สวัสดีเพื่อน ๆ ทุกคนค่ะห่างหายกันไปนานมากสำหรับบทความแนะน้ำหอมเพราะผู้เขียนแนะนำน้ำหอมไปหลายแบรนด์มากแล้ว ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ Tomford, Dior, Chanel หรือ Versace ดังนั้นบทความน้ำหอมเลยมีความอิ่มตัวเล็กน้อยค่ะ แต่ตอนนี้กระแสของ TikTok กำลังมาแรงค่ะและหลายคนก็เข้าถึงน้ำหอมมากขึ้นผ่านช่องทาง TikTok ผู้เขียนเลยอยากจะกลับมารีวิวน้ำหอมอีกครั้ง โดยในวันนี้จะเป็นบทความแนะนำ “น้ำหอมสำหรับผู้ชายวัย 30” ค่ะ
เมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี ผู้ชายย่อมต้องการน้ำหอมสักหนึ่งกลิ่นเพื่อแสดงออกถึงตัวตนของตัวเองและจะต้องเป็นน้ำหอมที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้และสามารถใช้ในที่ทำงานได้เหมือนกัน แต่การเลือกซื้อน้ำหอมสักกลิ่นอาจจะเป็นเรื่องที่ยากค่ะเพราะน้ำหอมมีหลายกลิ่นให้เลือก หากใครที่ไม่เข้าใจความเป็นธรรมชาติของกลิ่นก็อาจจะไม่สามารถเลือกกลิ่นน้ำหอมที่ชอบได้ วันนี้ผู้เขียนเลยจะมาให้ความรู้เกี่ยวกับน้ำหอมกันและมีน้ำหอมแบรนด์ดังมาแนะนำกันด้วย หากพร้อมแล้วก็ไปเลือกซื้อกันได้เลย
น้ำหอมสำหรับผู้ชายจากแบรนด์ไหน กลิ่นหอม มีเสน่ห์และเหมาะกับผู้ชายวัย 30 มากที่สุด ?
- น้ำหอมกลิ่นไม้กฤษณา กลิ่นหอมดูแพงให้ความเป็นผู้ใหญ่: Tom Ford Oud Wood Eau de Parfum น้ำหอม
- น้ำหอมที่สามารถฉีดได้ทุกสถานการณ์ หอมสดชื่นดูมีคลาส: Dior Sauvage Eau de Parfum น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นหอมสดชื่น แต่ยังคงถึงความสง่างามและสงบนิ่ง: Chanel Bleu De Chanel Eau de Toilette น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นหอมหรูหรา เย้ายวนใจ เหมาะสำหรับฉีดตอนเที่ยวกลางคืน: Paco Rabanne 1 Million Eau de Toilette น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นหอมละมุน ฉีดแล้วหอมสะอาดดูน่าค้นหา: Issey Miyake L'eau d'issey Pour Homme Eau de Toilette น้ำหอม
![]() Tom Ford Oud Wood Eau de Parfum น้ำหอม | ![]() Dior Sauvage Eau de Parfum น้ำหอม | ![]() Chanel Bleu De Chanel Eau de Toilette น้ำหอม | ![]() Paco Rabanne 1 Million Eau de Toilette น้ำหอม | ![]() Issey Miyake L'eau d'issey Pour Homme Eau de Toilette น้ำหอม |
น้ำหอมแบบไหนที่เหมาะสำหรับผู้ชายวัย 30 ?
น้ำหอมมีหลายกลิ่นหลายแบรนด์ให้เราได้เลือกค่ะและแน่นอนว่ามันเลือกยากมาก หลายคนอาจจะไม่ให้ความสนใจกับกลิ่นน้ำหอมมากนักแต่อันที่จริงแล้วกลิ่นหอมมีความสำคัญค่ะ ไม่ว่าจะในชีวิตประจำวันหรือในสภาพแวดล้อมการทำงานหรือทำธุรกิจก็ต้องฉีดน้ำหอม เพราะตัวกลิ่นหอมจะสามารถสร้างความประทับใจอย่างลึกซึ้งต่ออีกฝ่ายหนึ่งได้ ดังนั้นการใช้น้ำหอมจะช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับปรุงภาพลักษณ์ของตัวเองในสายตาของเพื่อน คนรักและคนเจรจาธุรกิจได้ด้วย แต่ในการฉีดน้ำหอมเราต้องเลือกน้ำหอมให้สมวัยกับตัวเองค่ะเพราะมันจะทำให้บุคลิกภาพของเราดูน่าเชื่อถือมากขึ้น
สำหรับผู้ชายเมื่อเข้าสู่วัย 30 ปี ช่วงชีวิตจะเปลี่ยนจากวัยรุ่นไปสู่ความเป็นผู้ชายแบบเต็มตัวและเป็นช่วงที่เราจะต้องดูดีมีสไตล์มากขึ้น ในช่วงวัยนี้หลายคนมีครอบครัวและมีตำแหน่งหน้าที่การงานที่มั่นคงแล้ว ในการเลือกน้ำหอมสำหรับวัย 30 ควรจะเลือกกลิ่นที่ดูสุขุมและดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แน่นอนว่ากลิ่นที่เลือกไม่ควรจะเป็นกลิ่นที่ดูรุ่นใหญ่มากจนเกินไปและไม่ควรจะเลือกน้ำหอมที่ดูเด็กเกินไปด้วยค่ะ ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้นกลิ่นน้ำหอมเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของแต่ละคนด้วย ผู้เขียนแนะนำให้ซื้อกลิ่นหอมที่ดูอบอุ่นและดูมีรสนิยม โดยอาจจะเลือกโน้ตน้ำหอมกลิ่นแรกให้สดชื่นหน่อยแล้วค่อยปิดกลิ่นด้วยกลิ่นวู้ดดี้ก็ได้ค่ะ
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอมสำหรับผู้ชายวัย 30
1. เลือกน้ำหอมกลิ่นที่ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น
เมื่อเข้าสู่วัย 30 ผู้ชายจะค่อย ๆ แสดงออกถึงความเป็นชายและความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น แต่เดิมในวัย 20 ปีคุณอาจจะใช้น้ำหอมกลิ่นซิตรัสเพื่อบ่งบอกถึงความมีชีวิตชีวา แต่เมื่ออายุย่างเข้า 30 ก็ต้องเปลี่ยนกลิ่นโดยให้เลือกกลิ่นที่แสดงถึงเสน่ห์ของผู้ชายและเลือกกลิ่นที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ผู้ชายในวัย 20 ปีจะเหมาะกับน้ำหอมกลิ่นสดชื่น (Fresh Note) เป็นอย่างมาก ในทางตรงกันข้ามเมื่ออายุ 30 ปี คุณต้องเลือกน้ำหอมกลิ่นไม้ (Woody Note) แทน เพราะน้ำหอมกลิ่นไม้เป็นน้ำหอมกลิ่นเฉพาะตัวที่สามารถแสดงเสน่ห์ของผู้ชายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้น้ำหอมกลิ่นสมุนไพร (Herbal Note) ก็เหมาะสำหรับผู้ชายวัย 30 ปีเหมือนกันเพราะไม่เพียงแต่ให้ความรู้สึกสดชื่นเท่านั้นแต่ยังให้กลิ่นที่ตราตรึงใจด้วย ผู้เขียนค่อนข้างชอบกลิ่นน้ำหอมฟูแฌร์ (Fougère) ค่ะ เพราะเป็นกลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว หลายคนอาจจะอยากรู้ว่ากลิ่นฟูแฌร์เป็นแบบไหน ตอบเลยค่ะว่ากลิ่นฟูแฌร์จะเป็นกลิ่นลาเวนเดอร์และมอส เมื่อฉีดแล้วจะแสดงภาพลักษณ์ของผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่และดูเป็นแด๊ดดี้น่าเข้าหาประมาณนี้ค่ะ
2. เลือกกลิ่นน้ำหอมที่แสดงถึงความเป็นผู้นำ

ในอายุ 30 ปีเป็นช่วงเวลาสูงสุดของอาชีพการงานของผู้ชาย ในวัยนี้คุณผู้ชายจะคุ้นเคยกับชีวิตวัยผู้ใหญ่และค่อย ๆ เข้าใกล้ความก้าวหน้าในอาชีพการงานมากขึ้น แน่นอนว่าในวัย 30 หลายคนอาจจะกลายเป็นเจ้าคนนายคนและเป็นเจ้าของกิจการบ้างแล้ว ในหน้าที่การงานแบบนี้คุณผู้ชายจะต้องสื่อสารกับลูกค้าหรือพนักงานในองค์กรบ่อย ๆ ซึ่งกลิ่นก็เป็นปัจจัยที่สามารถสร้างความประทับใจให้กับคนรอบข้างได้เป็นอย่างดี ดังนั้นการเลือกน้ำหอมที่แสดงถึงความเป็นผู้ใหญ่ ความสุขุมและความน่าเชื่อถือจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งกลิ่นวู้ดดี้โน้ต (Woody Note) เป็นตัวช่วยที่มีประสิทธิภาพที่สุดสำหรับผู้ชายที่ต้องการมีภาพลักษณ์แบบผู้นำ
3. เช็กความติดทนนานของน้ำหอม
น้ำหอมแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ Parfum, Eau de Parfum, Eau de Toilette และ Cologne โดยปกติแล้ว ส่วนประกอบของน้ำหอมจะประกอบด้วยน้ำมันน้ำหอม แอลกอฮอล์และน้ำ แน่นอนว่าอัตราส่วนการผสมของน้ำหอมจะแตกต่างกันไปซึ่งจะส่งผลต่อความเข้มข้นและความติดทนนานของน้ำหอมดังต่อไปนี้ค่ะ
|
|
ปกติแล้วน้ำหอมสำหรับผู้ชายมักมี 3 ประเภทที่ได้รับความนิยม ได้แก่ Eau de Parfum, Eau de Toilette และ Eau de Cologne ค่ะ น้ำหอมประเภท Parfum ติดทนนานก็จริงแต่ไม่ได้รับความนิยมเพราะหลายคนไม่ชอบตรงที่กลิ่นฉุนเกินไป อีกทั้งยังเป็นประเภทน้ำหอมที่หาซื้อได้ยากด้วย
Tom Ford Oud Wood Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 6,800 บาท*
Tomford Oud Wood Eau de Parfum เป็นหนึ่งในน้ำหอมคอลเลกชัน “Private Blend” ของทอมฟอร์ดและเป็นหนึ่งในน้ำหอมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจากทางแบรนด์ด้วย น้ำหอมเปิดตัวด้วยกลิ่นโรสวู้ด กระวานและพริกไทยซึ่งจะให้ความอบอุ่นและเย้ายวน เมื่อหมดกลิ่นหอมชั้นแรกก็จะตามด้วยกลิ่นของไม้กฤษณา (อู๊ด) ไม้จันทน์หอมและหญ้าแฝกซึ่งถือว่าเป็นกลิ่นหลักของน้ำหอมที่ช่วยเสริมให้คุณผู้ชายมีความเสน่ห์มากยิ่งขึ้น
สำหรับกลิ่นปิดท้ายจะเป็นกลิ่นของถั่วทองกา วานิลลาและแอมเบอร์ตอบโจทย์คนที่อยากได้น้ำหอมติดทนนานค่ะ แม้ว่าในทางเทคนิคแล้ว Tomford Oud Wood Eau de Parfum จะเป็นน้ำหอมสำหรับฤดูหนาว แต่ในโอกาสทั่วไปก็สามารถใช้งานได้ค่ะ บอกเลยว่าผู้เขียนชอบน้ำหอมกลิ่นนี้มากเพราะมันให้ฟีลแบบแด๊ดดี้วัยทำงานใส่สูทเท่ ๆ ยังไงยังงั้นเลยค่ะ สำหรับความติดทนน้ำหอมติดทนมากกว่า 5 ชั่วโมงเพราะมาในประเภท Eau de Parfum ค่ะ
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Rosewood, Cardamom, Pepper |
Middle Notes | Oud, Sandalwood, Vetiver |
Base Notes | Tonka Bean, Vanilla, Amber |
Dior Sauvage Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 5,590 บาท*
Dior Sauvage Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวตั้งแต่ปี 2018 จนถึงปัจจุบันก็ยังได้รับความนิยมอยู่มากเป็นกระแสเลยทีเดียว น้ำหอมกลิ่นนี้ตอบโจทย์สำหรับผู้ชายตั้งแต่วัย 20+ ไปจนถึง 30+ เลยค่ะเพราะเป็นกลิ่นที่ให้ภาพลักษณ์ที่ดี หอมสดชื่น ลึกลับและดูน่าค้นหามาก ท็อปโน้ตของน้ำหอมเป็นกลิ่นของมะกรูดและพริกไทยค่ะ ถัดมาจะเป็นกลิ่นของลาเวนเดอร์และหญ้าแฝก ปิดท้ายด้วยกลิ่นของวานิลลาและแอมบร็อกแซน
จากที่เห็นรายชื่อโน้ตน้ำหอมจะเห็นว่าโน้ตน้ำหอมน้อยมาก กลิ่นไม่ซับซ้อนเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบน้ำหอมหลายมิติ รูปแบบของน้ำหอมเป็นแบบ Eau de Parfum ค่ะติดทนนานพอประมาณ ทางแบรนด์ให้ข้อมูลมาว่าน้ำหอมสามารถฉีดได้ทุกฤดูกาลและมันก็เป็นแบบนั้นจริงค่ะ แต่ผู้เขียนมองว่าเหมาะสำหรับหน้าร้อนที่สุดเพราะสดชื่นในจุดนี้น้ำหอมดิออร์จะมีความเหนือกว่า Tomford Oud Wood Eau de Parfum อยู่หน่อยและเพราะกลิ่นของทอมฟอร์ดมันหอมแบบนุ่มลึกไม่เหมาะที่จะฉีดในหน้าร้อนเท่าไหร่นักค่ะ
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Bergamot, Pepper |
Middle Notes | Lavender, Star Anise, Nutmeg |
Base Notes | Vanilla, Ambroxan |
Chanel Bleu De Chanel Eau de Toilette น้ำหอม

ราคา 4,750 บาท*
มี Dior Sauvage Eau de Parfum แล้วจะไม่มี Chanel Bleu De Chanel Eau de Toilette ก็ไม่ได้ค่ะเพราะทั้งสองแบรนด์ฮิตมากในไทย หลายคนมองว่ากลิ่นของน้ำหอมทั้งสองไม่ค่อยแตกต่างอันที่จริงมันต่างกันมากนะคะ จุดเด่นของชาแนลเลยคือกลิ่นมันจะมีความซับซ้อนมากกว่าและมีความสดชื่นสไตล์สปอร์ตมากกว่าค่ะ แต่ข้อควรระวังเลยคือ Bleu De Chanel มีหลายรุ่นค่ะรุ่นที่เราแนะนำไม่ได้เป็น Eau de Parfum นะคะเป็น Eau de Toilette ตัวโน้ตน้ำหอมจะต่างกันอยู่รุ่น Eau de Parfum จะเน้นกลิ่นของไม้มากกว่า

สำหรับ Chanel Bleu De Chanel Eau de Toilette เปิดกลิ่นด้วยกลิ่นของเลมอนและเกรฟฟรุตที่สดชื่นตามด้วยกลิ่นมินต์และพริกไทยสีชมพู โน้ตน้ำหอมโน้ตกลางจะเป็นกลิ่นลูกจันทน์เทศและมะลิเป็นหลัก ส่วนโน้ตปิดของน้ำหอมจะเป็นกลิ่นธูปและกลิ่นไม้ที่นุ่มนวลชวนหลงใหลค่ะ กลิ่นหอมจะเป็นกลิ่นมั่นใจ กลิ่นแนวสปอร์ต สดชื่นและไม่ตกเทรนด์ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะสำหรับวัย 30+ มากกว่าวัยรุ่นค่ะ
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Grapefruit, Lemon, Mint, Pink Pepper |
Middle Notes | Ginger, Nutmeg, Jasmine, Iso E Super |
Base Notes | Incense, Vetiver, Cedar, Sandalwood, Patchouli, Labdanum, White Musk |
Versace Eros Eau de Toilette น้ำหอม

ราคา 3,280 บาท*
Versace Eros Eau de Toilette เป็นน้ำหอมอีกหนึ่งกลิ่นที่ผู้เขียนรู้สึกหลงรักค่ะ เพราะมันเป็นกลิ่นที่ช่วยส่งเสริมความเป็นผู้ชาย ดูดีมีระดับ สดชื่น เซ็กซี่และหอมหวานไปพร้อม ๆ กัน น้ำหอมเปิดกลิ่นด้วยกลิ่นสดชื่นของเลมอน และแอปเปิลและมินต์ เมื่อกลิ่นแรกแห้งกลิ่นที่เราจะได้กลิ่นคือกลิ่นอบอุ่นและลุ่มลึกของถั่วทองกา เจอเรเนียมและแอมบร็อกแซน ปิดท้ายด้วยกลิ่นวานิลลาและซีดาร์ให้ความรู้สึกหรูหราและความเป็นผู้ใหญ่ให้กับคนที่ฉีดค่ะ
Versace Eros มาในรูปแบบ Eau de Toilette เหมือนกับ Chanel Bleu De Chanel ค่ะ หลายคนบอกว่าติดทนนานพอ ๆ กันประมาณ 5+ ชั่วโมง น้ำหอมสามารถฉีดได้ทุกฤดูกาลแต่ผู้เขียนมองว่ามันเหมาะกับกลางคืนมากเป็นพิเศษ ใครที่ต้องการให้ภาพลักษณ์ของตัวเองดูแข็งแกร่ง เป็นผู้ใหญ่และดูน่าค้นหาต้องห้ามพลาดเลยเพราะกลิ่นนี้สะท้อนภาพลักษณ์แบบนั้นได้จริงค่ะ
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Mint, Green Apple, Lemon |
Middle Notes | Tonka Bean, Geranium, Ambroxan |
Base Notes | Vanilla, Vetiver, Oakmoss, Cedar |
Paco Rabanne 1 Million Eau de Toilette น้ำหอม

ราคา 3,080 บาท*
Paco Rabanne 1 Million Eau de Toilette เป็นน้ำหอมคลาสสิกตลอดกาลสำหรับคุณผู้ชายค่ะ ถึงแม้จะเปิดตัวเมื่อปี 2008 แต่ตอนนี้ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ นอกจากตัวกลิ่นแล้วตัวดีไซน์ของขวดยังสวยงามดูไฮโซสะดุดตามาก เมื่อถือไว้ที่มือเหมือนกับว่าเรากำลังกำทองคำแท่งอยู่เลยค่ะ หากถามว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะกับใครตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่อยากได้น้ำหอมกลิ่นเย้ายวนใจไว้ฉีดเพื่อบริหารเสน่ห์ให้กับตัวเองค่ะ กลิ่นหอมเปิดตัวด้วยกลิ่นสดชื่นของเปปเปอร์มินต์และส้มสีเลือด
ถัดมาจะเป็นกลิ่นของชินนามอนและกลิ่นกุหลาบช่วยเพิ่มความหวานและเย้ายวน ไฮไลต์ของน้ำหอมจะอยู่ที่กลิ่นปิดค่ะโดยจะมีกลิ่นอำพัน หนัง ไม้สีขาวและแพทชูลี่เมื่อฉีดแล้วจะให้ฟีลผู้ชายอบอุ่นแต่แฝงด้วยเสน่ห์เหลือร้าย 1 Million เป็นน้ำหอมเหมาะกับสภาพอากาศหนาวเย็นเช่นเดียวกับ Tomford Oud Wood Eau de Parfum และไม่ค่อยเหมาะสำหรับหน้าร้อนเหมือนกันด้วย จุดที่แตกต่างคือทอมฟอร์ดจะมีกลิ่นกฤษณาที่หอมยาวนานกว่าและดูนุ่มลึกกว่า
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Blood Mandarin, Peppermint |
Middle Notes | Cinnamon, Rose Absolute |
Base Notes | Amber, Leather, White Wood, Patchouli |
BVLGARI Man Wood Essence Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 1,190 บาท*
BVLGARI Man Wood Essence เป็นน้ำหอมที่จะช่วยยกระดับความมีเสน่ห์ของคุณผู้ชายผ่านกลิ่นของไม้ที่ดูหรูดูแพงค่ะ น้ำหอมเปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นสดชื่นของผิวเลมอนและน้ำมันผักชีสกัด ส่วนกลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของไม้ซีดาร์ หญ้าแฝกและไซเปรส ปิดท้ายด้วยกลิ่นกำยานและแอมเบอร์กริสเพื่อสร้างความลึกให้กับกลิ่นหอม บอกเลยว่า BVLGARI Man Wood Essence เป็นกลิ่นที่ฮิตมากของแบรนด์เลยค่ะใครที่ไม่เคยใช้ต้องลอง
น้ำหอมกลิ่นนี้จะเหมาะที่สุดในฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงค่ะ โดยจะตอบโจทย์หนุ่มวัยทำงานได้ดี ใครที่อยากได้น้ำหอมที่บ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของผู้ชายต้องห้ามพลาดเลย น้ำหอมมาในรูปแบบ Eau de Parfum ติดทนนานค่ะ การออกแบบขวดก็สวยและน่าใช้มาก ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นวู้ดดี้นุ่ม ๆ แนะนำเลยค่ะรับรองว่าใช้แล้วจะติดใจแน่นอน
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Essence of Coriander, Italian Citrus Zests |
Middle Notes | Cedar Wood, Vetiver, Cypress Wood |
Base Notes | Benzoin, Ambergris |
Gucci Guilty Absolute Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 5,600 บาท*
Gucci Guilty Absolute เป็นน้ำหอมกลิ่นหอมเย้ายวนและให้ความมีเสน่ห์ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้ฉีดเลยค่ะ ตัวกลิ่นมีกลิ่นโทนวู้ดดี้เช่นเดียวกับ BVLGARI Man Wood Essence แต่ตัวกลิ่นแตกต่างกันมากค่ะ กลิ่นหอมของ Gucci Guilty Absolute จะเป็นกลิ่นที่หอมเซ็กซี่กว่า เมื่อใช้แล้วจะสามารถสร้างความประทับใจและส่งเสริมให้คนฉีดดูเป็นผู้ชายโรแมนติก หากถามว่าน้ำหอมสูตรนี้เหมาะสำหรับฉีดตอนไหนตอบเลยค่ะว่าเหมาสำหรับการฉีดไปออกเดตเพราะฉีดแล้วจะสามารถสร้างความประทับใจให้กับสาว ๆ ได้เลย
โน้ตน้ำหอมไม่ได้ซับซ้อนมากค่ะเปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นหนัง ส่วนกลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นมัสกี้แพทชูลี่และกลิ่นของไซเปรส ปิดท้ายด้วยกลิ่นวู้ดดี้หอมนุ่มลึกค่ะ สำหรับในเรื่องฤดูกาล Gucci Guilty Absolute เหมาะที่สุดสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว สามารถใช้ได้ทั้งกลางวันและกลางคืนเลย แต่ห้ามฉีดเยอะไปนะคะเพราะมันหอมมาก หากฉีดเยอะไปคนอาจจะทักว่าเราตกถังน้ำหอมค่ะ
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Leather |
Middle Notes | Cypress, Patchouli |
Base Notes | Woody Notes, Vetiver |
Jo Malone Oud & Bergamot Cologne Intense น้ำหอม

ราคา 499 บาท*
ถัดมาเป็นน้ำหอม Jo Malone Oud & Bergamot Cologne Intense ค่ะ แน่นอนว่าน้ำหอมโจมาโลนเป็นที่หนึ่งในใจใครหลาย ๆ คน ผู้เขียนชอบมากที่ทางแบรนด์ไม่ได้จุกจิกในการตั้งชื่อเพราะทางแบรนด์ได้ส่วนผสมหลักมาตั้งเป็นชื่อน้ำหอมทำให้เรารู้ถึงกลิ่นได้ตั้งแต่แรกที่ได้ยินชื่อค่ะ กลิ่นน้ำหอมสูตรนี้เป็นกลิ่นอู๊ด (กฤษณา) เช่นเดียวกับ Tomford Oud Wood Eau de Parfum แต่โน้ตน้ำหอมจะซับซ้อนกว่าและให้กลิ่นกฤษณาที่ชัดกว่าเล็กน้อยค่ะ
Oud & Bergamot Cologne Intense เปิดตัวกลิ่นด้วยกลิ่นสดชื่นของเบอร์กาม็อต เลมอนและส้ม กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นกฤษณา ตอนแรกผู้เขียนงงกับกลิ่นเล็กน้อยเพราะกลิ่นเปิดกับกลิ่นกลางดูเหมือนจะตรงข้ามกันไปหน่อย แต่กลิ่นที่ออกมาเป็นกลิ่นที่เติมเต็มซึ่งกันและกันได้ดี น้ำหอมสามารถใช้ได้ทุกฤดูกาลอีกทั้งยังติดทนนานมากด้วย ผู้ชายคนไหนที่ต้องการความมั่นใจและต้องการโดดเด่นขึ้นในสายตาคนรอบข้างต้องลองใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ค่ะ บอกเลยว่าหอมจนหลายคนต้องเหลียวหลัง
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 9 มล. |
Top Notes | Bergamot, Lemon, Orange |
Middle Notes | Oud |
Base Notes | Virginia Cedar |
Issey Miyake L'eau d'issey Pour Homme Eau de Toilette น้ำหอม

ราคา 3,280 บาท*
แนะนำน้ำหอมกลิ่นหนัก ๆ กันมาเยอะแล้วก็ถึงคิวของ Issey Miyake L'Eau D'Issey Pour Homme กันบ้างค่ะ น้ำหอมแบรนด์นี้เป็นน้ำหอมชื่อดังจากประเทศญี่ปุ่น แน่นอนว่าท็อปโน้ตของน้ำหอมก็สื่อถึงดินแดนอาทิตย์อุทัยได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ กลิ่นเปิดของน้ำหอมจะเป็นกลิ่นของส้มยูซุและกลิ่นตระกูลซิตรัสเป็นหลักทำให้กลิ่นหอมเย็นขั้นสุด กลิ่นกลางเป็นกลิ่นลูกจันทน์เทศ ชินนามอนและลิลลี่กลางหุบเขา ปิดท้ายด้วยกลิ่นหญ้าแฝกตาฮิติ มัสค์และอำพัน
หากถามว่า L'Eau d'Issey Pour Homme เหมาะกับใคร ตอบเลยว่าน้ำหอมจะเหมาะมากสำหรับผู้ชายที่รักธรรมชาติและชอบความสดชื่นค่ะ กลิ่นหอมจะมีความอ่อนละมุนสามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้โดยไม่ต้องกลัวว่ากลิ่นจะฉุนจนเกินไปค่ะ คุณผู้ชายท่านไหนที่ชอบกลิ่นที่สะอาด ๆ แนะนำเลยค่ะเพราะกลิ่นนี้ปังจริง ๆ แต่น้ำหอมไม่ได้ติดทนนานมากนะคะประมาณ 3 ชม. เพราะเป็นน้ำหอมแบบ Eau de Toilette
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 125 มล. |
Top Notes | Yuzu, Lemon, Bergamot, Lemon Verbena, Mandarin Orange, Cypress, Calone, Coriander, Tarragon, Sage |
Middle Notes | Blue Lotus, Nutmeg, Lily-of-the-Valley, Saffron, Bourbon Geranium, Ceylon Cinnamon |
Base Notes | Tahitian Vetiver, Musk, Cedar, Sandalwood, Tobacco, Amber |
Burberry Hero Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 5,100 บาท*
Burberry Hero Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 2022 กลิ่นหลักของน้ำหอมจะเป็นกลิ่นอำพันและกลิ่นไม้ค่ะ กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมเป็นกลิ่นของน้ำมันหอมระเหยจากต้นสนไพน์ ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกำยานและธูป ปิดท้ายด้วยกลิ่นน้ำมันซีดาร์วูด 3 ชนิด หลายคนชอบกลิ่นนี้มากเพราะเป็นกลิ่นที่อบอุ่นและดูสุขุมนุ่มลึก บ่งบอกถึงความมีรสนิยมของผู้ฉีดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวค่ะ
น้ำหอม Burberry Hero Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวเป็นหลักค่ะ แต่อาจจะเหมาะสำหรับฉีดออกไปเที่ยวกลางคืนมากกว่ากลางวัน น้ำหอมมาในรูปแบบของ Eau de Parfum ติดทนนานมากว่ากันว่าติดทนนานถึง 7 ชม.เลยทีเดียว ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นไม้หรือกลิ่นอำพันต้องห้ามพลาดนะคะเพราะหอมจริงหอมจังค่ะ
ประเภทของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Pine Needles |
Middle Notes | Benzoin, Incense |
Base Notes | Trio of Cedarwood Oils |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ฉีดน้ำหอมยังไงให้หอมนานจนสาว ๆ เหลียวหลัง ?
นอกจากน้ำหอมจะเลือกซื้อได้ยากแล้วการฉีดน้ำหอมให้ติดทนนั้นยากกว่าค่ะ เพราะกลิ่นของน้ำหอมจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่เราฉีดเป็นหลัก หากใครที่เป็นคนชอบน้ำหอมอยู่แล้วคงจะรู้ดีว่าน้ำหอมกลิ่นเดียวกันแต่เมื่อฉีดกับคนที่แตกต่างกันกลิ่นที่ออกมาจะไม่เหมือนกันค่ะ ซึ่งเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเคมีในร่างกายของแต่ละคนและวิธีการฉีดน้ำหอมของแต่ละคนด้วย ต่อไปนี้เป็นวิธีการฉีดน้ำหอมที่สามารถช่วยให้น้ำหอมติดทนนานที่สุด

- ฉีดพ่นน้ำหอมก่อนออกนอกบ้าน 30 นาที
- ฉีดน้ำหอม 1-2 ครั้ง บริเวณจุดชีพจร ต้นขาด้านใน รอบเอวและสะบัก
นอกจากนี้กลิ่นของน้ำหอมยังสามารถเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับสภาวะการเก็บรักษา เมื่อเก็บน้ำหอมควรเก็บน้ำหอมไว้ในที่เย็นหรือเก็บไว้ในกล่อง พยายามอย่าให้น้ำหอมโดนแดดเพราะกลิ่นจะเปลี่ยนไปค่ะ ส่วนช่วงเวลาที่เหมาะสมใน การใช้น้ำหอมคือ 1 – 2 ปีนับจากวันที่เปิดใช้ค่ะ หากน้ำหอมหมดอายุแล้วไม่ควรใช้ค่ะเพราะกลิ่นหอมจะไม่มีประสิทธิภาพอีกต่อไปค่ะ
ก่อนจากกันวันนี้ผู้เขียนก็อยากจะแถมเกร็ดความรู้เกี่ยวกับช่วงเวลาในการฉีดน้ำหอมเล็กน้อยค่ะ เพราะการเลือกกลิ่นหอมให้ถูกเวลาจะสามารถเพิ่มเสน่ห์ให้กับคนที่ฉีดได้ ในตอนเช้าผู้เขียนแนะนำให้เลือกน้ำหอมที่มีโน้ตกลิ่นสมุนไพรเพราะสามารถให้ความสดชื่นได้ดี สำหรับช่วงบ่ายให้ลองใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นดอกไม้เย็น ๆ ที่มีความหวานเล็กน้อยเพื่อเพิ่มความสดชื่น ส่วนกลางคืนให้ใช้น้ำหอมกลิ่นวู้ดดี้เพราะจะทำให้หอมนานและดูเย้ายวนเป็นพิเศษ