Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » สุขภาพและความงาม » ของใช้ส่วนตัว » น้ำหอม » รีวิว น้ำหอมแบรนด์ไทย แบรนด์ไหน หอม ติดทนนานที่สุด ปี 2023

รีวิว น้ำหอมแบรนด์ไทย แบรนด์ไหน หอม ติดทนนานที่สุด ปี 2023

Sunflower Lalita โดย Sunflower Lalita
January 25, 2023
ใน ของใช้ส่วนตัว
รีวิว น้ำหอมแบรนด์ไทย แบรนด์ไหน หอม ติดทนนานที่สุด
Share on FacebookShare on Twitter

สารบัญ

  • น้ำหอมแบรนด์ไทย เลือกแบรนด์ไหนดี ?
  • เคล็ดลับในการเลือกน้ำหอม
    • 1. ประเภทกลิ่นของน้ำหอม
    • 2. โน้ตน้ำหอม
    • 3. ความเข้มข้นของน้ำหอม
  • น้ำหอม JD Perfume
  • น้ำหอม MITH Blue Wood
  • Madame Fin มาดามฟิน รุ่นคลาสสิค
  • น้ำหอม Prem Natural Collection
  • น้ำหอม PUNN PARFUM Energetic
  • น้ำหอม artepolé – Eau de Gleam
  • น้ำหอมบัตเตอร์ฟลาย Butterfly Thai Perfume
  • น้ำหอม LAB Parfumo
  • Scentery น้ำหอม Signature Collection
  • น้ำหอม Journal The Legacy Parfum (Signature)
  • ตารางเปรียบเทียบ รีวิว น้ำหอมแบรนด์ไทย แบรนด์ไหน หอม ติดทนนานที่สุด ปี 2023
  • วิธีการใช้น้ำหอมที่ถูกต้อง
    • 1. ห้ามถูน้ำหอมเด็ดขาด
    • 3. ฉีดตรงจุดชีพจรต่าง ๆ
    • 4. ใช้น้ำหอมหลังจากอาบน้ำ
    • 4. ควรทาโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม
    • 5. ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า
  • บทสรุปส่งท้าย

หากเอ่ยถึงเรื่องของกลิ่นที่ช่วยสร้างความมั่นใจและช่วยสร้างเสน่ห์ที่น่าดึงดูด หลาย ๆ คนก็คงจะเดาได้ไม่ยากเลยค่ะว่าวันนี้เราจะมารีวิวน้ำหอมกันอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากว่าใครที่เคยได้ติดตามบทความรีวิวบนเว็บไซต์ของเราก็น่าจะพอทราบกันดีว่าเราเคยได้รีวิวน้ำหอมไปหลายต่อหลายแบรนด์แล้วค่ะ อาทิเช่น น้ำหอม Tom Ford, น้ำหอม Gucci, น้ำหอม Jo Malone, น้ำหอม Bvlgari, น้ำหอม Dolce & Gabbana, น้ำหอม Chloe, น้ำหอม Armani, น้ำหอม Dior, น้ำหอม Versace รวมไปถึงน้ำหอม Chanel และอีกมากมาย

แต่เรากลับยังไม่เคยได้รีวิวน้ำหอมแบรนด์ไทยกันแบบจริง ๆ จัง ๆ เลยสักครั้ง ดังนั้นวันนี้เราก็เลยถือโอกาสมารีวิว 10 น้ำหอมแบรนด์ไทยที่มาพร้อมกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งเรื่องของคุณภาพนั้นก็จัดว่าดีงามไม่แพ้แบรนด์นอกเลยทีเดียว แถมในเรื่องราคาเองก็ค่อนข้างที่จะเป็นมิตรอีกด้วย เอาเป็นว่าถ้าหากพร้อมกันเลยก็ขอเริ่มต้นการรีวิวน้ำหอมแบรนด์ไทย ณ บัดนี้….

น้ำหอมแบรนด์ไทย เลือกแบรนด์ไหนดี ?

  • น้ำหอมผู้หญิงกลิ่นหวานหอมสดชื่น สามารถใช้งานได้ทุกวัน: น้ำหอม LAB Parfumo
  • น้ำหอมผู้ชายกลิ่นคล้ายกับแบรนด์ดัง ปรุงพิเศษเพื่อให้เหมาะกับสภาพอากาศเมืองไทยมากที่สุด: น้ำหอม MITH Blue Wood
  • น้ำหอมกลิ่นเซ็กซี่ เสริมเสน่ห์ได้ดี สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย: Madame Fin มาดามฟิน รุ่นคลาสสิค
  • น้ำหอมแนวสปอร์ต เหมาะสำหรับช่วงกลางวันมากที่สุด ใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย: น้ำหอม PUNN PARFUM Energetic
  • น้ำหอมผู้ชายแนวสะอาดสดชื่น เหมาะสำหรับใช้ในโอกาสที่เป็นทางการ: น้ำหอม artepolé - Eau de Gleam
  • น้ำหอมจากไม้หอมและดอกไม้สีขาว มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์: น้ำหอม Journal The Legacy Parfum (Signature)

เคล็ดลับในการเลือกน้ำหอม

การเลือกซื้อน้ำหอมถือเป็นขั้นตอนที่ละเอียดมาก ๆ ค่ะ ดังนั้นแล้วในส่วนนี้จำเป็นต้องใช้ความพิถีพิถันในการเลือกค่ะ ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ ด้านล่างนี้ก็จะเป็นเคล็ดลับในการเลือกน้ำหอมที่ช่วยให้คุณเลือกซื้อน้ำหอมได้ง่ายและตอบโจทย์การใช้งานได้มากขึ้น

1. ประเภทกลิ่นของน้ำหอม

ประเภทกลิ่นของน้ำหอมแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ
ประเภทกลิ่นของน้ำหอมแบ่งออกเป็น 4 ประเภทหลัก ๆ

ก่อนที่จะไปถึงเรื่องของโน้ตน้ำหอมนั้นก็มาดูกันที่เรื่องของประเภทกลิ่นกันก่อนเลยค่ะ ซึ่งวิธีการจำแนกเหล่านี้จะช่วยทำให้กลิ่นของน้ำหอมเข้าถึงได้ง่ายขึ้นและเพื่อให้ได้เห็นภาพที่ชัดเจนมากขึ้น แล้วนอกจากนี้มันก็ยังช่วยทำให้เราตัดสินใจได้ค่ะว่าจะต้องเลือกซื้อกลิ่นอะไรถึงตอบโจทย์ความต้องการของตัวคุณเองมากที่สุด ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกลิ่นน้ำหอมจะถูกจำแนกออกเป็น 4 ตระกูลหลัก ๆ ซึ่งก็ได้แก่

1.1 Floral

สำหรับตระกูลแรกก็คือกลิ่น floral ซึ่งก็จะเป็นตระกูลที่ได้รับความนิยมมากที่สุด อีกทั้งยังเป็นกลิ่นที่ค่อนข้างกว้าง โดยเราจะพบในน้ำหอมของผู้หญิงเสียส่วนใหญ่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าในน้ำหอมผู้ชายจะไม่มีกลิ่นในตระกูลนี้ผสมอยู่นะคะ ตระกูล floral จะให้กลิ่นที่หอมหวานตั้งแต่กลิ่นหวานที่เบาบางไปจนถึงความหวานที่เข้มข้นและซับซ้อนมากขึ้น โดยในตระกูลนี้ก็จะถูกแบ่งเป็น 4 กลุ่มย่อย ได้แก่

  • Floral คือกลิ่นหอมคล้ายกับกลิ่นของดอกไม้สด อย่างเช่นกลิ่นของกุหลาบหรือลิลลี่
  • Soft Floral จะเป็นกลิ่นที่ให้สัมผัสที่บางเบา นุ่มนวล โดยจะเป็นกลิ่นหอมของดอกไม้อ่อน ๆ มีความหวานและปนด้วยกลิ่นหอมคล้าย ๆ กลิ่นแป้งเบา ๆ เช่น กลิ่นของดอกมะลิ
  • Floral Oriental จะเป็นกลิ่นที่มีความกลมกล่อมระหว่างกลิ่นหวานหอมของดอกไม้
  • สุดท้ายกลิ่นของเครื่องเทศเล็กน้อยอย่างเช่นกลิ่น Orange blossoms นั่นเองค่ะ

1.2 Oriental / Amber

สำหรับตระกูล Oriental หรือ Amber ก็จะเป็นตระกูลที่มาพร้อมกลิ่นที่เข้มข้นอย่างกลิ่นของเครื่องเทศและสมุนไพร ดังนั้นตระกูลนี้จึงให้ความรู้สึกที่ซาบซ่ายั่วยวนและอบอุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความหอมหวานทำให้กลิ่นจึงนุ่มนวลขึ้นค่ะ กลุ่มย่อยในตระกูลนี้มีทั้งหมด 3 กลุ่มค่ะ

  • Soft Oriental ( Soft Amber) เป็นกลิ่นของควันหอมที่ผสมผสานกับเครื่องเทศอันแสนจะอบอุ่นอย่างกลิ่น Anise นั่นเองค่ะ
  • Oriental (Amber) เป็นกลิ่นที่มีทั้งความหวาน ความอบอุ่น และความหรูหราได้อย่างลงตัวมาก ๆ ค่ะ เช่น กลิ่นวานิลลา, อบเชย, มัสก์ เป็นต้น
  • Woody Oriental (Woody Amber) เป็นกลิ่นสไตล์ Earthy ที่ให้ความหอมแบบน่าดึงดูด เช่น Myrrh

1.3 Woody

ตระกูล Woody จะเป็นตระกูลที่ให้กลิ่นที่อบอุ่นด้วยกลิ่นหอมไม้ ๆ อะไรทำนองนั้นค่ะ แต่ในบางครั้งถ้าหากเข้มเกินไปก็อาจจะทำให้มันขมเอาได้ ดังนั้นจึงได้มีการนำมาผสมผสานกับกลิ่นที่ให้ความสดชื่นอย่างกลิ่นดอกไม้หรือกลิ่นซิตรัส ฉะนั้นแล้วสำหรับกลิ่นในตระกูลนี้จึงให้ทั้งความอบอุ่น ความน่าค้นหาและน่าหลงใหล

  • Woods เป็นกลิ่นหลักในตระกูลนี้ค่ะ โดยจะอิงจากกลิ่นต่าง ๆ เช่น ไม้ซีดาร์และไม้จันทน์ แต่จะนำมาผสมผสานกันเพื่อสร้างกลิ่นหอมในแนววูดดี้ อย่าง Patchouli
  • Mossy Woods เป็นกลิ่นที่มีความหวานและนุ่มที่เกิดจากการนำกลิ่น Earthy มาผสมกลิ่นของความหวาน เช่นกลิ่นหญ้าแฝกหอมก็อยู่ในกลุ่มย่อยนี้เช่นกันค่ะ
  • Dry Woods เป็นกลิ่นของไม้แบบแห้ง ๆ ผสมกับกลิ่นของเครื่องหนัง เช่น กลิ่นไม้จันทน์

1.4 Fresh

สุดท้ายก็คือตระกูล Fresh ซึ่งจะพบเจอได้บ่อยในน้ำหอมผู้ชายค่ะ โดยตระกูลนี้ค่อนข้างจะโดดเด่นในเรื่องกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสะอาดและสดชื่นเป็นหลัก แล้วก็อาจจะมีการนำไปผสมกับกลิ่นเครื่องเทศบ้างเพื่อที่จะให้กลิ่นนั้นมีความโดดเด่นมากขึ้น

  • Aromatic เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกหอมสะอาดสดชื่นจากกลิ่นของสมุนไพรที่ผสมด้วยดอกไม้หรือกลิ่นของไม้ เช่น Sage
  • Citrus เป็นกลิ่นผลไม้ตระกูลส้มที่หอมสดชื่นมาก ๆ โดยกลิ่นจะมีความหอมฉุนก็จัดว่าอยู่ในกลุ่มย่อยนี้ค่ะซึ่งตัวอย่างก็เช่นกลิ่น Grapefruit
  • Water เป็นกลิ่นของละอองทะเล มหาสมุทร กลิ่นฝน หรือกลิ่นของอากาศหลังจากฝนตกซึ่งกลิ่นเหล่านี้ก็จะให้ความรู้สึกที่หอมสดชื่นสบายตัว
  • Green จะให้ความรู้สึกถึงกลิ่นของหญ้าที่เพิ่งตัดใหม่ ๆ หรือกลิ่นของใบไม้สีเขียวขจี อย่างเช่น กลิ่นหญ้า
  • Fruity จะเป็นกลิ่นที่มีทั้งความหวานฉ่ำและความทรอปิคอล อย่างเช่น พีช, แพร์

2. โน้ตน้ำหอม

  • Top Notes หรืออาจจะเรียกว่า Headnotes ก็ได้ค่ะ โดยโน้ตตัวนี้จะเป็นกลิ่นที่เกิดขึ้นทันทีหลังจากฉีดน้ำหอม แต่มักจะระเหยอย่างรวดเร็วภายใน 5-15 นาที เนื่องจากโมเลกุลจะมีขนาดเล็กและเบา ตัวนี้ถือว่าเป็นโน้ตเปิดทางที่จะนำคุณไปสู่โน้ตความหอมตัวต่อไปค่ะ
  • Heart Notes หรือ Middle Notes จะเป็นโน้ตที่เป็นเหมือนกับหัวใจของน้ำหอมหรือเป็นกลิ่นหลักซึ่งจะปรากฏขึ้นในช่วง 20-60 นาที
  • Base Notes จะเป็นโน้ตที่ติดทนนานมากกว่า 6 ชม.และจะเป็นกลิ่นสุดท้ายที่ติดอยู่กับเรานั่นเอง

การทราบถึงโน้ตน้ำหอมนั้นจะทำให้เราทราบดีค่ะว่ากลิ่นของน้ำหอมนั้นจะเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างไรบ้าง เพราะหลายต่อหลายครั้งที่หลายคนอาจจะไม่ชอบกลิ่น Top Notes หรือกลิ่นแรกแต่อาจจะมาหลงเสน่ห์กับกลิ่น Heart Notes ๆ ก็เป็นได้ แล้วอีกอย่างเมื่อเวลาผ่านไปหลายชั่วโมงกลิ่นก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย ดังนั้นแล้วการทราบถึงโน้ตน้ำหอมจะทำให้เราทราบค่ะว่าน้ำหอมตัวนี้นั้นเหมาะสำหรับการใช้งานของคุณหรือไม่ เข้ากับบุคคลิกของคุณมากน้อยขนาดไหน หรืออาจจะบอกได้ถึงขนาดที่ว่าน้ำหอมที่มีกลิ่นประมาณนี้จะต้องฉีดตอนไหนถึงจะดีที่สุด อะไรทำนองนี้เลยทีเดียวค่ะ

การฉีดน้ำหอมซ้ำระหว่างวันจะช่วยทำให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้น
การฉีดน้ำหอมซ้ำระหว่างวันจะช่วยทำให้กลิ่นติดทนนานมากขึ้น

3. ความเข้มข้นของน้ำหอม

นอกจากเรื่องของกลิ่นที่จะแตกต่างกันแล้ว จริง ๆ แล้วความเข้มข้นของน้ำหอมแต่ละขวดก็จะแตกต่างกันออกไปเช่นกัน โดยความเข้มข้นที่สูงก็จะมีน้ำมันน้ำหอมที่มากและมีปริมาณแอลกอฮอล์น้อย ติดทนนานหลายชั่วโมงเลยค่ะ แต่ในส่วนของราคาก็จะสูงตามขึ้นไปด้วย

ความเข้มข้นของน้ำหอม
ความเข้มข้นของน้ำหอม
  • Parfum จะเป็นตัวที่มีความเข้มข้นสูงสุดคือจะอยู่ที่ประมาณ 20-40% ทำให้มันสามารถติดทนนานประมาณ 6-8 ชม.เลยทีเดียว แต่แน่นอนค่ะว่าราคานี่ก็จะค่อนข้างแพงกว่าแบบอื่น ๆ
  • Eau de Parfum (EDP) จะมีความเข้มข้นรองลงมาคืออยู่ที่ 15-20% โดยระยะเวลาการติดทนนานนั้นจะอยู่ที่ราว ๆ 4-5 ชม. โดยจะเป็นระดับความเข้มข้นที่นิยมใช้กันมากเนื่องจากมันค่อนข้างที่จะติดทนพอสมควร แถมราคาเองก็ไม่ได้สูงลิ่วจนเกินไป
  • Eau de toilette (EDT) มีระดับความเข้มข้นอยู่ที่ 5-15% แน่นอนค่ะว่าราคาก็จะถูกว่าตัวก่อนหน้านี้ ทำให้นี่ก็เป็นอีกหนึ่งความเข้มข้นที่เรามักจะพบเห็นได้บ่อยเช่นกัน สำหรับระยะเวลาในการใช้งานก็จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 ชม.
  • Eau de cologne (EDC) ก็จะมีความเข้มข้นที่น้อยลงมาจากตัวก่อนหน้านี้ซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 2-4% เท่านั้น ซึ่งปริมาณของแอลกอฮอล์จะก็ค่อนข้างสูงก็ทำให้กลิ่นของน้ำหอมประเภทนี้ติดทนานแค่ประมาณ 2 ชม.
  • Eau Fraiche ก็จะติดทนนานในระยะเวลาที่ใกล้เคียงกับ Eau de cologne (EDC) เลยค่ะ แล้วก็ยังมีความเข้มข้นที่น้อยกว่าด้วยนั่นประมาณ 1-3% เท่านั้น แต่สิ่งที่ต่างกันก็คือตัวนี้จะไม่ได้มีปริมาณแอลกอฮอล์ที่มากแต่ส่วนประกอบส่วนใหญ่จะเป็นน้ำนั่นเองค่ะ

น้ำหอม JD Perfume

น้ำหอม JD Perfume
รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 590 บาท*

มาต่อกันที่อีกหนึ่งตัวที่ก็ต้องถือว่าราคาไม่ได้แรงมากเช่นกันค่ะกับ JD Perfume กลิ่น Gold in the dark ซึ่งหลัก ๆ แล้วกลิ่นก็จะเป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานของทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายค่ะ เพราะว่าในส่วนผสมของตัวน้ำหอมนั้นจะมีทั้งความหอมที่มาจากดอกไม้และความหอมเท่มีสไตล์จากกลิ่นไม้ด้วยนั่นเองค่ะ ซึ่งต้องบอกเลยค่ะทั้งสองกลิ่นหลัก ๆ นั้นผสมผสานกันได้อย่างลงตัวในสัดส่วนที่พอเหมาะ นั่นคือไม่ได้หวานและก็ไม่ได้เป็นกลิ่นที่ดูเป็นผู้ชายมากจนเกินไปถือว่ากลาง ๆ กำลังพอสวยเลยค่ะ

นอกจากนี้แล้วกลิ่นน้ำหอมตัวนี้เองก็ยังเป็นกลิ่นที่หอมหรูหรา สุขุมนุ่มลึก แล้วก็ยังผสานด้วยความรู้สึกลึกลับนิด ๆ หากว่าเป็นสาว ๆ ใช้งานก็น่าจะให้ลุคที่ดูทะมัดทะแมงและเท่ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ และที่ชอบอีกอย่างก็คือขวดน้ำหอมคือสวยงามมากค่ะทุกคน ดูแข็งแรงและดูแพงเกินราคาไปเยอะเลยทีเดียว เอาเป็นว่าสำหรับใครที่ต้องการน้ำหอมที่ไม่ฉุน ไม่หวานเกินไป แถมมาในราคาที่ทุกคนจ่ายไหวก็ต้องลองเลยค่ะ

ข้อดี

  • สามารถใช้ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
  • ขวดน้ำหอมสวยงามและแข็งแรง
  • กลิ่นน้ำหอมเข้าถึงง่ายไม่ซับซ้อนเกินไป
กลิ่น Gold in the dark
ประเภท EDP
ปริมาณ 30 มล.
Top Notes Saffron, Bergamot
Middle Notes Lavender, Jasmine
Base Notes Tonka Bean, Woody Amber, Moss, Frankincense
เหมาะสำหรับ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ Shopee

น้ำหอม MITH Blue Wood

น้ำหอม MITH Blue Wood
รูปภาพจาก shopee.co.th

ราคา 599 บาท*

น้ำหอม MITH Blue Wood ขวดนี้นั้นเป็นน้ำหอมที่มาจากคอลเลกชัน 2022 ที่ถูกรังสรรค์ขึ้นมาโดย Hamid Merati-Kashani ซึ่งก็จะเป็นนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงอีกคนนึงนั่นเองละค่ะ โดยกลิ่น Blue Wood นั้นจะเป็นกลิ่นที่กระแสมาแรงมาก ๆ จนตอนนี้ที่เรารีวิวนั้นขนาด 60 มล. ก็ได้หมดไปแล้วเรียบร้อย ดังนั้นที่เห็นนี้ก็จะเป็นประมาณ 10 มล.นะคะ ความพิเศษของกลิ่นนี้ก็คือมันจะเป็นกลิ่นที่ช่วยส่งลุคที่ดูลึกลับ เท่ และมีความ bad boy เล็ก ๆ ให้กับคุณผู้ชายนั่นเองค่ะ

โดยกลิ่นของน้ำหอมตัวนี้จะเป็นกลิ่นที่เข้ม มีความหวานซาบซ่าและสดชื่นมาก ๆ ค่ะ ซึ่งเจ้าน้ำหอมตัวนี้ว่ากันว่ามาพร้อมกับกลิ่นที่คล้ายกับน้ำหอมนิชแบรนด์ขวดแพง ๆ เลยทีเดียว และที่สำคัญคือเค้ายังใช้คนปรุงคนเดียวกันด้วยนะคะ ส่วนความแตกต่างของ MITH และน้ำหอมตัวดังนั้นก็คือเรื่องของการใช้งานค่ะ เพราะว่าทาง MITH ได้ตั้งใจให้เจ้า Blue Wood นั้นสามารถใช้งานได้จริงในสภาพอากาศของไทยได้นั่นเองค่ะ ดังนั้นแล้วนอกจากจะใช้งานตอนค่ำ ดินเนอร์ หรือปาร์ตี้แล้วนั้นน้ำหอมขวดนี้ก็ยังสามารถใช้งานในช่วงเวลากลางวันได้ด้วยค่ะ

ข้อดี

  • กลิ่นค่อนข้างติดทนนาน
  • กลิ่นเหมาะสำหรับการใช้งานกับสภาพอากาศในเมืองไทย
  • ด้วยการปรุงที่พิเศษทำให้สามารถฉีดได้ทุกช่วงเวลา
กลิ่น Blue Wood
ประเภท EDP
ปริมาณ 10 มล.
Top Notes Lavender, Bergamot, Pink Grapefruit, Bitter Orange, Black pepper, Cypress
Middle Notes Geranium, Violet, Lilac, Jasmine
Base Notes Guaic Wood, Patchouli, Sandalwood, Vanillin
เหมาะสำหรับ ผู้ชาย
ดูได้ที่ Shopee

Madame Fin มาดามฟิน รุ่นคลาสสิค

Madame Fin มาดามฟิน รุ่นคลาสสิค
รูปภาพจาก madamfinn.weebly.com

ราคา 630 บาท*

สำหรับน้ำหอมฟินก็คงจะเป็นที่น้ำหอมที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินหรือเคยเห็นผ่านตากันมาบ้างแล้วนะคะ โดยกลิ่นที่เราเลือกมานี้ก็เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างที่จะเป็นกลิ่นหอมแนวเซ็กซี่ขยี้ใจอย่าง Fin in Black ซึ่งจะเป็นกลิ่นที่ออกแนว Woody Spicy ที่ให้ความรู้สึกที่ลึกลับน่าค้นหาแล้วก็ยังมาพร้อมกับส่วนประกอบที่ช่วยให้คุณสาวเองดูเซ็กซี่ซาบซ่าร้อนแรงมากยิ่งขึ้นด้วยค่ะ ซึ่ง Fin in Black ก็เป็นกลิ่นที่ติดอยู่ในลำดับกลิ่นที่ขายดีที่สุดของแบรนด์ด้วยนะคะ เพราะว่ากลิ่นนี่นอกจากจะเหมาะสำหรับคุณสาว ๆ เองแล้วมันก็ยังจะใช้งานได้กับคุณผู้ชายเช่นกัน เพราะอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นค่ะว่ากลิ่นนี้จะเป็นกลิ่นที่ออกแนวเซ็กซี่และดูน่าค้นหา ฉะนั้นแล้วในเรื่องของความหวานแหววจนเกินไปนั้นไม่มีแน่นอนค่ะ

ข้อดี

  • เป็นกลิ่นที่ออกแบบมาให้พอดีทำให้สามารถใช้งานได้ทุกเพศทุกวัย
  • กลิ่นฟุ้งกระจายตัวได้ดี
กลิ่น Fin in Black
ประเภท EDP
ปริมาณ 30 มล.
Top Notes ไม่ระบุ
Middle Notes ไม่ระบุ
Base Notes ไม่ระบุ
เหมาะสำหรับ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

น้ำหอม Prem Natural Collection

น้ำหอม Prem Natural Collection
รูปภาพจาก premproduct.com

ราคา 790 บาท*

สำหรับน้ำหอมแบรนด์แรกนี้ก็คือแบรนด์ Prem หรือเปรมนั่นเองค่ะ โดยแบรนด์นี้นอกจากจะมีน้ำหอมแล้วนั้นพวกน้ำมันหอมระเหยเองก็ถือว่าได้รับความนิยมสูงมาก ๆ เช่นกันค่ะ และกลิ่นของน้ำหอมที่เราเลือกมาวันนี้ก็คือกลิ่น Blossom จากคอลเลกชัน Natural ค่ะ สำหรับกลิ่นนี้ก็จะเป็นกลิ่นอบอวลของหมู่มวลดอกไม้ท่ามกลางสายลมที่พัดผ่านเบา ๆ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ก็จะค่อย ๆ ลอยมาแตะจมูกอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ

โดยโน้ตแรกก็จะเปิดมาด้วยกลิ่นที่หอมสดชื่น แล้วก็ตามมาด้วยกลิ่นของดอกไฮยาซินธ์และกระดังงาที่มีกลิ่นที่หอมหวานที่ค่อนข้างที่ลึกล้ำ มีกลิ่นของความหอมละมุนอ่อน ๆ จึงไม่ได้เป็นกลิ่นที่เลี่ยนมากค่ะ และโน้ตสุดท้ายก็จะเป็นโน้ตของชะมดและวานิลลาซึ่งจะช่วยคงความหวานในสไตล์ผู้หญิงได้นานขึ้นค่ะ สำหรับน้ำหอมขวดนี้ก็มาในราคาที่ไม่ได้สูงมาก ส่วนเรื่องของการใช้งานเองก็ถือว่าเหมาะสมกับราคาเลยค่ะ แล้วนอกจากนี้เค้าก็ยังมีกลิ่นในคอลเลกชันเดียวกันให้เลือกอีกมากมายเลยด้วยนะคะ

ข้อดี

  • ราคาไม่แพง
  • ในคอลเลกชันเดียวกันมีหลายกลิ่นให้เลือก
  • กลิ่นไม่ได้หวานจนเกินไป
กลิ่น Blossom
ประเภท ไม่ระบุ
ปริมาณ 50 มล.
Top Notes มะกรูด, กุหลาบ
Middle Notes ไฮยาชินธ์, กระดังงา
Base Notes ชะมด, วานิลลา
เหมาะสำหรับ ผู้หญิง
ดูได้ที่ Shopee

น้ำหอม PUNN PARFUM Energetic

น้ำหอม PUNN PARFUM Energetic
รูปภาพจาก punnspaces.com

ราคา 1,115 บาท*

สำหรับหนุ่ม ๆ หรือสาว ๆ คนไหนก็ตามที่กำลังตามหาน้ำหอมแนวสปอร์ตที่ให้กลิ่นที่หอมและมาในราคาไปแพงอย่างพันต้น ๆ เราก็ขอแนะนำให้รู้จักกับ PUNN PARFUM ซึ่งก็เป็นแบรนดที่ทำน้ำหอมตัวนี้ออกมาได้น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว สำหรับภาพรวมนั้นมันก็จะเป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกที่สดชื่น มีชีวิตชีวาและเป็นกลิ่นที่หอมสะอาด เข้าถึงง่าย และใช้งานได้ง่าย ๆ แต่ที่สำคัญเลยคือกลิ่นนี้ยังเหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงหน้าร้อนมาก ๆ เลยละค่ะ

โดยกลิ่นแรกนั้นก็จะเปิดตัวมาพร้อมกับกลิ่นที่มีความเบาบางแต่อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกที่สดชื่นเหมือนกับกำลังเดินอยู่ที่ทะเลอย่างไรอย่างนั้นเลยค่ะ แถมกลิ่นก็ยังช่วยเพิ่มความรู้สึกเฟรชเย็นสบาย แล้วก็ยังซ้อนด้วยกลิ่นหอมแบบเปรี้ยวจี๊ดนิด ๆ ด้วยค่ะ ต่อมาก็คือ Heart Notes ซึ่งก็จะเป็นกลิ่นมีทั้งความหอมสดชื่นที่มีเสน่ห์และให้ความหรูหราเหนือระดับได้ดี และสุดท้ายก็คือกลิ่นของความเขียวขจีชุ่มชื้นของป่าไม้ซึ่งก็ถือเป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานในสภาพอากาศบ้านเราเช่นกันค่ะ สำหรับกลิ่น Energetic จาก PUNN ก็ถือเป็นกลิ่นที่น่าลงทุนค่ะเพราะว่าสามารถนำมาใช้งานได้ทุกวัน แล้วยิ่งช่วงไหนที่เหงื่อออกเยอะน้ำหอมก็จะยิ่งฟุ้งกระจายตัวได้ดีมาก ๆ เลยค่ะ

ข้อดี

  • เป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับการใช้งานในหน้าร้อน
  • เป็นกลิ่นในแนวที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานของผู้หญิงด้วยเช่นกัน
  • สามารถใช้งานได้ทุกวัน
  • เหมาะสำหรับใช้ขณะเล่นกีฬากลางแจ้ง

ข้อควรพิจารณา

  • น้ำหอมเหมาะสำหรับการใช้งานในช่วงกลางวันมากกว่าช่วงกลางคืน
กลิ่น Energetic
ประเภท EDP
ปริมาณ 30 มล.
Top Notes Sea Notes, Green Mandarin, Cardamom
Middle Notes Rosemary, Elemi gum, Balsam Fir, Cypress, Lavender Extract
Base Notes Iso E super, Vetiver, Cedar, Patchouli
เหมาะสำหรับ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

น้ำหอม artepolé - Eau de Gleam

น้ำหอม artepolé - Eau de Gleam
รูปภาพจาก artepolethailand.com

ราคา 1,278 บาท*

artepolé หรืออาเตโพเล่เป็นแบรนด์ไทยที่ปรุงน้ำหอมด้วยคอนเซปต์ที่ว่าความไม่สมบูรณ์แบบคือความสมบูรณ์แบบที่สุดนั่นเองค่ะ ดังนั้นนอกจากจะเรื่องของแนวคิดจะเฉียบคมและแหวกแนวแล้วนั้น ตัวน้ำหอมเองก็ไม่ธรรมดาเช่นกันค่ะ อย่างกลิ่น Eau de Gleam เองก็ถือว่าทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว ซึ่งก่อนที่จะไปเจาะลึกถึงเรื่องกลิ่นนั้นก็ต้องบอกเลยว่ากลิ่นน้ำหอมฟุ้งกระจายตัวได้ดี ไม่ฉุน ไม่เวียนหัว และที่หลาย ๆ คนค่อนข้างประทับใจนั่นก็คือกลิ่นติดทนนานหลายชั่วโมงเลยทีเดียวค่ะ

ในส่วนของกลิ่นแรกนั้นจะเปิดด้วยกลิ่นที่ให้ความรู้สึกเฟรชและสดชื่นอย่างกลิ่นของมะกรูด, คลารี่เซจ, สับปะรดนั่นเองค่ะ แว้ต่อมาก็จะเป็นกลิ่นที่มาพร้อมกับความหล่อเท่อย่างกลิ่นหอมของหญ้าแฝกและตามมาด้วยกลิ่นสะอาด ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นแล้วเพื่อไม่ให้กลิ่นมันดูราบเรียบและดูไม่น่าสนใจจนเกินไปก็เลยใส่กานพลูและพริกไทยเข้ามาเพิ่มความซาบซ่าเล็กน้อยแล้วก็ปิดจบด้วยแอมเบอร์กริสและไม้จันทน์เพื่อให้กลิ่นนั้นดูมีความสุภาพและก็ยังช่วยเพิ่มเสน่ห์น่าดึงดูดได้อย่างจังเลยทีเดียว

ข้อดี

  • ติดทนค่อนข้างนาน
  • เหมาะสำหรับการใช้งานในโอกาสที่ต้องการความเป็นทางการ
  • มาในกลิ่นหอมแนวสะอาดสดชื่นที่ชัดเจน
กลิ่น Eau de Gleam
ประเภท EDP
ปริมาณ 65 มล.
Top Notes มะกรูด, คลารี่เซจ, สับปะรด, ส้มแมนดาริน
Middle Notes หญ้าแฝก, ซีดาร์, ดอกเจอเรเนียม, พริกไทย, กานพลู
Base Notes แอมเบอร์กริส, มัสค์, ไม้จันทน์, ทงก้าบีน
เหมาะสำหรับ ผู้ชาย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

น้ำหอมบัตเตอร์ฟลาย Butterfly Thai Perfume

น้ำหอมบัตเตอร์ฟลาย Butterfly Thai Perfume
รูปภาพจาก butterflythaiperfume.com

ราคา 1,395 บาท*

น้ำหอมแบรนด์บัตเตอร์ฟลายเองก็ถือได้ว่าเป็นน้ำหอมแบรนด์ไทยที่ปรุงด้วยคนไทยและดีไซน์มาเพื่อคนไทยจริง ๆ เลยค่ะ โดยความพิเศษที่ไม่เหมือนใครนั่นก็คือทางแบรนด์จะปรุงน้ำหอมขึ้นมาโดยใช้ศาสตร์แห่งกลิ่นของไทยนั่นเองค่ะ โดยกลิ่นที่เลือกมาแนะนำนั้นก็คือกลิ่นไม้กฤษณากำยานซึ่งก็เป็นกลิ่นที่ขายดีเป็นอันดับที่ 1 และยังเป็นกลิ่นที่หลาย ๆ คนต่างก็ติดใจกันเป็นอย่างมากค่ะ ภาพรวมของกลิ่นนี้ก็คือจะเป็นกลิ่นที่มีความหวานละมุนละไม หวานนุ่มนวล กลิ่นไม่แรงจนเกินไป แล้วก็ให้ความรู้สึกสดชื่นเบา ๆ

โดยไม้กฤษณากำยานนั้นทางแบรนด์ก็ได้รับแรงบันดาลใจมากจากดอกพุดที่เป็นดอกไม้ที่ส่งกลิ่นอับอวลกระจายตัวได้ดี และอีกหนึ่งกลิ่นก็จะเป็นกลิ่นของยางไม้หอมกำยานจากธรรมชาติ ดังนั้นเมื่อจับมารวมกันกลิ่นที่ได้จึงหอมแบบบรรยายไม่ถูกและกลิ่นหอมที่ว่านี้ก็เป็นกลิ่นที่มีแค่แบรนด์ไทยแบรนด์นี้เท่านั้นนะคะ ดังนั้นแล้วหากจะบอกว่ากลิ่นไม้กฤษณากำยานเป็นกลิ่นที่เป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ Butterfly Thai Perfume เลยก็คงไม่แปลกอะไรใช่ไหมละคะ…

ข้อดี

  • กลิ่นมีความเป็นเอกลักษณ์
  • กลิ่นติดทนค่อนข้างนาน
  • กลิ่นไม่ฉุนจมูก
กลิ่น ไม้กฤษณากำยาน
ประเภท ไม่ระบุ
ปริมาณ 60 มล.
Top Notes ดอกพุด , ดอกปีบ, ซ่อนกลิ่น
Middle Notes แอมเบอร์, หญ้าฝรั่น
Base Notes กฤษณา, กำยาน, กำยานแขก, ชะมดเช็ด
เหมาะสำหรับ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

น้ำหอม LAB Parfumo

น้ำหอม LAB Parfumo
รูปภาพจาก labparfumo.com

ราคา 1,890 บาท*

LAB Parfumo นอกจากจะเป็นคนที่พัฒนาน้ำหอมแล้วนั้น เค้าก็ยังเป็นผู้ผลิตน้ำหอมเองด้วยค่ะ โดยกลิ่นที่เราเลือกมานี้ก็คือกลิ่น La Belle ในขวดใสพร้อมกับน้ำหอมสีชมพูสวยงาม ซึ่งกลิ่นนี้ก็ต้องบอกเลยว่าน่าจะเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่มีบุคลิกร่าเริงสดใสมาก ๆ เลยทีเดียวค่ะเพราะกลิ่นน้ำหอมตัวนี้จะมีความหวานละมุนแต่ถ้าหวานอย่างเดียวก็คงจะเลี่ยนและดูไม่น่าสนใจใช่ไหมละคะ ดังนั้นแล้วทางแบรนด์ก็เลยได้เปลี่ยนให้เป็นความหวานที่มีความซับซ้อนขึ้นทำให้มันช่วยเพิ่มเสน่ห์ที่น่าดึงดูดให้กับคุณสาว ๆ ได้มากขึ้นตามไปด้วย

สำหรับ Top Notes นั้นจะเป็นกลิ่นที่มาในแนว Fruity ที่มาพร้อมกับความหวานของดอกไม้เบา ๆ อันนี้นอกจากจะหวานแล้วก็ยังเท่และมีรสนิยมนั่นเองค่ะ ตามมาด้วยโน้ตที่ 2 ที่จะอัดแน่นไปด้วยกลิ่นของหอมสดชื่น และปิดท้ายด้วยกลิ่นของ Amber และ White Musk ที่ให้ความหอมในแบบธรรมชาติที่มาพร้อมกับกลิ่นที่สะอาด หอมเบา ๆ หอมแบบผู้ดี ดังนั้นสำหรับน้ำหอมตัวนี้เรามองมองว่านอกจากคุณสาว ๆ จะฉีดตอนไปทำงานแล้วนั้น ในวันสบาย ๆ หรือในทุก ๆ วันก็สามารถหยิบตัวนี้มาใช้งานได้เลยค่ะ

ข้อดี

  • กลิ่นไม่ได้หวานจนเลี่ยนชวนให้ปวดหัว
  • เป็นกลิ่นที่สามารถใช้งานได้ทุกวัน
  • กระจายตัวดีและติดทนค่อนข้างนาน
กลิ่น La Belle
ประเภท EDP
ปริมาณ 50 มล.
Top Notes Cucumber, Blackberry, Grapefruit, Green Apple, Ginger, Freesia, Jasmine, Iris, Incense Notes
Middle Notes Patchouli, Myrrh, Amberwood, Vetiver, Lily of the Valley, Rosewood, Magnolia
Base Notes Ambroxan, Patchouli, Amber, Leather, Sandalwood, Cedarwood, Iso E Super, Ambergris, Civet, Musk
เหมาะสำหรับ ผู้หญิง
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

Scentery น้ำหอม Signature Collection

Scentery น้ำหอม Signature Collection
รูปภาพจาก lazada.co.th

ราคา 2,490 บาท*

มาต่อกันที่อีกหนึ่งแบรนด์ค่ะที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาก็พอสมควรกับแบรนด์ Scentery ที่มาพร้อมกับการดีไซน์และคอนเซปต์ที่โดดเด่น ซึ่งกลิ่นที่เราคิดว่าน่าจะถูกใจใครหลาย ๆ คนนั่นก็คือ Isla de Mykonos ซึ่งจะเป็นกลิ่นที่บ่งบอกถึงความสดชื่นเป็นอิสระ โดยได้รับแรงบันดาลใจในการรังสรรค์น้ำหอมตัวนี้มาจากเกาะไมโคนอสที่ตั้งอยู่ที่ประเทศกรีซนั่นเองค่ะ

โดย Top Notes ของตัวนี้จะเริ่มต้นด้วยกลิ่นซีตรัสที่ให้ความสดชื่นและเป็นซีตรัสจากกลุ่มของเบอร์กามอตและมะนาวนั่นเอง ซึ่งกลิ่นแรงนี่ก็ค่อนข้างที่จะโดดเด่นเลยทีเดียวค่ะ แต่ก็ทั้งนี้ก็เพื่อไม่ให้มันกลายเป็นกลิ่นที่หอมฉุนเกินไปก็ได้มีการจับมารวมกับกลิ่นของดอก Myrtle เพื่อช่วยเพิ่มความหวานละมุนลงไปเล็กน้อย ต่อท้ายด้วยกลิ่นของมะลิและปิดจบด้วยกลิ่นของความรู้สึกอบอุ่นที่ให้ความรู้สึกสบายตัว ผ่อนคลาย แต่ในขณะเดียวกันยังไม่ละทิ้งจากความหรูหราด้วยนั่นเองค่ะ ซึ่งตัวนี้ก็ถือเป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับผู้ชายมาก ๆ แถมยิ่งถ้าหากว่าใช้งานในช่วงหน้าร้อนหรือในวันพักผ่อนสบาย ๆ ก็ยิ่งเหมาะมาก ๆ เลยละค่ะ

ข้อดี

  • สามารถใช้งานได้นานด้วยปริมาณที่ค่อนข้างมาก
  • การใช้งานเหมาะกับสภาพอากาศในเมืองไทย
  • ติดทนค่อนข้างดี

ข้อควรพิจารณา

  • กลิ่นอาจจะเหมาะหรือสามารถตอบโจทย์การใช้งานของผู้ชายได้ดีกว่า
กลิ่น Isla De Mykonos
ประเภท EDP
ปริมาณ 100 มล.
Top Notes Bergamot, Lemon, Myrtle
Middle Notes Jasmin
Base Notes Cedarwood
เหมาะสำหรับ ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

น้ำหอม Journal The Legacy Parfum (Signature)

น้ำหอม Journal The Legacy Parfum (Signature)
รูปภาพจาก journal-boutique.com

ราคา 2,600 บาท*

และสำหรับน้ำหอมตัวสุดท้ายจากแบรนด์ไทยที่เราเลือกมาวันนี้ถึงแม้ว่าจะมีราคาที่สูงกว่าทุกตัวที่กล่าวมาทั้งหมดแต่ก็ต้องยอมรับเลยค่ะว่ากลิ่นนั้นไม่เหมือนใครอย่างแน่นอนกับกลิ่นที่มีชื่อว่า The Legacy ซึ่งก็จะเป็นกลิ่นที่มีส่วนผสมหลักจากน้ำมันมะพร้าวแล้วก็มีการใช้แอลกอฮอล์ที่ได้จากน้ำตาลอ้อยด้วยค่ะ แล้วนอกจากนี้ก็ยังมีการใช้น้ำมันหอมระเหยจากธรรมชาติมาเป็นส่วนหนึ่งของตัวน้ำหอมด้วยเช่นกัน อาทิเช่น ไม้กฤษณา, กำยาน, หญ้าฝรั่น และ Frankincense ซึ่งทั้งหมดนอกจากจะให้กลิ่นที่หอมอบอวลรัญจวนใจแล้วนั้นมันก็ยังปลอดภัยต่อการใช้งานด้วยค่ะ

ความพิเศษอีกอย่างของแบรนด์นี้เลยก็คือวิธีการปรุงน้ำหอมที่จะใช้การปรุงแบบดั้งเดิมและเลือกใช้สูตรพิเศษ ดังนั้นแล้วสำหรับกลิ่นนี้ก็ต้องยกให้เป็นกลิ่นซิกเนเจอร์ของแบรนด์เลยนั่นเองค่ะ โดยภาพรวมแล้วนั้นน้ำหอมขวดนี้ถือเป็นอีกหนึ่งขวดที่ช่วยสร้างเสน่ห์ให้กับคุณสาว ๆ ได้เป็นอย่างดี แถมยังมาพร้อมกับกลิ่นที่หอมแบบผู้ใหญ่ ไม่ฉุน และติดทนอีกด้วยค่ะ

ข้อดี

  • กลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร
  • มีส่วนผสมจากธรรมชาติทำให้ส่วนผสมจากแอลกอฮอล์และสารเคมีสังเคราะห์มีน้อย
  • กลิ่นติดทน

ข้อควรพิจารณา

  • น้ำหอมมีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวจึงไม่แนะนำให้ฉีดลงบนเสื้อผ้า
กลิ่น The Legacy
ประเภท EDT
ปริมาณ 50 มล
Top Notes Gardenia, Indian Cork Tree, Tuberose
Middle Notes Amber, Saffron
Base Notes Agarwood, Benzoin, Saffron, Frankincense
เหมาะสำหรับ ผู้หญิง
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

ตารางเปรียบเทียบ รีวิว น้ำหอมแบรนด์ไทย แบรนด์ไหน หอม ติดทนนานที่สุด ปี 2023

ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม

น้ำหอม JD Perfume

รูปภาพจาก shopee.co.th

น้ำหอม JD Perfume

  • กลิ่น : Gold in the dark
  • ประเภท: EDP
  • ปริมาณ : 30 มล.
  • Top Notes: Saffron, Bergamot
  • Middle Notes: Lavender, Jasmine
  • Base Notes: Tonka Bean, Woody Amber, Moss, Frankincense
  • เหมาะสำหรับ: ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ shopee

น้ำหอม MITH Blue Wood

รูปภาพจาก shopee.co.th

น้ำหอม MITH Blue Wood

  • กลิ่น: Blue Wood
  • ประเภท : EDP
  • ปริมาณ: 10 มล.
  • Top Notes: Lavender, Bergamot, Pink Grapefruit, Bitter Orange, Black pepper, Cypress
  • Middle Notes: Geranium, Violet, Lilac, Jasmine
  • Base Notes: Guaic Wood, Patchouli, Sandalwood, Vanillin
  • เหมาะสำหรับ : ผู้ชาย
ดูได้ที่ shopee

Madame Fin มาดามฟิน รุ่นคลาสสิค

รูปภาพจาก madamfinn.weebly.com

Madame Fin มาดามฟิน รุ่นคลาสสิค

  • กลิ่น : Fin in Black
  • ประเภท: EDP
  • ปริมาณ: 30 มล.
  • Top Notes: ไม่ระบุ
  • Middle Notes : ไม่ระบุ
  • Base Notes: ไม่ระบุ
  • เหมาะสำหรับ: ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

น้ำหอม Prem Natural Collection

รูปภาพจาก premproduct.com

น้ำหอม Prem Natural Collection

  • กลิ่น : Blossom
  • ประเภท : ไม่ระบุ
  • ปริมาณ : 50 มล.
  • Top Notes : มะกรูด, กุหลาบ
  • Middle Notes: ไฮยาชินธ์, กระดังงา
  • Base Notes: ชะมด, วานิลลา
  • เหมาะสำหรับ: ผู้หญิง
ดูได้ที่ shopee

น้ำหอม PUNN PARFUM Energetic

รูปภาพจาก punnspaces.com

น้ำหอม PUNN PARFUM Energetic

  • กลิ่น : Energetic
  • ประเภท: EDP
  • ปริมาณ : 30 มล.
  • Top Notes: Sea Notes, Green Mandarin, Cardamom
  • Middle Notes: Rosemary, Elemi gum, Balsam Fir, Cypress, Lavender Extract
  • Base Notes: Iso E super, Vetiver, Cedar, Patchouli
  • เหมาะสำหรับ: ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

น้ำหอม artepolé - Eau de Gleam

รูปภาพจาก artepolethailand.com

น้ำหอม artepolé - Eau de Gleam

  • กลิ่น : Eau de Gleam
  • ประเภท: EDP
  • ปริมาณ : 65 มล.
  • Top Notes: มะกรูด, คลารี่เซจ, สับปะรด, ส้มแมนดาริน
  • Middle Notes: หญ้าแฝก, ซีดาร์, ดอกเจอเรเนียม, พริกไทย, กานพลู
  • Base Notes : แอมเบอร์กริส, มัสค์, ไม้จันทน์, ทงก้าบีน
  • เหมาะสำหรับ: ผู้ชาย
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

น้ำหอมบัตเตอร์ฟลาย Butterfly Thai Perfume

รูปภาพจาก butterflythaiperfume.com

น้ำหอมบัตเตอร์ฟลาย Butterfly Thai Perfume

  • กลิ่น : ไม้กฤษณากำยาน
  • ประเภท : ไม่ระบุ
  • ปริมาณ: 60 มล.
  • Top Notes: ดอกพุด , ดอกปีบ, ซ่อนกลิ่น
  • Middle Notes: แอมเบอร์, หญ้าฝรั่น
  • Base Notes: กฤษณา, กำยาน, กำยานแขก, ชะมดเช็ด
  • เหมาะสำหรับ: ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

น้ำหอม LAB Parfumo

รูปภาพจาก labparfumo.com

น้ำหอม LAB Parfumo

  • กลิ่น : La Belle
  • ประเภท: EDP
  • ปริมาณ: 50 มล.
  • Top Notes: Cucumber, Blackberry, Grapefruit, Green Apple, Ginger, Freesia, Jasmine, Iris, Incense Notes
  • Middle Notes: Patchouli, Myrrh, Amberwood, Vetiver, Lily of the Valley, Rosewood, Magnolia
  • Base Notes: Ambroxan, Patchouli, Amber, Leather, Sandalwood, Cedarwood, Iso E Super, Ambergris, Civet, Musk
  • เหมาะสำหรับ: ผู้หญิง
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

Scentery น้ำหอม Signature Collection

รูปภาพจาก lazada.co.th

Scentery น้ำหอม Signature Collection

  • กลิ่น : Isla De Mykonos
  • ประเภท : EDP
  • ปริมาณ: 100 มล.
  • Top Notes: Bergamot, Lemon, Myrtle
  • Middle Notes: Jasmin
  • Base Notes: Cedarwood
  • เหมาะสำหรับ : ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

น้ำหอม Journal The Legacy Parfum (Signature)

รูปภาพจาก journal-boutique.com

น้ำหอม Journal The Legacy Parfum (Signature)

  • กลิ่น : The Legacy
  • ประเภท : EDT
  • ปริมาณ : 50 มล
  • Top Notes: Gardenia, Indian Cork Tree, Tuberose
  • Middle Notes: Amber, Saffron
  • Base Notes: Agarwood, Benzoin, Saffron, Frankincense
  • เหมาะสำหรับ: ผู้หญิง
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

วิธีการใช้น้ำหอมที่ถูกต้อง

1. ห้ามถูน้ำหอมเด็ดขาด

เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะเข้าใจผิดว่าการถูน้ำหอมกับผิวจะทำให้น้ำหอมกระจายตัวได้ดีขึ้น ซึ่งความจริงแล้วตรงกันข้ามกันทุกอย่างเลยค่ะ เพราะการถูน้ำหอมจะทำให้โน้ตของน้ำหอมจางและระเหยไปในที่สุด แนะนำให้ตบเบา ๆ ได้ค่ะแต่ห้ามถูเด็ดขาด

3. ฉีดตรงจุดชีพจรต่าง ๆ

การฉีดน้ำหอมควรเน้นที่จุดชีพจรค่ะ ไม่ว่าจะเป็น บริเวณข้อมือ, ข้อพับแขน หรือซอกคอ เพราะว่าจุดต่าง ๆ เหล่านี้เป็นจุดที่อุ่น เนื่องจากว่าร่างกายจะปล่อยความร้อนออกมานั่นเองซึ่งนี่ก็เลยถือเป็นการช่วยไปกระจายกลิ่นของน้ำหอมได้ดียิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ

ฉีดน้ำหอม
ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร เพื่อให้กลิ่นติดทนนานขึ้น

4. ใช้น้ำหอมหลังจากอาบน้ำ

การใช้น้ำหอมตอนไหนไม่มีผิดและไม่มีถูกค่ะ แต่ถ้าหากต้องการให้น้ำหอมติดทนนานมากขึ้นก็แนะนำว่าเป็นหลังอาบน้ำเลยค่ะ เพราะว่าช่วงนี้จะเป็นช่วงที่ร่างกายสามารถดูดซับน้ำหอมได้ดีทำให้น้ำหอมหอมนานขึ้น แต่ในขั้นตอนนี้ก็อย่าเช็ดตัวให้แห้งก่อนนะคะ

4. ควรทาโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม

หลังจากที่อาบน้ำและเช็ดตัวเสร็จแล้วเรียบร้อยก็อย่าลืมเติมความชุ่มชื้นให้กับผิวกันด้วยนะคะ เพราะถ้าหากว่าเราฉีดน้ำหอมลงบนผิวที่แห้งมาก ๆ ตัวน้ำหอมก็จะระเหยไปอย่างรวดเร็ว ส่วนผลิตภัณฑ์ที่ใช้นั้นเราขอแนะนำเป็นโลชั่นบำรุงผิวกายสูตรปราศจากน้ำหอมจะดีกว่านะคะ เพราะมิฉะนั้นแล้วกลิ่นของโลชั่นอาจจะทำให้กลิ่นของน้ำหอมเพี้ยนได้เลยทีเดียว

ทาโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม
ทาโลชั่นก่อนฉีดน้ำหอม

5. ฉีดน้ำหอมลงบนเสื้อผ้า

นอกจากจะฉีดที่ผิวตามจุดต่าง ๆ ที่เราได้แนะนำไปแล้ว คราวนี้ก็อย่าลืมนำมาใช้งานกับเสื้อผ้าด้วยนะคะ เพราะนี่จะทำให้กลิ่นหอมนานมากขึ้น แต่ถึงอย่างไรก็ดีค่ะกลิ่นที่ติดอยู่บนเสื้อผ้านั้นอาจจะแตกต่างไปจากกลิ่นที่อยู่บนร่างกายเล็กน้อย รวมถึงหากคุณต้องการใช้วิธีนี้แนะนำว่าไม่ควรฉีดลงบนเนื้อผ้าบางชนิดอย่างเช่น ผ้าไหม เพราะมันมีโอกาสที่จะเกิดคราบน้ำหอมได้ค่ะ สำหรับวิธีการฉีดก็อาจจะฉีดไว้ในภายในเสื้อได้ค่ะ

บทสรุปส่งท้าย

น้ำหอมแบรนด์ไทยเองก็ถือเป็นแบรนด์ที่น่าสนใจเป็นอย่างมากเลยทีเดียวค่ะ เพราะว่าแบรนด์ต่าง ๆ เหล่านี้ต่างก็ได้มีการคิดค้นกลิ่นของน้ำหอมออกมาได้อย่างพิถีพิถัน จนสุดท้ายก็ได้มาซึ่งน้ำหอมที่ให้กลิ่นเฉพาะตัวและสามารถที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคนไทยได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของสภาพอากาศที่ร้อนจัดนั่นเองค่ะ และอย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นค่ะว่าราคาของน้ำหอมแบรนด์ไทยนั้นไม่ได้สูงมากจนเกินไป ดังนั้นทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่ายและที่สำคัญเลยคือมันยังเป็นน้ำหอมที่คุณสามารถหาซื้อได้อย่างสะดวก ดังนั้นแล้วเราก็ขอฝากน้ำหอมแบรนด์ไทยทั้ง 10 แบรนด์ในวันนี้ รวมถึงอีกหลาย ๆ แบรนด์ที่อาจจะไม่ได้หยิบมารีวิวกันด้วยนะคะ เพราะจริง ๆ แล้วน้ำหอมแบรนด์ไทยเราเองก็หอมและมีประสิทธิภาพที่ดีเยี่ยมไม่แพ้แบรนด์ดัง ๆ หลาย ๆ แบรนด์เลยค่ะ

Previous Post

รีวิว น้ำสลัดญี่ปุ่น ยี่ห้อไหนอร่อย รสชาติกลมกล่อม หอมกลิ่นน้ำมันงา ปี 2022

Next Post

รีวิว สกินแคร์เสริมชั้นผิว ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

Sunflower Lalita

Sunflower Lalita

Hi everyone! Just call me ‘Lalita’. I graduated from RUTS in the Faculty of Liberal Arts. Wish you enjoy my writing as much as I do. Be bright & shine like a sunflower!

Next Post
รีวิว สกินแคร์เสริมชั้นผิว ยี่ห้อไหนดีที่สุด

รีวิว สกินแคร์เสริมชั้นผิว ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

รีวิว น้ำหอมวิคตอเรียส์ (Victoria’s Secret) กลิ่นไหนนิยมและหอมที่สุด
น้ำหอม

รีวิว น้ำหอมวิคตอเรียส์ (Victoria’s Secret) กลิ่นไหนนิยมและหอมที่สุด ปี 2023

December 27, 2022
แนะนำ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน
ของใช้ส่วนตัว

แนะนำ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายใต้วงแขน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

June 13, 2022
รีวิว แชมพูสำหรับผมมัน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2021
ผมและศีรษะ

รีวิว แชมพูสำหรับผมมัน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023

January 26, 2023
ครีมกำจัดขน เพื่อผิวที่เกลี้ยงเกลา ยี่ห้อไหนดีที่สุด
ของใช้ส่วนตัว

ครีมกำจัดขน เพื่อผิวที่เกลี้ยงเกลา ยี่ห้อไหนดีที่สุด

May 21, 2021
8 อันดับ โคโลญจน์ สุดฮิตที่ใช้แล้วหอมฟุ้งไปทั้งวัน
ของใช้ส่วนตัว

8 อันดับ โคโลญจน์ สุดฮิตที่ใช้แล้วหอมฟุ้งไปทั้งวัน ปี 2023

January 27, 2023
รีวิว น้ำหอมกลิ่นซิตรัส ยี่ห้อไหนดี
น้ำหอม

รีวิว น้ำหอมกลิ่นซิตรัส ยี่ห้อไหนดี ให้กลิ่นหอมสดชื่น ปี 2023

January 23, 2023

สินค้ายอดนิยม

  • แนะนำ แอพยืมเงินถูกกฎหมาย จากธนาคาร

    12 แอพยืมเงินถูกกฎหมาย จากธนาคาร ปี 2023

    10180 shares
    Share 4072 Tweet 2545
  • ไอเดีย ของขวัญวันวาเลนไทน์ ที่ผู้ชายอยากได้ ปี 2023

    4258 shares
    Share 1717 Tweet 1059
  • ไอเดียของขวัญวันปัจฉิม ม.3 และ ม.6 ซื้ออะไรดี ให้ถูกใจคนรับ

    397 shares
    Share 159 Tweet 99
  • รวม เกมออนไลน์ MMORPG เปิดใหม่บนคอมฯ (PC) ปี 2022-2023

    10115 shares
    Share 4046 Tweet 2529
  • ซื้อ iPad รุ่นไหนดี ปี 2022

    55149 shares
    Share 22059 Tweet 13787
  • รีวิว กล้องถ่ายรูป ที่ดีที่สุด สำหรับมือใหม่ ปี 2023

    45730 shares
    Share 18589 Tweet 11309

Recent Posts

  • 10 ลิปสติก ยี่ห้อไหนดี เฉดสีสวย ติดทน ปี 2023
  • 9 ลิปสติกโฟร์ยูทู (4U2) สีไหนดี สวย ติดทน ปี 2023
  • 10 ใบชา ยี่ห้อไหนอร่อย ( ชาไทย, ชาเขียว, ชาอู่หลง และชาอื่น ๆ)
  • บัตรเครดิต เงินเดือน 15,000 ทำบัตรไหนได้บ้าง ?
  • 9 แก้วสองชั้น ยี่ห้อไหนดี เก็บอุณหภูมิได้ดี สวยงาม

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ

© 2022 Best Review Asia