Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » สุขภาพและความงาม » ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า » เซรั่ม » รีวิว เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

รีวิว เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

Mine Melody โดย Mine Melody
October 16, 2022
ใน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า
รีวิว เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
Share on FacebookShare on Twitter

สารบัญ

  • เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้จางลง ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคุณ?
  • ฝ้า คืออะไร มีลักษณะอย่างไร ? (1-3)
  • ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร ? (1-3)
  • ผิวประเภทไหนควรใช้ ครีมรักษาฝ้า VS เซรั่มรักษาฝ้า ?
  • เซรั่มฝ้าที่ดีที่สุด ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง ? (1-5)
  • เซรั่มรักษาฝ้า Mesoestetic Melan Tran3x Intensive Depigmenting Concentrate
  • เซรั่มรักษาฝ้า Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter
  • เซรั่มรักษาฝ้า Eucerin Spotless Brightening Booster Serum
  • เซรั่มรักษาฝ้า Nivea Luminous 630 Spotclear Treatment [แพคเกจใหม่]
  • เซรั่มรักษาฝ้า Kiehl’s Clearly Corrective Dark Spot Solution
  • เซรั่มรักษาฝ้า DR.PONG MC1 Whitening Drone Melas Clear Serum
  • เซรั่มรักษาฝ้า L’Oreal Paris Glycolic Bright Instant Glowing Serum
  • ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022
  • ฝ้าหายแล้ว ทำไมกลับมาเป็นฝ้าอีก ? (1-5)

เราเชื่อว่าผู้หญิงหลายคนมักจะมองข้ามเรื่องของ “ฝ้า” เพราะโดยปกติแล้วฝ้าจะเกิดขึ้นกับผู้หญิงวัยกลางคนที่มีอายุ 30-40 ปีขึ้นไป ซึ่งถือว่าเป็นวัยที่ผู้หญิงส่วนใหญ่เริ่มละเลยการดูแลตัวเองและไปโฟกัสกับงานหรือครอบครัวแทน แต่แม้ว่าไลฟ์สไตล์ของคุณจะเปลี่ยนไปเช่นไร ฝ้าก็จะเกิดขึ้นกับคุณอยู่ดีค่ะ เพราะมากว่า 90% ที่ฝ้าจะเกิดกับผู้หญิงเมื่อเทียบกับผู้ชาย อีกทั้งฝ้ามักเกิดขึ้นกับผู้หญิงที่มีผิวคล้ำอย่างโซนเอเชียแบบเรา เนื่องจากพันธุกรรมและเชื้อชาติเป็นสิ่งที่เราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้งนี้เราก็สามารถรักษาพร้อมทั้งป้องกันตัวเองไม่ให้เป็นฝ้าได้ หรือทำให้ฝ้าจางลงได้ด้วยการใช้ “เซรั่มรักษาฝ้า” ซึ่งในวันนี้เรามีรีวิวเซรั่มรักษาฝ้าจากแบรนด์ดังดี ๆ หลายตัวเลยค่ะ รับรองว่าปลอดภัย ไม่มีสารอันตราย และเห็นผลจริงอีกด้วย ซึ่งจะมีของแบรนด์อะไรบ้างนั้น? ตามมาดูกันเลยค่ะ!

เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ให้จางลง ยี่ห้อไหนดีที่สุดสำหรับคุณ?

  • มีสารออกฤทธิ์สำคัญ ๆ หลายตัวที่ช่วยลดกระบวนการการเกิดฝ้า ตอบโจทย์คนที่มีปัญหาฝ้าอย่างแท้จริง: เซรั่มรักษาฝ้า Mesoestetic Melan Tran3x Intensive Depigmenting Concentrate
  • ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ ผิวหน้าหมองคล้ำ เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นฝ้ากระในระยะเริ่มต้น: เซรั่มรักษาฝ้า Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter
  • ช่วยลดรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นมีปัญหาฝ้า และมีผิวบอบบางแพ้ง่าย: เซรั่มรักษาฝ้า Eucerin Spotless Brightening Booster Serum
  • ช่วยลดรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นมีปัญหาฝ้าจากแดด สำหรับผู้ที่มีบัดเจทจำกัด: เซรั่มรักษาฝ้า Nivea Luminous 630 Spotclear Treatment [แพคเกจใหม่]
  • ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส ลดเลือนรอยดำ รอยแดง และจุดด่างดำ: เซรั่มรักษาฝ้า Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution
  • ช่วยรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมาะสำหรับฝ้าประเภทตื้นถึงกลาง ในราคาประหยัด: เซรั่มรักษาฝ้า DR.PONG MC1 Whitening Drone Melas Clear Serum
  • ช่วยปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส ลดเลือนฝ้ากระจุดด่างดำ เหมาะสำหรับผิวที่แข็งแรง: เซรั่มรักษาฝ้า L'Oreal Paris Glycolic Bright Instant Glowing Serum

ฝ้า คืออะไร มีลักษณะอย่างไร ? (1-3)

ฝ้าเป็นโรคผิวหนังที่ได้พบบ่อย คุณอาจพบจุดสีน้ำตาลอ่อน สีน้ำตาลเข้ม หรือสีเทาอมฟ้าบนผิวของคุณ ฝ้าสามารถเกิดขึ้นเป็นจุดเล็ก ๆ ไปจนถึงรอยคล้ำเป็นวงกว้าง บริเวณที่เกิดฝ้าได้ง่ายที่สุดจะเป็นที่ใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นตรงแก้ม ริมฝีปากบน หน้าผาก รวมมถึงส่วนอื่น ๆ ของร่างกายอย่างเช่นที่ปลายแขนและหน้าอก ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติมากเพราะบริเวณเหล่านี้จะต้องเผชิญกับแสงแดดมากที่สุด

ฝ้าเกิดขึ้นได้อย่างไร ? (1-3)

ฝ้าอาจเกิดได้จากหลายปัจจัยอาทิเช่น แสงแดด, การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน, การระคายเคืองและการอักเสบของผิวหนังก็ได้ นอกจากนี้มีการวิจัยพบว่าแสงสีฟ้าที่ปล่อยออกมาจากหลอดไฟ หน้าจอคอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ก็สามารถทำให้เกิดฝ้าได้ด่วยเช่นกัน และสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงตั้งครรภ์ก็จะมักเกิดฝ้าขึ้นได้บ่อย ๆ แต่ฝ้าประเภทนี้จะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป 3 เดือนหลังจากคุณคลอดบุตร

ฝ้าเกิดจากหลายปัจจัยทั้งแสงแดด, กรรมพันธุ์, ยาคุมกำเนิด, ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง หรือภาวะตั้งครรภ์
ฝ้าเกิดจากหลายปัจจัยทั้งแสงแดด, กรรมพันธุ์, ยาคุมกำเนิด, ฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง หรือภาวะตั้งครรภ์

ผิวหนังของคุณประกอบด้วย 3 ชั้น ชั้นนอกคือชั้นหนังกำพร้า ชั้นกลางคือชั้นหนังแท้ และชั้นที่ลึกที่สุดคือชั้นใต้ผิวหนัง ในผิวหนังชั้นกำพร้าของคุณมีเซลล์ที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ ซึ่งจะคอยเก็บและสร้างเม็ดสีสีเข้มที่เรียกว่าเมลานิน การผลิตเมลานินขึ้มนี้มีที่มาที่ไปเสมอค่ะ เพราะเมื่อผิวของเราได้การกระตุ้นจากแสงแดด ความร้อน หรือรังสีอัลตราไวโอเลต รวมถึงการกระตุ้นของฮอร์โมน เมลาโนไซต์จะผลิตเมลานินมากขึ้น และนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดผิวหมองคล้ำจนเป็นฝ้าอย่างที่เห็นค่ะ

ผิวประเภทไหนควรใช้ ครีมรักษาฝ้า VS เซรั่มรักษาฝ้า ?

จริง ๆ แล้วทั้งครีมและเซรั่มอาจจะมีข้อดีกันคนละแบบ เพราะประเภทผิวหน้าของคนเรายังมีความต่างแตกกันเลยค่ะ ดังนั้นคนที่ผิวแห้งก็จะบอกว่าเนื้อครีมดีกว่าเซรั่ม ส่วนคนที่ผิวมันก็จะบอกว่าเซรั่มดีกว่าเนื้อครีม ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าที่ดีที่สุดสำหรับผิวของแต่ละคนก็จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวที่ของคน ๆ นั้น บางคนมีภาวะผิวแห้งขาดน้ำ ในขณะที่บางคนก็เป็นผิวอักเสบร่วมด้วย ดังนั้นก่อนที่คุณเลือกว่าควรใช้ผลิตภัณฑ์รักษาฝ้าแบบไหนดี? คุณจะต้องรู้ก่อนว่าลักษณะผิวของคุณจัดอยู่ในหมวดหมู่ใด จากนั้นจึงค่อยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ตามที่เราแนะนำ

ลักษณะผิวทั้ง 16 ประเภท จาก Baumann Skin Type
ลักษณะผิวทั้ง 16 ประเภท จาก Baumann Skin Type

โดยการแยกประเภทลักษณะของผิวในวันนี้นี้เราได้ใช้งานวิจัย Baumann Skin Type ® เป็นการอ้างอิง ซึ่งสามารถแบ่งลักษณะผิวได้ถึง 16 ประเภทเลยค่ะ แต่เนื่องจากบทความนี้จะเน้นไปที่การรักษาฝ้า ดังนั้นจึงตัดเหลือ 8 ประเภทผิวที่เป็นฝ้า มาดูกันค่ะว่าผิวของคุณจะจัดอยู่ในหมายเลขไหนของ Baumann Skin Type ® บ้าง?

  • หมายเลข 1 DSPT Dry, Sensitive, Uneven Pigment, Tight : ผิวแห้งที่มีปัญหาจากการอักเสบของผิวหนังซ้ำ ๆ และมีสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ควรรักษาความแห้งกร้านและการอักเสบก่อน จากนั้นจึงค่อยรักษาปัญหาผิวหมองคล้ำ ฝ้า กระและจุดด่างดำด้วยการใช้ครีมรักษาฝ้าที่ส่วนผสมในการต้านการอักเสบร่วมด้วย
  • หมายเลข 3 DSPW Dry, Sensitive, Uneven Pigment, Wrinkle-prone : ผิวแห้งที่มีอาการอักเสบของผิวหนังซ้ำ ๆ มีสีผิวไม่สม่ำเสมอ และมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอย คุณจะต้องเน้นดูแลรักษาผิวหมองคล้ำและริ้วรอย แต่ก็ต้องเลือกส่วนผสมที่ไม่ทำให้ผิวแห้งกร้านและอักเสบมากกว่าเดิม แนะนำให้เลือกครีมรักษาฝ้าที่มีผสมส่วนสำหรับต่อต้านริ้วรอย และปลอบประโลมผิวได้ในตัว
ผิวแห้งที่มีอาการอักเสบร่วมด้วยควรใช้ครีมรักษาฝ้าที่มีช่วยปลอบประโลมผิว มีฤทธิ์ต้านการอักเสบร่วมด้วย
ผิวแห้งที่มีอาการอักเสบร่วมด้วยควรใช้ครีมรักษาฝ้าที่มีช่วยปลอบประโลมผิว มีฤทธิ์ต้านการอักเสบร่วมด้วย
  • หมายเลข 5 OSPT Oily, Sensitive, Uneven Pigment, Tight : คุณเป็นคนผิวมันมีอาการอักเสบและมีเม็ดสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอรวมด้วย แต่เนื่องจากผิวมันมีความเสี่ยงที่จะเกิดริ้วรอยน้อยกว่าประเภทผิวอื่น ๆ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องริ้วรอยแห่งวัยมากนัก แค่เน้นเซรั่มรักษาฝ้าที่มีสารช่วยปลอบประโลมผิวลดการอักเสบให้ความชุ่มชื่นร่วมด้วยก็พอค่ะ
  • หมายเลข 7 ​​OSPW Oily, Sensitive, Uneven Pigment, Wrinkle-prone : ผิวมันที่มีการอักเสบของผิวหนัง มีปัญหาเม็ดสีผิวไม่สม่ำเสมอ และมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอย เนื่องจากน้ำมันธรรมชาติของผิวให้การปกป้องต่อสารต้านอนุมูลอิสระน้อยเกินไป (ผิวมันไม่พอ) จึงไม่สามารถปกป้องผิวที่เปราะบางนี้ได้ แนะนำให้คุณเน้นผลิตภัณฑ์ที่ลดการอักเสบก่อน เมื่อผิวแข็งแรงแล้วจึงค่อยใช้เซรั่มรักษาฝ้า กระ และจุดด่างดำ โดยอาจเลือกส่วนผสมที่ช่วยในการต่อต้านริ้วรอยร่วมด้วยก็ได้ค่ะ
  • หมายเลข 9 ORPT Oily, Resistant, Uneven Pigment, Tight : ผิวประเภทนี้มีความเสี่ยงต่อริ้วรอยและการระคายเคืองน้อยกว่าประเภทอื่น ๆ อีกทั้งยังเป็นผิวที่ค่อนข้างแข็งแรง ปัญหาของคุณมีเพียงแค่ผิวมันและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ดังนั้นครีมกันแดดจึงเป็นหัวใจหลักที่คุณจะต้องใช้ทุกวัน จากนั้นก็เลือกเซรั่มรักษาฝ้าที่มีสารออกฤทธิ์เข้มข้นสูงเพื่อให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมออย่างรวดเร็ว ในส่วนของของความมันบนใบหน้านั้นแนะนำให้ใช้ คลีนซิ่ง, คลีนเซอร์ หรือโทนเนอร์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกสำหรับควบคุมความมัน ลดการเกิดสิว และผลัดเซลล์ผิวแทนค่ะ
ผิวมันที่ไม่อักเสบ มักเป็นผิวที่แข็งแรงและเกิดริ้วรอยได้น้อย สามารถใช้เซรั่มรักษาฝ้าที่มีความเข้มข้นได้
ผิวมันที่ไม่อักเสบ เป็นผิวที่แข็งแรง เกิดริ้วรอยได้น้อย ใช้เซรั่มรักษาฝ้าที่เข้มข้นได้
  • หมายเลข 11 ORPW Oily, Resistant, Uneven Pigment, Wrinkle-prone : ผิวประเภทนี้มีลักษณะสีผิวไม่สม่ำเสมอและมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยง่าย แม้ว่าน้ำมันตามธรรมชาติของผิว (ซีบัม) จะช่วยป้องกันริ้วรอยได้ในระดับนึ่ง แต่ผิวประเภทนี้ควรเพิ่มสารต้านอนุมูลอิสระในสกินแคร์ ในส่วนของผลิตภัณฑ์รักษาฝ้า แนะนำเป็นเซรั่มที่มีสารออกฤทธิ์เข้มข้นสูง มีสารต้านอนุมูลอิสระด้วยก็ดีค่ะเพราะจะช่วยเรื่องริ้วรอยอีกทาง ในส่วนของความมันบนใบหน้าก็ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของกรดซาลิไซลิกเช่นเดียวกับผิวหมายเลข 9 เลยค่ะ
  • หมายเลข 13 DRPT Dry, Resistant, Uneven Pigment, Tight : คุณเป็นคนที่มีลักษณะผิวแห้งและมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งเป็นลักษณะเด่นของผิวประเภท DRPT แม้ว่าจะไม่ค่อยมีอาการอักเสบและมีปัญหาเรื่องริ้วรอยสักเท่าไหร่ แต่ครีมกันแดดก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่คุณไม่ควรละเลยเด็ดขาด จากนั้นก็หามอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมช่วยให้ผิวกระจ่างใส หรือจะใช้เป็นเซรั่มรักษาฝ้าที่มีส่วนผสมมอบความชุ่มชื่นอย่างไฮยาลูรอนก็ได้ค่ะ
  • หมายเลข 15 DRPW Dry, Resistant, Uneven Pigment, Wrinkle-prone : คุณเป็นคนผิวแห้ง มีปัญหาสีผิวไม่สม่ำเสมอ และมีความไวต่อการเกิดริ้วรอยสูงมาก ถือว่าเป็นลักษณะเด่นของประเภทผิว DRPW สูตรการดูแลผิวควรประกอบด้วยครีมกันแดดที่มีค่า SPF สูง จากนั้นก็เลือกเซรั่มรักษาฝ้าที่มีสารให้ความชุ่มชื่นในตัว รวมถึงอาจมีสารต้านอนุมูลอิสระ เรตินอยด์ กรดอัลฟาไฮดรอกซี และส่วนผสมอื่น ๆ เพื่อให้สีผิวสม่ำเสมอก็ได้ค่ะ

เซรั่มฝ้าที่ดีที่สุด ควรมีส่วนผสมอะไรบ้าง ? (1-5)

หากคุณมีฝ้าบนใบหน้า สิ่งสำคัญคือคุณต้องใช้รูทีนในการดูแลผิวที่ถูกต้อง เพื่อให้สีผิวของคุณกลับมีสีที่เนียนสม่ำเสมอ ซึ่งในผลิตภัณฑ์จะต้องมีสารที่ช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน, สารผลัดเซลล์ผิวเก่า, สารที่ช่วยปลอบประโลมผิวหลังจากการผลัดเซลล์ และสารที่ลดการส่งผ่านเม็ดสีเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดฝ้าซ้ำ

  • สารที่ช่วยลดการผลิตเม็ดสีเมลานิน : Tranexamic acid มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับ Hydroquinone ที่ใช้ในครีมรักษาฝ้า แต่ Hydroquinone จะมีระดับความเข้มข้นที่มีผลข้างเคียงมากกว่า เพราะ Hydroquinone จะทำให้ผิวหน้าอักเสบและแสบร้อนได้ ดังนั้นการใช้ Hydroquinone จึงต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ และจะต้องใช้ในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ เมื่อหายดีแล้วต้องค่อย ๆ หยุดใช้ไป ต่างจาก Tranexamic acid ที่มีผลข้างเคียงน้อยกว่า ไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง แต่ก็แลกมากับราคาที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน แนะนำให้เลือก Tranexamic acid 3% ขึ้นไปค่ะ นอกจากนี้ก็ยังมี Niacinamide, Alpha-Arbutin, Kojic Acid, อนุพันธ์วิตามิน C (Ascorbic acid), อนุพันธ์วิตามิน E (Tocopheryl Acetate) และสารสกัดจากธรรมชาติอีกมากมายที่ช่วยยับยั้งการสร้างเม็ดสีผิวได้เช่นเดียวกันค่ะ
สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว จะทำให้หน้าบางและไวต่อแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดควบคู่เสมอ
สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว จะทำให้หน้าบางและไวต่อแสงแดด ต้องใช้ครีมกันแดดควบคู่เสมอ
  • สารผลัดเซลล์ผิวเก่า : AHA, BHA, Glycolic acid, Salicylic acid, Lactic acid สารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเหล่านี้ส่วนใหญ่จะมีผลข้างเคียงคือทำให้หน้าบางและไวต่อแสงแดดได้ง่าย ดังนั้นคุณจึงต้องใช้ครีมกันแดดควบคู่ด้วยเสมอ ซึ่งควรมีค่า SPF50+ และ PA +++ เป็นอย่างต่ำเลยค่ะ
  • สารที่ช่วยปลอบประโลมผิวให้ความชุ่มชื่น : สารต้านอนุมูลอิสระ หรือจะเป็นพวก Hyaluron ก็ถือว่าเป็นส่วนผสมที่ดีสำหรับการมอบความชุ่มชื่น รวมถึงช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ในผิว
  • สารที่ลดการส่งผ่านเม็ดสี : Niacinamide ช่วยลดการส่งผ่านเม็ดสีผิวเมลานินจากผิวชั้นในไปยังผิวชั้นนอก ทำให้ไม่เกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำซ้ำ หากคุณซื้อเซรั่มรักษาฝ้าแล้วแต่ไม่มีส่วนผสมของสารที่ลดการส่งผ่านเม็ดสีผิวก็อาจจะทำให้เกิดฝ้าซ้ำได้ค่ะ ดังนั้นใครที่ต้องการปกป้องพร้อมรักษาไปด้วยแบบ 2in1 ต้องมองหา Niacinamide ในส่วนผสมด้วยนะคะ




เซรั่มรักษาฝ้า Mesoestetic Melan Tran3x Intensive Depigmenting Concentrate

เซรั่มรักษาฝ้า Mesoestetic Melan Tran3x Intensive Depigmenting Concentrate
รูปภาพจาก mesoestetic.com

ราคา 3,190 บาท*

หลาย ๆ คนอาจจะไม่คุ้นตากับแบรนด์ Mesoestetic สักเท่าไหร่ แต่จริง ๆ แล้ว Mesoestetic เป็นแบรนด์สกินแคร์เกรดแพทย์ที่ได้รับการวิจัยค้นคว้าจากทีมแพทย์ของประเทศสเปน ดังนั้นคุณจึงมั่นใจได้เลยว่าปลอดภัย ไม่มีสารอันตรายอย่างแน่นอนค่ะ ส่วนสารสำคัญที่ใส่มาก็มีครบทุกกลไกสำหรับยับยั้งการสร้างเม็ดสีเมลานิน ถึง 4 ขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็น Tranexamic acid ลดการสร้างเม็ดสี ลดเลือนฝ้า ช่วยปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใสขึ้น (Tranexamic acid ประสิทธิภาพเทียบเท่า Hydroquinone แต่ดีกว่าเพราะไม่แสบหน้า), Enzymacid Complex กลุ่มสารผลัดเซลล์เก่า, Tyr control complex เร่งการสร้างเซลล์ผิวใหม่และป้องกันการเกิดฝ้าซ้ำ, Niacinamide เป็นไวท์เทนนิ่งลดการส่งผ่านเม็ดสีผิวจากชั้นล่าง ทำให้ไม่เกิดฝ้าซ้ำ ๆ ทั้งยังช่วยให้ผิวดูกระจ่างใส่อีกด้วย

จุดเด่น

  • มีสารออกฤทธิ์สำคัญ ๆ หลายตัวที่ช่วยลดกระบวนการการเกิดฝ้า ตอบโจทย์คนที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ รอยสิว หรือผิวหมองคล้ำ และสำหรับคนที่ยังไม่มีฝ้าก็สามารถใช้ได้เพราะสูตรนี้จะช่วยป้องกันการฝ้าในอนาคตได้ด้วยค่ะ
 
ปริมาณ 30 ml
ส่วนผสมหลัก Tranexamic acid 3%, Enzymacid Complex 5%, Tyr control complex 2% และ Niacinamide 5%
จากประเทศ สเปน
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

เซรั่มรักษาฝ้า Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter

เซรั่มรักษาฝ้า Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter
รูปภาพจาก clinique.co.th

ราคา 2,900 บาท*

เซรั่มรักษาฝ้าจากแบรนด์ Clinique ก็เป็นหนึ่งตัวที่สาว ๆ ต่างลงความเห็นว่าใช้ดีจริง ๆ เนื่องจากทางแบรนด์ใส่สารสำคัญมาหลายตัวมาก มาพร้อม 2 กลไกหลักในการลดฝ้า อย่างแรกจะใช้กลุ่ม CL-302 Complex ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีและผลัดเซลล์ผิวเก่าได้ในตัว ทำให้รอยสิวหรือจุดด่างดำดูจางลง และช่วยปรับสีผิวให้ดูกระจ่างใสสม่ำเสมอ โดยจะมีสารที่ใช้หลายตัวเลยค่ะ ทั้ง Ascorbyl Glucoside, Yeast Extract, Glucosamine และ Salicylic Acid ส่วนกลไกอันที่สองจะเป็นกลุ่ม Interrupter Complex ช่วยปลอมประโลมผิวที่อักเสบให้กลับมาแข็งแรงดูสุขภาพดี ซึ่งจะมีสารสกัดจากธรรมชาติทั้ง Gyokuro Extract, Mulberry Root Extract, Rice Bran Extract และ Dipotassium Glycyrrhizate เรียกว่าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่จะช่วยลดอาการระคายเคืองจากการผลัดเซลล์ผิว และมอบความชุ่มชื้นให้ผิวได้ในตัวไปเลยค่ะ

จุดเด่น

  • ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ เหมาะสำหรับผิวหน้าหมองคล้ำ และผู้ที่เป็นฝ้าหรือกระในระยะเริ่มต้น
ปริมาณ 30 ml
ส่วนผสมหลัก CL-302 Complex และ Interrupter Complex
จากประเทศ USA
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

เซรั่มรักษาฝ้า Eucerin Spotless Brightening Booster Serum

เซรั่มรักษาฝ้า Eucerin Spotless Brightening Booster Serum
รูปภาพจาก eucerin.co.th

ราคา 1,890 บาท*

อีกหนึ่งแบนด์ดังเรื่องรักษาฝ้าที่หากไม่มีในบทความนี้ไม่ได้เลยค่ะ ซึ่งก็คือเซรั่มรักษาฝ้าของ Eucerin สูตรนี้เป็นตัวดังที่หลาย ๆ คนรีวิวว่าใช้แล้วเห็นผลลัพธ์ดีจริง สารสำคัญที่ทางแบรนด์ใช้จะมี 3 ตัวคือ Thiamidol, Hyaluron และ Sodium Ascorbyl Phosphate (SAP) สำหรับ Thiamidol นั้นเป็นเอกสิทธิ์เฉพาะของ Eucerin ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิวและลดการเกิดฝ้า โดยมีงานวิจัยระบุว่าใช้เวลาภายใน 12 สัปดาห์เท่านั้นในการลดฝ้าที่เห็นผลอย่างชัดเจน โดยที่ไม่ทำให้ผิวบางหรือเกิดผลข้างเคียงใด ๆ ทำให้สาร Thiamidol กลายเป็นสารที่เป็นจุดเด่นของ Eucerin ไปเลยค่ะ ส่วน SAP เป็นอนุพันธ์วิตามินซีที่มีความเสถียรค่อนข้างสูง ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และลดการสร้างเม็ดสีผิว รวมถึงลดการเกิดผลกระทบจากรังสี UV ที่ทำร้ายผิวของเรา เสริมด้วย Hyaluron ที่ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวทำให้ผิวดูเรียบเนียนอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น

จุดเด่น

  • ช่วยลดรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มต้นมีปัญหาฝ้า และมีผิวบอบบางแพ้ง่าย
 
ปริมาณ 30 ml
ส่วนผสมหลัก Thiamidol, Hyaluron และ Sodium Ascorbyl Phosphate
จากประเทศ เยอรมนี
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

เซรั่มรักษาฝ้า Nivea Luminous 630 Spotclear Treatment [แพคเกจใหม่]

เซรั่มรักษาฝ้า Nivea Luminous 630 Spotclear Treatment [แพคเกจใหม่]
รูปภาพจาก nivea.co.th

ราคา 899 บาท*

สำหรับเซรั่มรักษาฝ้าของ Nivea ตัวนี้เป็นสูตรใหม่ที่ทางแบรดน์เปลี่ยนจากหัวปั้ม 2 หัวมาเป็นหัวเดียว และมีการใช้สารลูมินัส 630 ที่มีประสิทธิภาพสูง 10 เท่า สารสำคัญหลัก ๆ จะคล้ายกับของ Eucerin เล็กน้อย นั่นก็คือมี Sodium Ascorbyl Phosphate เป็นอนุพันธ์วิตามินซี, Isobutylamido thiazolyl resorcinol หรือก็คือเจ้าสาร Thiamidol ของ Eucerin นั่นแหละค่ะเป็นสารชนิดเดียวกัน ที่ช่วยลดการสร้างเม็ดสีผิว, Hyaluronic Acid ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวดูอิ่มฟูนุ่มเด้ง และสุดท้ายคือ Tocopheryl Acetate เป็นวิตามินอีเสถียร ที่เข้ามาเสริมให้วิตามินซีทำงานได้ดีขึ้นในแง่ของการลดการสร้างเม็ดสีผิวและยังช่วยต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงทำให้ผิวชุ่มชื่นได้ด้วยค่ะ

จุดเด่น

  • ช่วยลดรอยฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นมีปัญหาฝ้าจากแดด สำหรับผู้ที่มีบัดเจทจำกัด
ปริมาณ 30 ml
ส่วนผสมหลัก Sodium Ascorbyl Phosphate, Hyaluronic Acid, Isobutylamido thiazolyl resorcinol และ Tocopheryl Acetate
จากประเทศ เยอรมนี
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

เซรั่มรักษาฝ้า Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution

เซรั่มรักษาฝ้า Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution
รูปภาพจาก kiehls.co.th

ราคา 2,950 บาท*

เซรั่มตัวดังจากแบรนด์ Kiehl's ที่สาว ๆ หลายคนหลงรัก เพราะเป็นเซรั่มที่ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ อุดมไปด้วย 2 ส่วนผสมหลักที่ทำหน้าที่ลดเลือนจุดด่างดำ ฝ้า และกระได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็น Activated C อนุพันธ์วิตามินซีที่มีประสิทธิภาพสูง ซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ดี ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ช่วยลดการสร้างเม็ดสีเมลานิน หรือจะเป็น Salicylic Acid เป็นสารที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว เพื่อช่วยลดรอยและจุดด่างดำต่าง ๆ บนใบหน้า ทั้งนี้ยังเหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวอุดตันอีกด้วยเพราะ Salicylic Acid เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กสามารถซึมเข้าไปในรูขุมขนเพื่อสลายสิ่งอุดตันได้อย่างล้ำลึก ถือว่าสารทั้งสองตัวเป็นสารยอดฮิตที่นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ลดฝ้า กระ และจุดด่างดำ เพราะความมีความเสถียร ค่อนข้างปลอดภัย และมีผลข้างเคียงน้อยมาก ๆ หรือก็แทบจะไม่สร้างความระคายเคืองแก่ผิวเลยค่ะ

จุดเด่น

  • ช่วยให้ผิวสว่างกระจ่างใส ลดเลือนรอยดำ รอยแดง และจุดด่างดำ เหมาะกับคนที่มีปัญหาผิวหมองคล้ำ
ปริมาณ 30 ml
ส่วนผสมหลัก Activated C และ Salicylic Acid
จากประเทศ USA
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee
ดูได้ที่ Central

เซรั่มรักษาฝ้า DR.PONG MC1 Whitening Drone Melas Clear Serum

เซรั่มรักษาฝ้า DR.PONG MC1 Whitening Drone Melas Clear Serum
รูปภาพจาก drpongclinic.com

ราคา 399 บาท*

เซรั่มรักษาฝ้าจากแบรนด์ DR.PONG สูตรนี้มีส่วนผสมสำคัญที่ใช้เหมือนของ Mesoestetic นั่นคือ Tranexamic acid 3% ที่มีคุณสมบัติยับยั้งการสร้างเม็ดสีที่ทำให้เกิดฝ้าและผิวหน้าหมองคล้ำ จึงทำให้ผิวแลดูขาวกระจ่างใสมากขึ้น และยังมี Niacinamide 6% ซึ่งจะช่วยลดการส่งผ่านเม็ดสีผิว ทำให้ไม่เกิดฝ้าซ้ำ ๆ, Tocopheryl Acetate ช่วยลดการเสี่ยงการเกิดมะเร็งผิวหนัง, Sodium Ascorbyl Phosphate อนุพันธ์วิตามินซี ทั้งนี้ทางแบรนด์ยังได้ใส่ส่วนผสมหลายตัวที่เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ช่วยลดอาการระคายเคือง ปลอมประโลมผิว และเสริมชั้นผิวให้แข็งแรงขึ้น ตัวผลิตภัณฑ์เหมาะสำหรับรักษาฝ้าประเภทตื้นถึงกลาง รวมถึงผู้ที่ไม่เคยรักษาฝ้ามาก่อน แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์อย่างน้อย 1 เดือนขึ้นไปจึงจะเห็นผลการเปลี่ยนแปลงนะคะ

จุดเด่น

  • ช่วยรักษาฝ้า กระ จุดด่างดำ เหมาะสำหรับฝ้าประเภทตื้นถึงกลาง ในราคาประหยัด
 
ปริมาณ 16 ml
ส่วนผสมหลัก Tranexamic acid 3%, Niacinamide 6%, Tocopheryl Acetate และ Sodium Ascorbyl Phosphate
จากประเทศ ไทย
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

เซรั่มรักษาฝ้า L'Oreal Paris Glycolic Bright Instant Glowing Serum

เซรั่มรักษาฝ้า L'Oreal Paris Glycolic Bright Instant Glowing Serum
รูปภาพจาก loreal.com

ราคา 799 บาท*

เซรั่มรักษาฝ้าสูตรใหม่จาก L'Oreal ตัวนี้มีสารสำคัญอย่าง Glycolic acid ที่เน้นผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วให้หลุดออก เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กจึงสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างล้ำลึก, Salicylic acid ก็เป็นสารอีกตัวที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและซึบซาบเข้าสู่รูขุมขนได้ดี ช่วยลดการอุดตัน ทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพให้ Glycolic acid ผลัดเซลล์ผิวได้ดียิ่งขึ้น, 3-O-Ethyl Ascorbic acid หรืออนุพันธ์วิตามินซีที่ซึมซาบเข้าสู่ชั้นผิวได้ดี ช่วยต้านอนุมูลอิสระ และช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส

จุดเด่น

  • ช่วยปรับสีผิวให้สว่างกระจ่างใส ลดเลือนฝ้ากระจุดด่างดำได้ แต่จะเหมาะกับผิวที่แข็งแรง เพราะเนื่องจากมีสารผลัดเซลล์หลายตัว ทำให้ผิวที่แพ้ง่ายอาจจะระคายเคืองได้
ปริมาณ 30 ml
ส่วนผสมหลัก Glycolic acid, Salicylic acid, 3-O-Ethyl Ascorbic acid
จากประเทศ ฝรั่งเศส
เหมาะสำหรับ ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ Lazada
ดูได้ที่ Shopee

* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า

ตารางเปรียบเทียบ รีวิว เซรั่มลดฝ้า กระ จุดด่างดำ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

ยี่ห้อ/รุ่นสินค้าคุณสมบัติดูเพิ่มเติม

เซรั่มรักษาฝ้า Mesoestetic Melan Tran3x Intensive Depigmenting Concentrate

รูปภาพจาก mesoestetic.com

เซรั่มรักษาฝ้า Mesoestetic Melan Tran3x Intensive Depigmenting Concentrate

  • ปริมาณ: 30 ml
  • ส่วนผสมหลัก: Tranexamic acid 3%, Enzymacid Complex 5%, Tyr control complex 2% และ Niacinamide 5%
  • จากประเทศ: สเปน
  • เหมาะสำหรับ: ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

เซรั่มรักษาฝ้า Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter

รูปภาพจาก clinique.co.th

เซรั่มรักษาฝ้า Clinique Even Better Clinical Radical Dark Spot Corrector + Interrupter

  • ปริมาณ: 30 ml
  • ส่วนผสมหลัก: CL-302 Complex และ Interrupter Complex
  • จากประเทศ: USA
  • เหมาะสำหรับ: ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

เซรั่มรักษาฝ้า Eucerin Spotless Brightening Booster Serum

รูปภาพจาก eucerin.co.th

เซรั่มรักษาฝ้า Eucerin Spotless Brightening Booster Serum

  • ปริมาณ: 30 ml
  • ส่วนผสมหลัก: Thiamidol, Hyaluron และ Sodium Ascorbyl Phosphate
  • จากประเทศ: เยอรมนี
  • เหมาะสำหรับ: ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

เซรั่มรักษาฝ้า Nivea Luminous 630 Spotclear Treatment [แพคเกจใหม่]

รูปภาพจาก nivea.co.th

เซรั่มรักษาฝ้า Nivea Luminous 630 Spotclear Treatment [แพคเกจใหม่]

  • ปริมาณ: 30 ml
  • ส่วนผสมหลัก: Sodium Ascorbyl Phosphate, Hyaluronic Acid, Isobutylamido thiazolyl resorcinol และ Tocopheryl Acetate
  • จากประเทศ: เยอรมนี
  • เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

เซรั่มรักษาฝ้า Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution

รูปภาพจาก kiehls.co.th

เซรั่มรักษาฝ้า Kiehl's Clearly Corrective Dark Spot Solution

  • ปริมาณ: 30 ml
  • ส่วนผสมหลัก: Activated C และ Salicylic Acid
  • จากประเทศ: USA
  • เหมาะสำหรับ: ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee
ดูได้ที่ central

เซรั่มรักษาฝ้า DR.PONG MC1 Whitening Drone Melas Clear Serum

รูปภาพจาก drpongclinic.com

เซรั่มรักษาฝ้า DR.PONG MC1 Whitening Drone Melas Clear Serum

  • ปริมาณ: 16 ml
  • ส่วนผสมหลัก: Tranexamic acid 3%, Niacinamide 6%, Tocopheryl Acetate และ Sodium Ascorbyl Phosphate
  • จากประเทศ: ไทย
  • เหมาะสำหรับ : ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

เซรั่มรักษาฝ้า L'Oreal Paris Glycolic Bright Instant Glowing Serum

รูปภาพจาก loreal.com

เซรั่มรักษาฝ้า L'Oreal Paris Glycolic Bright Instant Glowing Serum

  • ปริมาณ: 30 ml
  • ส่วนผสมหลัก: Glycolic acid, Salicylic acid, 3-O-Ethyl Ascorbic acid
  • จากประเทศ: ฝรั่งเศส
  • เหมาะสำหรับ: ทุกสภาพผิว
ดูได้ที่ lazada
ดูได้ที่ shopee

ฝ้าหายแล้ว ทำไมกลับมาเป็นฝ้าอีก ? (1-5)

  • เลเซอร์ผิว : แม้ว่าเลเซอร์ผิวจะเป็นหนึ่งในวิธีการรักษาฝ้า แต่ทั้งนี้เครื่องเลเซอร์ผิวบางยี่ห้อที่ไม่มีคุณภาพก็อาจทำให้ผลข้างเคียงต่อเซลล์ผิว อาทิเช่น การเบิร์นชั้นผิวหนังกำพร้าจนทำให้ผิวบางลง ซึ่งจะไวต่อแสงแดด ทำให้เกิดฝ้าได้ง่ายขึ้น
  • ใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Hydroquinone : อย่างเราบอกไปแล้วว่า Hydroquinone เป็นสารที่สามารถใช้ได้ก็จริงแต่ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ ดังนั้นสกินแคร์บางตัวที่เราซื้อมาจากอินเตอร์เน็ตซึ่งอาจจะแอบใส่สาร Hydroquinone มาในปริมาณที่สูงมากเพื่อให้หน้าขาวเร็ว ๆ หรือต่อให้ใส่มานิดหน่อยแต่หากเราใช้ไปนาน ๆ โดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังใช้สาร Hydroquinone ก็จะทำให้เกิดฝ้าถาวรได้เลยค่ะ ดังนั้นจะเลือกซื้อสกินแคร์อะไร ยี่ห้อไหน เราขอแนะนำให้คุณเลือกดี ๆ ด้วยนะคะ
การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Hydroquinone จะทำให้เกิดฝ้าถาวร
การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ Hydroquinone จะทำให้เกิดฝ้าถาวร
  • ใช้สกินแคร์ที่มีการผลัดเซลล์ผิวเยอะเกินไป : แม้ว่าการผลัดเซลล์ผิวจะเป็นหนึ่งวิธีรักษาฝ้า เพราะมันจะทำให้ผิวหนังชั้นบนหลุด หรือเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป แต่การใช้ในปริมาณที่เกินความจำเป็นก็จะทำให้หน้าบางลง ซึ่งจะไวต่อแสงแดดมากขึ้น ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกันค่ะ ยกตัวอย่างเช่น การใช้มาสก์เลือดในตำนานของ The Ordinary แนะนำว่าใช้ได้แต่ให้ใช้เพียง 1-2 ต่อสัปดาห์พอค่ะ ไม่ควรใช้ทุกวัน
  • ไม่ทาครีมกันแดด : นอกจากนี้คุณควรหลีกเลี่ยงแสงแดดและควรการปกป้องผิวจากแสงแดดด้วย สิ่งเหล่านี้ถือว่าเป็นข้อควรปฏิบัติที่สำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันการเกิดฝ้าซ้ำ ไม่ว่าจะเป็นการสวมหมวกปีกกว้าง การใส่แว่นกันแดดเมื่อคุณอยู่กลางแจ้ง และการใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF50 หรือสูงกว่า ทั้งนี้ครีมกันแดดที่มีสารกันแดดทางกายภาพ อย่าง ซิงค์ออกไซด์หรือไททาเนียมไดออกไซด์ก็เป็นสารกันแดดที่ดีเพราะมีความอ่อยโยนต่อผิว ไม่ทำให้ผิวอุดตัน แนะนำ ครีมกันแดดสำหรับผิวบอบบาง, ครีมกันแดดสำหรับผิวมัน, ครีมกันแดดสำหรับผิวแห้ง, ครีมกันแดดสําหรับคนเป็นสิว, ครีมกันแดดสำหรับคนท้อง, ครีมกันแดดสำหรับวัยรุ่น, ครีมกันแดดเคาน์เตอร์แบรนด์ และครีมกันแดดแบรนด์ไทย

References :

  1. Melasma: an Up-to-Date Comprehensive Review
  2. Melasma: a clinical and epidemiological review
  3. Melasma: What are the best treatments?
  4. Role of Tranexamic Acid in the Clinical Setting
  5. Hydroquinone
Previous Post

รีวิว แปรงผมทรงแพดเดิล (Paddle Brush) ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

Next Post

รีวิว ไอเดียแต่งห้องนอนแนวญี่ปุ่น (มูจิ) แบบไหนดี ปี 2022

Mine Melody

Mine Melody

I am a graduate of Department of Computer Engineering Prince of Songkla University. I really enjoy writing and reviewing technology and women's products.

Next Post
รีวิว ไอเดียแต่งห้องนอนแนวญี่ปุ่น (มูจิ) แบบไหนดี

รีวิว ไอเดียแต่งห้องนอนแนวญี่ปุ่น (มูจิ) แบบไหนดี ปี 2022

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

รีวิว ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวแห้ง ยี่ห้อไหนดีสุด
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า

รีวิว ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าสำหรับผิวแห้ง ยี่ห้อไหนดีสุด ปี 2022

December 11, 2022
รีวิว มาสก์หน้า Garnier สูตรไหนใช้ดีที่สุด
Face Mask (มาสก์หน้า)

รีวิว มาสก์หน้า Garnier (การ์นิเย่) สูตรไหนใช้ดีที่สุด ปี 2022

March 21, 2022
รีวิว เซรั่มฟื้นฟูผิว เคาน์เตอร์แบรนด์ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
สกินแคร์เคาน์เตอร์แบรนด์

รีวิว เซรั่มเคาน์เตอร์แบรนด์ ช่วยฟื้นฟูผิว ยี่ห้อไหนดี ปี 2023

January 27, 2023
รีวิว โทนเนอร์ Innisfree แบบไหนใช้ดีที่สุด
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า

รีวิว โทนเนอร์ Innisfree (อินนิสฟรี) สูตรไหนใช้ดีที่สุด ปี 2022

September 7, 2022
รีวิว มาสก์ใต้ดวงตา แบบไหน ยี่ห้อไหนดี
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า

รีวิว มาสก์ใต้ดวงตา แบบไหน ยี่ห้อไหนดี ปี 2022

May 28, 2022
รีวิว ครีมซองเซเว่น ครีมซองบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดีที่สุด
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้า

รีวิว ครีมซองเซเว่น ครีมซองบำรุงผิวหน้า ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023

January 5, 2023

สินค้ายอดนิยม

  • แนะนำ แอพยืมเงินถูกกฎหมาย จากธนาคาร

    12 แอพยืมเงินถูกกฎหมาย จากธนาคาร ปี 2023

    10123 shares
    Share 4049 Tweet 2531
  • รถจักรยานยนต์ ออโตเมติก (เอที.) ไม่เกิน 6 หมื่น รุ่นไหนดี ปี 2023

    17949 shares
    Share 7180 Tweet 4487
  • รวม เกมออนไลน์ MMORPG เปิดใหม่บนคอมฯ (PC) ปี 2022-2023

    10078 shares
    Share 4031 Tweet 2520
  • ไอเดีย ของขวัญวันวาเลนไทน์ ที่ผู้ชายอยากได้ ปี 2023

    4206 shares
    Share 1696 Tweet 1046
  • รีวิว กล้องถ่ายรูป ที่ดีที่สุด สำหรับมือใหม่ ปี 2023

    45696 shares
    Share 18575 Tweet 11300
  • 9 แอปหาคู่ ปี 2023 ยอดนิยม แอปไหนดี: Tinder, Bumble, FB Dating

    2081 shares
    Share 832 Tweet 520

Recent Posts

  • 9 ลิปสติกโฟร์ยูทู (4U2) สีไหนดี สวย ติดทน ปี 2023
  • 10 ใบชา ยี่ห้อไหนอร่อย ( ชาไทย, ชาเขียว, ชาอู่หลง และชาอื่น ๆ)
  • บัตรเครดิต เงินเดือน 15,000 ทำบัตรไหนได้บ้าง ?
  • 9 แก้วสองชั้น ยี่ห้อไหนดี เก็บอุณหภูมิได้ดี สวยงาม
  • เครื่องผสมอาหาร ยี่ห้อไหนดี ทนทาน ซื้อแล้วคุ้ม ปี 2023

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ

© 2022 Best Review Asia