ในปัจจุบันนี้แท็บเล็ตได้เข้ามามีบทบาทต่อการทำกิจกรรมหลาย ๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานเพื่อความบันเทิง การดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกม หรือสื่อคอนเทนต์ต่าง ๆ หรือการใช้สำหรับการประชุมออนไลน์ การเรียนออนไลน์ ถึงแม้เราจะสามารถใช้อุปกรณ์อย่าง มือถอสมาร์ทโฟน โน้ตบุ๊ค Laptop หรือ คอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ เพื่อใช้งานได้อยู่แล้ว แต่การใช้งานแท็บเล็ตก็จะมีความสะดวกกว่า เพราะมีหน้าจอขนาดใหญ่ ใช้งานหน้าจอแบบสัมผัสได้ ใช้ง่าย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ซึ่งผู้เขียนเองก็เป็นคนที่ชอบใช้งานแท็บเล็ตมาก ๆ ครับ เพราะเวลาดูหนัง ดูซีรีส์ หรืออ่านการ์ตูน ก็ดูได้อย่างเต็มจอ หยิบจับมาใช้งานได้สะดวกมาก ๆ ครับ
สำหรับเพื่อน ๆ ที่ไม่ได้เน้นการใช้งานฟังก์ชันการทำงานที่จริงจัง หรือเน้นงานกราฟิกมาก ต้องการใช้งานเพื่อความบันเทิง ใช้ประกอบการทำงานเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือใช้เพื่อเรียนออนไลน์ การซื้อแท็บเล็ตที่ราคาสูงเกินไปก็อาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีสำหรับเงินในกระเป๋าเท่าไหร่ใช่ไหมครับ ดังนั้นผู้เขียนจึงอยากจะมาแนะนำแท็บเล็ตคุณภาพดีราคาประหยัดเพื่อตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตที่คุ้มค่าคุ้มราคาในงบไม่เกิน 5,000 บาท สำหรับใช้ในชีวิตประจำวันกันครับ
แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5,000 บาท สำหรับใช้งานทั่วไป
- แท็บเล็ตหน้าจอขนาดเล็ก น้ำหนักเบา ใส่ซิมได้: Lenovo รุ่น Tab M8 (Gen 3)
- แท็บเล็ตหน้าจอขนาดใหญ่ ความละเอียด FHD แบตอึด ใส่ซิมได้: Lenovo รุ่น Tab K10 LTE
- แท็บเล็ตดีไซน์เรียบหรู บางเบา พกพาสะดวก ภาพสวย: Samsung Galaxy Tab A7 Lite WiFi
- แท็บเล็ตระบบปฏิบัติการ DokeOS มี PC โหมด: Blackview รุ่น Tab 12
- แท็บเล็ตหน้าจอ 2K สเปกแรง ฟังก์ชันการใช้งานครบ: Alldocube รุ่น iPlay 50
แท็บเล็ต งบ 5,000 บาท ทำอะไรได้บ้าง?
ถึงแม้ว่าแท็บเล็ตจะไม่ใช่อุปกรณ์ที่แปลกใหม่และมีความนิยมในการใช้งานมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีแท็บเล็ตส่วนตัวเอาไว้ใช้งาน ยิ่งขนาดหน้าจอใหญ่ มีฟังก์ชันการใช้งานเยอะ ยิ่งมีปากกาสไตลัสเพิ่มมาให้ ราคาก็ยิ่งสูง ซึ่งสำหรับคนที่ไม่ได้เน้นการใช้งานตรงจุดนี้มาก การซื้อมาใช้งานที่ไม่ตรงกับไลฟ์สไตล์ก็ดูจะเป็นการสิ้นเปลืองมาก ๆ ครั
แท็บเล็ตในแต่ละรุ่นต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกัน บางรุ่นก็มีหน้าจอที่ใหญ่ บางรุ่นก็มีสเปกและฟังก์ชันการทำงานที่ดี บางรุ่นก็เน้นในเรื่องของการออกแบบดีไซน์เน้นการพกพาที่สะดวกสบายใช้งานง่าย ซึ่งผู้เขียนได้สรุปจุดเด่นและข้อดีแท็บเล็ตที่ราคาเป็นมิตรและใช้งานง่ายมาให้เพื่อน ๆ ทราบกันครับ
1. มีการออกแบบที่ใช้งานง่าย

การใช้งานของแท็บเล็ตค่อนข้างใช้งานง่ายกว่าการใช้ Laptop หรือคอมพิวเตอร์ เพราะแท็บเล็ตถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้แบบกึ่งสมาร์ทโฟน กึ่งคอมพิวเตอร์ มีทั้งแอปพลิเคชันในมือถือและโปรแกรมที่ใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์ได้ หน้าตาของ UX และ UI ก็ทำออกมาให้สะอาด ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานทุกเพศทุกวัย โดยแท็บเล็ตบางรุ่นก็มี Kid Mode ที่มีแอปพลิเคชันที่เหมาะสำหรับเด็กและสามารถแบ่งพื้นที่การใช้งานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ หรือหากเป็นผู้สูงอายุก็สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวก เพราะการใช้งานหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ก็จะทำให้เห็นภาพชัด ไม่ต้องคอยเพ่งหน้าจอให้ปวดสายตา หรือจะใช้โทรเพื่อติดต่อกับบุตรหลานก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ครับ
2. มีการใช้งานระบบปฏิบัติการแบบ Android

แท็บเล็ตส่วนใหญ่มีการใช้งานแบบระบบปฏิบัติการ Android ซึ่งเป็นระบบการทำงานแบบเปิด (Open Source) ทำให้ค่ายมือถือหรือนักพัฒนาแอปพลิเคชันสามารถสร้างและปรับปรุงแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้ทุกกลุ่ม ดังนั้นจึงทำให้สามารถทำออกมาได้หลายรุ่นหลายราคา เพื่อให้สามารถตอบโจทย์การใช้งานของคนแต่ละกลุ่
นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การเชื่อมต่อหรือส่งไฟล์งานต่าง ๆ ก็สามารถทำได้สะดวกรวดเร็ว รูปแบบการใช้งานก็สามารถปรับแต่งการทำงานได้อิสระตามความถนัดของผู้ใช้ จึงทำให้แท็บเล็ตระบบ Android จึงเป็นที่นิยมครับ
3. มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก สามารถใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา

การใช้งานหลัก ๆ ของแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5000 บาท จะเน้นการใช้งานเพื่อความบันเทิง หรือติดต่อสื่อสาร โดยเราสามารถใช้แท็บเล็ตเพื่อความบันเทิงได้ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง อ่านหนังสือ หรือเล่นเกมได้ การใช้งานเพื่อความบันเทิงเมื่อได้ใช้งานในอิริยาบถที่สบายที่สุดย่อมเป็นเรื่องที่ดีกว่ามาก ๆ เพราะหากเราเลือกขนาดแท็บเล็ตที่พอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป เราก็จะสามารถวางตำแหน่งของแท็บเล็ตไว้ตรงไหนก็ได้ ทำให้เราใช้งานแท็บเล็ตได้อย่างมีความสุขครับ
หรือหากเพื่อน ๆ จำเป็นต้องออกไปทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ จำเป็นต้องเสนองานลูกค้าหรือใช้หาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตต่าง ๆ การมีแท็บเล็ตก็จะช่วยให้เราทำงานได้สะดวก ไม่ต้องเตรียมสัมภาระให้เยอะวุ่นวาย และสามารถหาไอเดียใหม่ ๆ ในโลกออนไลน์ได้ตลอดเวลาครับ
Huawei MatePad รุ่น T10s

ราคา 3,490 บาท*
แท็บเล็ตจอใหญ่ ราคาประหยัดจากแบรนด์ Huawei รุ่น MatePad T10s ดีไซน์ภายนอกออกแบบมาคล้ายกับแท็บเล็ตรุ่นเรือธงของ Huawei ที่มีความเรียบหรู มินิมอล มีความคงทนแข็งแรง บริเวณของแท็บเล็ตมีลักษณะโค้งมน ไม่ลื่น ทำให้ถือจับใช้งานได้สะดวก และให้ขนาดหน้าจอมาถึง 10.1 นิ้ว ด้านหลังจะเป็นกล้องเดี่ยวความคมชัด 5 MP กล้องหน้า 2 MP คุณภาพของเสียงจากลำโพงดังชัดเจน เป็นลำโพงคู่ สเตอริโอ สำหรับการนำมาใช้งานดูหนังไม่ว่าจะเป็นภาพหรือเสียงก็ให้คุณภาพที่ครบจัดเต็มมาก ๆ ครับ ในส่วนของการเล่นเกมด้วยชิป Kirin 710A ทำให้การเล่นเกมต่าง ๆ ที่มีกราฟิกสวย ๆ อย่างเกม Rov, PubG หรือเกมระดับท็อปอื่น ๆ ก็สามารถเล่นได้ไม่มีปัญหาครับ
สำหรับคนที่ต้องการใช้งานประชุม ใช้เรียนออนไลน์ หรือต้องการหน้าจอที่สองสำหรับใช้ทำงานต่าง ๆ ซึ่งรองรับแอปพลิเคชันส่วนใหญ่ที่ใช้เรียนออนไลน์หรือทำการประชุมหลัก ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น Zoom, Microsoft Team หรือใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ผ่านเบราว์เซอร์ได้ และสำหรับใครที่ต้องการซื้อไปให้เด็ก ๆ ใช้งาน ก็ยังมีโหมด Kids Corner เพื่อปรับหน้าตาการใช้งานให้เหมาะกับเด็ก ๆ ได้ และสำหรับใครที่อาจจะกังวลเรื่องการโหลดแอปพลิเคชันต่าง ๆ มาใช้งานก็ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะสามารถใช้ตัว Huawei App Gallery โหลดแอปต่าง ๆ มีครบทุกแอปหลัก ๆ ในไทยทุกตัวแน่นอนครับ
จุดเด่น
- หน้าจอมีขนาดใหญ่ ภาพสวย คมชัด
- ลำโพงเสียงดังฟังชัด
- มีโหมด Kids Corner สำหรับเด็ก
- เล่นเกมที่มีกราฟิกสวย ๆ ได้ค่อนข้างลื่นไหล
ข้อควรพิจารณา
- รุ่นเริ่มต้นให้ Ram มาเพียง 2 GB ไม่เหมาะสำหรับการใช้งานที่หนักเกินไป
- เมื่อเปิดใช้งานหลาย ๆ แอปพร้อมกันอาจจะเกิดอาการหน่วงบ้าง
ขนาดจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
Ram | 2 GB |
Rom | 32 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 5,100 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 5 MP |
กล้องหน้า | 2 MP |
ชิปประมวลผล | Kirin 710A |
ความเร็ว | 2.0 GHz |
Lenovo รุ่น Tab M8 (Gen 3)

ราคา 3,750 บาท*
แท็บเล็ตขนาดเล็กพกพาสะดวก น้ำหนักเบา ด้วยหน้าจอขนาด 8 นิ้ว และน้ำหนักเบามาพร้อมกับดีไซน์ด้านข้างที่เป็นขอบโค้งมน ทำให้สามารถหยิบจับใช้งานมือเดียวได้อย่างถนัดมือ หรือหากจะนำมาใช้เล่นเกมมือถือก็สามารถควบคุมได้ง่ายไม่ปวดเมื่อยข้อมือครับ ลำโพงเป็นแบบ Doby Atmos มาพร้อมกับแอปพลิเคชันที่ทำให้สามารถปรับจูนแต่งเสียงที่เราชอบได้ ทำให้เพิ่มอรรถรสในการฟังที่ดียิ่งขึ้น สเปกและฟังก์ชันการใช้งานเป็นชิปเซต MediaTek Helio P22T มาพร้อมกับ Android 11 ที่ใช้งานง่าย ถึงแม้ตัวเครื่องจะให้ Ram มาเพียง 3 GB แต่การทำงานค่อนข้างมีความลื่นไหล หากไม่เปิดใช้งานหลาย ๆ แอปเยอะเกินไปก็ไม่เป็นปัญหาครับ และเกมที่กราฟิกไม่ได้หนักมากจนเกินไปก็สามารถเล่นได้แบบสบาย ๆ ไม่เกิดอาการหน่วงหรือกระตุกเลยครับ
นอกจากนี้ยังมีมีโหมด Kid Space สำหรับให้เด็ก ๆ ใช้งาน ซึ่งจะมีสื่อสำหรับการเรียนรู้เพื่อการศึกษาสำหรับเด็กอีกด้วยครับ และที่สำคัญแท็บเล็ตรุ่นนี้สามารถใส่ซิมได้ สามารถใช้เป็นโทรศัพท์มือถือได้ หมดปัญหาเรื่อง WiFi ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาครับ หากเทียบกับ Huawei MatePad รุ่น T10s ที่มีราคาใกล้เคียงกัน ในส่วนของขนาดหน้าจอ รุ่น Mate T8 จะมีหน้าจอที่ขนาดใหญ่กว่า เหมาะสำหรับคนที่ต้องการแท็บเล็ตที่มีหน้าจอขนาดใหญ่ และในส่วนของ Lenovo Tab M8 จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่าสมาร์ทโฟน แต่ยังสามารถใช้งานได้ด้วยมือเดียวและเน้นการพกพาที่สะดวกกว่าครับ
จุดเด่น
- วัสดุฝาหลังเป็นอะลูมิเนียม มีความแข็งแรง
- น้ำหนักเบา มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ใช้งานมือเดียวได้
- มีโหมด Kids Space สำหรับให้เด็ก ๆ ใช้งาน
- สามารถใส่ซิมใช้งานโทรศัพท์ได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับเล่นเกมที่กราฟิกหนัก ๆ
- ไม่เหมาะสำหรับการเปิดใช้งานแอปพลิเคชันหลาย ๆ แอปพร้อมกัน
ขนาดจอ | 8 นิ้ว |
---|---|
Ram | 3 GB |
Rom | 32 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 5,100 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 8 MP |
กล้องหน้า | 2 MP |
ชิปประมวลผล | MediaTek Helio P22T |
ความเร็ว | 2.0 GHz |
Lenovo รุ่น Tab K10 LTE

ราคา 4,490 บาท*
มาต่อกันด้วยแท็บเล็ตอีกรุ่นจากแบรนด์ Lenovo ที่รุ่นนี้จะมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น โดยจะมีขนาดหน้าจออยู่ที่ 10.3 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD ซึ่งสามารถใช้ดูหนัง ฟังเพลง เรียนออนไลน์ หรือใช้ประชุมก็สามารถแสดงผลออกมาได้ชัดและเพียงพอต่อการใช้งานทั่ว ๆ ไป แต่หากนำไปใช้งานด้านนอกหรือกลางแจ้งแสงจากหน้าจอถึงแม้จะปรับสูงสุดแต่ก็อาจจะยังไม่สว่างมากเพียงพอครับ ลำโพงจะเป็นลำโพงแบบคู่ช่วยให้การให้เสียงซ้ายขวาสามารถทำงานได้ดีขึ้น และลำโพงให้เสียงที่ค่อนข้างดังชัดเจน
ในส่วนของด้านการทำงานหากเป็นการเปิดเอกสารที่ไม่ได้เป็นไฟล์ใหญ่มากก็สามารถใช้งานได้อย่างลื่นไหล แต่ถ้าหากเป็นการเปิดเอกสารอย่างไฟล์ Excel ขนาดใหญ่ก็อาจจะเกิดอาการหน่วงหรือกระตุกบ้าง ในเรื่องของการใช้เรียนออนไลน์หรือวิดีโอคอลก็สามารถทำได้ดี เพราะมีจอที่ใหญ่และมีลำโพงที่เสียงดังฟังชัดครับ ในส่วนของแบตเตอรี่ให้มาถึง 7,000 mAh ซึ่งถือว่าให้มาค่อนข้างเยอะและแบตอึดมาก ๆ ถึงแม้จะสามารถใช้งานได้นาน แต่การชาร์จแบตค่อนข้างกินเวลา โดยใช้เวลาอย่างต่ำประมาณ 2 ชั่วโมงขึ้นไปครับ หากเทียบกับรุ่น Huawei MatePad รุ่น T10s ที่มีขนาดหน้าจอใกล้เคียงกัน ซึ่งรุ่น T10s จะมีราคาที่ประหยัดกว่า เหมาะสำหรับคนที่มีงบจำกัด แต่หากต้องการใช้งานแท็บเล็ตหรือแอปพลิเคชันจาก Google Play แท็บเล็ตของ Lenovo รุ่น Tab K10 ก็เป็นอีกตัวเลือกที่น่าสนใจครับ
จุดเด่น
- หน้าจอมีขนาดใหญ่ ภาพสวย คมชัด
- ลำโพงเสียงดังฟังชัด
- สามารถใส่ซิมใช้งานโทรศัพท์ได้
- แบตเตอรี่การใช้งาน 7,000 mAh สามารถใช้งานได้นาน
ข้อควรพิจารณา
- เนื่องจากแบตมีความจุที่เยอะ ทำให้ใช้เวลาชาร์จที่นาน
- ไม่เหมาะสำหรับการเปิดไฟล์ที่มีขนาดใหญ่หรือใช้ทำงานหนัก
ขนาดจอ | 10.3 นิ้ว |
---|---|
Ram | 4 GB |
Rom | 64 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 7,700 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 8 MP |
กล้องหน้า | 5 MP |
ชิปประมวลผล | MediaTek Helio P22T |
ความเร็ว | 2.0 GHz |
Samsung Galaxy Tab A7 Lite WiFi

ราคา 4,490 บาท*
เมื่อพูดถึงแท็บเล็ตก็จะขาดแบรนด์ Samsung ไปไม่ได้ เพราะในตระกูล Galaxy Tab รุ่น Tab A7 WiFi ก็เป็นแท็บเล็ตขนาดเล็กสเปกแรง มีดีไซน์สวยงาม บางเบา วัสดุแข็งแรง ด้วยหน้าจอขนาด 8.7 นิ้วทำให้ถือง่ายใช้งานได้ด้วยมือเดียวได้ ตัวเครื่องมีหน้าจอแสดงผลแบบ TFTLCD ความละเอียด 800 x 1340 ภาพสีสันต่าง ๆ ทำออกมาได้ดี มีอัตรารีเฟรชเรทจะอยู่ที่ 60 Hz ภาพค่อนข้างลื่นไหล ซึ่งก็อยู่ในระดับเริ่มต้นทั่ว ๆ ไป มาพร้อมกับลำโพงแบบคู่ระบบเสียงแบบ Dolby Atmos ให้คุณภาพเสียงที่ไพเราะ เหมาะสำหรับใช้ดูหนังหรือฟังเพลงได้ดี
ในการใช้งานแบบสองหน้าจอก็สามารถใช้งานได้ค่อนข้างลื่นไหลไม่เกิดอาการหน่วงหรือกระตุก สามารถใช้งานต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานได้ เพราะให้แบตเตอรี่มาถึง 5,100 mAh ทำให้ใช้งานได้แทบทั้งวัน และมีระบบชาร์จไวที่สามารถชาร์จได้ด้วยกำลังไฟ 15 W ทำให้ไม่เสียเวลาชาร์จแบตเตอรี่นานครับ นอกจากนี้ยังมีโหมด Samsung Kids ที่มีฟีเจอร์การใช้งานสำหรับเด็ก ๆ ใช้งาน ซึ่งสเปกการใช้งานและขนาดหน้าจอก็ใกล้เคียงกับ Lenovo รุ่น Tab M8 (Gen 3) ถึงแม้ราคาของ Samsung อาจจะสูงกว่า แต่จะมีจุดเด่นในเรื่องของซอร์ฟแวร์ที่ดีและบริการหลังการขายครับ ซึ่งหากใครที่ใช้แบรนด์สินค้าของ Samsung อยู่แล้ว แท็บเล็ตรุ่นนี้ก็เป็นอีกตัวเลือกที่มีความคุ้มค่าและเก็บไว้ใช้งานระยะยาวได้ครับ
จุดเด่น
- มีลำโพงคู่ ระบบเสียง AKG Dolby Atmos
- รองรับการชาร์จเร็ว
- สามารถใส่ซิมใช้งานแบบโทรศัพท์ได้
- มีโหมด Samsung Kids สำหรับให้เด็ก ๆ ใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีไฟแฟลช
- ไม่เหมาะสำหรับการเล่นเกมที่กราฟิกหนัก ๆ
ขนาดจอ | 8.7 นิ้ว |
---|---|
Ram | 3 GB |
Rom | 32 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 5,100 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 8 MP |
กล้องหน้า | 2 MP |
ชิปประมวลผล | Mediatek MT8768T Helio P22T |
ความเร็ว | 2.3 GHz |
Lenovo รุ่น Tab M10 HD

ราคา 3,990 บาท*
แท็บเล็ตเพื่อความบันเทิง จอใหญ่ จากแบรนด์ Lenovo รุ่น Tab M10 HD มาพร้อมกับหน้าจอ IPS ขนาด 10.1 นิ้ว ความละเอียดแบบ HD กล้องของรุ่นนี้ให้ความละเอียดกล้องหน้าอยู่ที่ 5 MP กล้องหน้าความละเอียดอยู่ที่ 8 MP ซึ่งรุ่นนี้จะไม่มีแฟลชมาให้นะครับ แต่ก็น่าเสียดายตรงที่ความละเอียดของหน้าจอเป็นแบบ HD ซึ่งรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่เมื่อใช้ดูวิดีโอที่มีความละเอียดมาก ๆ จะสังเกตเห็นได้เลยว่าภาพอาจจะไม่ค่อยคมชัดมาก หากจะใช้อ่านตัวหนังสือต่าง ๆ อาจจะไม่ค่อยสะดวกนัก แต่หน้าจอที่เป็นแบบ IPS ทำให้มุมมองการแสดงผลต่าง ๆ ค่อนข้างกว้างและยังแสดงผลได้ดีอยู่ เหมาะสำหรับใช้ในการดูวิดีโอคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้ หากจะเน้นใช้อ่านหนังสือหรือ EBook อาจจะทำให้ล้าสายตาได้ครับ
รุ่นนี้สามารถใส่ซิมได้ รองรับ 4G รองรับสัญญาณ WiFi ทั้ง 2.4 GHz และ 5GHz แบตเตอรี่มีความจุ 5,000 mAh ตัวเครื่องค่อนข้างบางครับ สามารถจับถือใช้งานทั้งแนวตั้งและแนวนอนได้ค่อนข้างสะดวก และในส่วนของตัวลำโพงจะเป็นลำโพงแบบคู่ที่เสียงค่อนข้างดังฟังชัดครับ แต่อาจจะไม่ได้มีความโดดเด่นในเรื่องของเสียงเบสมากเท่าไหร่ นอกจากนี้ยังมีพอร์ตหูฟังขนาด 3.5 มม. ติดมาให้อยู่ยังไม่ได้ตัดทิ้งไปครับ ในด้านของการใช้งานหากเทียบกับ Huawei MatePad รุ่น T10s ที่มีสเปก ขนาดหน้าจอ และราคาใกล้เคียงกัน ด้านของความลื่นไหลและการสลับไปใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ รุ่นT10s ทำได้ค่อนข้างลื่นไหลกว่า โดยที่รุ่น Tab M10 เมื่อสลับใช้งานหลาย ๆ แอปจะมีอาการหน่วงบ่อย ๆ ครับ
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่เหมาะสำหรับใช้ดูหนังหรือฟังเพลงทั่ว ๆ ไป
- ใส่ซิมได้ รองรับ 4G
- มีหน้าจอขนาดใหญ่ น้ำหนักตัวเครื่องค่อนข้างเบา
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับการใช้อ่านหนังสือหรือ Ebook
- เมื่อเปิดสลับใช้งานแอปพลิเคชันหลาย ๆ แอป จะทำให้เกิดอาการหน่วง
ขนาดจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
Ram | 2 GB |
Rom | 32 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 5,000 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 8 MP |
กล้องหน้า | 5 MP |
ชิปประมวลผล | Mediatek MT8768T Helio P22T |
ความเร็ว | 2.3 GHz |
Blackview รุ่น Tab 12

ราคา 4,990 บาท*
แท็บเล็ตจากแบรนด์ Blackview โดยรุ่น Tab 12 เป็นการอัปเกรดประสิทธิภาพจากรุ่น Tab 8 ที่มียอดขายสูงของแบรนด์ Blackview ซึ่งในรุ่นนี้มาพร้อมดีไซน์แบบเรียบ ๆ มีขอบแบบโค้งมนตามสไตล์ของแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมทำให้จับถือง่าย วัสดุฝาหลังเป็นโลหะทำให้ดูพรีเมียมมาก ๆ ซึ่งจะมีจอแสดงผลขนาด 10.1 นิ้ว หน้าจอแบบ IPS FHD+ ที่มีความละเอียดถึง 1200 x 1920 และลำโพงที่ให้เสียงได้ดี ไพเราะ เสียงเบสดังฟังชัด ทำให้ตอบโจทย์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบการดูหนัง ฟังเพลง หรือใช้งานเพื่อดูคอนเทนต์ความบันเทิงต่าง ๆ เป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังให้แบตเตอรี่มากถึง 6,580 mAh ซึ่งทำให้ใช้งานได้ต่อเนื่องตลอดทั้งวันเลยครับ
สำหรับรุ่นนี้ก็มีความพิเศษในเรื่องของ PC Mode ที่สามารถใช้งานแบบ Laptop ได้อีกด้วยครับ ซึ่งหากใครที่ต้องการแท็บเล็ตราคาประหยัดที่ใช้สำหรับความบันเทิง เล่นเกม และใช้ทำงาน Blackview รุ่น Tab 12 ก็ทำออกมาให้ครอบคลุมทุกการใช้งานมาก ๆ ครับ หากเทียบกับสินค้า Samsung Galaxy Tab A7 Lite WiFi ที่ราคาใกล้เคียงกัน Blackview รุ่น Tab 12 จะทำออกมาเพื่อเน้นขนาดหน้าจอที่ใหญ่และเน้นการใช้ทำงานมากกว่า และการเล่นเกมก็ทำออกมาได้ค่อนข้างลื่นไหลกว่าครับ ซึ่งในรุ่น Tab A7 Lite WiFi ก็จะเหมาะสำหรับเน้นการพกพาที่ง่ายและสะดวกมากกว่าครับ
จุดเด่น
- ปริมาณแบตเตอรี่ให้มา 6,580 mAh ทำให้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง
- มี PC Mode
- ดีไซน์สวย วัสดุฝาหลังเป็นโลหะ
- ลำโพงให้เสียงที่ดี เสียงเบสชัด เหมาะสำหรับการใช้ดูหนัง ฟังเพลง และเล่นเกม
ข้อควรพิจารณา
- การใช้งานเครื่องไม่ได้มีความไวมาก แต่ไม่ได้ส่งผลต่อการใช้งานมาก
- ระบบปฏิบัติการเป็น DokeOS
- ธีมและไอคอนสำหรับตกแต่งเมนูมีให้เลือกน้อย
ขนาดจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
Ram | 4 GB |
Rom | 64 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 6,580 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 13 MP |
กล้องหน้า | 5 MP |
ชิปประมวลผล | UNISOC SC9863A |
ความเร็ว | 1.6 GHz |
BMAX รุ่น i10 Pro

ราคา 4,299 บาท*
อีกหนึ่งแบรนด์ทางเลือกสำหรับแท็บเล็ตราคาประหยัดแต่สเปกที่ให้มาแบบคุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ในส่วนของการดีไซน์ด้านหลังของตัวเครื่องวัสดุจะมีลักษณะเป็นผิวแบบด้านให้ความรู้สึกที่ค่อนข้างลื่นเล็กน้อย แต่ก็มีข้อดี คือ จะไม่เป็นรอยนิ้วมือง่าย รุ่นนี้หน้าจอมีขนาด 10.1 นิ้ว เป็นหน้าจอแบบ IPSLCD ซึ่งความโดดเด่นของรุ่นนี้จะอยู่ที่ความละเอียดของหน้าจอจะอยู่ที่ FHD ทำให้การใช้งานอย่าง Youtube ก็จะสามารถปรับความละเอียดได้สูงสุดที่ 1080p ซึ่งสีของหน้าจอค่อนข้างสว่างสีสันสดใส ลำโพงให้มาใช้งาน 2 ตัว เสียงค่อนข้างดังฟังชัด และรุ่นนี้มีช่องสำหรับต่อหูฟัง 3.5 มม. มาให้ด้วยครับ ทำให้รุ่นนี้ค่อนข้างตอบโจทย์การใช้งานสำหรับสายบันเทิงมาก ๆ
ในส่วนของ CPU ที่ให้มาสำหรับรุ่นนี้ UNISOC Tiger T310 ค่อนข้างมีความลื่นไหล ระบบสัมผัสบนหน้าจอทำได้ค่อนข้างดี ถึงแม้จะเล่นเกมที่มีกราฟิกเยอะ ๆ ก็แทบจะไม่เกิดอาการหน่วงเลยครับ รุ่นนี้สามารถใส่ซิมการ์ดใช้งานแบบโทรศัพท์ได้ทำให้ BMAX รุ่น i10 Pro ก็เป็นอีกรุ่นที่ปรับใช้งานได้หลากหลาย ทั้งเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง และที่สำคัญสามารถใช้ทำงานหรือประชุมออนไลน์ต่าง ๆ ได้ เหมาะทั้งใช้ทำงานและใช้เพื่อความบันเทิง ซึ่งก็จะใกล้เคียงกับ Blackview รุ่น Tab 12 จะมีเสียงเบสจากลำโพงที่ค่อนข้างดังและหนักกว่า รุ่น i10 Pro โดยรุ่นนี้จะมีเบสที่ค่อนข้างบางและเบากว่า แต่ในส่วนของเสียงนักร้องก็มีเสียงที่ค่อนข้างใสและฟังได้ชัดอยู่ครับ
จุดเด่น
- สีของหน้าจอสีสดและสว่าง
- สามารถเล่นเกมที่กราฟิกเยอะ ๆ ได้ค่อนข้างลื่นไหล
- ลำโพงเสียงใสฟังชัด
- ความจุของแบตเตอรี่เยอะ ทำให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
ข้อควรพิจารณา
- ค่อนข้างมีน้ำหนัก หากใช้งานระยะเวลานานอาจจะทำให้ปวดข้อมือได้
- เสียงเบสค่อนข้างบาง
ขนาดจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
Ram | 4 GB |
Rom | 64 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 6,000 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 5 MP |
กล้องหน้า | 2 MP |
ชิปประมวลผล | UNISOC Tiger T310 |
ความเร็ว | 1.8 GHz |
Alldocube รุ่น iPlay 50

ราคา 4,320 บาท*
แท็บเล็ต Alldocube รุ่น iPlay 50 การดีไซน์ตัวเครื่องทำออกมีความบาง 8.0 มม. ด้านหลังของตัวเครื่องวัสดุมีผิวสัมผัสที่ด้าน ไม่ลื่นมาก ขอบแบบโค้งมน งานประกอบโดยรวมค่อนข้างดี มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มีลำโพงให้ใช้งาน 2 ตัว เป็นลำโพงแบบคู่เสียงเบสค่อนข้างบาง ไม่หนักมาก เสียงของนักร้องค่อนข้างแหลม แต่โดยรวมเสียงค่อนข้างดีครับ หน้าจอแบบ IPS LCD ความละเอียด 2K ซึ่งทำให้ภาพหน้าจอมีความสว่าง สีสวยสดใส และภาพคมชัด รองรับการใช้งานแบบแบ่งหน้าจอได้ อัตรารีเฟรชเรทอยู่ที่ 60 Hz ที่เป็นค่าเริ่มต้น ซึ่งน่าเสียดายที่ใน Netflix สามารถปรับความละเอียดได้เพียง L3 (SD) เท่านั้นครับ เหมาะสำหรับสายชอบดูคอนเทนต์ เล่น Tiktok หรือหากจำเป็นต้องใช้ทำงานก็สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์เสริมอย่างเมาส์หรือคีย์บอร์ดเพื่อใช้งานแบบ Laptop ได้
จุดเด่นของแท็บเล็ตรุ่นนี้จะอยู่ที่ชิปเซตของ CPU ที่มีความแรง ซึ่งเป็นชิปเซต UNISOC Tiger T618 โดยในเรทราคานี้ถือเป็นชิปเซตที่เร็ว แรง มีความลื่นไหล นำไปใช้งานได้หลากหลาย หรือจะใช้เล่นเกมก็ใช้งานได้แบบสบาย ๆ เลยครับ หากเทียบกับรุ่น BMAX รุ่น i10 Pro รุ่น iPlay 50 จะได้เปรียบในเรื่องของความละเอียดของหน้าจอที่คมชัดกว่าถึง 2K และได้ชิปเซตที่แรงกว่าอีกด้วย ซึ่งหากเรื่องงบประมาณไม่ใช่ปัญหา Alldocube รุ่น iPlay 50 ก็ควรค่ากับการซื้อไว้ใช้งานครับ
จุดเด่น
- ชิปเซตแรง การใช้งานลื่นไหล ใช้เล่นเกมได้
- หน้าจอมีความละเอียด 2K
- หน้าจอมีขนาดใหญ่
- Ram และ Rom ให้มาเยอะ
ข้อควรพิจารณา
- หาอุปกรณ์เสริมยาก
- มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ
ขนาดจอ | 10.4 นิ้ว |
---|---|
Ram | 4 GB |
Rom | 64 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 6,000 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 8 MP |
กล้องหน้า | 5 MP |
ชิปประมวลผล | UNISOC Tiger T618 |
ความเร็ว | 2.0 GHz |
TCL รุ่น Tab 10 FHD

ราคา 3,599 บาท*
แท็บเล็ต TCL รุ่น Tab 10 FHD ดีไซน์ของฝาหลังเป็นแบบ Capla มีผิวสัมผัสแบบด้านทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก และที่สำคัญระหว่างใช้งานก็สามารถถือได้ถนัด สามารถจับได้แน่นขึ้น ไม่ต้องกังวลว่าจะลื่นหลุดมือ หน้าจอของรุ่นนี้มีขนาดหน้าจอ 10.1 นิ้วเป็นหน้าจอแบบ FHD ที่มีความละเอียด 1920 x 1200 หน้าจอสีสวยและคมชัด บริเวณขอบหน้าจอบางทุกด้านทำให้สามารถใช้งานหน้าจอได้อย่างเต็มที่ ลำโพงแบบคู่ ซึ่งลำโพงแบบคู่จะอยู่ด้านล่าง หากใช้งานตอนตั้งใช้งานบนโต๊ะเสียงจะสะท้อนจากพื้นและดังมากยิ่งขึ้น และมีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ตเชื่อมต่อแบบ USB TypeC สามารถใส่ซิมการ์ดได้ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับใช้งานเพื่อความบันเทิงมาก ๆ ชิปเซตเป็น Helio P22 ทำให้การทำงานค่อนข้างไว มีความลื่นไหล ในเรื่องของการใช้งานแบบทั่ว ๆ ไปก็แทบจะไม่มีปัญหาเลยครับ
ในส่วนของการเล่นเกมรุ่นนี้ก็สามารถทำออกมาค่อนข้างลื่นไหลครับ ถึงแม้เกมที่มีกราฟิกเยอะ ๆ หรือปรับกราฟิกสูงสุดก็มีอาการหน่วงหรือกระตุกค่อนข้างน้อย ซึ่งหากปรับภาพกราฟิกกลาง ๆ ก็สามารถเล่นได้สบาย ๆ แบบไม่มีสะดุดเลยครับ หากเทียบกับ Huawei MatePad รุ่น T10s ที่สเปกและการดีไซน์ไม่ต่างกันมาก ซึ่งหากใครที่ชอบผิวสัมผัสที่เรียบ ๆ ก็อาจจะเลือกเป็นรุ่น T10s แต่หากใครที่ชอบผิวสัมผัสที่มีลวดลายแบบ Capla ก็อาจจะขยับขึ้นมาเป็น TCL รุ่น Tab 10 FHD ครับ
จุดเด่น
- ตำแหน่งของ GPS ค่อนข้างตรง
- มีหน้าจอที่ใหญ่ ให้ภาพสวย และคมชัด
- สามารถใช้งานเล่นเกมที่มีกราฟิกสวย ๆ ได้ การสัมผัสค่อนข้างลื่นไหล
ข้อควรพิจารณา
- ผิวของฝาหลังเป็นแบบ Capla
- การเล่นเกมหากปรับค่ากราฟิกสูงสุดอาจจะมีหน่วงบ้างเล็กน้อย
ขนาดจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
Ram | 3 GB |
Rom | 32 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 5,500 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 5 MP |
กล้องหน้า | 5 MP |
ชิปประมวลผ | Helio P22 |
ความเร็ว | 2.0 GHz |
Teclast รุ่น P40 HD

ราคา 3,822 บาท*
แท็บเล็ตจากแบรนด์ Teclast รุ่น P40HD การดีไซน์วัสดุของฝาหลังเป็นอะลูมิเนียมแบบเรียบ ๆ ผิวสัมผัสมีความด้านทำให้เกิดรอยนิ้วมือได้ยาก ด้านล่างจะเป็นลำโพงแบบคู่เสียงไม่ได้มีโดดเด่นมาก สามารถใช้งานทั่วไปได้ มีช่องใส่ซิมการ์ดได้และช่องใส่หูฟัง 3.5 มม. รองรับทุกการใช้งาน และที่สำคัญมีหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 10.1 นิ้ว ความละเอียดแบบ FHD 1200 x 1920 อัตรารีเฟรชเรท 60 Hz แบบเริ่มต้น สามารถดูหนัง ดูซีรีส์ได้อย่างเต็มที่
จุดเด่น Android 12 สามารถปรับแต่ง Widget ต่าง ๆ มาไว้บนหน้าจอเพื่อความสะดวกได้ การใช้งานแบบ 2 หน้าจอก็ทำได้ค่อนข้างดี มีความลื่นไหล การปรับแต่งปุ่มควบคุมต่าง ๆ ทำได้อิสระเหมาะกับการใช้งานทุกไลฟ์สไตล์ นอกจากนี้ CPU ของรุ่นนี้ก็มีความแรงทำให้การทำงานมีความลื่นไหล โดยการเล่นเกมหากปรับกราฟิกแบบกลาง ๆ ทั่วไปอาจจะมีอาการหน่วงหรือกระตุกบ้าง ซึ่งหากปรับเป็นกราฟิกแบบระดับล่างก็สามารถเล่นได้ดีขึ้นครับ หากเทียบกับ TCL Tab 10 FHD ในรุ่น Tab 10 จะใช้เล่นเกมได้ค่อนข้างลื่นไหลกว่า สามารถปรับภาพกราฟิกที่มีความละเอียดได้ดีกว่า แต่ในส่วนของการดีไซน์ Teclast รุ่น P40HD จะทำออกมามีความเรียบหรูมากกว่า ซึ่งหากใครที่ต้องการแท็บเล็ตที่ดีไซน์สวยและฟังก์ชันการใช้งานครบ รุ่น P40 HD ก็เป็นอีกตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- หน้าจอใหญ่ สีสวย คมชัด
- ระบบปฏิบัติการ Android 12 สามารถปรับแต่งวิดเจ็ตต่าง ๆ ได้
- วัสดุเป็นอะลูมิเนียม มีความแข็งแรง
ข้อควรพิจารณา
- ไม่เหมาะสำหรับเล่นเกมกราฟิกหนัก ๆ
- ไม่รองรับการชาร์จไว
ขนาดจอ | 10.1 นิ้ว |
---|---|
Ram | 4 GB |
Rom | 64 GB |
ความจุแบตเตอรี่ | 6,000 mAh |
พอร์ต | USB TypeC |
กล้องหลัง | 5 MP |
กล้องหน้า | 2 MP |
ชิปประมวลผล | UNISOC T606 |
ความเร็ว | 1.6 GHz |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ 10 แท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5,000 บาท ยี่ห้อไหนดี สเปกแรง คุ้มค่า คุ้มราคา ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
คำแนะนำในการเลือกซื้อแท็บเล็ตราคาไม่เกิน 5,000 บาท
การเลือกซื้อแท็บเล็ตที่คุ้มค่าไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าราคาจะประหยัดมากแค่ไหน แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถเลือกได้เหมาะสมกับการใช้งานมากไหนมากกว่าครับ เพราะหากเลือกที่ราคาถูกเกินไปแต่ไม่มีคุณภาพก็จะทำให้เราไม่สามารถใช้แท็บเล็ตได้ตามที่ต้องการ หรือหากใช้งานไปแล้วเกิดแท็บเล็ตเสียขึ้นมา ต้องเสียค่าซ่อม เสียค่าอุปกรณ์ เสียทั้งเงิน เสียทั้งเวลา ไปโดยไม่จำเป็นครับ และเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ ผู้เขียนจึงมีวิธีการเลือกซื้อแท็บเล็ตอย่างมีคุณภาพมาฝากครับ
1. ระบบปฏิบัติการและชิปเซตประมวลผล
การเลือกซื้อแท็บเล็ตที่ราคาไม่สูงมากหรือเน้นใช้งานเพียงแค่ ดูหนัง ฟังเพลง เป็นหลัก แต่หากเราได้แท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพ สเปกต่าง ๆ ในเครื่องมีการทำงานค่อนข้างไว ประมวลผลได้รวดเร็ว ก็จะช่วยทำให้การใช้งานแท็บเล็ตของเพื่อน ๆ ไม่ติดขัดครับ ซึ่งหากไม่เน้นการใช้งานหนักหรือเน้นกราฟิกมากเพื่อน ๆ ควรดู CPU ที่ใช้ในการประมวลผล หากมีหน่วย GHz ที่เยอะก็แปลว่าทำงานได้เร็ว หรือหากมี Ram ที่เยอะก็จะช่วยเพิ่มความลื่นไหลในการใช้งานแอปพลิเคชันต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วไม่มีสะดุดครับ
2. ขนาดของหน้าจอ

เหตุผลส่วนใหญ่ที่คนเลือกซื้อแท็บเล็ตมาใช้งาน เพราะอยากได้หน้าจอที่ขนาดใหญ่ สามารถใช้งานได้เต็มที่ใช่ไหมครับ โดยหน้าจอแต่ละขนาดก็จะมีวิธีและการใช้งานที่แตกต่างกัน หากเป็นหน้าจอที่ใหญ่ ภาพสวย มีความคมชัด ก็จะเหมาะกับการดูหนัง ใช้ทำงาน ใช้เรียนออนไลน์ หรือหากเป็นหน้าจอที่มีขนาดเล็กลงมาหน่อย ก็สามารถใช้เล่นเกมได้ง่าย พกพาได้สะดวก และที่สำคัญไม่ปวดเมื่อยแขนตอนใช้งานติดต่อกันนาน ๆ อีกด้วยครับ ซึ่งขนาดหน้าจอและความละเอียดของหน้าจอก็จะส่งผลต่อความบันเทิงในการใช้งานด้วยครับ แต่หน้าจอที่มีขนาดใหญ่ มีคุณภาพความไว และความละเอียดที่สูงราคาก็จะสูงขึ้นตาม ซึ่งแท็บเล็ตในท้องตลาดปัจจุบันส่วนใหญ่จะมีคุณภาพที่ดีและเพียงพอต่อการใช้งานทั่วไปอยู่แล้วครับ
3. ปริมาณความจุของแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของแท็บเล็ตควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อเราจำเป็นต้องใช้งานประชุม การเรียนออนไลน์ หรือนำติดตัวไปใช้งานด้านนอก ที่เน้นการใช้งานเป็นเวลานาน ๆ หากแบตเตอรี่หมดเร็ว ก็จะทำให้ไม่สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันหลาย ๆ แบรนด์สินค้าก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อให้สามารถลดการใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ได้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงขนาดความจุของแบตเตอรี่ที่จะช่วยเพิ่มระยะเวลาการใช้งานให้นานขึ้นได้ แต่สุดท้ายเราก็ต้องพิจารณาในการเลือกให้ดีว่าเราจะเน้นใช้งานแบบไหน เพื่อที่จะได้วางแผนการใช้งานให้พอดีกับปริมาณแบตเตอรี่ครับ
4. คุณภาพของกล้อง ลำโพง และไมโครโฟน
การใช้งานแท็บเล็ตส่วนใหญ่อาจจะไม่ได้เน้นที่กล้องเพื่อใช้ถ่ายรูปมาก แต่เมื่อเราต้องใช้ในการประชุม ใช้ในการเรียนออนไลน์ หรือใช้เพื่อติดต่อสื่อสารกันในโลกออนไลน์ กล้องที่ติดมากับตัวแท็บเล็ตจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ซึ่งควรที่จะสามารถให้ภาพที่ชัดและได้มาตรฐาน รวมไปถึงลำโพงที่ให้เสียงดังฟังชัด และไมโครโฟนที่ใช้สื่อสารการสนทนาต่าง ๆ ก็เป็นองค์ประกอบที่จะช่วยให้เพื่อน ๆ สามารถสื่อสารกับปลายทางได้เข้าใจกันมากยิ่งขึ้นครับ
บทสรุปส่งท้าย
สำหรับแท็บเล็ตที่ได้นำมาแนะนำในวันนี้เป็นแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาแท็บเล็ตที่ราคาเป็นมิตร และเป็นแท็บเล็ตที่สเปกการใช้งานไม่ว่าจะนำไปใช้เพื่อความบันเทิง นำไปใช้ทำงาน หรือต้องการซื้อไปใช้เรียนออนไลน์ ก็สามารถทำออกมาได้ดีตอบโจทย์ทุกการใช้งานแถมยังมีดีไซน์ที่สวย ซึ่งแท็บเล็ตทั้ง 10 รุ่น ต่างมีสเปกและคุณสมบัติการใช้งานที่ดี มีจุดดี จุดเด่น ที่แตกต่างกัน ดังนั้นก่อนซื้อเพื่อน ๆ อย่าลืมตรวจเช็กความต้องการของตัวเองด้วยว่า จุดประสงค์หลักที่เราจะเลือกซื้อแท็บเล็ตไปเพื่อทำอะไร ตอบโจทย์การใช้งานโดยรวมหรือไม่ เพื่อที่จะได้เลือกรุ่นที่ตรงกับความต้องการและคุ้มค่ามากที่สุดครับ