ถ้าถามว่า กล้องวงจรปิด มีความจำเป็นมากแค่ไหน ? และมีประโยชน์อย่างไร ? เชื่อว่าทุกคนคงมีคำตอบของคำถามนี้อยู่ในใจกันแล้ว และคำตอบนั้นก็น่าจะนำคุณมาสู่บทความนี้ใช่มั๊ยล่ะครับ ซึ่งหากเราไปดูตลาดกล้องวงจรปิดในปัจจุบัน เทียบกับในอดีต โดยย้อนกลับไปสัก 10 กว่าปีก่อน เราก็จะเห็นเลยว่ากล้องรุ่นใหม่ ๆ เอาแค่ราคาพันกว่าบาท มันก็มีประสิทธิภาพที่เหนือกว่า ให้ภาพที่คมชัดกว่า มีฟังก์ชันการตรวจจับที่แม่นยำกว่า แถมการจะติดตั้ง และใช้งานกล้องวงจรปิด ก็ทำได้ง่ายกว่าเดิมมาก ๆ ด้วย ซึ่งถ้าเราจะติดกล้องสักตัว ในอดีตเราจะต้องใช้เงิน และเวลาเยอะมาก ๆ ครับ จนทำให้มันไม่ค่อยคุ้มค่าสักเท่าไหร่
แต่ด้วยเทคโนโลยีในโลกยุคนี้ ช่วยให้ทุกคนสามารถซื้อกล้องวงจรปิดมาติดตั้งใช้งานเองได้ง่าย ๆ ครับ โดยที่เราไม่ต้องง้อช่างเลย แถมเราก็ไม่จำเป็นต้องซื้อกล่องบันทึกภาพและสายไฟต่าง ๆ มาเดินไปยังกล้องให้ยุ่งยาก และเปลืองเงินอีกแล้ว เพราะแค่กล้องวงจรปิดรุ่นเริ่มต้นในสมัยนี้ก็สามารถปกป้องบ้าน และคนที่คุณรักได้เป็นอย่างดีครับ ดังนั้นไม่ว่าคุณต้องการความปลอดภัยที่มากขึ้น หรือแค่ต้องการจับตาดูความเรียบร้อยต่าง ๆ ในบ้าน หรือออฟฟิศของคุณ กล้องวงจรปิดไร้สาย ก็จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างแน่นอนครับ และนี่คือกล้องวงจรปิดไร้สาย สำหรับติดตั้งภายนอก ที่เรามองว่าดีที่สุดในปี 2023
กล้องวงจรปิดไร้สายภายนอก กันน้ำ รุ่นไหนดี ?
- TP-Link VIGI C540-W : กล้องวงจรปิดไร้สาย ที่ให้ภาพคมชัด หมุนติดตามได้ แถมยังมีฟังก์ชันตรวจจับเยอะที่สุด
- IMOU life Bullet 2E 4MP : กล้องวงจรปิดไร้สาย สุดคุ้ม ให้ภาพคมชัด สีสันสดใส แถมแอปฯ ใช้งานง่ายมาก ๆ
- IMILAB EC4 : กล้องวงจรปิดแบบไร้สายจริง ๆ ที่ให้ภาพที่คมชัดได้ทุกมุม โดยไม่ต้องหาปลั๊กไฟ แถมแบตฯ ในตัวสามารถอยู่ได้นานสุดถึง 100 วัน หรือจะซื้อคู่แผงโซลล่าเซลล์ก็ได้ ถ้าไม่อยากคอยถอดมาชาร์จ
- Ezviz C3TN OutPro 3MP : กล้องวงจรปิดรุ่นเริ่มต้น แต่ให้ภาพระดับ 2K แถมมีระบบตรวจจับรูปร่างมนุษย์ให้ด้วย
- TP-Link Tapo C310 : กล้องวงจรปิด ราคาถูก ที่มีคุณภาพเกินราคา แถมให้ฟังก์ชันกล้องพื้นฐานมาครบครัน
- Xiaomi Mi Wireless Outdoor Security Camera 1080p Set : เซ็ตกล้องวงจรปิดไร้สายสุดคุ้ม มาพร้อมกล้อง และกล่องรับสัญญาณที่รองรับกล้องได้สูงสุด 4 ตัว
วิธีเลือกซื้อกล้องวงจรปิดที่เหมาะสม: คำแนะนำเบื้องต้น
กล้องวงจรปิดไร้สาย ไม่ว่าจะเป็น ภายนอก หรือภายใน ถือเป็นเครื่องมือที่มีความสําคัญมาก ๆ ในการดูแลความปลอดภัยให้กับบ้านของหรือออฟฟิศของคุณ ซึ่งถ้าหากคุณเลือกกล้องที่เหมาะสม มันสามารถสร้างความแตกต่างในคุณภาพของฟุตเทจที่คุณได้รับได้แน่นอน นี่คือคําแนะนําทีละขั้นตอนเพื่อช่วยคุณเลือกกล้องวงจรปิดที่เหมาะสมกับความต้องการของคุณ
1. เลือกกล้องวงจรปิดให้เหมาะสมกับพื้นที่ และความต้องการของคุณ
การเลือกกล้องวงจรปิดที่เหมาะสม สามารถสร้างความแตกต่างให้กับคุณภาพของวิดีโอได้ครับ ดังนั้นก่อนที่คุณจะตัดสินใจ เรามีวิธีง่าย ๆ ที่อยากมาแนะนำ เพื่อคุณสามารถพิจารณาเพื่อหากล้องวงจรปิดที่เหมาะกับบ้านของคุณได้ง่ายขึ้น โดยใช้ปัจจัยดังต่อไปนี้ครับ
สถานที่ติดตั้ง :
คุณต้องการติดตั้ง ในร่ม หรือกลางแจ้ง ? ตรงจุดนั้นมีปลั๊กไฟมั๊ย ? ถ้าไม่มีคุณสามารถจะเพิ่มปลั๊กไฟได้หรือไม่ ? เพราะกล้องวงจรปิดมีทั้ง กันน้ำได้ และไม่ได้ครับ ส่วนการใช้พลังงานก็จะมีทั้ง รุ่นที่ไม่มีแบตฯ ในตัวจะต้องต่ออแดปเตอร์เสมอ และรุ่นที่มีแบตฯ มาในตัว อย่าง IMILAB EC4
สภาพแสงโดยรอบบริเวณที่ติดตั้ง :
กล้องวงจรปิดทุกรุ่นจะมีอินฟาเรดในตัวอยู่แล้ว สำหรับเก็บภาพขาว-ดำ ดังนั้นถ้าคุณต้องการภาพสี คุณก็ต้องไปดูจุดที่ติดตั้งกล้องว่า มีแสงมากน้อยแค่ไหน ? ซึ่งถ้าหากมีแสงมากพอ อย่างเช่น คุณเปิดไฟทิ้งไว้ทั้งคืน มันก็สามารถเก็บภาพสีได้ครับ แต่ถ้ามืดสนิท ไม่มีแสงอะไรเลย คุณก็ต้องเลือกรุ่นที่มีไฟ LED ในตัวครับ
การพูดคุยสองทาง (Two-Way Voice) :
คุณต้องการคุยกับคนที่อยู่หน้ากล้องหรือไม่ ? เช่น ติดตั้งไว้หน้าบ้าน เวลามีคนมาส่งของ คุณก็สามารถบอกให้วางของไว้ได้เลย หรือติดตั้งในโรงงาน หรือออฟฟิศเล็ก ๆ คุณก็สั่งงานลูกน้องได้เลย
พื้นที่จัดเก็บ และความปลอดภัยข้อมูล :
คุณต้องการจะเก็บฟุตเทจวิดีโอไว้กี่วัน ? และต้องการความปลอดภัยในระดับไหน ? ซึ่งถ้าคุณต้องการความปลอดภัยขั้นสุด คุณก็ต้องยอมจ่ายค่าบริการเพิ่มเติม เพื่อฝากไฟล์ไว้บนคลาวด์ ดังนั้นคุณจะต้องไปดูแพ็คเกจของแต่ละแบรนด์ครับ บางเจ้าอาจจะราคาถูก แต่ใช้งานยาก หรือบางเจ้าก็อาจจะแพงหน่อย แต่แถมฟังก์ชันพิเศษมาให้ ทั้งหมดก็อยู่ที่คุณครับ
2. ตั้งงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับคุณ
ทุกวันนี้ กล้องวงจรปิด มีให้เลือกเยอะมาก ๆ ครับ เริ่มตั้งแต่กล้องราคาหลักร้อย ไปจนถึงระบบกล้องราคาหลายพันบาทเลย ซึ่งก็เหมือนกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ เลยครับ ที่กล้องราคาถูก ๆ จากแบรนด์ที่เราไม่รู้จักส่วนใหญ่ มักจะมาพร้อมสเปกที่สูง เพื่อให้ดูน่าสนใจ ซึ่งจุดนี้นี่แหละครับ ที่ทำให้หลายคนตัดสินใจพลาดไป เพราะคิดว่าคงไม่ได้ต่างกันมาก แต่ถ้าใครเคยใช้กล้องถูก ๆ มาก่อนจะรู้ดีครับว่า คุณภาพที่ได้มันตรงกันข้ามกับสเปกเลย
นอกจากนี้ทั้ง การตรวจจับ ความเสถียรต่าง ๆ แอปพลิเคชัน หรือแม้กระทั่งการรับประกัน ทุก ๆ อย่างล้วนแตกต่างกัน ดังนั้นถ้าคุณมีงบจำกัดขอแนะนำให้เลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ โดยดูได้ง่าย ๆ จากการมีหน้าเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ อย่าง TP-Link, Mi, Imou หรือ Ezviz เป็นต้น ซึ่งถึงแม้รุ่นเริ่มต้นของแบรนด์เหล่านี้ จะมีสเปกที่ต่ำหน่อย แต่มันจะคุ้มค่ากว่าแน่นอน ดีไม่ดีมันอาจจะให้ภาพคมชัดกว่าด้วยครับ
3. ความละเอียดของภาพ
แน่นอนครับ สิ่งสำคัญที่สุดที่เราทุกคนต้องการจากกล้องวงจรปิดก็คือ ภาพที่คมชัด ซึ่งด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันทำให้กล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ ๆ มักจะให้ความละเอียดเริ่มต้นมาที่ระดับ 1080p กันหมดแล้ว และ ณ ปัจจุบันความละเอียดสูงสุดจะอยู่ที่ระดับ 4K ครับ ซึ่งเอาจริง ๆ ถ้าหากเรามีการติดตั้งในตำแหน่งที่เหมาะสม ความคมชัด 1080p ถือว่า เพียงพอแล้วครับ สำหรับใช้ดูแลบ้าน เพียงแต่ภาพระยะไกลอาจจะไม่ค่อยชัดสักเท่าไหร่ เมื่อบวกกับราคาแค่หลักร้อยบาท มันเลยทำให้ 1080p จึงยังคงได้รับความนิยมอยู่
แต่ถ้าคุณมีงบประมาณมากพอ เราขอแนะนำให้คุณตั้งงบไว้ที่ประมาณ 1-2 พันบาท จะคุ้มค่ากว่าครับ เพราะคุณจะได้กล้องที่คมชัดในระดับ 2K เลย ซึ่งจะสามารภให้ภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพได้ดีกว่า 1080p มากพอสมควรเลย โดยถ้าดูภาพตัวอย่างที่เราได้นำภาพของ IMOU life Bullet 2E 4MP และ TP-Link VIGI C540-W ที่มีความละเอียด 2K เท่ากัน มาเปรียบเทียบกันจะเห็นได้ชัดเลยว่า แม้ความละเอียดในสเปกจะเท่ากันเลย แต่ภาพที่ได้จะแตกต่างกันไป ซึ่งช่วงที่มีแสง IMOU ดูจะทำได้ดีกว่า แต่พอมีแสงน้อยลง TP-Link ดูจะรับแสงได้ดีกว่า ดังนั้นก็อยู่ที่คุณแล้วล่พครับว่า ต้องการเน้นภาพตอนกลางวัน หรือตอนกลางคืน
4. การบันทึกภาพในเวลากลางคืน (Night Vision)
ด้วยเทคโนโลยีต่าง ๆ ในยุคนี้ ช่วยให้กล้องวงจรปิดไร้สายทุกรุ่น มาพร้อมกับความสามารถในการบันทึกภาพตอนกลางคืน โดยพื้นฐานกล้องเหล่านี้ก็จะใส่อินฟาเรด (Infrared) มาให้ เพื่อเก็บภาพในที่แสงน้อยเป็นภาพขาว-ดำครับ ซึ่งก็จะมีบางรุ่นที่พัฒนาเทคโนโลยีพิเศษ อย่าง Smart IR ของ TP-Link VIGI C540-W ช่วยปรับแสงไม่ให้วัตถุสว่างจนเกินไป เมื่อวัตถุเข้ามาใกล้ตัวกล้อง แต่ถ้าคุณต้องการวิดีโอที่เป็นภาพสี คุณก็ต้องไปดูจุดที่ติดตั้งกล้องว่ามีแสงมากน้อยแค่ไหน ? ซึ่งถ้ามีแสงมากพอมันก็จะสามารถเก็บเป็นภาพสีได้ครับ แต่ถ้าจุดที่ติดตั้งมืดสนิท แถมไม่สามารถเปิดไฟอื่น ๆ ทิ้งไว้ได้เลย คุณก็ต้องเลือกรุ่นที่มีไฟ LED ในตัวครับ ดังนั้นในการเลือกซื้อกล้องก็ควรดูฟังก์ชันตรงส่วนนี้ด้วย
ซึ่งกล้องวงจรปิดแต่ละรุ่นก็จะมีโหมดกลางคืนให้มาแตกต่างกันครับ อย่างกล้องวงจรปิด IMOU life Bullet 2E 4MP ก็มีโหมดกลางคืนมา 4 โหมด ให้เราเลือกครับ โดย 3 โหมด จะทำงานก็ต่อเมื่อกล้องตรวจพบว่ามีแสงน้อยเกินไป ได้แก่ โหมดอินฟาเรด, โหมดไฟสปอร์ตไลท์ และโหมดอัจฉริยะที่จะมีการทำงานสลับกัน (หากตรวจพบการเคลื่อนไหวจะเปิดไฟ LED อัตโนมัติ แต่หากไม่มีการเคลื่อนไหว มันจะเปิดอินฟาเรด) ส่วนโหมดสุดท้ายคือ โหมดปกติ ครับ ซึ่งจะปิดทั้ง อินฟาเรด และไฟ LED เลย สำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีแสงมากพออยู่แล้ว
5. ฟังก์ชันการตรวจจับ และการแจ้งเตือนต่าง ๆ
จุดหนึ่งที่ช่วยให้กล้องวงจรปิดเหล่านี้ สามารถทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพก็คือ เซ็นเซอร์การตรวจจับต่าง ๆ โดยปกติก็จะมีหลัก ๆ อยู่ 2 ระบบ คือ การตรวจจับบุคคล และการตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อใดที่มันตรวจพบการบุกรุก หรือการเคลื่อนไหว มันจะทำการแจ้งเตือน ไปยังแอปฯ ที่อยู่บนสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตของคุณทันที ซึ่งในการแจ้งเตือนที่รวดเร็วนี้ จะช่วยให้คุณจัดการปัญหาได้อย่างทันท่วงทีครับ
แต่ในบางครั้ง ระบบนี้ก็อาจจะเป็นข้อเสียเช่นกันครับ เพราะเวลาที่ต้นไม้ หรือใบไม้ที่ถูกลมพัด มันจะแจ้งเตือนด้วย ยิ่งเป็นกล้องจากแบรนด์ที่ไม่น่าเชื่อถือ เซ็นเซอร์ก็จะยิ่งอ่อนครับ ทำให้มันแจ้งเตือนมาเยอะจนรู้สึกรำคาญ ซึ่งปัญหานี้แบรนด์ชั้นนำได้แก้ไขให้ผู้ใช้สามารถกำหนดโซนที่ต้องการให้มันตรวจจับได้ ทำให้คุณเลือกบริเวณหน้าประตูหรือหน้าต่างที่ไม่มีการขยับเลยได้ ซึ่งก็จะช่วยกรองการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดไปได้เยอะมาก ๆ ครับ นอกจากนี้กล้องบางรุ่นก็ใส่การตรวจจับอื่น ๆ มาด้วย อย่างรุ่น VIGI C540-W ที่มีมากถึง 5 ฟังก์ชัน หรือ Ezviz C3TN ที่ใช้ AI ตรวจจับรูปร่างมนุษย์ เพื่อแยกระหว่าง มนุษย์ รถ หรือสัตว์ได้
6. พื้นที่จัดเก็บข้อมูล
เชื่อว่าทุกคนก็น่าจะเคยใช้บริการที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์กันอยู่แล้ว ซึ่งคลาวด์ของกล้องวงจรปิดก็ไม่ต่างกันครับ เพียงแต่ผู้ผลิตจะเป็นคนให้บริการเอง ถ้าหากเรามีการเช่าพื้นที่บนคลาวด์เอาไว้ กล้องก็จะเอาวิดีโอที่บันทึกลง SD Card ส่งไปยังเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ระยะไกลด้วย ซึ่งข้อดีของวิธีนี้คือ ความปลอดภัยระดับสูงสุดเลยครับ ซึ่งต่อให้โจรได้กล้องไป หรือไล่ลบภาพในการ์ดไปจนหมดเกลี้ยง เราก็ยังมีภาพที่บันทึกอยู่ในคลาวด์เหลืออยู่ แต่ข้อเสียเดียวก็คือ เราก็จะต้องจ่ายค่าบริการเพิ่มเติม ซึ่งก็แล้วแต่ทางผู้ผลิตครับว่า จะคิดค่าบริการอย่างไร ?
แต่ถ้าหากคุณใช้งานธรรมดา ๆ และไม่ได้ต้องการเก็บข้อมูลนานเป็นเเดือน ๆ คุณก็ไม่จำเป็นจะต้องจ่ายเงินเพิ่มก็ได้ครับ ใช้แค่ microSD Card ก็เพียงพอแล้วครับ ยิ่งรองรับความจุมากเท่าไหร่ มันก็จะเก็บวิดีโอได้นานหลายวันขึ้น หรือถ้าคุณมีกล้องหลายตัว คุณก็สามารถซื้อกล่องบันทึกภาพ NVR มา เพื่อบันทึกภาพ รวมไว้ในฮาร์ดไดรฟ์ (HDD) หรือตู้เก็บข้อมูล (NAS) ที่เดียวเลยก็ได้เช่นกัน เพื่อให้ง่ายต่อการจัดการ แต่ความปลอดภัย ก็จะน้อยคลาวด์ครับ
7. แหล่งพลังงาน
หนึ่งในข้อจำกัดสำคัญของกล้องวงจรปิดไร้สายก็คือ การใช้พลังงาน ครับ ซึ่งจะแตกต่างกันไปในแง่ของแหล่งพลังงานที่จะมีทั้ง พลังงานจากปลั๊กไฟ พลังงานจากแบตเตอรี่ และพลังงานจากโซล่าเซลล์ที่แปลงจากแสงแดดเหมือนโคมไฟโซล่าเซลล์นั่นแหละครับ ซึ่งวันนี้เราได้เลือกมาครบทั้ง 3 แบบเลย ดังนั้นถ้าพื้นที่ติดตั้งของคุณมันไม่มีปลั๊กไฟอยู่เลย เช่น ประตูรั้ว กำแพงหรืออื่น ๆ คุณก็ต้องเลือกกล้องแบตเตอรี่ หรือกล้องโซล่าเซลล์ อย่าง IMILAB EC4 ไปใช้ครับ ซึ่งราคาอาจจะสูงหน่อย แต่ถ้าหากคุณมีงบจำกัด แนะนำให้ใช้วิธีเพิ่มปลั๊กไฟก็จะประหยัดกว่าครับ
อ่านเพิ่มเติม คำแนะนำในการเลือกซื้อ และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด และแนะนำจุดที่เหมาะสำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายนอก
ราคา 2,990 บาท* เหตุผลที่เลือก TP-Link VIGI C540-W : ก็เพราะคุณภาพและความคมชัดของวิดีโอทั้ง กลางวัน กลางคืน ที่น่าประทับใจ พร้อมฟังก์ชันการแพนกล้องที่ผู้ใช้สามารถควบคุมมุมมองภาพจากระยะไกลได้รอบทิศทาง อีกทั้งรุ่นนี้ก็ยังมีฟังก์ชันการตรวจจับอัจฉริยะที่ละเอียดมาก ๆ แถมยังมีการติดตามการเคลื่อนไหวอัตโนมัติได้อีกด้วยครับ เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องการติดตั้งกล้องวงจรปิดแค่ตัวเดียว แต่อยากเห็นภาพหลาย ๆ มุม และยังเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานฟังก์ชันอัจฉริยะหลาย ๆ ตัวด้วย TP-Link VIGI C540-W เป็นกล้องวงจรปิดไร้สาย แบบ Powerful Pan Tilt ที่มาพร้อมคุณสมบัติและฟีเจอร์ที่น่าสนใจอีกเยอะมาก ๆ ครับ ไล่มาตั้งแต่ ความละเอียด 4MP ที่บันทึกภาพได้คมชัดระดับ 2K ช่วยให้ภาพมีรายละเอียดชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่ตอนกลางวันเท่านั้น กลางคืนรุ่นนี้ก็ทำงานได้ดีมาก ๆ เช่นกันครับ โดยหน้ากล้องจะมีไฟสปอร์ตไลท์มาให้ 2 ดวง ซึ่งถ้าดูในภาพตัวอย่าง เราก็จะเห็นเลยว่า ถึงแม้จะมีแค่ไฟถนน มันก็ยังสามารถเก็บภาพสีได้ (ภาพขวา) และเราก็สามารถตั้งให้กล้องเปิดไฟสปอร์ตไลท์ขึ้นมาอัตโนมัติได้ เมื่อมันตรวจจับว่ามีแสงน้อย หรือมีการเคลื่อนไหว ซึ่งถือว่าไฟสว่างมาก ๆ ทำให้เก็บภาพได้ชัดเจนทั้ง ระยะใกล้ และระยะไกลเลย (ภาพซ้าย) ส่วนฟังก์ชันการตรวจจับการเคลื่อนไหว รุ่นนี้จัดหนักจัดเต็มสุด ๆ ครับ เพราะมีเทคโนโลยี Smart Detection ที่ได้มีการอัปเกรด AI ช่วยให้มันประเมินผลได้รวดเร็ว และแม่นยำ ช่วยลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาด โดยมันจะประกอบด้วยหลายฟังก์ชัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูแลความปลอดภัย ซึ่งก็มีทั้ง การตรวจจับอัจฉริยะที่แยกแยะได้ระหว่าง มนุษย์ และการเคลื่อนไหวอื่น ๆ, การบุกรุกเข้าพื้นที่, การข้ามเส้น, การตรวจจับและการเตือนเมื่อมีวัตถุมาบดบังกล้อง นอกจากนี้ยังแพนกล้องติดตามการเคลื่อนไหวได้ด้วย โดยแพนซ้ายขวาได้ถึง 350° และขึ้นลง 120° แถมในแต่ละฟังก์ชัน เราปรับแต่งได้หลายอย่างเลยครับ ทั้ง โซนการตรวจจับ ที่เรากำหนดได้สูงสุด 4 โซน ระดับความเข้มข้น การเตือนหน้ากล้อง และการแจ้งเตือนบนแอปฯ ซึ่งคุณสามารถอ่านรีวิวเต็ม ๆ ได้ที่ : [รีวิว] TP-Link VIGI C540 -W ครับ ราคา 1,495 บาท* เหตุผลที่เลือก IMOU Life Bullet 2E 4MP : ก็เพราะความคมชัดของวิดีโอทั้ง กลางวัน กลางคืน ที่น่าประทับใจ แต่มาในราคาที่ประหยัดมาก ๆ ครับ เพียงแค่พันต้น ๆ เท่านั้น ส่วนฟังก์ชันการตรวจจับ จะให้ฟังก์ชันพื้นฐานที่พบในกล้องทุกรุ่นมา ซึ่งถึงแม้จะน้อย แต่รุ่นนี้ก็สามารถตรวจจับได้ทั้ง คน และการเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำครับ เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องการกล้องวงจรปิดราคาไม่แพง แต่ยังคงให้ภาพที่คมชัด เก็บภาพสีได้ 24 ชม. และเน้นการเก็บภาพเพียงอย่างเดียว ไม่ต้องการใช้งานฟังก์ชันพิเศษอะไร IMOU Life Bullet 2E 4MP เป็นกล้องวงจรปิดภายนอก ขนาดกะทัดรัด ราคาประหยัด แต่ให้ความละเอียดมาสูงถึง 4MP ช่วยให้บันทึกภาพที่คมชัดถึงระดับ 2K เลย ซึ่งแน่นอนครับว่า มันเป็นภาพที่คมชัดและเก็บรายละเอียดได้กว่ากล้องวงจรปิดทั่ว ๆ ไปอยู่แล้ว โดยความละเอียดระดับนี้ คุณสามารถจะมองเห็นใบหน้าของคนที่บุกรุกมาได้อย่างชัดเจนทั้ง กลางวัน และกลางคืน โดยรุ่นนี้จะมี Smart Color Night Vision เข้ามาช่วยเพิ่มคุณภาพของภาพที่บันทึกในเวลากลางคืน พร้อมกับ IR (Infrared) เข้ามาช่วยบันทึกภาพในที่ที่มืดให้เห็นชัดที่สุด ซึ่งจากที่เราได้ทดสอบมาเรารู้สึกว่า วัตถุที่อยู่ไกลจากตัวกล้อง (ภาพ 1-2) จะดูค่อนข้างมืดครับ แต่เมื่อเข้ามาใกล้ตัวกล้อง มันก็สามารถจับภาพใบหน้าได้อย่างชัดเจน (ภาพ 3) และมันยังมีการเสริมด้วยไฟสปอร์ตไลท์อีก 2 ดวง ที่สว่างมาก ๆ ครับ ทำให้การบันทึกภาพสีในตอนกลางคืน ทำได้น่าประทับใจมาก ๆ ครับ โดยมันจะมีโหลดกลางคืนมาให้เลือกใช้งานถึง 4 โหมด เลยทีเดียว ได้แก่ โหมดเปิดอินฟาเรด, โหมดเปิดไฟ LED, โหมดอัจฉริยะที่จะเปิดไฟ LED เมื่อตรวจพบการเคลื่อนไหว และปิดทั้งหมดครับ ในด้านการตรวจจับการเคลื่อนไหวอัจฉริยะ อย่างที่บอกครับว่า Bullet 2E อาจจะให้มาน้อยหน่อย แต่ขอบอกเลยว่า ทั้ง 2 ระบบ เปี่ยมไปด้วยคุณภาพครับ โดยจะมี AI Human Detection ที่จะนำระบบ AI เข้ามาช่วยในการตรวจจับมนุษย์ และระบบตรวจจับการเคลื่อนไหว ซึ่งเมื่อมันตรวจพบการเคลื่อนไหวที่หน้าตัวกล้อง ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปยังแอปฯ บนมือถือในทันที ทำให้คุณทราบถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงที นอกจากนี้คุณยังสามารถเข้าไปกำหนดโซนการตรวจจับได้ด้วย เพื่อลดการเตือนที่ผิดพลาดครับ โดยการเตือนของรุ่นนี้จะมาพร้อมภาพตัวอย่างเลย ช่วยให้คุณเห็นสิ่งที่ตรวจพบได้โดยไม่ต้องเปิดแอปฯ อ่านรีวิวเต็ม ๆ ได้ที่ : [รีวิว] IMOU Bullet 2E 4MP ราคา 3,190 บาท* เหตุผลที่เลือก IMILAB EC4 : นอกจากความคมชัดของภาพระดับ 2.5K ที่น่าประทับใจแล้ว รุ่นนี้ยังให้ความยืดยุ่นในการติดตั้งใช้งานอีกด้วยครับ เนื่องจากรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ในตัวอยู่แล้ว ช่วยให้เราสามารถนำไปติดตั้งตรงจุดไหนก็ได้ครับ ซึ่งคุณจะรอให้แบตหมด แล้วค่อยนำมาชาร์จ หรือจะซื้อคู่กับแผงโซลล่าเซลล์เลยก็ได้ เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องการกล้องตัวเล็ก ๆ แต่ให้ภาพที่คมชัด และสามารถติดตั้งได้ง่าย ๆ ที่บริเวณไหนก็ได้ ขอแค่อยู่ในระยะ Wi-Fi ก็พอ นอกจากนี้รุ่นนี้ยังเหมาะกับคนที่ต้องการเปลี่ยนจุดติดตั้งบ่อย ๆ เพราะมันไม่จำเป็นต้องเดินสายใด ๆ เลย แม้กระทั่งปลั๊กไฟ มาต่อกันที่ IMILAB EC4 กล้องวงจรปิดภายนอก แบบไร้สายจริง ๆ กันบ้างครับ เพราะรุ่นนี้มีแบตเตอรี่ในตัวอยู่แล้ว ทำให้การติดตั้งเราไม่จำเป็นต้องง้อสายใด ๆ เลย แม้กระทั่งสายอแดปเตอร์ไฟเลี้ยง การติดตั้งจึงมีความยืดยุ่นมาก ๆ เราสามารถติดตั้งตรงไหนก็ได้ครับ ตราบใดที่ Wi-Fi ไปถึง โดยรุ่นนี้จะให้แบตเตอรี่มาถึง 5,200mAh ซึ่งใหญ่พอสมควรเลย โดย IMILAB ก็ได้เคลมว่า ถ้าชาร์จจนเต็ม 100% สามารถใช้บันทึกภาพได้นานสุดถึง 100 วัน เลยทีเดียว แต่การใช้งานจริง อาจจะไม่ถึงนะครับ ขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมต่าง ๆ ในด้านการบันทึกภาพรุ่นนี้ก็มาพร้อมคุณสมบัติที่น่าสนใจมาก ๆ ครับ โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ความละเอียด 4MP ที่ช่วยให้บันทึกภาพได้คมชัดถึงระดับ 2.5K เลยทีเดียว ฉะนั้นรายละเอียดต่าง ๆ ในภาพก็ไม่ต้องห่วงเลย เราสามารถมองเห็นรายละเอียดได้ชัดเจนแน่นอน แถมรุ่นนี้ยังมีมุมกล้องที่กว้างถึง 150 องศา ช่วยให้การจับภาพครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น ส่วนการบันทึกภาพในเวลากลางคืน รุ่นนี้ก็มีรูรับแสงกว้างถึง F1.6 ช่วยให้เปิดรับแสงได้มากขึ้น พร้อมกับมี Color Night Vision ทำให้สามารถบันทึกเป็นภาพสีที่คมชัดได้ แต่ถ้าหากมืดสนิทจริง ๆ มันก็มีอินฟาเรดที่จะเปลี่ยนมาบันทึกภาพเป็นขาว-ดำได้ครับ ส่วนการตรวจจับการเคลื่อนไหว รุ่นนี้ก็มาพร้อมกับ 2 ระบบมาตรฐานคือ การตรวจจับมนุษย์ และการตรวจจับการเคลื่อนไหว ที่ใช้เซ็นเซอร์ประสิทธิภาพสูง ช่วยให้มันตรวจจับได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับมีการแจ้งเตือนไปยังมือถือที่รวดเร็ว ทันทีที่มีการพบการเคลื่อนไหว ช่วยให้คุณสามารถจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที โดยคุณก็อาจจะสั่งเปิดสัญญาณเตือนที่ตัวกล้องทั้ง เสียงไซเรน และไฟ LED เพื่อให้คนร้ายหนีไปได้ หรือจะพูดคุยสองทางกับคนที่อยู่หน้ากล้องเลยก็ได้ แถมถ้าบ้านใครเป็น Smart home อยู่แล้ว รุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ เพราะมันรองรับการสั่งงานผ่าน Alexa และ Google Assistant ราคา 1,499 บาท* เหตุผลที่เลือก Ezviz C3TN OutPro 3MP : ก็เพราะราคาแค่พันต้น ๆ แต่สามารถบันทึกภาพที่คมชัด ระดับ 2K แถมมีฟังก์ชันให้มาครบครันไม่ต่างจากรุ่นแพง ๆ เลย มีทั้ง การบันทึกภาพสี ไมค์+ลำโพงในตัว ช่วยให้พูดคุยสองทาง รวมถึงเปิดแจ้งเตือนที่ตัวกล้องได้ นอกจากนี้แอปพลิเคชันก็ยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายมาก ๆ เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องการหากล้องไปติดตั้งที่บ้านเป็นตัวแรก โดยเฉพาะมือใหม่ที่ยังไม่เคยใช้กล้องวงจรปิดมาก่อน และมันยังเหมาะกับคนที่ต้องการกล้องราคาไม่แพง แต่ได้ภาพที่คมชัด แถมมีฟังก์ชันครบ ๆ สำหรับ Ezviz C3TN OutPro 3MP เป็นกล้องวงจรปิดภายนอก ที่คุ้มค่าคุ้มราคามาก ๆ ครับ มาพร้อมกับความละเอียด 3MP ซึ่งอาจจะน้อยกว่ารุ่นอื่น ๆ อยู่เล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถบันทึกภาพได้คมชัดถึงระดับ 2K แบบชัดพิเศษ ช่วยมอบภาพที่ชัดเจน สามารถมองเห็นรายละเอียดได้ครบ โดยมีมุมมองภาพ 126 องศา ช่วยให้ครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขึ้น เก็บภาพได้เยอะ ในส่วนภาพตอนกลางคืน มาพร้อมกับไฟอินฟราเรด 2 ดวง สำหรับบันทึกภาพขาวดำ และไฟสปอตไลท์อีก 2 ดวง สำหรับบันทึกเป็นภาพสี ดังนั้นไม่ว่าจะกลางวัน กลางคืน รุ่นนี้ก็สามารถให้ภาพที่คมชัด แถมตัวกล้องยังได้รับการรับรองมาตรฐาน IP67 มาด้วย มันจึงกันน้ำกันฝุ่นได้สบาย ๆ เลย สามารถติดตั้งส่วนไหนของบ้านก็ได้ครับ ในแง่ของการตรวจจับ EZVIZ OutPro มาพร้อมกับอัลกอริธึม AI อัจฉริยะในตัว ซึ่งหมายความว่า มันสามารถตรวจจับรูปร่างของมนุษย์ได้ ช่วยแยกแยะความแตกต่างระหว่าง ผู้คน สัตว์เลี้ยง และวัตถุอื่น ๆ ได้ ซึ่งในจุดนี้จะช่วยลดการแจ้งเตือนที่ผิดพลาดลงได้เป็นอย่างดีครับ และตัวกล้องจะมีการแจ้งเตือนมายังแอปพลิเคชันบนมือถือของเราในทันทีที่มันตรวจจบการเคลื่อนไหว ซึ่งก็ต้องยอมรับเลยครับว่า รุ่นนี้ทำออกมาได้ดีเลยทั้ง ความคมชัดของภาพ ตัวแอปฯ ที่ใช้งานง่าย และการตรวจจับที่รวดเร็ว แม่นยำ นอกจากนี้ตัวกล้องยังมีไมค์และลำโพงในตัวด้วย ซึ่งคุณสามารถสั่งเปิดการแจ้งเตือนทั้ง แสงไฟ และเสียงไซเรนได้ เพื่อขับไล่ผู้บุกรุก หรือจะกดพูดเพื่อสื่อสารกับคนที่อยู่หน้ากล้องได้ครับ ราคา 1,399 บาท* เหตุผลที่เลือก TP-Link Tapo C310 3MP : ก็เพราะได้ราคาที่ค่อนข้างถูก โดยยังมีคุณภาพที่ดีอยู่ ภาพคมชัด ไม่ได้แย่ครับ ถึงแม้ฟังก์ชันบางอย่างจะถูกตัดออกไป แต่ฟังก์ชันพื้นฐานยังมีมาครบเลย เหมาะสำหรับ : มือใหม่ และคนที่มีงบจำกัด เน้นการบันทึกภาพ และใช้งานฟังก์ชันพื้นฐานเป็นหลัก เรามาเอาใจมือใหม่ และคนที่มีงบฯ จำกัดกันบ้างครับกับ TP-Link Tapo C310 กล้องวงจรปิดภายนอก ราคาประหยัด รุ่นยอดนิยม โดยมาพร้อมความละเอียด 3MP ที่สามารถบันทึกภาพได้คมชัดถึงระดับ 2K ได้ ช่วยให้ภาพมีรายละเอียดที่ครบถ้วน เห็นชัดเจนไม่เพียงแค่ตอนกลางวันเท่านั้น เพราะตอนกลางคืนรุ่นนี้ก็มี Advanced Night Vision พร้อมไฟอินฟาเรดที่ให้ระยะการมองเห็นได้ไกลประมาณ 30 เมตร ซึ่งถึงแม้รุ่นนี้จะเก็บภาพสีไม่ได้ แต่ภาพขาวดำของรุ่นนี้ถือว่าทำได้ดีเลยครับ มีการปรับแสงสว่างให้ด้วย ช่วยให้ภาพชัดเอาเรื่องเลย ส่วนระบบตรวจจับ ถึงแม้รุ่นนี้จะสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวได้เพียงอย่างเดียว ซึ่งก็ถือว่าเพียงพอแล้วครับ โดยจะมีการแจ้งเตือนไปยังแอปพลิเคชันบนมือถือได้ทันทีที่มีการตรวจพบการเคลื่อนไหวเลย แต่มันอาจจะมีการเตือนที่ผิดพลาดอยู่บ้างนะครับ เนื่องจากมันไม่สามารถแยกแยะได้ แถมเรายังกำหนดโซนไม่ได้ด้วย นอกจากนี้รุ่นนี้ยังมีไมโครโฟน และลำโพงในตัวด้วย ช่วยให้คุณสามารถใช้พูดคุยกับคนที่อยู่หน้ากล้องได้ หรือถ้าหากมีคนมาบุกรุก คุณก็สามารถเปิดแสงไฟ และเสียงเตือนที่ตัวกล้อง เพื่อขับไล่ออกไปได้ด้วย ราคา 2,699 บาท* เหตุผลที่เลือก Xiaomi Mi Wireless Outdoor Security Camera 1080p Set : ก็เพราะว่า ดีไซน์ที่เรียบหรู ทำให้บ้าน หรือออฟฟิศดูล้ำสมัยขึ้น และยังให้ความยืดยุ่นในการติดตั้งใช้งานอีกด้วย เนื่องจากมีแบตเตอรี่ในตัวอยู่แล้ว เราจะนำไปติดตั้งตรงจุดไหนก็ได้ ไม่ต้องเดินสายให้วุ่นวาย เหมาะสำหรับ : คนที่ต้องการกล้องตัวเล็ก ๆ มาติดทางเข้าบ้าน หรือออฟฟิศ เน้นบันทึกภาพระยะใกล้ ๆ โดยเฉพาะคนที่กำลังมองหาระบบกล้องวงจรปิด รุ่นนี้คุ้มค่ากับคุณแน่นอน มาต่อกันที่เซ็ตกล้องวงจรปิดกันบ้างครับกับ Mi Wireless Outdoor Security Camera 1080p Set เป็นกล้องวงจรปิดไร้สาย ดีไซน์สวยงาม แถมทนทาน สามารถติดตั้งได้ทั้งภายใน และภายนอกเลย และมีการออกแบบมาพร้อมแบตฯ ในตัว เพื่อให้ง่ายต่อการติดตั้ง ทำให้คุณสามารถติดตั้งได้ทุกที่ ทุก ๆ มุมเลย เนื่องจากไม่ต้องใช้สายใด ๆ ทั้งสิ้น แถมในชุดยังมาพร้อมกับกล่องรับสัญญาณ ช่วยให้คุณมีทางเลือกสำหรับบันทึกในอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยรองรับทั้ง ไดรฟ์ USB, TF Card และคลาวด์ โดยตัวกล่องรองรับกล้องได้ทั้งหมดถึง 4 ตัว ทำให้เหมาะมาก ๆ สำหรับคนที่มีแพลนจะติดตั้งกล้องวงจรปิดให้รอบบ้าน สำหรับการใช้งานตัวกล้องมาพร้อมเลนส์มุมกว้าง 130 องศา ช่วยจับภาพที่คุณสามารถเห็นสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นรอบ ๆ บ้าน โดยมีความละเอียดสูงสุดระดับ Full HD 1080p ซึ่งอาจจะน้อยที่สุดในลิสส์นี้ แต่สิ่งที่ช่วยให้รุ่นนี้ยังน่าสนใจ และให้ภาพที่ดูคมชัดทั้ง กลางวัน และกลางคืน คือ เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยต่าง ๆ ครับ โดยเฉพาะเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว PIR ซึ่งสามารถตรวจจับเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ และการเคลื่อนไหวของวัตถุได้ โดยมีระยะการตรวจจับที่ไกลถึง 7 ม. พร้อมกับมีการแจ้งเตือนไปยังมือถือของคุณทันที ซึ่งทำได้รวดเร็ว และแม่นยำมากครับ พร้อมกันนี้มีเซ็นเซอร์ไจโรสโคปในตัวกล้องด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวกล้อง ถูกขโมย ส่วนแบตเตอรี่ในตัวกล้อง ให้ความจุมามากถึง 5700mAh เลยทีเดียว โดยทาง Xiaomi ได้มีการเคลมไว้ว่า หากชาร์จเต็ม 100% ตั้งความเข้มข้นการตรวจจับระดับกลาง มันจะใช้บันทึกภาพได้ยาวนานสูงสุดถึง 90 วัน หรือประมาณ 3 เดือน เลยทีเดียวครับ แต่ใช้งานจริง ๆ ก็อาจจะไม่ถึงนะครับ ขึ้นอยู่กับการตั้งค่าของแต่ละคนด้วยว่า มีการตรวจจับมากน้อยแค่ไหน ส่วนการชาร์จทำได้ไม่ยากครับ โดยตัวกล้องกับฐานสามารถแยกจากกันได้ * หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้าTP-Link VIGI C540-W กล้องวงจรปิด Wi-Fi แบบ Full Color พร้อมระบบแพนกล้องติดตาม
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
คลิปวิดีโอ รีวิวกล้องวงจรปิด TP-Link VIGI C540-W รุ่นใหม่ เก็บภาพสีได้ 24 ชั่วโมง
ความละเอียด 4MP (2560 × 1440) มุมมองภาพ 93° การแพนกล้อง
โหมดกลางคืน
การกันน้ำ IP66 การบีบอัดวิดีโอ H.265+/ H.265/ H.264+/ H.264 พูดคุยสองทาง ระบบตรวจจับ
microSD Card สูงสุด 256 GB Cloud Storage IMOU life Bullet 2E 4MP กล้องวงจรปิด Wi-Fi ภายนอก แบบ Full Color
ทดสอบใช้งานจริง – ภาพตอนกลางคืนของ IMOU Life Bullet 2E 4MP ทั้ง แบบเปิด IR และเปิดไฟ LED
ทดสอบใช้งานจริง – การตรวจจับบุคคลและการเคลื่อนไหวอัจฉริยะของ IMOU Life Bullet 2E 4MP
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
คลิปรีวิว IMOU life Bullet 2E 4MP กล้องวงจรปิด Wi-Fi กันแดด กันน้ำ ราคา 1,4xx บาท
ความละเอียด 4MP (2560 × 1440) มุมมองภาพ 125° การแพนกล้อง โหมดกลางคืน
การกันน้ำ IP67 การบีบอัดวิดีโอ H.265/ H.264 พูดคุยสองทาง ระบบตรวจจับ
microSD Card สูงสุด 256 GB Cloud Storage ค่าบริการรายเดือนเริ่มต้น 67 บาท IMILAB EC4 กล้องวงจรปิดไร้สาย Full Color มาพร้อมแบตฯ ในตัว ติดตั้งง่าย ไม่ต้องง้อสาย
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความละเอียด 4MP (2560 × 1440) มุมมองภาพ 150° การแพนกล้อง โหมดกลางคืน
การกันน้ำ IP66 การบีบอัดวิดีโอ H.265/ H.264 พูดคุยสองทาง (พร้อมการตัดเสียงรบกวน) ระบบตรวจจับ
microSD Card สูงสุด 256 GB Cloud Storage Ezviz C3TN OutPro 3MP กล้องวงจรปิดภายนอก สุดคุ้ม มาพร้อม AI ตรวจจับรูปร่างมนุษย์
ทดสอบใช้งานจริง – ภาพตอนกลางวันของ Ezviz C3TN OutPro 3MP กล้องสมาร์ทโฮม Wi-Fi
ทดสอบใช้งานจริง – ฟังก์ชันการตรวจจับระบบรูปร่างมนุษย์ด้วย AI อัจฉริยะของ Ezviz C3TN OutPro 3MP
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความละเอียด 3MP (2304 × 1296) มุมมองภาพ 126° (ตามแนวทแยง) การแพนกล้อง โหมดกลางคืน
การกันน้ำ IP67 การบีบอัดวิดีโอ H.265/ H.264 พูดคุยสองทาง ระบบตรวจจับ ระบบ AI ตรวจจับรูปร่างมนุษย์ microSD Card สูงสุด 256 GB Cloud Storage EZVIZ CloudPlay TP-Link Tapo C310 กล้องวงจรปิด Wi-Fi อัจฉริยะ 3MP สำหรับใช้ภายนอก รุ่นขายดี
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความละเอียด 3MP (2304 × 1296) มุมมองภาพ N/a การแพนกล้อง โหมดกลางคืน อินฟาเรด 850 nm : 30 เมตร การกันน้ำ IP66 การบีบอัดวิดีโอ H.264 พูดคุยสองทาง ระบบตรวจจับ Motion Detection microSD Card สูงสุด 128 GB Cloud Storage Mi Wireless Outdoor Security Camera 1080p Set กล้องวงจรปิดไร้สาย พร้อมกล่องรับสัญญาณ
ข้อดี
ข้อควรพิจารณา
ความละเอียด 1080P ( 1920 × 1080) มุมมองภาพ 130° การแพนกล้อง โหมดกลางคืน
การกันน้ำ IP65 การบีบอัดวิดีโอ H.265 พูดคุยสองทาง (ฟังก์ชันเปลี่ยนเสียงพูด) ระบบตรวจจับ การตรวจจับบุคคลระบบ PIR microSD Card สูงสุด 32 GB Cloud Storage ตัวรับสัญญาณอิสระ/ Mi Home/ Xiaomi Home
คำแนะนำในการเลือกซื้อ และติดตั้งระบบกล้องวงจรปิด
กล้องวงจรปิด (CCTV) เป็นเทคโนโลยีที่มีการใช้งานแพร่หลายในปัจจุบัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นในบ้านเราเอง หรือที่ทำงาน อย่างไรก็ตามการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายนอก คุณควรคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่จำเป็น เพื่อที่จะให้การใช้งานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและมีประโยชน์สูงสุด
- วางแผนและออกแบบระบบ : ก่อนที่จะติดตั้งกล้องวงจรปิด คุณควรที่จะวางแผนและออกแบบระบบกล้องของคุณให้ดี โดยพิจารณาจากพื้นที่ของคุณว่าต้องใช้กล้องกี่ตัวถึงจะครอบคลุมพื้นที่ที่คุณต้องการ, บริเวณที่ติดตั้งเป็นอย่างไร, ระยะการตรวจจับ, ความละเอียดของภาพ และคุณสมบัติอื่น ๆ ที่คุณต้องการ ซึ่งคุณไม่จำเป็นต้องซื้อทั้งหมด ในครั้งเดียวก็ได้ครับ ถ้ามีงบฯ ไม่พอ คุณสามารถทยอยซื้อทีละตัว ๆ แล้วค่อยซื้อกล่อง NVR มารวมเป็นระบบในภายหลังได้
- เลือกกล้องที่เหมาะสม : อย่างที่บอกไว้ในหัวข้อวิธีการเลือกกล้องวงจรปิดว่า การเลือกกล้องที่เหมาะสมจะสามารถสร้างความแตกต่างในคุณภาพของวิดีโอที่คุณต้องการได้ครับ
- การดูและบริหารจัดการ : เมื่อคุณได้ระบบที่ดี และกล้องวงจรปิดที่เหมาะสมแล้ว คุณควรตรวจสอบวิธีการเชื่อมต่อกับกล้อง แอปพลิเคชั่น รวมไปถึงแบรนด์ที่คุณเลือกมาด้วย ว่ามีการรองรับกล่อง NVR หรือไม่ ? เพื่อให้ง่ายต่อการอัพเกรดในอนาคต ซึ่งแบรนด์ระดับชั้นนำส่วนใหญ่ มักจะมีการผลิตอุปกรณ์สำหรับระบบกล้องวงจรปิดครบวงจรอยู่แล้ว ทำให้มันสามารถเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย และรวดเร็ว ช่วยเพิ่มความสะดวกในการดูและบริหารจัดการระบบ
- การดูแลรักษา : หลังจากติดตั้งกล้องวงจรปิดภายนอกเสร็จสิ้น คุณควรดูแล และบำรุงรักษาระบบอย่างสม่ำเสมอ อย่างเช่น ทำความสะอาดเลนส์กล้อง, ตรวจสอบการเชื่อมต่อเป็นประจำ เพื่อให้แน่ใจว่าระบบของคุณไม่มีความเสียหาย, และอัปเดตซอฟต์แวร์หรือเฟิร์มแวร์ของระบบกล้องเสมอ เมื่อมีการปล่อยอัพเดทออกมาใหม่
แนะนำจุดที่เหมาะสำหรับการติดตั้งกล้องวงจรปิดภายนอก
1. ประตูหน้าบ้าน : เป็นตำแหน่งที่หัวขโมยมักใช้เข้ามาในบ้านมากที่สุด เพราะง่ายต่อการเข้ามาโจรกรรม การติดกล้องวงจรปิดในตำแหน่งนี้ ให้ติดไว้บนประตูหน้าในตำแหน่งที่เอื้อมไม่ถึง
2. หน้าต่าง : เป็นจุดเสี่ยงลำดับต่อมาที่หัวขโมยมักจะมาเช็คดู หากประตูหน้าล็อคไว้อย่างดี โดยเฉพาะหน้าต่างกระจกใส เพราะเจ้าของบ้านหลาย ๆ คนมักจะเปิด-ปิดอยู่เป็นประจำ บางคนจึงปิดไว้เฉย ๆ โดยลืมที่จะล็อค ส่วนการติดกล้องในตำแหน่งนี้ ควรติดให้เห็นทั้ง ทางเดิน และหน้าต่างตามแนวยาว
3. ช่องลมในมุมอับ : หลาย ๆ บ้านมักจะมีช่องระบายอากาศเล็ก ๆ ซึ่งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตำแหน่งที่ถูกหัวขโมยงัดแงะบ่อยมาก ๆ เนื่องจากส่วนใหญ่จะอยู่ในมุมอับ ปลอดจากสายตาคนภายนอก การติดกล้องตำแหน่งนี้ควรติดไว้ในมุมที่สูงที่สุด ให้เห็นเป็นมุมกว้าง
4. ประตูหลังบ้าน : เป็นอีกจุดนึงที่ปลอดสายตาจากคนภายนอกเช่นกัน อีกทั้งถ้าทำเสียงดัง เสียงก็จะเล็ดลอดออกไปได้น้อยมาก ๆ และเพื่อนบ้านก็อาจจะไม่ได้สนใจ การติดกล้องในตำแหน่งนี้ แนะนำให้ติดเหมือนกับประตูหน้าบ้าน
5. บริเวณบ้าน : สำหรับบ้านที่มีพื้นที่หลังบ้าน ที่อาจจะเป็นสวนผัก หรือพื้นที่ซักล้าง ก็ควรติดกล้องไว้เช่นกัน ซึ่งในจุดนี้เป็นตำแหน่งที่เจ้าของบ้านมักจะละเลย ไม่ได้เปิดไฟทิ้งไว้ ทำให้หัวขโมยเลือกเข้ามาทางนี้ โดยการติดกล้องตำแหน่งนี้คุณควรหันกล้องออกไปยังกำแพงบ้าน โดยปรับมุมภาพให้กว้างและไกลที่สุดครับ
การติดตั้งกล้องวงจรปิด ไม่ว่าจะเป็นกล้องภายนอก และภายใน จัดเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดที่คุณสามารถใช้ดูแลความปลอดภัย ซึ่งการเลือกประเภทของกล้องวงจรปิดที่เหมาะสม สามารถติดตั้งเองได้ง่าย ๆ ในตำแหน่งที่ดี พร้อมการดูแลบำรุงรักษาเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุด จากกล้องวงจรปิดเหล่านี้ครับ ซึ่งถึงแม้มันจะช่วยกันพวกหัวขโมยได้ไม่ 100% แต่อย่างน้อย ๆ มันก็เปรียบเสมือนเป็นยันต์กันภัยได้ครับ เพราะถ้าเทียบกันระหว่าง บ้านที่ติดกล้องวงจรปิด กับบ้านที่ไม่ติด แน่นอนคนร้ายต้องเลือกเข้าบ้านที่ไม่มีกล้องก่อน เนื่องจากมันเสี่ยงน้อยกว่า อีกทั้งการติดตั้งกล้องวงจรปิด มันยังมีโอกาสที่จะเก็บหลักฐานสำคัญอย่างรูปร่างหน้าตาของคนร้ายเอาไว้ได้ เพื่อนำไปใช้เป็นเบาะแสตามจับคนร้าย
