ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมส่วนใหญ่ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์คนที่ต้องการเสริมวิตามินและต้องการดูแลสุขภาพ เพราะสารอาหารบางประเภทเป็นสารอาหารที่ร่างกายของเราผลิตไม่ได้หรือผลิตได้น้อย ในท้องตลาดมีอาหารเสริมหลากหลายชนิดค่ะ แต่อาหารเสริมที่หลายคนนิยมเลือกซื้อคือกลูต้าไธโอน, คอลลาเจน, วิตามินรวม, วิตามินซี, แคลเซียมและซิงค์ (Zinc) เพราะอาหารเสริมเหล่าช่วยดูแลผิวและปรับปรุงระบบคุ้มกันของร่างกายได้ หลายคนอาจจะสงสัยว่าอาหารเสริมจำเป็นและมีประโยชน์จริงไหม? เราขอตอบเลยว่าการทานอาหารเสริมมีประโยชน์ต่อสุขภาพ (หากทานอย่างเหมาะสมและถูกต้อง) และมีความจำเป็นกับเราหากเราอายุมากขึ้นหรือมีอาหารขาดวิตามิน เพราะการขาดสารอาหารหรือวิตามินไปบางตัวไปอาจจะส่งผลเสียต่อร่างกายโดยรวมได้และในวันนี้เราจะแนะนำอาหารเสริมอีกชนิดที่ได้รับความนิยมเช่นเดียวกันและกำลังมาแรงเลยนั่นก็คือ “อาหารเสริมนมผึ้ง (Royal Jelly)”
ส่วนตัวแล้วผู้เขียนเคยซื้ออาหารเสริมนมผึ้งมาทานค่ะ ในตอนนั้นซื้อตามกระแสล้วนๆ เพราะเห็นคำเคลมของอาหารเสริม แต่ผลปรากฏว่าผู้เขียนแพ้อาหารเสริมนมผึ้งค่ะ ไม่สามารถทานได้เลยเพราะมีผื่นขึ้น ซึ่งข้อนี้ผู้เขียนค่อนข้างแปลกใจเพราะผู้เขียนทานน้ำผึ้งได้และใช้สกินแคร์ที่มาจากผึ้งได้ แต่เมื่อทานนมผึ้งเกิดอาการแพ้ขึ้นมาซะงั้นค่ะ ดังนั้นใครที่แพ้ผึ้งอยู่แล้วไม่แนะนำนะคะเพราะอาจจะเกิดอาหารแพ้ได้และควรปรึกษาแพทย์ก่อนทานด้วย ตอนนี้เราไปทำความรู้จักกับอาหารเสริมนมผึ้งกันก่อนค่ะ
นมผึ้ง คืออะไร ? (1,2)
นมผึ้งเป็นผลผลิตที่ได้มาจากผึ้งงานค่ะ โดยเป็นสารที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเลี้ยงผึ้งราชินี ทำให้นมผึ้งอุดมด้วยสารอาหารมากมายที่ช่วยให้ผึ้งราชินีเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว (ซึ่งแตกต่างจากน้ำผึ้งซึ่งจะใช้เป็นสารอาหารสำหรับทุกตัวของผึ้ง) คนที่เลี้ยงผึ้งส่วนใหญ่เก็บเกี่ยวนมผึ้งได้จากตัวผึ้งและนำมาใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและผลิตภัณฑ์สุขภาพ ข้อเท็จจริงที่หลายคนควรรู้เอาไว้คือลักษณะและปริมาณสารอาหารของนมผึ้งนั้นมีความแตกต่างกันไปค่ะ ขึ้นอยู่กับฤดูกาลที่เก็บเกี่ยว ชนิดของพืชที่ผึ้งดูดน้ำหวานและแหล่งอาหารที่ผึ้งสัมผัส ดังนั้นสารสกัดจากนมผึ้งจึงเป็นสารอาหารที่อิงตามธรรมชาติ

กระบวนการสร้างและผลิตอาหารเสริมนมผึ้งมักใช้วิธีทำให้นมผึ้งแห้งด้วยความเย็นเพื่อกำจัดความชื้นออกไป หลังจากนั้นสารที่เข้มข้นที่ได้จากนมผึ้งนี้จะถูกใส่เข้าไปในแคปซูลเพื่อนำมาเป็นอาหารเสริม
ประเภทของนมผึ้ง
1. นมผึ้งสด
นมผึ้งในรูปแบบนี้เป็นนมผึ้งที่ไม่ได้ถูกทำให้แห้งและไม่ได้ผ่านกระบวนการใดๆ เพื่อรักษาความสดของนมผึ้งเอาไว้ อย่างไรก็ตามนมผึ้งที่สดใหม่จะต้องเก็บไว้ในความเย็นตลอดเวลาเพื่อป้องกันการเน่าเสียและเสื่อมประสิทธิภาพ หากคุณต้องการรับประทานนมผึ้งสดให้ซื้ออาหารเสริมนมผึ้งสดแช่แข็งที่จัดส่งมาพร้อมแพคน้ำแข็งและบรรจุภัณฑ์แบบเก็บความเย็นเท่านั้น แน่นอนว่านมผึ้งในรูปแบบนี้มีรสชาติที่ดีแต่มีราคาแพงมาก หาซื้อในไทยได้ยากมากเช่นกัน

2. นมผึ้งแบบผง
นมผึ้งแบบผงสามารถดูแลและเก็บรักษาได้ง่ายกว่านมผึ้งชนิดอื่นๆ เพราะไม่จำเป็นต้องแช่แข็งหรือทำให้เย็นตลอดเวลาเหมือนนมผึ้งแบบสด อีกทั้งนมผึ้งในรูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ประหยัดที่สุดด้วย แต่ข้อเสียของผลิตภัณฑ์แบบผงคือเมื่อมันแห้งแล้วจะสูญเสียประสิทธิภาพและอาจจะต้องใช้ความร้อนระดับหนึ่งกับนมผึ้งแบบผงเพื่อกำจัดความชื้นทั้งหมด ซึ่งอาจจะเป็นการลดสารอาหารของผลิตภัณฑ์ไปในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
3. นมผึ้งแบบแคปซูล
นมผึ้งแบบแคปซูลเป็นรูปแบบที่หาซื้อได้ง่ายและประหยัด โดยปกติแล้วแคปซูลนมผึ้งจะเป็นนมผึ้งแบบผงที่นำมาใส่ในแคปซูล รูปแบบแคปซูลเป็นนมผึ้งที่สะดวกที่สุดเมื่อเทียบกับนมผึ้งในทุกรูปแบบและสามารถพกพาได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้การทานนมผึ้งแบบแคปซูลยังช่วยหลีกเลี่ยงรสชาติที่คุณอาจจะไม่ชอบของนมผึ้งสดและนมผึ้งแบบผงด้วยค่ะ

วิธีรับประทานนมผึ้งที่เหมาะสม
นมผึ้งมักจะมาในรูปแบบเม็ดหรือแคปซูล ในการทานเราควรทำตามคำแนะนำการบริโภคของผู้ผลิตที่ระบุไว้ตามฉลากค่ะ เพราะปกติแล้วไม่มีขนาดหรือปริมาณที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการทานนมผึ้ง แต่จากข้อมูลที่ให้ไว้เราสามารถรับประทานนมผึ้งได้ระหว่าง 50 มก. และ 6,000 มก. ต่อวัน แต่สิ่งที่เราควรรู้คือผู้ผลิตอาหารเสริมนมผึ้งส่วนใหญ่จะระบุปริมาณนมผึ้งไว้เทียบเท่านมผึ้งดิบ ดังนั้นแคปซูลที่มีนมผึ้งเข้มข้น 500 มก. มักจะถูกระบุว่าเป็นปริมาณ 1,500 มก. ซึ่งเป็นปริมาณนมผึ้งที่ไม่ได้ผ่านการอบแห้งค่ะ
นมผึ้งมีผลข้างเคียงหรือไม่ ? (2)
นมผึ้งมักจะไม่ก่อให้เกิดผลข้างเคียง เว้นแต่ว่าจะเกิดอาการแพ้ สำหรับผู้ที่แพ้ผึ้ง/น้ำผึ้งและผลิตภัณฑ์จากผึ้งอื่นๆ ไม่ควรบริโภคนมผึ้ง โดยปฏิกิริยาการแพ้สามารถทำให้เกิดโรคหอบหืด หายใจลำบาก คอบวมและปัญหาสุขภาพอื่นๆ ได้ อีกทั้งนมผึ้งไม่ควรใช้กับทารกหรือสตรีที่กำลังตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ส่วนผู้ที่เป็นโรคหอบหืด ภูมิแพ้ ผิวหนังอักเสบหรือความดันโลหิตต่ำควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้นมผึ้งค่ะ
เราใช้เกณฑ์ในการเลือกสินค้าโดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมไปถึงยอดขายและรีวิวของผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนซื้อแนะนำในอ่านฉลากส่วนประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร
* เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน *
อาหารเสริมนมผึ้ง ยี่ห้อไหนดี
![]() Nature's King Royal Jelly อาหารเสริมนมผึ้ง | ![]() Costar Royal Jelly อาหารเสริมนมผึ้งคุณภาพ | ![]() Real Elixir Royal Jelly อาหารเสริมนมผึ้ง | ![]() นมผึ้งนูโบลิค Royal Jelly Nubolic | ![]() Royal Bee Maxi Royal Jelly นมผึ้ง |
ประโยชน์ของนมผึ้งที่มีผลต่อสุขภาพ (3,4,5)
1. นมผึ้งมีคุณค่าทางโภชนาการ
นมผึ้งเป็นแหล่งโปรตีนที่อุดมไปด้วยสารอาหาร ปกติแล้วนมผึ้งมักถูกใช้เพื่อบำรุงผึ้งราชินีและเป็นแหล่งหลักของสารอาหารของผึ้ง ในนมผึ้งประกอบด้วยโปรตีน กรดอะมิโน ไขมันที่ดีเพื่อสุขภาพ อีกทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุมากมายดีต่อร่างกายด้วยค่ะ โดยสารอาหารที่มีแค่ในผึ้งคือ 10-Hydroxy -2- Decenoid Acid (HDA) จากสรรพคุณสารชนิดนี้ช่วยปรับปรุงระบบประสาทและสมองได้ดีค่ะ
2. ช่วยควบคุมคอเลสเตอรอล
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบหลักฐานที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับความสามารถของนมผึ้งในการลดระดับคอเลสเตอรอลของร่างกายค่ะ ผู้เข้าร่วมวิจัยบางคนตั้งข้อสังเกตว่านมผึ้งสามารถลดคอเลสเตอรอลได้มากถึง 10% อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านี้เป็นการศึกษาขนาดเล็กดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมด้วยนะคะ แต่การทานอาหารเสริมนมผึ้งดีต่อสุขภาพแน่นอนหากคุณไม่แพ้ค่ะ
3. เหมาะกับวัยหมดประจำเดือน
นมผึ้งเป็นอาหารเสริมที่เหมาะสำหรับวัยหมดประจำเดือนมากเพราะมันจะช่วยปรับปรุงฮอร์โมนเพศ ปรับปรุงความเครียดและอาการหงุดหงิดที่อาจจะเกิดขึ้นได้ในวัยนี้ค่ะ สรรพคุณนี้ได้มาจาก 10-Hydroxy -2- Decenoid Acid (HDA) ที่ช่วยปรับปรุงระบบสมอง ประสาทและช่วยดูแลในเรื่องของอารมณ์ได้
4. ช่วยดูแลผิวหนัง

นมผึ้งสามารถช่วยเพิ่มการผลิตคอลลาเจนเพื่อสุขภาพผิวที่ดีขึ้น จากการศึกษาที่มหาวิทยาลัยคยองฮีในเกาหลีรายงานว่านมผึ้งสามารถต่อต้านริ้วรอยบนผิวหนังได้ อีกทั้งอาจป้องกันการแก่ชราของผิวหนังด้วยการเสริมสร้างการผลิตคอลลาเจน อีกทั้งนมผึ้งหลายๆ แบรนด์ยังมี Dl-alpha Tocopherol เป็นวิตามินอีที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระพร้อมๆ กับการบำรุงผิว
5. ช่วยดูแลโรคกระดูกพรุน
งานวิจัยที่จัดทำโดยมหาวิทยาลัย Erciyes ในตุรกีได้เผยแพร่งานวิจัยออกมาว่านมผึ้งช่วยลดการสูญเสียกระดูกเนื่องจากโรคกระดูกพรุนได้ โดยในการวิจัยพบว่านมผึ้งทำให้ระดับแคลเซียมและฟอสเฟตในเนื้อเยื่อกระดูกสูงขึ้นและอาจลดการสูญเสียกระดูกเนื่องจากโรคกระดูกพรุนได้
6. ช่วยในการรักษาบาดแผล
น้ำผึ้งเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวช่วยในการสมานแผล การศึกษาพบว่านมผึ้งสามารถช่วยรักษาบาดแผลได้เช่นกัน นมผึ้งมีส่วนเพิ่มการรักษาเนื้อเยื่อโดยการสนับสนุนการผลิตคอลลาเจนและเส้นใยอื่นๆ อีกทั้งนมผึ้งจะเปลี่ยนระดับของไขมันต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในกระบวนการสมานแผล การใช้นมผึ้งยังเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการรักษาแผลที่เท้าที่เกิดจากโรคเบาหวานด้วยค่ะ
References: