“ข้าเจ้าเป็นสาวเจียงใหม่ แหมบ่เต้าใดก็จะเป็นสาวแล้ว 🎵” สวัสดีเจ้า เกริ่นมาเป็นเพลงซะขนาดนี้ ไม่ต้องบอกก็คงรู้ใช่ไหมคะว่าเรากำลังจะพาทุก ๆ ท่านมาแอ่วจังหวัดเชียงใหม่กัน อย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่าจังหวัดเชียงใหม่อยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เป็นจังหวัดที่เรียกได้ว่ามีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วประเทศ ด้วยอัตลักษณ์ที่โดดเด่น มีกลิ่นอายของล้านนา มีที่เที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่หลากหลาย เช่น วัดพระธาตุดอยสุเทพ, วัดพระธาตุดอยคำ, วัดอุโมงค์ หรือถนนคนเดินท่าแพ เป็นต้น ที่สำคัญเลยคือมีที่เที่ยวทางธรรมชาติสวย ๆ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น ม่อนแจ่ม อำเภอแม่ริม หรือ เชียงดาว อำเภอเชียงดาว ทำให้จังหวัดเชียงใหม่จัดเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ของภาคเหนือกันเลยทีเดียว
หากพูดถึงการท่องเที่ยว ของฝากก็ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ถือเป็นมารยาทที่จะต้องมีติดไม้ติดมือไปฝากผู้หลักผู้ใหญ่ หรือเพื่อน ๆ คนสนิท ของฝากส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นของพื้นเมือง, สินค้า OTOP หรือของที่หาได้ง่ายในจังหวัดนั้น ๆ ที่มีมากมายให้เลือกทั้งของกิน, ของใช้, ของฝาก หรือของที่ระลึก
ก่อนหน้านี้เราเคยนำเสนอ ของฝาก จ. ภูเก็ต, ของฝาก จ.สงขลา, ของฝาก จ.ระนอง และของฝาก จ.ขอนแก่น กันไปแล้ว ในวันนี้เราจะพาทุกท่านขึ้นเหนือมาชม “ของฝาก จ.เชียงใหม่” กันบ้างค่ะ และแน่นอนว่าเราได้คัดสรรค์มาแต่ร้านดัง ร้านเด็ด เห็นปุ๊บ ก็รู้เลยว่ามาจากจังหวัดเชียงใหม่แน่นอน ตามมาดูกันเลยค่ะ
เที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ช่วงไหนดี ?
หากเป็นหน้าร้อนหลาย ๆ คนก็จะคิดถึงทะเล ในทางกลับกันเมื่อเข้าสู่หน้าหนาว ผู้คนก็จะแห่กันไปภาคเหนือ เพื่อไปสัมผัสกับอากาศเย็น ๆ บนดอย ที่ไม่ว่าแขกไปใครมา ก็ต้องพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ฟินมาก!!! ใครที่กำลังจะมาเที่ยวเชียงใหม่ แต่ยังไม่รู้ว่าจะพักที่ไหนดี เราก็ขอแนะนำ ที่พักในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกดี ๆ สำหรับทุกคน
จริง ๆ แล้วจังหวัดเชียงใหม่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากเป็นหน้าร้อน นักท่องเที่ยวก็จะน้อย ไม่วุ่นวาย สามารถเที่ยวได้ทั่ว ทั้งตัวเมืองและบนดอย ส่วนหน้าฝนนั้นตามยอดดอยและภูเขาก็จะเปลี่ยนเป็นสีเขียวขจี ชุ่มฉ่ำ เย็นสบาย ใครที่ไม่กลัวฝน ก็ถือว่าไม่ควรพลาด
แต่หากใครที่ชอบอากาศหนาว อยากตื่นเช้ามาสัมผัสกับทะเลหมอก ก็ต้องแนะนำว่าให้มาช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ของทุกปี โดยเฉพาะเดือนมกราคม ที่จะมีดอกพญาเสือโคร่งบานสะพรั่งเรียงรายริมถนน แต่ก็ต้องทำใจว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวจะเยอะเป็นพิเศษ ใครที่อยากจะมาถ่ายรูปสวย ๆ ชิค ๆ อาจจะต้องคอตก เพราะแทนที่จะได้รูปวิวสวย ๆ อาจจะได้รูปคนยั้วเยี้ยมาแทน แต่ก็นั่นล่ะค่ะ ใครที่ชอบฟีลลิ่งแบบไหนก็เลือกมาเที่ยวกันได้ตามความชอบ ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้อน หน้าฝน หรือหน้าหนาว เชื่อว่าสิ่งหนึ่งที่ทุกคนจะรู้สึกเหมือนกัน นั่นก็คือเสน่ห์ของจังหวัดเชียงใหม่ ที่ไม่ว่าจะมาเที่ยวซักกี่ครั้งก็ไม่เคยพอ
1. แคบหมู

![]() | แคบหมูแม่แช่ม สินค้า OTOP ของฝากจังหวัดเชียงใหม่ | |
![]() | แคบหมูไร้มันกึ่งสำเร็จรูป ตราน้องกิ๊ฟ ของฝากจังหวัดเชียงใหม่ | |
![]() | แคบหมูติดมัน สูตรดั้งเดิม ตราปัญญา ของฝากจังหวัดเชียงใหม่ | |
![]() | แคบหมูเมือง สูตรต้นตำรับ ของฝากจังหวัดเชียงใหม่ |
“แคบ” ในภาษาเหนือ แปลว่า มันของสัตว์ที่นำมาเจียวเพื่อไล่น้ำมันออก จนเหลือแต่ความกรอบ แคบหมูแต่เดิมของคนเมืองนั้นจะทำเป็นผืนใหญ่ มีลักษณะยาว บั้งตรงกลาง แล้วนำมาหมักในน้ำมันข้ามคืน จากนั้นนำไปทอดจนเหลืองกรอบ ต่อมาได้คิดค้นสูตรให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะหั่นชิ้นให้มีขนาดเล็กลง ปรับให้มีทั้งแบบติดมัน, ไร้มัน หรือมันล้วน นิยมนำมาทานคู่กับน้ำพริกหนุ่มหรือทานแกล้มกับก๋วยเตี๋ยว
จุดเด่นที่ทำให้แคบหมูเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่นั่นก็คือรสชาติที่อร่อย กรอบ ฟู และมีความพิถีพิถันในการทำ ตั้งแต่ขั้นตอนการหั่นต้องมีความบางที่พอดี ไปจนถึงการคุมไฟในระหว่างการทอด ส่วนสูตรที่จะทำให้พองกรอบก็จะขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวว่าสืบทอดกันมาแบบไหน จึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมแคบหมูเชียงใหม่ถึงโด่งดังไปทั่วประเทศ
2. ไส้อั่ว

หากพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าทุกคนจะต้องนึกถึงไส้อั่วอย่างแน่นอน ด้วยความที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว หาทานที่ไหนก็ไม่เหมือนกับการที่ได้ทานที่เชียงใหม่ ไส้อั่วที่จัดว่าอร่อยนั้น อยู่ที่ส่วนผสมของเนื้อและมันที่ต้องผสมกันอย่างพอเหมาะ จนได้สัดส่วนที่พอดี เพราะหากใส่เนื้อมากไปก็จะทำให้เนื้อแข็ง ไม่อร่อย ใส่มันมากไปก็จะทำให้เลี่ยน พริกแกงที่ใช้ก็สำคัญ ต้องเป็นพริกแกงที่โขลกจนได้รสชาติที่กลมกล่อม เผ็ดมากเผ็ดน้อยก็ขึ้นอยู่กับความชอบ จากนั้นนำไปยัดในไส้หมู
แต่ในปัจจุบันหลาย ๆ ร้านจะใช้ไส้เทียมแทน เพราะว่าเวลานำไปปิ้งหรือทอดจะไม่แตกง่ายเหมือนไส้หมูจริงนั่นเองค่ะ โดยไส้อั่วที่ขายกันก็มีสูตรให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสูตรเผ็ดน้อย, สูตรเผ็ดมาก หรือสูตรมันน้อย ร้านที่เรานำมาฝากในวันนี้เรียกได้ว่าไม่ต้องไปไกลถึงเชียงใหม่ก็สามารถอิ่มอร่อยด้วยรสชาติต้นตำรับแท้ ๆ เหมือนยกเชียงใหม่มาไว้ที่คุณเลยค่ะ
3. หมูยอเชียงใหม่

![]() | หมูยอภิญโญ สูตรโบราณ ตราดาว | |
![]() | หมูยอแม่วรรณา ของฝากจากเชียงใหม่ | |
![]() | หมูยอแม่เฮือง สินค้า OTOP ของจังหวัดเชียงใหม่ | |
![]() | หมูยอป้าย่น ของฝากจากเชียงใหม่ |
นอกจากหมูยออุบลที่มีชื่อเสียงแล้ว หมูยอเชียงใหม่ก็ถือว่าโด่งดังไม่แพ้กัน ด้วยสูตรลับที่ไม่เหมือนใคร ทำให้หมูยอเชียงใหม่มีความนุ่ม เด้ง อร่อย นำมาทำเมนูได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นหมูยอทอด, ยำหมูยอ, ลวกจิ้ม หรือจะนำไปผัดเป็นเมนูต่าง ๆ เรียกได้ว่าเป็นต้นตำรับมากว่าหลายสิบปี เมื่อก่อนจะมีเพียงหมูยอรสดั้งเดิมเท่านั้น
แต่ในปัจจุบันได้มีการปรับสูตรเพื่อให้มีรสชาติที่ถูกปากคนไทยมากขึ้น ทั้งสูตรพริกไทยดำ, สูตรเห็ดหอม, สูตรพริกขี้หนู, สูตรไส้อั่ว, สูตรสาหร่าย หรือจะเป็นสูตรพริกกระเพราก็มีให้เลือกเช่นกัน เรียกได้ว่าใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่เป็นอันต้องหยิบจับหมูยอไปเป็นของฝากกันคนละแท่งสองแท่ง แต่ใครที่ไม่มีเวลามาเที่ยวก็อย่าเพิ่งท้อค่ะ เพราะวันนี้เราได้รวบรวมหมูยอร้านเด็ดร้านดังแห่งเชียงใหม่ มาพร้อมเสิร์ฟทุกคนกันถึงที่กันเลยทีเดียว
4. น้ำพริกหนุ่ม

![]() | น้ำพริกหนุ่ม ตราอุ้ยแก้ว พลาสเจอร์ไรซ์ มีสูตรเผ็ดน้อยและเผ็ดมาก | |
![]() | น้ำพริกหนุ่ม ตราแม่มณี สูตรโบราณย่างเตาถ่าน ไม่ใส่ปลาร้า | |
![]() | กิ๋นม่วน กิ๋นลำ น้ำพริกหนุ่ม พลาสเจอร์ไรซ์ ไม่ใส่สารกันบูด |
น้ำพริกหนุ่ม เป็นอาหารล้านนาที่ใครได้ยินชื่อก็ต้องนึกถึงภาคเหนือของไทย น้ำพริกหนุ่มจึงแสดงอัตลักษณ์ของความเป็นเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี สามารถหาซื้อได้ที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง มักจะนิยมทานคู่กับแคบหมู, ผัก และข้าวเหนียว สาเหตุที่เรียกว่า น้ำพริกหนุ่ม ก็เพราะว่าพริกที่นำมาทำ มีชื่อพันธุ์ว่า ‘พันธุ์หนุ่ม’ นั่นเองค่ะ โดยคุณสมบัติเด่นของพริกหนุ่มนั้น คือไม่ว่าจะแก่หรืออ่อนก็จะมีสีเขียวไม่เปลี่ยนแปลง ทำให้เวลานำมาตำน้ำพริก จะได้สีที่ค่อนข้างสม่ำเสมอ ไปในทิศทางเดียวกัน
ส่วนความเผ็ดเรียกได้ว่าน้อยกว่าพริกขี้หนูอยู่หลายขุม หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าการทำน้ำพริกหนุ่มยุ่งยาก แต่จริงๆแล้วมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด เพราะเครื่องปรุงและส่วนผสมสามารถหาได้ตามท้องตลาดทั่วไป โดยส่วนผสมหลักของน้ำพริกหนุ่มก็จะมี พริกหนุ่ม, กระเทียม, หอมแดง, เกลือ และน้ำปลา ในส่วนของวิธีทำนั้นขั้นแรกให้เผาพริกหนุ่ม, หอมแดง และกระเทียมจนสุก แล้วปอกเปลือกออกให้หมด จากนั้นนำมาโขลกจนละเอียด ปรุงรสด้วยเกลือและน้ำปลาก็เป็นอันเสร็จ เรียกได้ว่ามาถึงเชียงใหม่ทั้งที ต้องห้ามพลาดการซื้อน้ำพริกหนุ่มกลับไปเป็นของฝากเลยนะคะ
5. ข้าวแต๋น

ข้าวแต๋น หรือที่บางพื้นที่เรียกกันว่าข้าวพองหรือขนมยางเล็ด เป็นขนมพื้นบ้านโบราณของชาวบ้านทางภาคเหนือของไทย โดยเฉพาะในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ นิยมทำกินกันในช่วงสงกรานต์ งานปอยลูกแก้ว และงานปอยหลวง ตัวข้าวแต๋นมีรสชาติหวาน หอม กรอบอร่อย โดยที่มานั้นมาจากวัฒนธรรมการกินข้าวเหนียวของคนภาคเหนือเป็นอาหารหลัก เมื่อชาวบ้านกินข้าวเหนียวเหลือก็เกิดความเสียดาย จึงนำมาแปรรูปผ่านกระบวนการถนอมอาหารด้วยการนำข้าวเหนียวมากดใส่พิมพ์ทรงกลม แล้วตากแดดจนแห้ง ก็จะทำให้สามารถเก็บไว้ได้นานเป็นเดือน
เมื่อต้องการนำออกมารับประทาน ก็จะนำข้าวเหนียวที่ตากแห้งออกมาทอด และราดด้วยน้ำอ้อยที่เคี่ยวจนเหนียว หรือโรยหน้าด้วยหมูหย็อง, ปลาแห้ง และธัญพืชต่าง ๆ เรียกได้ว่าแตกต่างกันไปตามสูตรของและละบ้าน ส่วนข้าวแต๋นน้ำแตงโมนั้นก็จะมีการเพิ่มน้ำแตงโมลงไปคลุกกับข้าวเหนียวก่อนนำไปตากแห้ง เพื่อเพิ่มกลิ่นให้หอมหวานน่ารับประทานยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ
6. ข้าวซอยตัด

ขนมข้าวซอยตัด เป็นขนมชนิดหนึ่งที่นิยมทานกันอย่างแพร่หลายในภาคเหนือ แต่จริง ๆ แล้วเจ้าขนมตัวนี้มีต้นกำเนิดมาจากประเทศจีน โดยคนจีนจะเรียกว่า “沙琪玛” (ซาฉีหม่า) หรือ “ขนมแป้งทอด” ขนมชนิดนี้จะเป็นการนำเอาเส้นหมี่มาทอดจนสุกกรอบ แล้วคลุกเคล้าด้วยน้ำตาล
ในปัจจุบันได้มีการผลิตออกมาหลากหลายรสชาติ ไม่ว่าเป็น รสใบเตย, รสวนิลา หรือรสน้ำอ้อย ถือเป็นขนมที่มีรสหวาน เก็บไว้ได้นาน 1 – 2 เดือน นิยมรับประทานเป็นอาหารว่างคู่กับน้ำชา หรือกาแฟ ขนมข้าวซอยตัดนับเป็นของฝากที่หาซื้อได้ตามแหล่งท่องเที่ยวเกือบทุกพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นของฝากอีกหนึ่งอย่างที่ผู้คนมักซื้อกลับไปฝากญาติพี่น้อง ด้วยตัวขนมที่เก็บไว้ได้นาน ไม่เหมือนกับของกินชนิดอื่น ๆ ทำให้ข้าวซอยตัดของเชียงใหม่ถือเป็นของฝากยอดนิยมอีกหนึ่งตัวค่ะ
7. น้ำพริกข้าวซอย

![]() | น้ำพริกข้าวซอย ตราแม่อำพร OTOP 5 ดาว จังหวัดเชียงใหม่ | |
![]() | น้ำพริกข้าวซอย ตราพรรณี ของดีจากตลาดวโรรส จังหวัดเชียงใหม่ |
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘ข้าวซอย’ เป็นอาหารที่ไม่ว่าใครมาเที่ยวเชียงใหม่ ก็ใฝ่ฝันว่าต้องมาลองกินดูซักครั้งในชีวิต เพราะการกินที่ต่างจังหวัด หรือตามห้างต่าง ๆ บอกเลยว่าไม่ได้อรรถรสเท่ากับการมากินที่เชียงใหม่อย่างแน่นอน โดยข้าวซอยนั้นมีต้นกำเนิดมาจากชาวจีนมุสลิมที่อพยพมาอยู่ทางภาคเหนือของประเทศไทย เดิมจะเรียกว่า ‘ก๋วยเตี๋ยวฮ่อ’ รูปร่างหน้าตาจะคล้ายกับแกงกะหรี่ที่ใส่เส้นบะหมี่ ตัวน้ำแกงมีรสชาติจัดจ้าน ค่อนไปทานหวาน นิยมรับประทานคู่กับเครื่องเคียง เช่น ผักกาดดอง, หอมหัวแดง และมีเครื่องปรุงรส คือ พริกผัดน้ำมัน, น้ำมะนาว, น้ำปลา และน้ำตาล
ในสมัยก่อนข้าวซอยจะไม่มีการใส่กะทิ จึงเรียกกันว่า ‘ข้าวซอยน้ำใส’ ต่อมาได้มีการเพิ่มกะทิเข้าไปเพื่อให้เข้ากับลิ้นคนไทย จนเป็นที่นิยมอย่างมากและกลายมาเป็นข้าวซอยที่รู้จักกันในปัจจุบันนั่นเองค่ะ แต่ด้วยตัวเครื่องแกงที่ค่อยข้างทำยาก เพราะมีวัตถุดิบที่เยอะ ทำให้ไม่ค่อยมีขายกันแพร่หลาย แต่ไม่ต้องกลัวค่ะ วันนี้เราได้นำน้ำพริกข้าวซอยสูตรเด็ด ต้นตำรับจากเชียงใหม่แท้ ๆ มาฝากทุกคนกัน เหมาะมาก ๆ ที่จะนำไปเป็นของฝาก ที่ใครเห็นก็ต้องรู้ได้ทันที ว่าไปเที่ยวเชียงใหม่มาแน่นอน
8. ยางรัดผมชาวดอย ชาวเขา เผ่าแม้ว

![]() | ยางรัดผมชาวเขา ยางรัดผมปอมปอม ทรงโดนัท | |
![]() | ยางรัดผมชาวเขา แฮนด์เมด มีลูกกระพรวน | |
![]() | ยางรัดผมชาวเขา ผลิตจากผ้าทอ ของฝากเชียงใหม่ |
ยางรัดผมชาวเขา เป็นยางรัดผมน่ารัก ๆ ที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะชอบผูกเวลามาเที่ยวที่เชียงใหม่ ด้วยรูปทรงที่น่ารัก ดีไซน์ที่ออกแบบมาได้เป็นเอกลักษณ์ บ่งบองสไตล์ของสาวชาวดอยได้เป็นอย่างดี เหมาะสำหรับมัดผมทรงบันหรือมัดเป็นหางม้า ยิ่งได้ใส่คู่กับชุดชาวเขาบอกเลยว่าจะช่วยยกระดับความเป็นชาวเขาของคุณให้ดูสมจริงยิ่งขึ้น
ยางรัดผมชาวดอยชิ้นนี้หลาย ๆ คนมักซื้อไปเป็นของฝากให้กับเพื่อน ๆ หรือจะซื้อไปใช้เองก็เป็นที่นิยมเช่นกัน เพราะที่เชียงใหม่ขึ้นชื่อในเรื่องเผ่าม้ง หรือชาวดอย จนเกิดวลีที่ว่า “ใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ และไม่เคยใส่ชุดชาวม้ง ถือว่ายังมาไม่ถึง” ดังนั้นนักท่องเที่ยวจึงนิยมซื้อยางรัดผมตัวนี้เป็นของฝากเพื่อแสดงถึงการมาถึงจังหวัดเชียงใหม่ แถมยางรัดผมยังมีประโยชน์ ผู้คนใช้กันอย่างแพร่หลาย หากนำยางรัดผมชาวเขานี้ไปรัดที่ไหนล่ะก็ รับรองเลยค่ะว่าทุกคนจะต้องนึกถึงเชียงใหม่อย่างแน่นอน
9. กระเป๋าใส่เหรียญ ผลิตจากผ้าทอมือ

![]() | กระเป๋าใส่เหรียญ ทอลายนก ของที่ระลึก จังหวัดเชียงใหม่ | |
![]() | กระเป๋าใส่เหรียญ ทอลายช้าง ของที่ระลึก จังหวัดเชียงใหม่ |
ของฝากจังหวัดเชียงใหม่อีกหนึ่งตัวที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยนั่นก็คือกระเป๋าใส่เหรียญ ที่ทำมาจากผ้าดิบ จุดเด่นคือการนำผ้ามาทอมือเป็นลวดลายต่าง ๆ อย่างลายนกฮูก หรือลายช้างไทย นับเป็นงานที่ปราณีต ซึ่งถือว่าเป็นการแสดงภูมิปัญญาของชาวเชียงใหม่ออกมาได้เป็นอย่างดี ตัวกระเป๋าก็จะมีขนาดเล็ก ขนาดเฉลี่ยก็จะอยู่ที่ประมาณ 4 x 4 นิ้ว บางแบบจะมีซับฟองน้ำด้านในให้ หรืออาจจะไม่มีให้ก็แล้วแต่รุ่นเลยค่ะ กระเป๋าใบนี้นอกจากจะเหมาะที่จะนำไปเป็นของฝากแล้ว ยังเหมาะที่จะนำไปเป็นของชำร่วยหรือของที่ระลึกก็ยังได้ หรือใครอยากจะซื้อเอาไว้ใช้เป็นคู่กับคุณแฟน หรือใช้เป็นแก๊งค์กับเพื่อน ๆ ก็เท่ห์ไปอีกแบบ
10. ผ้าพันคอ / ผ้าคลุมไหล่

![]() | ผ้าไหมไทย สำหรับใช้พันคอและคลุมไหล่ ของที่ระลึก จังหวัดเชียงใหม่ | |
![]() | มาลัยผ้าพันคอ / ผ้าคลุมไหล่ ทอมือ ผลิตจากจังหวัดเชียงใหม่ |
หากใครเคยได้มาเชียงใหม่ เชื่อว่าต้องเคยเห็นร้านขายผ้าพันคอ หรือผ้าคลุมไหล่กันเรียงรายเต็มสองข้างทาง บ้างก็ทอด้วยผ้าฝ้ายเนื้อดี บ้างก็ทอด้วยผ้าไหม บอกเลยว่าไม่ว่าจะใช้เนื้อผ้าแบบไหน ลายของผ้าทอก็สะท้อนเอกลักษณ์ของเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี เหมาะเป็นอย่างยิ่งแก่การซื้อไปฝากผู้ใหญ่ที่เราเคารพรัก หรือจะนำมาใช้พันคอในช่วงหน้าหนาวก็อุ่นกายสบายใจ นอกจากนี้ยังมีผ้าพันคอแบบมาลัย ที่ทางร้านจะนำมาดัดแปลงให้มีลักษณะเหมือนพวงมาลัย มีรูปร่างสวยงาม ตัวนี้ก็จะเหมาะมากที่จะนำไปเป็นของฝาก หรือจะใช้ในพิธีรับไหว้, งานเลี้ยง, ของชำร่วย หรือของแทนใจ บอกเลยว่ามีความสุขกว่าผู้ให้ ก็คือผู้รับที่คงยิ้มแก้มปริไปอีกหลายวัน
11. ร่มบ่อสร้าง

![]() | ร่มบ่อสร้างจากกระดาษสา สีพื้น ขนาด 5 - 17 นิ้ว | |
![]() | ร่มบ่อสร้างจากผ้าแพร เพ้นท์ลายดอกไม้ ขนาด 5 - 17 นิ้ว | |
![]() | ร่มบ่อสร้าง แบบเคลือบกันน้ำ ลายนกยูง ขนาด 17 นิ้ว |
หากพูดถึงจังหวัดเชียงใหม่ เชื่อว่าหลาย ๆ คนต้องนึกถึงเจ้าร่มกระดาษที่เพ้นท์ลายสวยงาม อย่างร่มบ่อสร้างกันอย่างแน่นอนใช่มั้ยคะ? โดยร่มบ่อสร้างเป็นสินค้าพื้นเมืองของชาวเชียงใหม่ โดยเฉพาะในอำเภอสันกำแพง มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ชาวบ้านในชุมชนบ้านบ่อสร้างนั่งทำร่มกันใต้ถุนบ้าน และลองวาดลวดลายต่าง ๆ ที่สวยงามลงไปบนร่มก่อนจะนำไปตากแดดกลางลานบ้านเพื่อให้สีที่ระบายนั้นแห้ง จนไปสะดุดตานักท่องเที่ยวหลาย ๆ คนที่เดินทางมาท่องเที่ยว และเริ่มโด่งดังจนกลายมาเป็นร่มบ่อสร้างในปัจจุบัน
ตัวร่มมักนิยมวาดเป็นลวดลายดอกไม้ สีสันสวยงาม โดยวัสดุที่ใช้จะมี 3 แบบ คือ ร่มบ่อสร้างที่ทำจากผ้าฝ้าย, ร่มบ่อสร้างที่ทำจากกระดาษสา และร่มบ่อสร้างที่ทำจากผ้าแพร ซึ่งแต่ละแบบนั้นมีขั้นตอนและวิธีทำที่เหมือนกันหมด ต่างกันแค่วัสดุที่ใช้ ใครที่ชอบแบบไหน ก็สามารถเลือกได้ตามชอบเลยค่ะ
12. ปิ่นปักผมล้านนา

![]() | ปิ่นปักผมล้านนา ปิ่นจ้อง แบบมีพู่ห้อย ความยาว 2.7 นิ้ว | |
![]() | ปิ่นปักผมล้านนา ทรงร่มโบราณ ความยาว 5.5 นิ้ว | |
![]() | ปิ่นปักผมล้านนาโบราณ ลายดอกพิกุล ความยาว 5.5 นิ้ว |
แม่หญิงสวย ๆ ก็ต้องคู่กับปิ่นปักผมสวย ๆ ถึงแม้ปิ่นปักผมจะเป็นที่นิยมแทบทุกจังหวัดของภาคเหนือ แต่หากพูดถึงปิ่นปักผมล้านนา บอกได้เลยว่าใครที่มาเที่ยวเชียงใหม่ ไม่ควรพลาดที่จะซื้อเป็นของฝากไปฝากคนที่เรารักเลยค่ะ ด้วยเอกลักษณ์ของปิ่นที่มีเสน่ห์ แม่หญิงคนไหนที่ได้เกล้าผมแล้วปักด้วยปิ่นเงินหรือปิ่นทอง บอกเลยว่าน่ามองมาก ๆ
โดยปิ่นปักผมที่มีชื่อเสียงของชาวเชียงใหม่ก็คือปิ่นปักผมเมืองแจ่ม ที่นิยมทำจากทองเหลืองและเครื่องเงิน แล้วนำมาขึ้นรูปเป็นลวดลายต่าง ๆ ส่วนใหญ่จะตีเป็นรูปร่ม หรือปิ่นจ้อง ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของชาวไทยลื้อ แต่ในปัจจุบันก็ได้มีการดัดแปลงรูปทรงให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ลายดอกไม้ ใบไม้ หรือประดับด้วยอัญมณีต่าง ๆ ชาวเชียงใหม่มักนิยมใส่ปิ่นปักผมกันตอนมีงานบุญ หรืองานประเพณี ยิ่งได้สวมคู่กับผ้าซิ่นตีนจก บอกเลยว่าบ่งบอกความเป็นเชียงใหม่ได้ดีเลยทีเดียว
เป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับของฝากจังหวัดเชียงใหม่ที่เราได้คัดสรรค์มาฝากทุก ๆ คนกันในวันนี้ มีร้านค้าให้เลือกกว่า 25 ร้านกันแบบจุก ๆ ของฝากแต่ละชิ้นบอกเลยว่าบ่งบอกถึงความเป็นเชียงใหม่ล้านนาได้ดีมาก ๆ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จังหวัดเชียงใหม่จึงเป็นอันดับต้น ๆ ที่ผู้คนอยากจะมาเที่ยว
นอกจากนี้ใครที่ชื่นชอบสถานที่บรรยากาศหนาว ๆ ในช่วงสิ้นปี และอยากลองเที่ยวภาคเหนือจังหวัดอื่น ๆ เว็บไซต์ของเรายังมี สถานที่เที่ยว จ.เชียงราย, สถานที่เที่ยว จ.ลำปาง, สถานที่เที่ยวปาย จ.แม่ฮ่องสอน, สถานที่เที่ยว จ.น่าน, ที่พัก จ.ลำปาง, ที่พัก จ.น่าน, ที่พักดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ และที่พักปาย จ.แม่ฮ่องสอน ให้เลือกชมกันด้วยนะคะ วันนี้ต้องขอตัวลากันไปก่อน สวัสดีเจ้า…