กีฬาเป็นกิจกรรมที่หลายคนชอบ เพราะนอกจากจะได้ความสนุกจากการแข่งขันแล้ว เรายังได้สุขภาพดี ๆ ตามไปด้วย อย่างไรก็ดีการเล่นกีฬาให้สนุกไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องของกำลังเท่านั้น อุปกรณ์ที่ใช้เล่นเองก็สำคัญมาก อย่างถ้าเป็นแบดมินตัน อย่างแรกที่เราต้องเตรียมเลยคือไม้แบดมินตันคุณภาพ และลูกขนไก่ดี ๆ ส่วนปิงปองก็จะต้องมีทั้งไม้ปิงปอง และลูกปิงปอง เพื่อความเมามันส์ในการตี เช่นเดียวกันกับเทนนิส นั่นคือนอกจากต้องมี ไม้เทนนิสคุณภาพแล้ว สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือ ‘ลูกเทนนิส’

ทั้งนี้เมื่อพูดถึงลูกเทนนิสแล้ว หลายคนอาจไม่ค่อยมีข้อมูลกันมากสักเท่าไหร่นัก เพราะมองว่าการตีให้สนุกขึ้นอยู่แค่เพียง ไม้เทนนิสที่ซัพพอร์ตเกี่ยวกับพาวเวอร์หรือช่วยเพิ่มสปินให้กับเราเพื่อจบแต้มให้ได้เร็ว ๆ แต่หลายคนก็ลืมอีกเช่นกันว่า ถ้าหากลูกเทนนิสที่ซื้อมาใช้ไม่มีคุณภาพ การตีก็จะไม่สนุกอย่างที่ควรจะเป็น เพราะการเด้งหรือแรงกระทบของบอลไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นวันนี้ผมจึงอยากจะมาแชร์ความรู้ในฐานะของคนที่เคยเล่นเทนนิส ว่าการเลือกลูกเทนนิสดี ๆ สักหนึ่งลูก ควรจะต้องดูในส่วนไหนบ้าง และมีลูกเทนนิสแบรนด์อะไรบ้างที่น่าสนใจในตัวนี้
ลูกเทนนิส ยี่ห้อไหนดี ?
- ลูกเทนนิส dunlop: บอลเทนนิส DUNLOP FORT ALLCOURT
- ลูกเทนนิส wilson: บอลเทนนิส Wilson Tour Premier Allcourt
- ลูกเทนนิส FBT: FBT ลูกเทนนิส ฝึกซ้อม ลูกเทนนิส
- ลูกเทนนิส max force: ลูกเทนนิสแมก ฟอร์ซ MAAX FORCE PREMIUM
- ลูกเทนนิสสำหรับเด็ก: Dunlop Stage2 ลูกเทนนิสสำหรับเด็กสีส้ม
ประเภทของลูกเทนนิส มีผลต่อการฝึกซ้อมและการแข่งขันไหม ?
ลูกเทนนิสเป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญสำหรับการเล่นเทนนิสเลยละครับ เพราะต่อให้ไม้ของคุณจะเป็น Babolat, Wilson, Tecnifibre หรือ Yonex เวอร์ชันใหม่ล่าสุด ที่ซัพพอร์ตทั้งความแรงหรือมีสปินมากแค่ไหน แต่ถ้าหากลูกเทนนิสไม่ได้มาตรฐาน การเล่นและการฝึกซ้อมก็จะตะกุกตะกักจนทำให้ไม่สนุก

ยิ่งถ้าหากคุณเป็นมือแข่งขันหรือต้องการเล่นเทนนิสอย่างจริงจัง ลูกเทนนิสถือเป็นปัจจัยสำคัญมาก ๆ เพราะในแต่ละทัวร์นาเมนต์การแข่งขัน จะมีการออกกฎอย่างชัดเจนว่าลูกเทนนิสที่ใช้จะต้องมีลักษณะอย่างไร ความเด้งของลูกบอลประมาณไหน เพราะทุกรายละเอียดของลูกเทนนิสมีผลต่อการเล่นทั้งหมด ดังนั้นตรงนี้เป็นการยืนยันเลยครับว่า ‘ลูกเทนนิสมีผลต่อการฝึกซ้อมและการแข่งขัน’
วิธีการเลือกลูกเทนนิส
1. เลือกประเภทของลูกเทนนิส
ลูกเทนนิสจะแบ่งแยกประเภทไปตามความเร็วของลูกครับ ซึ่งโดยปกติแล้วความเร็วของลูกมีอยู่ 3 แบบ
- ลูกเทนนิสความเร็วระดับ ‘ช้า’ เส้นผ่านศูนย์กลางของบอลจะอยู่ที่ประมาณ 2.76 – 2.87 นิ้ว เหมาะสำหรับกลุ่ม Beginner หรือคนที่กำลังอยู่ในช่วงหัดเล่น
- ลูกเทนนิสความเร็วระดับ ‘กลาง’ เส้นผ่านศูนย์กลางของบอลจะอยู่ที่ประมาณ 2.57 – 2.7 นิ้ว โดยบอลประเภทนี้นิยมเล่นกันทั่วไป ไม่ว่าจะเป็น การซ้อม หรือการแข่งขัน
- ลูกเทนนิสความเร็วระดับ ‘เร็ว’ ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยนิยมเล่นกันสักเท่าไหร่นัก เพราะความเร็วของมันไม่เหมาะกับการใช้ในฮาร์ดคอร์ทหรือคอร์ทหญ้า (โดยส่วนใหญ่แล้วคนจะนิยมเล่นฮาร์ทคอร์ทกันมากกว่า) แต่จะใช้เล่นกันในคอร์ทช้า ๆ อย่างคอร์ทดินครับ
* เกร็ดความรู้เล็กน้อย การแข่งขันในระดับ ITF มีกฎออกมาอย่างชัดเจนว่าในแต่ละทัวร์นาเมนต์อนุญาตให้ใช้ลูกเทนนิสความเร็วระดับ ‘กลาง’ เท่านั้น ดังนั้นใครที่อยากเล่นจริงจัง หรือฝึกซ้อมเพื่อการแข่งขันอะไรก็แล้วแต่ ผมแนะนำให้ใช้ลูกเทนนิสความเร็วระดับกลางเพื่อสร้างความคุ้นชินครับ
ลูกเทนนิส
ความเร็วระดับ ‘เร็ว’ |
ลูกเทนนิส
ความเร็วระดับ ‘กลาง’ |
ลูกเทนนิส
ความเร็วระดับ ‘ช้า’ |
|
น้ำหนัก | 1.975 – 2.095 ออนซ์ | 1.975 – 2.095 ออนซ์ | 1.975 – 2.095 ออนซ์ |
ขนาด | 2.57 – 2.7 นิ้ว | 2.57 – 2.7 นิ้ว | 2.76 – 2.87 นิ้ว |
ระยะกระดอนของบอล | 54 – 60 นิ้ว | 53 – 58 นิ้ว | 53 – 58 นิ้ว |
ระยะการเปลี่ยนทิศทางเมื่อบอลถอยหลัง | 0.291 – 0.425 นิ้ว | 0.315 – 0.425 นิ้ว | 0.315 – 0.425 นิ้ว |
ระยะการเปลี่ยนทิศทางเมื่อบอลเดินหน้า | 0.220 – 0.291 นิ้ว | 0.220 – 0.291 นิ้ว | 0.220 – 0.291 นิ้ว |
สี | ขาว หรือ เหลือง | ขาว หรือ เหลือง | ขาว หรือ เหลือง |
2. เลือกลูกเทนนิสระหว่าง แบบมีแรงอัด และ แบบไร้แรงอัด
- ลูกเทนนิสแบบมีแรงอัด ลูกเทนนิสชนิดนี้ใช้กันปกติในการแข่งขันรายการต่าง ๆ โดยลักษณะของบอลจะแข็งและกระดอนสูงกว่า ‘ลูกเทนนิสแบบไร้แรงอัด’
- ลูกเทนนิสแบบไร้แรงอัด ลักษณะการกระดอนของลูกเทนนิสจะต่ำกว่า ‘ลูกเทนนิสแบบมีแรงอัด’ แต่มีข้อดีคืออายุการใช้งานค่อนข้างยาวนาน เหมาะสำหรับผู้เล่นทั่วไป

3. เลือกลูกเทนนิสระหว่าง Regular-duty และ Extra-duty
- Regular-duty ลูกเทนนิสลักษณะนี้มีความนุ่มเพื่อดีไซน์ให้เหมาะสำหรับคอร์ทนุ่ม ๆ อย่างคอร์ทดิน
- Extra-duty ผ้าที่โคฟเวอร์หรือคลุมลูกเทนนิสค่อนข้างหนาทำให้ลูกมีความทนทานสูง สามารถทนต่อแรงเสียดทานได้ดี ดังนั้นลูก Extra-duty จะเหมาะสำหรับคอร์ทเร็วอย่างคอร์ทหญ้าและฮาร์ทคอร์ท (พื้นปูน)
4. ความทนทานของลูกเทนนิส
ความทนทานของลูกเทนนิสอาจเช็กได้ยากเล็กน้อย หากเราไม่มีความรู้หรือเคยได้ใช้มาก่อน ดังนั้นผมแนะนำให้เลือกจากแบรนด์สินค้าเป็นหลัก เพราะแบรนด์ที่ติดตลาดหรือเป็นที่รู้จักกันดี อย่าง Dunlop, Tecnifibre, RS หรือ Wilson ผลิตออกมาได้ในมาตรฐานระดับสูง และยังเป็นที่ยอมรับในการแข่งขันระดับโลก ในเรื่องของความทนทานและความเสถียรของลูกเทนนิส
5. การเลือกลูกเทนนิสให้เด็ก
หากผู้ปกครองคนไหนกำลังสนใจอยากให้น้อง ๆ หนู ๆ มาเล่นเทนนิสช่วงหลังเลิกเรียน นอกจากจะต้องไม้เทนนิสให้เหมาะแล้ว ลูกเทนนิสเองก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ควรเลือกอย่างถี่ถ้วนครับ เพราะถ้าเลือกบอลผู้ใหญ่หรือบอลระดับการแข่งขันให้ใช้ การเล่นฝึกเล่นก็อาจจะยากจนทำให้การเรียนไม่สนุก
|
ทั้งนี้ลูกเทนนิสสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 10 ปี ที่ใช้สำหรับการซ้อมและการแข่งขันจะมีอยู่ทั้งหมด 3 แบบ นั่นคือ
|
FBT ลูกเทนนิส ฝึกซ้อม ลูกเทนนิส

ราคา 40 บาท*
FBT เหมาะสำหรับคนที่เล่นเทนนิสเป็นงานอดิเรก ฝึกซ้อมทั่ว ๆ ไป หรือหากใครที่กำลังอยู่ในช่วงเริ่มตี FBT รุ่นนี้ก็ค่อนข้างเหมาะมากเลยครับ โดยจุดเด่นของบอลจะอยู่ที่เส้นใยซึ่งใช้ในการผลิต เพราะเส้นใยเหล่านี้มีคุณสมบัติเกี่ยวกับอากาศพลศาสตร์ พูดง่าย ๆ คือบอลจะปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและอากาศในสนาม เพื่อให้ฟิลลิ่งในการตีดียิ่งขึ้น รู้สึกตีบอลง่ายกว่าเดิม
จุดเด่น
- ตีง่าย เหมาะสำหรับการซ้อมหรือเล่นทั่วไป
- ลูกเทนนิสปรับสภาพตามอากาศพลศาสตร์ ทำให้เล่นได้ในทุกสภาพอากาศ
จำนวน | 1 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ เล่นทั่วไป |
Dunlop Stage2 ลูกเทนนิสสำหรับเด็กสีส้ม

ราคา 96 บาท*
Dunlop Stage2 ออกแบบมาเพื่อสำหรับเด็กน้อยในช่วงวัย 7 - 10 ปี โดยเฉพาะ ดังนั้นความสูงหรือการเด้งของลูกจะไม่กระดอนมากจนเกินไป ทำให้น้อง ๆ หนู ๆ ตีบอลได้ง่ายยิ่งขึ้น ช่วยให้เขาเรียนรู้เทคนิคและท่าทางการตีอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงป้องกันอุบัติเหตุจากการเล่นเทนนิส นอกจากนี้การดีไซน์ก็สวยงาม ดึงดูดให้เด็กอยากเล่นมากกว่าเดิม
จุดเด่น
- บอลเด้งในความสูงที่กำลังพอดีกับเด็กอายุ 7 - 10 ปี เป็นป้องกันการบาดเจ็บ
- ดีไซน์สวย
- ตีง่ายมาก ทำให้เด็กสนุกกับการเล่น
จำนวน | 3 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ เล่นทั่วไป |
ลูกเทนนิส RS Black Premium Tennis Ball by Robin Soderling

ราคา 154 บาท*
วัสดุที่ใช้ผลิต RS Black Premium เป็นวัสดุเกรดระดับพรีเมียมทั้งหมด และความพิเศษคือ Robin Soderling อดีตนักเทนนิส Top 4 ของโลก เป็นคนดีไซน์บอลรุ่นนี้เองกับมือ ซึ่งบอลที่ผลิตด้วยนักเทนนิสมืออาชีพจะเข้าใจและทำให้ตอบโจทย์สำหรับผู้เล่นมากที่สุด โดยจุดเด่นของลูกเทนนิสคือความแน่นของบอลกำลังพอดี ทำให้ตีง่ายและควบคุมบอลไม่ยาก ส่วนผ้าสักหลาดที่ใช้หุ้มลูกก็จะเพิ่มความคงทน มีอายุการใช้งานยาวนาน รวมไปถึงการแข่งขันในประเทศไทยก็เลือกใช้ลูกเทนนิสรุ่นนี้เป็นจำนวนมาก
จุดเด่น
- ดีไซน์จากนักเทนนิสมืออาชีพ ดังนั้นบอลจึงปรับให้เข้ากับคนเล่นได้ตีง่ายยิ่งขึ้น
- ความแข็งและความนิ่มกำลังพอดี
- วัสดุทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน
จำนวน | 3 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ แข่งขัน |
ลูกเทนนิสแมก ฟอร์ซ MAAX FORCE PREMIUM

ราคา 161 บาท*
Maxx Force อยู่ในวงการเทนนิสมากว่า 40 ปีเลยครับ โดยสิ่งที่ทำให้ลูกเทนนิสรุ่นนี้แตกต่างออกไปจากตัวอื่น ๆ คือ ‘Ultra Durability Core’ ซึ่งเป็นแกนพิเศษ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นต่อลูกเทนนิส, ควบคุมทิศทางง่าย และเป็นการเพิ่มความทนทานให้กับลูกบอล นอกจากนี้เส้นผ่านศูนย์กลางขนาดและขนาดของบอลยังมีมาตรฐานในระดับ Professional สามารถนำไปใช้ในการแข่งขัน หรือจะเตรียมความพร้อมก่อนแข่งก็ได้
จุดเด่น
- ควบคุมทิศทางง่าย
- มีความยืดหยุ่น และทนทานสูง
- มาตรฐานของบอลดีมาก ใช้ได้ทั้งซ้อมและแข่งขัน
จำนวน | 3 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ แข่งขัน |
Tecnifibre ลูกเทนนิส Club 3 Tennis Balls Tube

ราคา 166 บาท*
Tecnifibre เคยใช้ในการแข่งขันในระดับ ATP 250 และผ่านมาตรฐานทั้ง ITF / FFT / FIT มาแล้วเรียบร้อยว่าบอลมีคุณภาพ สามารถใช้ในการแข่งขันระดับมืออาชีพได้ โดยจุดเด่นของบอลคือสัมผัสที่นุ่มสบายเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความทนทานเป็นพิเศษ เพราะทางแบรนด์ใช้ผักสักหลาดอย่างดี ซึ่งทนต่อแรงถูและแรงเสียดสี สามารถนำไปเล่นในคอร์ทได้ทุกประเภท
จุดเด่น
- ผ่านมาตรฐานจากองค์กรเทนนิสระดับมืออาชีพ
- บอลนุ่มเป็นธรรมชาติ ทำให้ตีได้สนุก
- ใช้ผ้าสักหลาดอย่างดี มีอายุการใช้งานยาวนาน
- เล่นได้กับคอร์ตทุกประเภท
จำนวน | 3 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ แข่งขัน |
บอลเทนนิส DUNLOP FORT ALLCOURT

ราคา 175 บาท*
Dunlop รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย (ผมเองก็เลือกใช้อยู่บ่อย ๆ) เพราะอย่างแรกเลยคือลูกเทนนิสใช้ได้ทุกคอร์ท มีเทคโนโลยีอย่าง Dunlop HD ช่วยให้บอลเสถียร เด้งค่อนข้างสม่ำเสมอ ในขณะเดียวกันผ้าหุ่มลูกเทนนิสจะเป็น Flouro Cloth ทำให้เรามองเห็นบอลชัดเจน และเหมาะมากสำหรับการเล่นในสภาพอากาศของไทย หากใครต้องการลูกเทนนิสระดับมืออาชีพ Dunlop Fort เป็นอีกหนึ่งช้อยส์ที่น่าสนใจมาก
จุดเด่น
- มีเทคโนโลยี Dunlop HD ทำให้บอลเด้งค่อนข้างเสถียร
- สีของบอลสว่าง ช่วยให้เราตีบอลหรือมองเห็นบอลง่ายขึ้น
จำนวน | 3 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ แข่งขัน |
บอลเทนนิส Wilson Tour Premier Allcourt

ราคา 175 บาท*
Wilson Tour Premier Allcourt จะคล้าย ๆ กับ ‘Tecnifibre’ และ ‘Dunlop Fort’ คือสามารถนำไปเล่นในได้ในทุกคอร์ท ทั้งนี้ผ้าที่ใช้จะเป็นผ้าทักอย่างดี ทำให้การเล่นมีความเสถียรตีได้มันส์ยิ่งขึ้น นอกจากนี้สีของลูกเทนนิสยังเป็นแบบเหลือง Optivis ที่ค่อนข้างสว่าง ทำให้เห็นบอลชัดเจนแม้เล่นในช่วงเวลากลางคืน เหมาะกับทั้งการฝึกซ้อมทั่วไป หรือจะนำไปใช้ในการแข่งขันก็ได้ รับรองว่าถ้าได้ใช้แล้วจะรู้เลยว่าฟิลลิ่งในการตีจะดีมาก ๆ
จุดเด่น
- บอลสี Optivis มีความสว่าง ทำให้มองเห็นง่าย
- บอลเด้งค่อนข้างเสถียร
- ใช้ได้ทั้งการซ้อมและการแข่งขัน
จำนวน | 3 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ แข่งขัน |
ลูกเทนนิส WILSON TRINITI TENNIS BALL สำหรับซ้อมและแข่งขัน

ราคา 213 บาท*
อีกหนึ่งรุ่นที่ผมอยากแนะนำให้ใช้มาก ๆ เลยคือ Wilson Triniti เนื่องจากอายุการใช้งานของบอลนานมากกว่าลูกเทนนิสทั่วไปกว่า 4 เท่า เพราะด้วยผ้าสักหลาดสุดพิเศษอย่าง STR รวมไปถึงแกนกลางที่เป็น Engage ทั้งนี้ฟิลลิ่งในการตีก็จะดี ระยะบอลกระดอนในความสูงมาตรฐาน เหมาะสำหรับการใช้ซ้อมและแข่งขันครับ
จุดเด่น
- อายุการใช้งานดีกว่าลูกเทนนิสทั่วไปกว่า 4 เท่า
- ใช้ได้ทั้งซ้อมและแข่งขัน
- ระดับของการกระดอนมีความสูงมาตรฐาน ทำให้ตีง่าย
จำนวน | 3 ลูก |
---|---|
ความเร็วของบอล | ระดับกลาง (Medium) |
Regular-duty / Extra-duty | Regular-duty |
เหมาะสำหรับ | ฝึกซ้อม และ แข่งขัน |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ลูกเทนนิส แบบไหน ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีการเก็บรักษาลูกเทนนิสอย่างถูกต้อง
1. หากยังไม่ใช้ แนะนำว่าไม่ควรเปิดกระป๋องเทนนิส
ทางที่ดีที่สุดของการเก็บรักษาลูกเทนนิสคือ หากซื้อมาแล้วยังไม่ถึงเวลาใช้ไม่แนะนำให้เปิดกระป๋องใส่ลูกเทนนิส เนื่องจากการเปิดกระป๋องทิ้งไว้อาจทำให้แรงดันภายในสูญเสียไป ทั้งนี้หากยังไม่ได้เปิดอายุของลูกเทนนิสจะอยู่ได้นานกว่า 2 – 4 ปีเลยทีเดียวครับ
2. เก็บไว้ในอุณหภูมิที่เหมาะสม
การนำลูกเทนนิสเก็บไว้ในสถานที่กลางแจ้งหรือในพื้นที่ที่มีความร้อนสูง ทำให้อายุการใช้งานของลูกเทนนิสสั้นลง โดยจุดซึ่งเหมาะสำหรับการเก็บจะเป็นในบ้านหรือตู้ต่าง ๆ ส่วนจุดที่ควรหลีกเลี่ยงคือในรถยนต์ครับ เพราะรถยนต์มีโอกาสได้รับความร้อนอยู่ตลอดเวลา
ลูกเทนนิสเก็บแรงอัดหรือแรงดันอากาศได้นานแค่ไหน ?
หากใครมีประสบการณ์ในการเล่นเทนนิสมาก่อน จะทราบว่าแรงดันหรือแรงอัดภายในลูกเทนนิสจะค่อย ๆ หายไปตามแรงในการตีของเรา ซึ่งหากเป็นการแข่งขันหรือการฝึกซ้อมในระดับมืออาชีพ จะมีการเปลี่ยนลูกบอลใหม่ทุก 30 – 60 นาที แต่สำหรับใครที่ต้องการเล่นในช่วงเวลาว่างหรือเป็นงานอดิเรกในวันหยุด คุณก็สามารถใช้ลูกเทนนิสได้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์แล้วค่อยเปลี่ยนก็ได้ครับ