10 น้ำหอมกลิ่นมะลิ ยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอม เรียบหรู มีระดับ ปี 2023

Bvlgari Splendida Jasmin เป็นน้ำหอมที่ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นมะลิมากค่ะ น้ำหอมจากทางแบรนด์ผ่านการปรุงโดยนักปรุงน้ำหอมชื่อดังโซฟี ลับเบ้ (Sophie Labbe) น้ำหอมได้ผสมผสานความหรูหราของกลิ่นดอกไม้เข้ากับกลิ่นไม้แห้งเพื่อสร้างความลึกลับ ความมั่นใจและความสง่างามให้กับผู้ที่ฉีดค่ะ ท็อปโน้ตของน้ำหอมเปิดตัวด้วยกลิ่นการ์ดิเนียและกรีนโน้ต ต่อด้วยกลิ่นที่เย้ายวนด้วยของไม้จันทน์และมะลิ ผิดป้ายด้วยกลิ่นแคชเมอรัน ถั่วทองกาและแพทชูลี่ เมื่อผสมผสานกันแล้วจะได้กลิ่นหอมที่ดูหรูหราค่ะ

ในแง่ของความติดทนนาน Splendida Jasmin Noir ติดทนในระดับปานกลางประมาณ 4 - 6 ชั่วโมงค่ะ กลิ่นน้ำหอมที่ออกมามีความบางเบาเหมาะสำหรับฉีดในตอนเย็นมากกว่าตอนเช้า ผู้เขียนเองค่อนข้างชอบขวดน้ำหอมที่ทางแบรนด์ออกแบบมาจึงรู้มาว่าขวดของน้ำหอมได้รับแรงบันดาลใจมาจากคำว่า “Noir” จึงมาพร้อมขวดแก้วสีดำและฝาสเปรย์สีทอง หากดูโดยรวมแล้วขวดน้ำหอมดูเรียบง่ายแต่โดดเด่นเฉกเช่นเดียวกับกลิ่นหอมที่อยู่ภายในค่ะ หากถามว่าน้ำหอม Splendida Jasmin Noir เหมาะกับใครผู้เขียนมองว่าเหมาะกับสาว ๆ ที่ต้องการน้ำหอมที่ให้ความหอมเย้ายวนและแฝงไปด้วยความมั่นใจ

Viktor & Rolf Flowerbomb เป็นน้ำหอมที่แสดงออกถึงความสดชื่นและมีชีวิตชีวา น้ำหอมกลิ่นนี้เปิดตัวในปี 2005 ค่ะ โดยมีนักปรุงน้ำหอม 3 คนช่วยกันคิดค้นซึ่งแต่ละคนก็เป็นปรมาจารย์ในด้านน้ำหอมกันทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็น Olivier Polge, Carlos Benaim และ Domitille Berthier ด้วยเหตุนี้น้ำหอม Flowerbomb จึงได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก น้ำหอมเปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นมะกรูดและชาเขียวที่ให้ความสดชื่น

กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของดอกมะลิ, ดอกส้มแอฟริกัน, กล้วยไม้, กุหลาบและฟรีเซีย ขอบอกเลยว่ากลิ่นมะลิผสมกับกลิ่นดอกไม้อื่น ๆ ได้ดีมากเลยค่ะ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของมัสก์และแพทชูลี เมื่อฉีดน้ำหอมแล้วจะให้ความรู้สึกหรูหราและแฝงไปด้วยความเซ็กซี่ค่ะ รูปแบบของน้ำหอม Eau de Parfum หลายคนที่เคยใช้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าติดทนนานมากและไม่จำเป็นต้องฉีดซ้ำบ่อย ๆ แต่ผู้เขียนขอเตือนนิดหนึ่งว่ากลิ่นเปิดจะฉุนมาก อาจจะต้องรอสักพักให้กลิ่นเริ่มจางไปก่อนแล้วค่อยออกจากบ้านค่ะ

Dior J’adore Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 1999 และยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลากว่า 20 ปี น้ำหอมมีกลิ่นดอกไม้ที่หรูหราเปิดตัวด้วยกลิ่นของดอกกระดังงาส่งมอบความสง่างามและมีเสน่ห์ให้กับผู้ฉีดใน ต่อมาจะเป็นกลิ่นกลางของกุหลาบเป็นกลิ่นรองที่มีความนุ่มนวล ปิดท้ายด้วยกลิ่นของดอกมะลิ 2 ชนิดคือมะลิธรรมดาและมะลิซ้อน ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่าดอกมะลิที่ทางแบรนด์ได้ใช้จะถูกเก็บเกี่ยวในช่วงรุ่งสาง ซึ่งช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่มะลิมีกลิ่นหอมแรงที่สุด เมื่อผสมผสานกลิ่นกันแล้วน้ำหอมจะให้ความมีเสน่ห์เย้ายวนแก่ผู้ฉีดได้

ผู้เขียนมองว่า J’adore Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เหมาะกับคนที่ชอบกลิ่นของดอกมะลิและกลิ่นดอกไม้ สำหรับความชัดของกลิ่นมะลิชัดกว่า Viktor & Rolf Flowerbomb ค่ะเพราะในโน้ตน้ำหอมมีกลิ่นมะลิเป็นกลิ่นปิด แน่นอนว่ากลิ่นหอมที่ละเอียดอ่อนจากดอกมะลิจะช่วยเสริมบุคลิกภาพได้ดี ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็สามารถฉีดน้ำหอมรุ่นนี้ได้ ส่วนเรื่องความติดทนนานน้ำหอมจะติดทนประมาณ 5 ชม. ค่ะเพราะเป็นน้ำหอมประเภท Eau de Parfum ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นมะลิต้องห้ามพลาดนะคะ

หาก J’adore Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นมะลิเป็นกลิ่นปิดก็ตรงข้ามกับ Gucci Bloom Eau de Parfum เลยค่ะเพราะน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นมะลิเป็นกลิ่นเปิด Gucci Bloom เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 2017 โดยมีนักปรุงน้ำหอมอย่าง Alberto Morillas เป็นผู้อยู่เบื้องหลังค่ะ อย่างที่เราได้บอกไว้น้ำหอมเปิดตัวกลิ่นหอมด้วยกลิ่นดอกมะลิ ถัดมาจะเป็นกลิ่นซ่อนกลิ่นและปิดท้ายด้วยกลิ่นของดอกเล็บมือนางที่จะให้กลิ่นคล้ายแป้งและให้ความหอมหวานคล้ายกับกลิ่นของดอกสายน้ำผึ้ง

ผู้เขียนมองว่าโดยรวมแล้ว Gucci Bloom Eau de Parfum เป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิงที่สามารถฉีดได้ทุกวันแบบไม่มีเบื่อค่ะ แต่จะเหมาะที่สุดสำหรับฉีดในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน น้ำหอมมาในประเภท Eau de Parfum ประสิทธิภาพและความติดทนนานจะไม่ทำให้คุณต้องผิดหวังเพราะติดทนนานถึง 5 ชั่วโมง แต่แอบกระซิบนิดหนึ่งค่ะว่าในช่วง 2 ชั่วโมงแรกน้ำหอมจะกลิ่นชัดมาก หลังจากเวลาผ่านไปแล้วยังคงได้กลิ่นอยู่แต่กลิ่นอาจจะเบาบางลงค่ะ

Diptyque Olene เป็นน้ำหอมอีกหนึ่งกลิ่นที่เราอยากแนะนำค่ะ ตอบโจทย์มากหากคุณชอบกลิ่นหอมของดอกมะลิและกลิ่นดอกไม้ เพราะน้ำหอมมีกลิ่นดอกไม้หรูหรา ผ่านการออกแบบมาเพื่อคนที่ชอบกลิ่นหอมสดชื่นและหอมหวานเมื่อฉีดครั้งแรกกลิ่นแรกที่ออกมาเลยจะเป็นกลิ่นนาร์ซิสซัสและสายน้ำผึ้ง กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของดอกมะลิและวิสทีเรีย ปิดท้ายด้วยกลิ่นดอกไม้สีขาวเพื่อเพิ่มความหอมให้กับน้ำหอม

ผู้เขียนมองว่า Diptyque Olene มีกลิ่นมะลิคล้ายกับ Diptyque Doson ค่ะ แต่ที่ผู้เขียนแนะนำกลิ่น Olene เพราะกลิ่นมันฉีดแล้วสบายจมูกมากกว่า Doson อีกทั้งกลิ่นมะลิไม่ได้เข้มข้นเกินไปจนฉุนด้วย เมื่อฉีดแล้วน้ำหอมจะสร้างกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์และสร้างความประทับใจไม่รู้ลืมให้กับทุกคนที่ได้กลิ่นค่ะ น้ำหอมมาในรูปแบบ Eau de Toilette แต่ติดทนนานมากกว่า 3 ชม. แน่นอน ใครที่ชอบกลิ่นน้ำหอมแบบสบายจมูกแนะนำค่ะ

Armani Jasmin Kusamono เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมสดชื่น น้ำหอมเปิดตัวครั้งแรกในปี 2020 ค่ะและได้รับความนิยมมากในกลุ่มคนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมเป็นกลิ่นลูกแพร์นาชิและพริกไทยสีชมพู ต่อด้วยกลิ่นของลิลลีแห่งหุบเขา ดอกส้มและดอกมะลิเพื่อช่วยเพิ่มความหอมของกลิ่นดอกไม้ ปิดท้ายด้วยไม้ซีดาร์และไม้จันทน์ ขอบอกเลยว่ากลิ่นลิลลีและกลิ่นของมะลิเข้ากันดีมากโน้ตกลางเป็นโน้ตที่ผู้เขียนรู้สึกประทับใจมากเลยค่ะ

น้ำหอมจะเหมาะมากสำหรับใช้งานในฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน โดยจะเหมาะสำหรับฉีดในตอนกลางวันค่ะเพราะกลิ่นหอมของน้ำหอมเข้ากันดีกับกลิ่นของแสงแดดในยามเช้า รูปแบบของน้ำหอมคือ Eau de Toilette ติดทนประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง แต่อาจจะติดทนนานกว่านั้นหากฉีดน้ำหอมอย่างถูกวิธีค่ะ ใครที่เป็นแฟนพันธุ์แท้ของน้ำหอม Armani ห้ามพลาดนะคะกลิ่นนี้คือดีมากจริง ๆ

The Body Shop Wild Jasmine เป็นน้ำหอมแบบ Eau de Toilette ที่เราอยากแนะนำค่ะเพราะกลิ่นมะลิชัดมากและมีราคาไม่แพงด้วย จริง ๆ แล้วน้ำหอมกลิ่นมะลิจาก The Body Shop ปรับสูตรมาเรื่อย ๆ เลยค่ะแต่สูตรนี้เป็นรุ่นล่าสุดค่ะ น้ำหอมเปิดกลิ่นด้วยกลิ่นของมะลิอินเดีย ตามด้วยกลิ่นใบไวโอเลตและปิดท้ายด้วยกลิ่นของดอกไอริสสีขาว ขอบอกเลยค่ะว่านอกจากน้ำหอมกลิ่นนี้จะตอบโจทย์สำหรับคนชอบกลิ่นมะลิแล้วยังตอบโจทย์คนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นดอกไม่ด้วย

หลายคนอาจจะสงสัยว่ากลิ่นจะเป็นแนวไหน ผู้เขียนตอบเลยกว่ากลิ่นจะคล้าย ๆ กับแป้งค่ะ เมื่อฉีดแล้วจะเป็นกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไม่ฉุนเลย หากดูจากรายการของเรา The Body Shop Wild Jasmine เป็นน้ำหอมกลิ่นแรกที่ใช้ดอกมะลิจากอินเดีย ว่ากันว่ากลิ่นมะลิอินเดียนั้นหอมมากทำให้ผู้เขียนอยากลองฉีดดูเลยค่ะ น้ำหอมอาจจะติดทนไม่นานนักนะคะเพราะเป็น Eau de Toilette แต่ก็สามารถพกพาไปฉีดซ้ำได้ค่ะ

Byredo Flowerhead เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นดอกไม้ บางเบาและโปร่งสบายค่ะ น้ำหอม Flowerhead มีเรื่องราวเป็นของตัวเองด้วยนะคะเพราะได้รับแรงบันดาลใจจากมาลัยดอกมะลิที่เจ้าสาวและเจ้าบ่าวแลกกันในงานแต่งงานแบบดั้งเดิมของอินเดีย เรื่องราวดังกล่าวทำให้ทางแบรนด์ได้ผลิตน้ำหอมกลิ่นนี้ออกมา กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมคือกลิ่นตังกุย แครนเบอร์รีและมะนาว ต่อมาเป็นกลิ่นของมะลิซ้อน, ซ่อนกลิ่น, กรีนโน้ตและกลีบกุหลาบ ปิดท้ายด้วยกลิ่นหนังกลับและแอมเบอร์กริสค่ะ

น้ำหอมมาในรูปแบบ Eau de Parfum คนที่เคยใช้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวว่าติดทนนานหลายชั่วโมงมากและกลิ่นก็ไม่ได้ฉุนด้วย หากคุณกำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นใหม่ที่จะทำให้วันของคุณพิเศษยิ่งขึ้นทุกครั้งที่ฉีด Byredo Flowerhead เป็นทางเลือกที่ดีแน่นอนค่ะห้ามพลาดเลย

Jo Malone Jasmine Sambac & Marigold เป็นโคโลญจน์เข้มข้นที่มีกลิ่นดอกไม้หอมหวานโดยกลิ่นที่ชัดมากคือกลิ่นดอกมะลิและดอกดาวเรืองค่ะ น้ำหอมกลิ่นไม่ฉุนเลยนะคะให้ความรู้สึกเหมือนกำลังสูดกลิ่นดอกไม้ในสวนดอกไม้เลย กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมคือกลิ่นดอกดาวเรืองค่ะ ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของดอกซ่อนกลิ่น, มะลิซ้อน, มะลิอียิปต์และดอกสายน้ำผึ้ง ปิดท้ายด้วยกลิ่นกำยานที่เข้ากันดีกับกลิ่นดอกไม้

น้ำหอม Jo Malone Jasmine Sambac & Marigold มีกลิ่นหอมที่เหมาะสำหรับทุกโอกาสและทุกฤดูกาล แต่จะโดดเด่นเป็นพิเศษในช่วงฤดูร้อนค่ะ สามารถฉีดได้เลยหากต้องการความรู้สึกสดชื่น น้ำหอมนี้ติดทนตลอดทั้งวัน คุณจึงสามารถเพลิดเพลินกับกลิ่นโปรดได้โดยไม่ต้องฉีดซ้ำค่ะ ใครที่เคยใช้น้ำหอมโจมาโลนมาแล้วคงรู้ดีนะคะเพราะแบรนด์นี้ไม่เคยทำให้คนซื้อผิดหวังค่ะ

Tom Ford Jasmin Rouge เป็นน้ำหอมที่เหมาะมากหากคุณกำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นมะลิที่กลิ่นชัดค่ะ น้ำหอมแบรนด์ทอมฟอร์ดเป็นน้ำหอมระดับไฮเอนด์อยู่แล้วดังนั้นกลิ่นหอมที่ออกมาจะเป็นกลิ่นที่มีระดับ โน้ตน้ำหอมของทอมฟอร์ดจะมีความซับซ้อนมากค่ะ โดยกลิ่นแรกที่ปล่อยออกมาจะเป็นกลิ่นของอบเชย, ขิง, มะกรูด, กระวาน, พริกไทยและส้มแมนดาริน ต่อด้วยกลิ่นกลางอย่างมะลิ, กระดังงา, เนโรลี, ดอกแขมและคลารีเสจ ปิดท้ายด้วยกลิ่นไม้ วานิลลาและกลิ่นหนังค่ะ

สำหรับผู้เขียนมองว่าน้ำหอมนี้เหมาะสำหรับทุกโอกาสเลยค่ะ ทั้งโอกาสที่เป็นทางการ เช่น งานแต่งงาน งานพรอม ไปจนถึงกิจกรรมประจำวัน เช่น การใช้ฉีดในที่ทำงานหรือโรงเรียน อีกทั้งยังสามารถฉีดได้ทั้งในกลางวันและกลางคืน น้ำหอมเหมาะสำหรับทั้งผู้หญิงและผู้ชายนะคะ ขวดน้ำหอมก็สวยมากถึงแม้ว่าราคาจะแพงไปหน่อยแต่ก็หอมนานเพราะเป็น Eau de Parfum ค่ะ