แท็บเล็ต อุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่ขาดไม่ได้สำหรับยุคดิจิทัล เพราะเป็นอุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับ Laptop และ สมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานติดต่อสื่อสาร การทำงานเอกสาร การแก้ไขงานต่าง ๆ การใช้ แอปพลิเคชันสำหรับมือถือ การดูหนัง ฟังเพลง การเล่นเกม วาดรูป การแต่งรูป การถ่ายรูปถ่ายวิดีโอ หรือการเรียนออนไลน์ ซึ่งสามารถใช้งานได้จอใหญ่เต็มตาแถมยังพกพาสะดวก หยิบออกมาใช้งานได้ทันที สามารถใช้งานร่วมกับ เมาส์ คีย์บอร์ด รวมไปถึงการใช้งาน แอป Microsoft Office ต่าง ๆ ก็สามารถทำงานได้ใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์ โดยแท็บเล็ตหลาย ๆ รุ่นก็ทำออกมาให้ตอบโจทย์คนทุกเพศทุกวัยตั้งแต่เด็กนักเรียน วัยทำงาน ไปจนถึงผู้ใหญ่ที่อาจจะไม่ถนัดมองหน้าจอเล็ก ๆ ในมือถือ และด้วยการใช้งานที่อเนกประสงค์มีความสะดวกสบายเหล่านี้เอง จึงทำให้แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่ได้ความนิยมเป็นอย่างมากครับ
แบรนด์มือถือต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple, Xiaomi, OPPO, Huawei, และแบรนด์อื่น ๆ ต่างก็ทยอยปล่อยแท็บเล็ตรุ่นใหม่ ๆ ออกมามากมาย แต่เมื่อพูดถึงแบรนด์แท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมคงจะขาดแบรนด์สุดฮิตติดตลาดอย่าง Samsung ไปไม่ได้ครับ เพราะไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของหน้าจอที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องยอมรับว่าสีสวยสดคุณภาพคมชัด ระบบการใช้งานที่ครอบคลุมทุกการทำงาน การทำงานร่วมกับระบบ Microsoft Office ต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้ดี และจุดเด่นที่สำคัญที่ขาดไปไม่ได้เมื่อพูดถึงแท็บเล็ต Samsung นั่นก็คือ ปากกา S Pen ปากกาสไตลัส ที่คนทั่วโลกต่างให้การยอมรับ ซึ่งหากเพื่อน ๆ คนไหนที่ชอบจดโน้ต ชอบวาดภาพ แท็บเล็ตแบรนด์ Samsung จะต้องเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่ต้องนึกถึงอย่างแน่นอนครับ

สำหรับวันนี้ผู้เขียนได้รวบรวมแท็บเล็ตจากแบรนด์คุณภาพ Samsung ในรุ่นยอดนิยม โดยจะเป็นรุ่นตั้งแต่รุ่นเรือธงไปจนถึงรุ่นราคาประหยัด หากใครที่กำลังตัดสินใจจะเลือกซื้อแท็บเล็ตแต่ยังไม่รู้ว่ารุ่นไหนดี ที่เหมาะกับเรา และผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับการเลือกซื้อแท็บเล็ตเบื้องต้นมาฝากครับ
สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับ แท็บเล็ตซัมซุง (Samsung)
แท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่สามารถทำงานได้คล้าย Laptop สามารถใช้โปรแกรม Microsoft Office พิมพ์งานได้ และใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้เหมือนสมาร์ทโฟน โดยแท็บเล็ตจะเป็นอุปกรณ์กึ่งโน้ตบุ๊ก กึ่งมือถือ แต่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่กว่ามือถือ มีน้ำหนักเบากว่า Laptop ทำให้เหมาะกับการใช้งานแบบพกพา ซึ่งแท็บเล็ตของแบรนด์ Samsung เป็นสินค้าไอทีที่ติดอันดับต้น ๆ ที่ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก เพราะด้วยการออกแบบดีไซน์ที่สวยงาม น่าใช้งาน วัสดุและงานประกอบมีคุณภาพ หน้าจอแสดงผลที่ช่วยถ่ายทอดภาพออกมาได้อย่างมีสีสัน การใช้งานต่าง ๆ ที่ครบครัน ฟังก์ชันและฟีเจอร์ที่ออกมารองรับทุกการใช้งาน
ที่สำคัญกว่านั้น แท็บเล็ตของแบรนด์ Samsung ยังมีให้เลือกหลายรุ่นหลายราคาตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทำให้สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เด็กไปจนถึงผู้ใหญ่เรียกว่าสามารถเข้าถึงผู้ใช้งานทุก ๆ กลุ่ม
นอกจากนี้ ซัมซุงยังมีศูนย์บริการในประเทศไทย ทำให้ผู้ใช้สามารถมั่นใจได้ในเรื่องของความปลอดภัย การให้บริการหลังการขาย และการรับประกันสินค้า ไม่ต้องกังวลเรื่องปัญหาต่าง ๆ ของสินค้าระหว่างการใช้งาน ซึ่งเป็นข้อดีของแบรนด์นี้ครับ
แท็บเล็ตซัมซุง (SAMSUNG) รุ่นไหนดี ที่เหมาะกับคุณ
- แท็บเล็ตเพื่อการศึกษา ใช้เรียน ใช้เล่น ไม่กระตุก: Samsung Galaxy Tab A8 (Wi-Fi)
- แท็บเล็ตจอขนาดใหญ่สุด 14.6 นิ้ว สเปกแรง มาพร้อมกับ S Pen: Samsung Galaxy Tab S8 Ultra (Wi-Fi)
- แท็บเล็ตพกพา พร้อมปากกา New S Pen: Samsung Galaxy Tab S8 (Wi-Fi)
- แท็บเล็ตพร้อมปากกา หน้าจอขนาดใหญ่ 12.4 นิ้ว: Samsung Galaxy Tab S7 FE (LTE)
- แท็บเล็ตขนาดพกพา โทรออกได้: Samsung Galaxy Tab A7 Lite (LTE)
คลิปรีวิว 3 อันดับ แท็บเล็ตซัมซุง (Samsung Tablet) รุ่นไหนดี ซื้อแล้วคุ้ม
คำแนะนำในการเลือกซื้อแท็บเล็ตซัมซุง (SAMSUNG)
สำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังมองหาแท็บเล็ตสักตัวเพื่อนำมาใช้งาน แต่ยังไม่มั่นใจว่าจะเลือกซื้อรุ่นไหนดี กลัวว่าจะราคาสูงไป ซื้อมาผิดรุ่นไม่ตอบโจทย์การใช้งาน เพราะแท็บเล็ตปัจจุบันก็มีหลายรุ่นหลายแบบ ฟังก์ชันการใช้งานก็มีให้เลือกเยอะแยะ หากซื้อมาแล้วกลัวจะใช้งานได้ไม่เต็มที่ใช้ได้ไม่คุ้มกับเงินที่เสียไป วันนี้ผู้เขียนมีเคล็ดลับดี ๆ สำหรับการเลือกซื้อแท็บเล็ตมาฝากกันครับ
1. เหตุผลสำหรับการเลือกซื้อแท็บเล็ต
หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าการเลือกซื้อแท็บเล็ตที่ดีที่สุด ก็คือการเลือกรุ่นที่แพงที่สุด เลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันเยอะที่สุดหรือเลือกรุ่นที่มีอุปกรณ์เสริมเยอะที่สุด ซึ่งจริง ๆ แล้วการเลือกแท็บเล็ตที่สุด คือ การเลือกรุ่นที่เหมาะสมกับรูปแบบการใช้งานของเพื่อน ๆ ครับ หากใครเป็นสายบันเทิง ชอบดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือออนไลน์ ใช้งานทั่วไป ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกแท็บเล็ตรุ่นที่สเปกสูงจนเกินไป เช่น รุ่น Samsung Galaxy Tab A8 (Wi-Fi)
หรือหากใครต้องใช้ทำงานเอกสาร ก็อาจจะขยับเป็นรุ่นที่สามารถรองรับโหมดการทำงานเอกสารต่าง ๆ ได้ หรือสำหรับคนที่ชอบจด ๆ เขียน ๆ ใช้งานวาดภาพ ทำงานกราฟิก ก็ควรดูรุ่นที่มีการรองรับปากกา S Pen เช่น รุ่น Samsung Galaxy Tab S8 (Wi-Fi) เพื่อให้สามารถใช้งานการเขียนกับปากกาได้อย่างเต็มที่ครับ ซึ่งเหตุผลเหล่านี้เองที่จะมาช่วยกำหนดรุ่นแท็บเล็ตที่เพื่อน ๆ จะเลือกซื้อได้ครับ
2. การเลือกขนาดหน้าจอ

ขนาดหน้าจอเป็นอีกสิ่งสำคัญในการเลือกซื้อแท็บเล็ตครับ โดยเหตุผลส่วนที่คนส่วนใหญ่จะเลือกซื้อแท็บเล็ตก็เพราะต้องการใช้งานหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะใช้ทำงาน ใช้ดูหนัง ใช้ดูซีรีส์ ใช้วาดภาพ ใช้เล่นเกม ก็สามารถใช้งานได้สะดวกและมองได้ชัดเต็มตากว่าการใช้มือถือ ซึ่งขนาดของหน้าจอแท็บเล็ตในท้องตลาดส่วนใหญ่ก็จะมีตั้งแต่ขนาด 8 นิ้ว ไปจนถึง 12 นิ้ว โดยแต่ละขนาดก็มีความเหมาะสมกับการใช้งานต่างกันครับ
อย่างใครที่ชอบดูหนัง อ่านหนังสือออนไลน์ ใช้จดบันทึกโน้ต เน้นพกพาออกไปด้านนอก สามารถหยิบจับใช้งานได้สะดวก การใช้แท็บเล็ตที่มีขนาดกำลังพอดี 8 – 11 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป มีน้ำหนักกำลังพอดี ก็จะสามารถใช้งานได้สะดวก ไม่ปวดเมื่อยมือขณะนำมาใช้งาน
- Samsung Galaxy Tab A7 Lite (LTE) – มีขนาดหน้าจอ 8.7 นิ้ว
แต่สำหรับใครที่เน้นใช้ทำงานเอกสาร พิมพ์เอกสาร ใช้ทำงานแบบตั้งโต๊ะ ต้องเปิดการทำงานหลาย ๆ หน้าต่าง หลาย ๆ แอปฯ พร้อมกัน การใช้งานหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ 12 นิ้ว ขึ้นไป ก็จะทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกกว่าครับ
- Samsung Galaxy Tab S8 Ultra – มีขนาดหน้าจอ 14.6 นิ้ว
3. ชิปเซตและหน่วยประมวลผล
ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อแท็บเล็ต การเลือกซื้อแท็บเล็ตที่มีสเปกแรงย่อมส่งผลให้การทำงานของแท็บเล็ตมีประสิทธิภาพที่สูงขึ้นครับ ยิ่งสำหรับสายกราฟิก สายเล่นเกม หรือใช้ทำงานหากได้ใช้งานแท็บเล็ตที่มีชิปเซตและการประมวลผลต่าง ๆ ที่ดี ย่อมทำให้สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้อย่างลื่นไหลครับ แต่สำหรับใครที่ไม่ได้เน้นใช้งานหนักขนาดนั้น การซื้อแท็บเล็ตรุ่นที่สามารถใช้งานได้แบบทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง งานเอกสาร ก็สามารถเลือกรุ่นที่ประหยัดลงมาได้ครับ
ซึ่งการดูสเปกเบื้องต้นต้องพิจารณา CPU และ GPU ว่าเป็นรุ่นไหน ควรดูหน่วยความเร็วในการประมวลผล ซึ่ง CPU หากมีหน่วยเป็น GHz มากก็จะทำให้การประมวลผลเร็วขึ้น
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบเล่นเกมหรือต้องใช้งานกราฟิกหนัก ๆ ก็ควรตรวจสอบรุ่นของ GPU ที่มีความเหมาะสมกับการเล่นเกมครับ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญครับที่คอยจัดการแสดงผลกราฟิกต่าง ๆ ให้การใช้งานเป็นไปได้อย่างลื่นไหล
นอกจากนี้การเลือก Ram และ Rom ให้เหมาะสมกับการใช้งาน ก็เป็นสิ่งที่จะช่วยให้แท็บเล็ตทำงานได้ดีและเร็วยิ่งขึ้น
4. รองรับ Wi-Fi และช่องใส่ซิมการ์ด
แท็บเล็ตในปัจจุบันถูกผลิตออกมาให้มีทั้งแบบรุ่น Wi-Fi และรุ่นที่สามารถใส่ซิมการ์ด(LTE)ได้ ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้สะดวกขึ้น ไม่จำเป็นต้องหาสัญญาณเพื่อเชื่อมต่อ Wi-Fi ซึ่งใครที่ต้องเดินทางบ่อย ๆ ต้องเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตเพื่อติดตามข้อมูล หรืองานที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ก็แนะนำให้ซื้อแบบมีช่องใส่ซิมการ์ด(LTE) ครับ เพราะจะทำให้เกิดความสะดวกกับการเข้าใช้งานอินเทอร์เน็ตมากกว่า
ส่วนใครที่นำไปใช้งานในสถานที่ที่มี Wi-Fi อยู่แล้ว ไม่ได้นำไปใช้งานนอกสถานที่บ่อย ใช้งานเฉพาะที่บ้าน หรือสามารถแชร์สัญญาณจากมือถือได้ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้อแท็บเล็ตแบบที่มีช่องใส่ซิมการ์ดหรือต้องเสียเงินค่าโปรอินเทอร์เน็ตเพิ่มครับ ทำให้ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย เพราะแท็บเล็ตรุ่นที่มีช่องใส่ซิมการ์ดจะราคาสูงกว่าแท็บเล็ตรุ่น Wi-Fi ครับ
5. แบตเตอรี่

ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญในการพิจารณาเลือกซื้อแท็บเล็ตครับ เนื่องจากการทำงานของหน้าจอภาพ การแสดงกราฟิกบนหน้าจอ การทำงานของ CPU การใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ การใช้งานอินเทอร์เน็ต จำเป็นต้องใช้พลังงานแบตเตอรี่ ดังนั้นการเลือกซื้อแท็บเล็ตที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่มีความจุแบตเตอรี่เยอะก็ช่วยส่งผลให้สามารถใช้งานแท็บเล็ตได้ยาวนานขึ้น ช่วยให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องขึ้น
นอกจากนั้นการเลือกแท็บเล็ตรุ่นที่รองรับการชาร์จเร็ว ก็จะช่วยให้สามารถพกพาออกไปใช้งานด้านนอกได้ พร้อมที่จะใช้งานได้ตลอดเวลาครับ
Samsung Galaxy Tab A8 (Wi-Fi)

ราคา 6,750 บาท*
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่อยากได้แท็บเล็ตดี ๆ สักเครื่องที่ราคาไม่เกินหมื่น Galaxy Tab A8 เป็นรุ่นที่อยากแนะนำมาก ๆ ครับ หน้าจอของรุ่นนี้มาพร้อมกับจอ TFT ขนาด 10.5 นิ้ว เหมาะสำหรับเอาไปใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรืออ่านหนังสือ ซึ่งหน้าจอมีขนาดกำลังพอดีมาก ๆ ครับ ไม่เล็กไม่ใหญ่จนไป ความละเอียดอาจจะไม่ได้ละเอียดมาก แต่สีสันของหน้าจอถือว่าอยู่ในระดับดีมาก ๆ แต่จอแบบ TFT ถ้ามองจากมุมตรง ๆ จะไม่เป็นปัญหา แต่หากมองจากมุมข้าง ๆ สีหน้าจออาจจะมืด ๆ ลงเล็กน้อย เสียงจากลำโพงต้องขอบอกว่ารุ่นนี้ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เพราะมีลำโพงถึง 4 ตัว และระบบเสียงที่เป็น Dolby Atmos มาพร้อมพอร์ต USB Type-C และที่เสียบหูฟัง 3.5 mm. มาให้ด้วยครับ หากใครที่ชอบดูหนัง ฟังเพลง ดูซีรีส์ รับรองต้องถูกใจแน่ ๆ ครับ
รุ่นนี้แบตเตอรี่ค่อนข้างใช้ได้นาน การใช้งานทั่ว ๆ ไปสามารถทำออกมาได้ดี แต่หากใช้สำหรับเล่นเกมที่ต้องใช้กราฟิกหนัก ๆ หรือเกมที่ใช้พื้นที่ในเครื่องหนัก ๆ เยอะ ๆ ตรงส่วนนี้อาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่ครับ สำหรับใครที่มองหาแท็บเล็ตให้เด็ก ๆ นะครับ Tab A8 รุ่นนี้ก็เหมาะมาก ๆ เพราะแท็บเล็ตรุ่นนี้มีแอปฯ Samsung Kids ที่เหมาะสำหรับให้เด็ก ๆ ใช้งาน และมีล็อกรหัสผ่านสำหรับหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ กดเข้า-ออก หรือลบข้อมูลต่าง ๆ โดยไม่ได้ตั้งใจ
จุดเด่น
- มีลำโพง 4 ตัวระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการชาร์จเร็ว
- รองรับการต่อหูฟัง 3.5 mm.
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มี S Pen หรือ ปากกา Stylus มาให้
- ไม่เหมาะสำหรับใช้เล่นเกมหนัก ๆ
- ไม่มีไฟแฟลช
CPU | ชิปเซต Unisoc Tiger T618 แบบ Octa-Core Processor, 2.0 GHz |
---|---|
GPU | Mali G52 MP2 |
Ram / Rom | 4 GB / 64 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1 TB |
จอแสดงผล | 10.5 นิ้ว / TFT LCD ความละเอียด 1200 x 1920 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
กล้องหน้า | 5.0 MP |
กล้องหลัง | 8.0 MP |
แบตเตอรี่ | 7,040 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 W |
ขนาด | 161.9 x 246.8 x 6.9 mm. |
น้ำหนัก | 508 g. |
พอร์ต USB | USB Type-C |
S Pen | ไม่รองรับ |
Samsung Galaxy Tab S8 Ultra (Wi-Fi)

ราคา 38,900 บาท*
Samsung Galaxy Tab S8 Ultra รุ่นเรือธง แท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ 14.6 นิ้ว เรียกได้ว่าเป็นแท็บเล็ตที่ขนาดจอใหญ่ที่สุดเท่าที่ Samsung เคยผลิตออกมา และเป็นจอแบบ Super AMOLED Refresh Rate 120 Hz มีความละเอียด 2960 x 1848 พิกเซล ขอบจอมีขนาดบางและน้ำหนักค่อนข้างเบา สามารถรองรับการทำงานทั้งแนวตั้งและแนวนอน โดยใช้งานได้ถึง 3 หน้าต่างพร้อม ๆ กัน สำหรับใครที่ต้องทำงานแบบใช้ หลาย ๆ หน้าจอ ต้องจด ต้องเขียน ต้องอ่าน หรือจะดู Youtube ไปด้วย ก็สามารถทำได้พร้อม ๆ กัน สะดวกต่อการใช้งานมาก ๆ
กล้องของรุ่นนี้ให้มาเป็นแบบกล้องคู่หน้าและหลัง ทำให้ถ่ายรูปได้คมชัด ใช้ถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ 4K และใช้ประชุมวิดีโอคอลก็สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่คมชัดสุด ๆ ครับ
การออกแบบและดีไซน์ก็ทำออกมาได้พรีเมียมสุด ๆ ครับ สามารถตอบโจทย์การใช้งานได้ครอบคลุม โดยเฉพาะการจดโน้ตหรืองานวาดภาพกราฟิก ที่ต้องใช้ปากกาในการวาด ต้องบอกเลยครับว่า S Pen ที่ให้มาสามารถใช้งานได้ลื่นไหลเป็นธรรมชาติมาก ๆ และที่สำคัญปากกาไม่จำเป็นต้องชาร์จแบตเตอรี่ก็ยังสามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง หรือหากใครที่ชอบเล่นเกมแบบหน้าจอใหญ่ ๆ
รุ่นนี้ก็สามารถเล่นเกมที่กราฟิกหนัก ๆ ได้ไม่มีปัญหาครับ ซึ่งหากเพื่อน ๆ คนไหนต้องการแท็บเล็ตรุ่นเรือธงสเปกแรงไม่แพ้รุ่นนี้ แต่อยากได้ขนาดหน้าจอที่เล็กลงเพื่อใช้งานให้สะดวกมากยิ่งขึ้นในแท็บเล็ตซีรีส์ Tab S8 ก็จะมีรุ่น Galaxy Tab S8+ (Wi-Fi) ที่มีขนาดหน้าจอเล็กลงนั่นเองครับ
จุดเด่น
- รองรับการทำงาน S Pen
- รองรับการทำงาน Multi-Window
- หน้าจอแบบ Super AMOLED ให้สีสวยคมชัด
- สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการชาร์จเร็ว
- กล้องหน้าและกล้องหลังแบบคู่ ให้ความละเอียด คมชัด (ถ่ายวิดีโอ 4K ได้)
- มีลำโพง 4 ตัวระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- มีที่สแกนนิ้วบนหน้าจอ
ข้อควรพิจารณา
- หน้าจอมีขนาดใหญ่อาจจะไม่สะดวกสำหรับการพกพา
- ราคาค่อนข้างสูง
CPU | ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 แบบ Octa-Core Processor, 3.0 GHz |
---|---|
GPU | Adreno 730 |
Ram / Rom | 8 GB / 128 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1 TB |
จอแสดงผล | 14.6 นิ้ว / Super AMOLED ความละเอียด 1848 x 2960 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 12 |
กล้องหน้า | กล้องคู่ เลนส์ Wide 12 MP (F/2.2) / เลนส์ Ultra Wide 12 MP (F/2.4) |
กล้องหลัง | กล้องคู่ เลนส์ Wide 13 MP (F/2.0) / เลนส์ Ultra Wide 6 MP (F/2.2) ไฟแฟลช LED |
แบตเตอรี่ | 11,200 mAh รองรับชาร์จเร็ว 45 W |
ขนาด | 208.6 x 326.4 x 5.5 mm. |
น้ำหนัก | 726 g. |
พอร์ต USB | USB Type-C |
S Pen | รองรับการทำงานของ S Pen |
Samsung Galaxy Tab S8+ (Wi-Fi)

ราคา 25,980 บาท*
แท็บเล็ตรุ่นเรือธง Samsung Galaxy Tab S8+ แท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ 12.4 นิ้ว โดยรุ่นนี้มาพร้อมกับหน้าจอ Super AMOLED สีสดคมชัด Refresh Rate 120 Hz มีความละเอียด 1752 x 2800 พิกเซล มีลำโพงทั้ง 4 ตัว ที่มีการปรับแต่งเสียงด้วยระบบ AKG Dolby Atmos การแยกเสียงต่าง ๆ ด้านซ้าย - ขวา ทำให้เสียงมีมิติมาก ๆ โดยความพิเศษของ Tab S8 ซีรีส์ จะเป็น ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ครับ ที่รองรับการใช้งานทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะทำงานหรือเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ ก็สามารถใช้งานได้ไม่มีสะดุด สำหรับสายวาดภาพก็มีปากกา S Pen ตัวท็อปมาให้ จะจดโน้ต จะขีดเขียน ก็สะดวกครอบคลุมทุกการใช้งานมาก ๆ ครับ
โดยแท็บเล็ตรุ่นนี้จะเหมาะกับการใช้ทำงาน พิมพ์เอกสาร หรือจดบันทึกต่าง ๆ สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้งานกลุ่มนี้ได้ดี เพราะสามารถใช้งานร่วมกับแอป Microsoft Office ต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้การใช้งานประชุมออนไลน์ที่ต้องวิดีโอคอลบ่อย ๆ กล้องก็เป็นสิ่งที่มีความสำคัญครับ โดยกล้องจะมีระบบ Auto Framing ที่จะช่วยปรับเฟรมกล้องและเซนเตอร์ของคนที่อยู่ในเฟรมได้ครับ ไม่จำเป็นต้องคอยปรับหรือเลื่อนตำแหน่งกล้องไปมาบ่อย ๆ แต่ในรุ่นนี้จะเป็นกล้องหน้าแบบเดี่ยว 12 MP ครับ ซึ่งจะต่างจากรุ่น Samsung Galaxy Tab S8 Ultra (Wi-Fi) ที่จะเป็นกล้องหน้าแบบคู่ เป็นเลนส์ Wide และ Ultra Wide 12 MP
การใช้งานโดยรวมก็สามารถทำงานได้ดีเหมือนเรากำลังใช้งาน Laptop แต่สามารถหยิบใช้งานได้สะดวกและน้ำหนักเบากว่าครับ
จุดเด่น
- รองรับการทำงาน S Pen
- รองรับการทำงาน Multi-Window
- หน้าจอแบบ Super AMOLED ให้สีสวยคมชัด
- สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการชาร์จเร็ว
- กล้องหน้าและกล้องหลังแบบคู่ ให้ความละเอียด คมชัด
- มีลำโพง 4 ตัวระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- มีที่สแกนนิ้วบนหน้าจอ
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
CPU | ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 แบบ Octa-Core Processor, 3.0 GHz |
---|---|
GPU | Adreno 730 |
Ram / Rom | 8 GB / 128 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1 TB |
จอแสดงผล | 12.4 นิ้ว / Super AMOLED ความละเอียด 1752 x 2800 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 12 |
กล้องหน้า | Ultra Wide 12 MP |
กล้องหลัง | กล้องคู่ เลนส์ Wide 13 MP (F/2.0) / เลนส์ Ultra Wide 6 MP (F/2.2) ไฟแฟลช LED |
แบตเตอรี่ | 10,090 mAh รองรับชาร์จเร็ว 45 W |
ขนาด | 185.0 x 285.0 x 5.7 mm. |
น้ำหนัก | 567 g. |
พอร์ต USB | USB Type-C |
S Pen | รองรับการทำงานของ S Pen |
Samsung Galaxy Tab S8 (Wi-Fi)

ราคา 23,900 บาท*
Samsung Tab S8 Wi-Fi แท็บเล็ตหน้าจอขนาดกลาง น้ำหนักเบา พกพาง่าย เหมาะสำหรับนำไปใช้งานด้านนอก ไม่ว่าจะใช้ทำงาน ใช้เรียนออนไลน์ โดยขนาดหน้าจอจะให้มาอยู่ที่ขนาด 11 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ TFT LCD ความละเอียด 1600 x 2560 พิกเซล อัตรา Refresh Rate อยู่ที่ 120 Hz มาพร้อมกับ CPU Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 ไม่ว่าจะใช้งานแบบไหนหรือเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ ก็สามารถทำได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด กล้องหลังเป็นแบบคู่ กล้องหลัก 13 MP และเลนส์ Ultra Wide 6 MP มีไฟแฟลช LED กล้องหน้าเป็น Ultra Wide 12 MP มีลำโพง 4 ตัว ปรับแต่งเสียงด้วยระบบ AKG Dolby Atmos ทำให้ได้เสียงที่ไพเราะ เหมาะสำหรับใช้ดูหนังหรือฟังเพลงมาก ๆ ครับ
การใช้งานร่วมกับ S Pen ทำออกมาได้ดีมาก ๆ เพราะ S Pen ของแท็บเล็ตรุ่นนี้เป็นปากกา S Pen ตัวท็อป ลดความหน่วงของการลากเส้นต่าง ๆ ได้ดีกว่าเดิม เหมาะสำหรับใช้วาดภาพและการจดบันทึกโน้ตต่าง ๆ เพราะขนาดหน้าจอไม่ใหญ่จนเกินไป และน้ำหนักค่อนข้างเบามาก ๆ ทำให้ถือใช้งานดูหนัง เล่นเกม หรือการจดบันทึกต่าง ๆ สามารถทำได้ง่ายไม่ปวดเมื่อยข้อมือครับ ซึ่งหากเทียบกับ Samsung Galaxy Tab S8+ Wi-Fi หรือ Samsung Galaxy Tab S8 Ultra Wi-Fi รุ่น Tab S8 ก็จะตอบโจทย์ในการพกพาที่สะดวกมากกว่า แต่หากเป็นในเรื่องของการใช้งานแบบ Multi-Window หรือ เน้นทำงานที่ต้องใช้ขนาดและคุณภาพของหน้าจอ รุ่น Tab S+ และ Tab S8 Ultra ที่เป็นหน้าจอ Super AMOLED ก็จะให้ภาพที่สวยและคมชัดกว่าครับ
จุดเด่น
- รองรับการทำงาน S Pen
- รองรับการทำงาน Multi-Window
- สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการชาร์จเร็ว
- กล้องให้ความละเอียด คมชัด
- มีลำโพง 4 ตัวระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- มีที่สแกนนิ้วตรงปุ่มโฮมด้านข้าง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีช่องใส่หูฟัง 3.5 mm.
- หน้าจออาจจะเล็กเกินไปสำหรับคนที่ต้องการใช้งานแบบ Multi-Window
CPU | ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 แบบ Octa-Core Processor, 3.0 GHz |
---|---|
GPU | Adreno 730 |
Ram / Rom | 8 GB / 128 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1 TB |
จอแสดงผล | 11 นิ้ว / TFT LCD ความละเอียด 1600 x 2560 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 12 |
กล้องหน้า | Ultra Wide 12 MP |
กล้องหลัง | กล้องคู่ เลนส์ Wide 13 MP (F/2.0) / เลนส์ Ultra Wide 6 MP (F/2.2) ไฟแฟลช LED |
แบตเตอรี่ | 8,000 mAh รองรับชาร์จเร็ว 45 W |
ขนาด | 165.3 x 253.8 x 6.3 mm. |
น้ำหนัก | 503 g. |
พอร์ต USB | USB Type-C |
S Pen | รองรับการทำงานของ S Pen |
Samsung Galaxy Tab S7 FE (LTE)

ราคา 19,900 บาท*
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ต้องการแท็บเล็ตขนาดหน้าจอใหญ่ ๆ และราคาประหยัด แนะนำเป็นรุ่นนี้เลยครับ Samsung Galaxy Tab S7 FE ขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 12.4 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ TFT LCD ความละเอียด 1600 x 2560 พิกเซล สำหรับการใช้งานหน้าจอ หากมองตรง ๆ สีและภาพมีคุณภาพที่คมชัดดีมาก ๆ ครับ แต่หากนั่งดูหน้าจอจากข้าง ๆ หรือมุมซ้ายมุมขวา ตรงขอบ ๆ จอสีอาจจะไม่เหมือนตรงกลางสีจะหม่น ๆ ลงกว่าตรงกลางจอครับ การใช้งานจดโน้ต วาดภาพ รุ่นนี้ก็ทำออกมารองรับการใช้งาน S Pen ครับ ซึ่ง S Pen ของ Samsung ทุกรุ่นสามารถใช้งานได้ดีทุกรุ่น โดยรุ่นนี้จะให้ปากกามากับตัวเครื่องเลย ไม่ต้องซื้อเพิ่มคุ้มค่าสุด ๆ ครับ
หากใครที่ใช้งานสมาร์ทโฟนของแบรนด์ Samsung อยู่แล้วก็สามารถใช้งาน Ecosystem ใช้งานร่วมกันแชร์ไฟล์หรือโน้ตต่าง ๆ จากของแต่ละอุปกรณ์ได้ นอกจากนี้สำหรับคนที่ต้องการใช้งานแบบ Desktop หรือ Laptop Tab S7 FE ก็มี DeX Mode สำหรับใช้งานแบบคอมพิวเตอร์ และทำงานแบบเปิดพร้อม ๆ กันหลายหน้าต่างได้ แต่ผู้เขียนขอแนะนำว่าอย่าเปิดเยอะจนเกินไปนะครับ เพราะอาจจะทำให้เครื่องหน่วงหรือกระตุกได้ครับ ซึ่งหากเน้นใช้งาน Microsoft หรือ จำเป็นต้องทำการใช้งานแบบหลายหน้าจอ การขยับสเปกเพื่อใช้รุ่นที่มีการรองรับการใช้งานอย่าง Samsung Galaxy Tab S8 (Wi-Fi) หรือ รุ่นที่มีขนาดหน้าจอเท่ากัน Samsung Galaxy Tab S8+ (Wi-Fi) ก็เป็นตัวเลือกที่ดีกว่าครับ ซึ่งหากเราไม่ได้เน้นใช้งานหนักจนเกินไปรุ่น Tab S7 FE LTE ก็เป็นรุ่นที่ใช้งานได้ครอบคลุมและคุ้มค่ามาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- รองรับการทำงาน S Pen
- มีลำโพงคู่ ระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการชาร์จเร็ว
ข้อควรพิจารณา
- การใช้งานมีหน่วง ๆ บ้างหากเปิดใช้งานหลายหน้าต่าง
- ไม่เหมาะสำหรับใช้เล่นเกมที่กราฟิกหนัก ๆ
CPU | ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 750G แบบ Octa-Core Processor, 2.2 GHz |
---|---|
GPU | Adreno 619 |
Ram / Rom | 4 GB / 64 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1 TB |
จอแสดงผล | 12.4 นิ้ว / TFT LCD ความละเอียด 1600 x 2560 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
กล้องหน้า | 5 MP |
กล้องหลัง | 8 MP |
แบตเตอรี่ | 10,090 mAh รองรับชาร์จเร็ว 45 W |
ขนาด | 185.0 x 284.8 x 6.3 mm. |
น้ำหนัก | 608 g. |
พอร์ต USB | USB Type-C |
S Pen | รองรับการทำงานของ S Pen |
Samsung Galaxy Tab A7 Lite (LTE)

ราคา 4,490 บาท*
Samsung Galaxy Tab A7 Lite LTE แท็บเล็ตที่ถูกออกแบบมาให้มีดีไซน์ขนาดเล็กสามารถถือได้ด้วยมือเดียว งานประกอบมีความแข็งแรง สามารถพกพาได้สะดวก โดยรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอ 8.7 นิ้ว หน้าจอแบบ TFT LCD ความละเอียด 800 x 1340 พิกเซล การแสดงผลและสีสันต่าง ๆ ทำออกมาได้ดี นอกจากหน้าจอที่สวยแล้วยังมาพร้อมกับลำโพงคู่ที่มีระบบเสียง Dolby Atmos ที่ให้เสียงคุณภาพที่ดี คมชัด และมีพอร์ต USB Type-C และที่เสียบหูฟัง 3.5 mm. มาให้ด้วยครับ เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ สายบันเทิงที่ชอบดูหนัง ฟังเพลง สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่แน่นอนครับ แบตเตอรี่ก็จัดมาให้มาถึง 5,100 mAh ซึ่งหากใช้งานทั่ว ๆ ไปก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างนานครับ แต่หากต้องใช้งานแบตเยอะ ๆ ก็ไม่เป็นปัญหาเพราะสามารถชาร์จด้วยกำลังไฟ 15 W แบบชาร์จด่วนได้ ทำให้ใช้เวลาชาร์จไม่นานจนเกินไปครับ
สำหรับแท็บเล็ตรุ่นนี้ก็มี Samsung Kids สำหรับให้เด็ก ๆ สามารถใช้งานได้ โดยจะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่เหมาะสำหรับให้เด็ก ๆ ใช้งาน ซึ่งรุ่น Tab A7 Lite จะมีขนาดหน้าเล็กกว่ารุ่น Samsung Galaxy Tab A8 Wi-Fi ที่มีสเปกใกล้เคียงกัน สามารถใช้งานโทรศัพท์ได้ แต่หากใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็ก สเปกดี ๆ ราคาสบาย ๆ Tab A7 Lite LTE ก็เป็นอีกรุ่นที่คุ้มค่ากับการซื้อมาใช้งานครับ
จุดเด่น
- มีลำโพงคู่ ระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการชาร์จเร็ว
- ใช้งานโทรศัพท์ได้
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm.
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีไฟแฟลช
- Ram / Rom ให้มาค่อนข้างน้อย แต่สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- ไม่มี S Pen หรือ ปากกา Stylus มาให้
CPU | ชิปเซต Mediatek MT8768T Helio P22T แบบ Octa-Core Processor, 2.3 GHz |
---|---|
GPU | PowerVR GE8320 |
Ram / Rom | 3 GB / 32 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1 TB |
จอแสดงผล | 8.7 นิ้ว / TFT LCD ความละเอียด 800 x 1340 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 11 |
กล้องหน้า | 2 MP (F/2.2) |
กล้องหลัง | 8 MP (F/2.0) |
แบตเตอรี่ | 5,100 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 W |
ขนาด | 212.5 x 124.7 x 8.0 mm. |
น้ำหนัก | 371 g. |
พอร์ต USB | USB Type-C |
S Pen | รองรับการทำงานของ S Pen |
Samsung Galaxy Tab S6 Lite (Wi-Fi)

ราคา 9,990 บาท*
แท็บเล็บบางเบาดีไซน์สวย สามารถใช้งานได้ครอบคลุม พร้อมกับปากกา S Pen โดย Samsung Galaxy Tab S6 Lite รุ่นนี้เป็นรุ่น Wi-Fi ที่มาพร้อม หน้าจอ TFT ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล มีลำโพงแบบคู่ปรับแต่งด้วยระบบเสียง AKG Dolby Atmos เสียงจากลำโพงจึงมีคุณภาพดี เสียงไม่แตก ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานดูหนัง ฟังเพลง ทำออกมาได้ตอบโจทย์มาก ๆ ครับ และสำหรับใครที่ใช้เล่นเกม หากเป็นเกมทั่วไปที่ไม่ได้ใช้กราฟิกหนักมากก็สามารถทำออกมาได้ค่อนข้างดีกว่าที่คิดครับ ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการเล่นมาก ในเรื่องของแบตเตอรี่ที่ให้ความจุมาถึง 7,040 mAh รองรับการชาร์จด่วน 15 W ทำให้การใช้งานทั่ว ๆ ไป สามารถใช้ได้แทบจะครบวันครับ แบตเตอรี่ไม่หมดเร็วจนเกินไป
จุดเด่นของรุ่นนี้อีกอย่างหนึ่งคือ ปากกา S Pen กับราคาหลักพันครับ โดย S Pen สามารถรองรับแรงกดได้ 4,096 ระดับ ตัวปากกาไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่ และฟังก์ชันการใช้งานปากกาก็สามารถทำได้ทั้งแปลงลายมือเป็นตัวอักษร การวาดภาพ การจดบันทึก หรือการใช้งานแบบ Multi-Window แบบหลาย ๆ หน้าจอ สามารถใช้งานแอปพลิเคชันอื่นและจดโน้ตไปพร้อม ๆ กันได้ หากเทียบกับ Samsung Galaxy Tab A8 (Wi-Fi) ที่มีขนาดหน้าจอและราคาใกล้เคียงกัน การเลือก Tab S6 Lite ก็จะเหมาะสำหรับคนที่เน้นใช้งานปากกามากกว่าครับ แต่หากใครไม่ได้เน้นใช้ปากกา แท็บเล็ตรุ่น Tab A8 ก็เป็นตัวเลือกเหมาะกว่าครับ
จุดเด่น
- มีลำโพงคู่ ระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- หน้าจอแบบ TFT ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล
- สามารถเพิ่ม MicroSD Card สูงสุด 1 TB
- พอร์ตเชื่อมต่อ USB Type-C
- รองรับการชาร์จเร็ว
- รองรับการทำงาน S Pen / ปากกาไม่ต้องชาร์จแบตเตอรี่
- มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 mm.
ข้อควรพิจารณา
- หน้าจอภาพไม่ค่อยคมมาก สามารถใช้งานทั่ว ๆ ไปได้
- ไม่เหมาะสำหรับเกมกราฟิกหนัก ๆ
- ไม่รองรับสแกนลายนิ้วมือ
CPU | ชิปเซต Exynos 9611 แบบ Octa-Core Processor, 2.3 GHz |
---|---|
GPU | Mali-G72 MP3 |
Ram / Rom | 4 GB / 64 GB รองรับ MicroSD Card สูงสุด 1 TB |
จอแสดงผล | 10.4 นิ้ว / TFT Capacitive Touchscreen (16.7 ล้านสี) ความละเอียด 2000 x 1200 พิกเซล |
ระบบปฏิบัติการ | Android 10 |
กล้องหน้า | 5 MP |
กล้องหลัง | 8 MP |
แบตเตอรี่ | 7,040 mAh รองรับชาร์จเร็ว 15 W |
ขนาด | 244.5 x 154.3 x 7 mm. |
น้ำหนัก | 467 g. |
พอร์ต USB | USB Type-C |
S Pen | รองรับการทำงานของ S Pen |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เปรียบเทียบ แท็บเล็ตซัมซุง (Samsung Tablet) รุ่นไหนดี
![]() Samsung Galaxy Tab A8 (Wi-Fi) | ![]() Samsung Galaxy Tab S7 FE (LTE) | ![]() Samsung Galaxy Tab S8 (Wi-Fi) | ![]() Samsung Galaxy Tab S8 Ultra (Wi-Fi) |
฿6750.00* | ฿19900.00* | ฿23900.00* | ฿38900.00* |
|
|
|
|
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ระหว่าง แท็บเล็ต (Android) กับ iPad (iOS) เลือกอะไรดี
แท็บเล็ตและ iPad ต่างก็เป็นอุปกรณ์ที่มีจุดประสงค์ต่าง ๆ ในการใช้งานแบบเดียวกัน ซึ่งเป็นอุปกรณ์ประเภทเดียวกัน สามารถใช้งานดูหนัง ฟังเพลง วาดภาพ จดบันทึกต่าง ๆ ก็สามารถใช้งานได้เหมือนกัน แต่ระหว่างแท็บเล็ตและ iPad ก็จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของระบบปฏิบัติการ ซึ่งแท็บเล็ตส่วนใหญ่จะใช้ระบบปฏิบัติการ Android และ iPad จะใช้ระบบปฏิบัติการ iOS นั่นเองครับ
ซึ่งการทำงานของทั้งสองก็จะส่งผลให้มีฟังก์ชันการใช้งานและแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่แตกต่างกันอยู่เล็กน้อย หากนึกภาพไม่ออกผู้เขียนมีสรุปสั้น ๆ เพื่อให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างแท็บเล็ตและ iPad ครับ
จุดเด่นของแท็บเล็ต (Android)
ส่วนใหญ่เป็นระบบ Android ซึ่งจะมีแอปพลิเคชันให้เลือกค่อนข้างเยอะ สามารถปรับแต่งรูปแบบการใช้งานได้อิสระหลากหลาย สามารถใช้งานร่วมกับโปรแกรมที่ใช้งานกับ PC อย่าง Microsoft ได้ดีกว่า สามารถถ่ายโอนหรือย้ายไฟล์จากอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้สะดวก สามารถเพิ่ม MicroSD Card เพื่อเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้อมูลได้ มีรุ่นและสเปกการใช้งานให้เลือกหลายแบบ และระบบ Android เป็นระบบแบบเปิดที่มีผู้พัฒนาและส่วนแบ่งทางการตลาดเยอะ ทำให้ราคาของแท็บเล็ตจะประหยัดกว่าเพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้หลายกลุ่ม นอกจากนี้แท็บเล็ตส่วนใหญ่จะมีปากกาสไตลัสแถมมาให้กับตัวเครื่องเลย ไม่จำเป็นต้องซื้อเพิ่มทำให้คุ้มค่ามาก ๆ สำหรับการซื้อมาใช้งานครับ
จุดเด่นของ iPad
เป็นการทำงานด้วยระบบ iOS ซึ่งระบบจะใช้งานง่ายไม่ซับซ้อน แอปพลิเคชันต่าง ๆ มีความปลอดภัย สามารถใช้งานได้ลื่นไหล มีความเสถียรกว่า ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของไวรัสหรือแอปพลิเคชันที่ไม่ปลอดภัย เพราะแอปฯ ต่าง ๆ สามารถโหลดมาใช้งานได้จากช่องทางเดียวคือ App Store เท่านั้น ในส่วนของการจัดการพลังงาน iPad ค่อนข้างทำได้ดีในเรื่องของแบตเตอรี่ครับ สามารถใช้งานแบบต่อเนื่อง แต่ก็มีข้อควรพิจารณาคือ iPad ไม่สามารถใส่ MicroSD Card เพิ่มความจุได้ครับ หากใครต้องการความจำเพิ่มก็จำเป็นต้องขยับเป็นรุ่นที่มีหน่วยความจำเพิ่มขึ้น ซึ่งราคาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วยครับ
บทสรุปส่งท้าย
สำหรับแท็บเล็ต Samsung ทั้ง 7 รุ่น ที่ผู้เขียนนำมาแนะนำวันนี้ เป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมและมีฟังก์ชันโดดเด่นครอบคลุมทุกการใช้งาน ถึงแม้บางรุ่นจะมีการเปิดตัวมาสักพักแล้ว แต่สเปกและในเรื่องของฟังก์ชันการใช้งาน ต่าง ๆ ยังสามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหลและมีประสิทธิภาพ ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีจุดเด่นและฟีเจอร์การใช้งานที่แตกต่างกัน สามารถปรับใช้งานที่หลากหลาย เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ได้ทุกการใช้งาน ดังนั้นการเลือกซื้อแท็บเล็ตเพื่อน ๆ ไม่จำเป็นต้องเลือกรุ่นที่ราคาสูงที่สุด หรือจอใหญ่ที่สุด หากเพื่อน ๆ เลือกซื้อแท็บเล็ตรุ่นที่แพงเกินไป เมื่อใช้งานได้เต็มที่ก็จะทำให้เราเสียเงินโดยใช่เหตุ เพื่อน ๆ จึงควรสำรวจเหตุผลและความจำเป็นในการเลือกซื้อ เพื่อที่จะให้เราสามารถซื้อแท็บเล็ตมาใช้ได้อย่างคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดครับ