พาวเวอร์แบงค์ จากแบรนด์ Eloop เป็นสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถใช้งานได้ดีจริงครับ และสิ่งที่ทำให้แบรนด์นี้ได้รับความนิยมก็คือ ราคาที่สมเหตุสมผล ถึงแม้สเปกบางอย่างจะดูธรรมดา ต่างไปจากแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเข้ามาทำตลาด แต่เราสามารถเชื่อได้ครับว่า ทุกอย่างที่ระบุมาในสเปก มันสามารถทำได้ทั้งหมดและทำได้ดีด้วย
อีกทั้งสิ่งสำคัญอีกอย่างคือ ความปลอดภัย ครับ พาวเวอร์แบงค์ Eloop ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากลมากมาย รวมทั้ง มอก. ของบ้านเราด้วย ดังนั้นมันสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย ต่อทั้ง อุปกรณ์ของคุณ และตัวของคุณเอง
สำหรับในปี 2023 นี้ เราได้ทำการเลือก พาวเวอร์แบงค์ Eloop รุ่นยอดฮิต มารีวิว 6 รุ่น 6 สไตล์ โดยผสมกันทั้งรุ่นใหม่ และรุ่นเก่า เดี๋ยวเรามาหาคำตอบกันว่า รุ่นไหนจะเหมาะกับการใช้งานของคุณที่สุดครับ ?

เมื่อถามถึงสิ่งที่สำคัญที่สุดในยุคปัจจุบันนี้ เราเชื่อว่าหลายคนต้องยกให้กับ โทรศัพท์มือถือ อย่างแน่นอน เพราะอุปกรณ์เครื่องเล็ก ๆ และบางเบาเหล่านี้ได้รวมทุก ๆ อย่างที่จำเป็นสำหรับยุคนี้ไว้ในตัวมันเองหมดแล้ว ซึ่งเราสังเกตุได้จากการที่ทุกวันนี้เรามีแอปพลิเคชันบนมือถือแทบทุกอย่างให้เลือกครับ แถมแต่ละอย่างก็มีประสิทธิภาพสูงขึ้นมาก ช่วยให้เราสามารถหยิบมือถือขึ้นมาทำในสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น แต่แน่นอนครับว่า ประสิทธิภาพที่สูงขึ้น ต้องแลกกับการใช้พลังงานที่มากขึ้นด้วยเช่นกัน
ถ้าเราสังเกตุดูดี ๆ จะเห็นเลยว่า 5-10 ปีมานี้หลาย ๆ อย่างพัฒนาไปมากครับ แต่แบตเตอรี่แทบไม่ได้ถูกพัฒนาขึ้นเลย อาจจะมีพัฒนาเฉพาะเทคโนโลยีการชาร์จเร็ว แต่นั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับประสิทธิภาพของแต่ละฟังก์ชันที่ต้องการจะใช้พลังงานมากขึ้นเป็นเท่าตัว ดังนั้นอุปกรณ์ง่าย ๆ ที่เรียกว่า พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) หรือ แบตสำรอง จึงกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง (อ่านเพิ่มเติม พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) คืออะไร? ) และเมื่อพูดถึงพาวเวอร์แบงค์ แน่นอนครับ ชื่อที่ทุกคนนึกถึงขึ้นมาก่อนใครก็คือ Eloop เพราะทำตลาดมาหลายปีแล้ว ทำให้มีความน่าเชื่อถือมาก ๆ ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาอัปเดทกันว่าทุกวันนี้ พาวเวอร์แบงค์ Eloop ถูกพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ? มีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ? และแต่ละรุ่นจะมีราคาเท่าไหร่ ? ตามไปดูกันครับ

พาวเวอร์แบงค์ Eloop รุ่นไหนดี แบบไร้สาย/พกพาง่าย/ความจุสูง?
- Orsen by Eloop EW40 (20000mAh) : พาวเวอร์แบงค์ไร้สาย ราคาถูก ความจุเยอะ ชาร์จได้หลายครั้ง
- Orsen by Eloop E57 (10000mAh) : พาวเวอร์แบงค์พกพา ที่บางเบา พร้อมมีสายชาร์จ 2 หัว ในตัว
- Orsen By Eloop EW55 (20000mAh) : พาวเวอร์แบงค์ไร้สาย ระบบแม่เหล็ก ความจุเยอะ ชาร์จได้หลายครั้ง
- Orsen by Eloop E29 (30000mAh) : แบตสำรองความจุสูงที่สุดของ Eloop สำหรับผู้ที่ต้องการชาร์จหลาย ๆ ครั้ง
- Orsen by Eloop EW56 (7000mAh) : แบตสำรองไร้สาย MagSafe สำหรับ iPhone แค่แปะก็ชาร์จไร้สายทันที หรือเสียบสายสั้น ๆ เพื่อชาร์จเร็วก็ได้
- Orsen by Eloop E14 Pro (20000mAh) : พาวเวอร์แบงค์ที่ขายดีที่สุด ราคาถูก รองรับชาร์จเร็ว แถมทนทาน
วิธีเลือกซื้อ พาวเวอร์แบงค์ Eloop ต้องดูอะไรบ้าง เพื่อให้มีความปลอดภัย และตรงกับการใช้งานของคุณที่สุด ?
4-5 ปีที่ผ่านมาเราจะเห็นเลยครับว่า เทคโนโลยีของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ มีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด ซึ่งส่งผลต่อตัวพาวเวอร์แบงค์ ทำให้มันถูกพัฒนาขึ้นตามไปด้วย มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ มาใส่ เพื่อให้สอดคล้องกับอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ จนพาวเวอร์แบงค์ในปัจจุบันแตกต่างไปจากรุ่นก่อน ๆ มากครับ อาทิเช่น ความจุของแบตเตอรี่ที่มากขึ้น แต่ขนาดเล็กลง, การชาร์จผ่านพอร์ตใหม่ ๆ ที่จ่ายไฟได้มากขึ้น ช่วยให้ชาร์จเร็วขึ้น, เทคโนโลยีการชาร์จไร้สาย (เช่น Wireless Charge และ MagSafe) หรือเทคโนโลยีชาร์จเร็ว (Fast Charge) ต่าง ๆ ดังนั้นวิธีเลือกซึ้อพาวเวอร์แบงค์ในยุคนี้ จึงมีหลายปัจจัยมากขึ้นดังต่อไปนี้ครับ
1. เลือกความจุพาวเวอร์แบงค์ Eloop ที่เหมาะสมกับการใช้งาน
|
ถ้าคุณไปดูสเปก มือถือ, แท็บเล็ต และอื่น ๆ รวมถึง พาวเวอร์แบงค์ Eloop เอง ทุกรุ่นก็จะมีความจุแบตระบุไว้เสมอ ซึ่งหาดูได้ง่าย ๆ ครับ ทั้ง ที่ตัวเครื่อง กล่อง และในเว็บไซต์ โดยใช้หน่วย mAh เหมือนกัน ทำให้มีบางคนเข้าใจผิดโดยการเอาความจุอุปกรณ์มาลบกับความจุพาวเวอร์แบงค์ ซึ่งถ้าใช้วิธีนี้ ความจุที่ได้จะคลาดเคลื่อนไปมาก ครับ เพราะตัวพาวเวอร์แบงค์จะมีการสูญเสียพลังงานด้านอื่น ๆ ด้วย
ซึ่งแบตเตอรี่ในอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมไปถึงพาวเวอร์แบงค์ ส่วนใหญ่เก็บไฟด้วยแบตฯ Li-ion รูปแบบต่าง ๆ ซึ่งจุดสำคัญคือ แบตฯ เหล่านี้มีแรงดันไฟฟ้าประมาณ 3.7V – 3.85V แต่เวลาเราชาร์จ พาวเวอร์แบงค์จะจ่ายไฟด้วยแรงดันไฟเริ่มต้น 5V/ 2.1A (ยิ่งใช้ชาร์จเร็ว แรงดันไฟก็ยิ่งสูง) ความจุของพาวเวอร์แบงค์จึงลดลงตามกฏ อีกทั้งก่อนจะจ่ายไฟทุกครั้ง พาวเวอร์แบงค์ต้องแปลงไฟ เพิ่มแรงดันให้เหมาะกับอุปกรณ์ก่อน ซึ่งก็จะใช้พลังงานอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นความจุที่เราใช้ได้ ก็จะลดลงอีก เช่น ถ้าซื้อ Eloop EW56 ความจุ 7,000 mAh เราจะใช้ได้จริงประมาณ 2 ใน 3 หรือไม่ถึง 5,000 mAh ครับ ชาร์จ iPhone X ที่มีความจุ 2,716 mAh ได้ 1 รอบ นิด ๆ ครับ |
สำหรับวิธีคำนวณที่ถูกต้อง มันค่อนข้างยุ่งยากครับ ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากคำนวณให้ปวดหัว วิธีง่าย ๆ ก็คือ การบวกความจุแบตฯ อุปกรณ์ที่คุณต้องการชาร์จทั้งหมด แล้วคูณ 2 หรือ 3 เท่า เข้าไป เช่น
ถ้าคุณต้องการชาร์จ iPhone 14 ที่มีแบตฯ 3,279 mAh และ iPad 10th ที่มีแบตฯ 8,557mAh ชิ้นละ 1 รอบ ให้นำความจุมาบวกกัน แล้วคูณ 2 หรือ 3 เท่า จะได้ (3,279 + 8,557) × 2 = 23,672 mAh ดังนั้นพาวเวอร์แบงค์ 23,000mAh จะสามารถชาร์จ iPhone 14 และ iPad 10th ได้ชิ้นละ 1 รอบนิด ๆ ครับ ซึ่งวิธีนี้จะได้ความจุมากกว่าที่คุณต้องการนะครับ ดังนั้นมันเพียงพอต่อการใช้งานของคุณแน่นอน
2. ขนาด และน้ำหนัก ที่สะดวกสำหรับคุณ

เมื่อความทราบความจุที่เพียงพอกับอุปกรณ์ของคุณจากข้อแรกแล้ว คุณก็จะมีรุ่นที่ชัดเจนขึ้น ซึ่งแน่นอนครับ ขนาด และน้ำหนัก จะขึ้นอยู่กับความจุของพาวเวอร์แบงค์โดยตรง ยิ่งมีความจุมากเท่าไหร่ แบตฯ ก็ต้องใหญ่และหนักขึ้นมากเท่านั้น ดังนั้นหากคุณต้องการความจุสูง ๆ อย่าง พาวเวอร์แบงค์ 50,000mAh คุณก็ต้องยอมรับในขนาดใหญ่ และน้ำหนักที่อาจจะหนักเป็นกิโลฯ ๆ โดยส่วนใหญ่แล้วรุ่นนี้ที่มีความจุเท่า ๆ กัน น้ำหนักก็จะพอ ๆ กันครับ แต่ด้านขนาดอาจจะต่างกันบ้าง บางรุ่นอาจจะบาง แต่ใหญ่ ส่วนบางรุ่นอาจจะเล็ก แต่หนา สำหรับใครที่พกกระเป๋าอยู่แล้วก็ไม่น่าจะมีปัญหาครับ แต่ถ้าคุณต้องการพกใส่กระเป๋ากางเกงรุ่นที่มีขนาดเล็กและบางเบา เช่น Eloop E57, Eloop EW56 หรือรุ่นอื่น ๆ ที่มีความจุไม่เกิน 10,000mAh ก็จะเหมาะกับคุณที่สุด
3. เลือกเทคโนโลยีชาร์จเร็วให้รองรับกับอุปกรณ์ของคุณ
ในปัจจุบัน พาวเวอร์แบงค์ Eloop แทบทุกรุ่น มีการใส่เทคโนโลยีชาร์จเร็วต่าง ๆ มาให้เป็นพื้นฐานแล้ว ซึ่งถูกพัฒนามาพร้อมกับอแดปเตอร์ชาร์จเร็ว และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของเราด้วย ทำให้อุปกรณ์ทุกชิ้นสามารถใช้ชาร์จเร็วได้เหมือนกันหมด โดยทุกวันนี้เทคโนโลยีชาร์จเร็วที่เรารู้จักกันมากที่สุดก็จะมีหลัก ๆ อยู่ 2 ตัว ได้แก่ Power Delivery 3.0 (PD3.0) ของอุปกรณ์ iOS หรือ Quick Charge 3.0 (QC3.0) ของอุปกรณ์ Andriod และอื่น ๆ ซึ่งถ้าพาวเวอร์แบงค์รองรับเทคโนโลยีทั้ง 2 สามารถยืนยันเลยได้ว่า มันจะชาร์จได้เร็วขึ้นแน่นอน พอ ๆ กับที่เราชาร์จด้วยอแดปเตอร์เลย และพอร์ตต่าง ๆ จะรองรับกำลังไฟได้สูงขึ้นครับ
4. พอร์ต Input และ Output
|
สิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือ พอร์ตชาร์จ ที่มีทั้ง พอร์ต Input และ Output ถ้าหากไปดูในสเปกก็อาจจะงง ๆ หน่อย เพราะส่วนใหญ่จะบอกเฉพาะ ค่า V/A เหมือนกัน เช่น 5V/3A , 9V/2A ไม่ได้ระบุเป็น ค่าวัตต์ (W) มาให้ ทำให้ยิ่งดูก็ยิ่งมั่ว แต่วิธีที่ใช้หาค่า W สามารถทำได้ง่าย ๆ ครับ โดยการนำ V คูณกับ A ก็จะได้ค่า W ออกมาครับ V × A = W
จากภาพเป็น Eloop EW40 ที่มีแท่นชาร์จไร้สาย และพอร์ตที่ครบครัน โดยสเปกของแต่ละพอร์ตจะระบุตามนี้เลย ซึ่งบนสุด จะเป็น USB-A และแถวที่สองจะเป็น USB-C จะสังเกตุว่า มีการรองรับเหมือนกันเลย ดังนั้นถ้าเรานำค่า V มาคูณกับค่า A เราจะได้ค่าสูงสุด คือ 9V × 2A = 18W หรือ 12V × 1.5A = 18W หมายความว่า ทั้ง 3 พอร์ต ด้านบนของรุ่นนี้ สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 18W เท่ากัน ส่วนพอร์ตอื่น ๆ ก็คิดเหมือนกัน |
5. ความปลอดภัย รวมไปถึงการรับประกัน
ถ้าเราไปดูร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ เราจะเห็นเลยว่า ทุกวันนี้ในตลาดมีพาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) เยอะมาก ๆ ครับ มีหลายรุ่น หลายราคาเลย แต่ขอแนะนำไว้ก่อนนะครับว่า ในการเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ คุณไม่ควรเลือกซื้อโดยดูที่ราคาถูก ๆ เพียงอย่างเดียว เพราะมันเป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่เก็บพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ในตัวเอง หากใช้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีการรับรองมาตรฐานที่เป็นสากลเลย อันตรายก็ตกอยู่ที่ตัวคุณเอง รวมไปถึงอุปกรณ์ที่คุณนำมาชาร์จด้วย ด้วยเหตุผลเหล่านี้ในบทความนี้เราจึงคัดมาเฉพาะของแบรนด์ Eloop เท่านั้น ซึ่งมีความน่าเชื่อถือสูงและผ่านการรับรองมาตรฐานมาครบครัน และสิ่งสำคัญคือ การรับประกันที่ครอบคลุม ครับ ดังนั้นถ้าคุณไม่อยากเสี่ยง ยอมจ่ายแพงขึ้นมาหน่อย เพื่อแลกกับความปลอดภัยที่เชื่อถือได้ ส่วนตัวจึงคิดว่า มันคุ้มค่ากว่ามากครับ
ราคา 869 บาท* Eloop EW40 เป็นพาวเวอร์แบงค์ไร้สาย (Wireless Charge) ราคาประหยัด ที่รองรับชาร์จเร็ว ทั้ง แบบมีสาย และไร้สายเลย โดยมาพร้อมแบตฯ Li-Polymer ความจุ 20000mAh และใส่เทคโนโลยีชาร์จเร็วมาครบครัน เช่น QC3.0, PD3.0, FCP รวมถึง AFC ช่วยให้รองรับอุปกรณ์ได้หลายรุ่น หลายระบบเลย โดยสามารถจ่ายไฟผ่านสายได้สูงสุด 18W และจ่ายไฟแบบไร้สายที่ 10W ครับ ซึ่งแม้ไม่ได้เร็วมากนัก แต่เพียงพอกับการใช้งานครับ ส่วนหน้าตารุ่นนี้ จะเน้นความเรียบหรู ผิวสัมผัสที่มีการหุ้มผ้า Fabric ให้ทั้ง ความสวย และทนทาน แถมยังมีคุณสมบัติการยึดเกาะที่ดีขึ้นด้วย ด้านการชาร์จรุ่นนี้สามารถชาร์จพร้อมกันได้ 4 เครื่องครับ โดยแบ่งเป็นแท่นชาร์จ 1 ที่ และมีพอร์ตชาร์จอีก 3 พอร์ต ได้แก่ USB-A 2 พอร์ต ที่จ่ายกระแสไฟสูงสุด 18W และพอร์ต USB-C 1 พอร์ต ที่เป็นทั้ง Input และ Output ในตัว สามารถจ่ายไฟ และรับไฟ ได้สูงสุดถึง 18W เช่นกัน ช่วยให้ใช้ชาร์จอุปกรณ์ได้หลากหลาย ด้วยความเร็วที่พอดี รวมถึงการรีชาร์จตัวเองด้วย และยังให้พอร์ต Micro USB เป็น Input มาอีก 1 พอร์ต โดยรุ่นนี้จะใช้เวลารีชาร์จ 8 ชั่วโมง ครับ ซึ่งอาจจะดูนานไปนิด แนะนำให้ชาร์จทิ้งไว้ก่อนนอนครับ ส่วนสถานะการทำงาน จะใช้ไฟ LED 4 ดวง บอกปริมาณแบตฯ คงเหลือ และใช้สีไฟ LED บอกสถานะการชาร์จไว ซึ่งก็ดูเข้าใจง่ายดีครับ Orsen by Eloop EW40 เป็นพาวเวอร์แบงค์ไร้สาย (Wireless Charge) รุ่นยอดนิยม ที่รองรับการชาร์จเร็ว แบบไร้สายได้ครอบคลุมทุกระบบเลย ซึ่งปัจจัยที่ทำให้รุ่นนี้ขายดีมาก ๆ คือ วัสดุที่ดี มีคุณภาพ และที่สำคัญ สามารถชาร์จเร็วได้ทั้งมีสายและไร้สาย โดยที่ไม่จำกัดระบบ ขอแค่อุปกรณ์ของคุณมีการรองรับ Wireless Charge คุณก็นำมาชาร์จกับรุ่นนี้ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้มาในราคาแค่หลักร้อยเท่านั้น ฉะนั้นจึงไม่แปลก ที่รุ่นนี้จะขายดีมาก ๆ ซึ่งเราได้ไปดูรีวิวของผู้ที่ซื้อรุ่นนี้ คนส่วนใหญ่ต่างรู้สึกประทับใจ และมองว่ารุ่นนี้คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ครับ โดยที่บางคนก็ชอบดีไซน์ที่เรียบหรู และขนาดพอ ๆ กับมือถือ ทำให้มันพกพาได้ง่าย บางคนพอใจด้านเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่ครอบคลุม หรือบางคนก็ชอบพอร์ตที่ครบครัน ส่งผลให้ไม่ว่าคุณจะมีสาย หรือไม่มีสาย คุณก็ใช้งานได้ ดังนั้นใครใช้อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไร้สายอยู่ รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ ซึ่งหากคุณสนใจรุ่นนี้จริง ๆ ตามไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิว Orsen by Eloop EW40 พาวเวอร์แบงค์ไร้สาย ราคาเบา ๆ ครับ ราคา 899 บาท* หากคุณเบื่อกับการพกสายชาร์จติดตัว และไม่อยากจะแกะสายชาร์จทุก ๆ ครั้ง เวลาจะหยิบมาใช้งาน Orsen by Eloop E57 คือคำตอบของคุณครับ โดยรุ่นนี้เป็นพาวเวอร์แบงค์ขนาดเล็กและบางเบา มาพร้อมแบตฯ Li-Polymer ความจุ 10000mAh ที่รองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วทั้ง QC3.0 และ PD3.0 สามารถชาร์จได้ทั้ง อุปกรณ์ Android และ iOS ทุก ๆ รุ่น โดยสามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 20W เลยทีเดียวครับ ซึ่งความพิเศษของรุ่นนี้ คือ การออกแบบโดยมีสายชาร์จมาให้ในตัว 2 หัว ได้แก่ หัว USB-C และหัว Lightning ซึ่งถูกซ่อนไว้ใต้ฝาปิดแม่เหล็ก ลักษณะเดียวกับเคส iPad ช่วยให้เก็บสายได้อย่างแนบเนียน แถมเอาออกมาใช้ก็สะดวกครับ โดยวัสดุที่ใช้จะเป็นหนัง PU หุ้มบนพลาสติก ABS ช่วยให้มันดูเป็นพรีเมี่ยมมากขึ้น แถมมาในบอดี้ขนาดเล็กกว่ามือถือ แต่ความหนา และน้ำหนักพอ ๆ กัน ช่วยให้มันพกง่าย ๆ มาก ๆ สามารถใส่กระเป๋าเสื้อ หรือกางเกงได้ โดยรุ่นนี้สามารถชาร์จพร้อม ๆ กันได้สูงสุด 3 เครื่อง ครับ ซึ่ง 2 เครื่องชาร์จผ่านสายที่บิ้วอินมาในตัว 2 หัว คือ หัว Lightning สำหรับใช้ชาร์จอุปกรณ์ของ Apple และหัว USB-C สำหรับชาร์จอุปกรณ์ Android รวมถึงอุปกรณ์อื่น ๆ ที่ใช้พอร์ต USB-C ซึ่งสามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 20W ทั้งคู่ครับ ส่วนอีก 1 เครื่อง ก็จะชาร์จผ่านพอร์ต USB-C ที่เป็นพอร์ต Input และ Output ในตัว โดยพอร์ตนี้สามารถจ่ายไฟ และรับไฟได้สูงสุด 20W เช่นกันครับ ส่งผลให้สามารถชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วยความเร็วได้หลากหลาย และช่วยให้การรีชาร์จตัวเองทำได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลาเพียง 3-4 ชั่วโมง เท่านั้น นอกจากนี้การแสดงสถานะต่าง ๆ รุ่นนี้จะใช้ไฟ LED 4 ดวง ในการบอกปริมาณแบตฯ คงเหลือ และใช้สีของไฟ LED บอกสถานะการชาร์จเร็ว Orsen by Eloop E57 เป็นพาวเวอร์แบงค์ ขนาดพกพาที่เล็ก และบางเบาสุด ๆ ถูกออกแบบมาให้คนที่ยังจำเป็นต้องใช้สายชาร์จกับอุปกรณ์ต่าง ๆ อยู่ ด้วยความจุ 10000mAh ที่ถือว่า ไม่มาก และไม่น้อยจนเกินไป สามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระหว่างวันได้สบาย ๆ และยิ่งถ้าคุณรู้สึกรำคาญสายไฟทุกครั้ง เมื่อหยิบออกมาใช้งาน เราขอแนะนำเจ้ารุ่นนี้เลยครับ การออกแบบโดยใส่สายชาร์จมาให้ในตัวอย่างแนบเนียน ช่วยให้การพกพาและใช้งานทำได้ง่าย และสะดวกมาก ๆ ครับ ซึ่งเราได้ไปดูรีวิวของผู้ที่ซื้อรุ่นนี้ คนส่วนใหญ่ต่างรู้สึกประทับใจ และมองว่ารุ่นนี้คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ครับ โดยที่บางคนก็ชอบดีไซน์ที่เรียบหรู และขนาดพอ ๆ กับมือถือ ทำให้มันพกพาได้ง่าย บางคนพอใจด้านเทคโนโลยีการชาร์จเร็วที่ครอบคลุม หรือบางคนก็ชอบพอร์ตที่ครบครัน ส่งผลให้ไม่ว่าคุณจะมีสาย หรือไม่มีสาย คุณก็ใช้งานได้ ดังนั้นใครใช้อุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไร้สายอยู่ รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ ซึ่งหากคุณสนใจรุ่นนี้จริง ๆ ตามไป อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : รีวิว Orsen by Eloop E57 พาวเวอร์แบงค์ 10,000 mAh พร้อมสายชาร์จ 2 หัวในตัว ครับ ราคา 1,399 บาท* Eloop EW55 Magnetic เป็นพาวเวอร์แบงค์ไร้สาย ระบบแม่เหล็ก (Magnetic) ขนาดกำลังดี ซึ่งเล็กกว่า Eloop EW40 เล็กน้อย แต่มีความจุเท่ากันที่ 20000mAh พร้อมกับเทคโนโลยีชาร์จเร็วทั้ง QC 3.0 และ PD โดยสามารถจ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 20W ช่วยให้คุณสามารถชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหนึ่งในจุดเด่นของรุ่นนี้ก็คือ หน้าตาที่ล้ำสมัย ไม่มีใครเหมือนโดยใช้คอนเซ็ปต์ Visible Power ที่จะใช้แผ่นใสมาโชว์แผงวงจรภายใน พร้อมแจ้งสถานะการชาร์จและปริมาณแบตฯ ด้วยไฟ LED 4 ดวง ที่อยู่ภายใน ซึ่งช่วยให้มันดูง่าย และโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นมาก ตัวบอดี้ใช้วัสดุอย่างดี ดีไซน์มาแบบเหลี่ยม ๆ ตัดขอบคม ๆ ช่วยให้จับถือถนัดมือ บวกกับขนาดที่เล็ก และหนักแค่ 300 กรัมนิด ๆ มันจึงพกพาไปไหน มาไหน ได้สะดวกมาก ๆ ครับ สำหรับการใช้งานรุ่นนี้รองรับการชาร์จได้หลายรูปแบบเลยครับ โดยจุดขาย คือ แท่นชาร์จเร็วไร้สายแบบแม่เหล็ก (Magnetic Wireless) ซึ่งเป็นแท่นชาร์จเร็วไร้สาย (QI Wireless Charge) ที่ได้ใส่แม่เหล็กมาด้วย ทำให้คุณสามารถนำมือถือมาชาร์จได้ทันที ซึ่งก็มีแรงดูดกำลังดีครับ เหมาะกับ iPhone 12 series ขึ้นไปมาก ๆ ในส่วนการจ่ายไฟของแท่นชาร์จ ถ้านำอุปกรณ์ iOS มาชาร์จ จะจ่ายไฟได้สูงสุด 7.5W ครับ (ซึ่ง Apple ได้จำกัดไว้ ถ้าคุณต้องการชาร์จไร้สาย 15W จะต้องใช้ Apple MagSafe เท่านั้น) แต่ถ้านำไปชาร์จ Android รุ่นที่รองรับ มันจะจ่ายไฟได้สูงสุด 15W เลยทีเดียว ส่วนพอร์ตชาร์จ รุ่นนี้มี Output อยู่ 3 พอร์ต คือ USB-A 2 พอร์ต สามารถจ่ายไฟสูงสุด 18W สำหรับชาร์จอุปกรณ์ทั่ว ๆ ไป และ USB-C อีก 1 พอร์ต ที่เป็น Output และ Input ในตัว สามารถรับและจ่ายไฟสูงสุดถึง 20W ครับ ช่วยให้การชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำได้เร็วมากขึ้น Orsen by Eloop EW55 เป็นพาวเวอร์แบงค์ชาร์จเร็วไร้สายระบบแม่เหล็ก รุ่นยอดนิยม ซึ่งชาร์จอุปกรณ์ที่รองรับการชาร์จไร้สายได้ทุกรุ่นครับ โดยเฉพาะ iPhone 12 seires ขึ้นไป เพราะรุ่นนี้ใส่แม่เหล็กมาในตัวด้วย ช่วยให้มันดูดติดกับ iPhone ได้โดยตรง ส่วนพอร์ตชาร์จก็มีให้ถึง 3 พอร์ต โดยใน 2 พอร์ต เป็น USB-A จ่ายไฟได้สูงสุดถึง 18W และพอร์ต USB-C อีก 1 พอร์ต ที่รับไฟ และจ่ายไฟ ได้สูงสุด 20W ช่วยให้การชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วมาก ๆ เมื่อบวกกับดีไซน์ที่โดดเด่น ล้ำสมัย แถมขนาดที่เล็ก และเบา แต่ได้ความจุถึง 20000mAh รุ่นนี้จึงขายดีมาก ๆ ครับ ซึ่งเราได้ไปไล่ดูรีวิวของรุ่นนี้จากหลาย ๆ เว็บไซต์ พบว่า รีวิวของผู้ที่ซื้อรุ่นนี้ไปส่วนใหญ่ แทบทุกรีวิวต่างรู้สึกว่าคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปมาก ๆ ครับ และรู้สึกประทับใจในคุณภาพ และการชาร์จของรุ่นนี้ ที่ทำได้เร็วมาก ๆ ทั้งการชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ และการชาร์จตัวมันเอง ดังนั้นหากใครกำลังใช้งาน iPhone รุ่นใหม่ ๆ รวมกับมือถือ Android แล้วกำลังมองหาพาวเวอร์แบงค์ ที่เป็นแท่นชาร์จไร้สาย ระบบแม่เหล็ก ขอแนะนำ Eloop EW55 เลยครับ ซึ่งจะครอบคลุมการชาร์จอุปกรณ์ของคุณได้อย่างแน่นอน ราคา 839 บาท* ใครต้องการแบตฯ สำรองที่มีความจุสูง ๆ สามารถชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้หลายรอบ เราขอแนะนำเป็น Eloop E29 พาวเวอร์แบงค์ที่อัดความจุมาถึง 30000mAh ซึ่งถือเป็นรุ่นที่มีความจุมากที่สุดในบรรดาพาวเวอร์แบงค์ Eloop ในขณะนี้ครับ โดยมาพร้อมระบบการชาร์จที่ถูกพัฒนาขึ้น และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วทั้ง QC3.0 และ PD ของอุปกรณ์ Apple ช่วยให้รุ่นนี้จ่ายกระแสไฟได้สูงสุด 18W ครับ ในด้านดีไซน์รุ่นนี้จะมาเรียบ ๆ เหมือนกับ Eloop E14 Pro เลยครับ ตัวบอดี้จะใช้อะลูมิเนียมที่ทนทาน แถมขนาดถือว่าทำได้ดีเลย เพราะด้วยความจุที่มากขนาดนี้ แต่กลับมาในบอดี้ที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ทั้งยังดูบางกว่า Eloop EW55 และ Eloop EW40 ที่มีความจุน้อยกว่าอีกด้วย ทำให้รุ่นนี้สามารถพกพาได้ง่าย ๆ ครับ ในส่วนของพอร์ตชาร์จ ถึงแม้รุ่นนี้จะให้มาค่อนข้างน้อย แต่ก็ให้มาครบครันครับ โดยมีทั้งหมด 4 พอร์ต ประกอบด้วย Micro USB เป็นพอร์ตอินพุต รับไฟได้สูงสุด 10W พอร์ต USB-C ที่เป็นทั้งอินพุต และเอาท์พุต รับ และจ่ายไฟได้สูงสุด 18W และพอร์ต USB-A ที่เป็นเอาท์พุตอีก 2 พอร์ต คือ พอร์ต USB-A สีส้ม เป็นพอร์ตที่ใช้ชาร์จอุปกรณ์ที่รองรับรองรับชาร์จไวต่าง ๆ สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 18W ส่วนพอร์ต USB-A สีดำ เป็นพอร์ตที่ใช้ชาร์จอุปกรณ์ที่ไม่รองรับชาร์จไวหรืออุปกรณ์ที่ต้องใช้กำลังไฟไม่เกิน 2.4A ซึ่งชาร์จได้ทั้งหมดครับ ดังนั้นใครต้องการแบตสำรอง สำหรับชาร์จอุปกรณ์ทั่ว ๆ ไป ที่ชาร์จได้เยอะ ๆ ชาร์จได้หลายครั้ง และต้องพกพาสะดวก ๆ ด้วย รุ่นนี้เหมาะที่สุด สำหรับ Eloop E29 เป็นพาวเวอร์แบงค์ที่มีความจุสูงที่สุด 30,000mAh สามารถชาร์จอุปกรณ์ได้หลายรอบมาก ๆ ต่อแบตฯ เต็ม แถมยังรองรับการชาร์จเร็วอีกด้วย ซึ่งสามารถจ่ายไฟได้สูงสุดถึง 18W เลยทีเดียวครับ โดยเราได้ไปดูรีวิวของคนที่ซื้อรุ่นนี้จากหลาย ๆ เว็บไซต์ ซึ่งทิศทางของรีวิวล้วนเป็นไปในทางบวกครับ โดยเฉพาะกับคนที่ใช้มือถือ หรืออุปกรณ์ระดับเริ่มต้น ไปจนถึงกลาง ๆ ซึ่งสิ่งที่คนส่วนใหญ่รู้สึกชอบรุ่นนี้ก็จะมีทั้ง ความจุที่สูง ขนาดที่ใหญ่ และหนากว่า iPhone 12 Pro max เล็กน้อยครับ และที่สำคัญความทนทาน ครับ ทำให้มันสามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ ราคา 1,199 บาท* สำหรับคนที่กำลังหาแบตสำรอง มาใช้ระหว่างวัน โดยเฉพาะสาวก iPhone ที่แบตมักจะไม่พอ เราขอแนะนำ Eloop EW56 แบตฯ สำรองไร้สาย ระบบแม่เหล็ก (Magnetic Wireless) ความจุ 7000mAh ซึ่งนับเป็นความจุที่กำลังดีครับ สามารถชาร์จระหว่างวันได้พอดิบ พอดี แถมยังได้ขนาดที่เล็ก และน้ำหนักเบามาก ๆ ด้วย ช่วยให้การพกพาทำได้สะดวกสุด ๆ ครับ จะใส่กระเป๋าเสื้อ หรือกางเกงก็ได้ โดยดีไซน์ของรุ่นนี้ทำออกมาดีมาก ๆ ครับ มาพร้อมหน้าตาที่สวยล้ำสุด ๆ ด้านหลังจะมีฝาพับลักษณะเดียวกับฝาเคส iPad ทำให้สามารถพับเป็นขาตั้งได้ บวกกับแท่นชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก ที่แค่แปะก็จะชาร์จทันที ทำให้เราสามารถแปะมือถือได้ทั้ง แนวตั้ง และแนวนอนเลย ซึ่งนับเป็นการออกแบบที่ดีมาก ๆ ครับ ในส่วนของการชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ถึงแม้รุ่นนี้จะมีให้แค่ 2 พอร์ต แต่ก็เพียงพอแล้วครับ เนื่องจากความจุค่อนข้างน้อย โดยมีพอร์ต Lightning เป็นพอร์ตอินพุต 1 พอร์ต รับไฟได้สูงสุด 18W และพอร์ต USB-C อีก 1 พอร์ต เป็นทั้งอินพุต และเอาท์พุต สามารถรับและจ่ายไฟได้สูงสุด 20W พร้อมเทคโนโลยีชาร์จเร็ว QC3.0 และ PD3.0 และจุดเด่นของรุ่นนี้ คือ แท่นชาร์จเร็วไร้สาย ระบบแม่เหล็ก เทคโนโลยี QI Wireless Charge ที่สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 15W เลยทีเดียวครับ ซึ่งใครใช้ iPhone 12 seires ขึ้นไป คุณแค่แปะ มันก็จะชาร์จให้ทันที โดยที่ไม่ต้องใส่เคส ซึ่งการชาร์จไร้สาย หากชาร์จอุปกรณ์ iOS มันจะจ่ายไฟ 7.5W ครับ (Apple จัดกัดเอาไว้) แต่ถ้าชาร์จอุปกรณ์ Android รุ่นที่รองรับ มันจะจ่ายไฟเต็ม สูงสุด 15W ซึ่งนับว่าเร็วมาก ๆ Eloop EW56 MagCharge เป็นพาวเวอร์แบงค์ไร้สาย ขนาดเล็ก ความจุ 7,000mAh ที่ตอบโจทย์การใช้งานใน 1 วันมาก ๆ ครับ เพราะมีความจุกำลังดี ชาร์จได้ 1 รอบนิด ๆ แต่ขนาดและน้ำหนักลดลงเยอะมาก ๆ ทำให้พกพาได้สะดวกขึ้นมาก โดยจุดขายของรุ่นนี้คือ การชาร์จไร้สาย แบบแม่เหล็ก ที่แค่แปะมันก็ชาร์จทันที ซึ่งตอบโจทย์คนที่ใช้มือถือที่รองรับการชาร์จไร้สายมาก ๆ โดยเฉพาะคนที่ใช้ iPhone ซึ่งถึงแม้จะจ่ายไฟได้สูงสุดที่ 7.5W แต่คุณก็สามารถใช้สายชาร์จแทนได้ และใช้แม่เหล็กเป็นตัวดูดพาวเวอร์แบงค์ติดไว้กับ iPhone เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ทั้งการชาร์จที่รวดเร็ว และการพกพาที่ง่ายดาย เหมือนชาร์จกับ MagSafe แล้ว ซึ่งเราได้ไปไล่ดูรีวิวของคนที่ซื้อรุ่นนี้ไปใช้งาน เราพบว่า ทุก ๆ คนต่างชื่นชอบเจ้ารุ่นนี้กันหมดครับ โดยส่วนใหญ่จะชื่นชอบในความพอดี ความจุกำลังดี ทำให้ขนาดไม่ใหญ่เกินไป แถมยังรองรับการชาร์จไร้สายแบบแม่เหล็ก ที่รวดเร็ว ชาร์จได้ทั้ง มือถือ iOS และ Android เลย ดังนั้นใครที่ต้องการแบตสำรองเล็ก ๆ ใช้ใน 1 วัน ขอแนะนำรุ่นนี้เลยครับ คุณจะชอบมันแน่นอน โดยเฉพาะเหล่าสาวก iPhone ราคา 739 บาท* เชื่อว่า หลาย ๆ คนที่ได้เห็นหน้าตาของ Orsen by Eloop E14 Pro น่าจะรู้สึกคุ้นเคยกันมาก ๆ อยู่แล้ว เพราะรุ่นนี้ได้รับการอัปเกรดขึ้นมาจาก Eloop E14 แบตสำรองในตำนาน ที่ได้รับความนิยมมาจนถึงทุกวันนี้ สำหรับ Eloop E14 Pro รุ่นใหม่นี้ยังคงใช้แบตเตอรี่ Li-Polymer ความจุ 20000mAh แต่ราคาอาจจะสูงขึ้นมาหน่อย เนื่องจากรุ่นใหม่ ได้มีการใส่เทคโนโลยีชาร์จไว QC 3.0 และ PD 20W มาให้แล้ว ในส่วนของหน้าตามันก็แทบไม่ต่างไปจากเดิมเลยครับ โดยมาเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม ดูเรียบ ๆ บอดี้หุ้มด้วยอะลูมิเนียมอย่างดี ช่วยให้ความแข็งแรง ทนทานเป็นพิเศษ คุณจึงพกพาได้อย่างมั่นใจ ส่วนพอร์ตชาร์จ รุ่นนี้ให้มา 3 พอร์ต ครับ ซึ่งคุณสามารถชาร์จอุปกรณ์พร้อม ๆ กันได้ทั้ง 3 พอร์ตเลย โดยจะแบ่งเป็นพอร์ต USB-A จำนวน 2 พอร์ต ที่สามารถจ่ายกำลังไฟได้สูงสุด 18W และอีก 1 พอร์ต คือ USB-C ที่ เป็นทั้ง Input และ Output สามารถจ่ายไฟ และรับไฟ ได้สูงสุด 20W ช่วยให้คุณชาร์จได้อย่างรวดเร็ว ทั้ง การชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ และการรีชาร์จตัวมันเอง ส่วนสถานะแบตฯ คงเหลือ ยังคงบอกด้วยไฟ LED 4 ดวงครับ และใช้สีของไฟ LED ในการบอกสถานะการชาร์จ ถ้าหากคุณกำลังชาร์จเร็ว ไฟ LED จะเป็นสีเขียว ซึ่งก็ถือว่าดูง่าย เห็นปั๊บก็เข้าใจได้ทันที เมื่อถามถึงแบตสำรองที่ได้รับความนิยมสูงที่สุด แน่นอนครับต้องมี Eloop E14 Pro อยู่ในลิสต์นั้นด้วย ซึ่งยืนยันได้ด้วยคำสั่งซื้อเป็นพัน ๆ ชิ้นในทุก ๆ ช่องทาง แถมบางเว็ปไซต์ก็มีคำสั่งซื้อเป็นแสนชิ้น เพราะฉะนั้นคุณสามารถที่จะมั่นใจในคุณภาพของรุ่นนี้และแบรนด์ได้เลยครับ ซึ่งหากคุณไปดูรีวิวของคำสั่ง บนช่องทางต่าง ๆ คุณก็จะเห็นเลยว่า ผู้คนส่วนใหญ่ต่างก็ให้ 5 ดาว กันหมดครับ พร้อมระบุว่า รู้สึกประทับใจในประสิทธิภาพของ E14 Pro มาก โดยอ้างว่า มันสามารถชาร์จอุปกรณ์ได้เร็วขึ้นมาก ไม่ว่าจะชาร์จกับพอร์ตไหน แถมดีไซน์ก็บาง พกพาง่ายสุด ๆ ทำให้ในภาพรวม เจ้า Orsen by Eloop E14 Pro นับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ใครที่ต้องการพาวเวอร์แบงค์ราคาไม่แรง แต่มีคุณภาพที่เชื่อถือได้ และมีประสิทธิภาพมากพอ สามารถใช้ชาร์จอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะระบบใดก็ตาม * หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้าOrsen by Eloop EW40 แบตสำรอง 20000mAh ชาร์จไว PD 18W และชาร์จไร้สาย 10W
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความจุแบตฯ 20000 mAh (74 Wh) จ่ายไฟสูงสุด
Input Ports
Output Ports
ที่ชาร์จไร้สาย
ที่ชาร์จแม่เหล็ก เวลาที่ใช้ชาร์จ 7-8 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับ Adapter) ขนาด / น้ำหนัก
Orsen by Eloop E57 พาวเวอร์แบงค์ 10000mAh ชาร์จเร็ว 20W ที่มีสายชาร์จในตัว
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความจุแบตฯ 10000 mAh (38.5 Wh) จ่ายไฟสูงสุด 20W Input Ports 1 × USB-C (20W) Output Ports
ที่ชาร์จไร้สาย ที่ชาร์จแม่เหล็ก เวลาที่ใช้ชาร์จ 3-4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับ Adapter) ขนาด / น้ำหนัก
Orsen By Eloop EW55 Magnetic พาวเวอร์แบงค์ไร้สาย 20000mAh พร้อมชาร์จเร็ว PD 20W
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความจุแบตฯ 20000 mAh (74 Wh) จ่ายไฟสูงสุด 20W Input Ports 1 × USB-C (20W) Output Ports
ที่ชาร์จไร้สาย
ที่ชาร์จแม่เหล็ก เวลาที่ใช้ชาร์จ 6-7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับ Adapter) ขนาด / น้ำหนัก
Orsen by Eloop E29 พาวเวอร์แบงค์ 30000mAh แบตสำรองที่ใหญ่ที่สุด พร้อมชาร์จเร็ว 18W
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความจุแบตฯ 30000 mAh (116 Wh) จ่ายไฟสูงสุด 18W Input Ports
Output Ports
ที่ชาร์จไร้สาย ที่ชาร์จแม่เหล็ก เวลาที่ใช้ชาร์จ 15-16 ชั่วโมง (ใช้ Adapter 5V/2A) ขนาด / น้ำหนัก
Orsen by Eloop EW56 MagCharge พาวเวอร์แบงค์ไร้สาย 7000mAh แบบ Magnetic
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความจุแบตฯ 7000 mAh (25 Wh) จ่ายไฟสูงสุด 20W Input Ports
Output Ports 1 × USB-C (20W) ที่ชาร์จไร้สาย
ที่ชาร์จแม่เหล็ก เวลาที่ใช้ชาร์จ 3-4 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับ Adapter) ขนาด / น้ำหนัก
Orsen by Eloop E14 Pro พาวเวอร์แบงค์ 20000mAh ชาร์จเร็ว PD20W ที่ได้รับความนิยมสูง
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความจุแบตฯ 20000 mAh (74 Wh) จ่ายไฟสูงสุด 20W Input Ports 1 × USB-C (20W) Output Ports
ที่ชาร์จไร้สาย ที่ชาร์จแม่เหล็ก เวลาที่ใช้ชาร์จ 6-7 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับ Adapter) ขนาด / น้ำหนัก
วิธีการตรวจเช็ค พาวเวอร์แบงค์ Eloop ว่าแท้ไหม ต้องทำอย่างไร ?
แน่นอนครับ สำหรับการเลือกซื้อพาวเวอร์แบงค์ไปใช้งาน คุณควรให้ความสำคัญในด้านความปลอดภัย มากกว่าราคา ซึ่งถ้าคุณเลือกแบตสำรองราคาถูก ๆ ที่ไม่มีการรับรองมาตรฐานอะไรเลย นอกจากจะเป็นอัตรายต่ออุปกรณ์ที่คุณนำมาชาร์จแล้ว มันก็อาจจะเป็นอันตรายต่อตัวคุณเองด้วย เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้เราขอแนะนำให้คุณเลือกซื้อแบรนด์แท้จะดีกว่าครับ
ซึ่งเมื่อพูดถึงพาวเวอร์แบงค์ แน่นอนครับหลาย ๆ คนต้องนึกถึง Eloop เนื่องจากเข้ามาทำตลาดในประเทศไทยมานานมากแล้ว มีผลิตภัณฑ์เยอะแยะมากมาย จนหลาย ๆ รุ่นได้รับความนิยมมาก ๆ แต่ในขณะเดียวกันด้วยความนิยม มันก็ส่งผลให้เกิดสินค้าที่ลอกเลียนแบบมาด้วย หรือเรียกง่าย ๆ ว่า ของปลอม นั่นแหละครับ ซึ่งคุณภาพจะต่างกว่าของแท้มาก ดังนั้นวิธีการตรวจเช็คในเบื้องต้นง่าย ๆ ดูได้จากกล่องครับ ซึ่งของแท้จะต้องมีสติ๊กเกอร์ มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ติดอยู่หน้ากล่อง และพวกตัวหนังสือต่าง ๆ จะต้องคมชัด ไม่บิดเบี้ยว และไม่มีจุดไหนที่ดูแปลก ๆ ส่วนวิธีเช็คที่ชัวร์ที่สุดนั่นคือ การนำรหัสประจำสินค้า 16 หลัก ไปเช็คที่หน้าเว็บไซต์ทางการของ แบรนด์ Eloop (www.szeloop.com)
ทำความรู้จักกับพาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) คืออะไร ?
เมื่อพูดถึง พาวเวอร์แบงค์ (Power Bank) หรือถ้าเราแปลเป็นภาษาไทยตรง ๆ จะแปลว่า ธนาคารแบตเตอรี่ ซึ่งฟังดูอาจจะรู้สึกแปลก ๆ ทำให้คนส่วนใหญ่มักจะเรียกง่าย ๆ ว่า แบตสำรอง แทน แน่นอนครับว่า หลาย ๆ คนก็น่าจะรู้จักและเคยใช้งานกันมาบ้างแล้ว แต่ขอทำความเข้าใจให้ตรงกันว่า
โดย พาวเวอร์แบงค์ มีหน้าที่จัดเก็บพลังงานไฟฟ้าเอาไว้ในตัวเอง เพื่อเก็บสำรองเอาไว้แจกจ่ายให้กับอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้นำมาเชื่อมต่อ ซึ่งเริ่มต้นผู้ใช้จะต้องทำการชาร์จกระแสไฟเข้าพาวเวอร์แบงค์ก่อน เพื่อให้มันเอากระแสไฟที่ได้รับมา ไปจัดเก็บเอาไว้จนเต็มความจุ เมื่อผู้ใช้นำอุปกรณ์มาเชื่อมต่อ พาวเวอร์แบงค์จะมีการตรวจสอบว่า อุปกรณ์นั้นมีการรองรับกระแสไฟที่เท่าไหร่ และรองรับเทคโนโลยีชาร์จเร็วหรือไม่ จากนั้นตัวพาวเวอร์แบงค์จะทำการแปลงกระแสไฟฟ้าเพื่อปรับไฟให้เหมาะกับอุปกรณ์นั้น ๆ ก่อนที่จะจ่ายไฟออกไป ส่วนหน้าตาก็จะคล้าย ๆ กันหมดครับ ลักษณะเป็นก้อนสี่เหลี่ยม มีน้ำหนัก และมีพอร์ตต่าง ๆ ส่วนจะมีกี่พอร์ตนั้นก็แล้วแต่รุ่นครับ อาทิเช่น USB-A, USB-C, Micro USB และในบางรุ่นอย่าง Eloop EW56 ได้ให้พอร์ตเฉพาะอย่างพอร์ต Lightning ของ iPhone มาด้วย ซึ่งก็บ่งบอกว่า รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อ iPhone เป็นหลักครับ