สำหรับเพื่อน ๆ ที่ชอบฟังเพลง ดูหนัง ดูซีรีส์ หรือเล่นเกมแล้ว หูฟัง นับว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ขาดไม่ได้ เพราะหูฟังไม่เพียงแต่จะช่วยเพิ่มความสนุกหรือให้ความบันเทิงจากเสียงเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันไม่ให้เสียงไปรบกวนคนรอบข้างได้อีกด้วย ซึ่งในปัจจุบันแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ก็ได้มีการพัฒนาหูฟังออกมาหลายดีไซน์หลายรูปแบบเพื่อให้ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์การใช้งานของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น หูฟังไร้สาย หูฟังเกมมิ่ง หูฟังออกกำลังกาย หรือหูฟังแบบคาดศีรษะที่ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมากกับการกลับมาของกระแส Y2K ครับ ซึ่งหากพูดถึงหูฟังที่ค่อนข้างมาแรงในขณะนี้ก็คงจะเป็น “หูฟังครอบหูแบบไร้สาย” ครับ

หูฟังครอบหูแบบไร้สาย มีดีไซน์ที่สวยงาม เรียบหรู เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย แมตได้กับทุกการแต่งตัว และด้วยประสิทธิภาพการให้เสียงที่ดี สวมใส่สบาย สามารถเชื่อมต่อได้กับทุกอุปกรณ์ที่มีการใช้งานบลูทูธได้ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก คอมพิวเตอร์ เครื่องเล่นเกม หรือโทรทัศน์ ทำให้หูฟังครอบหูแบบไร้สายกลายเป็นที่ต้องการของใครหลาย ๆ คนครับ
หูฟังครอบหูไร้สาย ยี่ห้อไหนดี เหมาะกับคุณมากที่สุด?
- หูฟังครอบหูไร้สาย แบบเรียบหรู สไตล์มินิมอล แบตอึด ราคาหลักร้อย: หูฟัง BASEUS รุ่น D02 Pro
- หูฟังครอบหูไร้สาย เบสแน่น พร้อม Game Mode: หูฟัง EDIFIER รุ่น W820NB
- หูฟังครอบหูไร้สาย Sony คุณภาพดี ราคาประหยัด ปรับแต่งเสียงผ่านแอปพลิเคชันได้: หูฟัง Sony รุ่น WH-CH520
- หูฟังครอบหูไร้สายสเปกดี เสียงใส มาพร้อมระบบชาร์จไว: หูฟัง Soundpeats รุ่น A6
- หูฟังครอบหูไร้สายตัดเสียงรบกวนได้ สำหรับอุปกรณ์ Apple: หูฟัง AirPods Max
หูฟังครอบหูไร้สาย (Over Ear Headphones) คืออะไร?

หูฟังแบบ Over-Ear หรือที่เรียกง่าย ๆ ว่า หูฟังแบบครอบหู เป็นหูฟังขนาดใหญ่ มีก้านสำหรับใช้คล้องหรือคาดศีรษะ ตรงส่วนที่ใช้สำหรับครอบหูจะมีลักษณะนุ่ม ๆ เพื่อทำให้ไม่ระคายหูตอนสวมใช้งาน โดยภายในที่ครอบหูจะมีลำโพงให้เสียงอยู่ทั้งสองข้าง จุดเด่นของหูฟังแบบครอบหู คือ ให้คุณภาพเสียงที่ดี ให้เสียงที่ชัดเจน เพราะมีพื้นที่ในการให้เสียงที่ค่อนข้างกว้างทำให้กระจายเสียงได้ดี เสียงมีมิติ สวมใส่สบาย สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต โน้ตบุ๊ก หรือคอมพิวเตอร์ ผ่านระบบบลูทูธแบบไร้สายได้ ทำให้สามารถนำมาใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลาโดยไม่จำเป็นต้องเสียบสายให้วุ่นวาย ช่วยเพิ่มความสะดวกในการพกพาและนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้
หูฟังครอบหูไร้สาย VS หูฟัง Earbuds แบบไหนดีกว่ากัน?
หูฟังในปัจจุบันถูกพัฒนาออกมาให้สามารถใช้งานได้หลากหลายยิ่งขึ้น ซึ่งข้อดีของหูฟังไร้สาย คือ ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน ไม่มีสายไฟที่มาเกะกะ ทำให้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ไปพร้อม ๆ กับการเชื่อมต่อหูฟัง ซึ่งหูฟังแบบไร้สายที่เป็นที่นิยมหลัก ๆ จะมีหูฟังครอบหูไร้สายและหูฟัง Earbuds ที่ใส่เข้าไปในหูได้เลย หากใครที่กำลังตัดสินใจว่าจะเลือกแบบไหนดี วันนี้ผู้เขียนได้สรุปจุดเด่นของหูฟังไร้สายทั้งสองแบบมาให้ครับ
|
หูฟังครอบหูไร้สายจุดเด่นของหูฟังประเภทนี้จะอยู่ตรงที่ สวมใส่สบาย ลำโพงให้เสียงชัดเจน เหมาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้สมาธิในการทำงาน เชื่อมต่อการใช้งานกับอุปกรณ์อื่น ๆ แบบไร้สายได้ ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ สามารถพกพาได้สะดวก เมื่อนำมาใช้งานเวลานั่งหรือเดินไปเดินมาก็ไม่ต้องกลัวว่าหูฟังจะหล่น แต่ก็มีข้อควรพิจารณา คือ หากเลือกหูฟังที่ดีไซน์ออกมาไม่ดี เมื่อใส่ไปนาน ๆ ก็จะทำให้ปวดใบหูและมีเกิดการอับชื้นตรงส่วนที่เป็นซับในหูฟัง หรือหากเลือกขนาดที่ไม่พอดีกับหูก็จะทำให้เกิดอาการปวดใบหูขึ้นได้ นอกจากนี้ด้วยดีไซน์ที่ค่อนข้างใหญ่เวลาใส่กระเป๋าไปด้านนอกอาจจะมีความลำบาก เพราะกินพื้นที่ในกระเป๋าและบางรุ่นอาจจะไม่สามารถพับเก็บได้ ตอนนำไปใช้งานด้านนอกจึงต้องคอยระวังเพื่อไม่ให้หูฟังหักงอหรือเสียหายได้ |
|
หูฟัง Earbudsเป็นอีกรุ่นที่มีความนิยม เพราะมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ไม่จำเป็นต้องกังวลเรื่องของขนาดใบหู เพราะสามารถใช้งานได้กับช่องหูทุกขนาด ให้เสียงที่ดี ส่วนใหญ่จะมีไมโครโฟนและระบบตัดเสียงรบกวนทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในการทำงานหรือการประชุม แต่ก็มีข้อควรพิจารณา คือ หากเป็นรุ่นที่ไม่มีระบบตัดเสียงรบกวนการนำไปใช้งานด้านนอกในสถานที่ที่มีคนเยอะ ๆ หรือเสียงดังก็จะต้องเปิดเร่งเสียงหูฟังให้ดังขึ้น ซึ่งค่อนข้างเป็นอันตรายต่อหู และตอนใช้งานหากเดินไปเดินมา หรือขยับร่างกายมาก ๆ ก็จะเสี่ยงต่อการที่หูฟังจะหลุดและหล่นเสียหายได้ ซึ่งหากนำไปใช้งานด้านนอกระหว่างใช้งานก็ต้องคอยระวังตลอด เนื่องจากเป็นหูฟังที่มีขนาดเล็กทำให้แบตเตอรี่ค่อนข้างเล็กส่งผลทำให้มีระยะการใช้งานในแต่ละรอบที่ค่อนข้างสั้นทำให้ต้องเสียบกลับเข้าไปในกล่องชาร์จแบตเตอรี่บ่อย ๆ |
คำแนะนำในการเลือกหูฟังครอบหูไร้สาย
หากเพื่อน ๆ กำลังเริ่มมองหาหูฟังครอบหูแบบไร้สาย สิ่งที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรกเลยนั่นก็คือ จุดประสงค์ในการใช้งาน โดยจุดประสงค์หลักในการใช้งานหลัก ๆ จะเป็นการฟังเพลง การดูหนัง การเล่นเกม หรือใช้สำหรับทำงาน ซึ่งหูฟังแต่ละรุ่นมีจุดเด่นและฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นผู้เขียนจึงได้รวบรวมวิธีการเลือกหูฟังครอบแบบเบื้องต้นเพื่อที่จะให้สามารถเลือกหูฟังคู่ใจได้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของเพื่อน ๆ กันครับ
1. ควรตรวจสอบน้ำหนักและดีไซน์
การเลือกหูฟังครอบหูแบบไร้สาย คนส่วนใหญ่มักจะนิยมเลือกจากดีไซน์ก่อนเป็นอันดับแรก เพราะดีไซน์ของหูฟังสามารถช่วยเสริมบุคลิกและบ่งบอกถึงไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานได้ แต่ดีไซน์ของหูฟังก็ควรจะมาพร้อมกับการออกแบบที่ทำให้สามารถใช้งานได้อย่างมีความสุขครับ เพราะหากเราเลือกแบบของหูฟังที่สวยเพียงอย่างเดียว แต่ไม่เหมาะกับการใช้งานก็จะทำให้ไม่เป็นผลดีกับเราครับ

โดยเพื่อน ๆ ควรจะตรวจสอบวัสดุของหูฟัง ขนาด และน้ำหนัก ของหูฟัง ว่ามีขนาดที่พอดีกับใบหูของเราหรือไม่ สามารถปรับความยาวของก้านหูฟังได้มากน้อยแค่ไหน ตรงที่ซับหูด้านในก็ไม่ควรจะแข็งจนเกินไป และที่สำคัญควรเลือกหูฟังที่มีน้ำหนักเบา ซึ่งจะทำให้ไม่ปวดใบหูและสร้างความอึดอัดขณะใช้งาน
2. คุณภาพของเสียงที่เหมาะกับการใช้งาน

เมื่อเราซื้อหูฟัง แน่นอนครับว่าสิ่งที่ทุก ๆ คนต้องการ คือ คุณภาพของเสียงที่ดี โดยหูฟังแต่ละรุ่นมีคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน ซึ่งเพื่อน ๆ ควรพิจารณาว่าจุดประสงค์หลักในการใช้งานหูฟังคืออะไร เช่น หากนำหูฟังไปใช้งานทั่วไป ดูหนัง ฟังเพลง สามารถเพิ่มลดและปรับระดับความหนักเบาของเสียงเบสได้ ซึ่งจะช่วยทำให้สามารถเพิ่มอรรถรสในการใช้งานได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสำหรับคนที่ชอบเล่นเกม หูฟังที่เลือกอาจจะมี Game Mode ที่จะช่วยลดการดีเลย์ของเสียงขณะเล่นเกมได้ หรือหากต้องการนำไปใช้ทำงาน ประชุมงาน หรือเรียนออนไลน์ ก็ควรเป็นหูฟังที่ให้เสียงที่คมชัด มีการป้องกันเสียงรบกวนและตัดเสียงรบกวนได้ครับ
3. ปริมาณความจุของแบตเตอรี่

หูฟังแบบไร้สาย จุดเด่นจะอยู่ตรงที่การใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ในตัวทำให้ไม่จำเป็นต้องต่อสายหรือเสียบปลั๊กกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ขณะใช้งาน แบตเตอรี่จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนเลือกซื้อ เพราะหากต้องนำไปใช้งานด้านนอกแล้วเกิดแบตเตอรี่หมดขึ้นมาก็คงไม่ใช่เรื่องที่ดีนัก ดังนั้นการเลือกหูฟังไร้สายก็ควรเลือกหูฟังที่มีความจุของพลังงานแบตเตอรี่ที่เยอะ ซึ่งเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้นทำให้แบตเตอรี่ของหูฟังค่อนข้างอึด สามารถใช้งานได้นานหลายชั่วโมงติดต่อกัน ทำให้ช่วยเพิ่มความสะดวกและสามารถใช้งานหูฟังแบบไร้สายได้อย่างต่อเนื่อง
หูฟัง BASEUS รุ่น D02 Pro

ราคา 719 บาท*
หูฟัง BASEUS รุ่น D02 Pro หูฟังสไตล์มินิมอล รูปแบบเรียบ ๆ ไม่มีลดลวดลายหรือโลโก้บริเวณที่ครอบหู น้ำหนักเบาเพียง 190 g. ตรงก้านคาดศีรษะมีโฟมที่ช่วยป้องกันไม่ให้ปวดศีรษะ และสามารถปรับขนาดให้พอดีกับใบหูของผู้สวมใส่ได้ บริเวณที่ครอบหูฟังค่อนข้างนิ่ม ไม่กดทับใบหูจนเกินไป สามารถพับเก็บที่ครอบหูได้และใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 40 ชม. สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้

คุณภาพเสียงของหูฟังรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ค่อนข้างดี มีขนาดไดรเวอร์ 40 mm. ซึ่งจะให้เสียงที่ค่อนข้างดังชัดเจน เหมาะสำหรับการใช้งานดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมทั่ว ๆ ไป ที่ไม่ได้เน้นความละเอียดของเสียงมาก เบสไม่หนักมาก การเก็บเสียงของหูฟังอาจจะยังไม่ดีมาก เพราะเมื่อเปิดเสียงดัง ๆ ก็จะทำให้เสียงดังออกมาด้านนอกหูฟัง อาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่ต้องนำไปใช้งานนอกสถานที่และต้องการความเป็นส่วนตัว แต่การใช้งานโดยรวมเมื่อเทียบกับราคาแล้วค่อนข้างมีความคุ้มค่าครับ หากเทียบกับ หูฟัง REMAX รุ่น RB-660HB ที่มีความคล้ายกัน โดยหูฟัง รุ่น BASEUS รุ่น D02 Pro ค่อนข้างให้คุณภาพเสียงโดยรวมที่ค่อนข้างดีกว่าและแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานกว่า แต่หากเน้นความดังในส่วนของเสียงเบส หูฟังรุ่น RB-660HB ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันครับ
อ่านรีวิวฉบับเต็มของเราได้ที่ [รีวิว] หูฟังครอบหูไร้สาย Baseus D02 Pro แบตอึด ดีไซน์สวย ราคาประหยัด
จุดเด่น
- สามารถใช้ได้ทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสาย 3.5 mm.
- คุณภาพเสียงดี พร้อมระบบ 3D Surrounding Sound
- แบตเตอรี่อึดใช้งานได้นานถึง 7 วัน
- มีไมโครโฟนในตัว
ข้อควรพิจารณา
- ซับรองหูมีขนาดเล็ก
- เสียงเบสค่อนข้างเบา
- การตัดเสียงรบกวนยังทำได้ไม่ดีนัก
วัสดุ | ABS + PC |
---|---|
น้ำหนัก | 190 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 40 ชม. |
แบตเตอรี่ | 450 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.3 |
หูฟัง Sony รุ่น WH-CH520

ราคา 1,990 บาท*
หูฟัง Sony รุ่น WH-CH520 เป็นหูฟังที่มีน้ำหนักเบาเพียง 147 g. พกพาได้สะดวก สามารถใช้งานได้หลากหลาย โดยการออกแบบฟองนำค่อนข้างนุ่ม ไม่ทำให้ปวดบริเวณใบหู มีการเชื่อมต่อแบบบลูทูธ 5.2 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ค่อนข้างไว มีระบบการเชื่อมต่อแบบหลายจุดทำให้จับคู่บลูทูธ 2 อุปกรณ์พร้อมกันได้ เมื่อมีสายเรียกเข้าหูฟังจะเชื่อมกับอุปกรณ์ที่มีสายเรียกเข้าโดยอัตโนมัติ ใช้งานต่อเนื่องได้สูงสุดถึง 40 ชม. และมีระบบชาร์จด่วน ชาร์จเพียง 3 นาที ก็สามารถใช้หูฟังได้นานถึง 1.5 ชม. และที่สำคัญมีระบบตัดเสียงรบกวน ซึ่งหากใครที่ต้องพกพาหูฟังออกไปใช้งานด้านนอกบ่อย ๆ หูฟังรุ่นนี้ก็ตอบโจทย์การใช้งานตรงจุดนี้มาก ๆ ครับ
ในด้านของคุณภาพเสียงทำออกมาได้ดีมาก ๆ ครับ เพราะทาง Sony ได้พัฒนาคุณภาพความคมชัดของเสียงให้มากขึ้น มีการเก็บรายละเอียดของเสียงได้ดี เบสมีความทุ้มและกระชับมากยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับใช้ฟังเพลงทั้งแนว Pop, Rock, หรือเพลง Jazz ก็สามารถทำออกมาได้ดีครับ แต่หากเน้นเบสที่หนัก ๆ สำหรับใช้เล่นเกม หูฟัง EDIFIER รุ่น W820NB ก็จะมี Game Mode ที่จะให้คุณภาพเสียงได้ดีกว่า และเหมาะใช้สำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะครับ
จุดเด่น
- มีโหมดตัดเสียงรบกวน
- สามารถใช้งานได้นานถึง 40 ชม.
- จับคู่กับอุปกรณ์บลูทูธสองเครื่องพร้อมกันได้
- ปรับแต่งเสียงหูฟังด้วยการตั้งค่า EQ ในแอปพลิเคชัน Sony Headphone ได้
- มีไมโครโฟนสำหรับสนทนา
- มีระบบชาร์จด่วน
ข้อควรพิจารณา
- เวลาถอดหูฟัง เพลงจะเล่นต่อเรื่อย ๆ ไม่ได้หยุดให้
- หากสวมไว้นาน ๆ จะร้อนหู
วัสดุ | พลาสติก |
---|---|
น้ำหนัก | 147 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 40 ชม. |
แบตเตอรี่ | 400 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.2 |
หูฟัง EDIFIER รุ่น W820NB

ราคา 1,699 บาท*
หูฟัง EDIFIER รุ่น W820NB หูฟังไร้สายที่งานประกอบค่อนข้างดี วัสดุทำจากพลาสติก น้ำหนักเบา 220 g. ตรงบริเวณที่ครอบหูมีฟองน้ำนิ่ม ๆ ไม่ปวดหูเวลาสวมใส่ สามารถใส่ได้สบาย หูฟังรุ่นนี้มาพร้อมกับเทคโนโลยีระบบตัดเสียงรบกวน สามารถแยกเสียงรบกวนที่ไม่ต้องการออกได้ แต่การตัดเสียงรบกวนของรุ่นนี้ก็ไม่ได้มีความโดดเด่นมาก สามารถใช้งานทั่วไปได้ แต่หูฟังรุ่นนี้ยังมีโหมดที่น่าสนใจคือ มีโหมด Awareness ที่เป็นโหมดการรับรู้เสียงจากภายนอกทำให้สามารถได้ยินเสียงข้างนอกได้ชัดเจนทำให้รู้สึกเหมือนกับไม่ได้ใส่หูฟัง เหมาะกับคนที่ไม่ชอบถอดหูฟังเข้าออกบ่อย ๆ ครับ
นอกจากโหมดการรับรู้เสียงแล้ว หูฟังรุ่นนี้มี Game Mode ที่เหมาะกับเหล่าเกมเมอร์ด้วยครับ เพราะหูฟังจะดึงเสียงเบสออกมาทำให้ได้อรรถรสในการเล่นเกมมากยิ่งขึ้น และยังช่วยลดการดีเลย์ของเสียงเอฟเฟ็กต์ต่าง ๆ ในเกม ทำภาพและเสียงในเกมมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญยังสามารถปรับจูนเสียงของหูฟังผ่านแอปพลิเคชันได้อีกด้วยครับ แต่ไมโครโฟนของหูฟังรุ่นนี้เสียงค่อนข้างเบา ทำให้ปลายสายได้ยินไม่ชัด ซึ่งหากเพื่อน ๆ ต้องการหูฟังที่มีดีไซน์คล้าย EDIFIER รุ่น W820NB แต่ต้องการใช้ไมโครโฟนเพื่อเน้นการประชุมหรือการสนทนา หูฟัง Sony รุ่น WH-CH520 ก็สามารถตอบโจทย์การใช้งานตรงส่วนนี้ได้ดีกว่าครับ
จุดเด่น
- มีโหมดตัดเสียงรบกวน
- สามารถใช้งานได้นานถึง 49 ชม.
- เสียงดี มีเบสที่ไม่หนักจนเกินไป
- มี Game Mode ช่วยลดเสียงดีเลย์ขณะเล่นเกม
- มีไมโครโฟนสำหรับสนทนา
- มีแอปพลิเคชันสำหรับการปรับจูนเสียงหูฟัง
ข้อควรพิจารณา
- ไมโครโฟนหากใช้ในที่เสียงดังมาก ๆ ปลายสายจะฟังเสียงลำบาก
วัสดุ | พลาสติก |
---|---|
น้ำหนัก | 220 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 29 - 49 ชม. |
แบตเตอรี่ | 400 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.0 |
หูฟัง Soundpeats รุ่น A6

ราคา 1,499 บาท*
หูฟังครอบหูคุณภาพ Sondpeats รุ่น A6 ที่สเปกจัดเต็ม มีชาร์จไว โดยชาร์จ 5 นาที สามารถเล่นเพลงได้ต่อเนื่อง 4 ชม. การออกแบบดีไซน์และงานประกอบค่อนข้างเรียบร้อย ที่คาดศีรษะค่อนข้างแข็งแรง สามารถปรับให้พอดีกับศีรษะได้ ที่ครอบใบหูปิดได้สนิทพอดี สวมใส่สบาย ฟองน้ำที่ครอบหูนุ่มมากไม่ค่อยกดทับใบหู การตัดเสียงรบกวนทำได้ดีมาก ๆ สามารถตัดเสียงรบกวนได้มากกว่า 90% ไมโครโฟนที่ให้มาก็สามารถใช้ได้ดีคุยกับปลายสายได้ค่อนข้างชัด การเชื่อมต่อบลูทูธก็ทำได้ดีครับ แทบจะไม่มีการดีเลย์ของเสียงเลย แต่หากเน้นเล่นเกมแนะนำให้เสียบสาย เพราะจะช่วยทำให้ไม่เกิดการดีเลย์ของเสียง
คุณภาพของเสียงที่ให้มาเป็นแบบสเตอริโอ ขนาดไดรเวอร์ 40 mm. เสียงมีความใส ฟังชัด เบสมีความทุ้มหนักแน่น สัมผัสได้ถึงความแรงของเบสแต่ก็ไม่ได้หนักจนเกินไปอยู่ในระดับที่พอดี ใช้สำหรับการดูหนัง เล่นเกมได้มีความสนุก แต่หากสำหรับใช้ฟังเพลงเสียงดนตรีอาจจะชัดกว่าเสียงนักร้องไม่มาก หากเป็นเพลงหรือแนวดนตรีที่เน้นเสียงนักร้องอาจจะโดดเด่นเท่าไหร่ แต่โดยรวมสามารถใช้งานได้ดีครับ ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ จะคล้ายกับ หูฟัง EDIFIER รุ่น W820NB ที่มีเสียงเบสที่แน่น และ หูฟัง Sony รุ่น WH-CH520 ที่รองรับการใช้งานเสียงจากไมโครโฟนได้ดีและมีชาร์จเร็ว โดยราคาของแต่ละรุ่นใกล้เคียงกัน หากต้องเลือกมาใช้งานก็ควรจะเลือกรุ่นที่ตรงกับการใช้งานของเพื่อน ๆ ครับ
จุดเด่น
- มีโหมดตัดเสียงรบกวน
- สามารถใช้งานได้นานถึง 37 ชม.
- รองรับการชาร์จไว
- สามารถใช้ได้ทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสาย 3.5 mm.
- เสียงใส ชัดเจน เบสมีความทุ้ม
- มีไมโครโฟนสำหรับสนทนา
ข้อควรพิจารณา
- เสียงค่อนข้างเบา
- ที่ครอบหูใส่สบาย แต่หากใช้งานไปนาน ๆ ค่อนข้างร้อน
วัสดุ | พลาสติก |
---|---|
น้ำหนัก | 290 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 37 ชม. |
แบตเตอรี่ | 500 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.0 |
หูฟัง Lenovo รุ่น Thinkplus TH30

ราคา 569 บาท*
หูฟัง Lenovo รุ่น Thinkplus TH30 ที่มีดีไซน์สวย พรีเมียมสามารถใช้งานได้ทั้งแบบไร้สาย เชื่อมต่อสาย AUX 3.5 ได้ และแบบเชื่อมต่อบลูทูธ 5.1 ซึ่งมีความไวในการเชื่อมต่อบลูทูธค่อนข้างเร็ว อาการดีเลย์ค่อนข้างน้อย หากใช้งานทั่วไปนับว่าไม่เป็นปัญหา ที่คาดศีรษะสามารถปรับระดับให้พอดีกับใบหูได้ มีที่ครอบหูที่ค่อนข้างนุ่ม สวมใส่สบาย แบตเตอรี่ของรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดประมาณ 7 - 11 ชั่วโมง ซึ่งก็สามารถใช้งานติดต่อกันได้แทบจะทั้งวันครับ
การให้เสียงของหูฟังรุ่นนี้จะมีไดรเวอร์ลำโพงขนาด 40 mm.ทำให้มีเสียงเบสค่อนข้างดี เสียงนุ่มไม่หนักจนเกินไป เสียงค่อนข้างมีมิติ แต่ไม่ได้มีความพิเศษมาก เหมาะสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไป ใช้สำหรับดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม แต่ในเรื่องของไมโครโฟนที่ใช้สนทนาปลายสายอาจจะได้ยินเสียงไม่ชัด ต้องพูดเสียงดัง ๆ ซึ่งหากใครที่ต้องการนำไปใช้ประชุมหรือทำงานโดยเฉพาะอาจจะยังไม่ตอบโจทย์ครับ หากเทียบกับหูฟัง REMAX รุ่น RB-660HB ที่มีราคาใกล้เคียงกันในเรื่องของคุณภาพเสียง Lenovo ค่อนข้างให้เสียงได้ดีกว่า ส่วนหูฟังรุ่น REMAX รุ่น RB-660HB จะมีดีไซน์ของที่ครอบหูที่สวยและใส่สบายกว่าครับ
จุดเด่น
- มีไมโครโฟนสำหรับสนทนา
- สามารถใช้ได้ทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสาย 3.5 mm.
- การเชื่อมต่อบลูทูธค่อนข้างเร็ว
ข้อควรพิจารณา
- เสียงจากหูฟังค่อนข้างเบา
- การเก็บเสียงยังทำได้ไม่ค่อยดีมาก หากเปิดเสียงดัง เสียงจะทะลุไปด้านนอก
- เสียงจากไมโครโฟนไม่ค่อยชัด
วัสดุ | พลาสติก |
---|---|
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 7 - 11 ชม. |
แบตเตอรี่ | 250 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.1 |
หูฟัง REMAX รุ่น RB-660HB

ราคา 560 บาท*
หูฟังแบบครอบหู REMAX รุ่น RB-660HB เป็นหูฟังบลูทูธที่สามารถเชื่อมต่อได้หลายอุปกรณ์ สัญญาณการเชื่อมต่อเสถียร สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้ไกลถึง 10 เมตร โดยไม่มีสายมาเกะกะ สามารถใช้งานได้นานสูงสุดถึง 12 ชม. ภายในหูฟังมาพร้อมไมโครโฟนใช้สนทนาได้ ขนาดไดรเวอร์ 40 mm. ทำให้สามารถให้คุณภาพเสียงที่ดีและมีความคมชัด เสียงเบสของหูฟังรุ่นนี้มีความหนักแน่น เหมาะสำหรับใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกมได้ สามารถนำไปใช้ทำงาน ใช้เรียนออนไลน์ได้ แต่ไม่ควรเปิดเสียงดังจนเกินไป เพราะจะทำให้เสียงรั่วออกมาด้านนอกหูฟังได้
ในด้านของการดีไซน์ วัสดุเป็นพลาสติกอย่างดี ตรงบริเวณก้านคาดศีรษะสามารถปรับระดับให้พอดีกับใบหูได้ ตรงบริเวณที่ครอบหูยางรองซับด้านในค่อนข้างนุ่ม สวมใส่สบาย สามารถใช้งานติดต่อกันได้ในระยะเวลานาน มีสาย AUX 3.5 mm. เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่น ๆ ได้ ตรงที่ครอบหูฟังมีปุ่มเพิ่มลดเสียง ใช้กดรับสายโทรศัพท์ได้ สามารถใช้งานได้หลากหลาย หากใครที่กำลังมองหาหูฟังครอบหูไร้สายที่ราคาไม่แรง ดีไซน์สวย หูฟัง REMAX รุ่น RB-660HB ก็เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- สามารถใช้ได้ทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสาย 3.5 mm.
- มีไมโครโฟนในตัว
- สามารถปรับขนาดก้านคาดศีรษะให้พอดีกับใบหูได้
- รับส่งสัญญาณกับอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ไกลถึง 10 เมตร
ข้อควรพิจารณา
- ไม่ตัดเสียงรบกวนภายนอก
- เสียงค่อนข้างดีเลย์ แต่ไม่ได้ส่งผลกับการใช้งานมาก
วัสดุ | พลาสติก + โลหะ |
---|---|
น้ำหนัก | 190 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 8 - 10 ชม. |
แบตเตอรี่ | 300 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
พอร์ต | USB Type-C การเชื่อมต่อ : Bluetooth V 5.0 |
หูฟัง Hoco รุ่น W40

ราคา 399 บาท*
หูฟัง Hoco รุ่น W40 หูฟัง วัสดุและงานประกอบทำออกมาได้ค่อนข้างดี ตรงที่ครอบหูเมื่อนำไปใช้งานจริงไม่ค่อยกดทับใบหู แต่ก็ไม่ได้หลวมจนเกินไปจนทำให้หูฟังหล่น ใช้ใส่ตอนนอนดูหนังฟังเพลงได้ค่อนข้างสบาย สามารถพับเก็บได้ ทำให้พกพาได้สะดวก การเชื่อมต่อบลูทูธถือว่าเชื่อมต่อได้เร็ว เชื่อมต่อได้กับทุกอุปกรณ์ ตรงบริเวณที่ครอบหูฟังสามารถเชื่อมต่อใช้งานแบบสาย AUX 3.5 ได้ มีไมค์สำหรับใช้สนทนา เหมาะสำหรับการใช้งานทั่ว ๆ ไปครับ
คุณภาพของเสียงรุ่นนี้ไม่ได้มีความโดดเด่นมากครับ เสียงค่อนข้างดีไม่เสียงดังมาก เสียงเพลงที่ออกมาจากหูฟังค่อนข้างนุ่ม การใช้ดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม เสียงกับภาพไม่ค่อยดีเลย์ โดยภาพรวมด้านคุณภาพการใช้ถือว่าสามารถใช้งานทั่ว ๆ ไปได้ และจุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้คือ มีช่อง TF Card เพียงแค่ใส่ MicroSD Card ที่มีเพลงโปรดของเพื่อน ๆ เข้าไปก็ทำให้สามารถฟังเพลงได้ตลอดเวลาครับ
จุดเด่น
- สามารถใช้ได้ทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสาย 3.5 mm.
- มีช่อง TF Card
- สามารถพับเก็บตรงบริเวณที่ครอบหูทั้งสองข้างได้
- มีไมโครโฟนสำหรับสนทนา
- มีปุ่มกดรับสาย - วางสาย
ข้อควรพิจารณา
- หากเปิดเสียงดังเสียงจะได้ยินออกมาถึงข้างนอก
วัสดุ | พลาสติก |
---|---|
น้ำหนัก | 143 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 7 ชม. |
แบตเตอรี่ | 200 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.3 |
หูฟัง Awei รุ่น A996BL

ราคา 799 บาท*
หูฟัง Awei รุ่น A996BL หูฟังคุณภาพวัสดุมีความแข็งแรง ดีไซน์ค่อนข้างเรียบ ลายตรงบริเวณที่ครอบหูฟังเป็นอะลูมิเนียมความมันวาวดีไซน์คล้าย ๆ แผ่นเสียง ตรงบริเวณที่ครอบหูฟังสามารถปรับขยับได้ตามลักษณะและองศาของใบหูทำให้ไม่กดทับตรงใบหู นวมตรงที่ครอบหูค่อนข้างนิ่ม สามารถใส่นอนได้ แต่ด้วยวัสดุที่เป็นหนัง ไม่ค่อยระบายอากาศ หากใช้งานไปนานก็จะทำให้ร้อนและเกิดเหงื่อได้
สำหรับคุณภาพเสียงเบสค่อนข้างดี มวลเบสแน่นค่อนข้างใหญ่ สำหรับสายดูหนัง ฟังเพลง หรือเล่นเกม ถือว่าเหมาะมาก ๆ ครับ และข้อดีของหูฟังรุ่นนี้อีกอย่างคือสามารถใช้งานการเชื่อมต่อได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นการเชื่อมต่อบลูทูธที่ค่อนข้างไว การใช้งานร่วมกับสาย AUX 3.5 หรือ การใส่ TF Card ก็สามารถเล่นเพลงได้เลย ซึ่งหากเทียบกับ หูฟัง BASEUS รุ่น D02 Pro ที่มีราคาใกล้กันในด้านของเสียงไม่ต่างกันมาก แต่ในเรื่องของดีไซน์การใช้งาน หูฟัง Awei รุ่น A996BL ก็จะใส่ได้สบายหูสามารถใส่ได้นานไม่ปวดใบหูครับ
จุดเด่น
- สามารถใช้ได้ทั้งแบบไร้สายและแบบเสียบสาย 3.5 mm.
- มีช่อง TF Card
- สามารถพับเก็บตรงบริเวณที่ครอบหูทั้งสองข้างได้
- มีไมโครโฟนสำหรับสนทนา
ข้อควรพิจารณา
- พอร์ตเชื่อมต่อเป็นแบบ Micro USB ธรรมดา
- ที่ครอบหูเป็นหนัง เมื่อใช้เป็นเวลานานจะค่อนข้างร้อน
วัสดุ | พลาสติก |
---|---|
น้ำหนัก | ไม่ระบุ |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 10 - 16 ชม. |
แบตเตอรี่ | 300 mAh |
พอร์ต | Micro USB |
การเชื่อมต่ | Bluetooth V 5.0 |
หูฟัง Baseus รุ่น H1

ราคา 2,899 บาท*
หูฟัง Baseus รุ่น H1 หูฟังไร้สายดีไซน์สวย รูปลักษณ์มินิมอล วัสดุงานประกอบดี มาพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนที่มีคุณภาพ และไมโครโฟนสำหรับใช้สนทนาที่ใช้งานได้ดี เสียงดังฟังชัด ทำให้หูฟังรุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้เน้นทำงานเป็นหลัก ใช้สำหรับการประชุม หรือการเรียนออนไลน์ โดยที่คาดศีรษะสามารถปรับระดับได้ แต่มีน้ำหนักค่อนข้างเยอะ ตอนใช้คาดหัวค่อนข้างแน่น ที่ครอบใบหูมีความนุ่ม แต่หากใช้ไปนาน ๆ ติดต่อกันอาจจะปวดใบหู ทำให้ไม่เหมาะสำหรับคนที่ชอบใช้งานหูฟังเป็นเวลานาน ๆ ครับ
ในเรื่องของคุณภาพเสียงภาพรวมทำออกมาได้ค่อนข้างดีครับ เสียงใสไม่ดังจนเกินไป เหมาะสำหรับใช้ดูหนัง หรือฟังเพลงเบา ๆ แต่หากใครที่ต้องการเน้นฟังเพลงที่ใช้เบสหนัก ๆ หรือเน้นความบันเทิงโดยเฉพาะ อาจจะต้องใช้เป็น Soundpeats รุ่น A6 ที่เน้นความบันเทิงได้ดีกว่า แต่หากเน้นใช้ทำงานดีไซน์แบบเรียบหรูก็ต้องยกให้หูฟัง Baseus รุ่น H1 ครับ
จุดเด่น
- มีโหมดตัดเสียงรบกวน
- มีไมโครโฟนสำหรับสนทนาได้ยินเสียงชัดเจน
- ดีไซน์สวย งานประกอบมีความประณีต
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีช่องเสียบ AUX 3.5
- หากใช้งานไปนาน ๆ จะค่อนข้างเจ็บใบหู
- น้ำหนักค่อนข้างเยอะ
วัสดุ | ABS + PC + โลหะ |
---|---|
น้ำหนัก | 300 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 8 - 12 ชม. |
แบตเตอรี่ | 800 mAh |
พอร์ต | USB Type-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.2 |
หูฟัง AirPods Max

ราคา 18,900 บาท*
เมื่อพูดถึงหูฟังไร้สายก็จะขาดแบรนด์ Apple ไปไม่ได้ครับ ด้วยฟังก์ชันการใช้งานที่เรียกว่าให้มาแบบมีคุณภาพทั้งดีไซน์และรายละเอียดต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ดี ตรงที่คาดศีรษะเป็นสเตนเลส มีลักษณะเป็นตาข่ายทำให้ระบายอากาศได้ดี ตรงฟองน้ำที่หูก็ระบายอากาศได้ค่อนข้างดีกว่าหูฟังที่เป็นหนังครับ หูฟังรุ่นนี้เรื่องคุณภาพเสียงถูกปรับมาให้แบบอัตโนมัติเรียบร้อยแล้ว สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ของ Apple ด้วยระบบ Ecosystem ได้ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ใช้งานอุปกรณ์ของ Apple เป็นหลักในการใช้งานเป็นประจำอยู่แล้วอย่าง iPhone หรือ iPad ครับ
AirPods Max จะมีเสียงที่ชัดใส สามารถแยกเสียงคนหรือเสียงพูดได้ชัดเจน การฟังเพลงที่มีการใช้เครื่องดนตรีเยอะ ๆ หรือเพลง Rock ก็ทำได้ดี ส่วนเพลงที่เบสหนัก ๆ ก็ทำได้มาตรฐานครับ จุดเด่นของหูฟังรุ่นนี้จะเป็นระบบตัดเสียงรบกวนครับ ซึ่งสามารถทำได้ดีมาก ๆ และระบบการฟังเสียงรอบข้างโดยที่เราไม่ต้องถอดหูฟัง ซึ่งสามารถรับเสียงได้แบบเป็นธรรมชาติ ถึงแม้ราคาของหูฟังรุ่นนี้จะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่หากใครที่เป็นสาวก Apple และเรื่องเงินไม่ใช่ปัญหา AirPods Max จึงเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าครับ
จุดเด่น
- ระบบตัดเสียงรบกวนทำได้ดี
- ดีไซน์สวย วัสดุพรีเมียม เข้ากับทุกสไตล์การแต่งตัว
- มีระบบการรับเสียงจากนอกหูฟัง
- เหมาะสำหรับใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ของ Apple
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
- ฟังก์ชันและฟีเจอร์การใช้งานต่าง ๆ ถูกออกแบบมาให้สามารถใช้งานได้ดีกับอุปกรณ์ของ Apple
วัสดุ | อะลูมิเนียม |
---|---|
น้ำหนัก | 384.8 g. |
การใช้งาน | เล่นต่อเนื่อง 20 ชม. |
แบตเตอรี่ | ไม่ระบุ |
พอร์ต | Lightning USB-C |
การเชื่อมต่อ | Bluetooth V 5.0 |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
การดูแลและรักษาหูฟังครอบหูไร้สาย
สิ่งที่จะทำให้หูฟังสามารถรักษาประสิทธิภาพและคงสภาพการใช้งานได้ดีก็คือ การดูแลรักษาหูฟังอย่างถูกต้องครับ ซึ่งหากเราไม่ดูแลหรือรักษาไว้ให้ดีก็จะทำให้หูฟังทำงานได้ไม่เต็มที่ ให้เสียงที่ไม่ไพเราะ กลายเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค ผู้เขียนจึงอยากจะแนะนำเคล็ดลับดี ๆ ที่ช่วยทำให้เพื่อน ๆ สามารถรักษาหูฟังเก็บเอาไว้ใช้ได้นาน ๆ กันครับ
1. ไม่ควรปรับระดับเสียงที่ดังเกินไป
การเปิดเสียงจากหูฟังในระดับสูงที่ดังเกินไปติดต่อกันเป็นเวลานานหรือเบิร์นเสียงหูฟังแบบผิดวิธี อาจจะทำให้เสียงของหูฟังแตกหรือเกิดเสียงรบกวนขณะใช้งานได้ การเปิดเสียงของหูฟังหรือเบิร์นเสียงของหูฟัง ควรเปิดในระดับเสียงที่พอดีกับที่เราฟัง หรือดังกว่าปกติเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งการเปิดเสียงหูฟังในระดับเสียงที่พอดีไม่เพียงช่วยให้รักษาอายุการใช้งานของหูฟังได้นานเพียงเท่านั้น แต่ยังช่วยถนอมหูของเราไม่ให้เสื่อมหรือเกิดอันตรายจากการใช้งานหูฟังอีกด้วยครับ
2. ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมด
หูฟังที่มีการใช้งานแบบบลูทูธหรือหูฟังประเภทไร้สาย จำเป็นต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งแบตเตอรี่มีข้อควรระวังที่สำคัญมาก ๆ คือ ไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่หมด เพราะหากปล่อยให้แบตเตอรี่หมดแล้วไม่ได้มีการชาร์จไฟเข้าไปจะทำให้แบตเตอรี่คายประจุออกมา ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่เก็บพลังงานไฟฟ้าได้น้อยลง ดังนั้นจึงไม่ควรปล่อยให้แบตเตอรี่ของหูฟังหมดและควรชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มอยู่เสมอ
3. ควรทำความสะอาดหูฟังอยู่เสมอ

เมื่อเราใช้งานหูฟังไปนาน ๆ ก็มักจะเกิดคราบฝุ่น คราบเหงื่อ หรือสิ่งสกปรกตรงบริเวณหูฟัง ซึ่งจะทำให้ส่งผลต่อความสวยงามของหูฟัง เกิดเสียงที่ผิดเพี้ยน และนอกจากนี้ก็จะเกิดเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคอีกด้วยครับ เพื่อน ๆ จึงควรหมั่นเช็ดทำความสะอาดหูฟังเป็นประจำ โดยเฉพาะตรงบริเวณที่ครอบหูฟังหรือตรงดอกลำโพงที่ให้เสียง เพราะส่วนใหญ่ตรงบริเวณฟองน้ำตรงส่วนนี้จะมีฝุ่นเกาะสะสมค่อนข้างเยอะ สามารถใช้ผ้าชุบแอลกอฮอล์เล็กน้อยหรือน้ำสบู่เช็ดทำความสะอาดได้ครับ
4. ควรเก็บหูฟังไว้ในที่ที่เหมาะสม
หากเป็นหูฟังแบบครอบหูที่มีขนาดใหญ่ ควรจะมีกล่อง หรือถุงสำหรับใช้ใส่หูฟังครับ เพื่อหลีกเลี่ยงการกระแทกหรือฝุ่นมาเกาะตรงบริเวณที่ครอบหูฟัง ซึ่งอาจจะทำให้เกิดการสะสมของคราบฝุ่นและควรหลีกเลี่ยงที่ร้อนและชื้น เพราะจะส่งผลทำให้ดอกลำโพงหรือไดรเวอร์ของหูของหูฟังมีปัญหาได้และอายุการใช้งานของหูฟังก็จะสั้นลงครับ
บทสรุปส่งท้าย
สำหรับใครที่กำลังมองหาหูฟังแบบครอบหูแบบไร้สาย สิ่งสำคัญก็คือ จุดประสงค์ในการใช้งานหูฟังครับ เพราะหูฟังในแต่ละรุ่นจะมีคุณสมบัติและจุดประสงค์ในการใช้งานที่แตกต่างกัน การเลือกประเภทและรูปแบบหูฟังให้เหมาะกับการใช้งานจะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เพื่อน ๆ ได้ใช้งานหูฟังที่มีประสิทธิภาพที่ดีและเกิดความคุ้มค่าครับ ซึ่งเพื่อน ๆ คงจะได้ทราบถึงวิธีการเลือกซื้อหูฟังครอบหูแบบไร้สายที่เหมาะกับการใช้งานกันแล้ว ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ได้หูฟังคู่ใจไว้ใช้งานและช่วยเพิ่มความสุขให้กับทุก ๆ กิจกรรมกันนะครับ