ microSD สูงสุด 256 GB
• ราคาไม่ได้ลดจากเดิมมากนัก
• ไม่ใช่มือถือที่เหมาะสำหรับการเล่นเกมหนัก ๆ
• เปิดตัวตั้งแต่ปี 2021

เปิดตัวเมื่อเมษายน 2019 ราคาเปิดตัว 8,990 บาท

OPPO F11 มีจอแสดงผลระดับ FHD+ มอบสีสันที่ยอดเยี่ยมด้วยขอบจอที่บางเฉียบ เหมาะมากสำหรับการชมภาพยนตร์หรือวิดีโอ ในแง่ของคุณภาพเสียงนั้น ยังขาดระบบเสียงเบสที่ดี แนะนำให้คุณเสียบชุดหูฟังหรือใช้ลำโพงบลูทูธแทน ระบบปฏิบัติการใช้เป็น Android 9 Pie จากประสบการณ์ที่เคยใช้มา ค่อนข้างน่าพอใจค่ะ เนื่องจากอินเทอร์เฟซเข้าใจง่าย สามารถเข้าถึงบางแอปได้อย่างรวดเร็ว ชิปที่ใช้เป็น Helio P70 มี RAM 6GB และกราฟิกแบบ MP3 Mali-G72 หน้าจอโดยรวมถือว่ามีประสิทธิภาพการใช้งานที่ราบรื่น ตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดี อาทิเช่น การเล่นโซเชียลมีเดีย, การสตรีมวิดีโอ, การถ่ายโอนไฟล์ และแม้แต่การทำงานหลายอย่างพร้อมกัน นอกจากนี้การปลดล็อกด้วยลายนิ้วมือใช้เวลาเพียงไม่ถึง 0.5 วินาที ซึ่งถือว่ารวดเร็วมากในมือถือที่มีราคาเช่นนี้

สำหรับกล้องนั้น OPPO F11 มีกล้องหลังคู่ซึ่งประกอบด้วยกล้องหลัก 48MP รูรับแสง f/1.8 และกล้อง Depth 5MP สำหรับตรวจจับความลึก จุดเด่นหลักของกล้องคือโหมด Ultra Night ที่ช่วยให้คุณสามารถถ่ายภาพในที่แสงน้อยได้ดีขึ้น มีรายละเอียดและความคมชัด แต่ก็ยังมีนอยส์ให้เห็นอยู่บ้างหากแสงน้อยเกินไปจริง ๆ สำหรับกล้องหน้าคือ 16 MP รูรับแสง f/2.0 และยังมีโหมด AI Beauty ที่คุณสามารถปรับแต่งภาพเซลฟี่ได้ด้วยตนเองโดยการแก้ไขใบหน้าแบบดิจิทัลแบบเรียลไทม์

ข้อดี

• คุณภาพโดยรวมของกล้องที่ยอดเยี่ยม เหมาะสมกับราคา
• หน้าจอระดับ FHD+ เหมาะสำหรับการชมภาพยนตร์หรือวิดีโอ
• ราคาลดลงจากเดิมเยอะมาก
• เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป
• อายุแบตเตอรี่ก็เป็นอีกจุดแข็งของรุ่นนี้

ข้อควรพิจารณา

• OS ยังเป็น Android 9.0 (Pie), ColorOS 6
• คุณภาพเสียงยังไม่ดีเท่าที่ควร
• สำหรับการเล่นเกมที่มีสเปกหนัก หน้าจอจะค้าง
• โทรศัพท์ร้อนมากเมื่อใช้งานเป็นเวลานานติดต่อกัน
• เปิดตัวตั้งแต่ปี 2019