ทรงผมเป็นส่วนที่สำคัญมากค่ะเพราะทรงผมสามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพของเราได้ หลายคนจึงมักจะเข้าร้านทำผมอยู่บ่อย ๆ เพื่อเปลี่ยนทรงผมค่ะ เดี๋ยวนี้เทรนด์ทรงผมมีหลายแบบให้เราเลือกค่ะทั้งผมลอน ผมหยิก ผมวอลลุ่มแต่เทรนด์ทรงผมที่ได้รับความนิยมตลอดกาลคือเทรนด์ผมตรงค่ะ เพราะผมตรงเป็นทรงผมที่สวยหากเรามีผมตรงก็สามารถทำทรงผมได้อีกหลายทรงเลยค่ะ แต่หลาย ๆ คนไม่ได้มีผมตรงและมีน้ำหนักมาตั้งแต่เกิด ดังนั้นการที่เราจะมีผมตรงเราจะต้องหนีบผมเท่านั้น แต่การหนีบผมเป็นการจัดแต่งทรงผมแบบชั่วคราวค่ะและเราจำเป็นต้องมีเวลาในการหนีบผมด้วย แต่หากคุณไม่อยากเสียเวลาไปกับการหนีบผมการ “ยืดผม” ถือเป็นทางเลือกที่ดีค่ะ การยืดผมทำได้โดยการใช้น้ำยายืดผมและความร้อนค่ะ โดยราคาในการยืดผมจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวและคุณภาพของน้ำยายืด แต่หลังจากการยืดผมมาแล้วเราก็จำเป็นต้องดูแลค่ะ เราไม่สามารถใช้แชมพูและครีมนวดผมแบบธรรมดา ๆ ได้ ทางเบสท์รีวิวของเราเลยอยากแนะนำ “แชมพูสำหรับผมยืด” กันค่ะ หากตอนนี้พร้อมแล้วก็ไปดูกันค่ะว่าจะมีแบรนด์ไหนน่าสนใจกันบ้าง

ทำไมถึงต้องเลือกซื้อแชมพูสำหรับการยืดผมโดยเฉพาะ ?
การยืดผมเป็นขั้นตอนการจัดแต่งทรงผมที่ได้รับความนิยมมากในไทยค่ะ ในปัจจุบันนอกจากการยืดผมให้ตรงแบบธรรมดาแล้ว ยังมีการยืดผมวอลลุ่มและยืดผมแบบเคราตินด้วย การยืดผมจะต้องใช้น้ำยายืดผมแบบเฉพาะค่ะโดยปกติแล้วเส้นผมของเราจะประกอบด้วยกรดอะมิโนและโปรตีน ซึ่งกรดและโปรตีนเหล่านี้จะเชื่อมต่อกันด้วยพันธะพิเศษเพื่อสร้างโครงสร้างของเส้นผม ไม่ว่าผมของเราจะเป็นผมตรง ผมหยักศกหรือผมหยิกก็จะมีพันธะเหล่านี้อยู่ด้วยค่ะ แต่เมื่อเราใช้น้ำยายืดผมหรือทำเคมี สารเคมีเหล่านี้จะทำลายพันธะของเส้นผมแล้วสร้างใหม่เพื่อเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเส้นผมค่ะ

แน่นอนว่าการยืดผมเป็นกระบวนการที่ซับซ้อนเพราะต้องใช้สารเคมีและความร้อนเพื่อปรับเปลี่ยนโครงสร้างเส้นผมของคุณ การยืดผมอาจจะใช้เวลาตั้งแต่ 3-8 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับความยาวของเส้นผมค่ะและราคาในการยืดผมแต่ละครั้งก็แพงมากค่ะ เมื่อเรายืดผมมาแพง ๆ เราจำเป็นต้องดูแลผมให้ดีที่สุด ดังนั้นการเลือกแชมพูที่ออกแบบมาเพื่อผมยืดโดยเฉพาะจึงเป็นเรื่องที่จำเป็นมากค่ะ ในการเลือกแชมพูสำหรับผมที่ยืดมา เราอยากแนะนำให้ซื้อแชมพูที่ระบุไว้ว่า “เหมาะสำหรับผมผ่านการทำเคมี” ซึ่งแชมพูเหล่านี้อาจมีราคาแพงกว่าแชมพูทั่วไปอยู่เล็กน้อย แต่ก็ตอบสนองความต้องการของผมได้ดีค่ะ นอกจากนี้แชมพูสูตรสำหรับผมยืดก็ยังสามารถช่วยบำรุงเส้นผมและทดแทนโปรตีนที่อาจสูญเสียไปในระหว่างขั้นตอนการยืดผมได้ดีด้วยค่ะ
แชมพูสำหรับผมยืด ยี่ห้อไหนดี ?
- แชมพูลอรีอัลเสริมสร้างเส้นผม ด้วยวิตามินบี 6 และไบโอติน : L'Oreal Serie Expert Inforcer Anti-Breakage Shampoo แชมพู
- แชมพูสูตรเคราติน ราคาไม่แพงเหมาะสำหรับใช้หลังยืดผม: TRESemmé Keratin Smooth Hair Straightener Shampoo แชมพู
- แชมพูสูตรซ่อมแซมพันธะในเส้นผม ร้านทำผมนิยมใช้: Olaplex No.4: Bond Maintenance Shampoo แชมพู
- แชมพูสูตรปราศจากซัลเฟต เหมาะสำหรับคนที่มีหนังศีรษะบอบบาง: OGX Ever Stratening Brazilan Keratin Shampoo แชมพู
- แชมพูสูตรให้ความชุ่มชื้น เหมาะสำหรับคนที่มีผมแห้งหลังยืดผม: Kérastase Discipline Fluidealiste Shampoo แชมพู
![]() L'Oreal Serie Expert Inforcer Anti-Breakage Shampoo แชมพู | ![]() TRESemmé Keratin Smooth Hair Straightener Shampoo แชมพู | ![]() Olaplex No.4: Bond Maintenance Shampoo แชมพู | ![]() OGX Ever Stratening Brazilan Keratin Shampoo แชมพู | ![]() Kérastase Discipline Fluidealiste Shampoo แชมพู |
เคล็ดลับในการเลือกแชมพูสำหรับผมยืด
1. เลือกแชมพูสูตรสำหรับผมผ่านการทำเคมีเสมอ
การยืดผมเป็นการใช้ความร้อนและสารเคมีค่ะ แน่นอนว่าวิธีนี้จะมีประสิทธิภาพในการยืดผมให้ตรงอย่างถาวร เราเลยอยากแนะนำให้ทุกคนมองหาแชมพูสูตรพิเศษที่มีไว้สำหรับผมที่ผ่านการทำเคมีโดยเฉพาะ เพราะแชมพูเหล่านี้ได้รับการคิดค้นสูตรมาเป็นพิเศษเพื่อบำรุงผมและดูแลเส้นผมอย่างที่เราต้องการค่ะ ปกติแล้วแชมพูประเภทนี้จะมีส่วนผสมบำรุงผมมากมายค่ะส่วนใหญ่จะเป็นโปรตีน เคราติน คอลลาเจนและกรดอะมิโน หากถามว่าทำไมต้องเป็นส่วนผสมเหล่านี้เราขอตอบเลยค่ะว่าผมเราก็มีสารเหล่านี้เหมือนกันค่ะ แต่มันจะสูญเสียไปในระหว่างขั้นตอนการยืดผม ดังนั้นการใช้แชมพูที่มีส่วนผสมดังกล่าวจะเป็นการทดแทนสารอาหารที่เราเสียไปค่ะ นอกจากนี้ส่วนผสมอย่างน้ำมันอาร์แกนและน้ำมันมะพร้าวก็ดีต่อผมเหมือนกันเพราะจะช่วยเพิ่มความเงางามและเพิ่มวอลลุ่มให้กับเส้นผมค่ะ
2. เลือกแชมพูสูตรปราศจากซัลเฟตเพื่อป้องกันผมแห้งเสีย
Sodium Lauryl Sulfate (SLS) และ Sodium Laureth Sulfate (SLES) เป็นสารลดแรงตึงผิวที่มักจะมีในแชมพูค่ะ ซึ่งซัลเฟตในแชมพูใช้เป็นสารทำความสะอาดสามารถสร้างฟองได้หากใช้แล้วแล้วจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกและน้ำมันออกจากเส้นผม แต่สารเหล่านี้สามารถทำให้ปอยผมของเราแห้ง ทำให้ผมชี้ฟู นอกจากนี้ยังสามารถทำให้เกิดการระคายเคืองได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นคนที่มีหนังศีรษะที่บอบบาง เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการทำร้ายเส้นผมเราเลยอยากแนะนำให้ใช้แชมพูที่ปราศจากซัลเฟตจะดีกว่าค่ะ แชมพูปราศจากซัลเฟตเป็นแชมพูสูตรอ่อนโยนและจะเหมาะมากกับผมที่ผ่านการทำเคมีรวมถึงการยืดผมและการทำสี แชมพูที่ไม่มีซัลเฟตจะช่วยยืดระยะเวลาในการยืดผมและช่วยล็อกความชุ่มชื้นเพื่อให้ปอยผมนุ่มและเงางาม

3. อย่าลืมซื้อครีมนวดผมสูตรเดียวกันกับแชมพู
หลังจากยืดผมมาเส้นผมของเราจะต้องผ่านกระบวนการสร้างเซลล์ผมใหม่ ดังนั้นอย่าลืมหาครีมนวดผมที่เข้าชุดกันเพื่อให้ความชุ่มชื้นและการบำรุงเพิ่มเติมแก่เส้นผมค่ะ ทางที่ดีเมื่อสระผมควรใช้ครีมนวดตามหลังทุกครั้ง แชมพูสำหรับผมยืดส่วนใหญ่จะมีครีมนวดผมที่เข้าคู่กันซึ่งดีมากค่ะ เมื่อใช้คู่กันแล้วจะช่วยให้ผมนุ่มสลวย เรียบตรงและดูมีสุขภาพดีค่ะ จำไว้นะคะว่าครีมนวดผมเป็นสิ่งจำเป็นโดยเฉพาะสำหรับผมที่ผ่านการทำเคมี ครีมนวดผมจะมีทั้งแบบล้างออกและแบบไม่ล้างออกค่ะ หากเบื่อการใช้ครีมนวดผมแบบล้างออกแล้วให้ลองใช้ครีมนวดผมแบบไม่ต้องล้างออกบ้างก็ได้เพื่อให้เส้นผมของคุณมีสุขภาพที่ดียิ่งขึ้นค่ะ
L'Oreal Serie Expert Inforcer Anti-Breakage Shampoo แชมพู

ราคา 780 บาท*
L'Oreal Serie Expert Inforcer Anti-Breakage Shampoo เป็นแชมพูที่เราอยากแนะนำให้เป็นอันดับหนึ่งค่ะเพราะออกแบบมาเพื่อผมที่ผ่านเคมีจริง ๆ ทุกคนคงรู้ดีนะคะว่าเส้นผมที่แข็งแรงเป็นสิ่งสำคัญค่ะเพราะความแข็งแรงจะเป็นตัวกำหนดความสวยงามของเส้นผม แต่เมื่อเรายืดผมไปแล้วผมของเราจะขาดความแข็งแรงไปและเริ่มเปราะบาง แต่ปัญหานี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการใช้แชมพูสูตร Inforcer ค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูจะทำให้เส้นผมแข็งแรงมากขึ้น เพราะมีส่วนผสมของวิตามินบี 6 และไบโอติน ซึ่งส่วนผสมทั้ง 2 ชนิดจะช่วยชะลอการหลุดร่วงของเส้นผม ช่วยปรับสภาพเส้นผมที่เปราะบางและแห้งเสียให้แข็งแรงขึ้นค่ะ
ผู้เขียนไม่แปลกใจเลยค่ะว่าทำไม L'Oreal Serie Expert Inforcer ถึงได้รับความนิยมทั้งในและต่างประเทศ เพราะจากรีวิวมากมายพบว่าการใช้แชมพูสูตรนี้เป็นประจำร่วมกับครีมนวดผมสูตรเดียวกันไม่เพียงแต่จะทำให้เส้นผมแข็งแรงและสุขภาพดีเท่านั้น แต่แชมพูยังทำให้ผมสวยขึ้นอีกด้วยค่ะ หากใครอยากมีผมเงางามและมีความยืดหยุ่นมากขึ้นแนะนำเลยค่ะแต่อย่าลืมใช้เป็นประจำด้วยนะคะ
แชมพูลอรีอัลเป็นแชมพูที่ได้รับความนิยมมากในไทยค่ะ จากในรูปเป็นสูตรที่ทางแบรนด์ปรับปรุงใหม่แล้วค่ะและแพ็กเกจก็สวยมากด้วยค่ะ ส่วนผสมหลักของแชมพูคือวิตามินบี 6 และไบโอตินค่ะ แน่นอนว่าส่วนผสมเหล่านี้เหมาะกับผมที่ผ่านการยืดมามาก ๆ ค่ะ ผู้เขียนชอบทั้งสูตรและรูปแบบแพ็กเกจเลยค่ะเพราะใช้งานง่ายและมีกลิ่นหอมมากด้วย
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- เป็นแชมพูที่ตอบโจทย์สำหรับผมทำสี ยืดผมและผมทำเคมี
- แชมพูทำความสะอาดเส้นผมได้ดีมากและมีกลิ่นหอมติดทนนาน
- หากใช้งานเป็นประจำจะทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นและมีสุขภาพดีขึ้น
ปริมาณ | 300 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | วิตามินบี 6 และไบโอติน |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
TRESemmé Keratin Smooth Hair Straightener Shampoo แชมพู

ราคา 199 บาท*
TRESemmé Keratin Smooth Hair Straightener Shampoo เป็นอีกหนึ่งแชมพูที่ขายดีมาก ๆ เหมือนกันค่ะ โดยแชมพูสูตรนี้จะแตกต่างจาก L'Oreal Serie Expert Inforcer Anti-Breakage Shampoo เพราะเป็นแชมพูที่ไม่ใช้ไบโอตินเป็นส่วนผสมแต่ใช้เคราตินแทนค่ะ แน่นอนว่าเคราตินเป็นส่วนผสมที่มีในแชมพูบำรุงผมส่วนใหญ่ เพราะเคราตินจะเข้าไปช่วยบำรุงผมที่แห้งและชี้ฟู เมื่อใช้งานแล้วจะทำให้ผมตรงและเรียบขึ้น ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูได้ใช้ Kera10 Protein Complex ซึ่งจะมอบคุณประโยชน์ 10 ประการให้กับเส้นผมของเราค่ะ ซึ่งรวมถึงการทำให้ผมนุ่มและทำให้เส้นผมแข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ
ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดนี้จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมหลาย ๆ คนถึงชื่นชอบแชมพูจากทางแบรนด์ค่ะ โดยคอมเมนต์จากรีวิวเป็นคอมเมนต์ในเชิงบวกทั้งนั้นเลยค่ะ มีหลายคนบอกว่าแชมพูเทรซาเม่เป็นแชมพูที่ดีที่สุดในบรรดาแชมพูเคราตินทั้งหมดด้วย นอกจากนี้แชมพูยังทำให้ผมนุ่มและเรียบเนียนหลังการสระผมทุกครั้งด้วยค่ะ ใครที่กำลังมองหาแชมพูสำหรับใช้หลังจากยืดผมแนะนำเลยค่ะ
TRESemmé Keratin Smooth Hair Straightener Shampoo เป็นแชมพูขวดแดงในตำนานค่ะผู้เขียนเคยซื้อมาใช้และคุณภาพของแชมพูก็ดีมาก ๆ แชมพูมีเนื้อบางเบาค่ะใช้งานได้ง่าย ผลลัพธ์หลังใช้คือทำให้ผมมีน้ำหนักมากขึ้นแต่ควรใช้ร่วมกับครีมนวดผมนะคะเพราะจะเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานได้ดี กลิ่นของแชมพูก็หอมติดผมมากค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ทำความสะอาดหนังศีรษะได้ดีและให้ความเงางามกับเส้นผม
- มีเคราตินและน้ำมันอาร์แกนทำให้เส้นผมมีความนุ่มสลวย
- เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย ผมยืดและผมทำสี
ปริมาณ | 450 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | เคราตินและน้ำมันอาร์แกน |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
Olaplex No.4: Bond Maintenance Shampoo แชมพู

ราคา 1,490 บาท*
Olaplex No.4: Bond Maintenance Shampoo แชมพูที่หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกันมากนัก แต่ผู้เขียนเคยเห็นแชมพูนี้ในร้านทำผมอยู่ค่ะ แน่นอนว่าเป็นหนึ่งในแชมพูที่ราคาแรงมากแต่ประสิทธิภาพเหมาะสมกับราคาจริง ๆ ค่ะ Olaplex เป็นแบรนด์ชั้นนำด้านการดูแลเส้นผม ทางแบรนด์ได้คิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์เพื่อฟื้นบำรุงผมเสียจากภายในและหนึ่งในผลิตภัณฑ์ยอดนิยมของทางแบรนด์คือแชมพู No.4 ค่ะ
ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูสูตรนี้จะช่วยซ่อมแซมพันธะของเส้นผมที่ขาด ซึ่งพันธะเส้นผมที่ขาดออกมาทักเกิดจากปัจจัยทางความร้อน เช่น ความร้อนจากการยืดผม หนีบผมและปัจจัยทางเคมีอย่างการใช้สารคลายผมและสีผม แชมพูของทางแบรนด์มีการผสมผสานระหว่าง AHAs สารต้านอนุมูลอิสระ เปปไทด์ และวิตามิน หลังจากใช้แล้วจะช่วยบำรุงและซ่อมแซมเส้นผมอย่างล้ำลึกเพื่อให้ผมนุ่มสลวยและเงางาม นอกจากนี้ยังช่วยล็อกเส้นผมให้แข็งแรงขึ้นด้วยค่ะ
Olaplex No.4: Bond Maintenance Shampoo เป็นแชมพูที่ผู้เขียนเคยใช้ในร้านทำผมค่ะ แน่นอนว่าการทำผมครั้งนั้นแก็แพงมากแต่ก็คุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปค่ะ แบรนด์ Olaplex เป็นอีกแบรนด์ที่มีกระแสทั้งในไทยและต่างประเทศค่ะเพราะประสิทธิภาพดีจริง ๆ แชมพูสามารถช่วยฟื้นฟูเส้นผมหลังทำเคมีได้ดี อีกทั้งยังเป็นแชมพูที่ไม่มีซัลเฟตด้วยคนที่แพ้ง่ายหรือเป็นรังแคได้ง่ายสามารถใช้ได้สบาย ๆ เลยค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- แชมพูสามารถให้ความชุ่มชื้นและทำให้เส้นผมเงางามได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- สามารถซ่อมแซมผมแห้งเสีย ผมยืดและผมทำสีได้เป็นอย่าง
- ปราศจากซัลเฟตคนที่มีหนังศีรษะแพ้ง่ายสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการระคายเคือง
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | สารสกัดจากทับทิมและสารสกัดจากโรสแมรี |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
Pantene Smooth & Silky Shampoo แชมพู

ราคา 399 บาท*
Pantene Smooth & Silky Shampoo แชมพูที่คนไทยนิยมใช้ค่ะผู้เขียนเองก็ชอบค่ะเพราะราคาประหยัดมากค่ะ แชมพูจากทางแบรนด์เต็มไปสารอาหารและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ทางแบรนด์เคลมมาว่าหลังจากใช้งานแล้วจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงมากยิ่งขึ้น แชมพูจะช่วยทำความสะอาดเส้นผมอย่างอ่อนโยนและทำให้เส้นผมมีกลิ่นหอม อีกทั้งแชมพูยังได้รับการออกแบบมาเพื่อให้เส้นผมแต่ละเส้นคลายตัวทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีและเงางามยาวนาน
ส่วนผสมหลักของแชมพูคือน้ำมันทานตะวันและเคราตินค่ะ ซึ่งเป็นส่วนผสมที่จะช่วยบำรุงผมได้ดี แน่นอนว่าสารเคราตินในแชมพูทำให้แชมพูจากแพนทีนเป็นแชมพูเคราตินเหมือนกับ TRESemmé Keratin Smooth Hair Straightener Shampoo ค่ะและราคาของแชมพูทั้งสองแบรนด์ก็ไม่ได้ต่างกันมากด้วย ทันทีที่ได้เปิดขวดแชมพูเราจะได้กลิ่นแชมพูที่เป็นเอกลักษณ์และกลิ่นหอมเนี่ยแหละค่ะที่จะทำให้เส้นผมของเรามีกลิ่นหอมสดชื่นตลอดวัน
Pantene Smooth & Silky Shampoo เป็นแชมพูราคาประหยัดที่เราอยากแนะนำค่ะ สูตรสีเขียวเป็นสูตรที่ฮิตตลอดกาลค่ะและเป็นสูตรที่หลายคนเลือกใช้ นอกจากเส้นผมที่ผ่านการยืดแล้วสภาพผมอื่น ๆ ก็สามารถใช้ได้นะคะ กลิ่นหอมของแชมพูมีเอกลักษณ์และติดผมมากค่ะ แต่หากใครอยากใช้แชมพูแพนทีนสูตรอื่นก็ไปดูได้ในบทความของเรานะคะเพราะเราได้แนะนำไปแล้ว
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- มีส่วนผสมของโปรวิตามินสามารถบำรุงผมได้อย่างล้ำลึก
- สามารถใช้งานได้เป็นประจำเพราะเป็นสูตรที่อ่อนโยนมาก
- หากใช้ร่วมกับครีมนวดผมจะทำให้สุขภาพเส้นผมดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ปริมาณ | 680 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันทานตะวันและเคราติน |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
OGX Ever Stratening Brazilan Keratin Shampoo แชมพู

ราคา 307 บาท*
OGX Ever Stratening Brazilan Keratin Shampoo แชมพูที่เหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผมเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นผมแห้ง ผมทำสีหรือผมที่ผ่านการยืดผมก็สามารถใช้งานได้ แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในการรักษาเส้นผมให้นุ่มสลวยและเงางามคือการดูแลให้เส้นผมได้รับการบำรุงอยู่เสมอ แชมพูจาก OGX ก็ถือเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดเหมือนกันค่ะ เพราะมีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นมากมายไม่ว่าจะเป็นน้ำมันมะพร้าว, โปรตีนเคราติน, น้ำมันอะโวคาโดและบัตเตอร์โกโก้ค่ะ โดยส่วนผสมเหล่านี้เป็นส่วนผสมจากธรรมชาติทั้งหมดปลอดภัยต่อเส้นผมและหนังศีรษะค่ะ
ทางแบรนด์เคลมมาว่าการผสมผสานของส่วนผสมทั้งหมดจะทำให้ผมที่ผ่านการยืดนุ่มขึ้นและแข็งแรงขึ้น รวมทั้งทำให้เกล็ดผมเรียบลื่นมากขึ้น หลังจากใช้งานเป็นประจำผมจะตรง เรียบลื่นและแข็งแรงตามที่คุณต้องการอย่างแน่นอนค่ะ แต่อย่าลืมใช้ร่วมกับครีมนวดผมสูตรเดียวกันด้วยนะคะ เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพของแชมพูดีกว่าเดิมค่ะ
OGX Ever Stratening Brazilan Keratin Shampoo แชมพูสูตรเคราตินอีกหนึ่งแบรนด์ที่เราอยากจะแนะนำค่ะ โดยราคาของแชมพูจะแพงกว่า TRESemmé Keratin Smooth Hair Straightener Shampoo อยู่นิดหนึ่งค่ะ แต่แชมพูสูตรนี้ไม่มี SLS นะคะดังนั้นจึงเหมาะกับคนที่มีหนังศีรษะบอบบาง ผู้เขียนชอบตรงที่ส่วนผสมของแชมพูเป็นธรรมชาติทั้งหมดทำให้เราได้รับประโยชน์จากธรรมชาติแบบเต็ม ๆ ค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ช่วยให้ผมนุ่มสลวย จัดทรงง่ายและทำให้ผมมีความเงางาม
- ให้ความชุ่มชื่นแก่เส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปราศจากซัลเฟตและเหมาะกับทุกสภาพผม ใครที่มีหนังศีรษะแพ้ง่ายก็สามารถใช้ได้
ปริมาณ | 385 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | เคราติน, น้ำมันอะโวคาโด, โกโก้บัตเตอร์และน้ำมันมะพร้าว |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
Sunsilk Shampoo Perfect Straight Purple แชมพู

ราคา 169 บาท*
แนะนำแชมพู Pantene Smooth & Silky Shampoo กันไปแล้วจะขาด Sunsilk Shampoo Perfect Straight Purple ไปไม่ได้ค่ะ เพราะแชมพูทั้งสองแบรนด์ฮิตเหมือนกันและได้รับความนิยมในไทยเหมือนกัน ผู้เขียนเชื่อเหลือเกินว่าทุกคนจะต้องเคยใช้แชมพูจากแบรนด์เหล่านี้แน่นอน แชมพูสูตรนี้เป็นแชมพูสูตร Perfect Straight ซึ่งเป็นสูตรพิเศษจากซันซิลค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูจะสามารถช่วยล็อกผมให้ตรงได้และเป็นแชมพูที่สามารถใช้ได้กับทุกสภาพเส้นผม ใครที่เพิ่งยืดผมมาก็ใช้ได้เลยนะคะ
เทคโนโลยีที่ทางแบรนด์ใช้เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์สามารถล็อกผมให้ตรงและทำให้ผมนุ่มสลวยได้ นอกจากนี้แชมพูยังมีส่วนผสมของโปรตีนจากรังไหมเพื่อให้ผมมีน้ำหนักมากขึ้นด้วยค่ะ ราคาของแชมพูถูกมาก ๆ ค่ะและมีหลายไซซ์ให้เราได้เลือกด้วยค่ะ ใครที่ไม่เคยใช้สามารถใช้ซื้อแชมพูไซซ์เล็กมาลองใช้กันได้นะคะ
Sunsilk Shampoo Perfect Straight Purple แชมพูซันซิลขวดสีม่วงในตำนานค่ะและผู้เขียนก็ชอบมากเพราะมันช่วยล็อกผมตรงได้จริงแต่เป็นการล็อกผมแบบชั่วคราวนะคะ สำหรับคนที่ยืดผมมาแชมพูสูตรนี้จะช่วยได้มากเพราะจะทำให้เส้นผมนุ่มสลวยหลังใช้และลดการชี้ฟูได้ดี กลิ่นของแชมพูก็หอมมาก ราคาของแชมพูก็ไม่แพงด้วยแนะนำเลยค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- บำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึกและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
- สามารถล็อกผมให้ตรงหลังจากสระผมได้อย่างยาวนาน
- ลดความแห้งกร้านและชี้ฟู ทำให้เส้นผมนุ่มสลวยยิ่งขึ้น
ปริมาณ | 400 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันทานตะวันและเคราติน |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
Kérastase Discipline Fluidealiste Shampoo แชมพู

ราคา 1,290 บาท*
Kérastase เป็นแชมพูอีกหนึ่งแบรนด์ที่นิยมใช้ในร้านทำผมรองลงมาจาก Olaplex No.4: Bond Maintenance Shampoo ค่ะ โดยสูตรของแชมพูที่เราอยากแนะนำสำหรับผมที่ผ่านการยืดผมคือ Kérastase Discipline Fluidealiste Shampoo ค่ะ ทุกคนคงรู้ดีว่าผมที่ผ่านการทำเคมีจะอ่อนแอมากเพราะผมได้สัมผัสความร้อนและสารเคมีค่ะ ดังนั้นเราจึงอยากให้ทุกคนซื้อแชมพูที่ให้ความชุ่มชื้นและช่วยบำรุงเส้นผมโดยไม่ทำให้เส้นผมชี้ฟูค่ะ
แน่นอนว่าแชมพูจาก Kérastase เป็นตัวเลือกที่เหมาะมากเพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูสามารถทำความสะอาดเส้นผมได้ดี ในขณะเดียวกันก็ทำให้ผมเรียบลื่นมากขึ้น ความพิเศษของแชมพูคือได้ใช้เทคโนโลยี Morpho-Kératine™ Complex เป็นเทคโนโลยีที่สามารถช่วยเคลือบเส้นผมแต่ละเส้น ช่วยฟื้นฟูผมให้นุ่มและเรียบมากขึ้นด้วยค่ะ ราคาของแชมพูก็ถือว่าสูงเมื่อเปรียบเทียบกับแชมพูทั่วไปแต่เมื่อซื้อไปแล้วคุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ
Kérastase Discipline Fluidealiste Shampoo แชมพูจากแบรนด์ดังที่เราเคยแนะนำไปหลายบทความแล้วค่ะ แชมพู Kérastase เป็นแชมพูจากฝรั่งเศสที่เน้นการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อดูแลเส้นผมค่ะ หลายคนที่เคยใช้ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่จำเป็นต้องใช้ครีมนวดผมก็เรียบสวยหลังสระแล้วค่ะ ผู้เขียนเองก็เคยใช้แชมพูจากแบรนด์นี้ค่ะแต่ไม่เคยใช้สูตรนี้ ขอบอกเลยค่ะว่าคุณภาพดีจริงแต่ราคาแรงไปหน่อยค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- แชมพูช่วยทำให้ผมนุ่มสลวยและลดการชี้ฟูได้ดีในระดับหนึ่ง
- เนื้อสัมผัสของแชมพูเป็นกึ่งน้ำนมใช้งานง่ายและอ่อนโยนมาก
- สามารถทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | กรดซาลิไซลิก ลินาลูลและกรดกลูตามิก |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
Moroccanoil Smoothing Shampoo แชมพู

ราคา 795 บาท*
Moroccanoil Smoothing Shampoo เป็นแชมพูให้ความชุ่มชื้นที่เหมาะกับผมแห้งและผมที่ผ่านเคมีค่ะ แชมพูได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อลดความชี้ฟูโดยเฉพาะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูจะช่วยทำให้เส้นผมเรียบขึ้น ลดการชี้ฟูและทำให้เส้นผมจัดทรงได้ง่ายขึ้น ส่วนผสมหลักของแชมพูคือน้ำมันโมรอคแคน (Moroccan Oil) ค่ะ ซึ่งในน้ำมันโมรอคแคนมีส่วนผสมของ AminoRenew เป็นส่วนผสมพิเศษที่จะช่วยปรับโครงสร้างเคราตินตามธรรมชาติของเส้นผม
แต่นอกจากน้ำมันโมรอคแคนแล้วแชมพูยังมีการเพิ่มน้ำมันอาร์แกนเพื่อบำรุงผมเพิ่มเติมด้วยค่ะ ขอบอกเลยค่ะว่าแชมพูนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ผมของเราสลวยเท่านั้นแต่ยังมีกลิ่นหอมติดทนนานอีกด้วย ดังนั้นใครที่อยากให้ผมสวยและนุ่มขึ้นต้องซื้อมาใช้นะคะ แต่ทางเราอยากแนะนำให้ซื้อครีมนวดและมาสก์ผมจากทางแบรนด์มาใช้ควบคู่กันไปด้วยนะคะเพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการสระผมและดูแลผมดีมากขึ้น
Moroccanoil Smoothing Shampoo เป็นแชมพูที่เหมาะกับทุกสภาพเส้นผมค่ะ คนที่ไม่ทำเคมีก็สามารถใช้งานได้ สูตรของแชมพูเป็นสูตรให้ความชุ่มชื้นเช่นเดียวกับ Kérastase Discipline Fluidealiste Shampoo ค่ะ แต่ส่วนผสมของ Moroccanoil จะเน้นความเป็นธรรมชาติมากกว่า อีกทั้งแชมพูยังไม่มีซัลเฟตด้วย ใครที่อยากรู้ว่าแชมพูดีจริงไหมต้องลองค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- แชมพูเป็นสูตรอ่อนโยนที่ให้ความชุ่มชื้นและเหมาะสำหรับทุกสภาพเส้นผม
- เหมาะสำหรับผมที่ผ่านการยืดผมและแห้งเสีย
- ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่ชี้ฟูและแห้งเสียได้อย่างรวดเร็ว
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันโมรอคแคนและน้ำมันอาร์แกน |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
Schwarzkopf BC Bonacure Repair Rescue Shampoo แชมพู

ราคา 392 บาท*
Schwarzkopf BC Bonacure Repair Rescue เป็นแชมพูที่นิยมใช้ในร้านทำผมเช่นเดียวกับ Kérastase และ Olaplex เลยค่ะแต่ราคาจะถูกกว่าและหาซื้อได้ง่ายกว่าค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูสูตรนี้จะช่วยบำรุงเส้นผมด้วยเทคโนโลยีรีเวิร์ซไซเลนทำให้แชมพูเหมาะกับสภาพเส้นผมทุกประเภท แต่จะเหมาะอย่างยิ่งกับผมที่ผ่านการทำเคมีมาค่ะ ตัวแชมพูใช้งานได้ง่ายมากค่ะและเป็นแชมพูที่ช่วยบำรุงผมได้อย่างรวดเร็ว
หลังจากใช้งานแล้วแชมพูจะช่วยให้ผมเงางามและมีสุขภาพดีมากขึ้น นอกจากนี้แชมพูยังมีเทคโนโลยีการสร้างเซลล์อะมิโนสามารถทำให้โปรตีนที่จำเป็นคืนกลับสู่เส้นผมและทำให้เส้นผมดูสุขภาพดี ใครที่อยากซื้อแชมพูคุณภาพในราคาที่ต่ำลงมาหน่อยแนะนำเลยค่ะ เพราะแชมพูจาก Schwarzkopf ดีมากจริง ๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีครีมนวดและทรีตเมนต์ให้ซื้อมาใช้คู่กันอีกด้วยค่ะ
Schwarzkopf BC Bonacure Repair Rescue เป็นแชมพูอีกหนึ่งแบรนด์ที่ไม่ควรพลาดค่ะ ราคาของแชมพูจะไม่แพงมากค่ะโดยสูตรนี้จะเหมาะกับคนที่ทำเคมีมากจริง ๆ เพราะใช้เทคโนโลยีในการดูแลเส้นผมที่เป็นเอกลักษณ์ค่ะ แชมพูอ่อนโยนมาก ๆ และไม่มีสารซัลเฟตด้วยค่ะ ตอนนี้ทางแบรนด์ได้ปรับแพ็กเกจใหม่แล้วด้วยทำให้แชมพูน่าใช้งานมากกว่าเดิม
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- หากใช้เป็นประจำจะช่วยให้เส้นผมแข็งแรงและจัดทรงได้ง่าย
- ตอบโจทย์สภาพผมแห้งและผมที่ผ่านการทำเคมี
- แชมพูใช้งานง่ายอ่อนโยนต่อเส้นผมพร้อมบำรุงผมในระหว่างสระผม
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | เชียบัตเตอร์ กรดอะมิโนจากถั่วเหลืองและกรดอมิโนจากข้าวสาลี |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
Davines Nounou Shampoo แชมพู

ราคา 489 บาท*
Davines Nounou Shampoo เป็นแชมพูบำรุงผมสูตรอ่อนโยนที่ตอบโจทย์สำหรับผมแห้ง เปราะบางและผมเสียที่เกิดจากการทำเคมี เช่น การยืดผมและการทำสีผมค่ะ จุดเด่นของแชมพูคือมีฟองโฟมเข้มข้นมากค่ะ หลังจากใช้งานแล้วแชมพูจะช่วยมอบความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกให้กับเส้นผมค่ะ
ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่านอกจากแชมพูจะปราศจากซัลเฟตแล้ว ผลิตภัณฑ์นี้ยังปราศจากพาราเบนจึงปลอดภัยสำหรับคนที่มีหนังศีรษะแพ้ง่าย แชมพูใช้ส่วนผสมจากผลไม้และผักสายพันธุ์หายาก โดยส่วนผสมหลักคือสารสกัดจากมะเขือเทศ กลีเซอรีนและแพนทีนอล นอกจากนี้แชมพูยังอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลเส้นผมค่ะ
Davines Nounou Shampoo เป็นแชมพูสูตรอ่อนโยนและเหมาะสำหรับคนที่มีหนังศีรษะแพ้ง่ายค่ะ ผู้เขียนชอบตรงที่แชมพูมีฟองเยอะมากทำให้ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้ดี อีกทั้งแชมพูยังใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติและเป็นสูตรที่ไม่มีซัลเฟตด้วยค่ะ หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับแชมพูจากแบรนด์นี้แต่ขอบอกเลยค่ะว่า Davines Nounou Shampoo ได้รับความนิยมมาก ๆ ในต่างประเทศค่ะ
จุดเด่นของผลิตภัณฑ์
- ฟองจากแชมพูเยอะมากสามารถทำความสะอาดเส้นผมได้ดี
- ใช้ส่วนผสมจากธรรมชาติเพื่อฟื้นฟูผมที่ทำเคมี
- แชมพูปราศจากซัลเฟตคนที่มีหนังศีรษะแพ้ง่ายสามารถใช้งานได้
ปริมาณ | 250 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | สารสกัดจากมะเขือเทศ กลีเซอรีนและแพนทีนอล |
ปราศจากซัลเฟต | |
มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กัน |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการดูแลผมหลังยืด
เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับแชมพูสำหรับผมยืดที่เราได้แนะนำกันไป เราหวังว่าทุกคนจะสามารถเลือกซื้อแชมพูที่ถูกใจกันได้นะคะ แต่ทุกคนคะนอกจากการใช้แชมพูแล้วเราก็จำเป็นต้องบำรุงผมเพิ่มเติมเพื่อให้เส้นผมของเราตรงยาวนานและไม่ต้องยืดผมซ้ำบ่อย ๆ ด้วยค่ะ แน่นอนว่าวันนี้เรามีเคล็ดลับในการดูแลผมหลังยืดมาฝากกันค่ะไปดูกันได้เลย
- ใช้ครีมนวดผม การปรับสภาพเส้นผมเป็นเรื่องสำคัญหลังจากการยืดผมค่ะ เพราะหลังจากการยืดผมเส้นผมของเราจะแห้งและต้องการความชุ่มชื้นเป็นอย่างมาก ดังนั้นการสระผมร่วมกับการใช้ครีมนวดผมจึงเป็นทางเลือกที่ดีในการดูแลผมค่ะ
- ใช้มาสก์ผม การยืดผมจะทำให้พันธะในเส้นผมอ่อนแอค่ะ ดังนั้นเส้นผมของเราจึงต้องการโปรตีนและต้องการความชุ่มชื้นเพื่อฟื้นฟูสุขภาพเส้นผม การดูแลเส้นผมด้วยมาสก์และทรีตเมนต์โปรตีนจะเหมาะมากเพราะมันจะช่วยปรับสภาพผมอย่างดีและช่วยสร้างพันธะเส้นผมขึ้นมาใหม่
- ใช้ครีมนวดผมและเซรั่มแบบไม่ต้องล้างออก ครีมนวดผมและเซรั่มแบบไม่ต้องล้างออกจะช่วยสร้างเกราะป้องกันรอบแกนผม ป้องกันการสูญเสียความชุ่มชื้นและเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม นอกจากนี้ยังช่วยปกป้องเส้นผมจากความร้อนได้ดีมากด้วย
- ใช้หวีซี่ห่าง หลังจากยืดผมมาแล้วเส้นผมเราจะเปราะบางมากค่ะ ดังนั้นการใช้หวีซี่ห่างที่ทำจากไม้จึงเหมาะที่จะใช้เพราะจะช่วยปกป้องเส้นผม หวีซี่ห่างจะช่วยป้องกันผมร่วงและผมแตกปลายได้ดีค่ะ แต่ไม่แนะนำให้หวีผมในขณะที่ผมเปียกนะคะ
- ใช้น้ำมันบำรุงผม การใช้น้ำมันเป็นประจำจะช่วยให้เส้นผมของเรากลับมามีสุขภาพดีค่ะ ในการใช้สามารถใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก น้ำมันอัลมอนด์ น้ำมันโจโจบาและน้ำมันละหุ่งก็ได้ค่ะ ขอบอกนะคะว่านอกจากน้ำมันจะช่วยให้ความชุ่มชื้นและบำรุงเส้นผมแล้ว น้ำมันยังช่วยดูแลสุขภาพของหนังศีรษะด้วยค่ะ
