การดูแลผิวเป็นเรื่องที่สำคัญมากค่ะ หากคุณเป็นคนที่รักและชื่นชอบการดูแลผิวพรรณคุณจะต้องมีสกินแคร์และผลิตภัณฑ์ปรนนิบัติผิวมากมายเต็มไปหมดไม่ว่าจะเป็น สกินแคร์ญี่ปุ่น, สกินแคร์เกาหลี, น้ำตบ, โทนเนอร์รวมไปถึงแผ่นมาสก์ แต่มีผลิตภัณฑ์อีกหนึ่งอย่างที่ช่วยบำรุงผิวได้ล้ำลึกมากกว่าครีมทั่วไป นั่นก็คือเซรั่มค่ะ เซรั่มนั้นไม่ได้มีแค่ประเภทเดียวแต่ยังมีจำแนกออกไปตามความต้องการของผิวไม่ว่าจะเป็นเซรั่มป้องกันริ้วรอย, เซรั่มไฮยาลูรอน, เซรั่มวิตามินซี, เซรั่มคอลลาเจน, เซรั่มกระชับรูขุมขนรวมไปถึง “เซรั่มเรตินอล”
หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับกับสารสกัดที่เรียกว่าเรตินอลเป็นอย่างดี เพราะมันค่อนข้างมาแรงมาก ๆ ในขณะนี้ เราพูดได้เลยว่าครีมและเซรั่มแทบทุกยี่ห้อมักจะมีสารสกัดนี้ผสมอยู่ด้วยเพื่อปรับปรุงความสมดุลของผิว
เรตินอล (Retinol) เป็นสารสกัดที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับในเรื่องส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ดูแลผิว หากคุณไม่คุ้นเคยกับสารสกัดนี้เราขอบอกเลยว่าเรตินอลเป็นอนุพันธ์ของวิตามิน A ที่มักจะใช้ในการต่อสู้กับสัญญาณแห่งวัย เรตินอลนี้ไม่เพียงแต่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยลดริ้วรอยและเส้นริ้วเท่านั้น (1,2) แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้ริ้วรอยเกิดขึ้นอีกด้วย
นอกจากประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยแล้วเรตินอลยังช่วยในเรื่องการดูแลผิวอื่น ๆ อีกมากมายรวมถึงปรับสภาพผิวและรักษาสิว เรตินอลทำงานโดยกระตุ้นให้ผิวสร้างเซลล์ใหม่ ช่วยปรับปรุงความยืดหยุ่นของผิวไว้ได้เป็นอย่างดี (1,2) แน่นอนค่ะวันนี้เราก็มีคำแนะนำมาฝากกันเพื่อช่วยให้คุณเลือกเซรั่มเรตินอลที่เหมาะสมกับสภาพผิวได้ค่ะ
เซรั่มเรตินอล จากแบรนด์ไหนใช้งานได้ดี และมีประสิทธิภาพที่สุด?
- มีปริมาณเรตินอล 0.5% ช่วยลดริ้วรอยได้อย่างมีประสิทธิภาพ: เซรั่มเรตินอล The Ordinary Retinol 0.5% in Squalane
- ใช้นวัตกรรม Matrixyl 3000+TM ช่วยปรับสภาพผิวให้เต่งตึงและดูอ่อนเยาว์: เซรั่มเรตินอล No7 Advanced Retinol 1.5% Complex Night Concentrate
- มีส่วนผสมของเรตินอลและไนอาซินาไมด์ ช่วยให้คุณมีผิวที่กระจ่างใสและอ่อนนุ่ม: เซรั่มบำรุงผิวหน้า Olay โอเลย์ รีเจนเนอรีส เรตินอล24 ไนท์ เซรั่ม
- เซรั่มเรตินอล 0.3% ใช้งานง่าย ไม่แสบผิวเหมาะกับมือใหม่ : La Roche Posay Retinol B3 เซรั่มบำรุงผิวหน้า
- ใช้โปรเรตินอลเข้มข้น ช่วยฟื้นบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก: เซรั่มบำรุงผิวหน้า Loreal Paris Revitalift Pro-Retinol Serum
- เซรั่มเรตินอล 1% ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนได้ดีมาก : เซรั่มเรตินอล Paula's Choice RESIST 1% Retinol Booster
เรตินอล (Retinol) คืออะไร ทำงานอย่างไร? (1,2,3,4,5)
เรตินอลเป็นอนุพันธ์ของวิตามินเอที่อยู่ในกลุ่มเรตินอยด์ สารสกัดนี้ได้รับการอนุมัติในปี 1970 สำหรับใช้ในผู้ที่เป็นสิว เมื่อทาเรตินอลลงบนผิวจะช่วยกระตุ้นการหมุนเวียนของเซลล์และป้องกันการอุดตันของรูขุมขน ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันการเกิดฝ้า แต่ยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ทั้งหมดของคุณซึมผ่านและทำงานได้ดีขึ้น เรตินอลมีประโยชน์มากมายสำหรับผิวและสามารถช่วยรักษาสิว, จัดการปัญหาของรูขุมขน, เพิ่มการหมุนเวียนของเซลล์, เพิ่มคอลลาเจน, ส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิว, ลดรอยดำ, ช่วยให้ผิวกระจ่างใส, ลดเลือนริ้วรอยและปรับโทนสีผิว

เรตินอลทำงานได้ในหลายระดับ เรตินอลส่งเสริมการหมุนเวียนของเซลล์โดยเพิ่มอัตราการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ทำให้รูขุมขนกระชับซึ่งจะป้องกันการเกิดสิว นอกจากนี้การหมุนเวียนของเซลล์ยังช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอด้วย นอกจากนี้เรตินอลยังช่วยเพิ่มการสร้างคอลลาเจนของผิว ปกติแล้วร่างกายจะผลิตคอลลาเจนจำนวนมากตามธรรมชาติซึ่งจะช่วยส่งเสริมผิวที่อ่อนเยาว์และอวบอิ่ม แต่การผลิตคอลลาเจนเริ่มลดลงเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป ดังนั้นการใช้เรตินอลจะช่วยส่งเสริมการผลิตคอลลาเจนในร่างกายซึ่งพิสูจน์แล้วว่าจะส่งเสริมความยืดหยุ่นของผิวในขณะที่จะช่วยคุณย้อนวัยโดยการลดริ้วรอยด้วย
** เรตินอลกับเรตินอยด์เหมือนกัน เพราะเรตินอยด์ใช้เรียกกลุ่มอนุพันธ์ของวิตามินเอทั้งหมดซึ่งมีเรตินอลรวมอยู่ในอนุพันธ์นั้นด้วย
ประเภทของเรตินอล (6,7)
ในทางเทคนิคแล้วเมื่อเราพูดถึงเรตินอยด์นั้นเป็นความหมายโดยรวมสำหรับอนุพันธ์ของวิตามินเอทั้งหมด แต่อันที่จริงแล้วเรตินอยด์มีหลายประเภทมาก เช่น Retinyl Palmitate (ฤทธิ์บางเบาที่สุด), Retinaldehyde (ฤทธิ์ปานกลาง) และ Adapalene (ฤทธิ์แรงที่สุดและเป็นตัวเลือกพิเศษสูตรเฉพาะเพื่อรักษาสิว) นอกจากนี้ยังมีเรตินอยด์ที่ต้องให้แพทย์ผิวหนังจ่ายยา คือ Tretinoin หรือ Tazarotene เรตินอยด์นี้จะทำงานได้เร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น แต่ก็อาจทำให้ระคายเคืองมากขึ้นเช่นกัน
แล้วเราควรเลือกเรตินอยด์ตัวไหนดี? ตามหลักการแล้วคุณควรให้ผิวหนังของคุณแนะนำตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับสภาพผิวของคุณ แต่เมื่อเริ่มต้นให้ใช้เรตินอยด์ที่อ่อนโยนที่สุด เช่น Retinyl Palmitate (สำหรับผิวบอบบางหรือผิวแห้ง) หรือเลือกใช้เรตินอล (สำหรับผิวทั่วไป) เมื่อใช้จนเคยชินแล้วสามารถเปลี่ยนเป็นสูตรที่มีความเข้มข้นสูงขึ้นได้ ไม่ว่าคุณจะเลือกเรตินอยด์ตัวไหนแต่จงรู้ไว้ว่าเรตินอยด์ทั้งหมดนี้มีประสิทธิภาพในระยะยาวอย่างแน่นอน
วิธีเลือกซื้อเซรั่มเรตินอลที่ดีที่สุด
1. ความเข้มข้นของเรตินอล
คุณอาจเคยได้ยินว่าสารเรตินอลสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองได้ ซึ่งโดยพื้นฐานแล้วมันเป็น “จริง” ค่ะเพราะว่าเรตินอลจะทำให้ผิวผลัดเซลล์ในอัตราที่เร็วขึ้น นี่คือเหตุผลที่ความเข้มข้นของเรตินอลเป็นสิ่งสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณไม่เคยใช้มันมาก่อน นอกจากนี้ความเข้มข้นที่คุณเลือกยังช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงไม่ให้ผิวแห้งและลอกได้อีกด้วย ความเข้มข้นต่ำสุดที่คุณจะพบในเรตินอลคือ 0.1% (ต่ำมากและจะไม่ส่งผลอะไรกับผิวของคุณ) และสูงสุดคือประมาณ 2% ค่ะ สำหรับผู้เริ่มต้นควรเลือกเรตินอลความเข้มข้นที่ต่ำและควรทดสอบก่อนใช้งานเป็นเวลาสองสามสัปดาห์ หากคุณไม่เห็นการระคายเคืองใด ๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัย
2. ส่วนผสมเพิ่มเติม (1,2,3,5)
เรตินอลถูกใช้ในเซรั่มเนื่องจากช่วยในการผลัดเซลล์และเพิ่มระดับคอลลาเจนในผิวของคุณทำให้ผิวดูกระชับและเรียบเนียนขึ้น ดังนั้นเซรั่มเรตินอลที่สุดที่คุณจะเจอจะวางตลาดเป็นเซรั่มต่อต้านริ้วรอย มีการกำหนดเป้าหมายโดยตรงในการลดริ้วรอย อย่างไรก็ตามเรตินอลยังมีคุณสมบัติปรับสีผิวของคุณและลดรูขุมขนได้ ดังนั้นจึงไม่ได้มีไว้สำหรับต่อต้านริ้วรอยเท่านั้น หากคุณต้องการให้ผิวเปล่งปลั่งหรือเน้นการให้ความชุ่มชื้น ควรจับตาดูส่วนผสมเพิ่มเติม เช่น กรดไฮยาลูโรนิกและสควาเลนซึ่งสามารถช่วยให้ผิวอิ่มน้ำและเพิ่มความชุ่มชื้นได้ วิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ มีชื่อเสียงในด้านการเพิ่มความกระจ่างใส ในขณะที่ว่านหางจระเข้ ดอกกุหลาบและน้ำมันจากพืชจะสามารถช่วยลดการระคายเคืองได้

3. ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน
แม้ว่าเรตินอลในเซรั่มบางตัวจะได้รับการออกแบบมาเพื่อใช้เป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวันทั้งในตอนเช้าและตอนเย็น แต่คุณควรเลือกใช้ในเวลากลางคืนเท่านั้นเพราะเรตินอลจะสลายตัวในแสงแดดและทำให้ผิวของคุณไวต่อแดดมากขึ้น ซึ่งหมายความว่าคุณจะเสี่ยงต่อการถูกทำร้ายจากแสงแดดได้มากขึ้นเมื่อคุณใช้ผลิตภัณฑ์เรตินอล ดังนั้นแม้ว่าคุณจะทาเฉพาะตอนกลางคืนแต่อย่าลืมเตรียมครีมกันแดดไว้ให้พร้อมและใช้เมื่อออกแดด แต่หากคุณรู้ว่าคุณอาจต้องเผชิญกับแสงแดดเป็นประจำวันในหนึ่งสัปดาห์ควรใช้เรตินอลให้น้อยลงค่ะ

4. รูปแบบของบรรจุภัณฑ์
โดยปกติเรตินอลเซรั่มจะถูกเก็บไว้ในขวดที่มีหัวปั๊มหรือหลอดปิเปต (หลอดหยด) สำหรับการใช้งาน หลอดหยดนั้นมีประโยชน์มาก เนื่องจากจะช่วยประหยัดผลิตภัณฑ์ได้มาก ส่วนขวดปั๊มคุณอาจจะเผลอกดออกมามากเกินไปโดยไม่ได้ตั้งใจและทำให้สิ้นเปลือง นอกจากนี้เซรั่มเรตินอลยังมีรูปแบบแคปซูลด้วย ซึ่งมีประโยชน์หากคุณไม่ต้องการวัดปริมาณเซรั่มทุกครั้งที่ทา นอกจากนี้ยังมีประโยชน์หากคุณกำลังเดินทางไปท่องเที่ยวเพราะคุณสามารถพกพาได้และมันจะไม่หกใส่กระเป๋าของคุณ อย่างแน่นอน
เซรั่มเรตินอล The Ordinary Retinol 0.5% in Squalane

ราคา 395 บาท*
ข้อดี
- เซรั่มเนื้อบางเบามีความสม่ำเสมอทำให้ซึมเข้าสู่ผิวได้ง่าย
- ปรับสภาพผิวให้ดูดีขึ้นเน้นในเรื่องการลดริ้วรอย
- ลดการสร้างเม็ดสีผิว ไม่ระคายเคืองผิวหรือทำให้เกิดรอยแดง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | 0.5% |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | สควาเลนและน้ำมันโจโจบา |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มเรตินอล theSkinlist Retinal Booster

ราคา 690 บาท*
ข้อดี
- มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนในผิวหนัง
- เนื้อบางเบาและซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วมาก
- ใช้งานได้นานเพียงหนึ่งปั๊มก็เกลี่ยได้ทั่วใบหน้าแล้ว
ข้อควรพิจารณา
- มีส่วนผสมของน้ำหอมไม่เหมาะสำหรับคนที่มีผิวแพ้ง่าย
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | 0.3% |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | วิตามิน B3 ไนซิอาไมด์และวิตามิน B5 |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มบำรุงผิวหน้า Olay โอเลย์ รีเจนเนอรีส เรตินอล24 ไนท์ เซรั่ม

ราคา 699 บาท*
ข้อดี
- ผสมผสานกับไนอาซินาไมด์ช่วยผิวพรรณของคุณดูชุ่มชื่นและกระจ่างใส
- ช่วยฟื้นฟูความยืดหยุ่นของผิว ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เนื้อเซรั่มมีความเข้มข้นแต่ก็สามารถซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้เป็นประจำและต่อเนื่องกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | ไม่ระบุ |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | วิตามินบี 3 (ไนอาซินาไมด์) |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มเรตินอล No7 Advanced Retinol 1.5% Complex Night Concentrate

ราคา 699 บาท*
ข้อดี
- ช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปรับผิวให้ดูเรียบเนียนและกระชับขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
- ดูแลปัญหาผิวได้อย่างหลากหลายทั้งเรื่องริ้วรอยและความหมองคล้ำ
ข้อควรพิจารณา
- คนที่มีปัญหาผิวอักเสบหรือระคายเคืองง่ายไม่ควรใช้
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | 1.5% |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | บิซาโบลอล |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มบำรุงผิวหน้า Loreal Paris Revitalift Pro-Retinol Serum

ราคา 759 บาท*
ข้อดี
- ออกแบบมาเพื่อลดเลือนและแก้ไขปัญหาริ้วรอบโดยเฉพาะ
- เนื้อเซรั่มมีความบางเบาและอ่อนโยนต่อผิวมาก ๆ
- หากใช้เป็นประจำผิวจะดูอ่อนเยาว์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ข้อควรพิจารณา
- ต้องใช้เป็นประจำและต่อเนื่องกว่าจะเห็นผลที่ชัดเจน
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | ไม่ระบุ |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | สารสกัดจากไฮยารูลอนและสารสกัดจากเซนเทลล่า |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มเรตินอล CeraVe Resurfacing Retinol Serum

ราคา 990 บาท*
ข้อดี
- มีส่วนผสมที่ปลอดภัยและอ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว
- มีเซราไมด์ที่จะช่วยรักษาเกราะป้องกันตามธรรมชาติของผิวลดปัญหาผิวแห้ง
- เซรั่มเนื้อบางเบาสามารถทาทับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่น ๆ ได้
ข้อควรพิจารณา
- อาจเกิดปฏิกิริยาทางผิวหนังเมื่อสัมผัสกับแสงแดด
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | 0.3% |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | เซราไมด์ ไนอาซินาไมด์และสารสกัดจากรากชะเอม |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
La Roche Posay Retinol B3 เซรั่มบำรุงผิวหน้า

ราคา 1,239 บาท*
ข้อดี
- มีเรตินอลแค่ 0.3% เมื่อใช้แล้วจะไม่แสบผิวอย่างแน่นอน
- ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ผิวจะเรียบเนียนและอ่อนนุ่มมากยิ่งขึ้นเมื่อใช้เป็นประจำ
ข้อควรพิจารณา
- มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอมไม่เหมาะกับคนที่แพ้ง่าย
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | ไม่ระบุ |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | วิตามินบี 3 และกลีเซอรีน |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มเรตินอล Paula's Choice RESIST 1% Retinol Booster

ราคา 1,897 บาท*
ข้อดี
- เนื้อบางเบามาก สามารถใช้ผสมกับเซรั่มหรือครีมอื่น ๆ ได้ง่าย
- ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวรวมไปถึงผิวเป็นสิวได้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อยาก
ปริมาณ | 15 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | 1% |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | เปปไทด์และฟลูอิด |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มเรตินอล Sunday Riley A+ Retinoid Serum

ราคา 3,180 บาท*
ข้อดี
- ผสมผสานของเรตินอลและสารสกัดจากธรรมชาติ บำรุงผิวได้อย่างล้ำลึก
- มีเรตินอล 6.5% เห็นผลได้อย่างรวดเร็วและชัดเจนมาก
- ไม่มีส่วนผสมที่เป็นอันตรายและเหมาะกับทุกสภาพผิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูงและหาซื้อได้ยากมาก
ปริมาณ | 30 มล. |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | 6.5% |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | น้ำผึ้งขาวฮาวาย, ไบซาโบลอล, ขิงและสารสกัดจากกระบองเพชร |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
เซรั่มสำหรับผิวหน้า Elizabeth Arden - Retinol Ceramide Capsules Night Serum

ราคา 3,600 บาท*
ข้อดี
- ผิวดูเรียบเนียนขึ้นเมื่อใช้งานเป็นประจำ
- ช่วยให้เส้นริ้วและริ้วรอยจางลงได้ด้วยการใช้เป็นประจำ
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมและไม่ทำให้ระคายเคืองผิว
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงแต่มีประสิทธิภาพมาก
ปริมาณ | 60 แคปซูล |
---|---|
ความเข้มข้นของเรตินอล | ไม่ระบุ |
ส่วนผสมที่สำคัญเพิ่มเติม | เซราไมด์ เปปไทด์และน้ำมันให้ความชุ่มชื้น |
ช่วงเวลาที่แนะนำให้ใช้งาน | กลางคืน |
สารเติมแต่ง | ✘ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เซรั่มเรตินอล ช่วยต่อต้านริ้วรอย ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
เซรั่มบำรุงผิวหน้า Olay โอเลย์ รีเจนเนอรีส เรตินอล24 ไนท์ เซรั่ม |
| |||
เซรั่มเรตินอล No7 Advanced Retinol 1.5% Complex Night Concentrate |
| |||
เซรั่มบำรุงผิวหน้า Loreal Paris Revitalift Pro-Retinol Serum |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
เซรั่มสำหรับผิวหน้า Elizabeth Arden - Retinol Ceramide Capsules Night Serum |
|
เรตินอลทำให้ผิวระคายเคืองจริงหรือไม่ ?
เนื่องจากเรตินอลทำให้ผิวหนังผลัดเซลล์เร็วกว่าปกติ คุณจึงมีแนวโน้มที่จะมีผิวแห้งและระคายเคืองเมื่อใช้เรตินอล แต่อาการนี้จะเป็นอยู่ประมาณ 2-3 สัปดาห์เท่านั้น หากผิวแข็งแรงขึ้นแล้วอาการระคายเคืองจะหายไป หากคุณกังวลเรื่องอาการระคายเคืองให้ทดสอบอาการแพ้ก่อนใช้ หากมีอาการรุนแรงมากผลิตภัณฑ์อาจจะไม่เหมาะกับคุณ
หลายคนอาจจะกังวลถ้าซื้อไม่แล้วใช้ไม่งานไม่ได้จะเปลืองเงิน ในข้อนั้นไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะคุณสามารถซื้อเซรั่มขวดเล็กได้ เซรั่มขวดขนาดเล็กนั้นออกแบบมาสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้เซรั่มเรตินอลในครั้งแรก โดยปกติจะมีปริมาณ 15 มล. หรือ 30 มล. หากซื้อขนาดทดลองจะช่วยให้มั่นใจได้ว่ามันจะไม่เปลืองเงินมากเกินไป ในทางกลับกันหากคุณเคยใช้เซรั่มเรตินอลมาก่อนและคุ้นเคยกับความเข้มข้นแล้ว เซรั่มปริมาณ 50 มล.ขึ้นไปจะเหมาะกับคุณมากกว่าเพราะมันจะช่วยคุณประหยัดเงินในระยะยาว
บทสรุป
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับเซรั่มเรตินอลที่เราได้แนะนำไปในวันนี้ เราหวังว่าทุกคนจะสามารถเลือกซื้อสินค้าที่ถูกใจได้นะคะ ปกติแล้วเซรั่มเรตินอลทำงานเพื่อลดริ้วรอยและเส้นริ้ว เรตินอลจะทำงานโดยการเพิ่มหลอดเลือดในผิวหนังซึ่งจะช่วยปรับสีผิว แต่เมื่อคุณใช้งานแล้วโปรดจำไว้ว่าเราไม่สามารถคาดหวังว่าจะเห็นผลลัพธ์ภายในชั่วข้ามคืน การใช้ครีมเรตินอลนั้นควรใช้เวลาประมาณ 12 สัปดาห์เพื่อสังเกตผล สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าผลิตภัณฑ์แต่ละยี่ห้อและแต่ละสูตรแตกต่างกันไป ในบางยี่ห้ออาจมีประสิทธิภาพน้อยกว่าผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ก็เป็นไปได้ค่ะ
สำหรับการใช้งานนั้นไม่ยากมากค่ะ เซรั่มเรตินอลเป็นเซรั่มสูตรที่มีประสิทธิภาพแต่ไม่ควรใช้ทุกวัน คุณควรเริ่มใช้เซรั่มเรตินอลสัปดาห์ละครั้งจนกว่าผิวของคุณจะสร้างความทนทานของเซรั่มได้ หลังจากนั้นแนะนำให้ทาวันเว้นวัน ถึงแม้ว่าเซรั่มแต่ละยี่ห้อจะแนะนำให้ใช้กลางคืนแต่เซรั่มก็ทำให้ผิวของคุณไวต่อแสงแดดมากขึ้น ดังนั้นโปรดใช้มาตรการที่เหมาะสมเพื่อปกป้องผิวของคุณจากแสงแดดในแต่ละวันด้วยนะคะ
References
- Retinoids in the treatment of skin aging: an overview of clinical efficacy and safety
- Do retinoids really reduce wrinkles?
- How to fade dark spots in skin of color
- A comparative study of the effects of retinol and retinoic acid on histological, molecular, and clinical properties of human skin
- Retinoids: active molecules influencing skin structure formation in cosmetic and dermatological treatments
- Two concentrations of topical tretinoin (retinoic acid) cause similar improvement of photoaging but different degrees of irritation. A double-blind, vehicle-controlled comparison of 0.1% and 0.025% tretinoin creams
- Retinoid