อปจัดเก็บรูปภาพจะช่วยให้เราสามารถจัดระเบียบรูปภาพและวิดีโอที่ถ่ายจากสมาร์ตโฟนได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังมาพร้อมฟังก์ชันการแบ่งโฟลเดอร์, การแท็ก, การอัปโหลดอัตโนมัติ, การแก้ไขภาพ ฯลฯ เพื่อให้เราจัดการกับรูปภาพได้ง่ายกว่าเดิมด้วย หากวันนี้คุณอยากโหลดแอปจัดเก็บรูปภาพก็ต้องห้ามพลาดเพราะเราจะมาแนะนำกันถ้าพร้อมแล้วก็ไปโหลดกันเลยค่ะ
แอปจัดเก็บรูปภาพ มีดีอย่างไร ?
นับตั้งแต่ที่โลกของเรามีโซเชียลมีเดีย ภาพถ่ายก็กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิต เพราะการถ่ายภาพทำให้เราสามารถแบ่งปันช่วงเวลาอันมีค่าของเรากับคนอื่นได้อย่างง่าย แต่บางครั้งเรามีรูปเยอะมาก ทั้งรูปตัวเอง รูปคนในครอบครัว รูปวิว รวมไปถึงรูปอาหาร แน่นอนว่าเมื่อเราถ่ายรูปเยอะความจำของสมาร์ตโฟนจะเต็มทำให้เราต้องลบรูปออกบ้างเพื่อเคลียร์พื้นที่สำหรับจัดเก็บรูปใหม่ ๆ หากคุณไม่อยากลบรูป เราแนะนำโหลด “แอปจัดเก็บรูปภาพ” มาใช้ค่ะ หากถามว่าแอปจัดเก็บรูปภาพเหมาะกับใคร ตอบเลยว่าเหมาะสำหรับทุกคนค่ะที่ชอบถ่ายรูปและอยากได้แอปที่สามารถจัดเก็บรูปภาพได้เยอะค่ะ
ส่วนใหญ่แอปจัดเก็บรูปภาพจะโหลดได้ฟรีและให้หน่วยจัดเก็บข้อมูลพื้นฐานฟรี ๆ มาด้วยโดยจะมีตั้งแต่ 2 GB ไปจนถึง 15 GB ถ้าคุณอยากได้หน่วยจัดเก็บความจำที่มากกว่านั้นจะต้องซื้อเพิ่มค่ะ
แต่ขอบอกก่อนว่าแอปจัดเก็บรูปภาพไม่ได้ทำได้แค่จัดเก็บรูปภาพเท่านั้นนะคะ เพราะบางแอปสามารถตกแต่งภาพได้ แชร์ภาพได้ สำรองภาพฟรีรวมไปถึงยังสามารถสร้างอัลบั้มรูปภาพของตัวเองได้อีกด้วย
แอปจัดเก็บรูปภาพ แอปไหนดี ?
- แอปสำรองและแชร์รูปภาพยอดนิยม เหมาะสำหรับผู้ใช้แอนดรอยด์ ใช้งานบนเว็บฯ ได้ มาพร้อมหน่วยความจำฟรี 15 GB : Google Photos
- แอปจัดเก็บรูปภาพที่รองรับไฟล์ RAW ภาพคมชัด : Dropbox
- แอปจัดเก็บรูปภาพที่ค้นหาภาพได้ง่าย ใช้งานบนเว็บไซต์ได้ : Microsoft OneDrive
- แอปจัดเก็บรูปภาพที่มีความปลอดภัยขั้นสุด ล็อกทุกอย่างด้วยรหัสผ่าน : Keepsafe
- แอปสำรองรูปภาพที่ดีที่สุดสำหรับ Prime Members : Amazon Photos แอปจัดเก็บรูปภาพ
- แอปจัดเก็บรูปภาพที่ดีที่สุดสำหรับคนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์ : A+ Gallery แอปจัดเก็บรูปภาพ
- แอปจัดเก็บรูปภาพพร้อมฟิลเตอร์สำหรับรูปภาพมากมาย เหมาะกับมืออาชีพ : Flickr แอปจัดเก็บรูปภาพ
- แอปจัดเก็บรูปภาพที่ดีที่สุดสำหรับคนใช้ Adobe : Adobe Creative Cloud แอปจัดเก็บรูปภาพ
- แอปจัดเก็บ แบ่งปันรูปภาพและหารายได้ที่ดีที่สุดสำหรับนักช่างภาพ : 500px แอปจัดเก็บรูปภาพ
- แอปจัดเก็บรูปภาพมีพื้นที่ฟรี 10 GB มาพร้อมฟังก์ชันแก้ไขรูปภาพ : pCloud แอปจัดเก็บรูปภาพ
1. Google Photos แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | Google LLC |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | 15 GB (ฟรี) |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
Google Photos เป็นหนึ่งในแอปจัดเก็บรูปภาพและวิดีโอยอดนิยม ข้อดีของแอปคือใช้งานได้ง่ายสามารถจัดเก็บ แชร์หรือตั้งค่าการสำรองข้อมูลรูปภาพอัตโนมัติก็ได้ นอกเหนือจากตัวเลือกการแชร์รูปภาพตามปกติแล้ว เรายังสามารถแชร์รูปภาพกับผู้ใช้ Google Photo คนอื่น ๆ ได้ ซึ่งมีประโยชน์หากครอบครัวและเพื่อน ๆ ที่ใช้ระบบ Google-Sphere ของกูเกิลค่ะ นอกจากนี้ Google Photos ยังมีตัวเลือกการแก้ไขภาพและประมวลภาพแบบพื้นฐาน เช่น การครอบตัดหรือการแก้ไขแสงเล็กน้อย

เมื่อคุณอัปโหลดเข้าไปคุณสามารถเลือกได้ว่าจะจัดเก็บภาพในคุณภาพต้นฉบับหรือจะลดขนาดเพื่อประหยัดพื้นที่เก็บข้อมูล ซึ่งฟังก์ชันนี้จะลดคุณภาพของภาพเพื่อให้เราเหลือพื้นที่จัดเก็บมากขึ้น ที่สำคัญคือทางแอปให้พื้นที่เก็บข้อมูลฟรีขนาด 15GB ต่อหนึ่งบัญชีกูเกิลถือว่าคุ้มมากเลยทีเดียวค่ะ แต่ถ้าอยากอัปโหลดรูปภาพมากกว่านั้นแนะนำให้อัปเกรดเป็น 100 GB (ต้องจ่ายเงิน) ก็สามารถเก็บภาพได้แบบไม่อั้นเลยค่ะ
ใครที่ต้องการบันทึกและแชร์รูปภาพแบบฟรี Google Photos เป็นทางเลือกที่ดีค่ะนอกจากในแอปจะใช้งานได้ง่ายแล้วเรายังสามารถเปิดภาพที่บันทึกไว้ในเว็บไซต์ photos.google.com ได้ด้วย คุณสามารถเช็กและดูรูปภาพได้ทุกที่ทุกเวลา
คุณสมบัติหลัก
- สำรองรูปภาพอัตโนมัติมาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูล 15 GB ต่อหนึ่งบัญชี Google
- มีฟังก์ชันตัวกรองและเครื่องมือแก้ไขที่กำหนดค่าไว้ล่วงหน้าได้
- เข้าถึงรูปภาพที่บันทึกไว้จากอุปกรณ์ใดก็ได้แค่มีบัญชี Google
2. Dropbox

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | Dropbox, Inc. |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | 2 GB (ฟรี) |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
Dropbox เป็นเว็บไซต์จัดเก็บรูปภาพยอดนิยมสำหรับช่างภาพมายาวนาน และตอนนี้ได้มีการพัฒนาแอปให้เราได้ใช้งานแล้ว ตัว Dropbox สร้างขึ้นมาเพื่อรองรับไฟล์เกือบทุกประเภท ซึ่งรวมถึงไฟล์ RAW ซึ่งป็นไฟล์ที่จำเป็นมากสำหรับเหล่าช่างภาพเพราะมันจะช่วยรักษาคุณภาพของภาพเอาไว้โดยที่ไม่มีการบีบอัด
แอปใช้งานได้ง่าย คุณสามารถสร้างโฟลเดอร์เพื่อจัดระเบียบไฟล์ได้ เรื่องความปลอดภัยของไฟล์ก็มั่นใจได้เลยเพราะระบบได้ใช้การเข้ารหัส AES และ SSL/TLS 256 บิตเพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับไฟล์

จุดที่หลายคนชอบคือ Dropbox มีข้อบกพร่องน้อยมาก ทำงานได้อย่างราบรื่นและตัวแอปก็มีคุณลักษณะใหม่ ๆ เพิ่มเข้ามาเสมอ เมื่อเราโหลดแอปมาเราจะได้รับพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 2GB ด้วยบัญชี Dropbox Basic ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ Google Photos แล้ว Dropbox ก็ไม่ได้เก็บรูปภาพได้เยอะมากนัก หากต้องการเก็บภาพเพิ่มขึ้นต้องซื้อค่ะ แพ็กเกจเบสิกจะมีราคา US$9.99 ต่อเดือนได้รับพื้นที่ 2 TB ค่ะแต่ทดลองใช้ฟรีไม่ได้ ส่วนแพ็กเกจมืออาชีพราคา US$18 ต่อเดือนจะได้แหล่งจัดเก็บ 3 TB แต่ทดลองใช้ฟรีได้ค่ะ
ผู้เขียนเองก็ชอบ Dropbox เพราะโดดเด่นในเรื่องความเรียบง่ายและซิงค์รูปภาพได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังถ่ายโอนรูปภาพและวิดีโอไปยัง Facebook ไปจนถึง Adobe Creative Cloud ได้ด้วยค่ะ
คุณสมบัติหลัก
- เข้าถึงไฟล์ได้จากทุกที่และแก้ไขรูปถ่ายที่บันทึกเอาไว้ได้แบบพื้นฐาน
- ป้องกันภาพที่บันทึกไว้ด้วยรหัสผ่านและกู้คืนรูปภาพได้นานถึง 30 วัน
- แอปสามารถใช้งานได้ง่ายและบูรณาการกับแอปมากกว่า 10+ แอป
3. Microsoft OneDrive แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | Microsoft Corporation |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | 5 GB (ฟรี) |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
Microsoft OneDrive เป็นบริการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์ที่พัฒนาโดย Microsoft ค่ะ เมื่อเราโหลดมาแล้วจะสามารถใช้จัดเก็บไฟล์ส่วนบุคคลได้ ระบบความปลอดภัยของแอปค่อนข้างดีเลยค่ะเพราะช่วยรักษาความปลอดภัยของรูปภาพ โฟลเดอร์และไฟล์ได้ค่ะ นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าถึงไฟล์ทั้งหมดที่จัดเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้ตลอดเวลาด้วย ระบบการจัดเก็บของแอปค่อนข้างดีเลยค่ะเราไม่ต้องกลัวเลยว่าไฟล์จะหายเพราะไฟล์ทั้งหมดมีอยู่ในแอปเดียว แต่ก่อนที่เราจะใช้งานเราจะต้องเชื่อมต่อกับบัญชี Microsoft ก่อนค่ะ โดยแอป OneDrive สามารถโหลดได้ฟรีทางแอปจะให้พื้นที่เก็บข้อมูล 5 GB เก็บรูปภาพได้ในประมาณหนึ่งเลย

จุดที่ผู้เขียนชอบคือเราสามารถใช้กล้องสแกนเอกสารหรือรูปถ่ายใด ๆ ก็ได้เพื่อค้นหาไฟล์ อีกทั้งตัวแอปยังมีแท็กที่แตกต่างกัน สามารถแยกอัลบั้มต่าง ๆ ออกเป็นสถานที่ รูปหน้าเพื่อให้เราหาไฟล์ได้เยอะขึ้น อีกทั้งยังสามารถแชร์และแก้ไขไฟล์ร่วมกับเพื่อนได้ด้วย บอกเลยว่า Microsoft OneDrive เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการจัดเก็บรูปภาพแต่หากใครคิดว่า 5 GB มันน้อยเกินไปสามารถจ่ายเงินเพื่อซื้อพื้นที่เพิ่มได้ค่ะ
คุณสมบัติหลัก
- อัปโหลด สำรองข้อมูลไฟล์อัตโนมัติและสร้างอัลบั้มโดยอัตโนมัติ
- มาพร้อมพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 5GB สามารถค้นหาภาพถ่ายตามคำสำคัญ วันที่และสถานที่ได้
- จัดระเบียบรูปภาพด้วยแท็กและอัลบั้ม มาพร้อมฟังก์ชันจดจำรูปภาพเพื่อแท็กรูปภาพโดยอัตโนมัติ
4. Keepsafe แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | Keepsafe |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | ไม่ระบุ |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✘ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
Keepsafe เป็นแอปที่ช่วยให้เราสำรองรูปภาพและวิดีโอได้ฟรี จุดเด่นของแอปคือช่วยปกป้องข้อมูล รูปภาพและวิดีโอของเราด้วยรหัส PIN ค่ะ ทุกครั้งที่เราจะดูภาพเราต้องใส่รหัสก่อนเสมอ ดังนั้นตัวแอปจึงเหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการรักษาความปลอดภัยรูปภาพหรือเอกสาร ฉะนั้นจึงมั่นใจได้ว่าข้อมูลของเราที่เราจัดเก็บไว้จะอยู่ในที่ที่ปลอดภัยเสมอค่ะ

จุดที่น่าสนใจคือเราสามารถซิงโครไนซ์รูปภาพและวิดีโอกับอุปกรณ์ทั้งหมดได้ สามารถควบคุมเวลาที่จะแชร์รูปภาพกับผู้อื่นได้ฟังก์ชันนี้ถือว่าดีค่ะเพราะหลังจากผ่านไป 20 วินาทีรูปภาพจะหายไปทันทีหลังจากที่ผู้รับได้รับแล้ว ใครที่อยากรักษาความปลอดภัยรูปภาพและวิดีโอหรือต้องการสำรองเอกสาร Keepsafe ถือว่าเหมาะค่ะ ทางแอปไม่ได้บอกความจุเป็น GB นะคะแต่ในการจัดเก็บเราสามารถจัดเก็บเอกสารและรูปภาพได้มากถึง 10,000 ไฟล์ นอกจากนี้คุณยังสามารถกู้คืนรูปภาพที่คุณลบโดยไม่ตั้งใจได้ด้วย
คุณสมบัติหลัก
- มาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีเยี่ยมเพราะต้องใช้รหัสก่อนทุกครั้ง
- สามารถจัดเก็บรูปภาพและเอกสารได้กว่า 10,000 ไฟล์
- มีฟังก์ชันซ่อนสามารถซ่อนรูปภาพและวิดีโอได้
5. Amazon Photos แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | Amazon Mobile LLC |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | 5 GB (ฟรี) |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
Amazon Photos เป็นแอปเก็บภาพที่สามารถใช้แทน Google Photos ได้ แม้ว่าขีดจำกัดพื้นที่เก็บข้อมูลฟรีจะต่ำกว่ากูเกิลมาก แต่แอปก็ใช้งานได้ง่ายและมาพร้อมเครื่องมือแก้ไขรูปภาพพื้นฐานที่เยอะกว่ากูเกิลด้วย เมื่อใช้ Amazon Photos เราสามารถแชร์รูปภาพของตัวเองกับเพื่อนและครอบครัวที่ใช้แพลตฟอร์มนี้ได้เป็นการส่วนตัว ตัวเลือกการแชร์ทำได้หลายอย่างค่ะเราจะสร้างลิงก์ ส่งอีเมลรูปภาพหรือจะแชร์ผ่าน Facebook ก็ได้ อีกทั้งยังสามารถแชร์กับอุปกรณ์ Amazon เช่น Fire TV และ Echo Show ได้เช่นกัน (เหมาะสำหรับคนที่อยู่ต่างประเทศ)

หากถามว่าแอปเหมาะกับใครตอบเลยว่า ใคร ๆ ก็สามารถใช้แอป Amazon Photos ได้ค่ะเมื่อเราสมัครแอปเขาจะให้แหล่งเก็บข้อมูลฟรีมา 5GB แต่เราสามารถซื้อเพิ่มได้โดยจะมีข้อมูลให้ซื้อตั้งแต่ 100GB ไปจนถึง 30TB และมีให้สมัคร Amazon Prime ด้วยค่ะ คนที่เป็นสมาชิก Prime จะได้รับพื้นที่จัดเก็บรูปภาพไม่จำกัดที่ความละเอียดเต็ม รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่น ๆ ของ Prime ตั้งแต่การจัดส่งฟรีเมื่อซื้อของจาก Amazon ไปจนถึงการดูสตรีมมิ่งวิดีโอจาก Prime ค่ะ ส่วนข้อเสียของ Amazon Photos ก็มีนะคะคือตัวแอปมีพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์สำหรับวิดีโอแบบจำกัด แต่ถ้าคุณสมัครสมาชิก Prime อยู่แล้วแอปนี้คุ้มค่ะ
คุณสมบัติหลัก
- แอปสามารถสำรองรูปภาพอัตโนมัติและมาพร้อมเครื่องมือแก้ไขภาพ
- สามารถแบ่งปันภาพถ่ายกับเพื่อนและครอบครัวได้
- สามารถค้นหารูปภาพด้วยคำสำคัญหรือสถานที่ได้ทำให้การค้นหาง่ายขึ้น
6. A+ Gallery แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android
บริษัทผลิตแอป | AtomicAdd Team |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | ไม่ระบุ |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✘ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
A+ Gallery เป็นแอปจัดเก็บรูปภาพที่ออกแบบมาสำหรับคนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์โดยเฉพาะค่ะ จุดเด่นเลยคือมีโหมดการทำงานที่ใช้งานง่ายและรวดเร็ว คุณสมบัติพิเศษคือฟังก์ชันค้นหาภาพถ่ายตามสี เช่น หากคุณต้องการค้นหาภาพถ่ายทิวทัศน์ทะเลในอัลบั้มคุณสามารถกรองภาพที่คล้ายกันทั้งหมดเป็นสีน้ำเงินและค้นหาภาพถ่ายเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว หากคุณได้ซิงโครไนซ์กับบัญชีของตัวเอง คุณยังสามารถจัดการรูปภาพจาก Facebook, Dropbox และพื้นที่ออนไลน์อื่น ๆ ในระบบได้พร้อม ๆ กัน

ซึ่งวิธีนี้จะช่วยประหยัดเวลาได้มาเหมาะสำหรับคนที่คุ้นเคยกับการบันทึกรูปภาพแยกกัน ในการใช้แอปแนะนำให้ใช้อินเทอร์เน็ตร่วมด้วยค่ะเพราะจะช่วยเพิ่มความเร็วในการใช้แอป หากคุณต้องการสำรองข้อมูลรูปภาพก็สามารถซิงโครไนซ์กับพื้นที่ฮาร์ดไดรฟ์บนคลาวด์ได้เช่นกันการใช้งานของแอปจึงค่อนข้างยืดหยุ่นเลยค่ะ ใครที่ใช้ระบบแอนดรอยด์และกำลังหาแอปที่ใช้งานได้ง่าย A+ Gallery เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมค่ะ
คุณสมบัติหลัก
- สามารถค้นหารูปภาพได้ง่ายเพราะแอปมีการค้นหาตามสีของรูป
- ใช้งานได้ง่ายตอบโจทย์สำหรับคนที่ใช้ระบบแอนดรอยด์โดยเฉพาะ
- แอปสามารถใช้งานได้ง่าย สะดวกและหน้าแอปก็สะอาดสบายตา
7. Flickr แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | Flickr, Inc. |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | 1,000 รูปภาพ (ฟรี) |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
Flickr เป็นอีกหนึ่งแอปที่เราไม่อยากให้ทุกคนมองข้ามค่ะเพราะสามารถทำได้หลายอย่างตั้งแต่อัปโหลดรูปภาพไปจนถึงการจัดระเบียบอัลบั้ม หน้าแอปมีความสะอาดและใช้งานง่ายแม้แต่มือใหม่ก็สามารถใช้งานได้ แน่นอนว่าข้อดีเหล่านี้ทำให้ Flickr กลายเป็นแพลตฟอร์มจัดเก็บรูปภาพบนคลาวด์ที่เข้าถึงได้ง่ายและเหมาะสำหรับช่างภาพมืออาชีพ การแชร์รูปภาพก็ทำได้ง่ายไม่แพ้กันค่ะสามารถก็อปลิงก์หรือแชร์เข้าโซเชียลมีเดียโดยตรงเลยก็ได้ อัลกอริธึมของแอปค่อนข้างมีประสิทธิภาพสามารถรักษาความคมชัดของภาพได้และสามารถระบุข้อมูล เช่น รุ่นของกล้องที่ใช้ในการถ่ายภาพได้
แอป Flickr เป็นแอปที่สามารถใช้งานได้ฟรีค่ะ แต่จะถูกจำกัดการใช้งานเราสามารถบรรทุกรูปภาพและวิดีโอได้ 1,000 ไฟล์เท่านั้น แต่หากสมัครสมาชิกแบบ Flickr Pro คุณจะได้พื้นที่ในการจัดเก็บข้อมูลแบบไม่จำกัดที่ ไม่มีโฆษณา มีระบบการแสดงภาพถ่ายความชัด 6K พร้อมฟังก์ชันการอัปโหลดวิดีโอความยาวกว่า 10 นาที ใครที่เป็นช่างภาพมืออาชีพสามารถใช้แอปนี้ได้เลยค่ะ
คุณสมบัติหลัก
- มาพร้อมระบบค้นหาขั้นสูงช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาภาพตามแท็ก วันที่ถ่าย สถานที่และอื่น ๆ ได้
- อัปโหลดรูปภาพจาก คอมพิวเตอร์ Dropbox, Lightroom และแอปอื่น ๆ ได้อย่างอัตโนมัติ
- ใช้งานง่าย แบ่งปันรูปภาพกับคนอื่นได้ง่ายและสะดวกมาก
8. Adobe Creative Cloud แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | Adobe |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | 2GB (ฟรี) |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
Adobe Creative Cloud เป็นแอปที่เหมาะมากค่ะหากคุณใช้แอปในเครือ Adobe มาแล้ว เพราะตัวแอปสามารถทำงานร่วมกับ Lightroom และ Photoshop ได้ค่ะ สมาชิกแบบฟรีจะได้รับพื้นที่จัดเก็บข้อมูลสูงสุด 2GB นะคะถือว่าน้อยมากแต่ก็สามารถจ่ายเงินเพื่ออัปเกรดพื้นที่จัดเก็บได้ จุดเด่นของแอปคือนอกจากเราจะเก็บรูปภาพได้แล้วเรายังสามารถใช้แอปเพื่อลบพื้นหลังหรือจะไดคัตภาพก็ได้ซึ่งสะดวกมากเลยค่ะ นอกจากการแก้ไขแล้วเราสามารถใช้แอปปรับภาพและแชร์โดยตรงผ่านเว็บไซต์โซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้ค่ะ
อินเทอร์เฟซของแอปค่อนข้างเรียบง่ายสะอาดตา เราสามารถสร้างแกลเลอรีออนไลน์แต่ฟังก์ชันฟรีมีน้อยค่ะ หากอยากใช้งานแบบไม่ติดขัดแนะนำให้สมัคร Creative Cloud แบบโปรค่ะ จุดที่ผู้เขียนชอบมาก ๆ คือแอปรองรับรูปแบบภาพหลายรูปแบบ ภาพที่บันทึกก็มีความละเอียดสูงไม่ลดคุณภาพ ใครที่ไม่เคยใช้แอปมาก่อนทางแอปก็มีบทช่วยสอนหลายรายการเพื่อให้เราเรียนรู้วิธีการใช้แอปค่ะ
คุณสมบัติหลัก
- สามารถแก้ไข จัดระเบียบและจัดเก็บรูปภาพได้จากทุกแอปในเครือ Adobe
- ภายในแอปมีเครื่องมือสำหรับการสร้างกราฟิกโซเชียล
- มีระบบจดจำภาพถ่ายอัจฉริยะเพื่อการค้นหาที่ดียิ่งขึ้นและสามารถแบ่งปันภาพถ่ายกับคนอื่นได้
9. 500px แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | 500px |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | ไม่ระบุ |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
500px เป็นแอปจัดเก็บรูปภาพและแบ่งปันภาพถ่ายสำหรับช่างภาพมืออาชีพและนักถ่ายภาพค่ะ บอกเลยว่าการใช้งานแอปเป็นเรื่องง่ายค่ะเพราะเราสามารถแยกหมวดหมู่รูปภาพได้ ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว เพิ่มสถานที่ คำอธิบายและคำสำคัญเพื่อการค้นหาได้ง่ายหรือจะย้ายรูปภาพไปยังพอร์ตโฟลิโอแอป 500px ก็ทำได้ค่ะ คุณสมบัติของแอปไม่ซับซ้อนนะคะแม้แต่มือใหม่หัดถ่ายภาพหรือกำลังอยากใช้แอปจัดเก็บรูปภาพก็สามารถใช้ได้ค่ะ
แอปโหลดได้ฟรีนะคะแต่การใช้งานมีข้อจำกัด เพราะเราอัปโหลดรูปภาพได้แค่ 7 รูปต่อสัปดาห์ (และอัปโหลดได้เฉพาะ JPG เท่านั้น) ส่วนแพ็กเกจแบบจ่ายเงินอย่าง Awesome และ Pro สามารถอัปโหลดรูปภาพได้ไม่จำกัดและมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การดูภาพแบบออฟไลน์และมีสถิติเพื่อเช็กว่าใครกำลังดูผลงานของเราอยู่บ้าง อีกทั้งยังช่วยสร้างเว็บไซต์พอร์ตโฟลิโอได้ สิ่งที่ทำให้ 500px เหนือกว่าแอปอื่นคือนอกจากเราจะจัดเก็บรูปภาพและแบ่งปันได้แล้ว เรายังสามารถออกใบอนุญาตภาพของตัวเองให้กับองค์กรเชิงพาณิชย์และสร้างรายได้จากคลังภาพของตัวเองได้ด้วย
คุณสมบัติหลัก
- เหมาะสำหรับช่างภาพที่ต้องการหารายได้กับภาพถ่ายของตัวเอง
- แบ่งปันภาพถ่ายให้กับคนอื่นได้ด้วยแอปที่ใช้งานได้ง่าย
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหาสไตล์ใหม่ ๆ ให้กับการถ่ายภาพ
10. pCloud แอปจัดเก็บรูปภาพ

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ผ่าน Android และ iOS
บริษัทผลิตแอป | pCloud LTD |
ฟรี/จ่ายเงิน | ฟรี (มีการซื้อในแอป) |
ความจุที่สามารถเก็บได้ | 2GB (ฟรี) |
เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ | ✔ |
สามารถประมวลผลรูปภาพได้ | ✔ |
สร้างอัลบั้มได้ | ✔ |
pCloud เป็นแอปที่ยอดเยี่ยมสำหรับคนที่ต้องการเพิ่มหน่วยความจำบนสมาร์ตโฟนและต้องการสำรองข้อมูล ในการใช้งานแอปสามารถสำรองเอกสาร รูปภาพและวิดีโอเพื่อดูและแชร์ได้ตลอดเวลา อีกทั้งคุณยังสามารถรักษาความปลอดภัยข้อมูลด้วยรหัสผ่าน สามารถตั้งค่าและเข้ารหัสข้อมูลได้ค่ะ แอปให้หน่วยความจำฟรีมา 10GB นะคะแต่หากจ่ายเงินจะสามารถขยายหน่วยความจำได้สูงสุด 2TB ซึ่งถือว่าเยอะมาก ๆ ใครที่อยากได้แอปที่มาพร้อมพื้นที่จัดเก็บเยอะ ๆ และมีราคาอัปเกรดไม่แพงแนะนำเลยค่ะ

นอกจากการจัดเก็บแล้วแอปยังมีฟีเจอร์ pCloud Encryption ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณบันทึกรหัสผ่าน ใบแจ้งยอดทางการเงิน เอกสารและอื่น ๆ อีกมากมาย ไฟล์ที่คุณดาวน์โหลดด้วยฟังก์ชันนี้จะได้รับการปกป้องด้วยการเข้ารหัส ที่สำคัญคือแอปสามารถทำงานแบบออฟไลน์ เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณไม่มีเครือข่ายมือถือก็ยังสามารถเข้าไฟล์ได้ค่ะ อีกทั้งยังสามารถตั้งค่าการดาวน์โหลดข้อมูลแบบอัตโนมัติไม่ต้องสำรองข้อมูลทุกครั้งด้วย
คุณสมบัติหลัก
- แอปมาพร้อมกับพื้นที่เก็บข้อมูลฟรี 10GB สะดวกต่อการใช้งาน
- อัปโหลดรูปจากกล้องมือถืออัตโนมัติ
- มาพร้อมคุณสมบัติการแก้ไขภาพสามารถแก้ไขภาพง่าย ๆ ได้
เคล็ดลับในการเลือกดาวน์โหลดแอปจัดเก็บรูปภาพ
1. เลือกแอปที่สามารถสร้างอัลบั้มหรือโฟลเดอร์ได้
แอปจัดเก็บรูปภาพที่ดีที่สุดคือแอปที่มีความสามารถในการแบ่งรูปภาพออกเป็นโฟลเดอร์หรืออัลบั้มได้อย่างง่ายดายและสะดวกค่ะ หากแอปพลิเคชันที่คุณต้องการจะโหลดไม่มีฟังก์ชันนี้แปลว่าแอปนั้นไม่น่าสนใจค่ะ เพราะการแบ่งภาพออกเป็นอัลบัมจะทำให้เราสามารถค้นหาและเช็กดูภาพได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้แอปจัดเก็บรูปภาพที่ดีควรได้รับการออกแบบให้เข้าใจง่ายและช่วยให้คุณเข้าถึงรูปภาพที่ต้องการได้เร็วที่สุด แน่นอนว่าแอปพลิเคชันทั้งหมดที่เราแนะนำในบทความนี้เป็นแอปที่สามารถแบ่งรูปภาพออกเป็นอัลบั้มได้ค่ะสามารถโหลดได้เลย นอกจากนี้แอปพลิเคชันจำนวนมากที่เราแนะนำไปยังสามารถจัดระเบียบวันที่และสถานที่ที่คุณถ่ายภาพได้โดยอัตโนมัติโดยไม่ต้องจัดหมวดหมู่ด้วยตัวเองด้วย เพื่อให้เลือกแอปที่ดีที่สุดอย่าลืมเช็กรายละเอียดของแอปก่อนโหลดนะคะ
2. เลือกแอปที่เชื่อมต่อกับพื้นที่เก็บข้อมูลออนไลน์ได้

ในกรณีที่คุณต้องการดูภาพถ่ายจากอุปกรณ์อื่นคุณต้องเลือกแอปที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ข้อมูลออนไลน์ได้ค่ะ เพราะหากแอปไม่มีฟังก์ชันนี้การย้ายภาพทั้งหมดลงคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ นั้นค่อนข้างใช้เวลานาน โดยแอปที่คุณเลือกอาจจะต้องเชื่อมต่อกับเว็บไซต์หรือแหล่งข้อมูลออนไลน์ เช่น Dropbox หรือ Google Drive ได้ ยูทิลิตี้เหล่านี้ถือเป็นคลังรูปภาพออนไลน์ที่คุณสามารถจัดเก็บรูปภาพได้ฟรี หากต้องการเช็กภาพกับอุปกรณ์อื่นคุณแค่ต้องลงชื่อเข้าใช้ด้วยแอ็กเคานต์ของตัวเอง หลังจากนั้นเราก็สามารถดูภาพทั้งหมดบนอุปกรณ์ใดก็ได้อย่างง่ายดาย จำไว้นะคะหากคุณมีอุปกรณ์หลายเครื่องหรือทำงานเกี่ยวกับด้านภาพฟังก์ชันนี้จำเป็นค่ะ
3. เลือกแอปที่มีฟังก์ชันประมวลผลภาพ
แอปจัดเก็บรูปภาพบางประเภทมาพร้อมฟังก์ชันที่เราสามารถแก้ไขและจัดการกับรูปภาพได้ ฟังก์ชันนี้น่าสนใจค่ะเพราะนอกจากเราจะสามารถปรับภาพได้แล้ว เรายังสามารถเพิ่มฟิลเตอร์ ไดคัตหรือใส่ข้อความลงไปได้ด้วย ด้วยฟังก์ชันนี้ทำให้เราได้รูปภาพที่สมบูรณ์แบบและยังสามารถอัปโหลดรูปภาพไปยังโซเชียลเน็ตเวิร์กได้รวดเร็วค่ะ ดังนั้นอย่าลืมเช็กฟังก์ชันก่อนโหลดแอปทุกครั้งนะคะเพื่อให้ได้แอปที่ดีที่สุด