การทำอาหารเป็นกิจกรรมที่หลายคนชื่นชอบค่ะ ผู้เขียนเองก็ชอบมากเพราะคิดว่าการทำอาหารด้วยตัวเองทำให้เราได้รสชาติอาหารที่ถูกปากมากที่สุด นอกจากนี้การทำอาหารด้วยตัวเองยังถูกสุขอนามัยแล้วยังดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ เพราะหากเราทำอาหารด้วยตัวเองเราจะพิถีพิถันในการเลือกวัตถุดิบและเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเองเสมอ ถึงแม้ว่าในการทำอาหารต้องเตรียมวัตถุดิบ เครื่องปรุงรสและอุปกรณ์ทำอาหารเองทั้งหมดแต่คุณภาพของอาหารที่ได้ก็คุ้มค่าอย่างแน่นอนค่ะ แต่ทุกคนคะนอกจากวัตถุดิบและเครื่องปรุงรสแล้วน้ำมันสำหรับทำอาหารก็เป็นเรื่องที่เราต้องให้ความสำคัญเหมือนกันค่ะ หลายคนอาจจะละเลยในส่วนนี้ไปเพราะคิดว่าสามารถใช้น้ำมันอะไรก็ได้ แต่เรื่องนี้ผิดนะคะเพราะเราจำเป็นต้องใช้น้ำมันให้ถูกกับประเภทของอาหารเสมอ แน่นอนว่าหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับการใช้น้ำมันพืช น้ำมันมะกอกและน้ำมันถั่วเหลืองกันอยู่แล้วแต่วันนี้ผู้เขียนอยากจะมาแนะนำน้ำมันอีกหนึ่งชนิดที่เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งนั่นก็คือ “น้ำมันดอกทานตะวัน” ค่ะ หากอยากรู้ว่าน้ำมันดอกทานตะวันมีดีอย่างไร และจะมียี่ห้อไหนที่เราเลือกมาแนะนำบ้าง ก็ไปกันเลยค่ะ
น้ำมันดอกทานตะวัน ยี่ห้อไหนดี สำหรับเมนูทอด/ผัด/สลัด ?
- น้ำมันดอกทานตะวันสุดฮิต เหมาะสำหรับทอดและผัด: Naturel Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
- น้ำมันดอกทานตะวันผ่านกรรมวิธีมาอย่างดี เหมาะสำหรับเมนูสลัดและเบเกอรี: A Ngoon Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
- น้ำมันดอกทานตะวันขวดใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารบ่อย ๆ: Cook Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
- ผสมผสานคุณประโยชน์จากน้ำมันดอกทานตะวันและน้ำมันคาโนลา ไขมันดีสูง: Naturel Canola and Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันผสมคาโนลา
- น้ำมันดอกทานตะวันออร์แกนิก เหมาะสำหรับเมนูสลัด: Rawganiq Organic Extra Virgin Sunflower Seed Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
 Naturel Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน   |  A Ngoon Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน |  Cook Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน |  Morakot Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน |
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำมันดอกทานตะวัน (สำหรับทำอาหาร)
1. เลือกซื้อน้ำมันที่ทำมาจากเมล็ดทานตะวัน
จำไว้นะคะว่าน้ำมันดอกทานตะวันที่ดีจะต้องเป็นน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดทานตะวันแท้ ๆ โดยไม่มีส่วนผสมอื่นค่ะ โดยปกติแล้วน้ำมันดอกทานตะวันจะมีราคาสูง ดังนั้นหากมีบางร้านที่ขายน้ำมันราคาถูกจะต้องระวังไว้ก่อน เพื่อแก้ไขปัญหานี้ก่อนซื้อเราอยากแนะนำให้อ่านส่วนประกอบของน้ำมันดอกทานตะวันก่อนค่ะ โดยรายละเอียดส่วนผสมมักจะอยู่ในฉลากที่ด้านหลังของบรรจุภัณฑ์ นอกจากนี้เรายังสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการแปรรูปและการผลิตน้ำมันดอกทานตะวันได้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของผลิตภัณฑ์ในแต่ละแบรนด์
2. เลือกน้ำมันดอกทานตะวันตามความต้องการใช้
- สำหรับเมนูทอด น้ำมันดอกทานตะวันมีจุดเกิดควันสูงที่ 232 องศาเซลเซียสทำให้เหมาะสำหรับการทอดและการอบมากค่ะ กลิ่นหอมของน้ำมันยังเป็นกลิ่นหอมแบบกลาง ๆ จึงไม่ทำให้รสชาติอาหารเปลี่ยนไป ในการใช้งานสามารถใช้น้ำมันดอกทานตะวันแทนเนยเทียมได้ เมื่อใช้แล้วจะไม่ทำให้รสชาติเปลี่ยนอย่างแน่นอน ดังนั้นสำหรับการทอดอาหารที่ต้องใช้น้ำมันมากให้เลือกน้ำมันดอกทานตะวันที่บรรจุในขวดขนาดใหญ่ ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องกังวลเลยค่ะเพราะน้ำมันนี้ปลอดภัยเพราะมีปริมาณไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนสูง
- สำหรับการควบคุมอาหาร ไขมันทรานส์เป็นไขมันอิ่มตัวชนิดหนึ่งที่มักพบในอาหารสัตว์ โดยทั่วไปจะมีการเติมไขมันทรานส์เทียมลงในน้ำมันปรุงอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติและทำให้น้ำมันมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น อย่างไรก็ตามในระยะยาวไขมันทรานส์เหล่านี้เป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย หากคุณกำลังควบคุมอาหารควรหลีกเลี่ยงน้ำมันปรุงอาหารที่มีไขมันทรานส์สูง เช่น น้ำมันมะพร้าว ดังนั้น ควรเลือกน้ำมันดอกทานตะวันที่มีปริมาณไขมันทรานส์ต่ำเพื่อดูแลโปรแกรมการรับประทานอาหารค่ะ
- สำหรับอาหารเด็ก ในทารกไขมันมีบทบาทในการพัฒนาสมองและเนื้อเยื่อประสาท นอกจากนี้ไขมันยังมีประโยชน์ในการเพิ่มน้ำหนักของทารกเพื่อรองรับการเจริญเติบโตและพัฒนาการ ดังนั้นนอกจากน้ำมันมะกอกและน้ำมันดอกทานตะวันก็เป็นน้ำมันที่มีไขมันและสามารถใช้เป็นส่วนประกอบในอาหารเด็กได้อีกด้วย ในน้ำมันดอกทานตะวันจะมีโอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ซึ่งดีต่อสุขภาพ
3. ให้ความสนใจกับข้อมูลทางโภชนาการของน้ำมันดอกทานตะวัน
แม้ว่าน้ำมันดอกทานตะวันจะมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย แต่เราก็ยังต้องใส่ใจกับคุณค่าทางโภชนาการในนั้นด้วย หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วสารอาหารในน้ำมันดอกทานตะวันขึ้นอยู่กับพันธุ์ของเมล็ดทานตะวันด้วยค่ะ เมล็ดทานตะวันบางสายพันธุ์มีกรดโอเลอิกสูงแต่มีกรดไลโนเลอิกต่ำ ส่วนในบางสายพันธุ์มีกรดไลโนเลอิกสูงแต่มีกรดโอเลอิก แน่นอนว่าทานตะวันทั้งสองชนิดเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ดีต่อร่างกายเราสามารถเลือกแบบไหนก็ได้ ในข้อมูลส่วนนี้สามารถเช็กได้จากฉลากเลยค่ะ
Naturel Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
ราคา 102 บาท*
Naturel Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ค่ะและหลาย ๆ คนอาจจะรู้จักกันดี ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่าหากใช้งานน้ำมันจากทางแบรนด์เราไม่ต้องกังวลว่ารสชาติของอาหารจะเปลี่ยนไปเลยค่ะเพราะเป็นน้ำมันคงสารอาหารตามธรรมชาติไว้ อีกทั้งน้ำมันยังผ่านกรรมวิธีอย่างถูกสุขลักษณะ เมื่อใช้แล้วจะทำอาหารของเราอร่อยและมีคุณภาพ
แพ็กเกจของน้ำมันดอกทานตะวันจากทางแบรนด์เป็นขวดพลาสติกคุณภาพดีค่ะและผ่านการออกแบบมาอย่างสวยงามถูกตามหลักของน้ำมันปรุงอาหารทั่วไป ราคาของน้ำมันก็ไม่ได้แพงมากค่ะเหมาะสมกับราคาของน้ำมันดอกทานตะวัน นอกจากน้ำมันดอกทานตะวันแล้วทางแบรนด์ยังวางขาย Naturel Canola and Sunflower Oil เป็นน้ำมันดอกทานตะวันผสมคาโนลาให้เราเลือกซื้อด้วยค่ะ
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันคาโนลาและน้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | ทอด ผัด ย่างและอบ |
Morakot Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
ราคา 98 บาท*
Morakot Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันที่ฮิตมากในไทยค่ะ ใครที่เข้าครัวบ่อย ๆ อยู่แล้วจะต้องรู้จักกับน้ำมันแบรนด์นี้อย่างแน่นอนค่ะ ทางแบรนด์ให้ข้อมูลมานะคะว่าน้ำมันจะเหมาะสำหรับการผัดและการทำสลัดมากที่สุด เพราะน้ำมันดอกทานตะวันจากมรกตจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอมของอาหารให้น่ารับประทานมากยิ่งขึ้น
จุดเด่นของน้ำมันดอกทานตะวันคือผ่านกรรมวิธีมาอย่างดีค่ะ แม้จะเก็บไว้ในตู้เย็นเป็นเวลา 2 วัน น้ำมันเมล็ดทานตะวันจะไม่แข็งตัว ดังนั้นเราสามารถตุนน้ำมันดอกทานตะวันไว้ที่บ้านและใช้เมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ต้องการค่ะ จากรูปจะเห็นได้ว่าน้ำมันดอกทานตะวันมีสีใสมากนะคะเหมาะสำหรับเมนูสลัดและซอสที่ต้องใช้น้ำมันค่ะ ใครที่ชอบทำอาหารห้ามพลาดนะคะ
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | ผัดและสลัด |
Yok Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
ราคา 97 บาท*
Yok Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ Morakot Sunflower Oil เลยค่ะและเป็นแบรนด์ที่ตีคู่กันมาด้วย ราคาของน้ำมันทั้งสองไม่ได้แตกต่างกันมากค่ะสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบเลย สำหรับข้อมูลที่ทางแบรนด์ให้มาเราพบว่าน้ำมันจากทางแบรนด์เหมาะสำหรับเมนูที่ใช้ความร้อนไม่นานค่ะ ดังนั้นจึงเหมาะกับเมนูสลัด ซอส เบเกอรีและอาหารย่างที่ใช้น้ำมันเพื่อเพิ่มความหอม
ขวดของน้ำมันยังคงเป็นพลาสติกคุณภาพดีค่ะ สามารถเก็บน้ำมันได้อย่างดี จากรีวิวมากมายพบว่าลูกค้าหลายคนชอบนำ Yok Sunflower Oil มาทำเบเกอรีค่ะ เมนูเบเกอรีที่ได้จึงนุ่ม ฟูและน่ารับประทานมากยิ่งขึ้น ใครที่กำลังทำเบเกอรีและหาทางเลือกที่ประหยัดกว่าเนยหรือมาการีนแนะนำเลยค่ะ
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | ผัด เบเกอรีและสลัด |
A Ngoon Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
ราคา 119 บาท*
A Ngoon Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันที่มาพร้อมแพ็กเกจสวยงามค่ะ ผู้เขียนเองคุ้นเคยกับน้ำมันถั่วเหลืองจากทางแบรนด์มากค่ะ ที่บ้านเลือกใช้ตลอดเพราะน้ำมันมีความใสและน่าใช้งาน จากที่ผู้เขียนเห็นน้ำมันดอกทานตะวันของทางแบรนด์ก็ใสมากค่ะน่าลองนำมาใช้เหมือนกันค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าน้ำมันของเขาสกัดจากดอกทานตะวันอย่างดีทำให้น้ำมันที่ได้ไร้กลิ่นและเป็นสีจากธรรมชาติไม่ได้เติมแต่ง
อีกทั้งทางแบรนด์เคลมมาว่าน้ำมันดอกทานตะวันมีกรดสิโนเลอิกและวิตามินอีด้วยค่ะ สำหรับการใช้งานมีความคล้ายกับ Yok Sunflower Oil เพราะเหมาะสำหรับเมนูผัด สลัดและเบเกอรีมากที่สุดค่ะ ราคาของน้ำมันดอกทานตะวันจากทางแบรนด์ไม่ได้แพงมากนะคะใครที่อยากลองใช้น้ำมันดอกทานตะวันแนะนำเลยค่ะ
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | ผัด เบเกอรีและสลัด |
Cook Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
ราคา 199 บาท*
Cook Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันไซซ์ใหญ่ที่เราอยากแนะนำเลยค่ะ ปริมาณของน้ำมันทานตะวันจะอยู่ที่ 1.9 ลิตรนะคะเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหารบ่อย ๆ ค่ะ ทางแบรนด์เคลมมานะคะว่าน้ำมันดอกทานตะวันใช้ทานตะวันอย่างดีที่ผ่านการแยกไขมันด้วยเทคโนโลยี Winterization เป็นเทคโนโลยีแยกไขมันทำให้น้ำมันที่ได้มีความใสและเหมาะสำหรับการทำอาหารค่ะ
น้ำมันดอกทานตะวันจากทางแบรนด์ไม่มีไขนะคะสามารถนำไปแช่เย็นได้หากไม่ได้ใช้แล้ว หากถามว่าน้ำมันเหมาะกับเมนูไหนมากที่สุด ขอบอกเลยว่าตอบโจทย์กับเมนูผัด ย่างและสลัดมากที่สุดค่ะ ดังนั้นใครที่ชอบทำเมนูนี้บ่อย ๆ แนะนำเลยนะคะเพราะคุ้มค่าจริง ๆ ค่ะ
| ปริมาณ | 1.9 ลิตร |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | ผัด ย่างและสลัด |
Naturel Canola and Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันผสมคาโนลา
ราคา 179 บาท*
Naturel Canola and Sunflower Oil เป็นน้ำมันทำอาหารที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการลองใช้น้ำมันปรุงอาหารในรูปแบบใหม่ค่ะ เพราะน้ำมันปรุงอาหาร จาก Naturel เป็นน้ำมันที่มีส่วนผสมของน้ำมันคาโนลาและน้ำมันดอกทานตะวัน ทางแบรนด์เคลมมาว่าน้ำมันคาโนลาจะมีปริมาณไขมันอิ่มตัวต่ำ 7% ดังนั้นจึงดีต่อสุขภาพร่างกาย
เมื่อน้ำมันคาโนลาผสมผสานรวมกับน้ำมันดอกทานตะวันแล้วทำให้น้ำมันมีสารอาหารมากยิ่งขึ้น อีกทั้งน้ำมันยังอุดมไปด้วย MUFA หรือที่เราเรียกว่ากรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว ไขมันดีชนิดนี้เหมาะสำหรับบริโภคเพื่อลดคอเลสเตอรอลค่ะ แต่อย่างที่เราบอกนะคะว่าน้ำมันเพียงอย่างเดียวใช้เพื่อลดคอเลสเตอรอล เราต้องควบคุมด้านอื่นด้วย ในการใช้งาน Naturel Canola and Sunflower Oil เหมาะมากสำหรับการผัด ย่างและการอบค่ะ
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันคาโนลาและน้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | ผัด ย่างและอบ |
Emerald Canola and Sunflower Oil น้ำมันดอกทานตะวันผสมคาโนลา
ราคา 95 บาท*
หลังจากที่รีวิว Naturel Canola and Sunflower Oil ไปแล้ว ทางเราก็อยากแนะนำน้ำมันดอกทานตะวันผสมคาโนลากันอีกสักหนึ่งแบรนด์ค่ะ นั่นก็คือ Emerald Canola and Sunflower Oil ค่ะ หลายคนอาจจะไม่คุ้นเคยกับน้ำมันจากแบรนด์นี้นักแต่อันที่จริงเขาวางขายมานานแล้วค่ะ ทางแบรนด์เคลมมาว่าน้ำมันเป็นน้ำมันแบบผ่านกรรมวิธีอย่างดีค่ะและเหมาะสำหรับเมนูผัดมากที่สุดด้วย
สีของน้ำมันจากทางแบรนด์ไม่ได้ผ่านการแต่งสีและกลิ่นค่ะ เป็นน้ำมันที่สกัดมาจากธรรมชาติ ทางแบรนด์ยังเคลมมาเพิ่มอีกว่าน้ำมันมีโอเมก้ามากกว่าน้ำมันถั่วเหลืองทั่วไป ใครที่อยากซื้อน้ำมันแบบไม่เน้นใช้ทอดแต่เน้นใช้ผัดและย่างแนะนำ Emerald Canola and Sunflower Oil เลยค่ะ
| ปริมาณ | 1 ลิตร |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันคาโนลาและน้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | ผัด |
Rawganiq Organic Extra Virgin Sunflower Seed Oil น้ำมันดอกทานตะวัน
ราคา 283 บาท*
Rawganiq Organic Extra Virgin Sunflower Seed Oil น้ำมันดอกทานตะวันที่ราคาแพงที่สุดในรายการแต่ก็เป็นน้ำมันที่มีคุณภาพมากเหมือนกันค่ะเพราะเป็นน้ำมันดอกทานตะวันออร์แกนิกแบบไม่ผ่านกรรมวิธีใด ๆ ทำให้น้ำมันที่ได้มีความหวานและมีกลิ่นหอมค่ะ หากถามว่าน้ำมันจากทางแบรนด์เหมาะกับใครมากที่สุดตอบเลยว่าเหมาะสำหรับใช้ทำสลัดค่ะหรือจะใช้เพื่อบำรุงผิวก็ได้ค่ะ
จะเห็นได้ว่าน้ำมันทานตะวันจาก Rawganiq แตกต่างจากน้ำมันอื่น ๆ เพราะไม่ได้เป็นน้ำมันไว้ทอดค่ะ แต่เหมาะสำหรับใช้เพื่อเติมสารอาหารให้กับเราค่ะ ในการใช้จะใช้ผสมในสมูตตี้ก็ได้ เครื่องดื่มอื่นก็ได้หรือจะใช้เมนูอื่น ๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอมก็ได้เหมือนกันค่ะ ส่วนใครที่อยากบำรุงผิวก็สามารถซื้อได้นะคะเพราะเป็นน้ำมันออร์แกนิกค่ะ
| ปริมาณ | 275 มล. |
|---|---|
| ส่วนผสมหลัก | น้ำมันดอกทานตะวัน |
| บรรจุภัณฑ์ | ขวดพลาสติก |
| เหมาะสำหรับ | สลัดและบำรุงผิว |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
น้ำมันดอกทานตะวัน ดีต่อสุขภาพอย่างไร? (1-3)
น้ำมันดอกทานตะวันดีต่อสุขภาพอย่างแน่นอนค่ะ อีกทั้งเรายังสามารถใช้น้ำมันดอกตะวันทดแทนน้ำมันปาล์มในการปรุงอาหารได้ด้วย อย่างไรก็ตามแม้ว่าการใช้น้ำมันดอกทานตะวันดีต่อสุขภาพก็จริง แต่เราก็ต้องใช้น้ำมันอย่างถูกต้อง และต้องดูแลสุขภาพด้านอื่นไปด้วยจะรับประโยชน์จากน้ำมันดอกทานตะวันอย่างเดียวไม่ได้ค่ะ
ด้านล่างนี้เราจะลิสต์เป็นข้อ ๆ ว่าน้ำมันดอกทานตะวันดีต่อสุขภาพอย่างไรบ้าง
- น้ำมันดอกทานตะวันมีไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลที่ไม่ดีในร่างกายและรักษาระบบทางเดินอาหาร นอกจากนี้น้ำมันดอกทานตะวันยังมีวิตามินอีและสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ฟลาโวนอยด์และกรดฟีนอล
- น้ำมันดอกทานตะวันมีความเสถียรมากกว่าน้ำมันอื่น ๆ และมีจุดเกิดควันสูงจึงสามารถใช้ทอดได้ อีกทั้งเรายังสามารถใช้น้ำมันดอกทานตะวันแทนเนยหรือน้ำสลัดได้ค่ะ
- การใช้น้ำมันดอกทานตะวันในการปรุงอาหารมีประโยชน์ต่อการป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือด เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง น้ำมันเมล็ดทานตะวันยังมีประโยชน์ในการเพิ่มภูมิคุ้มกันของร่างกายและยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็ง
- น้ำมันดอกทานตะวันเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการไดเอต อย่างไรก็ตามเราก็ยังคงต้องใส่ใจกับปริมาณแคลอรีในอาหารด้วยค่ะ โดยอาจจะสร้างสมดุลของอาหารด้วยการลดอาหารทอดและอาหารที่มีไขมันสูง
น้ำมันดอกทานตะวันได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่น้ำมันดอกทานตะวันไม่เพียงมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายเท่านั้นนะคะ เพราะยังมีประโยชน์ต่อผิวพรรณและช่วยบำรุงเส้นผมได้อีกด้วย หากคุณกำลังมองหาน้ำมันดอกทานตะวันเพื่อความงามโดยเฉพาะให้เลือกผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อบำรุงผิวค่ะ เพราะน้ำมันดอกทานตะวันที่เราแนะนำกันวันนี้เป็นน้ำมันดอกทานตะวันสำหรับทำอาหารเท่านั้น
น้ำมันดอกทานตะวันกับน้ำมันคาโนลาต่างกันอย่างไร?
จากสินค้าด้านบนทุกคนจะเห็นผลิตภัณฑ์น้ำมันดอกทานตะวันผสมน้ำมันคาโนลาอยู่ด้วยค่ะ ด้วยเหตุนี้เราจึงอยากมาขยายความให้ดูกันว่าผลิตภัณฑ์ทั้งสองอย่างเหมือนหรือต่างกันอย่างไรทำไมถึงนำมาผสมกันได้ หากใครที่เคยซื้อน้ำมันคาโนลามาใช้จะเห็นเลยว่าบรรจุภัณฑ์ของน้ำมันทั้งสองชนิดนี้มีความคล้ายคลึงกันมากแต่ด้านในไม่เหมือนกันเลยค่ะ หากตอนนี้พร้อมแล้วไปดูกันเลยค่ะว่าน้ำมันทั้งสองประเภทแตกต่างกันอย่างไร?
- น้ำมันดอกทานตะวันและน้ำมันคาโนลาเป็นน้ำมันพืชทั้งสองประเภท น้ำมันดอกทานตะวันได้มาจากการสกัดเมล็ดทานตะวัน ในขณะที่น้ำมันคาโนลา สกัดจากเมล็ดของต้นคาโนลา (Brassica napus) คาโนลาเป็นชื่อย่อมาจากแคนาดาออยล์ซึ่งเป็นประเทศที่ผลิตน้ำมันคาโนลาเป็นหลัก
- น้ำมันทั้งสองชนิดเป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพซึ่งมีไขมันอิ่มตัวต่ำและมีไขมันไม่อิ่มตัวสูง ในน้ำมันดอกทานตะวันมีปริมาณกรดโอเลอิกตั้งแต่ 14-40 % และกรดไลโนเลอิกอยู่ในช่วง 48-74 % น้ำมันคาโนลามีกรดโฟลิก 61% และกรดไลโนเลอิก 21%
- ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งคือน้ำมันดอกทานตะวันมีจุดเกิดควันสูงถึง 232 °C ในขณะที่น้ำมันคาโนลามีจุดเกิดควันต่ำประมาณ 204 °C น้ำมันดอกทานตะวันเหมาะสำหรับการทอดหรือทอด ในทางตรงกันข้ามคาโนลาไม่เหมาะสำหรับการปรุงอาหารที่อุณหภูมิสูง เช่น การทอดหรือการย่าง แต่เราสามารถใช้น้ำมันคาโนลาสำหรับน้ำสลัดได้ น้ำมันดอกทานตะวันและน้ำมันคาโนลาสามารถผสมกันได้เมื่อผสมกันแล้วจะทำให้น้ำมันมีสารอาหารเยอะมากขึ้น แต่จะเหมาะกับเมนูย่าง ผัดและทำสลัดเท่านั้นไม่แนะนำให้นำไปทอดค่ะยกเว้นแต่ว่าทางแบรนด์จะเคลมมาว่าทอดได้
References
