ในบางครั้งอาหารเม็ดของสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น อาหารสุนัขพันธุ์เล็ก, อาหารสุนัขพันธุ์ใหญ่, อาหารเม็ดแมว หรืออาหารแมวแบบเปียก อาจมีสารอาหารที่ไม่เพียงพอสำหรับการบำรุงสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เพราะอย่าลืมครับว่าสุขภาพของแมว หรือสุนัข ในแต่ละตัวจะไม่เหมือนกัน ดังนั้นสัตว์เลี้ยงบางตัวก็อาจจะต้องมีการให้อาหารเพิ่มเติมด้วย อาหารเสริมแมว หรือ อาหารสุนัข

ทั้งนี้เมื่อพูดถึงอาหารเสริมของสัตว์เลี้ยงแล้ว ก็คงต้องบอกว่ามีนับไม่ถ้วนเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น วิตามินบำรุงขน, แคลเซียมบำรุงกระดูก, อาหารเสริมบำรุงข้อ และที่หลายคนน่าจะเห็นกันอยู่บ่อย ๆ คือ ‘น้ำมันปลาแซลมอน’ โดยน้ำมันปลาแซลมอน จะมีสารอาหารสำคัญอยู่นั่นคือ Omega 3 รวมไปถึง DHA และ EPA ที่สามารถช่วยในเรื่องของการบำรุงขนและผิวหนังให้มีสุขภาพดีขึ้น จากที่ขนร่วงก็จะกลับมาแข็งแรงและงอกใหม่

รวมไปถึงมันยังส่งผลดีต่อสุขภาพโดยรวมของสัตว์ลี้ยงของคุณอีกด้วย เพราะสารอาหารบำรุงได้ทั้ง หัวใจ, ข้อต่อ, ระบบไหลเวียนของเลือด หรือแม้แต่มะเร็งก็ยังมีวิจัยครับว่ามันอาจยับยั้งการกระจายตัวของมะเร็งได้ด้วย ดังนั้นวันนี้ผมจึงศึกษาและรวบรวมสินค้าตัวเด่น ๆ ที่สัตว์เลี้ยงจะได้รับประโยชน์จากการรับประทานอย่างแน่นอนครับ
น้ำมันปลาแซลมอน ที่เหมาะกับสัตว์เลี้ยงของคุณ ?
- น้ำมันปลาแซลมอน ที่ดีที่สุด บำรุงขน และอวัยวะในร่างกาย: Iceland Pet Salmon Oil for Dogs น้ำมันปลาแซลมอนสำหรับสุนัข
- น้ำมันปลาแซลมอน สุนัข : PARI น้ำมันปลาแซลมอนแท้ 100%
- น้ํามันปลาแซลมอน แมว: Golden Pet น้ำมันปลาแซลมอน
- น้ํามันปลาแซลมอน สุนัข origin: Origin Nature Prue Salmon Oil น้ำมันปลาแซลมอน
- น้ํามันปลาแซลมอน pethera: Pethera น้ำมันปลาแซลมอนนอลเวย์สูตรใหม่ สำหรับสุนัขและแมว
น้ำมันแซลมอนสำหรับสัตว์เลี้ยง มีกี่ประเภท ?
ชนิดน้ำ
น้ำมันแซลมอนชนิดน้ำมีข้อดี คือสามารถนำไปผสมกับอาหารเพื่อให้สุนัขรับประทานได้ โดยหากเลือกซื้อชนิดน้ำ ผมแนะนำให้ซื้อแบบขวดปั้ม เพื่อให้ง่ายต่อการกะปริมาณและการใช้งาน เพราะถ้าเป็นขวดสเปรย์มันอาจเลอะและเกิดการอุดตันได้

แคปซูล
จะมาในลักษณะของเม็ดที่ด้านในจะบรรจุด้วยน้ำมันปลา ซึ่งข้อดีคือเจ้าของจะไม่ต้องกลัวเลอะหรือมือมีกลิ่นคาวปลา แต่ปัญหาในบางเคสคือสุนัขบางตัวอาจไม่ยอมรับประทาน ซึ่งทำให้ยากต่อการป้อนครับ
แบบเคี้ยว
ลักษณะจะคล้าย ๆ กับขนมสัตว์เลี้ยง ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วสุนัขจะชอบมากครับ เพราะรสชาติค่อนข้างอร่อย ทั้งยังได้เคี้ยวอย่างสนุกสนาน
ข้อดีของการให้สัตว์เลี้ยงรับประทานน้ำมันปลาแซลมอน
1. ทำให้สัตว์เลี้ยงเจริญเติบโตอย่างมีสุขภาพที่ดี (1,2)
การให้ลูกสัตว์เลี้ยงรับประทานน้ำมันปลาแซลมอนในช่วงอายุตั้งแต่ 8 – 52 สัปดาห์ จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อ, สายตา, ความทรงจำ และระบบคุ้มกัน นอกจากนี้การให้แม่แมวหรือแม่สุนัขรับประทาน น้ำมันปลาก็จะเข้าไปช่วยพัฒนาเซลล์สมองให้กับลูกภายในครรภ์อีกด้วยครับ
2. ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น (3)
ภายในน้ำมันปลาแซลมอนจะมีสารอาหารอย่างหนึ่งที่เรียกว่า ‘Omega 3’ ซึ่งน้ำมันตัวนี้จะเข้าไปเพิ่มความเงางามให้กับเส้นขน ทั้งยังช่วยลดปัญหาขนร่วงด้วยเช่นกัน
3. ลดอาการคันและผิวแห้ง (4)
ทั้งน้องแมวและน้องหมา สามารถเกิดผิวแห้งหรือผิวหนังเกิดอาการแพ้จากการโดนเห็บหมัดกัด ถ้าหากหนักเข้าหน่อย ในบางตัวอาจมีรังแคเกิดขึ้นได้เช่นเดียวกัน แต่หากเริ่มให้เขารับประทานน้ำมันปลาแซลมอน ‘Omega 3’ ก็จะเข้าไปช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวหนังมีสุขภาพที่ดีขึ้น
4. บำรุงระบบข้อต่อ (5)
เมื่อแก่ตัวไปไม่ว่าจะเป็น แมว, สุนัข หรือกระต่าย จะเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับข้อต่อมากขึ้น ดังนั้นการยืนและการเดินก็จะมีความลำบากและเจ็บอยู่พอสมควร โดยการบำรุงข้อต่อถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ซึ่งหนึ่งในอาหารเสริมของสัตว์เลี้ยงที่ตอบโจทย์คงหนีไม่พ้น ‘น้ำมันปลา’ หรือ ‘Omega 3’
5. ช่วยบำรุงหัวใจ (6)
หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าหัวใจเป็นหนึ่งในอวัยวะสำคัญของร่างกาย ซึ่งต้องบอกครับว่าโรคหัวใจในสัตว์เลี้ยงสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกตัว ยิ่งในบางสายพันธุ์ยิ่งมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ ทั้งนี้ผลวิจัยมีการระบุเอาไว้ว่าการให้สุนัขหรือแมวรับประทานน้ำมันปลา จะช่วยลดโอกาสการเกิดโรคและเป็นการบำรุงหัวใจไปด้วยในตัว
6. เป็นผลดีต่อสัตว์เลี้ยงที่เป็นโรคมะเร็ง (7)
มีงานวิจัยบางตัวได้ข้อสรุปว่าน้ำมันปลาแซลมอนและโอเมก้า 3 อาจมีประสิทธิภาพที่จะยับยั้งการกระจายตัวหรือการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งได้
7. เพิ่มน้ำหนักให้กับสัตว์เลี้ยง (8)
แคลอรี่ภายในน้ำมันปลาแซลมอน 1 ช้อน จะมีอยู่ประมาณ 40 แคลอรี่ ซึ่งการนำน้ำมันปลาเข้าไปผสมในอาหารมื้อหลักของเขาก็จะช่วยเพิ่มพลังงานให้กับเขา ทำให้สัตว์เลี้ยงมีแนวโน้มที่จะมีน้ำหนักเพิ่มขึ้น

Pure+ เพียวพลัส อาหารเสริมบำรุงข้อต่อ น้ำมันปลาแซลมอนแท้

ราคา 100 บาท*
Pure+ เป็นแบรนด์จากประเทศนอร์เวย์ ซึ่งถือว่าเป็นแหล่งของปลาแซลมอนชั้นดีของโลกเลยก็ว่าได้ ดังนั้นน้ำมันปลาที่สกัดออกมาจะมีความบริสุทธิ์มาก โดยกรดไขมันสำคัญอย่าง Omega 3 จะมีความเข้มข้น ทำให้ขนได้รับการบำรุง มีความเงางามและนุ่มสลวย หากสัตว์เลี้ยงของใครกำลังประสบปัญหาอย่าง ผิวหนังตกสะเก็ด, ฝ่าเท้าแตก หรือผิวหนังแห้ง Pure+ สามารถช่วยจัดการให้ดีขึ้นได้ นอกจากนี้ยังมีประโยชน์ในเรื่องลดอาการอักเสบของข้อต่อ, ลดการอักเสบของผิวหนัง, บำรุงเลือด, บำรุงหัวใจ และกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคได้ดีมากขึ้น
ปริมาณ | 100 มิลลิลิตร |
---|---|
วิธีการรับประทาน | รับประทาน 1 มื้อ / วัน (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
เหมาะสำหรับx | รับประทาน 1 มื้อ / วัน (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
Golden Pet น้ำมันปลาแซลมอน

ราคา 148 บาท*
Golden Pet ผลิตมาจากน้ำมันปลาแซลมอนแท้ 100% ดังนั้นกลิ่นที่ไม่มีส่วนผสมอย่างอื่น จะทำให้หอมและมีรสชาติถูกปากสัตว์เลี้ยงของเราแน่นอน ไม่จำเป็นต้องบังคับหรือฝืนเขาให้กิน เรียกว่าเป็นตัวช่วยความอยากอาหารซะด้วยซ้ำครับ สามารถนำไปผสมเข้ากับอาหารเม็ดที่ทานอยู่เป็นประจำได้ ทั้งนี้เมื่อรับประทานไปอย่างต่อเนื่องสิ่งที่เห็นชัดที่สุดจะเป็น ความเงาและความชุ่มชื้นของขนที่ดีขึ้นมาก ๆ รวมไปถึงระบบของร่างกายส่วนต่าง ๆ ยังได้รับการบำรุงตามไปด้วย ที่สำคัญคือสินค้าผ่าน อย. มาเป็นที่เรียบร้อยแล้วครับ
ปริมาณ | 120 มิลลิลิตร / 500 มิลลิลิตร / 1,000 มิลลิลิตร |
---|---|
วิธีการรับประทาน | ไม่เกิน 2 มื้อต่อวัน (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
เหมาะสำหรับ | สุนัข, แมว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (อายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป) |
PARI น้ำมันปลาแซลมอนแท้ 100%

ราคา 270 บาท*
ภายในน้ำมันปลาแซลมอนของทาง PARI จะมี DHA และ EPA ซึ่งช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนของเลือด ทั้งยังลดระดับโคเลสเตอรอลตัวร้ายในร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยบำรุงขน, สายตา, สมอง และภูมิต้านทานโรค โดยผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนเมื่อรับประทานต่อเนื่องวันละ 2 มื้อครับ ส่วนในเรื่องของความปลอดภัยก็หายห่วง เพราะทางแบรนด์มีผล Lab ออกมาแล้วว่าน้ำมันปลาแซลมอนผลอดภัยต่อร่างกายของสัตว์เลี้ยง
ปริมาณ | 250 มิลลิลิตร / 500 มิลลิลิตร / 1,000 มิลลิลิตร |
---|---|
วิธีการรับประทาน | ไม่เกิน 2 มื้อต่อวัน (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
เหมาะสำหรับ | สุนัข และ แมว อายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป |
Pethera น้ำมันปลาแซลมอนนอลเวย์สูตรใหม่ สำหรับสุนัขและแมว

ราคา 320 บาท*
Pethera ผ่านการทดสอบกับสุนัขมาแล้วกว่า 45 สายพันธุ์ว่ามีความปลอดภัยและได้รับสุขภาพที่ดีหลังจากรับประทานน้ำมันปลาแซลมอนของทางแบรนด์ โดยสูตรนี้จะแตกต่างออกไปจากสินค้าแบรนด์อื่นตรงที่มีการใส่น้ำมันชนิดอื่นเข้าไปเพิ่มคุณค่าอาหาร ไม่ว่าจะเป็น น้ำมันโบราจ, น้ำมันลินซีด หรือน้ำมันเมล็ดองุ่น ซึ่งบำรุงร่างกายได้ตั้งแต่ สายตา, ขน, ผิวหนัง, หัวใจ, กระดูก, โรคมะเร็ง ในขณะเดียวกันลูกแมวและลูกหมาก็สามารถรับประทานเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการได้เช่นกันครับ
ปริมาณ | 500 มิลลิลิตร |
---|---|
วิธีการรับประทาน | ผสมในอาหารวันละ 1 มื้อ (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
เหมาะสำหรับ | สุนัข และ แมว |
Origin Nature Prue Salmon Oil น้ำมันปลาแซลมอน

ราคา 350 บาท*
Origin Nature ถือเป็นผลิตภัณฑ์อีกตัวหนึ่งที่ใช้น้ำมันปลาแซลมอนธรรมชาติ โดยข้อดีของน้ำมันปลาแท้คือมันจะไม่มีสารเคมีอันตรายตกค้างอยู่ด้านใน แม้ว่าจะรับประทานทุกวันก็ไม่ส่งผลกระทบต่อร่างกายอย่างแน่นอน ส่วนการบำรุงร่างกายก็ดีไม่แพ้ไปกว่า ‘PARI’ หรือ ‘Pethera’ มีสารอาหารสำคัญอย่าง DHA และ EPA ที่ช่วยบำรุงระบบข้อต่อ เพิ่มความเงางามให้เส้นขน ส่วนบ้านของใครมีลูกหมาหรือลูกแมวในบ้าน ก็สามารถให้เขาเพื่อบำรุงสมองได้เช่นกันครับ
ปริมาณ | 300 มิลลิลิตร / 1,000 มิลลิลิตร |
---|---|
วิธีการรับประทาน | ปั้มใส่ช้อนหรือผสมในอาหาร (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
เหมาะสำหรับ | สุนัข และ แมว อายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป |
Fresh Salmon น้ำมันปลาแซลมอนสำหรับสุนัขและแมว

ราคา 399 บาท*
น้ำมันปลาแซลมอนของทาง Fresh Salmon จะมี Omega 3 มากกว่าปลาทั่วไปถึง 4.7 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งถือว่าเยอะมากเลยละครับ อีกทั้งแมวและหมายังดูดซับได้ง่าย เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วมันจะช่วยลดอาการอักเสบ, บำรุงข้อต่อ, บำรุงขน ทั้งยังเป็นตัวช่วยให้สัตว์เลี้ยงที่กำลังประสบกับปัญหาโรคมะเร็ง, โรงหัวใจ และโรคไต เพื่อเพิ่มความอยากอาหาร รวมไปถึงเพิ่มน้ำหนักให้กับเขา
ปริมาณ | ไม่ระบุ |
---|---|
วิธีการรับประทาน | ปั้มใส่ช้อนหรือผสมในอาหาร (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
เหมาะสำหรับ | สุนัข และ แมว อายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป |
Three Wolves Pure Salmon Oil For Dogs Cats น้ำมันปลาแซลมอนน้ำมันปลา

ราคา 420 บาท*
Three Wolves มีกระบวนการผลิตที่พยายามจะเก็บสารอาหารภายในน้ำมันปลาแซลมอนไว้ทุกเม็ด ดังนั้นโอเมก้า 3, โอเมก้า 6, กรดไขมัน EPA และ DHA จะมีครบทั้งหมด ทั้งนี้ตัวน้ำมันปลาแซลมอนจะเห็นผลอย่างชัดเจน หากใช้กับสุนัขหรือแมวที่มีปัญหาขนร่วง เพราะสารอาหารทั้งหมดจะเข้าไปเสริมความแข็งแรงของเส้นขนและผิวหนังให้เกิดความชุ่มชื้น ส่วนสุขภาพโดยรวมของร่างกายก็จะค่อย ๆ แข็งแรงไปตามลำดับเมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่อง
ปริมาณ | 250 มิลลิลิตร |
---|---|
วิธีการรับประทาน x | 250 มิลลิลิตร |
เหมาะสำหรับ | สุนัข และ แมว อายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป |
Iceland Pet Salmon Oil for Dogs น้ำมันปลาแซลมอนสำหรับสุนัข

ราคา 850 บาท*
Iceland Pet มาในราคาค่อนข้างจะแพงสักหน่อย แต่ต้องยอมรับครับว่าปริมาณ DHA และ EPA อัดแน่นมาก เพียงแค่ 1 ช้อนชาก็ได้สารอาหารแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วครับ โดยน้ำมันปลาแซลมอนของทางแบรนด์จะส่งผลดีต่อสมองและหัวใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมันจะเข้าไปช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้นนั่นเอง ส่วนอีกอย่างหนึ่งที่ดีมาก ๆ คือความชุ่มชื้นและทำให้ขนแข็งแรง ดูหนาและนุ่มขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
ปริมาณ | 500 มิลลิลิตร |
---|---|
วิธีการรับประทาน | ปั้มใส่ช้อนหรือผสมในอาหาร (ปริมาณตามที่ผู้ผลิตแนะนำ) |
เหมาะสำหรับ | สุนัข และ แมว อายุตั้งแต่ 2 เดือนขึ้นไป |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
วิธีการเลือกน้ำมันปลาแซลมอน สำหรับแมว สุนัข กระต่าย
1. ส่วนผสมเป็นธรรมชาติ
น้ำมันปลาที่ใส่ลงไปจะต้องเป็นน้ำมันแท้บริสุทธิ์ครับ เพราะหากเป็นของปลอมหรือมีการผสมอย่างอื่นเข้ามา ประโยชน์ของน้ำมันปลาจะหายไป อีกทั้งยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของสัตว์เลี้ยงได้
2. บรรจุภัณฑ์ใช้ง่าย
โดยส่วนใหญ่อาหารเสริมพวกน้ำมันปลาของสัตว์เลี้ยงจะใส่มาในขวดสเปรย์หรือขวดปั้มครับ เพราะมันนำออกมาให้สุนัขรับประทานง่าย ในขณะเดียวกันยังกะปริมาณในการให้ง่ายกว่าเดิม
3. เลือกแบรนด์ที่มีรสชาติถูกปากสัตว์เลี้ยง
ถึงแม้ว่าน้ำมันปลาที่เราซื้อให้สัตว์เลี้ยงจะดีแค่ไหน แต่หากรสชาติของมันไม่ถูกปากเจ้านายของเรา น้ำมันปลาแซลมอนที่ว่าดีก็จะไร้ค่าทันที ดังนั้นผมแนะนำให้เจ้าของอ่านรีวิวจากผู้ใช้จริงเพื่อเช็กว่าสัตว์เลี้ยงของคนอื่นที่รับประทานเข้าไปแล้วชอบหรือไม่ ? เพราะอย่างน้อยมันก็เป็นการการันตีเรื่องรสชาติได้ในระดับหนึ่งครับ
ข้อเสียที่อาจเกิดขึ้นเมื่อสัตว์เลี้ยงรับประทานน้ำมันปลาแซลมอน
1. ลมหายใจมีกลิ่น
ด้วยปลาเป็นสัตว์ที่มีกลิ่นคาวอยู่แล้ว ดังนั้นจึงไม่ต้องแปลกใจครับว่าเมื่อรับประทานน้ำมันปลาเข้าไปแล้วมันอาจเกิดกลิ่นปากขึ้น แต่อย่างไรก็ดีกลิ่นปากที่เกิดขึ้นจะหายไปในเวลาเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นครับ หลังจากนั้นเราสามารถจับเขามาหอมแก้มได้เหมือนเดิม

2. น้ำหนักเพิ่มมากจนเกินไป
ในกรณีที่สุนัข, แมว หรือกระต่าย มีน้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือเกินเกณฑ์อยู่แล้ว น้ำมันปลาแซลมอนอาจทำให้เขามีน้ำหนักตัวมากจนเกินไป ซึ่งตรงนี้อาจไม่ใช่เรื่องดีต่อสุขภาพของเขาสักเท่าไหร่นัก ฉะนั้นเจ้าของจะต้องเช็กปริมาณและแคลอรี่ให้สมดุลกับร่างกายของเขา
3. อาการท้องเสีย (9)
อาการท้องเสียสามารถเกิดขึ้นได้กับสัตว์เลี้ยงบางตัวครับ โดยเจ้าของจะต้องคอยสังเกตให้ดีหลังจากรับประทาน ซึ่งทางที่ดีคุณควรให้ในปริมาณน้อยก่อนแล้วจึงค่อยไต่ระดับไปในโดสที่สูงขึ้น แต่! ถ้าหากสัตว์เลี้ยงเกิดอาการแพ้อย่างเช่น หายใจลำบาก เจ้าของควรพาเขาไปพบแพทย์ทันที
วิธีการให้น้ำมันปลาแซลมอนกับสัตว์เลี้ยงอย่างถูกต้อง
|
ในแตละแบรนด์จะระบุไว้อย่างชัดเจนครับว่าเจ้าของควรจะให้สัตว์เลี้ยงในปริมาณมากน้อยแค่ไหน เพราะปริมาณของน้ำมันปลาจะต้องสัมพันธ์กับน้ำหนักของสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ตามหลักแล้วการให้น้ำมันปลาจะเป็น ดังนี้
* ปริมาณข้างต้นเป็นการแนะนำในเบื้องต้น แต่การให้ที่ถูกต้องที่สุดคือทำตามคำแนะนำของผู้ผลิต ทั้งนี้หากต้องการให้เพื่อรักษาโรคหรือบำรุงร่างกายเป็นพิเศษ ผมอยากให้ปรึกษาสัตวแพทย์ก่อนจะดีกว่าครับ เพื่อจะได้ให้ในปริมาณที่เหมาะสมกับร่างกายของเขา |
References :
- Evaluation of cognitive learning, memory, psychomotor, immunologic, and retinal functions in healthy puppies fed foods fortified with docosahexaenoic acid-rich fish oil from 8 to 52 weeks of age
- Docosahexaenoic acid and neurologic development in animals
- Double-blinded crossover study with marine oil supplementation containing high-dose eicosapentaenoic acid for the treatment of canine pruritic skin disease
- Effect of an Omega-3/Omega-6 Fatty Acid-Containing Commercial Lamb and Rice Diet on Pruritus in Atopic Dogs:
Results of a Single-Blinded Study - A prospective, randomized, double blind, placebo-controlled evaluation of the effects of eicosapentaenoic acid and docosahexaenoic acid on the clinical signs and erythrocyte membrane polyunsaturated fatty acid concentrations in dogs with osteoarthritis
- Protective effects of omega-3 fatty acids in dogs with myxomatous mitral valve disease stages B2 and C
- Omega-3 Supplements: In Depth
- Potential adverse effects of omega-3 Fatty acids in dogs and cats
- Diarrhea