หากพูดถึงสัตว์เลี้ยงคู่ใจของมนุษย์ ผมเชื่อว่าเมื่อก่อนนี้หลายคนคงจะนึกถึง สุนัข, แมว และกระต่าย มาเป็นอันดับแรก ๆ แต่ถ้าจะพูดในปัจจุบันนี้มันอาจไม่ใช่แบบนั้นแล้วครับ เพราะเทรนต์การเลี้ยงสัตว์ในทุกวันนี้เปลี่ยนไปเยอะมาก ซึ่งสัตว์ที่กำลังมาแรงในตอนนี้เลยคือ Exotic Pet หรือสัตว์เลี้ยงชนิดพิเศษ อย่าง งู, เม่นแคระ, ชินชิล่า, นก หรือพบเห็นกันได้บ่อย ๆ คือ ‘เต่า’

เต่าถือเป็นสัตว์สายพันธุ์หนึ่งที่มีคนจำนวนไม่น้อยเลี้ยงกัน เนื่องจากเต่าเลี้ยงได้ค่อนข้างง่าย อีกทั้งขนาดตัวของมันก็มีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่ตัวเล็กจนไปถึงตัวใหญ่เท่ากะละมัง สามารถนำไปเลี้ยงในพื้นที่กำจัดอย่างคอนโดหรือหอพักได้สบาย ๆ ขอเพียงแค่มี ‘กระบะเลี้ยงเต่า’ ไว้ให้น้องเต่าได้ว่ายน้ำ, ตากแดด, รับประทานอาหาร และพักผ่อนในพื้นที่ส่วนตัว อย่างไรก็ดีกระบะเลี้ยงเต่านั้นก็ต้องเลือกให้เหมาะกับสายพันธุ์เต่าที่เราเลี้ยง ดังนั้นวันนี้ผมจึงอยากมาแนะนำวิธีการเลือกซื้อรวมไปถึงสินค้ามาฝากกันครับ
กระบะเลี้ยงเต่า แบบไหนเหมาะกับเต่าของคุณมากที่สุด
- กระบะเลี้ยงเต่าที่ดีที่สุด แบ่งสัดส่วนดี และทำความสะอาดได้ง่าย: กระบะเลี้ยงเต่าพร้อมอุปกรณ์
- กระบะเลี้ยงเต่าขนาดใหญ่: Hanhu กระบะเลี้ยงเต่า
- กระบะเลี้ยงเต่าราคาถูก ,บ้านเต่าญี่ปุ่น: กระบะเลี้ยงเต่าขนาดเล็ก พร้อมฝาปิดและที่หิ้ว
- แทงค์เลี้ยงเต่า: แทงค์เลี้ยงเต่า Turtle Tank set คุณภาพดี
วิธีการเลือกกระบะเลี้ยงเต่า

1. ขนาดที่เหมาะสมกับเต่าที่เลี้ยง
เต่ามีอยู่หลายสายพันธุ์ ซึ่งในแต่ละสายพันธุ์ก็มีขนาดที่แตกต่างกันออกไป โดยการเลือกกระบะต้องคำนึงถึงพื้นที่และขนาดมาเป็นอันดับแรกครับ อย่างถ้าเป็นเต่าสายพันธุ์เล็กเราก็ไม่ควรจะเลือกขนาดที่ใหญ่มากจนเกินไป ส่วนเต่าสายพันธุ์ใหญ่ก็จะต้องเลือกกระบะที่ไม่เล็กจนเกินไป ทั้งนี้สิ่งสำคัญมาก ๆ เลยคือคุณจะต้องกะขนาดให้แบ่งออกเป็นส่วน ๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็น จุดสำหรับการพักผ่อนหลบแดด, พื้นที่สำหรับลงเล่นน้ำ หรือพื้นที่สำหรับการตากแดด ดังนั้นเจ้าของควรจัดสรรค์ขนาดให้เหมาะสมกับสายพันธุ์ของน้องเต่า
2. กระบะของเต่าควรมีแสงส่องถึง
เจ้าของเต่ามือใหม่อาจไม่เคยทราบกันมาก่อนว่าแสงแดดสำคัญสำหรับเต่ามาก ๆ เนื่องจากแสงแดดสามารถให้วิตามินดี ซึ่งมีผลต่อการเจริญเติบโตและสุขภาพของเต่า อีกทั้งยังช่วยในเรื่องของการเผาพลาญด้วยเช่นกัน หากเต่าไม่ได้รับแสงแดดแน่นอนว่ามันจะเกิดความปกติขึ้นกับเขาแน่นอน เพราะธรรมชาติของเต่าเป็นสัตว์ที่ชอบออกกลางแจ้งอยู่เป็นประจำ

3. ทำความสะอาดง่าย
พยายามเลือกกระบะหรือเลือกตู้ที่ทำความสะอาดได้ง่าย อย่างเช่น สามารถเปิดกระบะส่วนบนออกมาให้เราสามารถล้างส่วนต่าง ๆ ของกระบะได้ทุกซอกทุกมุม โดยถ้าหากเราเลือกกระบะที่ล้างได้ยาก สิ่งที่จะตามมาคือการหมักหมมสิ่งสกปรก เมื่อสะสมต่อไปเรื่อย ๆ เชื้อโรคและแบคทีเรียเหล่านั้นจะทำให้เต่าเกิดโรคได้ครับ
4. สามารถติดตั้งเครื่องกรองน้ำหรือหลอดไฟได้
การเลี้ยงเต่าอาจจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์มากกว่าการเลี้ยงน้องหมาหรือน้องแมวครับ เพราะอย่างที่ได้บอกไปว่าเต่าจำเป็นต้องได้รับแสงแดดอยู่เป็นประจำ แต่ด้วยทุกวันนี้มีหลายคนพักอาศัยอยู่ในคอนโดหรือหอพัก ซึ่งการนำน้องเต่าไปตากแดดคงเป็นเรื่องยาก ทั้งนี้หลายคนจึงต้องพึ่งการจำลองแสงพระอาทิตย์จากหลอดไฟเข้ามาช่วย ดังนั้นกระบะจำเป็นจะต้องสามารถติดตั้งหลอดไฟหรือทำให้แสงไฟสามารถเข้าถึงกระบะได้
นอกจากนี้ในหลายบ้านก็มีการใช้เครื่องกรองน้ำเพื่อรักษาคุณภาพน้ำเอาไว้ให้น้องเต่าได้ลงไปเล่น ซึ่งถ้าใครอยากติดตั้งเครื่องกรองน้ำเอาไว้ก็อย่าลืมเช็กว่ากะบะมีพื้นที่เหลือไว้ให้ติดตั้งหรือเปล่าครับ

5. เลือกกระบะที่ออกแบบให้เต่าไม่สามารถหนีออกมาได้
เต่าขึ้นชื่อในเรื่องของการหนีออกจากกรงหรือกะบะเลยครับ โดยเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลุดออกมาจากกระบะจนได้รับอันตรายจากสัตว์หรืออุบัติเหตุ ยิ่งถ้าหากใครวางไว้ในบริเวณพื้นที่โล่งแจ้ง ยิ่งจำเป็นต้องใส่ใจรายละเอียดตรงนี้ให้ดีเลยครับ
กระบะเลี้ยงเต่าขนาดเล็ก พร้อมฝาปิดและที่หิ้ว

ราคา 139 บาท*
การดีไซน์ของกระบะจะเรียกว่า ‘Easy to carry out’ เพราะมันจะมีหูหิ้วที่เจ้าของสามารถถือหรือพกพาน้องเต่าออกไปได้ง่าย ๆ อย่างในตอนเช้าหากใครอยากให้น้องเต่าไปรับแดดก็เพียงแค่ถือหูหิ้วไปวางไว้ตามจุดที่ต้องการ อีกทั้งบริเวณด้านบนก็จะมีฝาที่สามารถเปิดหรือปิดได้ตามต้องการ รวมไปถึงพื้นที่ด้านในก็ถือว่ากว้างขวาง สามารถนำต้นไม้, หิน หรือของตกแต่งไปวางไว้ได้ ที่สำคัญคือทำความสะอาดง่ายมากครับ
จุดเด่น
- บริเวณฝามีหูหิ้ว สามารถถือไปวางในพื้นที่ต่าง ๆ ได้สะดวก
- พื้นที่ด้านในรองรับต้นไม้จำลอง, หิน และอุปกรณ์เสริมได้
ขนาด | 20.5 x 15.5 x 12.5 เซนติเมตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก PP |
ถาดกรองน้ำ | ✘ |
แทงค์เลี้ยงเต่า

ราคา 150 บาท*
สำหรับคนที่ไม่อยากจ่ายเงินเยอะ ๆ ผมแนะนำแทงค์เลี้ยงเต่ารุ่นนี้ครับ เพราะการดีไซน์ทำออกมาได้ดีมาก สินค้าจะมีให้เลือกอยู่ 2 แบบนั่นคือ แบบโค้งและแบบเหลี่ยม โดยแบบโค้งผลิตออกมาได้อย่างเป็นสัดเป็นส่วน เหมาะสำหรับเต่าสายพันธุ์ที่ไม่ใหญ่จนเกินไป ส่วนแบบเหลี่ยมเหมาะกับเต่าขนาดใหญ่หรือคนที่ต้องการเลี้ยงเพื่อเพาะพันธุ์ เพราะพื้นที่ด้านในจะกว้างกว่าแบบโค้ง อีกทั้งยังสามารถปรับแต่งพื้นที่ได้ด้วยตนเอง แบ่งโซนให้เขาวางไข่ได้อีกด้วย ในขณะเดียวกันความแข็งแรงก็ไม่เป็นสองรองใคร ถึงแม้ว่าจะเหยียบไปทั้งตัวแทงค์ก็ไม่พังอย่างแน่นอน
จุดเด่น
- พื้นที่กว้างขวาง มีพื้นที่สำหรับการวางไข่
- ผลิตจากพลาสติกอย่างดี แม้ว่าเหยียบก็ไม่หัก
- ราคาค่อนข้างถูก
- ปรับแต่งพื้นที่ภายในกระบะได้แบบไม่จำกัด
ขนาด | มีให้เลือกหลายขนาด |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก PP |
ถาดกรองน้ำ | ✘ |
แทงค์เลี้ยงเต่า Turtle Tank set คุณภาพดี

ราคา 250 บาท*
กระบะรุ่นนี้ผลิตจากพลาสติก PP เกรดพรีเมียม มีความทนทานและยืดหยุ่นมาก แม้ว่าจะเกิดการกระแทกก็ไม่ทำให้แตกหัก ส่วนการดีไซน์ก็ทำออกมากว้างและแบ่งสัดส่วนไว้อย่างชัดเจน ทำให้เจ้าของสามารถเซ็ตพื้นที่สำหรับการใส่น้ำและพื้นที่แห้งไว้ให้เขาได้พักผ่อนตากแดด นอกจากนี้กระบะยังมาพร้อมกับถาดรองซึ่งดีไซน์มาเพื่อกรองอึของน้ำเต่าไม่ให้ลงไปก้นกระบะ ข้อดีคือจัดการอึง่ายมากเพราะเพียงแค่ดึงถาดรองออกมาแล้วเทอึใส่ลงไปในถุงขยะได้เลย ถือเป็นการดีไซน์กระบะตามสไตล์ของญี่ปุ่นที่ดีมาก ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับเจ้าของไปได้เยอะเลยครับ
จุดเด่น
- วัสดุทนทานแข็งแรงมาก
- แบ่งสัดส่วนชัดเจน
- มีตัวกรองอึ ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย
ขนาด | 35 x 21 x 13 เซนติเมตร / 45 x 27 x 15 เซนติเมตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก PP |
ถาดกรองน้ำ | ✔ |
Hanhu กระบะเลี้ยงเต่า

ราคา 399 บาท*
Hanhu ผลิตด้วยพลาสติก ABS ซึ่งจะมีน้ำหนักเบาและทนทานมาก ส่วนจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งคือตัวกระบะจะมีระบบปั๊มน้ำมาให้ ช่วยให้น้ำเกิดการไหลเวียนและไม่เน่าเร็วจนเกินไป ทำให้น้องเต่าได้ลงไปเล่นน้ำสะอาด นอกจากนี้เมื่อต้องการจัดการน้ำเสียออกไปก็เพียงแค่เปิดตัวระบายน้ำด้านล่างออก น้ำก็จะไหลออกไปเองโดยไม่ต้องยกของด้านในออกให้เสียเวลา ในขณะเดียวกันในกระบะยังมีพื้นที่สำหรับใส่อาหาร, หิน และ ต้นไม้จำลองแบบครบถ้วน ซื้อมาแล้วพร้อมเลี้ยงเต่าได้ทันที
จุดเด่น
- มีตัวปั๊มน้ำให้ ทำให้น้ำไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา
- มีตัวกรองน้ำ ช่วยให้ทำความสะอาดง่าย
- มีพื้นที่สำหรับใส่อาหาร, หิน และต้นไม่จำลอง แบบครบถ้วน พร้อมเลี้ยงเต่าได้ทันที
ขนาด | 23 x 15.5 x 9 เซนติเมตร / 41.6 x 23 x 14 เซนติเมตร / 58 x 38 x 19 เซนติเมตร |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก ABS |
ถาดกรองน้ำ | ✔ |
กระบะเลี้ยงเต่าพร้อมอุปกรณ์

ราคา 799 บาท*
จริง ๆ แล้วการดีไซน์จะคล้ายกับทาง ‘Henfu กระบะเลี้ยงเต่า’ แต่ตัวนี้จะดีกว่าตรงที่มันมาพร้อมกับกระจกใสกั้น ป้องกันน้องเต่าปีนหนี อีกทั้งในทุกส่วนของกระบะออกแบบให้เกิดความโค้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เต่าชนหรือกระแทกจนเกิดแผลหรือบาดเจ็บ นอกจากนี้บริเวณสำหรับการใส่น้ำก็จะมีตัวกรองน้ำและอึเพื่อให้ทำความสะอาดง่าย อีกทั้งพื้นจะมีลาดชันเล็กน้อยทำให้น้ำไหลได้สะดวก ป้องกันน้ำเน่าได้เป็นอย่างดี ส่วนพื้นที่ด้านในก็ไม่ต้องห่วงครับ เพราะพื้นที่กว้างมาก ทำให้เต่าได้ตากแดดและว่ายน้ำอย่างอิสระ
จุดเด่น
- พื้นที่ภายในกระบะกว้าง
- ทุกส่วนของกระบะออกแบบให้มีความโค้ง ป้องกันอุบัติเหตุให้กับเต่า
- ออกแบบมาให้พื้นที่สำหรับใส่น้ำมีความชัน เพื่อให้น้ำไหลได้สะดวก
- มีกระจกใสกันไว้ เพื่อป้องกันเต่าปีนหนีออกจากกระบะ
ขนาด | มีหลากหลายขนาด |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ถาดกรองน้ำ | ✔ |
Turtle tank แทงค์เลี้ยงเต่า แบบประกอบ ดีไซน์มินิมอล

ราคา 849 บาท*
จุดเด่นของกระบะรุ่นนี้คือพื้นที่กว้างมาก ! หากเลี้ยงเต่าสายพันธุ์ขนาดเล็กหรือกลาง ๆ กระบะรุ่นนี้สามารถใส่ลงไปได้ถึง 2 ตัว ทั้งนี้การดีไซน์ก็ดีไม่แพ้ไปกว่ารุ่นอื่นเลยครับ เพราะการแบ่งส่วนชัดเจนและเป็นระเบียบมาก สามารถวางต้นไม้จำลอง, หิน และพื้นที่กว้างสำหรับการใส่น้ำ ส่วนตัวกระบะจะแบ่งแย่งออกเป็นสองชั้น โดยชั้นบนจะมีตัวกรองสิ่งปฎิกูลและชั้นล่างจะมีไว้เพื่อรองรับน้ำ ซึ่งการดีไซน์ในลักษณะนี้ทำให้ทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำง่ายมาก ถือว่าเป็นอีกรุ่นหนึ่งที่ผมอยากแนะนำมาก ๆ ให้ใครมีกำลังซื้อเยอะรับรองครับว่าคุ้มค่าไม่ผิดหวังแน่นอน
จุดเด่น
- พื้นที่กว้าง เลี้ยงได้มากกว่า 2 ตัว
- ดีไซน์ออกมาค่อนข้างดี ทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำง่าย
- แบ่งสัดส่วนชัดเจน มีพื้นที่แห้งและเล่นน้ำโดยเฉพาะ
ขนาด | ไม่ระบุ |
---|---|
วัสดุ | พลาสติก |
ถาดกรองน้ำ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว กระบะเลี้ยงเต่า แบบไหนดี ปี 2023 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
ข้อดีของการเลี้ยงเต่า
1. ใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อย
หากเปรียบเทียบระหว่างการเลี้ยงเต่ากับแมวหรือหมา คงต้องบอกว่าเต่าใช้พื้นที่ในการเลี้ยงน้อยมาก ขอเพียงแค่มีกระบะหรือกรงที่เหมาะกับสายพันธุ์ของเขาเอาไว้ ให้ได้เล่นน้ำหรือตากแดดสักเล็กน้อยก็เพียงพอสำหรับการเลี้ยงน้องเต่าไว้ภายในบ้านแล้วครับ

2. เลี้ยงง่าย
เต่าเป็นสัตว์ที่เลี้ยงได้ง่ายมาก ขอเพียงแค่มีอุปกรณ์สำคัญและพื้นที่สำหรับนอนอย่างปลอดภัย รวมไปถึงอาหารดี ๆ ที่จะต้องเตรียมไว้ให้เขา เพียงเท่านี้คุณก็พร้อมในการเลี้ยงเต่าแล้วครับ
3. เต่าไม่ทำให้เกิดอาการแพ้
เนื่องจากเต่าเป็นสัตว์ที่ไม่มีขนปกคลุมเหมือนกับหมาและแมว ดังนั้นมั่นใจเลยครับว่าพวกมันจะไม่ทำให้เจ้าของหรือคนที่เลี้ยงมีอาการแพ้อย่างแน่นอน หากใครมีประสบการณ์ในการเลี้ยงแมวหรือหมาแล้วเกิดอาการแพ้ แนะนำให้ลองหันมาเลี้ยงเต่าเลยครับ รับรองว่าไม่มีปัญหาในเรื่องนี้อย่างแน่นอน
4. ค่อนข้างสะอาด
เต่าไม่จำเป็นต้องจับมาอาบน้ำอย่างเป็นประจำเหมือนกับสุนัขหรือแมว เพราะเขาไม่มีขนและอีกอย่างคือเต่าชื่นชอบในการลงไปเล่นน้ำอยู่แล้ว นอกจากนี้เต่าที่เลี้ยงไว้ภายในบ้านหรือกระบะก็ไม่ได้สัมผัสกับสิ่งสกปรกอยู่แล้วครับ ดังนั้นเราไม่จำเป็นต้องอาบน้ำให้เสียเวลา
วิธีการทำความสะอาดกระบะเลี้ยงเต่า
การทำความสะอาดในขั้นตอนแรกคือการนำอุปกรณ์ภายในกระบะออกให้หมดเพื่อเตรียมความพร้อมทำความสะอาด จากนั้นเมื่อนำออกมาจนครบแล้วก็เตรียมน้ำอุ่นผสมกับสารฟอกขาว (เพียงเล็กน้อย) ใส่ลงไปภายในกระบะเพื่อทำการฆ่าเชื้อแบคทีเรียให้หมดจด โดยให้คุณทิ้งเอาไว้ประมาณ 10 นาทีแล้วจึงค่อยเทออกมาตามด้วยการล้างน้ำเปล่าซ้ำเพื่อกำจัดสารฟอกขาวออกไป ส่วนพวกหินหรืออุปกรณ์ภายในกระบะก็ให้นำเอาไปแช่ไว้ในน้ำสบู่ประมาณ 15 – 30 นาที เมื่อครบเวลาแล้วก็ล้างออกและใส่กลับเข้าไปเหมือนเดิม
ทั้งนี้ความถี่ในการทำความสะอาดขึ้นอยู่กับสายพันธุ์และพฤติกรรมของเต่าด้วย แต่โดยปกติแล้วทางผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเต่าจะแนะนำให้ล้างกระบะอย่างน้อยเดือนละครั้ง ส่วนการเก็บอุจจาระควรจะต้องทำอยู่เรื่อย ๆ เพื่อป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและความสะอาดของน้ำ