น้ำหอมเป็นไอเทมที่ช่วยเพิ่มกลิ่นหอมและความมั่นใจให้กับคนที่ฉีดได้เป็นอย่างดีค่ะ ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเป็นคนที่ขาดน้ำหอมไม่ได้เลย ขนาดก่อนนอนก็ต้องฉีดหากไม่ฉีดจะนอนไม่หลับค่ะ แต่น้ำหอมที่ผู้เขียนใช้จะเป็นน้ำหอมแบบสเปรย์ค่ะ ผู้เขียนจะชอบใช้น้ำหอม Bath Body Work และ Victoria’s Secretมากเพราะกลิ่นมีความหอมหวาน ปริมาณเยอะ ชอบจัดโปรบ่อยและใช้งานได้ง่าย แต่น้ำหอมแบบนี้ไม่ค่อยติดทนมากนัก หากอยากใช้น้ำหอมที่ติดทนนานผู้เขียนจะเลือกใช้น้ำหอมแบรนด์ดัง แบรนด์น้ำหอมที่ผู้เขียนชอบมากคือน้ำหอม Chanelและ น้ำหอม Armani ค่ะเพราะกลิ่นมันตรงจริตกับผู้เขียนดี โดยวันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำน้ำหอมอีกหนึ่งกลิ่นที่ผู้เขียนเองก็ชอบเหมือนกัน นั่นก็คือ “น้ำหอมกลิ่นกุหลาบ”

กุหลาบถือเป็นราชินีแห่งดอกไม้ค่ะ ไม่มีใครไม่ชอบกุหลาบอย่างแน่นอนเพราะนอกจากจะมีสีสันที่สวยงามแล้วกลิ่นของกุหลาบยังหอมมากอีกด้วย ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบต้องไม่พลาดบทความนี้นะคะ เพราะวันนี้ผู้เขียนจะแนะนำน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ฮิตและได้รับความนิยมกันค่ะ
กุหลาบที่นำมาใช้ทำน้ำหอม มีชนิดใดบ้าง?
ดอกกุหลาบได้รับความนิยมมากค่ะ และน้ำมันกุหลาบก็เป็นที่ชื่นชอบของชาวเปอร์เซียมาตั้งแต่โบราณ ดังนั้นมีการใช้กุหลาบเป็นส่วนประกอบสำคัญในการผลิตน้ำหอมและเครื่องสำอางสำหรับผิว ดอกกุหลาบไม่เพียงแต่เป็นราชินีแห่งดอกไม้เท่านั้นแต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความโรแมนติกด้วย ในโลกของน้ำหอมมีการใช้กุหลาบหลากหลายสายพันธุ์มาทำน้ำหอมค่ะ แต่ต่อไปนี้เป็นชนิดของกุหลาบที่มักจะมาทำน้ำหอมมากที่สุด
|
กุหลาบมอญ (Damask Rose)น้ำหอมกลิ่นกุหลาบส่วนใหญ่มีพื้นฐานมาจากดอกกุหลาบมอญค่ะ กุหลาบชนิดนี้สีชมพูสวยงามเป็นกุหลาบที่มักจะเติบโตในบัลแกเรีย ตุรกีและอินเดีย กุหลาบชนิดนี้ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางและขึ้นชื่อว่าเป็นราชินีแห่งดอกกุหลาบ กลิ่นของกุหลาบมอญ มีความเข้มข้น หอมหวานและอบอุ่น มีตำนานเล่าว่าคลีโอพัตราก็ชอบใช้กลิ่นของกุหลาบมอญค่ะ |
|
กุหลาบเมืองกราซ (Rose de Ma)กุหลาบชนิดนี้นิยมปลูกในฝรั่งเศสและโมร็อกโก ในฝรั่งเศสจะปลูกในเมืองกราซจึงถูกเรียกว่ากุหลาบเมืองกราซ เมืองนี้เป็นเมืองแห่งน้ำหอมมาตั้งแต่ปี 1650 กุหลาบชนิดนี้พบได้น้อยกว่ากุหลาบมอญแต่ก็เป็นที่ชื่นชอบของคนที่ใช้น้ำหอมเช่นกัน กุหลาบเมืองกราซจะมีกลิ่นกุหลาบที่เข้มข้น ยั่วยวนและมีกลิ่นของน้ำผึ้งแฝงอยู่ด้วย ขอบอกเลยว่ากุหลาบชนิดนี้แพงมาก |
น้ำหอมกลิ่นกุหลาบ ยี่ห้อไหนดี ให้กลิ่นหอมโดนใจคุณ?
- น้ำหอมจาก Chanel ขายดี เป็นรุ่นฮิต เหมาะสำหรับสาววัย 20+: Chanel Chance Eau Tendre Eau De Toilette Spray น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นกุหลาบตอบโจทย์วัยทำงาน ใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง: Tom Ford Rose Prick Eau de Parfum น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นกุหลาบ ให้ความหรูหราทุกครั้งที่ฉีด: Bvlgari Rose Goldea Blossom Delight New Eau de Toilette น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นใหม่จาก Dior หอมหวานสไตล์คุณหนู: Dior Miss Dior Rose N'Roses Eau de Toilette น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นใหม่จาก Issey Miyake ฉีดได้ทุกวัน: Issey Miyake Rose & Rose Eau de Parfum น้ำหอม
- กลิ่นหอมสดชื่นของดอกกุหลาบที่เพิ่งเก็บมาใหม่ ๆ: Chloé Roses de Chloé EDT น้ำหอม
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอมกลิ่นกุหลาบ
1. เช็กกลิ่นที่ผสมผสานกันของกลิ่นกุหลาบและกลิ่นหอมอื่น ๆ
- กุหลาบและซิตรัส หากคุณต้องการน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่สดชื่น คุณสามารถเลือกกลิ่นของดอกกุหลาบที่ผสมผสานกับกลิ่นซิตรัสได้ กลิ่นหอมตระกูลซิตรัสได้แก่ มะนาว เลมอน ส้ม มะกรูดและเกรฟฟรุต ขอบอกเลยว่าการผสมผสานของกลิ่นดอกกุหลาบและกลิ่นซิตรัสเป็นกลิ่นที่เหมาะสำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันมาก ผู้เขียนมองว่ากลิ่นนี้เป็นกลิ่นที่เหมาะกับหลากหลายโอกาสเลยจะฉีดไปเรียนก็ได้ ไปทำงานก็ได้หรือฉีดไปเล่นกีฬาก็ดี
- กุหลาบและดอกไม้อื่น ๆ กลิ่นกุหลาบและกลิ่นของดอกไม้จะช่วยเน้นย้ำถึงความมั่นใจของผู้หญิงค่ะ เมื่อไปออกเดตกับแฟนคุณอาจต้องการกลิ่นน้ำหอมที่ทำให้คุณรู้สึกดูสวยหรือมีเสน่ห์ ดังนั้นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ผสมผสานกับกลิ่นดอกไม้จึงเหมาะสำหรับโอกาสนี้ค่ะ กลิ่นกุหลาบเองก็เป็นกลิ่นของดอกไม้ เมื่อรวมกับกลิ่นดอกไม้กลิ่นอื่น ๆ เช่น โบตั๋น มะลิ ลิลลีและอื่น ๆ กลิ่นหอมก็จะยิ่งเป็นกลิ่นดอกไม้ เมื่อฉีดน้ำหอมกลิ่นจะให้ความหอมหวานและแผ่ความสง่างามออกมาได้เป็นอย่างดีค่ะ
- กุหลาบและวานิลลา จากข้อมูลของเว็บไซต์น้ำหอมชื่อดังได้บอกไว้ว่าจริง ๆ แล้วกลิ่นวานิลลาจัดอยู่ในกลุ่มเครื่องเทศ แต่กลิ่นวานิลลาเป็นกลิ่นที่หอมหวานสามารถจัดอยู่ในกลุ่มกูร์มองด์ (กลิ่นหอมคล้ายเค้กรสหวาน) ได้ด้วย ทำให้วานิลลามีความคล้ายคลึงกับช็อกโกแลต น้ำตาลและคาราเมล หากน้ำหอมกลิ่นกุหลาบผสมกับวานิลลา กลิ่นที่ได้จะเป็นกลิ่นดอกไม้ที่หอมหวาน ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นหวาน การผสมผสานระหว่างกลิ่นกุหลาบและวานิลลาอาจเป็นกลิ่นที่คุณชอบ
- กุหลาบและกลิ่นไม้ ไม้กฤษณา, ไม้ซีดาร์, ไม้จันทน์, ไม้อำพันและกลิ่นไม้ประเภทอื่น ๆ จัดอยู่ในกลุ่มกลิ่นหอมของไม้ น้ำหอมกลิ่น กุหลาบและกลิ่นไม้เป็นกลิ่นที่ผสมผสานเข้ากันได้ดีเพื่อผลิตกลิ่นที่ลึกล้ำ เซ็กซี่ หรูหรา ดูเป็นผู้ใหญ่และเย้ายวน ถ้าให้อธิบายเป็นสีกลิ่นของกุหลาบที่นำมาผสมผสานกับกลิ่นไม้คือกุหลาบที่มีกลีบสีแดงดูร้อนแรงค่ะ น้ำหอมกลิ่นที่ผสมผสานระหว่างกุหลาบและอู๊ด (หรือ กลิ่นไม้อื่น ๆ) เหมาะสำหรับงานอย่างเป็นทางการและงานในตอนกลางคืน ในการฉีดน้ำหอมคุณสามารถฉีดไปตอนออกเดตหรือวันที่ต้องทานอาหารมื้อค่ำแสนโรแมนติกก็ได้ค่ะ
2. ความทนทานของน้ำหอม
เมื่อพูดถึงความทนทานน้ำหอม อันที่จริงแล้วมีหลายปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อความทนทานของน้ำหอมค่ะ หนึ่งในปัจจัยที่กำหนดความทนทานของกลิ่นของน้ำหอมคือความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยที่เติมเข้าไปซึ่งจะแยกออกไปเป็นประเภทของน้ำหอม ขอบอกเลยว่ายิ่งปริมาณของน้ำมันหอมระเหยมากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีกลิ่นหอมมากขึ้นและทนทานมากขึ้น ต่อไปนี้เป็นประเภทของน้ำหอมที่คุณควรรู้ค่ะ

- Eau de Cologne (EDC) Eau de Cologne (EDC) เป็นน้ำหอมที่มีความเข้มข้นน้อยที่สุด น้ำหอมประเภทนี้มีปริมาณน้ำและแอลกอฮอล์สูงและมีระดับน้ำมันหอมระเหยตั้งแต่ 2-4% ความติดทนของน้ำหอมขึ้นอยู่กับแต่ละแบรนด์ค่ะ แต่ส่วนใหญ่ Eau de Cologne จะติดทนเฉลี่ย 2-4 ชั่วโมง
- Eau de Toilette (EDT) Eau de Toilette (EDT) เป็นน้ำหอมที่มีปริมาณน้ำหอมหอมระเหย 5-15% กลิ่นหอมมีความเข้มข้นมากกว่า Eau de Cologne ส่วนความติดทนของน้ำหอมจะติดทนประมาณ 3 – 5 ชั่วโมง ผู้เขียนมองว่า Eau de Toilette เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวันมากค่ะ
- Eau de Parfum (EDP) Eau de Parfum เป็นน้ำหอมชนิดหนึ่งที่ทนทานกว่าน้ำหอม 2 ประเภทก่อนหน้านี้ น้ำหอมประเภทนี้มีความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหย 15-40% ทำให้น้ำหอมสามารถติดทนได้นานกว่า 5 ชั่วโมง แต่ราคาจะแพงกว่า
3. น้ำหอมกับช่วงอายุ
- อายุต่ำกว่า 20 ปี วัย 20 เป็นวัยที่ชอบความท้าทายและชอบทำกิจกรรมต่าง ๆ ในวัยนี้คุณอาจใช้เวลานอกบ้านมากขึ้น น้ำหอมกลิ่น สดชื่น สดใสและบางเบาจะเหมาะสำหรับคนในช่วงวัยนี้ค่ะ ในการเลือกซื้อเราขอแนะนำให้เลือกน้ำหอมกลิ่นกุหลาบผสมซิตรัสหรือกลิ่นกุหลาบผสมกลิ่นผลไม้ก็ได้ค่ะ
- ช่วงอายุ 20 ปี เมื่อเข้าสู่วัย 20 ปี หลาย ๆ คนจะหมกมุ่นอยู่กับการเรียนหรือการเริ่มต้นอาชีพ ในการเลือกซื้อสามารถเลือกซื้อน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ผสมกลิ่นดอกไม้ มัสก์หรือกลิ่นไม้ก็ได้ค่ะ นอกจากนี้เราอยากแนะนำให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นอายของความสดชื่นหรือใช้กลิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวก็ได้ค่ะ
- ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป ในวัย 30 ปีขึ้นไปคุณต้องซื้อน้ำหอมที่สะท้อนถึงความเป็นผู้ใหญ่ เราอยากแนะนำให้เลือกน้ำหอมที่มีกลิ่นที่โดดเด่นหรือน้ำหอมกลิ่นที่เข้มข้นสักหน่อย เพราะกลิ่นน้ำหอมเหล่านี้จะให้ลุคดูมั่นคงและดูภูมิฐานค่ะ ผู้เขียนแนะนำให้ซื้อน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่มีการผสมกลิ่นของไม้ กลิ่นหนังและกลิ่นเผ็ดร้อนที่สะท้อนถึงความรู้สึกอบอุ่นและเป็นชายค่ะ
Chanel Chance Eau Tendre Eau De Toilette Spray น้ำหอม

ราคา 4,819 บาท*
Chanel Chance Eau Tendre Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 2019 กลิ่นน้ำหอมจะออกแนวฟลอร่าฟรุ๊ตตี้ ซึ่งคนที่ได้คิดค้นน้ำหอมกลิ่นนี้ออกมาคือนักปรุงน้ำหอมชื่อดังอย่าง Olivier Polge กลิ่นเปิดของน้ำหอมจะเป็นกลิ่นของผลไม้รสเปรี้ยวอย่างมะเฟืองและเกรฟฟรุตเพื่อเพิ่มความสดชื่น เมื่อผ่านไปประมาณ 15 นาทีน้ำหอมจะมีกลิ่นหอมของดอกไม้ซึ่งเป็นการผสมผสานกันของกลิ่นมะลิและกุหลาบ ปิดท้ายด้วยกลิ่นมัสกี้ที่ให้ความรู้สึกหรูหราและเป็นเอกลักษณ์ของชาแนล หากใครที่ซื้อน้ำหอมของชาแนลบ่อย ๆ จะเห็นเลยว่ากลิ่นปิดท้ายของน้ำหอมจะเป็นกลิ่นแนวมัสกี้ตลอดค่ะ
ผู้เขียนค่อนข้างชอบกลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้ค่ะ เพราะมันให้กลิ่นที่ดูสดใสและบ่งบอกถึงความเป็นสาวสมัยใหม่ ขวดของน้ำหอมมาในขวดทรงกลมตัดกับฝาปิดทรงสี่เหลี่ยมซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของ Chanel กลิ่นของน้ำหอมมีความทนทานระดับกลาง จุดเด่นเลยก็คือมีท็อปโน้ตของผลไม้ที่ช่วยยกระดับกลิ่นน้ำหอมโดยรวมได้ดี สาว ๆ วัย 20+ สามารถเลือกใช้น้ำหอมกลิ่นนี้ได้นะคะเพราะผู้เขียนมองว่าน้ำหอมเหมาะกับสาว ๆ 20+ มากกว่าช่วงวัยอื่น ๆ
สำหรับผู้เขียนมองว่า Chance Eau Tendre Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับใช้ในเวลากลางวันหรือใช้ในหน้าร้อน เพราะกลิ่นของน้ำหอมจะให้ความรู้สึกสดใสและร่าเริง น้ำหอมมาในรูปแบบของ Eau de Parfum สามารถติดทนนานได้ประมาณ 5 ชั่วโมงขึ้นไป สำหรับใครที่ต้องการกลิ่นกุหลาบชัด ๆ และไม่มีกลิ่นอื่นแฝงน้ำหอมตัวนี้อาจจะไม่เหมาะนะคะเพราะกลิ่นของน้ำหอมมีความเป็นกุหลาบและแฝงไปด้วยกลิ่นแป้ง หากชอบกลิ่นกุหลาบชัด ๆ ต้อง Bvlgary Rose Goldea Blossom Delight New Eau de Toilette
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Grapefruit, Quince |
Middle Notes | Rose, Jasmine |
Base Notes | White Musk |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Tom Ford Rose Prick Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 14,000 บาท*
Tom Ford Rose Prick Eau de Parfum เป็นน้ำหอมแนว Chypre Floral ที่สามารถใช้ได้ทุกเพศเลยค่ะ น้ำหอมโดดเด่นด้วยกลิ่นของกุหลาบ 3 สายพันธุ์ที่ผสมผสานเข้ากับกลิ่นเครื่องเทศและมัสก์ โดยน้ำหอมจะเปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นรสเผ็ดที่ได้มาจากพริกเสฉวนและขมิ้น เมื่อกลิ่นแรกจางหายไปกลิ่นกลางอย่างกลิ่นของกุหลาบจะออกมา ซึ่งกลิ่นกุหลาบที่ทางแบรนด์ใช้เป็นกลิ่นของกุหลาบ 3 สายพันธุ์คือกุหลาบตุรกี กุหลาบบัลแกเรียและกุหลาบจากเมืองกราซ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของมัสกี้และแพทชูลี่ที่จะช่วยเพิ่มความเย้ายวนให้กับน้ำหอมมากยิ่งขึ้น
น้ำหอม Tom Ford Rose Prick เป็นน้ำหอมที่ออกแบบมาอย่างสมบูรณ์แบบในทุกด้านทั้งรูปลักษณ์และกลิ่น ตัวขวดน้ำหอมโดดเด่นด้วยสีชมพูพาสเทลทึบและมีฉลากสีดำเข้มตัดกันได้อย่างดี สำหรับผู้เขียนมองว่ากลิ่นหอมของน้ำหอมมีความทันสมัยเพราะมีการผสมผสานระหว่างดอกกุหลาบกับเครื่องเทศ ทำให้น้ำหอมมีกลิ่นดอกไม้ที่เข้มข้นและให้ความซับซ้อน ทำให้คนที่ฉีดน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นคนที่ดูน่าค้นหามากยิ่งขึ้นค่ะ หากไม่ติดในเรื่องราคาที่แพงซะเหลือเกินผู้เขียนเองก็อยากลองซื้อมาใช้อยู่เหมือนกัน
น้ำหอม Tom Ford Rose Prick เป็นน้ำหอมที่เหมาะสำหรับใช้ฉีดในช่วงฤดูร้อนค่ะ เพราะกลิ่นหอมของเครื่องเทศและดอกไม้มีการผสมผสานกันอย่างลงตัว ช่วยสร้างสมดุลให้กลิ่นได้เป็นอย่างดี น้ำหอมมาในรูปแบบของ Eau de Parfum ติดทนนานมากกว่า 5 ชม. อย่างแน่นอน หากถามว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะกับใครผู้เขียนมองว่าเหมาะสำหรับผู้ใหญ่วัยทำงานมากที่สุดค่ะ เพราะกลิ่นดูหรูหราและดูแพงมาก หากฉีดไปแล้วคนที่เดินผ่านจะต้องเหลียวหลังอย่างแน่นอน อีกทั้ง Tom Ford Rose Prick ยังเป็นน้ำหอมที่ติด Top 5 ในโจทย์น้ำหอมที่ผู้ชายชอบมากที่สุดด้วย
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Sichuan pepper, Turmeric |
Middle Notes | May Rose, Turkish Rose, Bulgarian Rose |
Base Notes | Patchouli, Tonka Bean |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Lancôme La Vie Est Belle Rose Eau de Toilette น้ำหอม

ราคา 4,700 บาท*
Lancôme La Vie Est Belle Rose เป็นน้ำหอมที่สาว ๆ หลายคนหลงรักค่ะ น้ำหอมเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2019 โดยผ่านการสร้างสรรค์โดยนักปรุงน้ำหอมที่มีชื่อเสียงอย่าง Anne Flipo และ Dominique Ropion น้ำหอมเปิดตัวด้วยกลิ่นสดชื่นของผลไม้อย่างราสเบอร์รี เบอร์รีสีแดง พริกไทยสีชมพูและมะกรูด ส่วนกลิ่นกลางคือกลิ่นของดอกโบตั๋น ดอกกุหลาบมอญและดอกลิลลีกลางหุบเขาเพื่อปลุกความหอมหวานและความเป็นผู้หญิง
ปิดท้ายด้วยกลิ่นหอมของมัสกี้ แพทชูลี่และไม้จันทน์ที่ช่วยเพิ่มความหอมให้กับน้ำหอมมากขึ้นกว่าเดิม หากถามว่า Lancôme La Vie Est Belle Rose เหมาะที่จะฉีดในช่วงไหนมากที่สุด ผู้เขียนมองว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะมากสำหรับช่วงฤดูใบไม้ผลิและช่วงฤดูร้อน ในการฉีดน้ำหอมแนะนำให้ฉีดในเวลากลางวันจะดีกว่ากลางคืน เพราะกลิ่นไม่ได้ฉุนมากและเป็นกลิ่นที่ดูสดชื่นค่ะ ถึงแม้น้ำหอมจะมาในรูปแบบของ Eau de Toilette แต่ก็สามารถติดทนได้นานกว่า 4 ชั่วโมง สาว ๆ คนไหนที่กำลังมองหาน้ำหอมที่ฉีดได้ทุกวันแนะนำเลยค่ะ
สำหรับผู้เขียนมองว่า Lancôme La Vie Est Belle Rose เป็นน้ำหอมที่ออกแบบมาสำหรับคนสวย เพราะกลิ่นน้ำหอมฉีดแล้วดูสวย น่าทะนุถนอมเป็นอย่างมาก การผสมผสานกลิ่นหอมของผลไม้และดอกไม้ช่วยเพิ่มความสดใสและน่ารักให้กับคนฉีดได้อย่างดี ส่วนตัวแล้วกลิ่นน้ำหอมดูน่ารักคล้ายกับ Chanel Chance Eau Tendre Eau de Parfum แต่กลิ่นของกุหลาบของลังโคมจะชัดกว่ามากค่ะ ใครที่ชื่นชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบสไตล์น่ารัก ๆ แนะนำเลยค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Raspberry, Red Berries, Pink Pepper, Bergamot |
Middle Notes | Damask Rose, Rose, Peony, Lily-of-the-Valley |
Base Notes | Patchouli, Musk, Iris, Sandalwood |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Bvlgari Rose Goldea Blossom Delight New Eau de Toilette น้ำหอม

ราคา 2,980 บาท*
Bvlgari เป็นแบรนด์น้ำหอมที่ดูหรูหราอยู่แล้วค่ะ โดยน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่เราจะแนะนำกันมีชื่อว่า Bvlgari Rose Goldea Blossom Delight New กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมคือมะลิ มะละกอและใบไวโอเลต ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกุหลาบ ใบกุหลาบและลิลลีกลางหุบเขา ปิดท้ายด้วยกลิ่นของมัสก์ กุหลาบบัลแกเรียและอำพันค่ะ กลิ่นหอมของดอกกุหลาบที่มีอยู่ในน้ำหอมจะดูหอมหวานและสดชื่นเหมาะสำหรับวันฤดูร้อนค่ะ
การออกแบบขวดน้ำหอมของ Bvlgari ดูหรูหราและดูเป็นผู้หญิง ขวดและฝาปิดมีรูปร่างคล้ายก้อนเมฆ วงแหวนโมเสกที่ล้อมรอบด้านล่างของตัวคั่นสเปรย์ก็ดูสวยงามไม่เหมือนใครค่ะ ใครที่ชอบสะสมขวดน้ำหอมสามารถซื้อน้ำหอมรุ่นนี้ได้นะคะ เพราะขวดดูสวยกลิ่นก็หอมค่ะ
Bvlgari Rose Goldea Blossom Delight New เป็นน้ำหอมที่ให้กลิ่นสดใสและดูร่าเริง กลิ่นกลางของน้ำหอมมีความคล้ายกับ Lancôme La Vie Est Belle Rose แต่กลิ่นกลางของน้ำหอมของ Bvlgari ไม่มีกลิ่นของดอกโบตั๋นค่ะ ข้อควรระวังเลยคือกลิ่นของน้ำหอม Bvlgari Rose Goldea Blossom Delight New ค่อนข้างแรงเมื่อฉีดในตอนแรก ดังนั้นอย่าฉีดมากเกินไปค่ะ แต่หลังจากฉีดแล้วกลิ่นน้ำหอมจะค่อย ๆ จางลงไปเรื่อย ๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการน้ำหอมที่ติดทนตลอดทั้งวัน
รูปแบบของน้ำหอม : | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Jasmine, Papaya, Violet Leaf |
Middle Notes | Lil-of-the-valley, Rose, Rose Leaf |
Base Notes | Musk, Bulgarian Rose, Amber |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Jo Malone London Red Roses Cologne น้ำหอม

ราคา 3,780 บาท*
Jo Malone Red Roses Cologne เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่เน้นความหอมหวานของดอกกุหลาบ เมื่อฉีดแล้วจะทำให้คุณได้ดื่มด่ำกับความตระการตาของกลิ่นดอกไม้ กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมเป็นกลิ่นมะนาวและมิ้นต์ที่ให้ความสดชื่น หลังจากกลิ่นแรกผ่านไปไม่นานก็จะมีกลิ่นกุหลาบบัลแกเรียและใบไวโอเลต ปิดท้ายด้วยกลิ่นของบีแว็กซ์เพื่อเพิ่มความสมดุลให้กับกลิ่นน้ำหอมค่ะ ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบต้องมีเลยค่ะ
ขวดของน้ำหอมที่เราแนะนำกันเป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชันค่ะ มาในปริมาณ 50 มล. หากซื้อน้ำหอมไปทางแบรนด์จะมีถุงที่เข้าเซตแถมให้ด้วย เป็นการออกแบบที่ดูสวยและดูหรูหรามากเลยทีเดียว แต่น้ำหอมไซซ์ใหญ่ของทางแบรนด์ก็มีเหมือนกันนะคะ ราคาจะสูงกว่าแต่ก็ใช้งานได้นานกว่าค่ะ
Jo Malone ขึ้นชื่อเรื่องความหอมอยู่แล้วค่ะ นอกจากน้ำหอมแล้วเทียนหอมและโลชั่นของทางแบรนด์ก็หอมและขายดีมากเช่นกัน ถึงแม้น้ำหอมจะมาในรูปแบบ Eau de Cologne แต่ Jo Malone Red Roses Cologne ก็ติดอันดับน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมติดทนนานที่สุดของแบรนด์โจโมโลนค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Cologne |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Lemon, Mint |
Middle Notes | Bulgarian Rose, Violet Leaf |
Base Notes | Beeswax |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Dior Miss Dior Rose N'Roses Eau de Toilette น้ำหอม

ราคา 1,845 บาท*
Dior Miss Dior Rose N’Roses Eau de Toilette เป็นน้ำหอมกลิ่นดอกกุหลาบที่หรูหราและดูเป็นผู้หญิงค่ะ น้ำหอมกลิ่นนี้เปิดตัวเมื่อปี 2020 สำหรับผู้เขียนมองว่า Dior Rose N’Roses มีกลิ่นหอมที่ดูสดใสคล้าย ๆ กับรุ่น Blooming Bouquet แต่ยังคงความน่ารักและความละมุนของกลิ่นเอาไว้ น้ำหอมเปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นของเจอเรเนียมและซิตรัสสามารถช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับผู้ฉีด ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกุหลาบมอญและกุหลาบเมืองกราซ ปิดท้ายด้วยกลิ่นไวท์มัสก์ค่ะ
Dior Miss Dior Rose N'Roses เป็นน้ำหอมที่เหมาะมากสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน กลิ่นของน้ำหอมไม่ได้หอมจนฉุน แต่เป็นกลิ่นที่หอมหวานและเป็นกลิ่นที่สาว ๆ ควรมีค่ะ น้ำหอมมาในรูปแบบ Eau de Toilette สามารถติดทนได้นานประมาณ 4 - 6 ชั่วโมง ขวดของน้ำหอมขวดนี้เป็นขวดไซซ์เล็กตามฉบับของ Dior มีปริมาณ 20 มล. แต่ฉีดได้นานแน่นอน ใครที่ชอบขวดไซซ์ใหญ่กว่านี้ก็สามารถหาซื้อได้นะคะทางแบรนด์มีขายค่ะ
Dior Miss Dior Rose N’Roses เป็นน้ำหอมที่ต้องมีเก็บไว้หากคุณชอบน้ำหอมกลิ่นลูกคุณหนูค่ะ น้ำหอมมีการผสมผสานของกลิ่นกุหลาบ 2 สายพันธุ์ไว้ด้วยกันเป็นกลิ่นหอมที่ดูสดชื่นและแฝงไปด้วยความอบอุ่น น้ำหอม Dior ขึ้นชื่อเรื่องกลิ่นดูแพงอยู่แล้วค่ะ หากใครคิดว่าทางแบรนด์มุ่งเน้นไปที่กลิ่นกุหลาบอย่างเดียวคิดผิดค่ะเพราะการผสมผสานของกลิ่นค่อนข้างลงตัวเลย ขวดน้ำหอมก็พกพาได้ง่ายด้วย
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 20 มล. |
Top Notes | Geranium, Bergamot, Mandarin |
Middle Notes | Grasse Rose, Damask Rose |
Base Notes | White Musk |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Issey Miyake Rose & Rose Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 2,160 บาท*
Issey Miyake Rose & Rose เป็นน้ำหอมที่เหมาะมากหากคุณกำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นดอกไม้ที่สดชื่นค่ะ หลาย ๆ คนที่เคยลองใช้ L'Eau D'Issey Rose & Rose แล้วต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าน้ำหอมกลิ่นหอมมากและจะทำให้คุณหลงใหลตั้งแต่ฉีดครั้งแรกเลย น้ำหอมเปิดกลิ่นด้วยกลิ่นราสเบอร์รี ลูกแพร์และพริกไทยสีชมพู ถัดมาเป็นกลิ่นของกุหลาบบัลแกเรีย กุหลาบโพรวองซ์และกลิ่นดอกหอมหมื่นลี้ ขอบอกเลยว่ากลิ่นกลางเหล่านี้ถือเป็นดาวเด่นของน้ำหอมเลย
ปิดท้ายกลิ่นน้ำหอมด้วยกลิ่นของไม้แคชเมียร์ อำพันและแพทชูลีค่ะ น้ำหอมเหมาะที่จะฉีดในหลายช่วงฤดู ทั้งช่วงฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงค่ะ รูปแบบของน้ำหอมคือ Eau de Parfum สามารถติดทนได้นานกว่า 5 ชั่วโมง ผู้เขียนค่อนข้างชอบการออกแบบของขวดค่ะเพราะไซซ์เล็กดี พกพาได้ง่าย สีของขวดน้ำหอมก็เป็นขวดสีชมพูเหมาะสำหรับบรรจุน้ำหอมกลิ่นกุหลาบมาก
Issey Miyake Rose & Rose เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่ดูไม่แก่เลยค่ะ ผู้เขียนชอบกลิ่นเปิดของน้ำหอมมากเพราะกลิ่นแรกเป็นกลิ่นราสเบอร์รีที่ผสมผสานกันอย่างลงตัวกับกลิ่นของกุหลาบ น้ำหอมสามารถใช้งานได้ทุกวันเลย กลิ่นปิดท้ายของน้ำหอมเป็นกลิ่นแนวแป้ง ๆ ใครที่ชอบน้ำหอมไซซ์เล็ก พกพาง่ายและมีกลิ่นแป้งแนะนำเลยค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 25 มล. |
Top Notes | Raspberry, Pear, Pink Pepper |
Middle Notes | Bulgarian Rose, Rose, Osmanthus |
Base Notes | Cashmere Wood, Amber, Patchouli |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Diptyque Eau Rose Eau De Parfum น้ำหอม

ราคา 4,650 บาท*
Diptyque Eau Rose เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่เราอยากแนะนำค่ะ กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมคือกลิ่นสดชื่นของลิ้นจี่ กลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกุหลาบมอญ, กุหลาบเมืองกราซ, น้ำกุหลาบ, คาโมมายล์และอาร์ทิโชก ปิดท้ายด้วยกลิ่นของมัสก์ที่ลงตัวเป็นอย่างมากค่ะ หากถามว่า Diptyque Eau Rose เหมาะกับใครผู้เขียนมองว่าน้ำหอมเหมาะสำหรับทุกคนที่ชอบกลิ่นกุหลาบค่ะ เพราะทางแบรนด์ใส่กลิ่นของกุหลาบแบบจัดเต็มเลยทีเดียว อีกทั้งยังปิดท้ายด้วยกลิ่นแป้ง ๆ ของมัสก์ให้ความละมุนหลังฉีดด้วย
น้ำหอมมาในรูปแบบของ Eau de Parfum ติดทนยาวนานมากกว่า 5 ชั่วโมงค่ะ อันที่จริงน้ำหอมรุ่นนี้มี Eau de Toilette ด้วยนะคะ แต่กลิ่นข้างในไม่เหมือนกัน ส่วนตัวแล้วผู้เขียนมองว่า Diptyque Eau Rose Eau de Parfum จะหอมกว่าและได้กลิ่นของดอกกุหลาบมากกว่าด้วย ตัวขวดน้ำหอมดีไซน์ดูสวยค่ะและเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ Diptyque เลย สาว ๆ คนไหนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบต้องไม่พลาดค่ะ
Diptyque Eau Rose เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่สามารถใช้ได้เป็นประจำเลยค่ะ สามารถใช้ในตอนกลางคืนก็ได้หรือจะใช้ในตอนกลางวันก็ได้เหมือนกัน หากถามว่ากลิ่นของน้ำหอม Diptyque Eau Rose ดูแก่ไหม ผู้เขียนว่าไม่แก่เลยค่ะ เพราะเปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นลิ้นจี่แล้วค่อยตามด้วยกลิ่นกุหลาบ ส่วนเรื่องความติดทนไม่ต้องเป็นห่วงเลยค่ะเพราะ Diptyque ขึ้นชื่อเรื่องความติดทนอยู่แล้ว
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Litchi |
Middle Notes | Damask Rose, Grasse Rose, Rose Water, Chamomile, Artichoke |
Base Notes | Musk |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Chloé Roses de Chloé EDT น้ำหอม

ราคา 5,210 บาท*
Chloé Roses de Chloé เป็นน้ำหอมกลิ่นกุหลาบอีกหนึ่งกลิ่นที่ได้รับความนิยมค่ะ น้ำหอมผ่านการพัฒนากลิ่นหอมโดยนักปรุงน้ำหอมชื่อดังอย่าง Michel Almairac และ Mylène Alran กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมลิ้นจี่, มะกรูด, ทาร์รากอนและมะนาว ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกุหลาบมอญ, แมกโนเลีย, ซีดาร์, แอปเปิล, แบล็กเคอเรนท์และพีช ปิดท้ายด้วยกลิ่นของไวท์มัสก์ แอมเบอร์และวู้ดดี้ ขอบอกเลยว่าเป็นการผสมผสานที่ลงตัวมากเลยทีเดียว
ขวดน้ำหอมของ Chloé เป็นขวดแก้วทรงเหลี่ยมที่มีการผูกโบไว้ด้านบน การออกแบบของน้ำหอมถือเป็นเอกลักษณ์ของทางแบรนด์เลยค่ะ ทำให้เราจำได้ว่านี่แหละคือน้ำหอมจาก Chloé รูปแบบของน้ำหอมเป็นแบบ Eau de Toilette ติดทนประมาณ 4 - 5 ชั่วโมงเลยค่ะ ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นกุหลาบน่ารัก ๆ แนะนำ Chloé Roses de Chloé เลยค่ะ
น้ำหอมจาก Chloé Roses de Chloé เป็นน้ำหอมที่เหมาะกับสาว ๆ ทุกคนเลยค่ะ กลิ่นของกุหลาบคือชัดมากตอบโจทย์คนที่ชอบกลิ่นหอมหวานของกุหลาบ กลิ่นของน้ำหอมติดทนพอประมาณแต่ราคาของน้ำหอมแอบแรงอยู่ค่ะ มีหลายคนบอกว่ากลิ่นของน้ำหอมคล้ายกับ Diptyque Eau Rose ถ้าคุณชอบ Diptyque Eau Rose คุณจะต้องชอบน้ำหอมกลิ่นนี้เหมือนกันค่ะ ราคาของน้ำหอมทั้ง 2 แบรนด์ไม่ต่างกันมาก แต่ Chloé Roses de Chloé ปริมาณมากกว่าหน่อยค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Toilette |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 75 มล. |
Top Notes | Litchi, Bergamot, Tarragon, Lemon |
Middle Notes | Damask Rose, Magnolia, Cedar, Apple, Black Currant, Peach |
Base Notes | White Musk, Amber, Woody Notes |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
Byredo Rose of No Man’s Land Eau de Parfum น้ำหอม

ราคา 3,569 บาท*
Byredo Rose of No Man's Land Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 2015 โดยได้รับแรงบันดาลใจจากชื่อเล่นของพยาบาลที่ช่วยชีวิตผู้คนจำนวนมากในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กลิ่นหอมของน้ำหอมมีความน่ารักทำให้เป็นหนึ่งในน้ำหอม Byredo ที่ดีที่สุดและขายดีมากเลยทีเดียวค่ะ ถ้าคุณรักและชอบน้ำหอมกลิ่นดอกกุหลาบ Rose of No Man's Land จะเหมาะกับคุณอย่างแน่นอนค่ะ
กลิ่นเปิดกลิ่นแรกของน้ำหอมคือกุหลาบตุรกีและพริกไทยสีชมพู ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของราสเบอร์รีและกุหลาบแดงตุรกี ปิดท้ายด้วยกลิ่นของอำพัน น้ำหอมจะเหมาะที่สุดที่จะใช้ในเวลากลางวัน ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูใบไม้ผลิ น้ำหอมมาในรูปแบบของ Eau de Parfum ติดทนยาวนานมากกว่า 5 ชั่วโมง แพ็กเกจของน้ำหอมมาในขวดแก้วทรงกระบอกเป็นเอกลักษณ์ของ Byredo สุดคลาสสิกค่ะ
Byredo Rose of No Man's Land Eau de Parfum เป็นน้ำหอมแบรนด์ดังที่เราอยากให้ทุกคนลองใช้ค่ะ น้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมที่ขายดีมากของแบรนด์เลย กลิ่นกุหลาบในน้ำหอมชัดมากเลยทีเดียวเพราะใช้กุหลาบตุรกีที่ขึ้นชื่อในเรื่องของความหอมค่ะ เรื่องความติดทน น้ำหอมมาในรูปแบบ Eau de Parfum อยู่แล้วดังนั้นติดทนอย่างแน่นอนค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Turkish Rose Petals, Pink Pepper |
Middle Notes | Raspberry Bloom, Turkish Red Rose |
Base Notes | Amber, Papyrus |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 10 น้ำหอมกลิ่นกุหลาบ ยี่ห้อไหนดี กลิ่นหอม ชวนน่าหลงใหล ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
Bvlgari Rose Goldea Blossom Delight New Eau de Toilette น้ำหอม |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
เคล็ดลับในการฉีดน้ำหอมกลิ่นกุหลาบให้ติดทนนาน

การใช้น้ำหอมอย่างถูกวิธีเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้คุณตัวหอมยาวนาน หลายคนซื้อน้ำหอมมาแพงแต่ใช้งานไม่เป็น ถึงฉีดยังไงก็ไม่มีทางหอมค่ะ ต่อไปนี้เราได้สรุปเคล็ดลับในการทำให้น้ำหอมกลิ่นกุหลาบที่คุณซื้อมามีกลิ่นหอมติดผิวติดตัวได้ยาวนานขึ้น
- ใช้น้ำหอมทันทีหลังอาบน้ำ นั่นเป็นเพราะรูขุมขนของผิวหนังที่เปิดหลังอาบน้ำจะดูดซับน้ำหอมได้ดีกว่า
- การทาครีมบำรุงผิวกายก่อนใช้น้ำหอมยังสามารถทำให้น้ำหอมติดทนนานอีกด้วย
- ฉีดน้ำหอมตามจุดชีพจร เช่น คอ ข้อศอกด้านใน ข้อมือและหลังเข่า ในระยะที่เหมาะสม 15-25 ซม.
- อย่าถูน้ำหอมเด็ดขาดเพราะการถูน้ำหอมอาจทำให้โมเลกุลของน้ำหอมเสียหายและทำให้กลิ่นออกมาน้อยลง