เมื่อเราโตขึ้นหรือเริ่มมีอายุมากขึ้นร่างกายของเราจะเริ่มถดถอยลง สารอาหารบางชนิดที่ร่างกายของเราเคยผลิตเองได้ก็ผลิตได้น้อยลงหรืออาจจะผลิตไม่ได้แล้ว ทำให้การทานอาหารเสริมเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าสารบางตัวร่างกายอาจจะสังเคราะห์เองได้แต่ก็อาจไม่เพียงพออยู่ดี ดังนั้นอาหารเสริมทุกชนิดจึงมีประโยชน์กับเราหากเราทานอย่างเหมาะสมค่ะ และอาหารเสริมอีกหนึ่งชนิดที่คุณไม่ควรมองข้าม นั่นก็คือ “อาหารเสริมไลโคปีน (Lycopene)” ค่ะ

ไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีอยู่ในผักและผลไม้ที่มีสีแดง เช่น มะเขือเทศและมะละกอ ซึ่งสารชนิดนี้สามารถปรับปรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด ป้องกันความเสียหายจากปฏิกิริยาออกซิเดชันและความเครียดจากปฏิกิริยาออกซิเดชัน รักษาอาการอักเสบทั่วร่างกายและยังมีการวิจัยที่พบว่าสารชนิดนี้สามารถป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมากได้ (1-4)
ถึงแม้ว่าเราจะสามารถรับสารไลโคปีนได้จากการทานผักผลไม้เฉพาะในมะเขือเทศสด ๆ แต่ก็ยังมีหลายคนอาจจะไม่ชอบทานมะเขือเทศ ดังนั้น “อาหารเสริมไลโคปีน” สามารถตอบโจทย์ได้ดีมากค่ะ อาหารเสริมไลโคปีนได้สกัดไลโคปีนออกมาอย่างเข้มข้นมาพร้อมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระและฤทธิ์ต้านการอักเสบได้อย่างมีประสิทธิภาพ (1-4) อีกทั้งสารไลโคปีนยังมีประโยชน์ต่อผิวมากเพราะมันจะช่วยบำรุงผิวจากภายในสู่ภายนอก ทำให้ผิวชุ่มชื้นและเรียบเนียนมากยิ่งขึ้นนั่นเองค่ะ (5-6) หากวันนี้คุณกำลังมองหาอาหารเสริมไลโคปีนอยู่ เราก็มีคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากกันค่ะ
ไลโคปีน คืออะไร? (1-6)
ไลโคปีน (Lycopene) คือสารต้านอนุมูลอิสระที่อยู่ในกลุ่มเดียวกันกับแคโรทีนอีกทั้งยังมีอะตอมเดียวกันกับสารตั้งต้นของวิตามินเอหรือที่เราเรียกว่าเบต้าแคโรทีนด้วย แต่สารทั้งสองอย่างนี้ก็มีความแตกต่างกันในเรื่องของโครงสร้างจึงทำให้ไลโคปีนมีคุณสมบัติเฉพาะตัว สารนี้อยู่ในผักและผลไม้บางชนิดเท่านั้น โดยไลโคปีนจะมีอยู่มากในผักและผลไม้ที่มีสีแดง สีส้มและสีชมพูเป็นหลักโดยเฉพาะมะเขือเทศค่ะ โครงสร้างโมเลกุลของไลโคปีนสามารถช่วยลดการปรากฏตัวของอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี ตัวสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยริ้วรอยก่อนวัยและความเสียหายของเนื้อเยื่อได้เป็นอย่างดี

อาหารชนิดใดมีไลโคปีนบ้าง ?
หลายคนอาจจะสงสัยว่าไลโคปีนมีอยู่ในผักและผลไม้ชนิดใดบ้าง ก็ตามที่เราได้บอกไปเลยค่ะผลไม้ที่มีสีแดง สีชมพูหรือสีส้มจะมีสารไลโคปีน ซึ่งผักและผลไม้ชนิดนี้ได้แก่มะเขือเทศ, มะละกอ, แตงโมและส้มโอทับทิมสยาม แต่เรื่องนี้อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ซื้อได้เป็นอย่างมากเพราะ
- ผลไม้อย่างสตรอว์เบอร์รี เชอร์รี และผลไม้ตระกูบเบอร์รีอื่น ๆ ก็เป็นสีแดงเช่นกันแต่ไม่มีสารไลโคปีนเพราะโครงสร้างภายในไม่เหมือนกัน ผลไม้ตระกูลเบอร์รีที่มีสีแดงเกิดจากสารที่เรียกว่าเบต้าไซซินไม่ใช่ไลโคปีนค่ะ
- ส่วนอาหารอื่น ๆ เช่น กะหล่ำปลีแดง พริกแดงและหน่อไม้ฝรั่งก็มีไลโคปีนเช่นกันแต่มีในปริมาณเล็กน้อยเท่านั้น
ดังนั้นหากคุณต้องการเพิ่มสารไลโคปีนเข้าไปในร่างกายคุณควรทานมะเขือเทศเป็นประจำหรือไม่ก็ทานอาหารเสริมไลโคปีนเพื่อชดเชยสารอาหารที่ควรจะได้รับจากผักและผลไม้ที่มีไลโคปีนโดยตรงค่ะ
ไลโคปีน มีประโยชน์อย่างไร ?
ไลโคปีนมีสารต้านอนุมูลอิสระที่สูงมากเพราะสารชนิดนี้จะลดความเสี่ยงของปัญหาสุขภาพได้หลายอย่าง เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด ปัญหาผิวและปัญหาสุขภาพโดยรวม แน่นอนค่ะข้อมูลด้านบนนี้เป็นข้อมูลส่วนน้อยเกี่ยวกับประโยชน์ของไลโคปีน แต่เพื่อผู้อ่านทุกท่านวันนี้เราได้รวบรวมประโยชน์ของไลโคปีนมาฝากกันค่ะ เราไปดูกันว่ามันดีต่อสุขภาพของเราอย่างไรบ้าง?
- ปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด จากงานวิจัยพบหากทานไลโคปีนเป็นประจำจะสามารถช่วยทำให้คอเลสเตอรอลที่ไม่ดี (LDL) และไตรกลีเซอไรด์ลดลงได้ ซึ่งหากคุณมีปัญหาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด แนะนำให้ทานไลโคปีนระหว่าง 20 – 40 มิลลิกรัมต่อวันเพื่อทำให้สุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้ผลการต้านอนุมูลอิสระของไลโคปีนอาจป้องกันการเกิดออกซิเดชันของไขมันและลดการสะสมของคอเลสเตอรอลในผนังหลอดเลือดแดงได้เป็นอย่าง (7)
- ช่วยป้องกันอันตรายจากแสง มีการศึกษาออกมาว่าปกต้แล้วไลโคปีนเป็นสารที่สะสมอยู่ในเซลล์ผิวหนัง ซึ่งสามารถป้องกันรังสีดวงอาทิตย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังช่วยปกป้องผิวจากการถูกเผาไหม้โดยแสงแดดได้ดีมากด้วย (8) อีกทั้งการทารอาหารเสริมไลโคปีนเป็นประจำจะช่วยปรับปรุงความเรียบเนียนของผิวได้ดีมาก ๆ ด้วยค่ะ (5-6)
- ดูแลสุขภาพตา การบริโภคสารต้านอนุมูลอิสระจากไลโคปีนอาจมีส่วนช่วยในการแก้ไขปัญหาจอประสาทตาเสื่อมได้ดี เพราะปกติแล้วอาหารเสริมไลโคปีนนั้นมีไลโคปีนและเบต้าเคโรทีนร่วมด้วยทำให้ช่วยดูแลปัญหาสายตาได้ อีกทั้งการทานไลโคปีนร่วมกับวิตามินเอและเบต้าเคโรทีนเป็นประจำจะช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น (9)
- ดูแลสุขภาพจิต จากการศึกษาพบว่าไลโคปีนสามารถช่วยปรับปรุงโรคทางระบบประสาทได้หลายอย่าง เช่น โรคอัลไซเมอร์ และอาจช่วยแก้ปัญหาภาวะซึมเศร้าหรือความวิตกกังวลได้ แต่ขอบอกก่อนว่าถึงจะมีงานวิจัยออกมา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไลโคปีนจะสามารถรักษาอาการทางจิตเวชได้โดยไม่ต้องพบแพทย์นะคะ (10)
- สุขภาพต่อมลูกหมาก ต่อมลูกหมากเป็นต่อมในระบบสืบพันธุ์เพศชาย หากระบบการทำงานของมันมีปัญหาจะทำให้การเก็บปัสสาวะยากลำบากมากขึ้น อีกทั้งยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งในอนาคตได้อีกด้วย ดังนั้นงานวิจัยจึงพบว่าการทานไลโคปีนเป็นประจำจะช่วยลดโรคและปัญหาที่เกี่ยวข้องกับต่อมลูกหมากได้ (11)
ควรทานอาหารเสริมไลโคปีนในปริมาณเท่าไหร่ต่อวัน ? (13)
ตามข้อมูลจากบทความทางระบาดวิทยาได้กล่าวไว้ว่ากลุ่มคนที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดและโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ควรทานอาหารเสริมไลโคปีนอย่างน้อย 10 มก. ต่อวัน แต่ในบางรายก็สามารถทานอาหารเสริมไลโคปีนในปริมาณที่สูงขึ้นได้แต่ต้องอยู่ในการควบคุมของแพทย์

ส่วนคนทั่วไปควรทานอาหารเสริมไลโคปีนในปริมาณ 30 มก. ต่อวัน โดยอาจจะต้องแบ่งออกเป็นสองแคปซูล นั่นก็คือหนึ่งแคปซูลในตอนเช้าและอีกหนึ่งแคปซูลในตอนเย็นค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นควรบริโภคตามฉลากที่ทางแบรนด์ได้แนะนำจะดีที่สุด โปรดจำไว้ว่าอาหารเสริมไลโคปีนจะสามารถดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดหากรับประทานอาหารเสริมโคปีนที่ผ่านการละลายในน้ำมันค่ะ
เราใช้เกณฑ์ในการเลือกสินค้าโดยพิจารณาจากความน่าเชื่อถือของแบรนด์ รวมไปถึงยอดขายและรีวิวของผู้ใช้บริการในเว็บไซต์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ ก่อนซื้อแนะนำในอ่านฉลากส่วนประกอบต่าง ๆ รวมไปถึงปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือเภสัชกร
* เด็กและสตรีมีครรภ์ไม่ควรรับประทาน *
อาหารเสริมไลโคปีน ยี่ห้อไหนดี
![]() Hi-Balanz Lycopene ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลโคปีน | ![]() Amsel Lycopene Plus สารสกัดจากมะเขือเทศ | ![]() Vistra Tomato Extract Plus Beta-Carotene วิสตร้า ไลโคปีน สารสกัดจากมะเขือเทศ | ![]() Giffarine Lycopene กิฟฟารีน ไลโคปีน |
วิธีเลือกซื้ออาหารเสริมไลโคปีนที่ดีที่สุด
1. รูปแบบของอาหารเสริม
เนื่องจากไลโคปีนมีต้นกำเนิดจากพืช 100% ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารส่วนใหญ่จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ทานมังสวิรัติเป็นอย่างมาก รูปแบบของอาหารเสริมไลโคปีนก็เหมือนกับอาหารเสริมทั่วไปเพราะมีทั้งรูปแบบแคปซูล ซอฟต์เจลและยาเม็ด โดยคุณสามารถเลือกซื้อได้ตามความชอบของตัวเอง

แต่หากคุณเป็นคนที่ทานมังสวิรัติให้ตรวจสอบว่าอาหารเสริมไลโคปีนที่คุณเลือกซื้อไม่มีเจลาตินจากสัตว์ หากคุณแพ้กลูเตนหรือแลคโตสให้มองหาใบรับรองคุณภาพที่รับรองว่าไม่มีสารก่อภูมิแพ้เหล่านี้ นอกจากนี้คุณควรเลือกอาหารเสริมไลโคปีนที่สกัดมาจากส่วนผสมพืชที่ผ่านการปลูกแบบออร์แกนิก และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไลโคปีนบางชนิดอาจทำมาจากพืชที่ผ่านการดัดแปลงพันธุกรรม หากคุณรู้สึกไม่สบายใจและกังวลเรื่องความปลอดภัยให้เลือกซื้ออาหารเสริมไลโคปีนที่ปราศจากจีเอ็มโอ ( GMOs ) ค่ะ
2. วิตามินหรือสารอาหารเพิ่มเติม (14-16)
ดังที่เราได้กล่าวไว้ก่อนหน้านี้อาหารเสริมไลโคปีนมักมีส่วนผสมอื่น ๆ เพิ่มในผลิตภัณฑ์เพื่อให้ตัวอาหารเสริมมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งส่วนผสมเพิ่มเติมเหล่านี้อาจรวมถึงสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เช่น วิตามิน A, C และ E ตลอดจนสารแคโรทีนอื่น ๆ

แน่นอนว่าคนส่วนใหญ่สามารถเลือกซื้ออาหารเสริมไลโคปีนที่มีส่วนผสมของวิตามินรวมเหล่านี้เพื่อเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพค่ะ อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อก็ต้องระมัดระวัง หากคุณเป็นคนที่สูบบุหรี่อาหารเสริมไลโคปีนที่มีเบต้าแคโรทีนจะไม่เหมาะกับคุณเพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหามะเร็งปอดได้มากขึ้นค่ะ ดังนั้นหากคุณสูบบุหรี่ควรเลือกซื้ออาหารเสริมไลโคปีนที่ไม่มีวิตามินอื่น ๆ เพิ่มเข้ามา
3. วันหมดอายุ
ขอบอกก่อนเลยว่าผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลโคปีนที่คุณบริโภคหลังจากวันหมดอายุนั้นไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามผลกระทบของผลิตภัณฑ์อาหารโดยทั่วไปจะลดลงหรือหายไปโดยสิ้นเชิงเมื่ออาหารเสริมนั้นเลยวันบริโภคที่แนะนำไปแล้ว แต่คุณสามารถยืดอายุผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไลโคปีนได้โดยจัดเก็บมันไว้ในที่แห้งและเย็น อีกทั้งควรวางให้ห่างจากแสงแดดโดยตรงเพื่อป้องกันวิตามินหรือสารอาหารละลายค่ะ
ข้อควรระวังเมื่อทานอาหารเสริมไลโคปีน (1,2, 17-20)
แม้ว่าอาหารเสริมไลโคปีนนั้นปลอดภัยเป็นอย่างมากและเมื่อทานเข้าไปแล้วแทบไม่มีผลข้างเคียงเลย แต่ก็อาจะมีคนบางกลุ่มที่มีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้ ซึ่งผลข้างเคียงที่พบได้บ่อยที่สุดก็คือปัญหาคลื่นไส้และท้องอืด แต่เราสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างง่ายดายโดยการลดปริมาณการทานอาหารเสริมไลโคปีนลงค่ะ
จนถึงวันนี้ยังไม่มีการวิจัยหรือรายงานที่เป็นพิษจากการทานอาหารเสริมไลโคปีนมากเกินไป แต่หากคุณทานอาหารเสริมไลโคปีนมากเกินไปแล้วผิวของคุณจะมีสีส้มขึ้นมา แต่ก็ไม่ได้อันตรายค่ะ เพราะปัญหาผิวเปลี่ยนสีจะหายไปหากคุณเลิกทานอาหารเสริมไลโคปีน ถึงแม้อาหารเสริมไลโคปีนจะมีประโยชน์มากแต่สำหรับผู้ทานบางกลุ่มอาจจะเกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ โดยเฉพาะคนที่มีปัญหาดังต่อไปนี้ค่ะ
- คนที่กำลังรับการรักษามะเร็ง : คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระของไลโคปีนอาจรบกวนการทำงานของการรักษามะเร็ง ดังนั้นคุณไม่ควรที่จะทานอาหารเสริมไลโคปีนหากกำลังใช้ยาเคมีบำบัดหรืออยู่ในช่วงที่กำลังฉายรังสีค่ะ
- คนที่แพ้ไลโคปีน : หากคุณเป็นคนที่แพ้มะเขือเทศ มะละกอ ฝรั่งหรืออาหารที่อุดมด้วยไลโคปีนอื่น ๆ อาจมีอาหารแพ้เมื่อทานอาหารเสริมไลโคปีน ดังนั้นหากคุณมีอาหารแพ้ควรหลีกเลี่ยงโดยเด็ดขาด
- คนที่มีปัญหาในเรื่องการแข็งตัวของเลือด : อาหารเสริมไลโคปีนอาจมีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือดเล็กน้อย ซึ่งเป็นสาเหตุที่แพทย์ควรควบคุมการบริโภคหากคุณเป็นคนที่มีปัญหาการแข็งตัวของเลือด นอกจากนี้ควรหยุดทานอาหารเสริมไลโคปีนอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการผ่าตัดเพราะเลือดอาจจะแข็งตัวได้
- สตรีมีครรภ์และให้นมบุตร : การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่าการบริโภคผลิตภัณฑ์อาหารเสริมไลโคปีนระหว่างตั้งครรภ์อาจจะทำให้เกิดภาวะคลอดก่อนกำหนด ดังนั้นคุณจึงควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารเสริมไลโคปีนโดยเด็ดขาดระหว่างตั้งครรภ์
- เด็กเล็ก : เด็กเล็กไม่ควรทานอาหารเสริมไลโคปีนหากไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์ อีกทั้งหากต้องการเพิ่มไลโคปีนในเด็กควรจะให้เด็กทานมะเขือเทศเป็นอาหารมากกว่า
References :
- Lycopene
- Lycopene as a Natural Antioxidant Used to Prevent Human Health Disorders
- Lycopene: Food Sources, Biological Activities, and Human Health Benefits
- Role of lycopene as antioxidant carotenoid in the prevention of chronic diseases: A review
- Lycopene presence in facial skin corneocytes and sebum and its association with circulating lycopene isomer profile: Effects of age and dietary supplementation
- Systemic and skin-targeting beneficial effects of lycopene-enriched ice cream: A pilot study
- Lycopene and Vascular Health
- Tomatoes protect against development of UV-induced keratinocyte carcinoma via metabolomic alterations
- Lycopene attenuates oxidative stress induced experimental cataract development: an in vitro and in vivo study
- The Effect of Lycopene Supplementation on Mood Status and Quality of Life in Infertile Men: A Randomized, Double-Blind, Placebo-Controlled Clinical Trial
- Lycopene and Risk of Prostate Cancer
- Lycopene in cancer therapy
- A Dose-Response Study on the Effects of Purified Lycopene Supplementation on Biomarkers of Oxidative Stress
- Lycopene inhibits smoke-induced chronic obstructive pulmonary disease and lung carcinogenesis by modulating reverse cholesterol transport in ferrets
- The Effects of Dietary Supplements on Asthma and Lung Cancer Risk in Smokers and Non-Smokers: A Review of the Literature
- Long-term use of beta-carotene, retinol, lycopene, and lutein supplements and lung cancer risk: results from the VITamins And Lifestyle (VITAL) study
- Trial of lycopene to prevent pre-eclampsia in healthy primigravidas: results show some adverse effects
- Carotenemia. A review
- Are there adverse effects of lycopene exposure?
- Trial of lycopene to prevent pre-eclampsia in healthy primigravidas: results show some adverse effects