ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุหลาย ๆ ท่านจะต้องจำเป็นที่จะต้องดูแลสุขภาพอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของอาหารที่ช่วยในการบำรุงร่างกายและรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ อย่างเช่น อาหารเสริมผู้สูงอายุ หรือ อาหารเสริมวิตามินรวม นอกจากนี้ผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวก็จะต้องหมั่นตรวจร่างกายของตัวเองอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุที่มีปัญหากับการเดินหรือการเคลื่อนตัวที่ยากลำบาก แต่ยังพอจะช่วยเหลือตัวเองได้ อาจจะต้องใช้อุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้คุณไปไหนมาไหนได้สะดวกขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นอุปกรณ์ที่นิยมในช่วยคลื่อนตัวไปยังจุดต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมนั่นคือ “วีลแชร์” หรือ เก้าอี้รถเข็นสำหรับคนป่วย, คนพิการ และผู้สูงอายุ นั่นเองครับ

แต่อย่างไรก็ดี การที่เราจะเลือกซื้อวีลแชร์นั้นเราก็จำเป็นที่จะต้องมีข้อมูลเบื้องต้นในการเลือกซื้อ วีลแชร์มีราคาที่ค่อนข้างจะแพง หากเราเลือกได้ไม่ตรงกับความต้องการหรือเลือกสินค้าไม่มีคุณภาพมาใช้งาน แน่นอนว่าเราจะเสียเงินไปโดยใช่เหตุ ดังนั้นวันนี้ผมจึงนำเคล็ดลับในการเลือกวีลแชร์และผลิตภัณฑ์วีลแชร์คุณภาพดีมาให้เลือกซื้อกันครับ
วิธีการเลือกวีลแชร์
1. ขนาด
- ความกว้าง ความกว้างโดยปกติขนาดของวีลแชร์ทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 16 ไปจนถึง 20 นิ้ว แต่ขนาดที่นิยมใช้งานกันเป็นจำนวนมากในผู้สูงอายุหรือบุคคลที่มีปัญหาทางด้านการเดินจะอยู่ที่ประมาณ 18 นิ้วครับ
- ความลึก ในการวัดขนาดความลึกของวีลแชร์จะวัดตั้งแต่ส่วนหน้าของวีลแชร์ไปจนถึงส่วนหลังจากครับ ทั้งนี้หากใครที่ซื้อผ่านทางออนไลน์ก็จะต้องดูความลึกให้ละเอียดมาก ๆ ครับ เนื่องจากมันจะมีผลต่อการนั่งของผู้ใช้งาน
- ความสูง วีลแชร์ในแต่ละรุ่น หรือแต่ละแบรนด์จะมีความสูงที่แตกต่างกันออกไปครับ โดยความยาวที่พอดีคือ ขาของเราจะต้องแตะที่รองเท้าได้พอดี ไม่ควรสูงจนขาห้อยหรือต่ำจนเท้าลากพื้น
- ความสูงของพนักพิง พนักพิงจะต้องสูงพอที่จะสามารถรองรับหลังของผู้ใช้งานได้ครับ ซึ่งตรงนี้เราก็จะต้องดูให้ชัดเจน หรือถ้าให้มั่นใจผมอยากแนะนำให้ซื้อวีลแชร์รุ่นที่สามารถขยายความสูงของพนักพิงได้
- ขนาดที่วางแขน หลัก ๆ แล้วที่วางแขนจะมีอยู่ 2 ประเภท นั่นคือ ที่วางแขนแบบโต๊ะ และ ที่วางแขนแบบกว้าง โดยที่วางแขนแบบโต๊ะจะมาพร้อมกับโต๊ะพับเก็บ และสำหรับที่วางแขวนแบบกว้างจะมีคุณสมบัติในการซัพพอร์ตแขน
2. ที่วางเท้า
วีลแชร์ทุกตัวจะต้องมีที่วางเท้าครับ ซึ่งที่วางเท้าของวีลแชร์จะมีอยู่ 2 แบบ นั่นคือ แบบสวิง และ แบบยก
- ที่วางเท้าสวิง : ข้อดีของที่วางเท้าแบบนี้คือมันสามารถปรับใช้งานได้ง่าย ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถลุกและเข้าไปนั่งวีลแชร์ได้ง่าย
- ที่วางเท้าแบบยก : ที่วางเท้าชนิดนี้จะมีข้อดีตรงที่มันจะสามารถป้องกันเท้าบวมได้ เพราะมันจะมีแผ่นซัพพอร์ตหน่องติดตั้งไว้
3. ล้อ
ล้อของวีลแชร์ควรที่จะสามารถถอดออกหรือติดตั้งได้ครับ เพราะล้อของวีลแชร์จะต้องเปลี่ยนเมื่อเสื่อมประสิทธิภาพ ทั้งนี้หากล้อไม่สามารถเปลี่ยนได้ แน่นอนว่าเราจะต้องเสียเงินในการซื้อใหม่ ซึ่งวีลแชร์เป็นสินค้าที่มีราคาแพง ดังนั้นเพื่อประหยัดเงินของเราเอง ผมแนะนำให้เลือกซื้อวีลแชร์ที่สามารถเปลี่ยนล้อได้
4. วีลแชร์ระบบมือ vs วีลแชร์ไฟฟ้า
หลัก ๆ แล้ววีลแชร์จะมีอยู่ 2 ประเภท นั่นคือ วีลแชร์ระบบมือ และ วีลแชร์ไฟฟ้า โดยวีลแชร์ระบบมือจะต้องใช้มือดันเพื่อให้วีลแชร์มีการเคลื่อนตัว ทั้งนี้ราคาของวีลแชร์ประเภทนี้จะมีราคาที่ถูกกว่าเมื่อเทียบกับวีลแชร์ไฟฟ้า ในขณะที่วีลแชร์ไฟฟ้าจะมีข้อดีอยู่ตรงที่ผู้ใช้งานสามารถบังคับวีลแชร์ให้เคลื่อนตัวง่าย ๆ ด้วยการกดปุ่ม โดยไม่ต้องออกแรงแต่อย่างใด
5. ประกันสินค้า
อย่างที่ได้บอกไปครับว่าวีลแชร์เป็นสินค้าที่มีราคาค่อนข้างแพง ซึ่งการซื้อวีลแชร์ออนไลน์นั้นอาจมีการกระแทกในระหว่างการขนส่งจนทำให้สินค้าเสียหายได้ ดังนั้นเพื่อความมั่นใจของผู้ซื้อ เราจำเป็นจะต้องซื้อสินค้าที่ทางผู้ผลิตมีการรับประกัน ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนสินค้าใหม่ให้หรือการจ่ายเงินคืนครับ
ข้อดีของวีลแชร์
1. สามารถเคลื่อนตัวได้เอง

ไม่ว่าจะเป็นวีลแชร์ระบบมือหรือวีลแชร์ระบบไฟฟ้าจะมีข้อดีตรงที่มันสามารถทำให้ผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุสามารถเคลื่อนย้ายตัวเองโดยไม่จำเป็นที่จะต้องมีคนช่วย นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการบาดเจ็บหรืออุบัติที่อาจขึ้นได้อีกด้วยครับ
2. คล่องตัว
สำหรับผู้สูงอายุและผู้ป่วยที่มีการเดินที่ไม่สะดวก แน่นอนว่าการจะเดินไปแต่ละจุดภายในบ้านหรือนอกบ้านอาจจะลำบาก ดังนั้นการที่มีวีลแชร์ไว้ใช้งานแน่นอนว่าการเคลื่อนย้ายที่ตามที่ต่าง ๆ ก็จะง่ายขึ้นกว่าเดิมครับ
3. มีสังคมมากขึ้น
การอยู่แต่ภายในบ้าน แน่นอนครับว่ามันทำให้ผู้ป่วยหรือคนชราไม่ได้ออกจากบ้าน เพื่อเข้าสังคมและพูดคุยกับคนภายนอก ซึ่งจริง ๆ แล้วมนุษย์เป็นสัตว์สังคม ดังนั้นการที่ไม่ได้ออกจากบ้านหรืออยู่ติดเตียงมันก็อาจทำให้เกิดความเหงาเกิดขึ้นได้ ซึ่งการใช้วีลแชร์จะช่วยทำให้มีโอกาสมากขึ้นในการเข้าสังคม รวมไปถึงได้ออกไปพบเจอกับสภาพแวดล้อมนอกบ้าน
วิธีการดูแลรักษาวีลแชร์
1. ต้องทำความเข้าใจกับชิ้นส่วนของวีลแชร์
หลังจากที่เราได้ซื้อวีลแชร์มาแล้ว ผมแนะนำให้คุณอ่านคู่มือที่ติดมากับตัวอุปกรณ์ครับ เพราะรายละเอียดในนั้นจะบอกทั้งหมดตั้งแต่วิธีการใช้งาน รวมไปถึงชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ดังนั้นเมื่ออุปกรณ์ชิ้นไหนมีปัญหาเราจะสามารถแก้ไขในเบื้องต้นได้ครับ
2. เช็กยางล้อสม่ำเสมอ
ล้อถือเป็นอุปกรณ์สำคัญของวีลแชร์ครับ เพราะถ้าหากล้อเกิดการฉีกขาดหรือมีรอยรั่ว แน่นอนว่าวีลแชร์จะไม่สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้หากล้อมีปัญหามันอาจอันตรายต่อผู้ใช้งานอีกด้วยครับ
3. ทำความสะอาดวีลแชร์อย่างสม่ำเสมอ
วีลแชร์ก็เหมือนอุปกรณ์ทั่วไปที่จะต้องทำความสะอาดครับ เพราะหากไม่ทำวีลแชร์อาจเสื่อมประสิทธิภาพและอาจหมักหมมสิ่งสกปรกไว้ ดังนั้นอย่าลืมที่จะหมั่นทำความสะอาดวีลแชร์อยู่เรื่อย ๆ ครับ
4. ใส่น้ำมันหรือเสปรย์น้ำมันหล่อลื่น
ชิ้นส่วนของวีลแชร์ที่เป็นเหล็กหรือเป็นกลไกที่เกี่ยวกับการหมุน ผมแนะนำให้คุณใส่น้ำมันหรือฉีดสเปรย์น้ำมันหล่อลื่น เพื่อทำให้ชิ้นส่วนสามารถทำงานได้โดยไม่มีอาการฝืด
5. ชาร์จแบตเตอรี่
สำหรับคนที่ซื้อวีลแชร์ระบบไฟฟ้า ผมแนะนำให้คุณชาร์จแบตเตอรี่ให้พร้อมใช้งานอยู่ต่อเนื่องครับ เพราะการปล่อยแบตเตอรี่ทิ้งไว้โดยไม่มีการกระตุ้นไฟฟ้า มันอาจจะทำให้วีลแชร์เสื่อมประสิทธิภาพได้ ดังนั้นอย่าลืมที่จะชาร์จแบตอย่างต่อเนื่องนะครับ