ปฏิเสธไม่ได้เลยนะคะว่ายาเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับมนุษย์ของเรา ดังนั้นยารักษาโรคจึงได้จัดเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ที่เราจะต้องมีไว้ โดยยาที่เราจะต้องมีไว้ใช้ประจำคือยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาหม่อง, ยาอมแก้เจ็บคอ, ยาแก้ไอ, ยาพาราแก้ปวด, ยาทารักษาแผลสด, ยาลดกรด หรือ ยาทาเชื้อราค่ะ
เราเชื่อเหลือเกินว่ายาเหล่านี้เป็นยาที่คุณจะต้องมีและต้องใช้เป็นประจำอย่างแน่นอน แต่บางครั้งในแต่ละวันอาจจะเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เราอาจจะป่วยกะทันหันแต่ไม่ได้พายาไปทำให้อาการเจ็บป่วยรุนแรงมากขึ้น ดังนั้นเพื่อจัดการกับปัญหานี้ “กล่องใส่ยา/ตลับยา” จึงเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมากค่ะ
กล่องใส่ยาเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กที่สามารถพกพาได้ ถึงแม้ว่าเราเป็นคนที่ไม่ต้องใช้ยาเป็นประจำเราก็สามารถเก็บยาสามัญประจำบ้านไว้ในตลับยาเพื่อใช้ในยามฉุกเฉินได้ นอกจากนี้กล่องใส่ยาก็ยังตอบโจทย์คนที่ทานยาหรือวิตามินเป็นประจำเพราะเมื่อเรามีกล่องใส่ยาเราจะไม่ลืมทานยา
อีกทั้งกล่องใส่ยาบางรุ่นยังเป็นดิจิทัลสามารถแจ้งเตือนเวลาในการกินยาได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณเดินทางบ่อย ๆ ชอบทานอาหารเสริมหรือต้องทานยาเป็นประจำกล่องใส่ยาถือเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์และต้องมีไว้ใช้ค่ะ
กล่องใส่ยา/ตลับยา ยี่ห้อไหนดี?
- กล่องยาพร้อมระบบแจ้งเตือน ป้องกันการลืม : กล่องยาอิเล็กทรอนิกส์ แบบตั้งเวลาเตือน 7 วัน
- สะดวก ประหยัดพื้นที่ในการจัดระเบียบยา: Pill Pro กล่องใส่ยา
- กล่องยารายเดือน ใช้บรรจุวิตามินและยาบำรุง: กล่องยาแบบแป้นพิมพ์ 31 วัน
- กล่องใส่ยาแบบดิจิทัล ตอบโจทย์ทุกเพศ ทุกวัยและผู้สูงอายุ: Seven Rianbow Portable Alarm Digital Pill Box กล่องใส่ยา
- กล่องยาใช้งานง่ายและประหยัดพื้นที่ : Boxbox รุ่น M2 อุปกรณ์จัดเก็บยาและวิตามิน
- พกพาสะดวก ทนทาน เหมาะสำหรับผู้ที่เดินทางบ่อย: Hello Smile ตลับใส่ยา 4 สี
ทำไมกล่องยาหรือตลับใส่ยาถึงเหมาะสำหรับการเดินทาง?
การเดินทางเป็นกิจกรรมที่คนทำงานอย่างเราต้องเจอเป็นประจำค่ะ ซึ่งการเดินทางบ่อย ๆ อาจทำให้สุขภาพและการใช้ชีวิตของเราแย่ลงได้โดยเฉพาะในหมู่คนที่ต้องทานยาหรือวิตามินเป็นประจำ เพราะเมื่อเดินทางเพลิน ๆ เรามักจะลืมทานยา แต่นอกจากการลืมทานแล้วก็ยังมีหลายคนที่ไม่ได้พกยาไปด้วยเพราะตัวขวดยามีขนาดใหญ่เลยพกพาได้ยากค่ะ ดังนั้นการมีตลับหรือกล่องใส่ยาเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับคนที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ต่อไปนี้เป็นปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้หากคุณลืมกินยาและไม่ได้พกตลับยา
- พกยามาไม่เพียงพอ เมื่อไม่มีตลับยาหลายคนจึงพกยาและวิตามินไว้ในถุงซิปล็อก ซึ่งในบางครั้งเราอาจมีเหตุให้เลื่อนการทางออกไปซึ่งมันอาจจะทำให้เราพกยามาไม่เพียงสำหรับการเดินทาง
- การกินยาเกินขนาด เมื่อคุณไม่มีตลับยาอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงของการใช้ยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะตลับยาสามารถใส่ยาที่พอเหมาะสำหรับในแต่ละวันได้ หากไม่มีตลับยาเราอาจจะลืมว่าเราจะต้องกินยากี่เม็ดต่อวัน
- สูญเสียความเป็นส่วนตัว เมื่อเราเดินทางเพื่อทำธุรกิจ เราคงไม่ต้องการที่จะนำขวดยาไปข้างนอกอย่างแน่นอนเพราะมันพกพายาก อีกทั้งยังดูวุ่นวาย
- ยาอาจจะหายและหก หากไม่กล่องเก็บยาที่เหมาะสม ยาที่เรานำมาอาจจะสูญหายหรือตกหล่นในกระเป๋าได้ เราเชื่อเหลือเกินว่าไม่มีใครต้องการไปพบแพทย์หรือร้านขายยาในวันที่ต้องเดินทางเร่งด่วนอย่างแน่นอน
เคล็ดลับในการเลือกซื้อกล่องใส่ยา/ตลับยา
1. รูปแบบและประเภทของกล่องยา
กล่องยาดิจิทัล
กล่องยาดิจิทัลเป็นกล่องยาที่ใช้งานง่าย จึงเหมาะมากสำหรับคนที่ไม่ว่างและผู้สูงอายุ กล่องยาดิจิทัลหรือกล่องยาอัตโนมัติจะช่วยให้คุณสามารถจัดเตรียมภาชนะสำหรับจ่ายยาหรืออาหารเสริมตามที่กำหนดไว้ล่วงหน้าได้ ในการใช้งานเพียงตั้งโหมดและตั้งเวลาเตือนตามต้องการ เมื่อคุณทานยาในวันนั้นไปแล้ว ตัวเครื่องจะจัดระบบโดยอัตโนมัติเพื่อเตรียมยาไว้ทานในวันต่อไป
ขอบอกเลยว่ากล่องยาดิจิทัลบางแบรนด์ยังมีระบบล็อกเพื่อให้เม็ดยามีอากาศถ่ายเทและปลอดภัยก่อนที่จะจ่ายยาให้เราทาน บางแบรนด์มาพร้อมจอแสดงผล LED ทำให้สะดวกสำหรับคนขี้ลืมหรือผู้สูงอายุค่ะ
กล่องยาแบบทั่วไป
กล่องยาแบบทั่วไปเป็นกล่องยาที่ใช้มือทำงาน ตัวกล่องยามีความเรียบง่าย เราไม่จำเป็นต้องตั้งโปรแกรมอะไรเลยตราบใดที่คุณจำได้ว่าต้องใช้ยาอะไรและเมื่อไหร่ จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทานยาเพียงวันละ 1 – 2 ชนิด ข้อดีของกล่องยาแบบทั่วไปก็คือคุณไม่จำเป็นต้องจัดการกับแบตเตอรี่และไม่ต้องชาร์จ ในการใช้งานเพียงแค่จดหรือบันทึกไว้ข้างกล่องยาเพื่อลดโอกาสที่เราจะลืมกินยา
2. จำนวนช่องของกล่องยา
- กล่องยาที่มี 3 – 6 ช่อง หลายคนไม่ได้ทานยาเป็นประจำเลยคิดว่าไม่ต้องมีกล่องหรือตลับยา แต่เราขอบอกเลยว่ากล่องยาเป็นสิ่งที่ต้องมีค่ะเพราะในทุก ๆ ครัวเรือนต้องมียาสามัญประจำบ้านไว้ใช้ เช่น ยาแก้ปวด ไอ ภูมิแพ้และยาไข้หวัด นั่นเป็นเพราะเราไม่มีทางรู้ว่าเมื่อไหร่ที่เราอาจจะต้องใช้ยา ยาเหล่านี้เป็นยาที่เราไม่ได้กินบ่อยแต่ควรเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อให้เป็นระเบียบเราขอแนะนำให้ซื้อกล่องยาที่มี 3 – 6 ช่อง เพราะด้วยวิธีนี้คุณสามารถค้นหายาได้อย่างง่ายดายเมื่อมีความจำเป็นค่ะ
- กล่องยารายสัปดาห์ (7 ช่อง) บางคนใช้ยาเป็นประจำและมีตารางการใช้ยาที่ซับซ้อนที่ทำให้ต้องทานยาหลาย ๆ ตัวในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวัน ซึ่งอาจค่อนข้างสับสนและลืมได้ง่าย นั่นคือเหตุผลที่คุณต้องเลือกใช้กล่องยาที่ออกแบบมาสำหรับทานรายสัปดาห์ การมีกล่องยาประเภทนี้ ทำให้คุณสามารถจัดระเบียบยาของคุณตามวันในสัปดาห์ได้ ทำให้ง่ายต่อการติดตามการทานยา หากคุณไม่แน่ใจว่าได้ทานยาไปแล้วหรือยังก็สามารถตรวจดูที่กล่องยาได้
- กล่องยารายเดือน หากคุณทานอาหารเสริม เช่น วิตามินหรือยาบำรุงทั่วไปกล่องยารายเดือนอาจเหมาะสำหรับคุณ กล่องยารายเดือนแตกต่างจากกล่องยาส่วนใหญ่ กล่องแบบนี้มีช่องสำหรับใช้ใส่ยาทุกวันตลอดทั้งเดือน มันค่อนข้างสะดวกเพราะไม่ต้องเติมกล่องยาบ่อย ๆ นอกจากนี้คุณยังสามารถติดตามระยะเวลาในการทานยาได้ด้วย
3. วัสดุ
- กล่องยาพลาสติก กล่องยาพลาสติกเป็นกล่องยาที่มีจำหน่ายทั่วไปและมีราคาไม่แพง นอกจากนี้ยังมีสีและการออกแบบให้เลือกมากมาย คุณจึงมีตัวเลือกให้ซื้อเยอะมาก ในการเลือกซื้อควรเลือกใช้วัสดุปลอดสาร BPA เกรดอาหารเช่น PET, HDPE, LDPE, โพลีโพรพีลีน, พีวีซีหรือโพลีสไตรีน เพราะวัสดุเหล่านี้ทนทานต่อการกัดกร่อน ไม่ดูดซับสารเคมีหรือดูดซับความชื้น นอกจากนี้ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ากล่องยาแข็งแรงพอที่จะทนทานต่อการสึกหรอจากการเปิดและปิดกล่อง ในการเลือกซื้อให้ลองเลือกผลิตภัณฑ์ที่ทำจากพลาสติกหนา ๆ มาพร้อมที่เปิดปิดที่แข็งแรง
- กล่องยาโลหะ หากคุณกังวลเรื่องความทนทานกล่องยาโลหะเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ โลหะไม่เหมือนพลาสติก คุณจึงสามารถมั่นใจได้ว่าพลาสติกจะไม่แตกหักง่าย หลุดออกอีกทั้งยังไม่ปล่อยสารเคมีออกมาทำให้เหมาะสำหรับการใช้งานในระยะยาว แต่ต้องระวังนิดนึงนะคะเพราะกล่องยาบางกล่องมักจะใช้แผ่นโลหะที่บาง ซึ่งอาจจะทำให้กล่องยาเกิดรอยบุบได้หากคุณทำหล่นโดยไม่ได้ตั้งใจ
4. คุณสมบัติพิเศษของกล่องยา
- กล่องยาพร้อมฝาปิดแบบป๊อปอัป กล่องยาพร้อมฝาปิดแบบป๊อปอัปช่วยให้คุณเปิดและปิดกล่องได้อย่างรวดเร็ว หากคุณมีปัญหาเกี่ยวกับข้อมือ เช่น โรคเกาต์หรือโรคข้ออักเสบ กล่องยาประเภทป๊อปอัปจะเหมาะกับคุณมากที่สุดและเพื่อให้ใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพให้เลือกกล่องยาป๊อปอัปที่มีช่องกว้างเพราะจะเปิดปิดได้ง่ายกว่าเดิมมาก ๆ
- กล่องยาพร้อมฉลาก ยาแต่ละชนิดจะมีการประทับตราและมีสีที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว ถึงแม้จะมีสัญลักษณ์เหล่านี้แต่ถ้าเรานำทั้งหมดมารวมกันแล้วเม็ดยาอาจจะปนเปทำให้เราไม่สามารถแยกประเภทยาได้ เพื่อป้องกันกรณีดังกล่าวเราขอแนะนำให้ซื้อกล่องยาที่มีฉลากที่อ่านได้ง่าย ด้วยวิธีนี้คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่ถูกต้องได้ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ หรือยาปฏิชีวนะ
- กล่องยาแบบพกพา การเดินทางเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณไม่ได้ลืมกินยาไม่ว่าที่ทำงานหรือขณะเดินทาง ให้ซื้อกล่องยาที่มีขนาดกะทัดรัดพอที่จะใส่ในกระเป๋าเสื้อหรือกระเป๋าเงินใบเล็ก ๆ ได้ แต่ต้องตรวจสอบดูว่ากล่องยาที่ซื้อมีฝาปิดที่แน่นไหม เพราะหากฝาปิดไม่แน่นยาอาจจะหล่นหายได้ อีกทั้งอย่าลืมเลือกกล่องยาที่ทนทานซึ่งสามารถทนต่อแรงกดและการสึกหรอระหว่างการเดินทางได้
- กล่องยาแบบใส กล่องยาแบบใสจะช่วยให้มองเห็นได้ง่ายไม่เหมือนกับกล่องยาแบบสีหรือทึบแสง กล่องยาแบบใสจะทำให้เราสามารถมองเห็นเม็ดยาได้อย่างชัดเจนจากภายนอก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ป่วยที่มีความสามารถในการมองเห็นที่จำกัด อีกทั้งเรายังสามารถปรับเปลี่ยนกล่องยาในแบบที่สะดวกสำหรับการใช้งานและสามารถเขียนหรือติดฉลากได้อย่างง่ายดาย ซึ่งความโชคดีก็คือกล่องยาแบบใสบางยี่ห้อมาพร้อมอักษรเบรลล์จึงมีประโยชน์สำหรับผู้อ่านอักษรเบรลล์ด้วยค่ะ
5. ขนาดของกล่องยาและช่องใส่ยา
ขนาดเฉลี่ยของช่องภายในกล่องยาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2.54 ซม. หรือมีขนาด 1 นิ้วทุกด้าน ในการตัดสินใจเลือกกล่องยาให้คำนึงถึงตารางการใช้ยาและจำนวนยา ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณทานยาวันละ 4-5 เม็ด คุณสามารถเลือกกล่องที่มี 4 ล็อกและจัดยาเป็นช่วงเช้า เที่ยงและเย็น แม้ว่าขนาดของกล่องและช่องใส่ยาจะเป็นเรื่องของความชอบส่วนบุคคล แต่ก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราจะต้องซื้อกล่องยาขนาดพอดีเพื่อให้เราพกพาหรือจัดวางที่บ้านได้โดยไม่กินพื้นที่มากนักค่ะ
Ryback กล่องใส่ยา
ราคา 103 บาท*
Ryback กล่องใส่ยาที่เหมาะมากหากคุณกำลังมองหากล่องยาแบบเรียบง่าย ตัวกล่องยามีให้เลือกทั้งหมด 4 สี ได้แก่ สีชมพู สีเขียว สีดำและสีน้ำเงิน เราสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบ ตัวกล่องทำจากวัสดุพลาสติกที่ปลอดภัย แต่ละกล่องมีสี่ช่องที่กว้างพอที่จะใส่ยาได้ถึงห้าเม็ด เหมาะสำหรับใช้เก็บยาสามัญประจำบ้าน เช่น ยาแก้ไอ วิตามินและยาแก้ปวด ตัวกล่องไม่มีกลิ่นนะคะดังนั้นจึงเก็บยาได้ดี ไม่ว่าแดดจะแรงขนาดไหนก็ไม่ทำให้ยาเสื่อมประสิทธิภาพ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- สามารถกันน้ำและกันความชื้นได้อย่างดีเยี่ยม
- ตัวกันระหว่างช่องสามารถถอดออกได้อย่างง่ายดาย
- เพิ่มความเป็นระเบียบให้กับเม็ดยาและสามารถใช้เป็นกล่องเก็บเครื่องประดับได้
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาทั่วไป/รายวัน |
|---|---|
| ขนาด | 8 x 2.4 ซม. |
| จำนวนช่อง | 4 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก |
กล่องใส่ยา 7 วันขนาดใหญ่
ราคา 81 บาท*
กล่องยาขนาดใหญ่ที่มาในสีสันที่สดใสมากเป็นพิเศษ ตัวกล่องจะเหมาะมากสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางการมองเห็น เพราะแต่ละกล่องจะมีชื่อวันในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งกล่องยาในแต่ละวันจะมี 4 ช่องแยกอีกที ตัวกล่องสามารถถอดออกได้ คุณจึงสามารถใช้กล่องยาได้อย่างสะดวก ด้วยการออกแบบแบบฝาที่เป็นพับทำให้เราสามารถเข้าถึงตัวยาได้อย่างง่ายดาย ไม่เพียงเท่านั้นแต่ละช่องยังมีป้ายระบุเวลาของวันด้วย ทำให้กล่องยาเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ที่ทานยาเป็นจำนวนมากทุกวันค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ดีไซน์สวยงามและมีความโดดเด่นมากเป็นพิเศษ
- สามารถบรรจุยาและวิตามินได้เป็นจำนวนมาก
- ถึงแม้จะเป็นกล่องยาแบบตั้งโต๊ะแต่ก็สามารถถอดออกมาพกพาได้
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาทั่วไป/รายสัปดาห์ |
|---|---|
| ขนาด | 20 x 6 x 6.4 ซม. |
| จำนวนช่อง | 28 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก |
กล่องยาอิเล็กทรอนิกส์ แบบตั้งเวลาเตือน 7 วัน
ราคา 180 บาท*
กล่องยาอิเล็กทรอนิกส์รายสัปดาห์ที่เราอยากแนะนำเครื่องนี้เป็นเครื่องจ่ายยาอัจฉริยะพร้อมระบบเตือนความจำ ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ AAA 2 ก้อน ตัวเครื่องจะทำการแจ้งเตือนทุกวันเพื่อเตือนผู้ใช้ถึงเวลาที่ต้องทายา ทำให้ตัวเครื่องเหมาะสำหรับคนทุกวัย นอกจากนี้ยังมีหน้าจอ LED ที่แสดงเวลา ตัวกล่องจะแบ่งออกเป็นคอลัมน์ แต่ละคอลัมน์จะมีสัญลักษณ์กำกับช่วงเวลาของวัน เราสามารถถอดออกได้ในกรณีที่ต้องการออกไปข้างนอกและต้องพกยาติดตัวไปด้วย ดังนั้นหากใครขี้ลืมและต้องการเครื่องจ่ายยาสะดวก ๆ เราแนะนำเลยค่ะ ขอบอกเลยว่าสะดวกมากจริง ๆ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- มีเสียงและระบบแจ้งเตือนจึงเหมาะสำหรับผู้สูงอายุหรือคนขี้ลืม
- มีช่องยา 28 ช่อง โดยแบ่งออกเป็น 7 วัน 4 ช่วงเวลาเหมาะสำหรับคนที่ทานยาหรือวิตามินเป็นประจำ
- ใส่ยาและอาหารเสริมได้เยอะมาก วัสดุมีความทนทาน
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาดิจิทัล/รายสัปดาห์ |
|---|---|
| ขนาด | 9 x 10.5 ซม. |
| จำนวนช่อง | 28 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก |
Ezy dose Pill Planner ตลับใส่ยา
ราคา 65 บาท*
Ezy dose Pill Planner เป็นกล่องยาพื้นฐานที่ราคาประหยัดมาก ๆ กล่องยามาในรูปแบบทรงกลมมีทั้งหมด 7 ช่องแบ่งออกเป็น 7 วัน ทำให้เหมาะสำหรับผู้ที่ทานยาเพียงไม่กี่ชนิด เช่น อาหารเสริมหรือยาบำรุงอื่น ๆ อีกทั้งยังมีขนาดกะทัดรัดที่สามารถใส่ลงไปในกระเป๋าได้ กล่องยามาพร้อมอักษรตัวย่อที่บอกวันหลายคนอาจจะสับสนกับตัว S 2 ตัวเล็กน้อยแต่เราสามารถนำสติกเกอร์มาติดได้ค่ะ ดังนั้นหากคุณมีตลับยาจาก Ezy คุณจะไม่พลาดการทานยาอย่างแน่นอน นอกจากนี้ยังมีหลายสีให้เลือกตามความต้องการ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ช่องเก็บยาเปิดและปิดได้อย่างง่ายดายมาก
- เหมาะสำหรับคนที่ต้องการเก็บยาหรือวิตามินเพียงไม่กี่ชนิด
- ราคาประหยัดมาก ๆ และพกพาได้อย่างสะดวก
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาทั่วไป/รายสัปดาห์ |
|---|---|
| ขนาด | 8 x 2 ซม. |
| จำนวนช่อง | 7 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก |
Pill Pro กล่องใส่ยา
ราคา 72 บาท*
Pill Pro เป็นกล่องยาที่เหมาะมากหากคุณกำลังใช้ยาหลายตัวในช่วงเวลาต่าง ๆ ของวัน กล่องยาของ Pill Pro เป็นกล่องพลาสติกที่วางซ้อนกันได้ 7 ชิ้นสำหรับทุกวันในสัปดาห์ แต่สิ่งที่ทำให้กล่องยาของทางแบรนด์แตกต่างจากกล่องยาอื่น ๆ คือ มี 4 ช่องต่อถาดสำหรับช่วงเวลาต่าง ๆ ของวันค่ะ แต่ละช่องจะมีป้ายกำกับว่าเหมาะสำหรับเวลาไหน เช้า เที่ยง เย็นหรือก่อนนอน ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความสะดวกของตัวคุณเอง เมื่อคุณมีกล่องยาคุณสามารถจัดระเบียบและติดตามปริมาณยาได้อย่างง่ายดาย ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าจะทานยาไม่ครบค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ตลับยามีทั้งหมด 7 ชั้น แบ่งออกเป็นวันและช่วงเวลาที่เราต้องทานยา
- ดีไซน์สวย กะทัดรัดทำให้เราสามารถพกพาได้ง่าย
- วัสดุมีความแข็งแรงสามารถกันความชื้นได้ดีในระดับหนึ่ง
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาทั่วไป/รายสัปดาห์ |
|---|---|
| ขนาด | 13 x 8 x 18 ซม. |
| จำนวนช่อง | 28 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก |
กล่องยาแบบแป้นพิมพ์ 31 วัน
ราคา 114 บาท*
กล่องยาดีไซน์สวยเก๋ที่มาในรูปแบบแป้นพิมพ์ 31 วัน ตัวกล่องแต่ละกล่องสามารถถอดออกเมื่อเราทานวันไหนไปแล้วก็ปลดออกได้เลย ด้วยวิธีนี้คุณจึงสามารถพกกล่องติดตัวไปได้ทุกเมื่อที่ต้องการออกจากบ้าน ตัวกล่องมีป้ายระบุจำนวนวันทำให้ง่ายต่อการติดตามการใช้ยา ดังนั้นคุณจึงสามารถหลีกเลี่ยงการคำนวณปริมาณยาที่รับประทานผิดได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้สะดวกสำหรับผู้ที่ใช้ยาบำรุง เช่น ผู้ที่เป็นโรคความดันโลหิตสูงและโรคหอบหืดค่ะ ใครที่ต้องทานยาเป็นประจำหรือต้องติดตามกิจกรรมการใช้ยาต้องซื้อค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ตัวช่องถอดออกได้มีลักษณะคล้าย ๆ กับจิ๊กซอว์ใช้งานง่าย
- ตอบโจทย์คนขี้ลืมได้เป็นอย่างดีเพราะสามารถติดตามผลรายวันได้
- ช่องใส่ยากว้างมากจัดเก็บยาได้หลายชนิด
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาทั่วไป/รายเดือน |
|---|---|
| ขนาด | 28.5 x 10.4 ซม. |
| จำนวนช่อง | 31 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก PP |
Seven Rianbow Portable Alarm Digital Pill Box กล่องใส่ยา
ราคา 350 บาท*
Seven Rianbow Portable Alarm Digital Pill Box เครื่องจ่ายยาอัตโนมัติที่มีทั้งหมด 7 ช่องสำหรับแต่ละวันใน 1 สัปดาห์ ด้วยเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 11 ซม. และหนาเพียง 2 ซม. คุณจึงวางมันลงในกระเป๋าเดินทางได้อย่างพอดี ด้วยการออกแบบอัตโนมัติทำให้เราสามารถตั้งโปรแกรมให้จ่ายยาได้อย่างน้อย 4 ครั้งต่อวันโดยมีการเตือน 3 ครั้ง ดังนั้นคุณจะไม่ลืมทานยาอย่างแน่นอน ที่กล่องยามีสติกเกอร์ DIY และช่องสีแบบสายรุ้ง คุณสามารถปรับแต่งสไตล์ตามที่ต้องการ เราสามารถตั้งเวลาล่วงหน้าได้ทั้งวินาที ชั่วโมงและนาทีได้ ทำให้เราสามารถเว้นระยะการทานยาได้อย่างแม่นยำค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ทำให้ง่ายต่อการติดตั้งและใช้งาน
- มีระบบแจ้งเตือนการทานยาทำให้เราไม่พลาดที่จะทานยา
- ตอบโจทย์ผู้คนได้อย่างหลากหลายทั้งเด็ก ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาดิจิทัล/รายสัปดาห์ |
|---|---|
| ขนาด | 11 x 11 x 2 ซม. |
| จำนวนช่อง | 7 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก |
Boxbox รุ่น M2 อุปกรณ์จัดเก็บยาและวิตามิน
ราคา 125 บาท*
Boxbox เป็นกล่องใส่ยาและวิตามินที่มาในภาชนะทรงกระบอกใส ตัวฝามีสีที่แตกต่างกันซึ่งเป็นสีประจำวันเพื่อให้เราได้รู้ว่ายาไหนควรกินวันไหน แต่นอกจากสีแล้วยังมีวันที่เขียนด้วยตัวอักษรหนาบนภาชนะด้วย ด้วยฝาปิดที่ถอดออกได้ง่ายจึงเหมาะสำหรับผู้ใช้ที่อายุมาก เนื่องจากไม่จำเป็นต้องแงะฝาออก กล่องนาสามารถช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีมาก ๆ เนื่องจากคุณสามารถซ้อนกล่องยาทั้งหมดลงในกล่องทรงกระบอกได้ พื้นที่ภายในภาชนะแต่ละชั้นมีขนาด 3.3 x 2.5 ซม. เพียงพอสำหรับเม็ดยาที่มีขนาดและรูปร่างต่างกัน ใครที่ทานยาเป็นรายสัปดาห์แนะนำเลยค่ะ แต่ไม่แนะนำสำหรับยาที่โดนแสงไม่ได้นะคะเพราะกล่องเป็นแบบใสไม่กันแสงแดดค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- กล่องยามีดีไซน์สวยงาม มาในรูปทรงกระบอกจัดเก็บได้ง่ายมาก
- วัสดุเป็นพลาสติกที่มีความทนทานมากสามารถใช้งานได้นาน
- มีเฉดสีและตัวอักษรกำกับทำให้เราทานยาได้โดยไม่หลงลืม
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาทั่วไป/รายสัปดาห์ |
|---|---|
| ขนาด | 17.8 x 7 ซม. |
| จำนวนช่อง | 7 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก |
Hello Smile ตลับใส่ยา 4 สี
ราคา 176 บาท*
Hello Smile เป็นกล่องยาสีพาสเทลที่เหมาะสำหรับใช้งานทุกวันค่ะ กล่องยาเหมาะมากที่จะทำให้เราพกพายาติดตัวไปทุก วัสดุที่ทางแบรนด์ใช้คือพลาสติก PP ที่มีความทนทานสูง กล่องยามาพร้อมกับสายคล้องให้เราสามารถแขวนไว้บนกระเป๋าเดินทางได้อย่างสะดวก กล่องยามีทั้งหมด 4 ช่องซึ่งเหมาะสำหรับในแต่ละวัน โดยเฉพาะยาหรือวิตามินที่ต้องทานเช้า เที่ยง เย็นและก่อนนอนค่ะ ตลับใส่ยาในแต่ละชั้นจะแบ่งออกเป็นสี ๆ มีสัญลักษณ์เป็นช่วงเวลาติดอยู่ทำให้เราได้รู้ว่ายาเม็ดไหนเหมาะกับตอนไหน ตลับยาสามารถพกพาสะดวกและทนความชื้น คุณจึงสามารถวางใจได้ว่ายาทั้งหมดของคุณจะยังคงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ตลอดการเดินทาง
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- กันน้ำ กันความร้อนและกันความชื้นได้ดีทำให้เม็ดยาไม่ได้รับความเสียหาย
- ฝาปิดแต่ละชั้นสามารถหมุนได้รอบ 360 องศาทำให้เปิดปิดได้ง่าย
- สามารถใส่ยาและวิตามินได้หลายรูปแบบ
| รูปแบบของตลับใส่ยา | กล่องยาทั่วไป/รายวัน |
|---|---|
| ขนาด | 11.8 x 5 ซม. |
| จำนวนช่อง | 4 ช่อง |
| วัสดุ | พลาสติก PP |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว กล่องใส่ยา/ตลับยา แบบไหนใช้ดี ทนทาน ปี 2023 | ||||
|---|---|---|---|---|
| ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
|
|   | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
|
| | ||
กล่อง/ตลับยาปลอดภัยที่จะใช้งานหรือไม่ ?
แน่นอนว่ากล่องยาและตลับยาปลอดภัยในการใช้งานได้อย่างแน่นอน ตราบใดที่เราเก็บให้พ้นแสงแดดและความชื้น แต่มีข้อควรระวังเล็กน้อยนะคะเพราะยาและวิตามินบางชนิดไม่สามารถใส่ในกล่องยาได้ เพราะยาบางชนิดไวต่อแสงและอาจสูญเสียประสิทธิภาพเมื่อนำออกจากขวดสีน้ำตาลที่ซื้อมา นอกจากนี้ยาบางยี่ห้ออาจจะต้องบรรจุในบรรจุภัณฑ์ฟอยล์เพื่อป้องกันการดูดซึมความชื้น หากคุณไม่แน่ใจคุณควรอาจฉลากก่อนที่จะเก็บยาในกล่องยา
เมื่อซื้อกล่องหรือตลับเก็บยามาแล้วขอแนะนำให้ทำความสะอาดกล่องยาเป็นประจำ ตัวอย่างเช่น หากคุณใช้กล่องยารายสัปดาห์คุณควรทำความสะอาดกล่องยาทุกสัปดาห์ หากคุณมีกล่องยารายเดือน คุณควรทำความสะอาดมันตอนสิ้นเดือน ต้องจำไว้เสมอนะคะว่าเราต้องสัมผัสกล่องยาทุกวัน ดังนั้นฝุ่นและสิ่งสกปรกจึงสะสมได้ง่าย ซึ่งสิ่งสกปรกเหล่านี้อาจกลายเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของแบคทีเรียได้เราจึงจำเป็นต้องทำความสะอาดกล่องยาเป็นประจำเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งสกปรกเหล่านี้ค่ะ
