ช่วงวัยรุ่นถือเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อในการเลือกเส้นทางชีวิตและรวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางฮอร์โมนที่ส่งผลกระทบอารมณ์ ร่างกาย และต่อผิวหน้า หากผิวของเรามีปัญหาตั้งแต่วัยรุ่น การดูแลสภาพผิวหน้าในช่วงวัยถัดไปก็จะเป็นเรื่องที่ยากยิ่งกว่าเดิม บวกกับวัยรุ่นคือวัยแห่งการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ดังนั้นน้อง ๆ หลายคนอาจไม่สนใจปัญหาของผิวมากนัก แต่เชื่อเราเถอะค่ะการเริ่มดูแลผิวตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้เรามีผิวหน้าที่ดีในระยะยาวได้อย่างแน่นอน
![]() |
![]() |
การทาครีมกันแดดเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับวัยรุ่น (ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย) |
แม้ว่าปัจจุบันนี้จะมีผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าสำหรับวัยรุ่นสูตรอ่อนโยนมากมายทั้งโฟมล้างหน้า, ไมเซล่าคลีนซิ่ง, ผลิตภัณฑ์รักษาสิว รวมถึงมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงผิวหน้า แต่หากน้อง ๆ ไม่ทาครีมกันแดดควบคู่ไปด้วย รับประกันเลยว่าสกินแคร์บำรุงผิวที่น้อง ๆ ใช้อยู่จะไม่เกิดประสิทธิภาพสูงสุดอย่างแน่นอน เพราะแสงแดดเป็นศัตรูตัวฉกาจที่จะทำให้ผิวของน้อง ๆ แสบร้อน, หมองคล้ำ, เกิดริ้วรอยก่อนวัย และกลายเป็นมะเร็งผิวหนังในที่สุด ซึ่งการทาครีมกันแดดจะสามารถลดปัญหานี้ได้อย่างน้อยก็ครึ่งหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ
อย่างที่ทราบกันดีว่าในท้องตลาดมีครีมกันแดดมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ครีมกันแดดสำหรับผู้ชาย, ครีมกันแดดสำหรับผิวมัน รวมไปถึงครีมกันแดดสำหรับผิวแพ้ง่าย และส่วนใหญ่จะผลิตออกมาให้ครอบคลุมผู้ใช้ทุกวัย ทำให้บางสูตรอาจจะไม่เหมาะกับผิวของวัยรุ่น ดังนั้นในวันนี้เราเลยจะขอเป็นกูรูให้กับน้อง ๆ โดยการรวบรวม “ครีมกันแดดสำหรับวัยรุ่น” ที่ดีที่สุดมาฝากกันค่ะ ซึ่งมีทั้งครีมกันแดดราคาประหยัดไปจนถึงครีมกันแดดแบรนด์ดัง โดยที่น้อง ๆ สามารถเลือกซื้อได้ตามงบประมาณที่มีเลยค่ะ
ครีมกันแดด ยี่ห้อไหนดี ป้องกันแสงแดดและเหมาะสำหรับวัยรุ่นมากที่สุด ?
- ครีมกันแดดไฮโปอัลเลอร์เจนิก ไรสารเคมีที่รุนแรง: Dr.G Green Mild Up Sun+ SPF50+ PA++++ ครีมกันแดด
- เจลกันแดดสูตรไวท์เทนนิ่งยูวี ติดทนนานเพื่อการปกป้องที่เหนือกว่า: Anessa Whitening UV Sunscreen Gel A SPF 50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อเจล
- ครีมกันแดดสูตรไมโครดีเฟนชั่น ช่วยปกป้องผิวจากรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ: Biore UV Aqua Rich Watery Essence ครีมกันแดด
- ป้องกันการเกิดสิว ช่วยลดความมัน ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่ง: Garnier Light Complete UV Matte SPF50+ PA+++ ครีมกันแดด
- ครีมกันแดดแบบไร้สี ไม่ทำให้หน้าเทา อ่อนโยนสำหรับผิวมัน: L'Oreal UV Defender Serum Protector Sunscreen Matte & Fresh ครีมกันแดด
ครีมกันแดดชนิดกายภาพ VS ครีมกันแดดชนิดเคมี (1,2)
1. ครีมกันแดดชนิดกายภาพ (Physical sunscreen)
ครีมกันแดดชนิดกายภาพ มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Sunblock” หรือที่เรียกว่า “ครีมกันแดดแร่” สามารถปกป้องผิวทันทีหลังการใช้งานเพราะมันจะสร้างชั้นปกป้องบนผิว สาเหตุที่เรียกครีมกันแดดแร่เพราะประกอบด้วยแร่ธาตุมากมาย เช่น ไททาเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) และซิงค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) ซึ่งเป็นตัวกรองรังสียูวีฟิลเตอร์ (UV Filter) ที่จะไม่ได้รับความเสียหายเมื่อโดนแสงแดด ทั้งยังสามารถป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB ได้

จุดเด่นของครีมกันแดดชนิดนี้ คือ อ่อนโยนมาก ไม่ทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหน้า จึงปลอดภัยสำหรับวัยรุ่น เด็กและสตรีมีครรภ์ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกันนั่นก็คือเนื้อสัมผัสค่อนข้างหนาและมีโอกาสที่จะเหนียวเหนอะหนะบนผิว แม้ว่าจะไม่อุดตันรูขุมขนแต่อาจจะทิ้งคราบขาวไว้ได้
2. ครีมกันแดดชนิดเคมี (Chemical sunscreen)
ครีมกันแดดชนิดเคมีสามารถช่วยปกป้องผิวได้ทั้งชั้นหนังกำพร้าและหนังแท้ มันจะช่วยดูดซับรังสียูวีก่อนที่จะไปถึงชั้นผิว แต่ครีมกันแดดชนิดเคมีต้องใช้เวลาประมาณ 20 – 30 นาทีกว่าจะป้องกันแดดได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เมื่อเทียบกับครีมกันแดดชนิดกายภาพแล้วครีมกันแดดเคมีจะมีน้ำหนักเบา ซึมซาบเร็ว และไม่ทิ้งคราบขาวไว้ค่ะ

สารเคมีที่มีในครีมกันแดดชนิดนี้ก็คือ Oxybenzone, Avobenzone, Octocrylene และ Ethylhexyl ถึงแม้จะมีประโยชน์มากมาย แต่เราไม่แนะนำสำหรับผิวแพ้ง่าย เพราะส่วนผสมที่เป็นเคมีสามารถทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคืองได้ แต่ถ้าผิวของน้อง ๆ ไม่ได้บอบบางขนาดนั้นยังสามารถเลือกใช้ครีมกันแดดชนิดเคมีได้นะคะ แค่ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีการกำกับไว้ว่า “ไม่ก่อให้เกิดสิวหรือแพ้ง่าย” หรือเลือกใช้ครีมกันแดดแบบเคมีที่ไม่มีแอลกอฮอล์และน้ำหอมเป็นต้นค่ะ
เคล็ดลับในการเลือกซื้อครีมกันแดดสำหรับวัยรุ่น
1. ชนิดของครีมกันแดด
โดยทั่วไปแล้วครีมกันแดดมี 2 ประเภทคือครีมกันแดดชนิดกายภาพและครีมกันแดดชนิดเคมี แม้ว่าทั้งสองแบบจะออกแบบมาเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด แต่วิธีการทำงานและความสามารถของครีมกันแดดนั้นแตกต่างกันมาก โดยเราจะมาเจาะลึกถึงคุณสมบัติของครีมกันแดดทั้งสองชนิดนี้กันค่ะ
2. สูตรของครีมกันแดด
|
2.1 ครีมกันแดดสูตรน้ำปราศจากน้ำมัน : เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่มีผิวมันปัญหาผิวมันและการเกิดสิวมักเกิดขึ้นกับวัยรุ่นเมื่อเข้าสู่วัยหนุ่มสาว และหนึ่งในสาเหตุก็มาจากการไม่ทาครีมกันแดดค่ะ เพราะหลาย ๆ อาจกลัวว่าจะทำให้สภาพผิวแย่ลงและเกิดการอุดตันมากขึ้น หากน้อง ๆ มีสภาพผิวเช่นนี้เราแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดสูตรน้ำที่ปราศจากน้ำมัน เพื่อให้เนื้อครีมสามารถซึมเข้าสู่ผิวได้ง่ายและไม่อุดตันรูขุมขนนั่นเอง |
|
2.2 ครีมกันแดดสูตรมิเนรัลให้ความชุ่มชื้น : เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่มีผิวแห้งและแพ้ง่ายครีมกันแดดสูตรนี้ดีที่สุดสำหรับวัยรุ่นที่มีผิวแห้งและแพ้ง่ายเพราะไม่เพียงแต่ปกป้องผิวจากแสงแดดเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการระคายเคืองของผิวหนังและอาการแพ้อีกด้วย แต่แนะนำให้น้อง ๆ เลือกเป็นครีมกันแดดชนิดกายภาพที่มีส่วนผสมที่ให้ความชุ่มชื้นนะคะ อาทิเช่น กรดไฮยาลูโรนิกเพราะสามารถกักเก็บน้ำและคงความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ |
|
2.3 ครีมกันแดดสูตรบางเบาและกำกับว่าไม่ก่อให้เกิดสิว : เหมาะสำหรับวัยรุ่นที่มีผิวผสมคนที่มีผิวผสมจะมีทั้งความมันและความแห้งผสมกัน โดยความมันจะมันแค่บริเวณทีโซนได้แก่ หน้าผาก จมูกและคาง ในขณะที่บริเวณอื่น ๆ จะแห้ง หากน้อง ๆ ที่มีผิวประเภทนี้ควรลองใช้ครีมกันแดดหลาย ๆ ตัวเพื่อค้นหาครีมกันแดดที่ใช่สำหรับตัวเอง เนื่องจากผิวผสมเป็นผิวที่ต้องดูแลป็นพิเศษ แต่หากน้อง ๆ ไม่รู้จะเริ่มต้นจากตรงไหน เราแนะนำให้เลือกซื้อครีมกันแดดสูตรบางเบาเพราะจะไม่เพิ่มการผลิตน้ำมันบนใบหน้า นอกจากนี้ให้เลือกครีมกันแดดที่ระบุว่าไม่ก่อให้เกิดสิวเนื่องจากผู้ที่มีผิวผสมมักมีปัญหาเรื่องสิวหัวดำและสิวเสี้ยน |
3. ความสามารถในการป้องกันแสงแดด (ค่า SPF / PA)
น้อง ๆ วัยรุ่นที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งมักมีแนวโน้มสัมผัสกับรังสี UVA และ UVB ได้ง่ายกว่าคนอื่น ๆ ซึ่ง UVA นั้นสามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ในขณะที่รังสี UVB เป็นสาเหตุหลักของการถูกแดดเผาและมะเร็งผิวหนังเช่นกัน ดังนั้นเราขอแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มีป้ายกำกับว่า “สเปกตรัมกว้าง” เพราะจะให้การปกป้องแสงแดดในวงกว้าง แต่น้อง ๆ ต้องจำไว้ว่าผลิตภัณฑ์กันแดดส่วนใหญ่จะเน้นปกป้องผิวจากรังสี UVB เป็นหลัก (ค่า SPF) ซึ่งไม่สามารถปกป้องผิวจากรังสี UVA ได้ แต่รังสี UVA จะสามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังที่ลึกที่สุด
ดังนั้นให้น้อง ๆ เลือกครีมกันแดดที่มีการป้องกันรังสี UVA ด้วยเสมอนะคะ โดยสังเกตที่ค่า PA หากมีจำนวน + มากเท่าไหร่ยิ่งดีเท่านั้น นอกจากนี้ควรเลือกครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป เพราะยิ่งค่า SPF สูง ก็ยิ่งปกป้องผิวจากรังสี UVB ได้ดีค่ะ
4. หลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มีสารออกซีเบนโซน (Oxybenzone) (2)
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกาได้ระบุไว้ว่าออกซีเบนโซน (Oxybenzone) เป็นสารเคมีที่ต้องระวัง สารเคมีเหล่านี้มักพบในครีมกันแดดชนิดเคมีเพราะเป็นส่วนผสมที่สามารถดูดซับรังสี UVB เข้าสู่ผิวหนังได้ แต่ Oxybenzone จะเกิดปฏิกิริยาเคมีเมื่อโดนแสงแดดและอาจทำให้เกิดอาการแพ้ ดังนั้นน้อง ๆ วัยรุ่นควรหลีกเลี่ยงครีมกันแดดที่มี Oxybenzone เพราะนอกจากจะทำให้เกิดอาการแพ้แล้ว สารเคมีเหล่านี้ยังสามารถรบกวนฮอร์โมนในร่างกายได้อีกด้วยจ้า
KA UV Whitening Soft Cream SPF50+/PA++++ ครีมกันแดด

ราคา 189 บาท*
KA UV Whitening Soft Cream SPF50+ เป็นอีกหนึ่งครีมกันแดดในตำนานที่หลายคนต้องเคยเห็นและเคยใช้ ตัวครีมกันแดดมีความอ่อนโยนและให้ความชุ่มชื้นยาวนาน ด้วย SPF 50+ PA++++ ครีมกันแดดจะให้การปกป้องทั้งรังสี UVA และ UVB ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ครีมกันแดดอุดมไปด้วยว่านหางจระเข้ วิตามินอีและ Pollution filter ที่จะแทรกซึมเข้าชั้นผิวของเราเพื่อเพิ่มความกระชับและเติมความชุ่มชื้นแก่ผิว ครีมกันแดดมีเนื้อบางเบาเหมือนโลชั่น ทำให้ทาง่ายและซึมเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วเลยทีเดียวค่ะ สำหรับใครที่งบน้อยแนะนำเลยค่ะ
ข้อดี
- ควบคุมความมันได้ดีในระดับหนึ่ง
- รองพื้นเป็นสีเดียวกับผิว ไม่เปลี่ยนสีผิวและสีรองพื้น
- เกลี่ยง่าย เบาสบายผิว เหมือนยังไม่ได้ทาครีมกันแดด
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีสิวเพราะอาจจะอุดตันผิว
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดกายภาพ + ครีมกันแดดชนิดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมหลัก | ว่านหางจระเข้ วิตามินอีและ Pollution filter |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection Sunscreen Lotion SPF50+ ครีมกันแดด

ราคา 216 บาท*
Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture เป็นครีมกันแดดที่ผู้เขียนใช้มามากกว่า 5 หลอดค่ะ เพราะดีจริง ๆ เนื้อสัมผัสเป็นโลชั่นค่อนข้างเหลวมีสีขาวอมเหลืองเล็กน้อยที่มีกลิ่นดอกไม้จาง ๆ ทางแบรนด์เคลมมาว่าตัวกันแดดสามารถกันเหงื่อและน้ำได้ประมาณ 80 นาที จึงสามารถใช้ได้เมื่อทำกิจกรรมกลางแจ้ง รวมทั้งเมื่อออกกำลังกายและแม้กระทั่งว่ายน้ำ ตัวครีมกันแดดเป็นครีมกันแดดชนิดเคมีเพราะใช้ฟิลเตอร์ออร์แกนิก 2 ตัว ได้แก่ Octinoxate (uv b filter) และ uvinal a plus (uv a2) filter มีค่า SPF 50+ และ PA ++++ ซึ่งช่วยป้องกันรังสียูวีที่สูงมาก ใครที่ชอบครีมกันแดดที่กันน้ำได้นานแต่ไม่เหนียวต้องลองค่ะ
ข้อดี
- เนื้อเจลแตกตัวเป็นน้ำ เกลี่ยเข้าสู่ผิวได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- ใช้แทนมอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวได้
- เกลี่ยง่ายและไม่ทิ้งคราบขาวไว้บนผิวถึงแม้ทาหนาก็ไม่เป็นคราบ
ข้อควรพิจารณา
- มีส่วนผสมของน้ำหอมที่บางคนอาจจะไม่ชอบ
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิก |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
Canmake Mermaid Skin Gel UV ครีมกันแดดเนื้อเจล

ราคา 269 บาท*
Canmake Mermaid Skin Gel UV ครีมกันแดดเนื้อเจล บางเบาและสามารถใช้เป็นการเมคอัพเบสก่อนการแต่งหน้าได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมบำรุงผิวมากมาย เช่น น้ำมันโจโจ้บา สารสกัดจากรากหม่อนขาวและสารสกัดจากใบอาติโช๊ค ซึ่งเป็นสารอาหารที่จำเป็นแก่ผิวของคุณและให้ผิวดูมีสุขภาพดี ครีมกันแดดสามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่ทิ้งคราบมันหรือคราบขาวไว้บนผิวอย่างแน่นอน จากประสบการณ์การใช้จริงผู้เขียนขอบอกเลยว่าใช้แล้วผิวฉ่ำมาก สามารถลงกันแดด ลงแป้งแล้วทาปาก หลังจากนั้นก็ออกจากบ้านได้เลยค่ะ รับรองว่าได้ลุคธรรมชาติสุด ๆ
ข้อดี
- เนื้อเจลแตกตัวเป็นน้ำ เกลี่ยเข้าสู่ผิวได้ง่ายและไม่เหนียวเหนอะหนะ
- มีส่วนผสมของสารธรรมชาติถึง 85% ดีต่อผิวมาก
- ไม่ว่าจะเป็นสภาพผิวแบบไหนก็สามารถใช้งานได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่กันน้ำและไม่กันเหงื่อ
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดกายภาพ |
---|---|
ปริมาณ | 40 มล. |
ส่วนผสมหลัก | น้ำมันโจโจ้บา สารสกัดจากรากหม่อนขาวและสารสกัดจากใบอาติโช๊ค |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
Biore UV Aqua Rich Watery Essence ครีมกันแดด

ราคา 399 บาท*

นอกจากจะป้องกันแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ตัวครีมกันแดดยังมีกรดไฮยาลูโรนิกและนมผึ้งช่วยบำรุงและช่วยให้ผิวชุ่มชื่น ในขณะเดียวกันด้วยสูตรไมโครดีเฟนซ์จะให้การปกป้องผิวของเราจากรังสี UVA และ UVB สำหรับวัยรุ่นคนไหนที่กำลังหาซื้อครีมกันแดดตัวแรก แนะนำเลยค่ะเพราะว่าดีจริง อีกทั้งยังเหมาะสำหรับทุกสภาพผิวรวมถึงผิวธรรมดา ผิวมัน ผิวผสมและผิวแห้งค่ะ
ข้อดี
- กันน้ำและกันเหงื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- เนื้อสัมผัสแบบเจล แตกตัวเป็นน้ำทำให้ใช้งานง่าย
- ผ่านการทดสอบภูมิแพ้มาแล้วว่าใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ข้อควรพิจารณา
- มีกลิ่นและมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่: รีวิว ครีมกันแดด Biore UV Aqua Rich Watery Essence
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | เอทิลเฮกซิล เมทอกซีซินนาเมต, กรดไฮยาลูโรนิกและนมผึ้ง |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
Dr.G Green Mild Up Sun+ SPF50+ PA++++ ครีมกันแดด

ราคา 422 บาท*
Dr.G Green Mild Up Sun+ ครีมกันแดดซิงค์ออกไซด์ที่ปราศจากสารเคมีและได้รับการทดสอบทางคลินิกแล้วว่าปลอดภัยสำหรับผิวบอบบาง ครีมกันแดดมีพืชสมุนไพรที่ช่วยผ่อนคลายผิวนั่นก็คือใบบัวบกและสารสกัดจากสะระแหน่เพื่อลดการอักเสบและบรรเทาการระคายเคืองของผิว อีกทั้งยังมีไกลโคฟิล์ม สารต่อต้านมลภาวะและแพนธีนอลเพื่อช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะและช่วยเสริมสร้างเกราะป้องกันผิวของคุณ ใครที่ผิวแพ้ง่ายเราขอแนะนำเลยค่ะเพราะครีมกันแดดนี้ให้ความชุ่มชื้นเป็นพิเศษและไม่ก่อให้เกิดสิวหรือทำให้เกิดอาการแพ้อย่างแน่นอนค่ะ
ข้อดี
- ช่วยปลอบประโลมและให้ความชุ่มชื้นกับผิวทุกครั้งที่ใช้งาน
- ไม่เหนียวเหนอะหนะหรือระคายผิวหลังจากใช้งาน
- ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม ปลอดภัยต่อผิวแพ้ง่าย
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะมีคราบขาวแต่จะหายไปเมื่อครีมกันแดดเริ่มเซตตัว
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดกายภาพ |
---|---|
ปริมาณ | 20 มล. |
ส่วนผสมหลัก | ไกลโคฟิล์ม แพนธีนอล ใบบัวบกและสารสกัดจากสะระแหน่ |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวแพ้ง่าย |
Garnier Light Complete UV Matte SPF50+ PA+++ ครีมกันแดด

ราคา 499 บาท*
Garnier Light Complete UV Matte SPF50+ PA+++ ครีมกันแดดในตำนานที่คุณต้องใช้ ด้วยค่ากันแดดอยู่ที่ SPF 50 สามารถป้องกันแสดงแดดได้อย่างดีเยี่ยม ผ่านการผสมผสานกับวิตามินซีทำให้ครีมกันแดดสามารถช่วยปกป้องผิวจากอันตรายของรังสียูวีได้ถึง 2 เท่า

จุดเด่นของครีมกันแดดคือสามารถช่วยป้องกันการปรากฏตัวของจุดด่างดำบนใบหน้าที่เกิดจากการสัมผัสกับแสงแดด ครีมกันแดดสามารถใช้ได้ทุกเพศทุกวัยและด้วยสูตรผิวแมตต์ทำให้เหมาะสำหรับผิวมันมาก ๆ ด้วย เมื่อใช้ครีมกันแดดตัวนี้ผิวหน้าก็จะปราศจากความมัน แม้ว่าคุณจะทำกิจกรรมมากมายในแต่ละวัน
ข้อดี
- ช่วยปรับสีผิวได้ 1 ระดับโดยไม่ทำให้หน้าเทา
- หากใช้งานเป็นประจำจะช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใสมากยิ่งขึ้น
- ควบคุมความมันและช่วยให้ผิวแมตต์ได้ทันที
ข้อควรพิจารณา
- มีกลิ่นของน้ำหอมค่อนข้างแรงและไม่กันน้ำ

อ่านรีวิวฉบับเต็มได้ที่ รีวิว ครีมกันแดด Garnier Bright Complete Vitamun C Super UV
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดกายภาพ + ครีมกันแดดชนิดเคมี |
---|---|
ปริมาณ | 30 มล. |
ส่วนผสมหลัก | ไททาเนียมไดออกไซด์, วิตามินซี, วิตามินอีและสารสกัดจากมะนาว |
SPF/PA | SPF 50+ PA +++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมัน |
L'Oreal UV Defender Serum Protector Sunscreen Matte & Fresh ครีมกันแดด

ราคา 529 บาท*
L'Oreal UV Defender Serum Protector Sunscreen Matte & Fresh ครีมกันแดดชนิดกายภาพที่เหมาะสำหรับวัยรุ่นมาก ๆ ครีมกันแดดชนิดกายภาพแบบทั่วไปจะมีเนื้อสัมผัสที่หนักและหนา แต่ผลิตภัณฑ์ตัวนี้แตกต่างออกไปค่ะ แม้ว่าจะเป็นครีมกันแดดชนิดกายภาพแต่มีน้ำหนักเบา ให้สัมผัสที่เป็นธรรมชาติและสดชื่นทุกครั้งที่ใช้ ทางแบรนด์เคลมมาว่าครีมกันแดดมีปริมาณ Airlicium ที่ดูดซับน้ำมันส่วนเกินถึง 7 เท่าของครีมกันแดดทั่วไป จึงเหมาะสำหรับวัยรุ่นที่มีผิวมัน ในขณะเดียวกันก็ยังมีสารสกัดจากรากขิงและสารสกัดจากเปลือกขี้เหล็กที่ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระและปลอบประโลมผิว แม้ว่าราคาจะค่อนข้างแพงสำหรับวัยรุ่น แต่ครีมกันแดดตัวนี้ก็คุ้มค่าที่จะลองค่ะ
ข้อดี
- เนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวได้เร็วและไม่ทิ้งคราบขาว
- ครีมกันแดดไม่มีสี ไม่ทำให้หน้าเทาหลังใช้งาน
- ควบคุมความมันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อควรพิจารณา
- อาจจะรู้สึกเหนียวเหนอะหนะเล็กน้อย
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดกายภาพ |
---|---|
ปริมาณ | 50 มล. |
ส่วนผสมหลัก | ไททาเนียมไดออกไซด์, สควาเลน, แอร์ลิเซียม, สารสกัดจากรากขิงและสารสกัดจากเปลือกขี้เหล็ก |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ผิวมัน |
MizuMi UV Water Serum SPF50+ PA++++ ครีมกันแดด

ราคา 690 บาท*
MizuMi UV Water UV Water Serum SPF 50+ PA++++ เป็นครีมกันแดดแบบกายภาพ 100% มีเนื้อบางเบา สบายผิว ให้การปกป้องแสงแดดยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นรังสี UVA1, UVA2 และ UVB ก็สามารถปกป้องผิวได้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันความหมองคล้ำและริ้วรอยก่อนวัยของผิวที่เกิดจากอนุมูลอิสระ

เนื้อเซรั่มที่เป็นน้ำ สามารถซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้คุณรู้สึกสดชื่น ไม่เหนียวเหนอะหนะ อุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระรวมถึงสารสกัดจากยูกิที่จะช่วยบำรุงผิว นอกจากนี้ยังไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม น้ำมัน แอลกอฮอล์ พาราเบน หรือสีสังเคราะห์จึงสามารถใช้งานได้ทุกวันค่ะ
ข้อดี
- ป้องกันแสงแดดได้ดีมากทำให้หน้าไม่หมองคล้ำ
- ควบคุมความมันได้ดีมากและสามารถใช้งานทุกวัน
- ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วและไม่เหนียวเหนอะหนะ
ข้อควรพิจารณา
- กลิ่นของกันแดดแปลก ๆ แต่ไม่มีผลในการใช้งาน
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดกายภาพ |
---|---|
ปริมาณ | 40 มล. |
ส่วนผสมหลัก | สารสกัดจากยูกิ วิตามินอีและวิตามินซี |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
Anessa Whitening UV Sunscreen Gel A SPF 50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อเจล

ราคา 699 บาท*
Anessa Whitening UV Sunscreen Gel เจลกันแดดที่ใช้เทคโนโลยี Aqua Booster ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการต่อสู้กับรังสียูวีเมื่อผิวของคุณสัมผัสกับน้ำหรือเหงื่อ นอกจากนี้ยังผ่านการผสมด้วย m-Tranexamic acid ซึ่งเป็นส่วนผสมที่สามารถรักษาจุดด่างดำได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยกรดไฮยาลูโรนิก คอลลาเจนจากทะเล โรสฮิปและชาเขียวจะช่วยให้ความชุ่มชื้นยาวนานและต่อต้านอนุมูลอิสระ เนื้อสัมผัสของครีมกันแดดมีความบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึมลงบนผิวได้ง่ายมาก อีกทั้งยังมีกลิ่นส้มอ่อน ๆ ที่ทาแล้วจะให้ความสดชื่นและสบายผิว
ข้อดี
- หลังจากลงน้ำหรือเปียกน้ำสามารถกันน้ำได้ประมาณ 40 นาที
- ใช้เป็นเมคอัพเบสก่อนการแต่งหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ปราศจากพาราเบน ซัลเฟตและพาทาเลตใช้งานได้อย่างปลอดภัย
ข้อควรพิจารณา
- มีกลิ่นและมีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
รูปแบบของครีมกันแดด | ครีมกันแดดชนิดกายภาพ |
---|---|
ปริมาณ | 90 มล. |
ส่วนผสมหลัก | กรดไฮยาลูโรนิก คอลลาเจนจากทะเล โรสฮิปและชาเขียว |
SPF/PA | SPF 50+ PA ++++ |
สภาพผิวที่แนะนำ | ทุกสภาพผิว |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ครีมกันแดดสำหรับวัยรุ่น ยี่ห้อไหนใช้ดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
Banana Boat Aqua Long Wearing Moisture UV Protection Sunscreen Lotion SPF50+ ครีมกันแดด |
| |||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
L'Oreal UV Defender Serum Protector Sunscreen Matte & Fresh ครีมกันแดด |
| |||
| ||||
Anessa Whitening UV Sunscreen Gel A SPF 50+ PA++++ ครีมกันแดดเนื้อเจล |
|
|
ทาครีมกันแดดอย่างไรให้ถูกวิธี ? (8)ช่วงนี้เทรนก์การโบกครีมกันแดดกำลังมาแรงค่ะ วันนี้เราก็มีคำแนะนำให้ทาครีมกันแดดมาแนะนำกันค่ะ เราขอแนะนำให้ทาครีมกันแดดก่อนออกแดด 10 ถึง 30 นาที และทาซ้ำทุก ๆ 2 ถึง 3 ชั่วโมง ในการทาครีมกันแดดเราขอแนะนำให้ทาครีมกันแดดประมาณ 2 ข้อนิ้วให้ทั่วใบหน้า และทาครีมกันแดดประมาณ 1 ช้อนชาที่บริเวณลำคอค่ะ ซึ่งวิธีการแบบนี้เป็นวิธีที่ง่ายมากค่ะ หากวัดไม่ถูกแนะนำให้ซื้อช้อนชาสำหรับใช้กับครีมกันแดดโดยเฉพาะค่ะ |
ทำไมครีมกันแดดถึงจำเป็นสำหรับวัยรุ่น ? (3-8)
การทาครีมกันแดดช่วยปกป้องผิวจากรังสียูวี
สิ่งสำคัญของการครีมกันแดดก็เพื่อปกป้องผิวของเราจากรังสี UV และอย่างที่ทราบกันดีว่ารังสี UVA และ UVB จากดวงอาทิตย์นั้นสามารถส่องผ่านชั้นโอโซนของโลกมาได้ หากน้อง ๆ ตากแดดเป็นประจำ นาน ๆ เข้าผิวหนังของน้อง ๆ ก็จะโดนรังสีพวกนี้ทำลายเอาได้ค่ะ ซึ่งผลที่ตามมานั้นก็จะทำให้น้อง ๆ เกิดริ้วรอยก่อนวัยเร็วขึ้นและยังทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้อีกด้วย ดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงสำคัญมากนะคะ
การทาครีมกันแดดช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนัง
มะเร็งผิวหนังเป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดในผู้ที่ชอบอาบแดด และแน่นอนว่าทั้งรังสี UVA และ UVB สามารถทำให้เกิดมะเร็งผิวหนังได้ อย่างไรก็ตามการทาครีมกันแดดทุกวันช่วยลดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งผิวหนังได้ครึ่งหนึ่งค่ะ

การทาครีมกันแดดช่วยหลีกเลี่ยงสัญญาณริ้วรอยก่อนวัย
แม้ว่าปัญหาผิวดูแก่ก่อนวัยนั้นจะเกิดจากหลาย ๆ สาเหตุ แต่การที่น้อง ๆ ได้รับรังสี UV เป็นเวลานานก็ถือเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผิวหน้าเกิดความเสียหายจนอาจทำให้เกิดการเปลี่ยนสีผิว, จุดด่างดำได้, ผิวหย่อนคล้อย และริ้วรอยได้ ซึ่งการทาครีมกันแดดเป็นประจำจะช่วยลดการเกิดสัญญาณแห่งวัยได้ดีกว่าค่ะ
การทาครีมกันแดดช่วยปรับโทนสีผิวให้สม่ำเสมอ
การทาครีมกันแดดเป็นประจำจะช่วยป้องกันการเปลี่ยนสีผิว ผิวหมองคล้ำ และจุดด่างดำจากรังสี UV ได้ ดังนั้นหากน้อง ๆ มีปัญหาผิวที่ไม่สม่ำเสมอการทาครีมกันแดดจะช่วยน้อง ๆ ได้ค่ะ และแน่นอนว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย ในกรณีที่เป็นผิวกายเราขอแนะนำให้ใช้โลชั่นที่มีสารกันแดดในหรือโลชั่นที่มียูวีฟิลเตอร์ (UV Filter) ค่ะ
การทาครีมกันแดดจะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการถูกแดดเผาอย่างรุนแรง
การสัมผัสแสงแดดที่มากเกินไปจะทำให้เกิดการถูกแสงแดดแผดเผา ซึ่งเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของมะเร็งผิวหนังถึง 2 เท่า แต่การทาครีมกันแดดที่เหมาะสมและทาซ้ำเป็นประจำหลังออกแดดจะช่วยลดความเสี่ยงของการถูกแดดเผาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เคล็ดลับในการป้องกันแสงแดดสำหรับวัยรุ่น (3-8)
ทาครีมกันแดด
การใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 (หรือสูงกว่า) เป็นประจำตั้งแต่ช่วงวัยรุ่นจะช่วยลดโอกาสของการเกิดมะเร็งผิวหนังและความเสียหายในอนาคต เนื่องจากมะเร็งผิวหนังแต่ส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากแสงแดดดังนั้นการทาครีมกันแดดจึงช่วยหลีกเลี่ยงปัญหาผิวดังกล่าวเมื่ออายุมากขึ้นได้ สำหรับน้อง ๆ วัยรุ่นควรทาครีมกันแดดทุก ๆ ชั่วโมง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าครีมกันแดดไม่ได้ติดฉลากว่ากันน้ำ เพราะปกติแล้วความชื้นตามธรรมชาติในผิวหนังจะทำลายประสิทธิภาพของครีมกันแดดที่ไม่ได้ผลิตมาเพื่อกันน้ำ ดังนั้นการทาผลิตภัณฑ์ซ้ำ ๆ ตลอดช่วงเวลาที่อยู่กลางแดดจึงเป็นเรื่องสำคัญมากค่ะ
ลดการสัมผัสแสงแดด
การอยู่ห่างจากแสงแดดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันความเสียหายจากแสงแดด อย่างไรก็ตามน้อง ๆ ต้องออกไปข้างนอก การหลบในที่ร่มหลังจากสัมผัสแสงแดดมาเป็นเวลานานจะช่วยได้ แนะนำให้หาที่ร่มเพื่อผ่อนคลายผิวทุก ๆ ชั่วโมงหรือประมาณ 30 นาทีเพื่อจำกัดปริมาณแสงแดดที่สัมผัส หรือหากน้อง ๆ จะใช้ร่มกัน UV ก็ได้เช่นกันค่ะ
หลีกเลี่ยงการเล่นน้ำทะเลหรืออาบแดดตอนเที่ยงวัน
การเล่นน้ำทะเล อาบแดดหรือตากแดดตอนเที่ยงวันไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัยนัก เพราะรังสี UVA อาจจะทำให้ผิวเสียหายได้ ดังนั้นในตอนเที่ยงเราไม่แนะนำให้ตากแดดนะคะ หากน้อง ๆ มีความจำเป็นก็ต้องทาครีมกันแดดก่อนเสอม และอาจจะสวมหมวกปีกกว้าง รวมถึงสวมเสื้อแขนยาวก่อนออกจากบ้านค่ะ
References :
- Sunscreens And Photoprotection
- FDA advances new proposed regulation to make sure that sunscreens are safe and
- Adverse effects of sunlight on the skin
- Effects of ultraviolet light on the eye: role of protective glasses.
- Ultraviolet (UV) Radiation
- UV Radiation and the Skin
- Ultraviolet Radiation, Aging and the Skin
- Sunscreen and sun safety