เราทุกคนต่างรู้กันดีว่าน้ำหอมกับผู้หญิงนั้นเป็นของคู่กัน พอ ๆ กับกระเป๋า, รองเท้า, เครื่องสำอาง หรือสกินแคร์ เพราะทุกครั้งที่คุณสาว ๆ จะออกไปข้างนอกนั้นการยกขวดน้ำหอมขึ้นมาฉีดตามจุดบริเวณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบนเสื้อผ้าหรือตามร่างกายก็มักจะเป็นสิ่งสุดท้ายของขั้นตอนการแต่งตัวที่เราทำกันอยู่ตลอดก่อนออกจากห้อง บางคนก็บอกว่ามันเป็นกิจวัตรด้านความงามอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ เพราะน้ำหอมเป็นเหมือนเวทมนตร์แห่งการยั่วยวนขั้นสูง ที่จะใช้กลิ่นสำหรับการดึงดูดผู้คนให้เข้าใกล้ การฉีดน้ำหอมสำหรับผู้หญิงนั้นเป็นเหมือนการเพิ่มความมั่นใจให้แก่ตนเอง ชวนให้คุณรู้สึกสง่างามและดูมีความหรูหราอยู่ในตัว หลายคน ๆ ก็อาจจะมีน้ำหอมสำหรับผู้หญิงเป็นของตัวเองอยู่บ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมจาก Miniso, น้ำหอม Versace, น้ำหอม Dior, น้ำหอม Chloe, น้ำหอม Dolce & Gabbana และอีกหลากหลายแบรนด์ที่เราเคยได้แนะนำกันไปบ้างแล้ว แต่สำหรับวันนี้ถือว่าพิเศษมาก ๆ ค่ะเพราะเรามีน้ำหอมจากแบรนด์ดังอีกหนึ่งตัวที่อยากแนะนำให้คุณได้รู้จัก เพราะเป็นน้ำหอมยอดฮิตตลอดกาลและยังถือเป็นน้ำหอมที่ดีที่สุดที่จัดอยู่ลำดับต้น ๆ เลยก็ได้ ซึ่งน้ำหอมที่เรากำลังพูดถึงอยู่นั้นก็คือ “น้ำหอม Chanel สำหรับผู้หญิง” นั่นเองค่ะ
หากเราจะพูดถึงเรื่องน้ำหอมที่มีความหรูหรา-ความแพง-ความมีระดับ คงไม่มีใครไม่รู้จักน้ำหอมจาก Chanel ที่เป็นสุดยอดของน้ำหอมผู้หญิงซึ่งได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั้งในและต่างประเทศ เพราะไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน น้ำหอม สำหรับผู้หญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็ยังคงเป็น Chanel No. 5 อยู่ดี เนื่องจากมันมีกลิ่นที่หอมแบบคลาสสิก เป็นกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว แถมยังเข้มข้นและทรงพลังแตกต่างจากน้ำหอมแบรนด์อื่น ๆ เพราะส่วนผสมค่อนข้างที่จะสลับซับซ้อนที่มาจากกลิ่นของดอกมะลิ, กุหลาบ, ไม้จันทน์ และวานิลลารวมถึงฝีมือการปรุงน้ำหอมชั้นยอดจากนักปรุงชื่อดังก็ทำให้ Chanel No. 5 ขึ้นแท่นเป็นน้ำหอมระดับตำนานไปโดยปริยาย แต่จริง ๆ แล้วในไลน์น้ำหอมจาก Chanel นั้นไม่ได้มีแค่ Chanel No. 5 เท่านั้นนะคะที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม น้ำหอมกลิ่นอื่น ๆ เองก็น่าสนใจไม่แพ้กันเลยค่ะและก็เชื่อว่าสาว ๆ หลาย ๆ คนก็คงอยากจะทดลองใช้น้ำหอมกลิ่นใหม่ ๆ จาก Chanel บ้าง ดังนั้นเพื่อให้สามารถรองรับความต้องการที่หลากหลายของทุกคนได้อย่างทั่วถึง ในวันนี้เราจึงมี “รีวิว 10 น้ำหอม Chanel สำหรับผู้หญิง” ที่มีกลิ่นหอมเอกลักษณ์และมีสไตล์ที่ต่างกันมาฝากคุณสาว ๆ กันด้วยนะคะ
น้ำหอม Chanel รุ่นไหนเหมาะสำหรับคุณมากที่สุด
- น้ำหอมที่มีกลิ่นหอมหวานละมุนละไมของมวลดอกไม้เหมาะสำหรับสาววัยทำงานและสาวหวาน : น้ำหอมชาเนล Chanel ALLURE
- น้ำหอมตัวดังที่มีการหยิบมาปรับสูตรใหม่ ปรับปรุงให้กลิ่นหอมและทันสมัยให้คนรุ่นใหม่เข้าถึงง่าย: น้ำหอมผู้หญิง Chanel No. 5 L'Eau (Eau De Toilette)
- น้ำหอมสุดโรแมนติกเหมาะสำหรับผู้หญิงหวาน ๆ มีกลิ่นที่หอมสดชื่นด้วยกลิ่นของดอกไม้และผลไม้ : น้ำหอมผู้หญิงจาก Chance Eau Tendre Eau De Parfum Spray
- น้ำหอมที่มีกลิ่นที่หอมหวานและโดดเด่นด้วยกลิ่นของดอกไม้นานาชนิด: Chanel Gabrielle Eau de Parfum น้ำหอมผู้หญิง
- น้ำหอมผู้หญิงกลิ่นคลาสสิคที่โด่งดังเหมาะสำหรับผู้หญิงทุกคน มีความสุขุมนุ่มลึก และให้ความเป็นผู้ใหญ่สูง: น้ำหอมชาเนล Chanel No. 5 Eau de Parfum น้ำหอมสำหรับผู้หญิง
- น้ำหอมที่ให้ความรู้สึกถึงความหรูหรา ขี้เล่น และแฝงไปด้วยกลิ่นของสาวสุดเซ็กซี่ : น้ำหอมชาเนล Chanel Coco Mademoiselle Eau de Parfum
ทำไมต้องเป็นน้ำหอมชาเนล (1,2)
Chanel ป็นภาษาฝรั่งเศสที่บ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิงแฟชั่นสูงที่มีความหรูหราอยู่ในตัวและอย่างที่ทราบกันดีว่า Chanel นั้นเป็นแบรนด์ยอดนิยมอันต้น ๆ ของโลก ที่ไม่เพียงแต่ผลิตเสื้อผ้า, รองเท้า, กระเป๋า, แว่นตา, เครื่องสำอาง, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว, เครื่องประดับชั้นดีอย่าง Jewelry หรือนาฬิกาที่เป็นที่รู้จักอย่างเดียวเท่านั้น แต่หนึ่งสิ่งที่ชาเนลถูกพูดถึงเป็นอย่างมากนั้นก็คือชื่อเสียงในเรื่องของ “น้ำหอมชาเนล” นั่นเองค่ะ
ซึ่งไม่ว่า Chanel จะหยิบจับอะไรก็ดูเหมือนจะเป็นที่ได้รับความสนใจจากผู้คนอยู่เสมอ เพราะด้วยคุณภาพและชื่อเสียงของแบรนด์ที่สะสมมาอย่างยาวนาน จึงเป็นเครื่องการันตีได้ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นจะต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับในสังคม อีกทั้ง Chanel ก็ยังเป็นแบรนด์แฟชั่นสไตล์ Unisex ที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชายอีกด้วย

Chanel เป็นที่รู้จักกันดีจากน้ำหอม Chanel No. 5 ที่โด่งดังทั่วโลก และเป็นน้ำหอมที่มียอดขายดีมาจนถึงทุกวันนี้ Chanel No. 5 ในตำนานถูกรังสรรค์ขึ้นโดยนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อว่า Ernest Beaux และได้มีการเกิดตัวเป็นน้ำหอมตัวแรกของแบรนด์ในปี 1921 สำหรับ Coco Chanel เปิดตัวครั้งแรกใน 3 ระดับความเข้มข้น ได้แก่ Parfum, Eau de Toilette และ Eau de Cologne น้ำหอม Chanel No. 5 เป็นน้ำหอมสกัดเข้มข้นและยังเป็นน้ำหอมตัวแรกที่อยู่ในกลุ่มฟลอรัล – อัลดีไฮด์ ซึ่งเป็นน้ำหอมชนิดแรกที่มีปริมาณอัลดีไฮด์ในองค์ประกอบอีกด้วย โดยจะมีกลิ่นหอมนุ่มนวลน่ารื่นรมย์ แต่ไม่เรียบง่าย ไม่ซับซ้อนเกินไป และมีความเป็นความคลาสสิกเหนือกาลเวลา
การเลือกประเภทน้ำหอมระหว่าง “EDP” และ “EDT” อันไหนติดทนนานกว่ากัน
น้ำหอมหลัก ๆ หลาย ๆ รุ่นจาก Chanel ทั้งหมด มักเป็นน้ำหอม EDP และแบบ EDT เสียส่วนใหญ่ ดังนั้นก่อนที่ซื้อน้ำหอมแต่ละกลิ่นนั้นคุณควรจะรู้ว่าตัวเองชอบน้ำหอมประเภทไหนก่อน
1. Eau De Parfum (EDP)
EDP เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้น 15% -20% และให้ความหอมที่ติดทนนาน อย่างน้อยก็ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นน้ำหอมเข้มข้นจึงทำให้มีกลิ่นแรงหรือฉุนเกินไปสำหรับผู้คนที่อยู่ใกล้ ๆ ตัวคุณ ดังนั้นจึงเป็นน้ำหอมที่ไม่เหมาะสำหรับการฉีดในสภาพอากาศที่ร้อน แต่หากคุณทำงานในห้องแอร์ก็ถือว่าสามารถฉีดได้โดยไม่ส่งกลิ่นฉุนรบกวนคนรอบข้าง
2. Eau De Toilette (EDT)
EDT เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นไม่มีมาก (ประมาณ 5% -15%) ให้การติดทนอยู่ที่ 4-6 ชั่วโมง จึงเหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวันที่ต้องออกไปข้างนอกห้องแอร์บ้างในบางเวลา และเนื่องจากเป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยจึงทำให้เรื่องความติดทนนานนั้นทำงานได้ดีไม่เท่าแบบ EDP แต่อย่างไรก็ตาม หากคุณเป็นคนที่ชอบความเบาบางของน้ำหอมก็ถือว่า EDT เป็นน้ำหอมที่ตอบโจทย์ ซึ่งยังมีข้อดีอีกอย่างก็คือเป็นน้ำหอมที่มีราคาไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับแบบ EDP
ทำความรู้จักกับโน้ตของน้ำหอมเพื่อให้ได้กลิ่นที่ใช่สำหรับคุณที่สุด
สิ่งสำคัญอีกอย่างของการเลือกซื้อน้ำหอมเลยนั่นก็คือการทราบถึงโน้ตของน้ำหอมนั่นเองค่ะ โดยโน้ตน้ำหอมก็คือตัวที่บอกถึงกลิ่นของน้ำหอมหลังจากที่ได้ทำการฉีดค่ะ เพราะว่าหลังจากที่ฉีดแล้วกลิ่นในแต่ละช่วงที่ได้จากน้ำหอมตัวเดียวกันนั้นจะแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงซึ่งนี้ก็คือเป็นสเน่ห์อีกอย่างหนึ่งของน้ำหอมค่ะ สำหรับโน้ตของน้ำหอมจะถูกแบ่งออกเป็น 3 โน้ตดังนี้
- Top notes หรือบางครั้งเรียกว่า headnotes คือกลิ่นที่คุณได้กลิ่นเป็นอันดับแรกหลังจากฉีดน้ำหอมโดยจะอยู่ในช่วง 5 – 15 นาทีแรก โดยกลิ่นแรกนี้มีบทบาทในการสร้างความประทับใจแรกพบและกำหนดเรื่องราวความเป็นไปของน้ำหอมขวดนั้นค่ะ แต่เมื่อระยะเวาผ่านไปเพียงครู่เดียวกลิ่น Top notes ก็จะค่อย ๆ จางหายไปแล้วถูกแทนที่ด้วยโน้ตตัวต่อมาค่ะ
- Middle Notes หรือว่า Heart Notes จะเป็นกลิ่นที่เข้ามาแทนค่ะ โดย Middle Notes ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของน้ำหอมเลยก็ว่าได้เพราะกลิ่นในช่วงนี้จะเป็นกลิ่นที่ถือเป็นหัวใจของน้ำหอม โดยระยะเวลาของกลิ่นในช่วงนี้จะอยู่ที่ 20 – 60 นาที
- Base Note จะเป็นกลิ่นสุดท้ายที่จ่อท้าย Middle Notes มาติด ๆ และกลิ่นในช่วงนี้จะเป็นกลิ่นที่จะติดอยู่นานที่สุดค่ะ โดยกลิ่นในโน้ตตัวนี้จะติดอยู่นานมากกว่า 6 ชั่วโมงเลยทีเดียว
ก่อนอื่นก็ต้องบอกเลยค่ะว่าแบรนด์ Chanel นั้นได้สร้างสรรค์ผลงานด้านน้ำหอมที่ไม่ธรรมดาซึ่งก็มีมากมายหลายกลิ่นให้คุณได้เลือก ซึ่งในวันนี้เราได้หยิบเอาน้ำหอมที่เป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ Chanel ที่มีตั้งแต่ Chanel No. 5 ในตำนานไปจนถึงการอัปเดตล่าสุดของกลิ่นคลาสสิกอย่าง No 5 L’Eau มานำเสนอและนอกจาก Chanel No. 5 แล้วก็ยังมีน้ำหอมในรุ่นอื่น ๆ ที่น่าสนด้วยเช่นกันค่ะ เอาเป็นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาเริ่มกันเลยนะคะ
น้ำหอมชาเนล Chanel ALLURE

ราคา 4,800 บาท*
กลิ่นโดยรวม | กลิ่นหอมหวานแนวดอกไม้ |
---|---|
ขนาด | 50 mL |
ประเภท | EDP |
Top Notes | - |
Middle Notes | - |
Base Notes | - |
น้ำหอมสำหรับผู้หญิง Chanel Paris - Biarritz Edt Spray

ราคา 3,200 บาท*
เชื่อว่าสาว ๆ น่าจะคุ้น ๆ ตากันมาบ้างแล้วสำหรับน้ำหอมกลิ่นนี้อย่างแน่นอน เพราะสาวเจนนี่ Blackpink เองก็เคยแชะภาพร่วมกับน้ำหอมกลิ่นนี้ด้วยเช่นกันค่ะ โดยน้ำหอมตัวนี้ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 2018 ในไลน์ของ Les Eaux de Toilette ถูกรังสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมชื่อดังอย่าง Olivier Polge ความพิเศษของน้ำหอมในคอลเลกชันนี้ก็คือการสร้างสรรค์น้ำหอมที่ตั้งชื่อตามการเดินทางและความสัมพันธ์ระหว่างกาเบรียล ชาแนลกับเมืองต่าง ๆ ที่เธอเคยได้ไปทำงานด้านแฟชั่นนั่นเองค่ะ
สำหรับกลิ่นที่เราเลือกมานี้ก็จะเป็นกลิ่นที่ตั้งชื่อตามเมือง Biarritz เมืองแห่งความเงียบสงบและตั้งอยู่ติดกับชายฝั่ง แถมเมืองนี้ก็ยังเป็นที่ที่เธอเลือกเปิดห้องเสื้อกูตูร์แห่งแรกด้วยนะคะ ทำให้กลิ่นที่ได้จากตัวของน้ำหอมจะเป็นกลิ่นของความสดชื่นและมีชีวิตชีวาเป็นพิเศษ โดยส่วนผสมที่โดดเด่นก็จะส้มจากซิซิลีผสานด้วยกลิ่นหอมสดใสของ Lily-of-the-Valley ซึ่งรวม ๆ แล้วก็ให้กลิ่นที่ของอากาสที่บริสุทธิ์ราวกับเราไปยืนรับลมทะเลริมชายฝั่งอย่างไรอย่างนั้นเลยทีเดียว
กลิ่นโดยรวม | ให้ความสดชื่น |
---|---|
ขนาด | 50ml |
ประเภท | EDT |
Top Notes | Tangerine, Orange, Bergamot, Lemon, Grapefruit |
Middle Notes | Neroli, Green Notes, Lily-of-the-Valley |
Base Notes | White Musk, Patchouli |
น้ำหอมผู้หญิง Chanel No. 5 L'Eau (Eau De Toilette)

ราคา 3,450 บาท*
กลิ่นโดยรวม | กลิ่นหอมสดชื่น |
---|---|
ขนาด | 35 ml |
ประเภท | EDT |
Top Notes | อัลดีไฮด์, Lemon, Neroli, ส้มแมนดาริน, ส้ม, Bergamot, Lime |
Middle Notes | กระดังงา, มะลิ, May Rose |
Base Notes | White Musk, Orris Root, Cedar, วานิลลา |
น้ำหอมสำหรับผู้หญิง Change Eau Fraiche Spray

ราคา 3,700 บาท*
Change Eau Fraiche Spray มาในลักษณะขวดกลม ตัวน้ำหอมจะเป็นสีเขียวอ่อน ๆ แลดูละมุนมากเลยละค่ะ ถ้าหากดูจากสีแล้วหลายคนอาจจะคิดไปต่าง ๆ นานาว่ากลิ่นจะออกเป็นกลิ่นเปรี้ยวใช่มั้ยคะ? แต่จริง ๆ แล้ว Change Eau Fraiche นั้นจะเป็นกลิ่นหอมชวนฝันที่ได้มาจากดอกไม้นานาพรรณ แต่ความหอมอบอวลนี้ก็จะแฝงไปด้วยกลิ่นหอมสดชื่นบาง ๆ ไม่ได้เป็นกลิ่นหอมดอกไม้ล้วน
กลิ่นของรุ่นนี้จะสื่อถึงตัวตนของสาว ๆ สมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ความสนุกสนานร่าเริง บวกด้วยความขี้เล่นเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมที่จะสื่อถึงความอ่อนหวานสไตล์ผู้หญิงด้วยเช่นกันการใช้งานของรุ่นนี้เองก็ค่อนข้างที่จะสะดวกเพราะว่าทางแบรนด์ได้ออกแบบให้สามารถฉีดลงบนผิวโดยตรงได้เลยทันทีค่ะ สำหรับสาว ๆ คนไหนที่ต้องการจะเปลี่ยนกลิ่นน้ำหอมจากกลิ่นหอมหวานแบบเดิม ๆ มาเป็นกลิ่นที่ดูกระปรี้กระเปร่าสดชื่นยิ่งขึ้นก็สามารถลองตัวนี้ได้นะคะ
กลิ่นโดยรวม | ดอกไม้ |
---|---|
ขนาด | 50ml |
ประเภท | EDT |
Top Notes | Lemon, Cedar,Citron |
Middle Notes | Water Hyacinth, Pink Pepper, มะลิ |
Base Notes | Patchouli, White Musk, Vetiver, Teak Wood, iris, Amber |
น้ำหอมชาเนล Chanel Coco Mademoiselle Eau de Parfum

ราคา 4,800 บาท*
กลิ่นโดยรวม | ดอกไม้ และ โอเรียนทัล |
---|---|
ขนาด | 50 ml |
ประเภท | EDP |
Top Notes | ส้ม, ส้มแมนดาริน, Bergamot, Orange Blossom |
Middle Notes | Turkish Rose, มะลิ, Mimosa, กระดังงา |
Base Notes | Patchouli, White Musk, Vanilla, Vetiver, Tonka Bean, Opoponax |
น้ำหอมผู้หญิงจาก Chance Eau Tendre Eau De Parfum Spray

ราคา 4,800 บาท*
กลิ่นโดยรวม | ดอกไม้ |
---|---|
ขนาด | 150 ml |
ประเภท | EDP |
Top Notes | Quince, Grapefruit |
Middle Notes | Hyacinth, มะลิ |
Base Notes | Musk, iris, Virginia Cedar, Amber |
น้ำหอมชาเนล Chanel No. 5 Eau de Parfum น้ำหอมสำหรับผู้หญิง

ราคา 6,700 บาท*
Chanel No. 5 เป็นน้ำหอมที่โดดเด่นที่สุดไม่ว่าจะกี่ยุคกี่สมัย ถือได้ว่าเป็นน้ำหอมที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ กลิ่นน้ำหอมประกอบด้วย ดอกมะลิ, กุหลาบ, Neroli, Sandalwood และเสริมด้วยกลิ่นจากพืชตระกูลส้ม รวมถึงกลิ่นหวาน ๆ จากวานิลลา ทำให้ Chanel No. 5 มีกลิ่นที่หอมหวานแต่แอบซ่อนความเย้ายวน ให้ดูเป็นที่ผู้หญิงที่ซุกซนนิด ๆ ถือเป็นเป็นกลิ่นที่สร้างความจดจำได้ทันทีที่เริ่มฉีด
กลิ่นโดยรวม | หอมเย้ายวน กลิ่นหอมหวาน แอบเซ็กซี่ |
---|---|
ขนาด | 100 ml |
ประเภท | EDP |
Top Notes | อัลดีไฮด์, กระดังงา, Neroli, Bergamot, Lemon |
Middle Notes | Iris, มะลิ, กุหลาบ, Orris Root, Lily-of-the-Valley |
Base Notes | Civet, Amber, Sandalwood, Musk, Moss, Vetiver, Vanilla, Patchoul |
น้ำหอม Chance Chanel Eau De Parfum

ราคา 6,700 บาท*
กลิ่นโดยรวม | ดอกไม้ |
---|---|
ขนาด | 100 ml |
ประเภท | EDP |
Top Notes | Pink Pepper |
Middle Notes | มะลิ, Iris |
Base Notes | Patchouli, Musk, Vanilla |
Chanel Gabrielle Eau de Parfum น้ำหอมผู้หญิง

ราคา 7,200 บาท*
กลิ่นโดยรวม | ดอกไม้ |
---|---|
ขนาด | 50 ml |
ประเภท | EDP |
Top Notes | Grapefruit, ส้มแมนดาริน, Black Currant |
Middle Notes | Orange Blossom, มะลิ, กระดังงา, ซ่อนกลิ่น, Lily-of-the-Valley, Pear, Pink Pepper |
Base Notes | Musk, Sandalwood, Cashmeran, Orris |
น้ำหอม Chanel น้ำหอมผู้หญิง COCO NOIR Eau De Parfum Spray

ราคา 7,200 บาท*
กลิ่นโดยรวม | กลิ่นโอเรียนทัล |
---|---|
ขนาด | 100 ml |
ประเภท | EDP |
Top Notes | Grapefruit, Bergamot, ส้ม |
Middle Notes | กุหลาบ, มะลิ, Narcissus, Peach, Geranium |
Base Notes | Patchouli, Sandalwood, Olibanum, Tonka Bean, Vanille, White Musk, Cloves, Benzoin |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 10 น้ำหอม Chanel สำหรับผู้หญิง ที่ควรมี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
การเลือกซื้อน้ำหอมให้แฟน – วิธีเลือกน้ำหอมผู้หญิงที่ดีที่สุดสำหรับคนที่คุณรัก
นอกจากเราจะซื้อน้ำหอมให้ตัวเองแล้ว น้ำหอมยังเป็นของขวัญสุดฮิตตลอดกาลที่ผู้คนนิยมมอบให้แก่คนรักหรือคนสนิท เพราะน้ำหอมเป็นของขวัญที่ค่อยข้างซื้อให้โดนใจผู้รับยาก ผู้ซื้อจะต้องมีความใส่ใจในระดับหนึ่ง ซึ่งมันบ่งบอกได้ถึงความสนิทสนมและความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้น้ำหอมเป็นของขวัญที่ดีไม่ว่าจะเนื่องในโกาสใดก็ตาม อย่างที่นิยมมอบน้ำหอมให้กันก็คงจะเป็นของขวัญวันเกิด, ของขวัญวันครบรอบ, ของขวัญวันวาเลนไทน์ และของขวัญรับปริญญา
สำหรับผู้หญิงแล้วการเลือกซื้อของขวัญให้ใครสักคนถือเป็นความสามารถพิเศษอีกอย่างของพวกเธอ แต่สำหรับคุณผู้ชายนั้นสิ่งนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่ยากไม่น้อยใช่มั้ยคะ เพราะการซื้อน้ำหอมอาจเป็นเรื่องที่น่าหนักใจและน่าปวดหัวมากสำหรับคุณผู้ชาย แต่ไม่เป็นไรค่ะ วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้อน้ำหอมให้ผู้หญิงที่ดีที่สุดมาฝากกันค่ะ
1. เลือกน้ำหอมจากกลิ่นยอดนิยม
หากคุณไม่แน่ใจว่าพวกเธอชอบกลิ่นไหน และคุณก็หาโอกาสจะถามพวกเธอไม่ได้ แม้ว่าจะมีน้ำหอมมากมายหลายกลิ่นบนโลกใบนี้ แต่โดยพื้นฐานแล้วกลิ้นน้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่นิยมตลอดกาลถือเป็นน้ำหอมกลิ่นพื้นที่ผู้หญิงทุกคนต้องหลงรักจะมีด้วยกันทั้งหมด 7 กลิ่น อันได้แก่

- กลิ่นดอกไม้ – เป็นน้ำหอมผู้หญิงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักปรุงน้ำหอมที่ยอดเยี่ยมคุณก็สามารถหากลิ่นนี้ได้ว่ามันเป็นกลิ่นนี้อย่างไร เพราะมันเป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่คุณคุ้นเคยนั่นเองค่ะ
- กลิ่นสดชื่น – นี่คือกลิ่นตระกูลซิตรัส Citrus หรือตระกูลส้ม ประกอบด้วย มะนาว, ส้ม, มะกรูด, ส้มโอ และอื่น ๆ มากมายที่คล้ายกัน มันจะเป็นกลิ่นที่ทำให้รู้สึกสะอาดและสดชื่นอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ
- กลิ่นโอเรียนทัล Oriental – ประกอบด้วยส่วนผสมต่าง ๆ จาก ไม้จันทน์, วานิลลา และอำพัน โดยกลิ่น Oriental ได้รับแรงบันดาลใจจากกลิ่นของอินเดียและอาหรับ พวกเขามีแนวโน้มที่จะดูอ่อนหวานและมุ่งเน้นไปที่การฉีดในตอนกลางคืนมากกว่า
- กลิ่น Fougere – หรือที่เรียกว่า ‘อะโรมาติก’ กลิ่นเหล่านี้มักมีกลิ่นของลาเวนเดอร์, หญ้าแฝก, โอ๊ค, มอส และโน๊ตของเฮอร์บี้อื่น ๆ โดยทั่วไปจะมีกลิ่นที่รู้สึกเหมือนกลิ่นหญ้า มักใช้เป็นกลิ่นน้ำหอมสำหรับผู้ชาย แต่ก็มีกลิ่นน้ำหอมสำหรับผู้หญิงออกมาวางขายเช่นกัน
- กลิ่น วู้ดดี้ Woody – เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นตามชื่อที่บ่งบอกถึงน้ำหอมกลิ่นไม้ มีความโดดเด่นด้วยลักษณะของไม้ที่อุดมสมบูรณ์ ช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวา, ความอบอุ่น, ความสง่างาม และความลุ่มลึก มักประกอบด้วยไม้จันทน์, สน, แพทชูลี่, หญ้าแฝก และซีดาร์วูด เหมาะสำหรับเป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชาย แต่ก็มีผู้หญิงไม่น้อยที่ชอบกลิ่นนี้ เพราะน้ำหอมกลิ่น Woody สามารถเพิ่มความแปลกใหม่ได้ โดยการเพิ่มกลิ่นของผลไม้, ดอกไม้, สมุนไพร และเครื่องเทศลงไป ซึ่งสามารถแบ่งเป็นกลุ่มย่อยได้เช่น Woody Oriental, Woody Leather, Woody Chypre, Woody Aromatic, Woody Floral, Woody Fruity และ Woody Spicy เป็นต้น
- กลิ่น Chypre – เป็นกลิ่นที่เหมาะกับผู้หญิงที่มีความซับซ้อนซับและดูเข้าถึงยาก กลิ่น Chypre เป็นน้ำหอมที่ยากที่สุดที่คุณจะเลือกให้โดนใจสาว ๆ ได้ เพราะพวกเขามักจะมีกลิ่นไม้อบอุ่นและมีองค์ประกอบของตระกูลน้ำหอมอื่น ๆ ผสมอยู่ด้วย
- กลิ่น Gourmand – น้ำหอมกลิ่นนี้มักจะเป็นกกลิ่น วานิลลา, คาราเมล, ช็อคโกแลต, ขนมหวาน และกลิ่นพวกท๊อฟฟี่ เป็นกลิ่นในตระกูลของหวานและขนมเค้กโดยแท้จริง
2. น้ำหอมที่เหมาะกับความสัมพันธ์
เมื่อซื้อน้ำหอมให้คนสำคัญที่คุณรัก คุณควรมองหาสิ่งที่เข้ากับสไตล์ของเธอ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เธอจะใช้จริง ๆ และนั่นก็เป็นของขวัญที่ควรจะเหมาะสมสำหรับโอกาสและระยะเวลาของความสัมพันธ์ด้วย ตัวอย่างเช่น
หากคุณกำลังออกเดทกับผู้หญิงที่ไม่สนใจเรื่องการแต่งหน้าหรือความงามมากนัก การซื้อ โคโลญจน์, โรลออนระงับกลิ่นกาย หรือ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน ขนาดเล็กที่มีกลิ่นหอมที่เธอสามารถโยนใส่กระเป๋าถือได้ ถือว่าเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมและไม่ฟุ่มเฟือยจนเกินเหตุค่ะ
ในทำนองเดียวกันในขณะที่น้ำหอมที่มีชื่ออย่าง “Loveswept” จะมอบความน่ารักให้กับความรักแบบสบาย ๆ ของคุณ แต่คุณอาจต้องการหลีกเลี่ยงการซื้อน้ำหอมที่มีคำว่า “Love” ในชื่อจนกว่าคุณทั้งสองจะแน่ใจในความสัมพันธ์แล้วทั้งคู่ ไม่เช่นนั้นคุณอาจจะทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจและอึดอัดได้ เพราะหากความสัมพันธ์ของคุณทั้งคู่ไปกันไม่รอด อย่างน้อย ๆ ทุกครั้งที่เธอหยิบน้ำหอมขึ้นมาใช้จะได้ไม่ต้องนึกถึงคุณทุกครั้งที่ใช้มัน เพราะอย่างที่เรารู้กันดีว่าน้ำหอมนั้นมีค่ามากกว่าเกินกว่าจะทิ้งลงถังขยะหากคุณไม่ได้คบกันต่อ
คุณไม่จำเป็นต้องซื้อน้ำหอมในราคาแพงจนเกินเหตุ แต่นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะซื้อน้ำหอมที่มีขายตามท้องถนนหรือเป็นน้ำหอมของปลอม สิ่งที่เราอยากจะบอกคุณก็คือ คุณอาจจะเลือกเป็นน้ำหอมแบรนด์ห้างได้ในราคาประหยัด ด้วยการซื้อน้ำหอมที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย เพราะส่วนใหญ่แล้วน้ำหอมจะขายตามปริมาณ อาทิเช่น ขนาด 25ml, 50ml, 75ml และ 100ml เป็นต้น
3. น้ำหอมที่เหมาะกับคู่ของคุณ
หากคุณไม่แน่ใจว่าจะหาน้ำหอมที่เหมาะกับคนสำคัญของคุณได้อย่างไร? วิธีที่ง่ายที่สุดในการเรียนรู้ว่าเธอชอบใส่กลิ่นแบบไหนก็คือถามเธอ แต่หากคุณอยากจะเซอร์ไพรส์เธอ คุณอาจจะต้องลองเสี่ยงไปกับการเดา โดยอาจจะลองใช้คำพูดที่กระตุ้นให้เธอเป็นคนบอกเอง อย่างเช่นคุณลองเข้าไปกระซิบข้างหูเธอแล้วพูดว่า “คุณหอมมาก คุณใช้น้ำหอมกลิ่นอะไรเหรอ?”
เมื่อพูดถึงการซื้อน้ำหอมคุณสามารถตัดสินน้ำหอมจากขวดได้ เพราะน้ำหอมไม่ใช่หนังสือ อย่างน้อยที่สุดขวดน้ำหอมก็สร้างความประทับใจครั้งแรกที่เห็นได้ไม่มากก็น้อยเลยค่ะ เพราะมีผู้หญิงหลาย ๆ คน ที่ซื้อน้ำหอมเพียงเพราะพวกเธอหลงไหลในรูปทรงของขวดน้ำหอมเพียงเท่านั้น 🙂

4. เลือกประเภทของน้ำหอมที่เหมาะสม
- Eau De Parfum (EDP) = หอมนาน เป็นน้ำหอมเข้มข้น
- Eau De Toilette (EDT) = หอมไม่นานเท่า EDP เป็นน้ำหอมที่เข้มข้นรองลงมา แต่มีราคาถูกลงมาเช่นกัน
หากคุณต้องการซื้อน้ำหอมเป็นของชวัญให้คนพิเศษ และคุณต้องการกลิ่นนี้เท่านั้น แต่คุณมีงบประมารที่จำกัด เราแนะนำให้คุณซื้อน้ำหอมกลิ่นเดิม แต่เลือกเป็นแบบ EDT ที่มีราคาถูกลงมาแทน ถือว่าเป็นทางเลือกที่ไม่เลวเลยใช่มั้ยคะ เพราะมันไม่ได้มีความแตกต่างระหว่างในเรื่องของกลิ่นน้ำหอม แต่มันจะแตกต่างกันในเรื่องของเข้มข้น การติดทนนาน และความแรงของกลิ่นเท่านั้น
5. อย่าซื้อน้ำหอมคุณภาพต่ำ
น้ำหอมคุณภาพต่ำอาจมีส่วนผสมที่เป็นอันตรายและอาจเป็นสารก่อมะเร็ง สิ่งเรากำลังจะสื่อก็คือให้คุณหลีกเลี่ยงสิ่งที่ขายบนถนนพวกขวดน้ำหอมแบรนด์เนมพร้อมส่วนลดมากมาย สิ่งเหล่านี้มักจะเป็นของปลอมและคุณจะต้องเจอกับกลิ่นที่ไม่คงที่ ไม่แน่นอน และมีส่วนผสมที่ไม่ปลอดภัย เราแนะนำให้คุณเลือกซื้อแบรนด์ที่เชื่อถือได้และเลือกซื้อน้ำหอมแบบ EDT ในรุ่นขนาดเล็ก ๆ อย่าง 25ml หรือ 50ml แทนที่จะเป็นการซื้อน้ำหอมคุณภาพต่ำค่ะ
วิธีการจัดเก็บน้ำหอม: วิธีในการช่วยให้น้ำหอมของคุณอยู่ได้นานขึ้น
หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่าน้ำหอมนั้นก็มีวันหมดอายุเช่นกัน เมื่อวันเวลาผ่านาน ๆ เข้า กลิ่นน้ำหอมก็จางลงหรืออาจจะเปลี่ยนไป ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ชอบซื้อน้ำหอมหลาย ๆ ขวดเก็บไว้พร้อมกัน ก็ไม่มีทางที่คุณจะใช้น้ำหอมหมดก่อนที่มันจะหมดอายุแน่นอน ซึ่งจุดจบสุดท้ายก้คือคุณจำเป็นต้องทิ้งน้ำหอมเหล่านั้นไปเสียดื้อ ๆ ดังนั้นวันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดี ๆ เกียวกับวิธีที่จะช่วยทำให้น้ำหอมของคุณอยู่นานขึ้นโดยที่กลิ่นไม่เปลี่ยนไปมาฝากกันค่ะ
- เก็บน้ำหอมของคุณในที่มืด : เพราะแสงจะทำลายเครื่องสำอางที่มีกลิ่นหอม
- เก็บน้ำหอมไว้ในที่แห้ง : ความเสียหายจากน้ำจะทำลายกลิ่นหอมของน้ำหอมได้ เพราะความชื้นมีผลต่อกลิ่นน้ำหอมโดยตรง มันอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีส่งผลต่อกลิ่น
- หลีกเลี่ยงการเก็บน้ำหอมไว้ในห้องน้ำ : เหตุผลเดียวกับเรื่องความชื้น เพราะห้องน้ำนั้นเป็นสถานที่ที่รวมความชื้นสูง ดังนั้นจึงไม่ควรเก็บน้ำหอมไว้ที่ห้องน้ำ
- เก็บน้ำหอมของคุณไว้ในกล่องเดิม : หากคุณมีข้อสงสัยบางอย่างเกี่ยวกับการน้ำหอม สิ่งที่คุณควรทำคือก็การเก็บในกล่องเดิมที่คุณได้มาในตอนแรก เพราะการเก็บขวดไว้ในกล่องเดิมสามารถเพิ่มอายุการใช้งานของกลิ่นได้อย่างมาก
- จัดเก็บบนชั้นวางระดับต่ำ : เพราะเคล็ดลับสำคัญที่ควรคำนึงถึงเป็นอันดับต้น ๆ การเก็บกลิ่นหอมไว้บนชั้นบนสุด อาจจะเป็นเคล็ดลับสำหรับความหายนะ เพราะการทำขวดน้ำหอมหกนั้นถือเป็นเรื่องน่าเศร้า แม้ว่าบางครั้งขวดอาจจะไม่แตก แต่ในขณะที่ตกนั้นสามารถทำลายพันธะเคมีในกลิ่นน้ำหอมได้
- ปิดฝาขวดไว้เมื่อไม่ใช้งาน : ออกซิเจนเป็นศัตรูตัวร้ายของน้ำหอม เพราะการทิ้งขวดไว้โดยไม่ได้ปิดฝาเป็นเวลา 2-3 ชั่วโมง อาจทำให้สมดุลของส่วนผสมเสียหายและกระตุ้นการระเหยได้
- หลีกเลี่ยงการเขย่าขวดน้ำหอมมากเกินไป : มันเป็นเหตุผลเดียวกับการที่ขวดน้ำหอมตกจากที่สูง เพราะสามารถทำลายพันธะเคมีในกลิ่นน้ำหอมได้
- รักษาอุณหภูมิให้คงที่ : เก็บน้ำหอมไว้ในที่เย็นและคงที่ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขวดน้ำหอมของคุณอยู่ในจุดที่ไม่ร้อนหรือเย็นเกินไป
เราสามารถเก็บน้ำหอมไว้ในตู้เย็นได้หรือไม่?
มีการถกเถียงกันมากมายในหัวข้อนี้ แต่ในความเป็นจริงคุณสามารถเก็บน้ำหอมไว้ในตู้เย็นได้ แต่ต้องขึ้นอยู่กับประเภทของมัน อุณหภูมิที่เย็นของตู้เย็นสามารถทำให้สมดุลทางเคมีที่ละเอียดอ่อนของน้ำหอมลดลง อย่างไรก็ตามอย่าลังเลที่จะเก็บโคโลญจน์และน้ำหอมแบบ Eau de Toilette (EDT) ของคุณไว้ในตู้เย็น เนื่องจากมันจะช่วยทำให้น้ำหอมมีประสิทธิภาพมากขึ้น
References: