คนที่มีผิวมันย่อมรู้ดีว่าผิวของตัวเองนั้นดูแลยากมาก เพราะมันจะมันเยิ้มตลอดทั้งวันไม่เว้นแม้กระทั่งกลางคืน พื้นที่ที่มันมากก็น่าจะหนีไม่พ้นช่วงบริเวณ T-zone ในช่วงหน้าผาก จมูกและคาง ผิวของเราจะมันทั้งวันโดยเฉพาะช่วงเที่ยงที่มันมากเป็นพิเศษ ไม่ว่าคุณจะดูแลหรือแต่งหน้าสวยขนาดไหนก็ไม่สามารถหนีความจริงที่ผิวของคุณมันได้ ปกติแล้วคนที่มีผิวมันจะต้องใช้ผลิตภัณฑ์ที่ดูแลผิวมันโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นรองพื้นสำหรับผิวมัน, มอยส์เจอไรเซอร์สำหรับผิวมัน, น้ำตบสำหรับผิวมัน, โทนเนอร์สำหรับผิวมันรวมถึงผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวมัน การที่คุณใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อจัดการผิวมันนั้นจะช่วยลดความมันลงได้ แต่มีอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่คุณไม่ควรมองข้ามถ้าคุณเป็นคนชอบแต่งหน้านั่นก็คือ “ไพรเมอร์สำหรับผิวมัน” เพราะไพรเมอร์สำหรับผิวมันจะช่วยขจัดความมันส่วนเกิน ให้ลุคที่ดูฉ่ำวาวนั้นดูงดงามและไร้ความมัน ไพรเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวมันไม่เพียงแต่ช่วยให้เมคอัพติดทนตลอดวัน แต่ยังช่วยลดการผลิตน้ำมันของใบหน้าอีกด้วย แต่หากคุณรู้สึกว่าผิวหน้าไม่มันมากออกไปทางแห้งมากกว่าเราขอแนะนำไพรเมอร์สำหรับผิวแห้งค่ะ
ไพรเมอร์คือนวัตกรรมการเคลือบครีมหรือเจลให้เรียบเนียนภายใต้เมคอัพเบสหรือรองพื้น เพื่อปกปิดรูขุมขนหรือจุดด่างดำ ในคนผิวมันการดูแลรักษาเครื่องสำอางให้ใบหน้าสวยไร้ที่ติกลายเป็นเรื่องท้าทาย คนผิวมันรู้ดีว่ารูขุมขนกว้างหรือแม้แต่ริ้วรอยนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แต่หากคุณใช้ครีมอะไรก็ตามมามากมายแต่รักษาไม่หายและไม่สามารถแก้ไขได้อีกต่อไป เราขอแนะนำให้คุณใช้ไพรเมอร์ที่ปรับสภาพผิวค่ะ สำหรับคนที่ผิวมันคุณก็ต้องใช้ไพรเมอร์สำหรับผิวมันโดยเฉพาะ โดยไพรเมอร์นี้จะช่วยต่อสู้กับน้ำมันตามธรรมชาติบนผิวหน้าของคุณ แต่ไพรเมอร์ที่คุณเลือกจะต้องมีคุณภาพ ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้และให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผิวหน้ามัน นอกจากนี้ยังมีไพรเมอร์สำหรับผิวมันบางชนิดคุณสมบัติแบบเนื้อแมตต์เพื่อจัดการกับผิวมันวาวของคุณได้ วันนี้เราจะช่วยให้คุณได้ซื้อไพรเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวมันโดยให้ข้อมูลกับคุณในบทความนี้ หากพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลยค่ะทุกคน
ไพรเมอร์สำหรับผิวมันตัวไหน คุมมันได้ดีและช่วยเบลอรูขุมขน ?
เคล็ดลับในการเลือกซื้อไพรเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวมัน
1. สำรวจสุขภาพของผิว
ตอนนี้คุณกำลังเผชิญกับสิวพร้อมกับผิวมันหรือไม่? หรือคุณเป็นคนที่มีผิวมันและต้องการปกปิดริ้วรอย? คุณควรถามคำถามเหล่านี้กับตัวเองก่อน สิ่งนี้สามารถสรุปได้คุณว่าควรเลือกใช้ไพรเมอร์ตัวไหน ก่อนการซื้อแนะนำให้ค้นคว้าเกี่ยวกับสภาพผิวของคุณให้ดี หากจำเป็นควรปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพผิวค่ะ
2. ชนิดของไพรเมอร์
2.1 ไพรเมอร์เนื้อแมตต์
ผิวมันเกิดจากการผลิตซีบัมมากเกินไปทำให้คุณมีผิวมันเยิ้มและมันวาว สาเหตุของผิวมันนั้นเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ฮอร์โมนและพันธุกรรม ดังนั้นไพรเมอร์เนื้อแมตต์สามารถลดความมันเงาได้โดยการดูดซับซีบัมส่วนเกินเพื่อให้ผิวดูแมตต์
ผลิตภัณฑ์เนื้อแมตต์จะเคลือบผิวจึงมักจะมีสารพิเศษพื่อลดการผลิตซีบัมและดูดซับน้ำมันส่วนเกิน ดังนั้นอย่าลืมเลือกไพรเมอร์ที่ติดทนนาน เพื่อให้แน่ใจว่ามีความคงทนเพียงพอที่จะติดทนตลอดทั้งวัน มิฉะนั้นคุณอาจพบว่าน้ำมันส่วนเกินจะทำให้การแต่งหน้าของคุณหลุดออกไป
2.2 ไพรเมอร์ช่วยเบลอรูขุมขน
รูขุมขนที่ขยายใหญ่ขึ้นสามารถทำให้ผิวมันได้ เพราะรูขุมขนเต็มไปด้วยส่วนผสมของซีบัมและผิวหนังที่ตายแล้วทำให้อุดตันและค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เมื่อสิ่งอุดตันพองตัวแล้วไปสัมผัสกับอากาศจะทำให้กลายเป็นสิวหัวดำในบริเวณจมูกและคาง แน่นอนว่าคุณไม่ต้องการให้ผิวของคุณแห้งเกินไป เพราะยิ่งแห้งก็ยิ่งทำให้การผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงส่วนผสมที่มีแอลกอฮอล์ เพราะมันจะทำให้ผิวขาดน้ำส่งผลให้มีน้ำมันมากขึ้น
ปกติแล้วเมื่อผิวของคุณผลิตซีบัมออกมาเพื่อชดเชยความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป (1) ดังนั้นในการลดขนาดรูขุมขนคุณต้องใช้ไพรเมอร์สูตรบางเบาในขั้นตอนการดูแลผิว หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์สูตรครีมหรือเจลที่ทำให้ผิวนุ่มซึ่งอาจทำให้เกิดการอุดตันผิวได้ค่ะ
3. ความเข้ากันกับผิวและรองพื้น
ไพรเมอร์และรองพื้นที่คุณทาบนผิวควรเข้ากันได้ หมายความว่าทั้งสองอย่างควรเข้ากันได้ดี เพื่อไม่ให้เกิดการต่อต้านซึ่งกันและกัน เพราะหากมันไม่เข้ากันส่งผลเมคอัพดูหนา

วิธีสำรวจว่าไพรเมอร์และรองพื้นสำหรับผิวมันเข้ากันได้หรือไม่? ให้ทาไพรเมอร์เล็กน้อยบนมือของคุณรอจนแห้ง หลังจากนั้นให้ทารองพื้นแล้วถูเบา ๆ แล้วตรวจสอบว่ามันเหมาะกับผิวของคุณหรือไม่นั่น หากคุณสังเกตเห็นว่าโทนสีไม่สม่ำเสมอให้เปลี่ยนรองพื้นหรือไพรเมอร์แทนค่ะ
5 ประโยชน์ของการใช้ไพรเมอร์
1. ไพรเมอร์ช่วยปรับผิวหน้าให้เรียบเนียน
การใช้ไพรเมอร์ก่อนลงรองพื้นเป็นตัวเปลี่ยนรูปแบบการแต่งหน้าอย่างสมบูรณ์แบบ โดยพื้นฐานแล้วไพรเมอร์ทำหน้าที่ลบความไม่สมบูรณ์ของผิว เติมเต็มรูขุมขน ลดเลือนริ้วรอยและจัดการกับปัญหาผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ส่วนประกอบสำคัญของไพรเมอร์คือซิลิโคนซึ่งเป็นสารกันน้ำที่ไม่มีสี ทำหน้าที่เคลือบคลุมผิวของคุณ แต่มันจะไม่รบกวนหรือปิดกั้นรูขุมขน ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่มีปัญหาเกี่ยวกับผิว
2. ไพรเมอร์สามารถปรับสภาพผิวมัน + ป้องกันความมันเงา
ทุกคนทราบดีว่ารองพื้นมักจะหายไปกับผิวที่มันภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง เนื่องจากซีบัมและเมคอัพนั้นเหลวมันจึงไม่สามารถผสมกันได้ ซึ่งหมายความว่าผิวของคุณจะหมองเมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ดังนั้นวิธีแก้ไขคือให้เลือกไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมในการปลดล็อกรูขุมขนและลดความเงา วิธีนี้จะช่วยทำให้คุณมั่นใจได้ว่าปัญหาความหมองคล้ำหรือรองพื้นหลุดลอกจะไม่เกิดขึ้นในระหว่างวัน
3. ไพรเมอร์สามารถปรับผิวที่มีรอยแดงและลดความหมองคล้ำได้
หากคุณมีผิวที่มีรอยแดงหรือมีผิวที่ซีดการทารองพื้นแบบน้ำมักจะทำให้คุณดูเหมือนกำลังสวมหน้ากากอยู่ แทนที่จะใช้การแต่งหน้าอย่างหนัก ให้คุณเลือกใช้ไพรเมอร์แบบโทนสีที่สามารถแก้ไขสีผิวได้ นอกจากเปลี่ยนสีผิวแล้วไพรเมอร์แบบนี้ยังช่วยลดบริเวณที่มีปัญหาโดยทำให้สีผิวมีความสม่ำเสมอ
คนที่มีผิวโทนสีเขียวหรือสีเหลือให้เลือกไพรเมอร์สีแดง ในขณะที่ไพรเมอร์โทนสีพีชหรือลาเวนเดอร์อ่อน ๆ เหมาะที่สุดสำหรับการปกปิดจุดด่างดำและทำให้คุณมีผิวที่เปล่งปลั่งมากขึ้น แต่อย่าลืมทาตามด้วยรองพื้นในบริเวณที่คุณต้องการปกปิดเพื่อให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นค่ะ
4. ไพรเมอร์ช่วยให้รองพื้นติดทนนาน
ไม่ว่าคุณจะเลือกใช้ไพรเมอร์สูตรไหนแต่ไพรเมอร์จะช่วยเพิ่มความติดทนนานของรองพื้นเสมอ เพราะน้ำมันธรรมชาติจากผิวที่เราผลิตมากนั้นสามารถทำลายแม้กระทั่งผลิตภัณฑ์รองพื้นที่ติดทนนานที่สุด ดังนั้นการทาไพรเมอร์ก่อนจะช่วยให้รองพื้นของคุณติดแน่นขึ้น ไพรเมอร์ช่วยให้มั่นใจได้ว่ารองพื้นสามารถอยู่บนใบหน้าของคุณได้ตลอดทั้งวัน โดยไม่จำเป็นต้องเติมแป้งในระหว่างวันเลย
5. ไพรเมอร์สามารถเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้งได้เป็นพิเศษ
สำหรับผู้ที่มีผิวแห้งการมองหาไพรเมอร์ที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้น เช่น กรดไฮยาลูโรนิก (Hyaluronic Acid), กลีเซอรีน (Glycerin), วิตามินอีหรือว่านหางจระเข้ (2,3,4,5,6) เป็นเรื่องที่ดีเพราะมันจะเพิ่มความชุ่มชื้นที่ยาวนานให้กับผิว ในขณะเดียวกันก็ไพรเมอร์แบบนี้สามารถปรับสภาพผิวให้เรียบเนียน หากคุณมีผิวเสียจากแสงแดดหรือด้วยอายุที่เพิ่มขึ้น ไพรเมอร์ที่ให้ความชุ่มชื้นเป็นทางเลือกที่ดี เพราะมันจะช่วยให้รองพื้นของคุณมีความชุ่มชื้นและทำให้คุณดูอ่อนเยาว์ขึ้นในทันที
SACE LADY Face Primer ไพรเมอร์เนื้อแมทสําหรับแต่งหน้า

ราคา 82 บาท*
ข้อดี
- ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ ไม่ทำให้ผิวมันเยิ้มระหว่างวัน
- ช่วยกระชับรูขุมขนและลดเลือนริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- อ่อนโยน ปลอดภัยและเหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- แพ็คเกจไม่มีขวดขนาดใหญ่ให้ซื้อ
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 15 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | สควาเลนและพอลิไดเมทิลไซลอกเซน |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Maybelline New York Fit Me Primer Matte+Poreless SPF20 ไพรเมอร์

ราคา 199 บาท*
Maybelline New York Fit Me Face Primer ไพรเมอร์ที่เหมาะที่สุดสำหรับผิวมันเพราะให้แมตต์ไปพร้อม ๆ กับการกระชับรูขุมขน ทางแบรนด์เคลมมาว่าหากทาไพรเมอร์ตัวนี้ทำให้เครื่องสำอางติดทนได้นานถึง 16 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับ SPF 20 เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด ซึ่งจะช่วยป้องกันสัญญาณของริ้วรอยก่อนวัยได้เช่นกัน ไพรเมอร์ประกอบด้วยโคลนเกาลินที่ให้ความชุ่มชื่นและปรับผิวให้เรียบเนียน ดังนั้นเมคอัพของคุณจะติดทนนานขึ้นโดยหน้าไม่มันระหว่างวันแน่นอน ตัวรองพื้นมีน้ำหนักเบาและเหมาะกับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมันค่ะ
ข้อดี
- ประกอบด้วยแร่ธาตุและสารอาหารมากมายเพื่อช่วยควบคุมความมัน
- น้ำหนักเบา เกลี่ยได้ง่ายและซึมเข้าผิวอย่างรวดเร็ว
- ช่วยคุมมันและช่วยให้รองพื้นติดทนนาน 16 ชั่วโมง
ข้อควรพิจารณา
- เซตตัวค่อนข้างเร็ว หากทารองพื้นช้าจะเกลี่ยยาก
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์เนื้อแมตต์ |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | เกาลินและกลีเซอรีน |
ปราศจากแอลกอฮอล์ |
Hourglass Veil Mineral Primer ไพรเมอร์

ราคา 399 บาท*
Hourglass Veil Mineral Primer เป็นไพรเมอร์รองพื้นที่ดีที่สุดสำหรับผิวมัน ไพรเมอร์จะมอบผิวเนียนนุ่มที่สมบูรณ์แบบให้กับคุณ พร้อมกับช่วยทำให้เมคอัพติดทนนานมากยิ่งขึ้น ไพรเมอร์สูตรนี้ใช้งานได้ดีกับรองพื้นแบบครีม แป้ง และของเหลวทั่วไป ผลิตภัณฑ์นี้ไม่ได้ผ่านการทดสอบกับและเป็นวีแก้นแบบ 100% อีกทั้งยังปราศจากพาราเบน ซัลเฟตและพาทาเลตด้วยเช่นกัน ไพรเมอร์ช่วยดูดซับความมันได้อย่างดีเยี่ยม อีกทั้งยังช่วยเบลอรูขุมขนให้ดูเรียบเนียนขึ้นอีกด้วย
ข้อดี
- ช่วยควบคุมความมันและกระชับรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ใช้ผสมกับรองพื้นและเครื่องสำอางได้ทุกชนิด
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมัน
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับปริมาณ
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์เนื้อแมตต์ |
---|---|
ปริมาณ | 3.6 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ไททาเนียมไดออกไซด์และ Zinc Oxide |
ปราศจากแอลกอฮอล์ |
Innisfree No Sebum Blur Primer ไพรเมอร์สำหรับผิวมัน

ราคา 470 บาท*
ข้อดี
- มีส่วนผสมจากธรรมชาติที่ช่วยบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก
- สามารถควบคุมความมันได้อย่างยาวนานและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ให้ฟินิชลุคแบบแมตต์ ช่วยเบลอรูขุมขนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- ต้องเกลี่ยให้ดีเพราะอาจจะทำให้เกิดคราบได้
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 25 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | สารสกัดจากลูกพลับเขียวเชจูและเจจูกรีนคอมเพล็กซ์ |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Revlon Colorstay UV Primer ไพรเมอร์

ราคา 550 บาท*
Revlon Colorstay UV Primer เป็นไพรเมอร์เนื้อบางเบาสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว มีคุณสมบัติพิเศษในการกระชับรูขุมขนและปรับผิวให้สมบูรณ์แบบ ไพรเมอร์ตัวนี้ที่ดีที่สุดสำหรับผิวมันเพราะประกอบด้วยซิลิกาช่วยดูดซับความมันและช่วยลดการผลิตซีบัมบนผิวเพื่อให้ลุคแมตต์แบบแอร์บรัช ไพรเมอร์สูตรนี้ปราศจากน้ำมัน แป้ง น้ำหอมและปราศจากพาราเบนเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวโดยเฉพาะผิวมัน อีกทั้งไพรเมอร์ยังมีสารป้องกันแสงแดด SPF40 PA+++ สามารถทาแทนกันแดดได้เลยเมื่อแต่งหน้า
ข้อดี
- ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มนวลและเรียบเนียนในทันที
- ไพรเมอร์น้ำหนักเบา เกลี่ยเข้าสู่ผิวได้รวดเร็วและง่ายดาย
- ปราศจากน้ำมัน แป้ง พาราเบนและน้ำหอม
ข้อควรพิจารณา
- เซตตัวค่อนข้างเร็วทำให้รองพื้นเกลี่ยได้ยาก
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | ซิลิกา |
ปราศจากแอลกอฮอล์ |
Benefit the POREfessional Face Primer ไพรเมอร์

ราคา 1,160 บาท*
ข้อดี
- สามารถทาทับเมคอัพได้อย่างง่ายดาย
- ลดการปรากฏตัวของรูขุมขนและทำให้ผิวเรียบเนียน
- ช่วยให้ผิวชุ่มชื้นและมีประโยชน์กับทุกสภาพผิว
- สามารถเบลอรูขุมขนได้แบบชั่วคราวเท่านั้น
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 22 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | วิตามินอี |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
Estée Lauder The Mattifier Shine Control Perfecting Primer + Finisher ไพรเมอร์

ราคา 1,575 บาท*
Estee Lauder Mattifier Shine Control Perfecting Primer เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ไพรเมอร์ที่ดีที่สุดเพราะมีความสามารถในการควบคุมความมัน พร้อมกับช่วยปกปิดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นทำให้ผิวเรียบเนียน ตัวไพรเมอร์เนื้อเนียนมากและมีน้ำหนักเบาจึงสามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา ตัวไพรเมอร์มีหน้าที่หลัก 2 ประการคือช่วยควบคุมความมันและเบลอรูขุมขน ตัวไพรเมอร์สามารถได้ทั้งก่อนหรือหลังจากการแต่งหน้าเพื่อให้ใบหน้าดูเรียบเนียนมากขึ้น ใครที่ใช้ผลิตภัณฑ์แต่งหน้าของ Estee Lauder ตัวนี้เป็นอีกตัวที่ขาดไม่ได้ค่ะ
ข้อดี
- ง่ายต่อการทาบนใบหน้า เนื้อบางเบาช่วยให้ผิวเรียบเนียน
- ช่วยกระชับรูขุมขนและริ้วรอยให้จางลงขณะใช้งาน
- เกลี่ยเข้าสู่ผิวได้ง่ายมาก ไม่เหนียวเหนอะหนะและไม่เป็นคราบ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยเบลอรูขุมขน |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | วิตามินอี |
ปราศจากแอลกอฮอล์ |
Bobbi Brown Primer Plus Mattifier ไพรเมอร์รองพื้น

ราคา 1,600 บาท*
ข้อดี
- เป็นไพรเมอร์เจลสำหรับผิวหน้าเนื้อบางเบาเกลี่ยได้ง่าย
- มีเทคโนโลยีพิเศษ ช่วยดูดซับความมันบนใบหน้าเพื่อให้ผิวดูแมตต์
- ปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายรวมถึง พาราเบน พาทาเลตและมิเนอรัลออยล์
- ราคาค่อนข้างสูง
ประเภทของไพรเมอร์ | ไพรเมอร์ที่ช่วยทำให้ผิวแมตต์ |
---|---|
ปริมาณ | 40 มล. |
ส่วนผสมที่สำคัญ | โซเดียมไฮยาลูโรเนต |
ปราศจากแอลกอฮอล์ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ไพรเมอร์สำหรับผิวมัน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
Maybelline New York Fit Me Primer Matte+Poreless SPF20 ไพรเมอร์ |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
Estée Lauder The Mattifier Shine Control Perfecting Primer + Finisher ไพรเมอร์ |
| |||
|
สาเหตุหลักที่ทำให้ผิวมัน
ผิวมันส่วนใหญ่เกิดจากการผลิตซีบัมมากเกินไปโดยซีบัมนี้ผลิตโดยต่อมไขมัน ซีบัมมีความมันซึ่งประกอบด้วยเซลล์ไขมันจำนวนนับไม่ถ้วนอยู่ภายใน แม้ว่าซีบัมจะมีประโยชน์ต่อการให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวของคุณ แต่ปริมาณซีบัมส่วนเกินสามารถนำไปสู่การอุดตันรูขุมขนได้ แน่นอนว่ามีสาเหตุหลายประการที่ทำให้ผิวมันปรากฏขึ้น ดังนี้ค่ะ
1. อายุของคุณ
เมื่ออายุมากขึ้นผิวของคุณจะสูญเสียสารอาหารที่จำเป็น เช่น โปรตีนคอลลาเจน สิ่งเหล่านี้ทำให้เกิดผิวมัน เนื่องจากอายุมากขึ้นการหลั่งซีบัมจะหยุดลงและจะเพิ่มปัญหาผิวต่าง ๆ ในผิวมันได้
2. อุณหภูมิ
นอกเหนือจากพันธุกรรมและอายุแล้ว สาเหตุของผิวมันอีกประการหนึ่งเกิดจากอุณหภูมิและสิ่งแวดล้อม ตัวอย่างเช่น ยิ่งอากาศร้อนหรือชื้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีการหลั่งน้ำมันและการผลิตเหงื่อในร่างกายมากขึ้นเท่านั้น
3. การดูแลผิวที่ไม่ถูกต้อง
การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่การหลั่งน้ำมันส่วนเกินบนผิวของคุณ หลายคนสับสนระหว่างผิวมันและผิวผสม แต่เราขอบอกว่าผิวผสมเป็นการผสมของผิวแห้งและมัน หากใบหน้าของคุณไม่แห้งเลยนั่นแปลว่าคุณผิวมัน และแน่นอนว่าการดูแลผิวแบบไม่ถูกต้องนั้นส่งผลให้เกิดการสร้างน้ำมันมากขึ้นด้วย
4. ไลฟ์สไตล์
ความเครียดเป็นศัตรูตัวฉกาจของปัญหาผิว เมื่อเราพูดถึงปัญหาผิวมันหรือปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวมัน การใช้ชีวิตของคุณก็สามารถทำให้ผิวมันได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นอาหารขยะ การนอนหลับที่ไม่เหมาะสมและความเครียดมากเกินไป อาจส่งผลให้ผิวหมองคล้ำและผิวมัน ดังนั้นคุณควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์และดูแลผิวเป็นประจำเพื่อขจัดสารพิษออกจากผิวเพื่อช่วยให้ผิวมีความมันน้อยลง
5. ความไม่สมดุลของฮอร์โมน (7,8,9)
การรวมตัวของฮอร์โมนหลายชนิดที่สามารถนำไปสู่ผิวมันและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับผิวมันได้ หากผู้หญิงคนใดที่เป็นโรค PCOS หรือกำลังตั้งครรภ์จะมีการหลั่งไขมันเพิ่มขึ้น คุณอาจสังเกตว่าในช่วงรอบเดือนของคุณอาจมีสิวผุดขึ้นบนใบหน้าของคุณ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงความไม่แน่นอนของฮอร์โมน แอนโดรเจนมีหน้าที่ในการสร้างน้ำมันส่วนเกิน ในขณะที่โปรเจสเตอโรนมีบทบาทสำคัญสำหรับการเกิดสิว ดังนั้นดื่มน้ำให้เพียงพอและควรรับประทานยาให้ถูกต้องเสมอก่อนที่จะเกิดความผิดปกติของผิวหนังอย่างรุนแรง
ผิวมันทำให้เกิดปัญหาใดบ้าง ?
1. รูขุมขนกว้าง
รูขุมขนเป็นประตูสำหรับการปล่อยน้ำมันและเหงื่อออกจากผิวหนังของคุณ โดยส่วนใหญ่รูขุมขนจะเด่นชัดขึ้นเนื่องจากการหลั่งซีบัมของผิวหนัง สิ่งสกปรกและเศษเล็กเศษน้อยสามารถเข้าไปอุดตันในรูขุมขนได้หากไม่ได้รับการดูแลรูขุมขนที่ดี
2. ผิวหนังไม่ยืดหยุ่น
ผิวสามารถสูญเสียความยืดหยุ่นจากการผิวมัน การใช้น้ำมันธรรมชาติเพียงไม่กี่ชนิด เช่น อัลมอนด์ น้ำมันมะพร้าว ฯลฯ อาจช่วยให้ผิวกระชับได้หากใช้งานเป็นประจำ คุณสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่อุดมด้วยวิตามินอี ซึ่งสามารถให้ความชุ่มชื้นและให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมเพื่อกระชับผิวที่หย่อนคล้อยของคุณได้ด้วย (6)
3. สิวและรอยแดง
สิวสามารถเกิดตามส่วนต่าง ๆ ของผิวและจุดสีแดงเป็นปัญหาที่พบบ่อยของผิวมัน บ่อยครั้งที่รอยแดงไม่ได้หายไปและยังเป็นอยู่เรื่อย ๆ บางครั้งอาจจะเกิดสิวหัวดำหรือสิวหัวขาวรอบ ๆ จมูกของคุณด้วย นั่นเป็นอาการทั้งหมดที่เกิดจากความมันส่วนเกิน
บทสรุป
เมื่อคุณได้ไพรเมอร์ที่ถูกใจกันไปแล้ว สิ่งสำคัญคือเมื่อทาไพรเมอร์เสร็จให้หลีกเลี่ยงการถูหรือนวดผลิตภัณฑ์มากเกินไป และไม่ควรทาให้ทั่วผิวโดยใช้การปัดนาน ๆ แต่ควรปล่อยทิ้งไว้สักครู่ก่อนดำเนินการตามขั้นตอนที่เหลือต่อไป เทคนิคนี้จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าไพรเมอร์ทำงานได้อย่างถูกต้องและสร้างเบสที่ดีที่สุดสำหรับการลงรองพื้นของคุณ
อุปกรณ์แต่งหน้าขั้นพื้นฐานประเภทต่าง ๆ หาได้ง่ายในตลาดเริ่มตั้งแต่ราคาไม่แพงไปจนถึงราคาแพง การทราบถึงความต้องการที่ถูกต้องสำหรับผิวของคุณเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะเลือกไพรเมอร์หรือรองพื้น วันนี้เราได้ทำการบทความเกี่ยวกับการเลือกไพรเมอร์ที่ดีที่สุดสำหรับผิวมันกันแล้ว หวังว่าคุณจะสามารถเลือกได้อย่างถูกต้อง หากคุณประสบปัญหาเกี่ยวกับผิวหลังทาผลิตภัณฑ์ใด ๆ อย่ารอให้มันเป็นผื่นหรืออักเสบเพิ่มขึ้น ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์ผิวหนังนะคะ
Reference
- How irritant is alcohol?
- Hyaluronic acid
- The efficiency of humectants as skin moisturizers in the presence of oil
- The 24-hour skin hydration and barrier function effects of a hyaluronic 1%, glycerin 5%, and Centella asiatica stem cells extract moisturizing fluid: an intra-subject, randomized, assessor-blinded study
- Efficacy of a New Topical Nano-hyaluronic Acid in Humans
- Vitamin E in dermatology
- Correlation of Skin Changes with Hormonal Changes in Polycystic Ovarian Syndrome: A Cross-sectional Study Clinical Study
- Hormonal Treatment of Acne in Women
- Oily Skin: A review of Treatment Options