การสระผมเป็นกิจวัตรที่เราจำเป็นต้องทำเป็นประจำค่ะอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้ง เพราะในแต่ละวันเส้นผมและหนังศีรษะของเราต้องเจอกับมลภาวะมากมายที่อาจจะทำให้เส้นผมสกปรกและแห้งเสีย แน่นอนว่าหากเราต้องการสระผมการเลือกใช้แชมพูเป็นเรื่องที่สำคัญค่ะ เราจำเป็นต้องเลือกแชมพูให้เหมาะกับสภาพเส้นผม หากผมของเราแห้งเสียมากก็จะต้องใช้ครีมนวดผมและทรีตเมนต์ร่วมด้วยเพื่อให้สุขภาพเส้นผมดีขึ้น แต่วันนี้ทางเราไม่ได้แนะนำครีมนวดผมนะคะเราจะมาแนะนำแชมพู
หลายคนอาจจะรู้ดีว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาแชมพูแบบไร้ซิลิโคนได้รับความนิยมมาก แม้ว่าแชมพูสูตรนี้จะให้ความรู้สึกสดชื่นหลังจากการสระ แต่บางคนอาจไม่ชอบความรู้สึกที่ผมแห้งหลังใช้ หากคุณไม่ชอบความรู้สึกนั้นทางเราอยากแนะนำให้เลือกใช้ “แชมพูซิลิโคน” แชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคนจะสามารถสร้างฟิล์มบาง ๆ บนเส้นผม ทำให้ผมเรียบลื่นและหวีง่าย อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้ผมชี้ฟูและเสียหายจากการเสียดสีด้วย หากวันนี้คุณกำลังหาซื้อแชมพูซิลิโคนอยู่ก็ห้ามพลาดเพราะเราจะมาแนะนำแชมพูที่มีซิลิโคนกันค่ะ
แชมพูซิลิโคนจากแบรนด์ไหน ช่วยให้ผมนุ่มลื่นหลังสระและเหมาะกับคุณมากที่สุด ?
- แชมพูช่วยลดผมชี้ฟู กลิ่นหอมติดผมยาวนาน: L'Oréal Paris Elseve Keratin Smooth 72H Perfecting Shampoo แชมพู
- แชมพูสูตรน้ำมันเมล็ดคามิเลียจากญี่ปุ่น ช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียได้: Tsubaki Premium Moist Shampoo แชมพู
- แชมพูเคราตินเข้มข้น ตอบโจทย์ผมแห้งและผ่านการทำเคมี: TRESemmé Keratin Smooth Shampoo แชมพู
- แชมพูจากเกาหลี เหมาะกับผมแห้งเสียที่ผ่านความร้อนมาเยอะ: Mise en Scene Damage Care Hair Shampoo แชมพู
- แชมพูขจัดรังแค เพิ่มความแข็งแรงให้หนังศีรษะ หลังใช้ผมนุ่มไม่แห้ง: Head & Shoulder Shampoo Anti Dandruff Smooth Silky แชมพู
![]() L'Oréal Paris Elseve Keratin Smooth 72H Perfecting Shampoo แชมพู | ![]() Tsubaki Premium Moist Shampoo แชมพู | ![]() TRESemmé Keratin Smooth Shampoo แชมพู | ![]() Mise en Scene Damage Care Hair Shampoo แชมพู |
ซิลิโคนคืออะไร ? แล้วระหว่างแชมพูซิลิโคนและแชมพูไม่มีซิลิโคนแบบไหนดีกว่า ? (1,2)
ซิลิโคนเป็นสารที่มนุษย์สร้างขึ้นและมีประโยชน์หลายอย่างเลยค่ะ สารซิลิโคนเป็นสารที่ผมได้บ่อยในผลิตภัณฑ์ดูแลร่างกายและเครื่องสำอาง คุณจะสามารถพบสารชนิดนี้ได้ในผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมหลากหลายประเภท ตั้งแต่แชมพูและครีมนวดผมไปจนถึงเซรั่ม เหตุผลที่หลาย ๆ แบรนด์ใช้ซิลิโคนเป็นส่วนผสมหลักในการดูแลเส้นผมคือ “ซิลิโคนจะช่วยเคลือบแกนผม ช่วยกักเก็บความชื้น ลดการชี้ฟูและช่วยให้ผมนุ่มสลวยดุจแพรไหม”

แต่ซิลิโคนก็มีข้อเสียเหมือนกันค่ะข้อเสียที่ชัดเจนของซิลิโคนในแชมพูคือ “ซิลิโคนจะมีชั้นปิดผนึกช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้นจากภายใน แต่ชั้นป้องกันนี้สามารถปิดกั้นส่วนผสมบำรุงอื่น ๆ ไม่ให้แทรกซึมลึกเข้าไปในเส้นผม” เมื่อเวลาผ่านไปซิลิโคนอาจสะสมบนเส้นผมของเราทำให้ผมอ่อนแอลง แต่แชมพูในปัจจุบันมีปริมาณซิลิโคนที่เหมาะสมไม่เป็นอันตรายต่อเส้นผมอย่างแน่นอน
หากถามว่าระหว่างแชมพูซิลิโคนและแชมพูไม่มีซิลิโคนแบบไหนดีกว่ากัน ? ผู้เขียนมองว่าทุกอย่างมันขึ้นอยู่กับความชอบค่ะ หากคุณชอบให้เส้นผมดูเรียบลื่นและหวีง่ายไม่พันกันให้เลือกแชมพูที่มีซิลิโคน แต่ถ้าคุณมีผมเส้นเล็ก ผมบางและมีผิวบอบบางแพ้ง่าย การเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของซิลิโคนอาจจะไม่เหมาะเพราะอาจทำให้ผมร่วง มีอาการคันหนังศีรษะและอาการอื่น ๆ ได้ แม้ว่าซิลิโคนจะมีข้อเสีย แต่ก็ไม่มีอันตรายใด ๆ เกี่ยวกับส่วนผสมดูแลเส้นผมยอดนิยมนี้
จำไว้นะคะทุกคนซิลิโคนไม่ใช่สารเคมีที่เป็นพิษ การใช้ซิลิโคนกับเส้นผมของเราจึงปลอดภัยและจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย สิ่งเดียวที่สามารถส่งผลกระทบได้คือเส้นผมของเราอาจจะแห้งและมีคราบซิลิโคนสะสม หากคุณต้องการลดผลกระทบที่เกิดจากซิลิโคนให้ปรับใช้แชมพูที่มีซิลิโคนในปริมาณที่น้อยลงกว่าเดิมหรือสลับกันใช้กับแชมพูอื่น ๆ ค่ะ
เคล็ดลับในการเลือกซื้อแชมพูซิลิโคน
1. เช็กให้ดีว่าแชมพูที่เราซื้อมีซิลิโคนจริงไหม
ในการซื้อแชมพูเราจำเป็นต้องดูและอ่านฉลากทุกครั้งค่ะ ส่วนผสมในแชมพูซิลิโคนส่วนใหญ่ไม่ได้ระบุด้วยคำว่า “ซิลิโคน” ในภาษาไทยหรือ “Silicone” ในภาษาอังกฤษเอาไว้ ดังนั้นเมื่อซื้อแชมพูเราต้องอ่านฉลากเพื่อให้เราสามารถตัดสินได้ว่ามีส่วนผสมที่เราต้องการ สารประกอบที่เราจะให้ข้อมูลดังต่อไปนี้เป็นส่วนผสมของซิลิโคนทั้งหมดที่นิยมใช้ในแชมพูค่ะ ในแชมพูบางแบรนด์อาจจะใช้เพียงชนิดเดียวแต่ในบางแบรนด์ก็อาจจะใช้ 2 – 3 ชนิดขึ้นไปค่ะ หากมีรายการส่วนผสมเหล่านี้ในฉลากก็หมายความว่าแชมพูของเรามีซิลิโคน แต่ถ้าไม่มีก็หมายความว่าแชมพูที่เราซื้อเป็นสูตรไม่มีซิลิโคนค่ะ
- ไดเมทิโคน (Dimethicone)
- ไซโคลเมทิโคน (Cyclomethicone)
- ฟีนิลไตรเมทิโคน (Phenyl Trimethicone)
- อะโมไดเมทิโคน (Amodimethicone)
- ซิลิกา (Silica)
- ไซลิล (Silyl)
- ไซเลน (Silane)
2. เลือกชนิดของสารทำความสะอาดในแชมพู
แชมพูมีส่วนผสมในการทำความสะอาดมากมาย ในการเลือกแชมพูเราสามารถตัดสินได้จากรายการส่วนผสมที่มีอยู่ค่ะ ในครั้งนี้เราจะมาแนะนำผลิตภัณฑ์แชมพูที่มีกรดอะมิโน แอลกอฮอล์และเบทาอีนเป็นสารทำความสะอาดกัน ผู้ซื้ออย่าลืมตรวจสอบคำอธิบายผลิตภัณฑ์อย่างละเอียดก่อนซื้อนะคะ
|
กรดอะมิโนเหมาะสำหรับหนังศีรษะแห้งและผมเสีย ลักษณะของส่วนผสมทำความสะอาดแบบกรดอะมิโน (Amino Acid) คือมีความสามารถในการขจัดน้ำมันส่วนเกินอย่างอ่อนโยนโดยไม่ก่อให้เกิดภาระบนหนังศีรษะและเส้นผมมากเกินไป แชมพูกรดอะมิโนจะเหมาะสำหรับทุกคนและทุกสภาพเส้นผมเลย แต่จะเหมาะกับคนที่มีผมแห้งเสียมากที่สุด ถึงแม้ว่ากรดอะมิโนจะช่วยขจัดน้ำมันส่วนเกินอย่างอ่อนโยน แต่ไม่ได้หมายความว่าสิ่งสกปรกยังคงอยู่หลังจากสระผม เพราะกรดอะมิโนยังสามารถขจัดน้ำมันและความมันส่วนเกินได้ดี ต่อไปเป็นส่วนผสมของกรดอะมิโนที่พบได้บ่อยในแชมพู Potassium Cocoyl Glycinate, Sodium Cocoyl Glutamate, Sodium Lauroyl Glutamate และ Sodium Methyl Cocoyl Taurate |
|
แอลกอฮอล์เหมาะสำหรับหนังศีรษะมัน แชมพูที่มีแอลกอฮอล์จะมีความสามารถในการทำความสะอาดสูง ให้ความรู้สึกสดชื่นและให้ความสะอาดหลังสระผม เมื่อเปรียบเทียบกับแชมพูกรดอะมิโนที่ช่วยขจัดสิ่งสกปรกและทำความสะอาดหนังศีรษะ แชมพูแอลกอฮอล์จะละลายน้ำมันส่วนเกินและทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า อย่างไรก็ตามส่วนผสมนี้จะขจัดน้ำมันที่จำเป็นออกจากหนังศีรษะ ซึ่งจะทำให้หนังศีรษะขาดความสมดุล อาจจะทำให้เกิดรังแคและคันหนังศีรษะได้ง่าย แชมพูชนิดแอลกอฮอล์เป็นแชมพูที่มีส่วนผสมดังต่อไปนี้ Sodium laureth sulfate, Sodium lauryl sulfate, Sulfosuccinic acid และ Sulfonate |
|
เบทาอีนเหมาะสำหรับคนที่มีผิวบอบบาง เบทาอีนเป็นส่วนผสมที่ได้มาจากพืช มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน คล้ายกับแชมพูกรดอะมิโนค่ะ แม้ว่าส่วนผสมทั้งสองจะมีต้นกำเนิดจากกรดอะมิโนเหมือนกัน แต่ประเภทของส่วนผสมทำความสะอาดก็แตกต่างกัน เบสของกรดอะมิโนเป็นสารลดแรงตึงผิวที่มีไอออนลบ ในขณะที่เบทาอีนเป็นสารลดแรงตึงผิวแบบแอมโฟเทอริกที่มีไอออนลบและไอออนบวกผสมกัน คนที่มีผิวแพ้ง่าย คันหรือหนังศีรษะแห้ง ควรเลือกแชมพูเบทาอีนจากธรรมชาติค่ะ ต่อไปนี้เป็นส่วนผสมที่จัดอยู่ในกลุ่มเบทาอีน Cocamidopropyl Betaine, Lauramide Propyl Betaine, Lauryl Hydroxysultaine และ Sodium Lauroamphoacetate |
3. เลือกส่วนผสมให้เหมาะกับปัญหาผม
- ผมแห้งเสีย แชมพูเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะ แต่นอกเหนือจากการขจัดสิ่งสกปรกและความมันแล้ว การเพิ่มความชุ่มชื้นในปริมาณที่เหมาะสมก็มีความสำคัญอย่างยิ่งเช่นกัน หากใครที่กังวลว่าเส้นผมจะแห้งและไม่มีชีวิตชีวาควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์แชมพูที่มีส่วนผสมให้ความชุ่มชื้นค่ะ อาจจะเลือกแชมพูที่มีส่วนผสมของน้ำมันจากธรรมชาติ เคราตินและโปรตีนก็ได้ค่ะ
- ผมร่วง สาเหตุหลักของผมร่วงในผู้หญิงคือการเปลี่ยนแปลงของการหลั่งฮอร์โมนและความเครียด วิธีแก้ปัญหาผมร่วงได้ดีที่สุดคือรักษาหนังศีรษะให้สะอาดและมีสุขภาพดีอยู่เสมอ ขอบอกก่อนเลยค่ะว่าสภาพแวดล้อมของหนังศีรษะจะเปลี่ยนไปขึ้นอยู่กับวิธีการสระผมของเราค่ะ หากเราสระผมมากเกินไปจะทำให้หนังศีรษะแห้ง หากเราสระผมไม่สะอาดก็จะทำให้หนังศีรษะอุดตัน หากคุณมีผมร่วงคุณสามารถเลือกแชมพูลดผมร่วงได้แต่ก็ต้องเลือกแชมพูที่เหมาะสมสำหรับหนังศีรษะของเราด้วย เพราะหากเลือกแชมพูถูกเส้นผมของเราจะดีขึ้นแต่ถ้าเลือกผิดปัญหาผมร่วงจะแย่ลง
- ผมทำสี ใครที่ทำสีผมจะต้องเลือกแชมพูที่ออกแบบมาเพื่อรักษาสีผมโดยเฉพาะ โดยส่วนใหญ่จะเป็นแชมพูสีม่วงค่ะ แชมพูสีม่วงมีฟังก์ชันในการทำให้สีย้อมผมที่เฟดมีความเป็นกลางและรักษาสีผมให้ติดทนยาวนานขึ้น แต่หากคุณเพิ่งย้อมผมและไม่ได้ฟอกผมแชมพูสีม่วงไม่เหมาะค่ะให้เลือกแชมพูรักษาสีผมธรรมดา ๆ ดีกว่า
L'Oréal Paris Elseve Keratin Smooth 72H Perfecting Shampoo แชมพู

ราคา 129 บาท*
L'Oréal Paris Elseve Keratin Smooth 72H Perfecting Shampoo เป็นแชมพูที่ฮิตและดังมาก ๆ ค่ะ ผู้เขียนเชื่อว่าทุกคนจะต้องรู้จักเพราะเป็นแชมพูที่มีกระแสในโลกออนไลน์อยู่พักหนึ่งเลย ส่วนผสมหลักของแชมพูคือน้ำมันสกัดจากกดอกคามิเลีย น้ำมันเมล็ดเทียนดำและโปรตีนข้าวสาลีไฮโดรไลซ์เพื่อบำรุงและฟื้นฟูผมแห้งเสียชี้ฟู แชมพูของลอรีอัลขึ้นชื่อเรื่องความสามารถในการทำให้ผมนุ่มอยู่แล้วและสูตรนี้ก็ทำได้เหมือนกันค่ะ แต่ถ้าหากอยากให้สุขภาพผมดีขึ้นหลาย ๆ เท่าต้องใช้ครีมนวดผม มาสก์และเซรั่มสูตรเดียวกันด้วย
จุดเด่นอีกหนึ่งอย่างของแชมพูคือมีกลิ่นหอมเพราะมีส่วนผสมของน้ำมันหอมระเหยใช้แล้วผมหอมขึ้นทันที ซิลิโคนที่ทางแบรนด์ใช้เป็น Amodimethicone และ Dimethicone นะคะเป็นซิลิโคนที่อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม เมื่อใช้แล้วผมนุ่มและจะไม่ตกค้างอย่างแน่นอน แชมพูใช้งานง่าย ฟองเยอะและไม่เหนียวเหนอะหนะ สามารถใช้แชมพูได้ทุกช่วงตามที่ต้องการเลย ใครที่มีปัญหาผมชี้ฟูแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- ฟองเยอะเมื่อใช้แล้วเส้นผมรวมไปถึงหนังศีรษะจะมีความสะอาดมากขึ้น
- กลิ่นหอมติดเส้นผมยาวนานลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี
- ปริมาณเยอะคุ้มค่าและสามารถใช้งานได้นาน
ข้อควรพิจารณา
- จำเป็นต้องใช้กับผลิตภัณฑ์ครีมนวดในสูตรเดียวกันเพื่อให้สุขภาพผมดีขึ้นตามคำเคลม
ปริมาณ | 410 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันสกัดจากกดอกคามิเลีย น้ำมันเมล็ดเทียนดำและโปรตีนข้าวสาลีไฮโดรไลซ์ |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์ |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Amodimethicone และ Dimethicone |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งชี้ฟู |
Tsubaki Premium Moist Shampoo แชมพู

ราคา 329 บาท*
Tsubaki Premium Moist Shampoo เป็นแชมพูที่ผู้เขียนเคยซื้อมาใช้ค่ะ หลายคนอาจจะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้วเพราะซึบากิเป็นแบรนด์ของ Shiseido จากญี่ปุ่นค่ะและเป็นหนึ่งในแชมพูที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูได้ใช้เทคโนโลยีพิเศษเพื่อซ่อมแซมเส้นผม ให้ความชุ่มชื้นอย่างล้ำลึกและช่วยให้ส่วนผสมที่มีซึมซาบถึงแกนผม ส่วนผสมหลักของแชมพูคือสารสกัดจากดอกคามิเลียที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าช่วยเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม หากถามว่าแชมพูเหมาะกับใครมากที่สุดตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่มีผมแห้งเสียค่ะ
ประสิทธิภาพและส่วนผสมมีความคล้ายกับ L'Oréal Paris Elseve Keratin Smooth 72H Perfecting Shampoo แต่กลิ่นจะมีความแตกต่างค่ะเพราะซึบากิจะเป็นกลิ่นผลไม้ผสมดอกไม้ส่วนลอรีอัลจะเป็นกลิ่นดอกไม้เลย เมื่อใช้แล้วผมจะสะอาดเรียบลื่นไม่จำเป็นต้องไปร้านเสริมสวย ในเรื่องกลิ่นผู้เขียนชอบกลิ่นของแชมพูซึบากิค่ะแต่จุดที่ไม่ค่อยประทับใจคือแชมพูมันเหมือนจะลอกสีผมที่เราทำค่ะ ดังนั้นใครที่ทำสีผมผู้เขียนไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ค่ะ
ข้อดี
- ช่วยให้หนังศีรษะรู้สึกสดชื่น สะอาดมีกลิ่นหอมและเหมาะกับทุกสภาพผม
- ให้ความชุ่มชื้นโดยไม่ทำให้ผมและหนังศีรษะมีความมัน
- ป้องกันรังสี UV ความร้อนและความชื้นได้ดีมาก
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่ทำสีผมเพราะไม่ช่วยในเรื่องรักษาสีผม
ปริมาณ | 490 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันสกัดจากกดอกคามิเลีย สารสกัดจากนมผึ้งและสควาเลน |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์ |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งเสีย |
TRESemmé Keratin Smooth Shampoo แชมพู

ราคา 199 บาท*
TRESemmé Keratin Smooth Shampoo เป็นแชมพูที่ใช้สูตรมาตรฐานร้านเสริมสวยค่ะและเป็นแบรนด์ที่หลายคนรู้จักกันดี ผู้เขียนเองชอบใช้แชมพูเทรซาเม่พอ ๆ กับ L'Oréal Paris Elseve Keratin Smooth 72H Perfecting Shampoo เลยค่ะแต่จะชอบใช้เทรซาเม่ตอนที่ทำเคมีหนัก ๆ ส่วนผสมหลักของแชมพูคือเคราตินไฮโดรไลซ์ที่ทางแบรนด์เคลมมาว่าเจาะลึกถึงเกล็ดผมในชั้นหนังกำพร้าและชั้นกลางของแกนผม ส่วนผสมที่มีจะช่วยทดแทนโปรตีนที่สูญเสียไปจึงช่วยบำรุงเส้นผมให้ผมเรียบลื่นเหมือนเพิ่งออกจากร้านทำผม
หลังจากสระผมแล้วผมจะเรียบลื่นยาวนานตลอดวัน แชมพูมาพร้อมกลิ่นหอมหวานเย้ายวน นอกจากจะเหมาะสำหรับคนที่ผมแห้งเสียงแล้วแชมพูยังเหมาะสำหรับผมทำสีด้วยเพราะช่วยรักษาสีผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟองของแชมพูค่อนข้างเยอะนะคะแต่ล้างออกง่าย ผู้เขียนใช้แล้วไม่เป็นสิวที่หลังเลยและผมก็หอมนานด้วย ใครที่อยากซื้อแชมพูชั้นนำเหมือนซาลอนแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- ทำความสะอาดหนังศีรษะได้ดีและให้ความเงางามกับเส้นผม
- มีเคราตินและน้ำมันอาร์แกนทำให้เส้นผมของคุณนุ่มสลวย
- เหมาะสำหรับผมแห้งเสีย ผมชี้ฟูและผมทำสีเพราะฟื้นฟูเส้นผมได้เร็ว
ข้อควรพิจารณา
- จำเป็นต้องใช้กับผลิตภัณฑ์ครีมนวดในสูตรเดียวกันเพื่อให้สุขภาพผมดีขึ้นตามคำเคลม
ปริมาณ | 435 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | เคราตินและน้ำมันอาร์แกน |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์และเบทาอีน |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone และ Silica |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งเสียและผมทำสี |
Dove Intense Repair Dark Blue แชมพู

ราคา 113 บาท*
Dove Intense Repair Dark Blue เป็นแชมพูที่ได้รับความนิยมในไทยเหมือนกับ Pantene Daily Moisture Renewal Pro-V Shampoo และ Sunsilk Soft & Smooth Shampoo ค่ะ ในตอนวัยรุ่นผู้เขียนก็ใช้แชมพูจากทางแบรนด์ค่ะเพราะมีกลิ่นหอมและมีประสิทธิภาพในการทำให้เส้นผมนุ่มลื่นได้จริง หากถามว่าแชมพูสูตรนี้เหมาะกับใครบอกเลยว่าตอบโจทย์สำหรับคนที่มีผมอ่อนแอและขาดได้ง่าย เพราะทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูสามารถซ่อมแซมความเสียหายของเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แชมพูมาพร้อมระบบสารอาหาร Bio-Nourish ช่วยเสริมสารอาหารให้เส้นผมแข็งแรงและมีสุขภาพดี ส่วนผสมที่ทางแบรนด์ใช้จะเป็นน้ำมันทานตะวันและเคราตินสามารถทำให้ผมนุ่มขึ้นหลังจากการสระ แชมพูมีฟองเยอะแต่ล้างออกง่าย ให้ความรู้สึกสะอาด สดชื่นและมาพร้อมกลิ่นหอม จุดที่ผู้เขียนรักเลยคือแชมพูมีราคาที่ค่อนข้างถูกและมีประสิทธิภาพในการฟื้นฟูเส้นผมที่เสียหายค่ะ
ข้อดี
- ลดความเสียหายของเส้นผมได้เป็นอย่างดีเพื่อให้ผมสุขภาพดีขึ้น
- ช่วยให้เส้นผมนุ่มสลวยตั้งแต่โคนจรดปลายอย่างเห็นได้ชัด
- ทำความสะอาดหนังศีรษะได้ดีและเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นรังแคได้ง่าย
ปริมาณ | 380 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันทานตะวันและเคราติน |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์ |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone และ Silica |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งเสีย |
Mise en Scene Damage Care Hair Shampoo แชมพู

ราคา 129 บาท*
Mise en Scene Damage Care Hair Shampoo เป็นแชมพูจากเกาหลีเช่นเดียวกับ RYO Hambit Damage Care & Nourishing Shampoo แต่หลายคนอาจจะคุ้นเคยกับมิซอองแซนมากกว่าเพราะเป็นแบรนด์โฟมย้อมผมชื่อดังที่มีแบล็กพิงก์เป็นพรีเซนเตอร์ค่ะ สำหรับแชมพูของทางแบรนด์จะเหมาะสำหรับคนที่ผมแห้งเสียจากการทำเคมีบ่อย ๆ แชมพูมาพร้อมสารสกัดจากดอกกุหลาบและสารสกัดจากนมผึ้ง ทางแบรนด์เคลมมาว่าเมื่อใช้งานแล้วจะให้สารอาหารสำหรับเส้นผมและทำให้สุขภาพผมดีขึ้น
หากใช้งานแชมพูเป็นประจำจะทำให้เส้นผมแข็งแรง เป็นเงางามและยังช่วยให้เส้นผมมีกลิ่นหอมอ่อนโยนด้วย ผู้เขียนชอบกลิ่นของ Mise en Scene Damage Care Hair Shampoo มากค่ะเพราะหอมจริงหอมจังหากใช้ร่วมกับเซรั่มบำรุงผมของทางแบรนด์ผมจะยิ่งหอม นอกเหนือจากส่วนผสมข้างต้นแล้วแชมพูยังประกอบด้วยน้ำมันอาร์แกนเพื่อช่วยฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสียอย่างรุนแรง ช่วยให้เส้นผมนุ่มนวลและจัดทรงได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมากขึ้น
ข้อดี
- ฟองของแชมพูเยอะสามารถทำความสะอาดเส้นผมได้อย่างล้ำลึก
- หลังจากใช้ผมจะนุ่มลื่นและจัดทรงง่ายมากกว่าเดิม
- ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ของเส้นผมได้เป็นอย่างดีทำให้ผมหอมขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะกับคนที่มีปัญหาผมมันเพราะอาจจะลดความมันได้ไม่ดีเท่าที่ควร
ปริมาณ | 200 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | โปรตีนกุหลาบ น้ำมันอาร์แกนและสารสกัดจากนมผึ้ง |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์ |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone และ Amodimethicone |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งเสียจากเคมีและความร้อน |
RYO Hambit Damage Care & Nourishing Shampoo แชมพู

ราคา 319 บาท*
RYO Hambit Damage Care & Nourishing Shampoo เป็นแชมพูจากเกาหลีใต้ค่ะ ส่วนผสมหลักของแชมพูคือน้ำมันดอกคามิเลียจากเกาะเชจู ดอกพีโอนีและสารสกัดจากพืชอื่น ๆ ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผมเสียจากการย้อมผมและดัดผม ไม่ว่าปลายผมจะแห้ง แตกปลายหรือพันกันง่ายก็สามารถใช้แชมพูจากทางแบรนด์ได้ หลังจากใช้งานแล้วจะทำให้เส้นผมมีความเรียบเนียน ให้ความชุ่มชื้นและยังสามารถช่วยบำรุงหนังศีรษะได้อีกด้วย แพ็กเกจของแชมพูมาในขวดปั๊มทำให้ใช้งานได้ง่ายค่ะ
จากรายการส่วนผสม RYO Hambit Damage Care & Nourishing Shampoo จะมีส่วนผสมที่เน้นการดูแลผมแห้งเสียมากกว่า Mise en Scene Damage Care Hair Shampoo แต่จุดที่ผู้เขียนชอบในมิซอองแซนมากกว่าเพราะราคามันถูกกว่าเยอะค่ะ ในการใช้งานแนะนำให้ใช้ครีมนวดผมคอลเลกชันเดียวกันได้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสระผม แชมพูมีกลิ่นหอมของดอกไม้และผลไม้ที่ติดผมยาวนาน ใครที่อยากใช้แชมพูจากเกาหลีแนะนำเลยค่ะเพราะแบรนด์เขาดังมาก
ข้อดี
- แชมพูมีฟองเยอะอ่อนโยนต่อหนังศีรษะและเส้นผม
- ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผมและลดผมแห้งได้เป็นอย่างดี
- กลิ่นหอมสดชื่นยาวนานเหมาะสำหรับคนที่ชอบแชมพูกลิ่นหอม
ข้อควรพิจารณา
- จำเป็นต้องใช้กับผลิตภัณฑ์ครีมนวดในสูตรเดียวกันเพื่อให้สุขภาพผมดีขึ้นตามคำเคลม
ปริมาณ | 400 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันดอกคามิเลียจากเกาะเชจู ดอกพีโอนีและสารสกัดจากพืชอื่น ๆ |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์ |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งเสียจากเคมี |
Pantene Daily Moisture Renewal Pro-V Shampoo แชมพู

ราคา 279 บาท*
Pantene Daily Moisture Renewal Pro-V Shampoo เป็นแชมพูที่เราไม่อยากให้พลาดเพราะปริมาณเยอะและราคาถูก ความนิยมของแพนทีนนั้นตีคู่มากับ Dove Intense Repair Dark Blue เลย แชมพูของแพนทีนเป็นแชมพูสูตรเข้มข้นเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับเส้นผม ส่วนผสมหลักของแชมพูคือเคราตินและแพนทีนอลทางแบรนด์เคลมมาว่าช่วยลดความแห้งกร้านของเส้นผมได้ อีกทั้งแชมพูยังได้เติมวิตามิน PRO-V สุดคลาสสิกของทางแบรนด์เข้าไปเพื่อเติมเต็มสารอาหารที่เส้นผมต้องการและเสริมสร้างรากผมให้แข็งแรง
หลังจากการสระผมด้วย Pantene Daily Moisture Renewal Pro-V Shampoo หนังศีรษะและเส้นผมของเราจะสดชื่นไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่ว่าจะผมเสีย แตกปลายหรือแห้งมาก ๆ ก็เอาอยู่แต่ต้องใช้ร่วมกับครีมนวดผมสูตรเดียวกันเท่านั้นนะคะเพราะประสิทธิภาพจะดีขึ้นกว่าเดิม กลิ่นของแชมพูก็หอมมากและหอมติดผมยาวนานด้วย ใครที่อยากซื้อแชมพูขวดปั๊มที่มีปริมาณเยอะและใช้งานได้นานแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- เนื้อสัมผัสบางเบา ใช้งานง่ายและมีกลิ่นหอมติดเส้นผมยาวนาน
- ช่วยทำให้เส้นผมนุ่มสลวยและสวยงามทุกครั้งที่ใช้
- ทำความสะอาดเส้นผมและหนังศีรษะได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่เป็นรังแคได้ง่าย
ปริมาณ | 630 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | เคราตินและแพนทีนอล |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์และเบทาอีน |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Siliga |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งเสีย |
Head & Shoulder Shampoo Anti Dandruff Smooth Silky แชมพู

ราคา 149 บาท*
Head & Shoulder Shampoo Anti Dandruff Smooth Silky เป็นแชมพูขจัดรังแคที่มีชื่อเสียงมากในไทย ถึงแม้จะมีแชมพูขจัดรังแคมากมายในท้องตลาด ให้เราได้เลือกแต่ Head & Shoulder เป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผลิตภัณฑ์นี้ไม่เพียงแต่สามารถจัดการกับปัญหารังแคได้เท่านั้นนะคะแต่สิ่งที่พิเศษคือแชมพูมีส่วนผสมของสารบำรุงผมและมีกลิ่นหอม เมื่อใช้งานแล้วหนังศีรษะรู้สึกอับชื้นน้อยลงและมีความนุ่มลื่นมากขึ้น เมื่อใช้ Head & Shoulder ทุกคนจะลืมแชมพูขจัดรังแคธรรมดา ๆ ไปเลยเพราะเป็นแชมพูขจัดรังแคที่มีกลิ่นหอมและทำให้ผมนุ่มค่ะ
ขอบอกไว้ก่อนนะคะว่าแชมพูนี้มีฤทธิ์ในการขจัดรังแคได้ดีก็จริง แต่เราขอแนะนำให้ใช้สลับกับแชมพูอื่น ๆ เพื่อบำรุงผมบ้าง ส่วนตัวแล้วตอนที่ผู้เขียนเป็นรังแคผู้เขียนเองก็ชอบใช้ Head & Shoulder Shampoo Anti Dandruff Smooth Silky เพราะเห็นผลได้ดี แต่น่าเสียดายที่แชมพูไม่มีครีมนวดผมสูตรเดียวกันค่ะ หากใครที่มีผมแห้งมากอาจจะต้องซื้อครีมนวดผมอื่น ๆ แยกเพื่อให้ผมของเราได้รับการบำรุงมากขึ้น
ข้อดี
- สามารถลดรังแคและอาการคันหนังศีรษะได้ดีมาก
- ปลอดภัยสำหรับการใช้งานทุกวันและช่วยเพิ่มความเงางามให้กับเส้นผม
- ปลอดภัยสำหรับทุกกลุ่มอายุและทำให้ผมของคุณนุ่มสลวย
ข้อควรพิจารณา
- ใครที่มีรังแคพร้อมเชื้อราบนหนังศีรษะอาจจะต้องใช้แชมพูลดเชื้อราร่วมด้วย
ปริมาณ | 370 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | สารกำจัดรังแคและมอยส์เจอไรเซอร์ |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮอล์ |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมและหนังศีรษะที่มีรังแค |
Clear Anti Dandruff Scalp Care Anti Hairfall Shampoo แชมพู

ราคา 189 บาท*
แนะนำ Head & Shoulder Shampoo Anti Dandruff Smooth Silky ไปแล้วจะไม่แนะนำ Clear Anti Dandruff Scalp Care Anti Hairfall Shampoo ก็ไม่ได้ค่ะเพราะเป็นแชมพูขจัดรังแคเหมือนกันและได้รับความนิยมในไทยกันทั้งคู่ นอกจากจะช่วยขจัดรังแคได้แล้วทางแบรนด์ยังเคลมมาว่าแชมพูจะทำให้หนังศีรษะแข็งแรงและลดผมขาดหลุดร่วงได้ด้วย ส่วนผสมหลักของแชมพูคือสารสกัดจากขิง อะโวคาโดและชาเขียวสามารถชะล้างสิ่งสกปรกออกไปอย่างอ่อนโยนและทำให้เส้นผมสะอาดมากขึ้น
หากถามว่า Clear Anti Dandruff Scalp Care Anti Hairfall Shampoo เหมาะกับใครมากที่สุด ตอบเลยว่าเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหารังแคและปัญหาเส้นผมขาดหลุดร่วง เนื้อแชมพูอ่อนโยนฟองเยอะมากแต่ล้างออกง่าย เมื่อล้างผมออกแล้วผมจะไม่แห้งกร้านค่ะ แต่หากคุณเป็นคนที่ผมแห้งมากต้องหาครีมนวดผมและทรีตเมนต์มาใช้ร่วมด้วยเพื่อให้ผมนุ่มลื่นกว่าเดิมค่ะ แต่อย่าลืมเลือกครีมนวดผมที่ไม่ทำให้เกิดรังแคนะคะเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดรังแคเพิ่มค่ะ
ข้อดี
- แชมพูเนื้อเจลสามารถใช้งานได้ง่ายและให้ฟองเยอะมาก
- ลดการขาดหลุดร่วงของเส้นผมได้ดีและทำให้เส้นผมแข็งแรง
- ช่วยขจัดรังแคได้ดีพร้อมลดผมร่วงไปพร้อม ๆ กัน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีครีมนวดผมที่เข้าคู่กันต้องซื้อแยก
ปริมาณ | 435 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | สารกำจัดรังแค สารสกัดจากขิง อะโวคาโดและชาเขียว |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดอะมิโนและเบทาอีน |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมที่มีรังแคและขาดหลุดร่วง |
Sunsilk Soft & Smooth Shampoo แชมพู

ราคา 158 บาท*
Sunsilk Soft & Smooth Shampoo เป็นแชมพูขวดปั๊มราคาประหยัดและได้รับความนิยมเหมือนกับ Pantene Daily Moisture Renewal Pro-V Shampoo เลยค่ะและสูตรของแชมพูก็เน้นความชุ่มชื้นเหมือนกันด้วยค่ะ ส่วนผสมหลักของแชมพูซันซิลคือน้ำมันจากดอกคามีเลีย น้ำมันอาร์แกนและน้ำมันบาบาสซูช่วยฟื้นฟูความแห้งกร้านของเส้นผม ทางแบรนด์เคลมมาว่าแชมพูได้ใช้เทคโนโลยีล็อกความชื้นจะช่วยให้ผมนุ่มสลวยได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องความมันหรือเหนียวเหนอะหนะ
แชมพูมีฟองเยอะสามารถทำความสะอาดได้ดีแต่ไม่ทำให้เส้นผมและหนังศีรษะแห้ง ในการใช้งานแนะนำให้ใช้ร่วมกับครีมนวดผมสูตรเดียวกันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของแชมพูค่ะ ผู้เขียนชอบแชมพูสูตรนี้ของซัลซิลเพราะใช้แล้วผมนุ่มขึ้นจริงและมีกลิ่นหอมมากด้วย ใครที่มีปัญหาผมแห้งจนจัดทรงไม่ได้ต้องห้ามพลาดเลยค่ะ
ข้อดี
- บำรุงเส้นผมได้อย่างล้ำลึกและช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
- ประกอบด้วยน้ำมันธรรมชาติที่จำเป็นต่อเส้นผมสามารถฟื้นฟูผมได้อย่างรวดเร็ว
- ลดความแห้งกร้านและชี้ฟู ทำให้เส้นผมนุ่มสลวยยิ่งขึ้น
ข้อควรพิจารณา
- จำเป็นต้องใช้กับผลิตภัณฑ์ครีมนวดในสูตรเดียวกันเพื่อให้สุขภาพผมดีขึ้นตามคำเคลม
ปริมาณ | 350 มล. |
---|---|
ส่วนผสมหลักของแชมพู | น้ำมันอาร์แกน, น้ำมันบาบาสซู, น้ำมันเมล็ดคามีเลีย, น้ำมันสวีทอัลมอนด์และน้ำมันมะพร้าว |
ชนิดของส่วนผสมที่ใช้ | ชนิดแอลกอฮล์และเบทาอีน |
ชนิดของซิลิโคนที่มี | Dimethicone |
สภาพเส้นผมที่แนะนำ | ผมแห้งชี้ฟูและจัดทรงได้ยาก |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
เคล็ดลับในการใช้แชมพูให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
การสระผมสามารถทำได้ง่ายค่ะและหลายคนก็คิดว่าเราไม่จำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการสระผมจากใคร ขอบอกเลยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผิดและนั่นก็เป็นสาเหตุที่การสระผมในปัจจุบันของเราอาจลดประสิทธิภาพของแชมพูลงครึ่งหนึ่ง เพื่อการใช้แชมพูอย่างมีประสิทธิภาพแนะนำให้ทุกคนทำ 3 ข้อดังต่อไปนี้ รับรองว่าเมื่อทำตามแล้วจะทำให้เส้นผมสะอาดมากขึ้นกว่าเดิม

- หวีผมก่อนสระผม ทุกคนต้องหวีผมก่อนสระผมค่ะ สำหรับคนที่มีผมยาวยิ่งควรหวีและสางผมก่อนสระ เพราะเมื่อผมของเราโดนน้ำมักจะนุ่มมากและพันกันได้ง่าย เมื่อผมพันกันเส้นผมจะแตกหักได้ด้วย ดังนั้นการแยกผมออกด้วยหวีในขณะที่ผมยังแห้งจะช่วยป้องกันผมพันกันในระหว่างขั้นตอนการสระผมได้ดี
- สระผมด้วยน้ำเปล่า หากคุณมีเวลาควรสระผมด้วยน้ำสะอาดก่อนหนึ่งรอบเพราะจะสามารถขจัดสิ่งสกปรกได้ประมาณ 70% ในขั้นตอนนี้น้ำจะทำให้เส้นผมและหนังศีรษะชุ่มชื้น อีกทั้งยังช่วยขจัดสิ่งสกปรกก่อนการใช้แชมพูได้ง่ายขึ้น
- ใช้แชมพู เมื่อนำแชมพูออกมาจากขวดไม่ควรที่จะชโลมลงบนศีรษะทันที ควรจะถูบนฝ่ามือแล้วทำให้เกิดฟองก่อน หลังจากนั้นก็สระผมพร้อมด้วยหนังศีรษะให้สะอาด แนะนำให้สระผมประมาณ 2 – 3 รอบเพื่อให้ผมสะอาดมากยิ่งขึ้น
หากคุณใช้วิธีเหล่านี้ในขั้นตอนการสระผม คุณจะสังเกตเห็นความแตกต่างในด้านความสดชื่น การเกิดฟองและความแตกต่างของเส้นผมหลังการสระผมได้อย่างชัดเจน แม้ว่าวิธีสระผมที่ถูกต้องอาจใช้เวลานานแต่คุณควรลองทำค่ะเพราะมันจะช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของแชมพูได้เป็นอย่างดี
References :