น้ำหอมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยทำให้เรามีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นค่ะ อาบน้ำแล้ว แต่งตัวดีแล้วแต่ไม่ทาน้ำหอมมันก็ยังไง ๆ อยู่ค่ะ แน่นอนว่าการใช้น้ำหอมสามารถเป็นสื่อกลางเพื่อสื่อถึงตัวตนของตัวเองได้อย่างสบาย ๆ ดังนั้นน้ำหอมจึงจำเป็นอย่างมากหากคุณต้องการเสริมบุคลิกภาพให้กับตัวเองค่ะ น้ำหอมมีให้เลือกมากมายค่ะไม่ว่าจะเป็นน้ำหอมสำหรับผู้หญิงและน้ำหอมสำหรับผู้ชาย นอกจากนี้ยังมีน้ำหอมจากแบรนด์ดังหลายแบรนด์ให้เราได้ซื้อกันเช่น น้ำหอมจาก Miniso, น้ำหอม Versace, น้ำหอม Marc Jacobsรวมไปถึงน้ำหอมจาก Chanel

แต่หากคุณยังเลือกน้ำหอมไม่ได้ วันนี้เราอยากแนะนำน้ำหอมอีกหนึ่งแบรนด์ที่ฮอตมาก ๆ นั่นก็คือ “น้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด)” ค่ะ น้ำหอมของ Tom Ford ทุกกลิ่นให้ความรู้สึกหรูหราและดึงดูดใจผู้คน อีกทั้งยังมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขอบอกก่อนนะคะว่าน้ำหอม Tom Ford ส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Unisex เหมาะสำหรับทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่บางกลิ่นอาจจะเอียงเองไปทางฝั่งผู้ชายหรือผู้หญิงอย่างชัดเจน หากพร้อมแล้วก็ไปเลือกซื้อน้ำหอมกันเลยค่ะ
น้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) กลิ่นไหน หอมและเหมาะกับคุณมากที่สุด?
- น้ำหอมที่เทย์เลอร์ สวิฟต์และแฮร์รี สไตลส์เลือกใช้ กลิ่นหอมหวานปนเซ็กซี่: Tom Ford Tobacco Vanille น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นสดชื่น ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังยืนอยู่ที่ชายหาด: Tom Ford Mandarino Di Amalfi น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นซิตรัสแสนสดชื่น เหมาะกับทุกโอกาส: Tom Ford Venetian Bergamot น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นเชอร์รี หอมละมุนฉีดได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย: Tom Ford Lost Cherry น้ำหอม
- น้ำหอมกลิ่นอู๊ดที่ได้รับความนิยมมาตลอดกาล คลาสสิกเหนือกาลเวลา: Tom Ford Oud Wood น้ำหอม
- น้ำหอมที่บ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษ เหมาะสำหรับวัยทำงาน: Tom Ford Noir De Noir น้ำหอม
ประวัติความเป็นมาของน้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด)
Tom Ford (ทอร์ม ฟอร์ด) เป็นแบรนด์แฟชั่นสุดหรูสัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งโดยนักออกแบบแฟชั่นที่ชื่อว่าทอร์ม ฟอร์ด (Tom Ford) ใช่ค่ะทุกคนเขาเอาชื่อของตัวเองมาตั้งเป็นชื่อแบรนด์ค่ะ แบรนด์นี้ได้เปิดตัวในปี 2005 นอกจากจะขายน้ำหอมแล้ว แบรนด์ทอมฟอร์ดยังวางขายเครื่องสำอาง รองเท้าและสินค้านำแฟชั่นอื่น ๆ อีกมากมาย ต่อไปจะเป็นประวัติโดยย่อของทอร์ม ฟอร์ดค่ะ
ทอร์ม ฟอร์ด เขาชื่อเต็มว่า โธมัส คาร์ไลล์ ฟอร์ด (Thomas Carlyle Ford) เขาเกิดในเมืองออสติน รัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อเขาโตขึ้นเขาได้ศึกษาที่ Bard College ที่ Simon’s Rock และศึกษาประวัติศาสตร์ศิลปะที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ทอร์ม ฟอร์ดเป็นคนที่มีความสามารถมาก ๆ แต่ความก้าวหน้าของทอร์ม ฟอร์ดนั้นได้เกิดขึ้นจริง ๆ จัง ๆ ในยุค 80 และยุค 90 ค่ะ นั่นเป็นเพราะว่าเขาทำงานเป็นนักออกแบบเสื้อผ้าสำหรับผู้หญิงของแบรนด์กุชชี่ (Gucci) เขาทำงานหนักมาตลอดก่อนที่จะได้รับการแต่งตั้งให้เป็น Creative Director ในปี 1994
ทอร์ม ฟอร์ดทำหน้าที่เป็น Creative Director ของ Gucci ถึง 5 ปี แต่ในปี 1999 บริษัท Yves Saint Laurent ได้เข้ามาซื้อกิจการของ Gucci ทำให้ทอร์ม หอร์ดได้ดำรงตำแหน่งครีเอทีฟไดเร็กเตอร์ของ Yves Saint Laurent เมื่อถึงจุดอิ่มตัวในปี 2004 ทอร์ม ฟอร์ดได้ลาออกจาก Yves Saint Laurent เพื่อเปิดแบรนด์ Tom Ford SA ขึ้นมาโดยเป็นการร่วมทุนระหว่างทอร์ม ฟอร์ดและหุ้นส่วนอย่างโดเมนิโก เด โซเล (Domenico De Sole)

ในตอนที่เปิดตัวแบรนด์แรก ๆ แบรนด์นี้ได้วางขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางเป็นหลัก ต่อมาได้ขายกรอบแว่นตาและอื่น ๆ อีกมากมาย สำหรับผลิตภัณฑ์น้ำหอมแบรนด์ทอร์ม ฟอร์ด ในปี 2006 ทางแบรนด์ได้เปิดตัว Tom Ford Black Orchid ออกมา ซึ่งเป็นน้ำหอมตัวแรกกลิ่นแรกที่เปิดตัวภายใต้ร่มเงาของแบรนด์ Tom Ford Beauty กลิ่นน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นผสมผสานกันอย่างลงตัวของทรัฟเฟิล กล้วยไม้ แพทชูลี่และดาร์กช็อกโกแลต หลังจากนั้นทางแบรนด์ก็ได้ออกแบบน้ำหอมออกมาเรื่อย ๆ และได้รับความนิยมมาเสมอค่ะ
คอลเลกชันน้ำหอมของ Tom Ford (ทอม ฟอร์ด)
คอลเลกชันน้ำหอมของ Tom Ford แบ่งออกเป็น 2 คอลเลกชันใหญ่ ๆ ที่มีความโดดเด่น ซึ่งนั่นก็คือ Private Blend และ Signature น้ำหอมคอลเลกชัน Private Blend เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นสร้างสรรค์ แหวกแนว ไม่เหมือนใครแต่มีราคาค่อนข้างสูงค่ะ ส่วน Signature เป็นน้ำหอมกลิ่นดั้งเดิม หากตอนนี้คุณพร้อมแล้วก็ไปค่ะทุกคน เราไปทำความรู้จักกับคอลเลกชันน้ำหอมของ Tom Ford กันดีกว่า
1. คอลเลกชัน Private Blend
กลุ่มผลิตภัณฑ์ Private Blend เปิดตัวในปี 2007 ทอม ฟอร์ดเจ้าของแบรนด์ได้พูดไว้ว่า Private Blend เป็นน้ำหอมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งไม่มีข้อจำกัดตามแบบแผนของการทำหรือปรุงน้ำหอมทั่วไป น้ำหอมคอลเลกชัน Private Blend ประกอบด้วยกลิ่นน้ำหอมดังต่อไปนี้ค่ะ
- Oud Wood
- Noir de Noir
- Tobacco Vanille
- Tuscan Leather
- Amber Absolute
- Velvet Gardenia
- Black Violet
- Purple Patchouli
- Bois Rouge
- Moss Breches
- Neroli Portofino
- Japan Noir
คอลเลกชัน Private Blend เป็นน้ำหอมยูนิเซ็กส์ที่มีราคาสูง แต่ทางแบรนด์ได้ออกแบบน้ำหอมออกมาเพื่อมุ่งเป้าไปที่ผู้ชื่นชอบน้ำหอมและต้องการสัมผัสกับน้ำหอมที่มีกลิ่นเฉพาะกลุ่ม จุดเด่นของ Private Blend คือใช้ส่วนผสมคุณภาพสูง ผ่านการผสมผสานมาอย่างดี ทำให้เป็นน้ำหอมที่ความซับซ้อน ยิ่งไปกว่านั้นคุณยังสามารถหาซื้อน้ำหอมรุ่นนี้ได้ในห้างสรรพสินค้าระดับไฮเอนด์เกือบทุกแห่งเลยค่ะ
2. คอลเลกชัน Signature
คอลเลกชันน้ำหอมซิกเนเจอร์เป็นน้ำหอมที่มีความหรูหราของทอม ฟอร์ด ซึ่งราคาไม่ได้สูงเท่า Private Blend แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าน้ำหอมเหล่านี้มีคุณภาพต่ำหรือไม่คุ้มค่าที่จะซื้อค่ะ เพราะน้ำหอมซิกเนเจอร์หอมมาก ๆ และมักจะถูกนำไปเปรียบเทียบหรือแข่งขันกับน้ำหอมแบรนด์ใหญ่อื่น ๆ เช่น Dior และ Hermes อยู่เสมอ การจัดวางองค์ประกอบของน้ำหอมมีการผสมผสานอย่างลงตัว โดยน้ำหอมซิกเนเจอร์ที่เปิดตัวครั้งแรกจาก Tom Ford คือ Black Orchid น้ำหอมมีกลิ่นของเห็ดทรัฟเฟิล ไม้บัว มะกรูดและวานิลลา จนถึงทุกวันนี้ Black Orchid ยังคงเป็นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมทั้งผู้หญิงและผู้ชายค่ะ น้ำหอมในคอลเลกชันซิกเนเจอร์จะแบ่งออกเป็น 4 หมวดหลัก ๆ คือ Exclusives, Noir, Oud และ Portofino ซึ่งจะมีความแตกต่างกันดังต่อไปนี้ค่ะ
- Exclusives น้ำหอมเอ็กซ์คลูซีฟเป็นน้ำหอมที่มีราคาค่อนข้างสูง ปัจจุบันประกอบด้วยน้ำหอม 4 กลิ่น ซึ่งมักพบได้ในร้านค้าอย่างเป็นทางการของทอม ฟอร์ดและบนเว็บไซต์ของทอม ฟอร์ดค่ะ โดยกลิ่นทั้ง 4 กลิ่นคือ Bitter Peach, Lost Cherry, Rose Prick และ F*cking Faboulos

- Noir ในคอลเลกชันผลิตภัณฑ์ซิกเนเจอร์ คอลเลกชันย่อย Noir มีน้ำหอม 4 กลิ่นที่มีความเย้ายวนใจที่แตกต่างกันนั่นก็คือ Noir Eau de Toilette, Noir, Eau de Parfum, Noir Extreme for Men and Women และ Noir Anthracite น้ำหอม Noir จะเหมาะสำหรับใช้ฉีดในงานเน็กไทสีดำสุดหรูและเวลาไปทำงานค่ะ น้ำหอม EDT และ EDP เป็นน้ำหอมสีเข้ม มีกลิ่นวู๊ดดี้และกลิ่นของดอกไม้ ในขณะที่ Noir Extreme ทั้งสองแบบมีกลิ่นที่หอมหวานและแทรกกลิ่นสไปซ์เข้าไปค่ะ
- Ood น้ำหอมกลิ่นอู๊ดหรือ Oud Wood เป็นน้ำหอมยอดนิยมของ Tom Ford และเป็นกลิ่นที่มีคอลเลกชันเป็นของตัวเองใน Private Blend น้ำหอมอีก 3 กลิ่นที่อยู่ในไลน์นี้คือ Oud Minerale มีกลิ่นหอมสะอาด Tobacco Oud เป็นกลิ่นยาสูบและอู๊ด สุดท้ายคือ Oud Fleur เป็นกลิ่นน้ำหอมที่ผสมผสานกันระหว่างกลิ่นดอกไม้โดยจะเน้นที่กลิ่นกุหลาบค่ะ

- Portofino น้ำหอมคอลเลกชันย่อยอย่าง Portofino ออกแบบมาให้เป็นตัวเลือกสำหรับการใช้งานช่วงฤดูร้อน วันหยุดและช่วงเวลาดี ๆ ที่คุณต้องการ โดยกลิ่นจะมี 3 กลิ่นคือ Neroli Portofino, Neroli Portofino Acqua, Fleur de Portofino ทั้ง 3 กลิ่นประกอบไปด้วยกลิ่นของผลไม้ตระกูลส้ม สมุนไพรและให้กลิ่นมัสค์แบบบางเบา ขอบอกเลยนะคะว่าน้ำหอมไลน์ Portofino เป็นน้ำหอมที่มีราคาไม่แพงมากและหาซื้อได้ง่าย
Tom Ford Ombré Leather น้ำหอม

ราคา 6,200 บาท*
Tom Ford Ombre Leather เป็นน้ำหอมที่เปิดตัวในปี 2018 ค่ะ น้ำหอมรุ่นนี้มีราคาไม่แพงและยังคงความยอดเยี่ยมซึ่งแตกต่างจากขวดดั้งเดิมที่เปิดตัวเมื่อปี 2016 ค่ะ น้ำหอมมีกลิ่นคล้ายกับ Tom Ford Tuscan Leather แต่ตัวกลิ่นจะบางเบากว่า ครีมมี่กว่าและฉีดได้กว่า เปิดตัวกลิ่นแรกคือกลิ่นของกระวาน ถัดมาเป็นกลิ่นของหนังและดอกมะลิ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของแอมเบอร์ มอสและแพทชูลี
เมื่อคุณได้กลิ่นน้ำหอมคุณจะสัมผัสถึงได้ถึงกลิ่นของหนังผสมกับกลิ่นไม้ น้ำหอมกลิ่น Ombre Leather เป็นน้ำหอมสำหรับผู้ชายค่ะ สามารถใช้งานได้หลากหลายมาก ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนก็สามารถฉีดได้ค่ะ ดังนั้นหากคุณต้องการสัมผัสกลิ่นหอมที่ละเอียดอ่อนและให้ความรู้สึกเป็นทางการ คุณจะต้องซื้อ Tom Ford Ombre Leather เท่านั้นค่ะ ดังนั้นอย่ามัวรอช้านะคะต้องซื้อตอนนี้เท่านั้น
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 100 มล. |
Top Notes | Cardamom |
Middle Notes | Leather, Jasmine Sambac |
Base Notes | Amber, Moss, Patchouli |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชาย |
Tom Ford Black Orchid น้ำหอม

ราคา 6,200 บาท*
Tom Ford Black Orchid เป็นน้ำหอมที่มีกลิ่นหอมหรูหรามากค่ะ กลิ่นหลักของน้ำหอมเป็นกลิ่นของกล้วยไม้สีดำที่มีความเย้ายวน โดยจะเหมาะสำหรับโอกาสพิเศษค่ะ เปิดกลิ่นแรกเป็นกลิ่นของทรัฟเฟิล แบล็คเคอเรนท์ มะลิและกลิ่นซิตรัสค่ะ กลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกล้วยไม้ ดอกพุดและกลิ่นดอกยี่โถ ปิดท้ายด้วยกลิ่นไม้และกลิ่นวานิลลาค่ะ ส่วนผสมทั้งหมดจะมีความลงตัวและให้กลิ่นที่เย้ายวนมากเลยทีเดียวค่ะ
Tom Ford Black Orchid เป็นน้ำหอมที่หรูหราเหมาะสำหรับผู้ชายและผู้ชายทุกคน หากคุณต้องการสร้างความประทับใจและได้รับความสนใจจากผู้หญิงทุกคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ให้ลองใช้น้ำหอมนี้ดู ด้วยกลิ่นที่ทั้งทันสมัยและดั้งเดิมกลิ่นหอมของ Tom Ford Black Orchid จึงเหมาะสำหรับผู้ชายทุกวัย ใครที่ไม่เคยใช้ต้องลองเท่านั้นค่ะห้ามพลาดเลยนะคะ รับรองว่าหอมจริงหอมจัง อีกทั้งน้ำหอมกลิ่นนี้ยังเป็นกลิ่นแรกที่ทอมฟอร์ดเปิดตัววางขายอีกด้วย
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Truffle, Gardenia, Black Currant, Ylang-Ylang, Jasmine, Bergamot, Mandarin Orange, Amalfi Lemon |
Middle Notes | Orchid, Spices, Gardenia, Fruity Notes, Ylang-Ylang, Jasmine, Lotus |
Base Notes | Mexican chocolate, Patchouli, Vanille, Incense, Amber, Sandalwood, Vetiver, White Musk |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Tom Ford Oud Wood น้ำหอม

ราคา 6,650 บาท*
Tom Ford Oud Wood Eau de Parfum เป็นน้ำหอมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดตลอดกาลค่ะ ท็อปโน้ตของน้ำหอมเป็นกลิเนโรสวู้ด กระวานและฮวาเจียว (พริกไทยเสฉวน) กลิ่นกลางเป็นอู๊ด ไม้จันทน์และหญ้าแฝก ปิดท้ายด้วยกลิ่นของถั่วทองกา วานิลลาและแอมเบอร์ น้ำหอมจะติดทนนานประมาณ 4-5 ชั่วโมง ผ่านการผสมผสานกลิ่นที่อบอุ่นและเย้ายวนของกลิ่นหอมต่าง ๆ ที่คุณจะหลงรักตั้งแต่เริ่มฉีดอย่างแน่นอนค่ะ
น้ำหอม Oud Wood เหมาะที่จะฉีดในวันที่อากาศหนาวเย็น รวมไปถึงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาวที่อากาศอบอุ่นกว่าปกติเพื่อให้น้ำหอมมีกลิ่นหอมอันเป็นเอกลักษณ์ค่ะ น้ำหอมมีความคลาสสิกเป็นการผสมผสานกับเครื่องเทศและความหวานเล็กน้อยจากวานิลลาและอำพัน การผสมผสานแบบคลาสสิกนี้ทำให้ Oud Wood เป็นน้ำหอมแบบยูนิเซ็กส์ที่เหมาะกับทุกเพศค่ะ โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อายุ 20 ขึ้นไป
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 30 มล. |
Top Notes | Cardamom, Sichuan Pepper |
Middle Notes | Sandalwood, Vetiver, Tonka Bean, Vanilla |
Base Notes | Oud, Brazilian Rosewood, Amber |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Tom Ford Lost Cherry น้ำหอม

ราคา 9,090 บาท*
Tom Ford Lost Cherry เป็นน้ำหอมที่ใครได้กลิ่นก็ต้องว้าวค่ะ เพราะเป็นน้ำหอมที่จะทำให้คุณโดดเด่นท่ามกลางฝูงชนค่ะ เมื่อฉีดสเปรย์ไปครั้งแรกกลิ่นเชอร์รีจะเตะจมูกทันทีซึ่งเป็นกลิ่นที่หอมมาก นอกจากกลิ่นเชอร์รีแล้วยังมีกลิ่นรัมและกลิ่นของอัลมอนด์ ถัดมากลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกุหลาบและดอกมะลิเป็นการผสมผสานกันอย่างลงตัว ปิดท้ายด้วยกลิ่นถั่วทองกา ไม้จันทน์ หญ้าแฝก และไม้ซีดาร์
น้ำหอมจะติดทนนานประมาณ 8 ชั่วโมง กลิ่นหอมของน้ำหอม Lost Cherry จะเหมาะที่จะฉีดในเดือนที่อากาศหนาวเย็นแต่ตอนอากาศร้อนก็สามารถฉีดได้ค่ะ กลิ่นน้ำหอมเป็นยูนิเซ็กส์นะคะสามารถฉีดได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ผู้เขียนมองว่ากลิ่นมีความเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แต่คุณผู้ชายที่ชอบกลิ่นผลไม้ก็สามารถฉีดได้เช่นกันค่ะ ตัวขวดน้ำหอมมีความเป็นเอกลักษณ์มาก ๆ ต้องลองนะคะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Cherry, Rum, Bitter Almond |
Middle Notes | Turkish Rose, Jasmine Sambac, Plum |
Base Notes | Peru Balsam, Tonka Bean, Sandalwood, Vetiver, Cedar, Benzoin, Cinnamon Cloves, Patchouli, Vanilla |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Tom Ford Tobacco Vanille น้ำหอม

ราคา 10,000 บาท*
Tom Ford Tobacco Vanille Eau de Parfum เป็นหนึ่งในน้ำหอมที่มีกลิ่นดั้งเดิมและเป็นที่ชื่นชอบของนักสะสมน้ำหอมค่ะ ท็อปโน้ตของน้ำหอมคือยาสูบผ่านการจับคู่กับเครื่องเทศ กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นวานิลลา ถั่วทองกา ดอกยาสูบและโกโก้ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของผลไม้แห้งและไม้ กลิ่นหอมของน้ำหอมเหมาะที่จะใช้งานตลอดทั้งวัน แต่กลิ่นน้ำหอมจะหอมที่สุดในเดือนที่อากาศหนาวเย็นค่ะ
กลิ่นของน้ำหอมติดทนนานมากเพราะเป็นน้ำหอมแบบ Eau de Parfum ที่สามารถติดทนได้นานถึง 8 ชั่วโมงขึ้นไป น้ำหอมสามารถทาได้เกือบทุกโอกาส ตั้งแต่กลางวันถึงกลางคืนค่ะ อันที่จริงแล้ว Tom Ford Tobacco Vanille เป็นน้ำหอมยูนิเซ็กส์นะคะสามารถใช้งานได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง คนดังที่ใช้น้ำหอมกลิ่นนี้คือ Taylor Swift และ Harry Styles ค่ะ ส่วนตัวผู้เขียนมองว่ากลิ่นหอมจะออกแนวผู้ชายมากกว่า แต่หากคุณเป็นผู้หญิงแนวสปอร์ต ๆ ก็สามารถใช้น้ำหอมได้ค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Tobacco Leaf, Spices |
Middle Notes | Tonka Bean, Tobacco blossom, Vanilla, Cacao |
Base Notes | Dried Fruits, Woody Notes |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Tom Ford Mandarino Di Amalfi น้ำหอม

ราคา 10,000 บาท*
Tom Ford Mandarino Di Amalfi เป็นน้ำหอมที่ให้ความสดชื่น สะอาดเหมือนเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ค่ะ น้ำหอมเป็นแบบยูนิเซ็กส์ตัวกลิ่นจะเอนเอียงไปทางผู้หญิงเล็กน้อย แต่ก็เหมาะสำหรับผู้ชายที่ชอบน้ำหอมกลิ่นสะอาดหรือต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับตัวเอง หลายคนที่เคยใช้บอกว่ากลิ่นน้ำหอมจะทำให้รู้สึกเหมือนยืนอยู่ที่ชายฝั่งอามาลฟี (Amalfi Coast) ของประเทศอิตาลี ซึ่งว่ากันว่าที่นั่นเป็นที่ที่อากาศสดชื่นมากค่ะ แม้น้ำหอมจะมีกลิ่นที่ค่อนข้างเรียบง่าย แต่ก็มีโน้ตของน้ำหอมมากมายค่ะ
เปิดตัวกลิ่นแรกด้วยกลิ่นส้มแมนดารินและกลิ่นมิ้นต์ กลิ่นกลางจะเป็นกลิ่นของมะลิซึ่งเป็นกลิ่นที่ชัดมาก ปิดท้ายด้วยกลิ่นมัสค์และหญ้าแฝกเบาค่ะ น้ำหอมติดทนได้ยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง กลิ่นน้ำหอมเหมาะสำหรับทุกโอกาส ใช้งานได้หลากหลายทุกฤดูกาล กลิ่นน้ำหอมไม่ฉุนเกินไปถึงแม้จะฉีดเยอะแต่ไม่มีใครบ่นอย่างแน่นอนค่ะ ใครที่กำลังมองหาน้ำหอมกลิ่นสดชื่นและเป็นธรรมชาติ Tom Ford Mandarino Di Amalfi เป็นทางเลือกที่ดีมากค่ะ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Tarragon, Mint, Blackcurrant, Grapefruit, Lemon, Basil |
Middle Notes | Black Pepper, Coriander, Orange Blossom, Clary, Sage, Shiso, Jasmine |
Base Notes | Vetiver, Amber, Labdanum, Musk, Civet |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Tom Ford Venetian Bergamot น้ำหอม

ราคา 10,000 บาท*
Tom Ford Venetian Bergamot เป็นหนึ่งในน้ำหอมกลิ่นซิตรัสที่ได้รับความนิยมมากค่ะ น้ำหอมยังคงความยูนิเซ็กส์เอาไว้ แต่เหมาะสำหรับผู้ชายมากกว่าเพราะกลิ่นซิตรัสส่วนใหญ่จะเหมาะกับคุณผู้ชายที่รักความสดชื่น หากให้เปรียบเทียบกลิ่นน้ำหอมกับอาหาร ผู้เขียนมองว่า Tom Ford Venetian Bergamot มีลักษณะคล้ายกับไอติมรสมะนาวมาก ๆ เพราะกลิ่นซิตรัสค่อนข้างเด่นเลยทีเดียวค่ะ
น้ำหอมเปิดตัวด้วยกลิ่นเบอร์กาม็อท พริกไทยดำและพริกไทยสีชมพู กลิ่นกลางจะประกอบด้วยกลิ่นขิง เครื่องเทศ กระดังงา แมกโนเลีย การ์ดีเนีย ซีดาร์วูด และโรสวูด ปิดท้ายด้วยกลิ่นของไม้จันทน์ ถั่วทองกา อำพันและแคชเมียร์ ดังนั้นสามารถสรุปได้เลยว่าน้ำหอม Venetian Bergamot เป็นน้ำหอมที่มีการผสมผสานกันอย่างลงตัวของซิตรัส ดอกไม้และไม้ ตัวน้ำหอมจะติดทนยาวนานกว่า 5 ชั่วโมงค่ะ ใครที่ชอบกลิ่นซิตรัสต้องลอง
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Bergamot, Black Pepper, Pink Pepper, Ginger |
Middle Notes | Ylang-Ylang, Gardenia, Cedar, Magnolia |
Base Notes | Sandalwood, Tonka Bean, Amber, Cashmeran |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Tom Ford Tuscan Leather น้ำหอม

ราคา 10,000 บาท*
Tom Ford Tuscan Leather เป็นอีกหนึ่งน้ำหอมกลิ่นออริจินัลที่คุณต้องลองใช้ค่ะ กลิ่นเปิดของน้ำหอมเป็นกลิ่นของหญ้าฝรั่น ราสเบอร์รี และโหระพา กลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกำยานและมะลิ ปิดท้ายด้วยกลิ่นของหนังผสมอำพันและกลิ่นไม้ เช่นเดียวกับน้ำหอม Tom Ford ส่วนใหญ่ น้ำหอม Tuscan Leather มีกลิ่นที่ติดทนนานโดยสามารถติดทนนานถึง 7 ชั่วโมงหากใช้งานได้อย่างเหมาะสม
ขอบอกเลยนะคะว่ากลิ่นน้ำหอม Tuscan Leather เป็นที่นิยมมากค่ะ ขนาด Drake แร็ปเปอร์ชาวแคนาดาถึงกับตั้งชื่อเพลงตามกลิ่นน้ำหอมเลยค่ะ กลิ่นน้ำหอมมีความเข้มข้นควรใช้งานในช่วงฤดูหนาว โดยสามารถทาได้ทั้งกลางวันและกลางคืน จะฉีดใส่เที่ยวหรือฉีดโอกาสไหนก็ย่อมได้ ผู้เขียนมองว่าตัวน้ำหอมจะมีกลิ่นที่เหมาะกับกลุ่มคนอายุ 20 ปีขึ้นไปและตอบโจทย์คนที่ชอบน้ำหอมกลิ่นหนังค่ะ แต่อย่าฉีดมากเกินไปนะคะเพราะเดี๋ยวจะฉุนเอาได้
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Saffron, Raspberry, Thyme |
Middle Notes | Olibanum, Jasmine |
Base Notes | Leather, Suede, Amber, Woody Notes |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชาย |
Tom Ford Neroli Portofino น้ำหอม

ราคา 10,000 บาท*
Tom Ford Neroli Portofino เป็นน้ำหอมยูนิเซ็กส์อีกเช่นเคยค่ะ ผู้เขียนมองว่าน้ำหอมกลิ่นนี้เป็นน้ำหอมกันตายก็คือมีความปลอดภัยที่สุด ฉีดได้ทุกวันของปี และในทุกโอกาส ไม่ว่าจะใส่สูทหรือกางเกงยีนส์ก็สามารถฉีดได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้จะฉีดเยอะมาก ๆ ก็จะไม่ฉุนและไม่แสบจมูกอย่างแน่นอนค่ะ กลิ่นน้ำหอมเปิดตัวด้วยกลิ่นเบอร์กาม็อทและส้มแมนดารินที่สดชื่นและปนเซ็กซี่มาก ส่วนกลิ่นกลางเป็นกลิ่นของดอกส้มและเนโรลี
ปิดท้ายด้วยกลิ่นแอมเบอร์และมัสค์ ความพิเศษคือน้ำหอมสามารถติดทนได้นาน 6 ชั่วโมงขึ้นไปค่ะ กลิ่นน้ำหอมชวนให้นึกถึงริเวียร่าที่อิตาลีค่ะ เพราะมีความสดชื่นมีกลิ่นแนวซิตรัส ขวดของน้ำหอมทันสมัยมากและมีเอกลักษณ์ความเป็นทอมฟอร์ด ใครที่ชอบน้ำหอมกลิ่นสดชื่นและทันสมัยแนะนำ Tom Ford Neroli Portofino
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Bergamot, Mandarin Orange, Lemon, Bitter Orange, Lavender, Rosemary, Myrtle |
Middle Notes | African Orange flower, Neroli, Jasmine, Pittosporum |
Base Notes | Amber, Ambrette (Musk Mallow) |
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
Tom Ford Noir De Noir น้ำหอม

ราคา 10,000 บาท*
Tom Ford Noir de Noir เป็นน้ำหอมกลิ่นดั้งเดิมแต่ยังคงเป็นที่นิยมเสมอมาซึ่งกลิ่นหอมเปิดตัวโดยเจ้าของแบรนด์ทอม ฟอร์ด ครั้งแรกในปี 2007 เป็นน้ำหอมเอเซียติกที่สามารถให้ความมั่นใจและมอบพลังงานให้แก่ผู้ชายทุกคน เปิดตัวกลิ่นแรกเป็นกลิ่นของหญ้าฝรั่น กลิ่นกลางเป็นกลิ่นของกุหลาบดำ แบล็คทรัฟเฟิล ปิดท้ายด้วยกลิ่นวานิลลา แพทชูลี่และอู๊ดซึ่งเป็นกลิ่นหอมที่ลงตัวมากเลยทีเดียว
น้ำหอมมีสีเข้ม มีกลิ่นหวานและเผ็ดในเวลาเดียวกัน ผลลัพธ์ที่ได้คือเมื่อฉีดจะให้ความเป็นผู้ชายและเป็นกลิ่นที่บ่งบอกถึงความเป็นสุภาพบุรุษค่ะ น้ำหอม Noir de Noir เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโอกาสที่เป็นทางการและเหมาะสำหรับค่ำคืนกับคนพิเศษค่ะ สำหรับใครที่อยากได้น้ำหอมที่บ่งบอกถึงความนุ่มลึกและดูเป็นผู้ชายเราขอแนะนำเลยค่ะเพราะมีประสิทธิภาพมากจริง ๆ
รูปแบบของน้ำหอม | Eau de Parfum |
---|---|
ปริมาณสุทธิ | 50 มล. |
Top Notes | Saffron |
Middle Notes | Black Rose, Truffle, Floral Notes |
Base Notes | Patchouli, Vanilla, Agarwood (Oud), Oakmoss |
เหมาะสำหรับ | ผู้ชาย |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว น้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) กลิ่นไหนดี ปี 2022 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
เคล็ดลับในการเลือกซื้อน้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด)
1. เช็กโน้ตน้ำหอม
โน้ตน้ำหอมคือกลิ่นที่นำมาประกอบเป็นน้ำหอม ตัวอย่างเช่น น้ำหอมที่มีโน้ตเป็นกลิ่นไม้และเครื่องเทศจะทำให้เกิดกลิ่นที่อบอุ่น แน่นอนว่าการผสมผสานของโน้ตน้ำหอมจะทำให้กลิ่นหอมของน้ำหอมน่าดึงดูดยิ่งขึ้น องค์ประกอบของโน้ตน้ำหอมมีตั้งแต่ท็อปโน้ต มิดเดิ้ลโน้ตไปจนถึงเบสโน้ต มาแยกย่อยทีละรายการด้านล่างกันค่ะ
- ท็อปโน้ต (Top notes) ท็อปโน้ตเป็นกลิ่นแรกที่เราจะได้กลิ่นเมื่อฉีดน้ำหอม ท็อปโน้ตมักจะประกอบด้วยกลิ่นหอมอ่อน ๆ หรือกลิ่นหอมสดชื่น เช่น กลิ่นฟรุ๊ตตี้ กลิ่นฟลอรัลหรือซิตรัส กลิ่นของท็อปโน้ตมักจะได้กลิ่นในช่วง 10 นาทีแรกที่เราฉีดน้ำหอม หลังจากนั้นกลิ่นหอมจะเปลี่ยนเป็นโน้ตกลางหรือที่เรียกว่ามิดเดิ้ลโน้ต
- มิดเดิ้ลโน้ต (Middle Notes) มิดเดิ้ลโน้ตหรือโน้ตกลางคือกลิ่นกลางของน้ำหอม หลังจากที่ได้กลิ่นท็อปโน้ตจมูกของเราจะได้กลิ่นโน้ตกลางซึ่งมักจะมีกลิ่นของดอกไม้ กลิ่นเผ็ดและกลิ่นไม้ อาจกล่าวได้ว่ามิดเดิ้ลโน้ตคือหัวใจของน้ำหอม อีกทั้งมิดเดิ้ลโน้ตยังเป็นสะพานเชื่อมสู่เบสโน้ตด้วย
- เบสโน้ต (Base Notes) เบสโน้ตเป็นกลิ่นสุดท้ายที่เราจะได้กลิ่นเมื่อฉีดน้ำหอม กลิ่นหอมมักจะปรากฏขึ้นหลังจากฉีดพ่นน้ำหอมไปแล้ว 30 – 60 นาที เบสโน้ตจะประกอบด้วยกลุ่มของกลิ่นหอม เช่น ไม้จันทน์ แอมเบอร์วูด แพทชูลี่ มัสค์ วานิลลาและถั่วทองกา เนื่องจากกลิ่นหอมของน้ำหอมค่อนข้างแรง เบสโน้ต จึงมีความคงทนมากที่สุดจำไว้นะคะว่าเบสโน้ตเป็นกลิ่นสุดท้ายที่จะได้กลิ่น ดังนั้นอย่ารีบเร่งเมื่อพยายามใช้น้ำหอมค่ะ

2. เลือกกลิ่นให้เข้ากับบรรยากาศและงาน
การเลือกน้ำหอมไม่ได้ขึ้นอยู่กับกลิ่นที่ชอบหรือการเลือกตามบุคลิกเท่านั้น กลิ่นน้ำหอมที่เราเลือกจะต้องปรับให้เข้ากับบรรยากาศ งานกิจกรรมและกิจกรรมที่เราต้องทำด้วยเพื่อไม่ให้เลือกผิดให้พิจารณาประเด็นต่อไปนี้ค่ะ
- เป็นทางการ : ให้เลือกน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกหรูหราเมื่อคุณต้องเข้าร่วมงานที่เป็นทางการ ตัวอย่างเช่น ระหว่างการประชุมกับเจ้าหน้าที่ของบริษัทหรือ งานเลี้ยงอาหารค่ำหรือในสำนักงาน โดยคุณสามารถใช้น้ำหอมที่มีกลิ่นตะวันออก วู้ดดี้ มัสค์และดอกไม้สำหรับกิจกรรมเหล่านี้ แนะนำให้เลือกหนึ่งกลิ่นที่เหมาะสมกับสถานการณ์มากที่สุด
- วันสบาย ๆ : เมื่อไปเที่ยวกับญาติและเพื่อนให้เลือกน้ำหอมที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง อาจจะเลือกกลิ่นวู๊ดดี้ที่อบอุ่นก็ได้เพราะสามารถทำให้คนรอบข้างสัมผัสถึงกลิ่นอบอุ่น นอกจากนี้กลิ่นหอมและสดชื่นของผลไม้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเช่นกันค่ะ

วิธีใช้น้ำหอม Tom Ford (ทอม ฟอร์ด) ให้ติดทนนาน
เมื่อมองแวบแรกน้ำหอมอาจดูเหมือนน้ำแอลกอฮอล์ที่มีกลิ่นหอมค่ะ ถึงแม้น้ำหอมจะใช้งานได้ง่าย แต่การเรียนรู้วิธีการใช้น้ำหอมที่ถูกต้องก็เป็นเรื่องที่จำเป็นและทำให้เราประหยัดน้ำหอมมากขึ้น หากคุณเคยสงสัยว่าทำไมน้ำหอมที่ฉีดเข้าไปถึงอยู่ได้ประมาณ 1 – 2 ชม. เท่านั้น แม้ซื้อน้ำหอมราคาแพงมาแล้วก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ ขอบอกเลยว่าสาเหตุอาจเป็นเพราะคุณไม่ได้ฉีดน้ำหอมให้ถูกต้องค่ะ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับและเทคนิคที่ต้องใช้เมื่อฉีดน้ำหอม
1. เลือกความเข้มข้นของน้ำหอมให้เหมาะสม
สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ต้องทำเมื่อซื้อน้ำหอมคือการเลือกความเข้มข้นของน้ำหอมที่เหมาะสม สิ่งที่เราหมายถึงคือความเข้มข้นของน้ำมันหอมระเหยในวัตถุดิบ ซึ่งความเข้มข้นเหล่านี้จะแตกต่างกันไปในแต่ละน้ำหอม ยิ่งน้ำหอมที่ซื้อมีปริมาณน้ำมันหอมระเหยมากเท่าไหร่ยิ่งติดทนนานมากเท่านั้น ต่อไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับความเข้มข้นของกลิ่นหอมค่ะ
- Eau Fraiche มีน้ำมันหอมระเหย 1-3%
- After Shave/Mist/Splash มีน้ำมันหอมระเหย 1-3%
- Eau de Cologne มีน้ำมันหอมระเหย 2-4%
- Eau de Toilette มีน้ำมันหอมระเหย 5-15%
- Eau de Parfum มีน้ำมันหอมระเหย 15-20%
- Pure Parfum/Extrait de Parfum มีน้ำมันหอมระเหย 20-40%
2. ซื้อน้ำหอมที่เหมาะสำหรับฤดูกาลและโอกาส
จุดสำคัญอีกประการหนึ่งที่คุณควรพิจารณาก่อนซื้อน้ำหอมคือการเลือกน้ำหอมที่เหมาะสมสำหรับ โอกาสและฤดูกาลเฉพาะ โดยสิ่งนี้จะขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และสภาพอากาศที่เราอาศัยอยู่ น้ำหอมที่มีไว้ฉีดในเวลากลางวันมักจะเบากว่าและติดทนนานน้อยกว่า กลิ่นน้ำหอมประเภทนี้จะเหมาะสำหรับฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน ในทางกลับกันน้ำหอมสำหรับใช้ฉีดในตอนกลางคืนจะเข้มข้นและมีกลิ่นหอมที่หนักกว่า กลิ่นน้ำหอมประเภทนี้จะเหมาะสำหรับฤดูใบไม้ร่วงและฤดูหนาว
3. ฉีดน้ำหอมลงบนผิว
วิธีที่เหมาะสมที่สุดในการใช้น้ำหอมคือการทาลงบนผิวโดยตรง ผลิตภัณฑ์น้ำหอมทำขึ้นเพื่อให้โต้ตอบกับผิวหนังและความร้อนในร่างกาย ตำแหน่งที่เราอยากแนะนำให้ฉีดน้ำหอมมี 6 แห่งคือหู, หลังใบหู, คอและรอบคอ, หลัง, หน้าอกและ ข้อศอก
4. ทามอยส์เจอไรเซอร์ก่อนทาน้ำหอม
อย่างที่เราทราบกันดีว่าผิวมันจะมีความทนต่อน้ำหอมมากกว่าผิวแห้ง จึงเป็นความคิดที่ดีที่จะทาโลชั่นแบบไร้กลิ่นบนจุดชีพจรและส่วนอื่น ๆ ของร่างกายก่อนทาน้ำหอม ใช้เพียงปริมาณเล็กน้อยก็เพียงพอแล้วค่ะ