เมาส์ เป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นมาก ๆ สำหรับการทำงานและทุกออฟฟิศจำเป็นต้องมี ถึงแม้เราจะใช้งาน แล็ปท็อป หรือ โน้ตบุ๊ก ที่มีทัชแพดติดมากับตัวเครื่อง หรือใช้งานคอมพิวเตอร์ที่มีเมาส์แบบมีสายติดมากับตัวเครื่องให้อยู่แล้ว หลาย ๆ คนอาจจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องซื้อเมาส์เพิ่ม แต่ทราบไหมครับว่าเมาส์ ก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการทำงาน เพราะสามารถช่วยเพิ่มความคล่องตัว เพิ่มความสะดวกสบายให้กับการทำงานได้ สามารถใช้งานได้ง่าย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะ เมาส์แบบไร้สาย ที่สามารถพกพาได้สะดวก และช่วยประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานได้อีกด้วย

ซึ่งในท้องตลาดมีเมาส์ไร้สายหลายรุ่น หลายราคา ไม่ว่าจะเป็น เมาส์ไร้สายราคาไม่เกิน 1,000 บาท หรือเมาส์ไร้สายรุ่นยอดนิยม โดยเมาส์ไร้สายแต่ละกลุ่มก็จะมีรูปแบบและฟังก์ชันพิเศษแตกต่างกันตามราคา ซึ่งวันนี้ผู้เขียนมีเมาส์แบบไร้สายราคาไม่เกิน 500 บาท ที่ใช้งานได้ดี พกพาสะดวก และตอบโจทย์การทำงานพื้นฐานได้อย่างดีแบบคุ้มค่าคุ้มราคามาเป็นตัวเลือกให้เพื่อน ๆ ที่อยากจะลองซื้อเมาส์ไร้สายไว้เพื่อใช้งานกันครับ
เมาส์ไร้สาย ราคาไม่เกิน 500 บาท ยี่ห้อไหนดี?
- เมาส์ไร้สายขนาดใหญ่ คลิกเงียบ ดีไซน์ตามหลักสรีรศาสตร์: เมาส์ไร้สาย Logitech รุ่น M330 Silent Plus Wireless Mouse
- เมาส์ไร้สายแบบพกพาขนาดเล็ก สกอร์เมาส์ลื่นไหล มี Sleep Mode: เมาส์ไร้สาย Logitech รุ่น M220 Silent Wireless Mouse
- เมาส์ไร้สาย ค่าความไว DPI 4,000 ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์: เมาไร้สาย UGREEN รุ่น MU006
- เมาส์ไร้สาย แบบเก็บเสียง ใช้งานได้ทั้ง USB และ Bluetooth: เมาส์ไร้สาย Xiaomi Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition
- เมาส์ไร้สาย ดีไซน์สวย น้ำหนักเบา เสียงกดนุ่ม: เมาส์ไร้สาย HP รุ่น S4000
![]() เมาส์ไร้สาย Logitech รุ่น M220 Silent Wireless Mouse | ![]() เมาไร้สาย UGREEN รุ่น MU006 | ![]() เมาส์ไร้สาย Xiaomi Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition | ![]() เมาส์ไร้สาย HP รุ่น S4000 |
3 เมาส์ไร้สาย ราคาไม่เกิน 500 บาท ยี่ห้อไหนดี ?
เมาส์ไร้สาย คืออะไร ?
เมาส์ไร้สาย หรือ Wireless Mouse เป็นอุปกรณ์ใช้สำหรับชี้ตำแหน่งบนหน้าจอคอมพิวเตอร์เพื่อทำให้การใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ มีความสะดวกมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมาส์ไร้สายก็จะมีการใช้งานเหมือนกับเมาส์ทั่ว ๆ ไป แต่จะมีลักษณะพิเศษอยู่ตรงที่จะไม่มีสายเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ การใช้งานควบคุมตำแหน่งต่าง ๆ บนหน้าจอจึงทำได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เพราะไม่มีสายเชื่อมต่อมาเกะกะหรือคอยกำหนดขอบเขตในการทำงาน นอกจากนี้ยังไม่ต้องกังวลว่าสายจะขาดหรือชำรุด ทำให้มีอายุการใช้งานค่อนข้างนาน
จุดเด่นของเมาส์ไร้สายจะถูกออกแบบดีไซน์ให้มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา สามารถพกพาออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้และช่วยประหยัดพื้นที่ในการใช้งาน นอกจากนี้เมาส์ไร้สายยังมีความสามารถในการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ในระยะไกลได้ และสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ หากมีตัวรับสัญญาณ พอร์ตเชื่อมต่อ USB หรือการเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth ก็สามารถใช้งานเมาส์ได้ทันที ซึ่งการทำงานของเมาส์ไร้สายจะมีการใช้พลังงานแบตเตอรี่จากถ่านประเภท AA หรือ AAA บางรุ่นก็จะมีแบตเตอรี่ในตัวสามารถชาร์จไฟได้ในตัว และด้วยความสะดวกในการใช้งานทั้งหมดนี้เอง ทำให้เมาส์ไร้สายได้รับความนิยมค่อนข้างมากในปัจจุบันครับ
ประเภทของเมาส์ไร้สาย
อย่างที่เพื่อน ๆ ทราบกันแล้วว่าเมาส์ไร้สายจะมีจุดเด่นในเรื่องของการใช้งานที่สะดวก เน้นการพกพา สามารถใช้งานได้แบบไร้สายไม่จำป็นต้องมีสายมาเกะกะ ช่วยให้ประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงาน และเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างอิสระและหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะ โน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต โทรศัพท์มือถือ เครื่องเล่นเกม หรือสมาร์ททีวี ซึ่งเมาส์ไร้สายสามารถแบ่งตามลักษณะของการเชื่อมต่อได้ 2 ประเภท คือ เมาส์ไร้สายแบบ USB และ เมาส์ไร้สายแบบ Bluetooth ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมข้อมูลของเมาส์ไร้สายทั้งสองแบบเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้นครับ
|
เมาส์ไร้สายแบบ USBเมาส์ไร้สายแบบ USB จะเป็นเมาส์ที่มีการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ผ่านสัญญาณที่เชื่อมต่อระหว่างเมาส์และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB ซึ่งจุดเด่นของเมาส์ไร้สายประเภทนี้จะสามารถใช้งานได้ง่าย เพียงแค่นำตัวรับสัญญาณจากเมาส์เสียบเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ก็สามารถใช้งานได้เลยทันที โดยสัญญาณการเชื่อมต่อของเมาส์ไร้สายแบบ USB จะมีความเสถียรมากกว่าเมาส์ไร้สายแบบ Bluetooth ซึ่งจะเหมาะกับคนที่ต้องการประหยัดพื้นที่บนโต๊ะทำงานในออฟฟิศ และเน้นการพกพาที่สะดวกในการนำไปใช้งานนอกสถานที่ แต่ก็ต้องใช้ความละเอียดและความแม่นยำในการทำงาน ซึ่งเมาส์ไร้สายแบบนี้จะข้อควรพิจารณาเช่นกัน เพราะเนื่องจากเป็นเมาส์ที่มีการเชื่อมต่อสัญญาณกับอุปกรณ์ผ่านตัว USB ที่ติดมาคู่กับเมาส์ โดยจะมีตัวรับสัญญาณมาให้เพียง 1 อัน เท่านั้น หากทำตัว USB ที่ใช้รับสัญญาณหาย ก็จะไม่สามารถใช้งานเมาส์ได้ หรือหากเพื่อน ๆ ใช้งานกับอุปกรณ์ที่ไม่มีช่องเสียบ USB ก็จำเป็นต้องซื้อตัวแปลงหรืออุปกรณ์เสริม เพื่อให้สามารถติดตัวรับสัญญาณจากเมาส์ได้ครับ |
|
เมาส์ไร้สายแบบ Bluetoothเมาส์ไร้สายแบบ Bluetooth สามารถใช้งานได้สะดวกกว่าเมาส์ไร้สายแบบ USB เพราะเป็นเมาส์จะเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth ได้ จุดเด่นของเมาส์ประเภทนี้จะเชื่อมต่อเข้ากับอุปกรณ์ได้หลากหลายกว่า หากใครที่จำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อื่นบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นแท็บเล็ต แล็ปท็อป หรือสมาร์ทโฟน ก็สามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth เข้ากับอุปกรณ์เพื่อใช้งานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเสียบพอร์ต USB ทำให้ไม่ต้องกังวลว่าตัว USB จะหล่นหาย หรืออุปกรณ์นั้นจะมีช่องเสียบมา USB มาให้หรือไม่ ถึงแม้เมาส์ไร้สายประเภท Bluetooth จะมีความสะดวกในการปรับใช้งานอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้มากมายก็จริง แต่สำหรับใครที่ใช้งานคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะที่ไม่มีตัวรับสัญญาณ Bluetooth ในตัว อาจจะต้องหาอุปกรณ์เสริมเพื่อนำมาใช้รับสัญญาณ และที่สำคัญการเชื่อมต่อสัญญาณเมื่อเทียบกับเมาส์ไร้สายแบบ USB จะมีความเสถียรและความแม่นยำมากกว่าเมาส์แบบ Bluetooth หากเพื่อน ๆ จะนำมาใช้สำหรับเล่นเกมหรือใช้ทำงานที่เน้นความละเอียด การใช้เมาส์ไร้สายแบบ USB ก็จะตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้ดีกว่าครับ |
เมาส์ไร้สาย Logitech รุ่น M330 Silent Plus Wireless Mouse

ราคา 409 บาท*
แน่นอนว่าหากพูดถึงอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ ใครหลาย ๆ คนก็ต้องนึกถึงแบรนด์ Logitech ซึ่งเมาส์ไร้สาย รุ่น M330 ได้ดีไซน์ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ตรงตัวเมาส์มีความโค้ง ซึ่งจะรองรับกับการวางมือ ทำให้วางตำแหน่งมือได้ง่าย ให้สัมผัสที่นุ่มมือ เมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะไม่ทำให้ปวดเมื่อยมือ จุดเด่นของเมาส์รุ่นนี้ คือ การใช้งานที่ค่อนข้างเงียบ เป็นเมาส์แบบ Soft Click ที่ช่วยตัดเสียงรบกวนของการกดปุ่มเมาส์ได้มากกว่า 90% แทบจะไม่มีเสียงกดปุ่มเมาส์เลย สัมผัสการกดค่อนข้างนุ่ม และสกอร์เมาส์ก็มีความไหลลื่น เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความเงียบสงบ ไม่รบกวนคนที่อยู่รอบข้าง และที่สำคัญทำให้มีสมาธิกับการทำงานได้มากขึ้น
ในส่วนของการใช้งาน เมาส์รุ่นนี้สามารถใช้งานได้กับทุกพื้นสภาพผิว แต่ไม่สามารถใช้งานกับพื้นกระจกได้ จึงควรหาแผ่นรองเมาส์มารองเพื่อใช้งาน ความเร็วของเมาส์สูงสุดอยู่ที่ 1,000 DPI มีการคลิกของตำแหน่งเคอเซอร์ต่าง ๆ ที่แม่นยำ รวมถึงสามารถใช้งานหนัก ๆ ได้อย่างทนทาน ในส่วนของการเชื่อมต่อรุ่นนี้ สามารถใช้การเชื่อมต่อแบบ USB 2.4 GHz ใช้กับตัวรับสัญญาณแบบ USB ได้เพียงเท่านั้น ไม่สามารถใช้งาน Bluetooth ได้ ซึ่งจะมีระยะเชื่อมต่อสัญญาณได้ไกลสูงสุด 10 เมตร มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่นานถึง 24 เดือน โดยสามารถใช้พลังงานจากถ่าน AA เพียง 1 ก้อน และข้อจำกัดของรุ่นนี้ คือ การออกแบบดีไซน์การใช้งานเฉพาะสำหรับคนที่ถนัดมือขวาเท่านั้นครับ
จุดเด่น
- สามารถลดเสียงรบกวนได้มากกว่า 90%
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
- มี Sleep Mode ช่วยประหยัดพลังงาน
- ดีไซน์ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีความโค้ง รับกับการวางมือ ทำให้วางตำแหน่งมือได้ง่าย
- ด้ามจับเป็นยาง นุ่มมือ
ข้อควรพิจารณา
- มีฟังก์ชันเสริมค่อนข้างน้อย
- เหมาะสำหรับใช้งานเฉพาะมือขวาเท่านั้น
- ไม่สามารถใช้งาน Bluetooth ได้
- สำหรับคนที่มือเล็กอาจจะใช้งานได้ค่อนข้างลำบาก
- ค่าความไวของเมาส์ไม่ได้สูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
ขนาด | 105.4 x 67.9 x 38.4 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 91 ก. |
จำนวนปุ่ม | 3 ปุ่ม |
ความไว | 1000 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AA x 1 |
เมาส์ไร้สาย Logitech รุ่น M220 Silent Wireless Mouse

ราคา 380 บาท*
เมาส์รุ่นเล็ก กะทัดรัด เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เซนเซอร์รองรับการใช้งานทุกสภาพพื้นผิว ความเร็วของเมาส์สูงสุดถึง 1,000 DPI การเชื่อมต่อสามารถเชื่อมต่อได้เพียงแค่ USB ไม่สามารถเชื่อมต่อแบบ Bluetooth ได้ มาพร้อม Sleep Mode ที่ช่วยประหยัดพลังงานเมื่อเราไม่ได้ใช้งานเมาส์ การกดคลิกปุ่มเมาส์มีความนุ่มและเสียงเบามาก ๆ เวลากดจะไม่มีเสียงรบกวนอะไรเลย และตัวสกอร์เมาส์สามารถใช้งานได้ลื่นไหลไม่มีสะดุด ใครที่ชอบใช้งานเมาส์แบบเงียบรุ่นนี้สามารถตอบโจทย์ได้ดีมาก ๆ ที่สำคัญรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวาเลยครับ
ถึงแม้เมาส์ รุ่นนี้จะมีน้ำหนักที่เบา กะทัดรัด เน้นการพกพาที่สะดวก แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของขนาดครับ โดยเมาส์จะมีขนาดที่ค่อนข้างเล็ก หากเป็นมือผู้ชาย หรือเป็นคนที่มีมือขนาดใหญ่ ก็อาจจะใช้งานเมาส์ได้ไม่ถนัดมือสักเท่าไหร่ครับ ส่วนเมาส์รุ่นนี้เป็นเมาส์ไร้สายรุ่นเริ่มต้นทำให้ในส่วนของการใช้งานฟังก์ชันพิเศษต่าง ๆ อาจจะมีค่อนข้างน้อย แต่การใช้งานทั่วไปสามารถใช้งานได้ดีและคุ้มกับราคามาก ๆ ครับ ซึ่งหากเทียบกับเมาส์ Logitech รุ่น M330 Silent Plus ที่เปิดตัวมาพร้อมกัน รุ่น M220 จะมีข้อดีกว่าตรงที่มีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา เหมาะกับคนที่มือขนาดเล็กและนำไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวกมากกว่า นอกจากนี้ยังสามารถใช้งานได้กับทั้งมือซ้ายและมือขวา แต่รุ่น M330 จะเหมาะสำหรับเน้นใช้งานบนโต๊ะทำงานหรือการใช้งานระยะยาวมากกว่า สามารถวางมือได้สบายกว่า แต่จะไม่สามารถใช้งานได้กับคนที่ถนัดซ้าย และคนที่มีมือขนาดเล็กอาจจะใช้งานได้ค่อนข้างลำบากครับ
จุดเด่น
- สามารถลดเสียงรบกวนได้มากกว่า 90%
- สามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
- มี Sleep Mode ช่วยประหยัดพลังงาน
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนาน
ข้อควรพิจารณา
- มีฟังก์ชันเสริมค่อนข้างน้อย
- ไม่สามารถใช้งาน Bluetooth ได้
- สำหรับคนที่มีมือขนาดใหญ่จะใช้งานได้ค่อนข้างลำบาก
- ค่าความไวของเมาส์ไม่ได้สูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
ขนาด | 99 x 60 x 39 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 75.2 ก. |
จำนวนปุ่ม | 3 ปุ่ม |
ความไว | 1,000 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AA x 1 |
เมาส์ไร้สาย Xiaomi รุ่น Mi Wireless Mouse Lite

ราคา 219 บาท*
เมาส์ไร้สายจากแบรนด์ Xiaomi ดีไซน์ของเมาส์มีความเรียบ วัสดุเป็นพลาสติกทั่ว ๆ ไป มีผิวสัมผัสแบบด้าน ขนาดของเมาส์ไม่หนามาก น้ำหนักเบา สามารถพกพาใส่กระเป๋าได้สะดวก มีขนาดพอดีกับมือ ขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป และเมาส์มีความโค้งมนรองรับกับการวางมือได้เป็นอย่างดี การใช้งานของเมาส์รุ่นนี้เหมาะกับการใช้งานทั่วไป มีค่าความไวของเมาส์อยู่ที่ 1,000 DPI ซึ่งเพียงพอสำหรับเข้าใช้งานเว็บไซต์ไปจนถึงการใช้งานตัดต่อวิดีโอครับ
แต่ก็มีข้อควรพิจารณาอยู่ตรงที่เมาส์รุ่นนี้ไม่ได้เป็นเมาส์ที่เก็บเสียง ซึ่งจะมีเสียงกดเมาส์ให้ได้ยินอยู่ แต่เสียงไม่ได้ดังมากจนเกิดความรำคาญครับ สำหรับใครที่ต้องการเมาส์ที่ลดเสียงรบกวนได้ เมาส์ของ Logitech รุ่น M220 ที่มีขนาดของเมาส์ใกล้เคียงกันก็จะตอบโจทย์ได้ดีกว่า เพราะสามารถลดเสียงรบกวนได้ถึง 90% และที่สำคัญมีสีให้เลือกเยอะกว่า แต่หากมีงบจำกัด ไม่ได้เน้นการใช้งานที่ต้องเงียบสนิท Xiaomi Mi Wireless Mouse Lite ที่มีราคาประหยัดกว่า ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานเบื้องต้นครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีความโค้ง รับกับการวางมือ ทำให้วางตำแหน่งมือได้ง่าย
- ใช้วัสดุเป็นเทฟลอนตรงแผ่นรองข้างใต้ฐานเมาส์ ทำให้เมาส์เคลื่อนไหวได้ลื่นไหล
- มีโหมดประหยัดพลังงาน
- น้ำหนักเบา
- สามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
ข้อควรพิจารณา
- การคลิกปุ่มเมาส์ไม่ได้เก็บเสียง แต่เสียงไม่ได้ดังมาก
- ค่าความไวของเมาส์ไม่ได้สูงมาก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป
ขนาด | 113 x 60 x 36 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 60 ก. |
จำนวนปุ่ม | 3 ปุ่ม |
ความไว | 1000 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AAA x 1 |
เมาส์ไร้สาย DELL MOUSE WIRELESS รุ่น WM126

ราคา 390 บาท*
เมาส์ไร้สายคุณภาพจาก DELL รุ่น WM126 เมาส์ไร้สายขนาดเล็กกะทัดรัด มีน้ำหนักเบาเพียง 56.95 กรัม สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้สะดวก โดยรุ่นนี้จะเป็นเมาส์สำหรับการใช้งานทั่วไป มีค่าความไวของเมาส์อยู่ที่ 1,000 DPI การใช้งานโปรแกรม Microsoft หรือใช้งานทั่วไป สามารถใช้งานได้ดี ตัวสกอร์เมาส์มีความลื่นไหลและให้ความรู้สึกในการใช้งานได้ดีมาก ๆ ปุ่มที่ใช้งานได้จะมีพื้นฐาน 3 ปุ่ม ใช้การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นแบบ USB โดยสามารถเก็บตัวเชื่อมต่อภายในตัวเมาส์ได้
เนื่องจากเป็นเมาส์ที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็ก เน้นการพกพาที่สะดวก ทำให้ในส่วนของการใช้งานบนโต๊ะทำงานนาน ๆ หรือการใช้งานติดต่อกันอาจจะไม่เหมาะเท่าไหร่นัก เพราะเมาส์มีขนาดเล็ก เมื่อวางมือหรือใช้งานเมาส์ติดต่อกันจะส่งผลให้ปวดข้อมือได้ หากเทียบกับ Xiaomi Mi Wireless Mouse Lite ที่มีขนาดเล็กเหมือนกัน ราคาของ Xiaomi จะค่อนข้างประหยัดกว่า และฟังก์ชันการใช้งานโดยรวมไม่ได้ต่างกัน และมีพื้นที่ของการวางมือบนเมาส์ได้สะดวกกว่า เมาส์ไร้สายของ DELL รุ่นนี้จึงเหมาะกับสายทำงานที่เน้นทำงานนอกสถานที่ ต้องการประหยัดพื้นที่ในกระเป๋า และต้องเดินทางบ่อย ๆ มากกว่าครับ
จุดเด่น
- มีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
- สกอร์เมาส์ใช้งานได้ลื่นไหล
- วัสดุพลาสติกค่อนข้างดี
ข้อควรพิจารณา
- การคลิกปุ่มเมาส์ไม่ได้เก็บเสียง
- เมาส์มีขนาดค่อนข้างเล็ก ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีมือขนาดใหญ่
ขนาด | 94.8 x 57.3 x 35.6 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 56.95 ก. |
จำนวนปุ่ม | 3 ปุ่ม |
ความไว | 1,000 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AA x 1 |
เมาส์ไร้สาย Microsoft Wireless Mouse Mobile รุ่น 1850

ราคา 479 บาท*
เมาส์ไร้สาย Microsoft รุ่นนี้จะมีเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ผ่านพอร์ต USB การออกแบบดีไซน์ของเมาส์จะมีผิวของวัสดุเป็นพลาสติกแบบด้าน ตัดกับขอบที่มีความมันวาว รูปทรงของเมาส์รองรับการวางมือได้อย่างดี มีความคล่องตัวขณะใช้งาน สามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา สกอร์เมาส์ควบคุมได้ง่าย ใช้การเชื่อมต่อแบบพอร์ต USB และมีความไวเมาส์อยู่ที่ 1,000 DPI เน้นการใช้งานทั่วไป ทำให้เมาส์ตัวนี้เหมาะกับการใช้งานแบบไลฟ์สไตล์ที่ไม่ว่าจะใช้ทำงานในออฟฟิศหรือพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ก็ใช้งานได้เป็นอย่างดี
สำหรับเรื่องการเก็บเสียงในรุ่นนี้อาจจะยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานตรงจุดนี้ครับ เพราะเสียงจากการกดเมาส์รุ่นนี้จะมีเสียงกดหรือเสียงคลิกเมาส์ที่ได้ยินชัดอยู่ และในส่วนของสกอร์เมาส์หรือล้อเลื่อน ถึงแม้จะสามารถใช้งานได้ลื่นไหล แต่จะมีเสียงขณะเลื่อนขึ้นเลื่อนลงดังประมาณหนึ่ง ซึ่งอาจจะเหมาะสำหรับการใช้งานในสถานที่ที่ต้องการความเงียบ ซึ่งหากเป็นเมาส์ Logitech รุ่น M330 ที่มีขนาด การออกแบบ และราคาใกล้เคียงกัน เมาส์รุ่น M330 จะมีค่อนข้างสบายมือกว่า และที่สำคัญสามารถตัดเสียงรบกวนจากการกดเมาส์ได้ ไม่ทำให้เกิดเสียงรบกวน แต่จะมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้งานที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้เฉพาะมือขวาเท่านั้น สำหรับคนที่ไม่เน้นในเรื่องของการเก็บเสียง หรืออาจจะถนัดมือซ้าย เมาส์ Microsoft Wireless Mouse Mobile 1850 ก็เหมาะที่จะนำมาใช้งานได้ดีไม่แพ้กันครับ
จุดเด่น
- มีความสบาย คล่องตัว สามารถพกพาไปใช้งานได้ทุกที่
- ดีไซน์ออกแบบขนาดของเมาส์ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป กะทัดรัด รองรับกับการวางมือ
- สามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
- ถ่าน 1 ก้อน สามารถใช้งานได้ 6 เดือน
ข้อควรพิจารณา
- การคลิกปุ่มเมาส์ไม่ได้เก็บเสียง
- สกอร์เมาส์หรือล้อเลื่อนไม่ได้เก็บเสียง
ขนาด | 58.1 x 3.80 x 100 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 90 ก. |
จำนวนปุ่ม | 3 ปุ่ม |
ความไว | 1,000 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AA x 1 |
เมาไร้สาย UGREEN รุ่น MU006

ราคา 275 บาท*
เมาส์ไร้สายแบรนด์ UGREEN รุ่น MU006 เมาส์ที่มีดีไซน์การออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ ช่วยให้ไม่ปวดเมื่อยข้อมือ เหมาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้งานเมาส์ติดต่อกันเป็นเวลานาน ตัวล้อเลื่อนหรือสกอร์เมาส์มีความลื่นไหลกำลังดี ไม่มีเสียงรบกวนขณะเลื่อนขึ้นและเลื่อนลง สามารถตัดเสียงรบกวนจากการคลิกปุ่มเมาส์ได้มากกว่า 99% แทบจะไม่ได้ยินเสียงกดปุ่มเมาส์เลย นอกจากนี้ยังมีโหมดประหยัดพลังงานที่ตัดการใช้พลังงานเมื่อไม่ได้ใช้งานเมาส์ ทำให้แบตเตอรี่จากถ่านใช้งานได้ค่อนข้างนาน
จุดเด่นของเมาส์รุ่นนี้ คือ สามารถปรับเปลี่ยนค่าความไวของเมาส์ได้ถึง 5 ระดับ สามารถปรับใช้งานได้ตั้งแต่ 800 DPI ไปถึงถึง 4,000 DPI ระดับความไวของเมาส์สามารถปรับใช้งานร่วมกับขนาดของหน้าจอได้หลายขนาด ทำให้ผู้ใช้งานกำหนดขอบเขตพื้นที่ของการลากเมาส์ให้เหมาะสมกับการใช้งานได้ เหมาะสำหรับการใช้ทำงานทั่ว ๆ ไป ไปจนถึงการเล่นเกมที่ต้องอาศัยความไวของเมาส์และความแม่นยำในระดับสูง หากเทียบกับ Logitech รุ่น M330 ที่มีดีไซน์คล้ายกัน UGREEN รุ่น MU006 ราคาค่อนข้างประหยัดกว่า มีดีไซน์ที่ดูทันสมัย และสามารถปรับค่าความไวได้มากกว่า ที่สำคัญยังมีปุ่มเสริมที่ทำให้ใช้งานได้สะดวกมากกว่า แต่ในส่วนของความสบายมือตอนใช้งาน เมาส์ของ Logitech จะให้สัมผัสและรองรับฝ่ามือได้ดีกว่า แต่ข้อจำกัดของทั้งสองรุ่นคือไม่เหมาะสำหรับคนที่ถนัดซ้ายครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีความโค้ง รับกับการวางมือ ทำให้วางตำแหน่งมือได้ง่าย
- ปรับค่า DPI ได้สูงถึง 4,000
- สามารถลดเสียงรบกวนได้มากกว่า 99%
- มีโหมดประหยัดพลังงาน
- ระยะการเชื่อมต่อ 15 เมตร
ข้อควรพิจารณา
- เหมาะสำหรับใช้งานมือขวา
- ไม่เหมาะสำหรับคนที่มีมือขนาดเล็ก
ขนาด | 119.8 x 71.12 x 39.87 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 89.86 ก. |
จำนวนปุ่ม | 6 ปุ่ม |
ความไว | 800 / 1,000/ 1,600 / 2,000 / 4,000 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AA x 1 |
เมาส์ไร้สาย Anitech Wireless Vertical Mouse รุ่น W226

ราคา 303 บาท*
เมาส์ไร้สาย Anitech รุ่น W226 ที่มีการออกแบบดีไซน์ให้รองรับกับการวางมือ ออกแบบให้มีความโค้งวางตำแหน่งมือได้ง่าย รองรับกับฝ่ามือตามหลักสรีรศาสตร์ มาพร้อมกับ Soft Click ที่เสียงกดเบา ไม่สร้างเสียงรบกวน แต่ในส่วนของปุ่มพิเศษด้านข้างไม่ได้เป็นแบบ Soft Click ซึ่งทำให้มีเสียงกดตอนใช้งาน สามารถปรับค่าความไวของเมาส์ได้ 3 ระดับ คือ 800, 1,200, และ1,600 DPI ซึ่งเป็นค่าใช้งานมาตรฐานสำหรับการใช้งานทั่วไปครับ
จุดเด่นของเมาส์รุ่นนี้ คือ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ USB และสามารถเชื่อมต่อสัญญาณ Bluetooth ได้ รองรับการใช้งานได้ทั้ง 2 แบบ มีระยะการเชื่อมต่อไกลสูงสุดถึง 10 เมตร ทำให้ใช้งานได้กับทุกอุปกรณ์ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือ เหมาะสำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้เมาส์ร่วมกับอุปกรณ์หลาย ๆ แบบ ชอบความสะดวกสบาย ไม่ชอบพกอุปกรณ์เสริมเยอะ ๆ ซึ่งหากเทียบกับเมาส์ไร้สาย UGREEN รุ่น MU006 ในเรื่องของค่า DPI เมาส์ไร้สาย Anitech รุ่น W226 อาจจะปรับค่าความไวได้น้อยกว่า ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการใช้งานหรือเล่นเกมเบื้องต้น แต่สำหรับคนที่ต้องการเน้นการเชื่อมต่อที่อิสระ เมาส์รุ่น W226 จึงเป็นตัวเลือกที่เหมาะมากกว่าครับ
จุดเด่น
- สามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
- ดีไซน์ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีความโค้ง รับกับการวางมือ ทำให้วางตำแหน่งมือได้ง่าย
- ปุ่มคลิกเมาส์แบบ Soft Click มีเสียงเบา
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ USB 2.4 GHz และ Bluetooth 5.0
- ใช้พลังงานน้อยประหยัดแบตเตอรี่
ข้อควรพิจารณา
- ปุ่มพิเศษด้านข้างมีเสียงกดค่อนข้างดัง
- ปุ่มเปิด - ปิด จะใช้งานยากในช่วงแรก แต่เมื่อใช้ไปเรื่อย ๆ จะดันขึ้น - ลง ง่ายขึ้น
ขนาด | 65 x 103 x 37 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 50 ก. |
จำนวนปุ่ม | 5 ปุ่ม |
ความไว | 800 / 1,200 / 1,600 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz และ Bluetooth 5.0 |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AA x 1 |
เมาส์ไร้สาย Xiaomi Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition

ราคา 380 บาท*
เมาส์ไร้สายจากแบรนด์ Xiaomi รุ่น Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition สามารถรองรับการใช้งานได้พร้อมกันถึง 2 อุปกรณ์ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ USB และการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth พร้อมกัน การเชื่อมต่อค่อนข้างง่ายเชื่อมต่อได้รวดเร็ว มีปุ่มกดสลับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ง่าย สำหรับใครที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์สองเครื่อง หรือต้องใช้หลาย ๆ อุปกรณ์ เมาส์รุ่นนี้ก็จะทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกและประหยัดเวลามากยิ่งขึ้นครับ
ในส่วนของการใช้งานเมาส์รุ่นนี้มาพร้อมกับ Soft Click ทำให้กดปุ่มเมาส์ได้แบบนุ่มนวล มีเสียงการกดที่เงียบมาก ๆ ไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวน เหมาะสำหรับการใช้ในออฟฟิศที่มีคนเยอะ ๆ หรือการใช้งานในห้องประชุมและการสัมมนาที่ต้องใช้ความสงบมาก ๆ ดีไซน์และวัสดุของเมาส์ทำจาก ABS เมาส์มีความโค้งรองรับกับฝ่ามือ จับถือได้ง่าย ผิวสัมผัสเป็นแบบด้าน ไม่ลื่นมือ สามารถใช้งานได้สะดวก ซึ่งหากเทียบกับเมาส์ไร้สาย Anitech Wireless Vertical Mouse รุ่น W226 ที่รองรับการเชื่อมต่อได้ 2 แบบเหมือนกัน เมาส์ของ Xiaomi จะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการจัดโต๊ะทำงานแบบเรียบ ๆ สะอาด ๆ สไตล์มินิมอลมากกว่า แต่ก็จะจะมีข้อจำกัดในส่วนของการกินพลังงานแบตเตอรี่ที่ใช้พลังงานจากถ่าน AAA ถึง 2 ก้อน ซึ่งเมาส์ของ Anitech ใช้พลังงานจากถ่าน AAA เพียง 1 ก้อน มีความทันสมัยมากกว่า และที่สำคัญสามารถปรับค่าความไวของเมาส์ได้มากกว่าครับ
จุดเด่น
- สามารถใช้งานได้ทั้งมือซ้ายและมือขวา
- ดีไซน์ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ มีความโค้ง รับกับการวางมือ ทำให้วางตำแหน่งมือได้ง่าย
- ปุ่มคลิกเมาส์แบบ Soft Click มีเสียงเบา
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ USB 2.4 GHz และ Bluetooth 4.0
- สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ได้สูงสุดพร้อมกัน 2 เครื่อง
ข้อควรพิจารณา
- ในระบบ MacOS ไม่สามารถใช้งานบางฟีเจอร์หรือปุ่มพิเศษ เช่น ปุ่มเดินหน้า - ถอยหลัง ได้
- ต้องใช้พลังงานจากถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อน
- หากใช้งานแบบ Bluetooth หรือสลับสัญญาณการใช้งานบ่อย ๆ แบตเตอรี่จากถ่านจะหมดเร็ว
ขนาด | 112.7 x 62.7 x 36.8 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 93 ก. |
จำนวนปุ่ม | 5 ปุ่ม |
ความไว | 1,300 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz และ Bluetooth 4.2 |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AAA x 2 |
เมาส์ไร้สาย UGREEN รุ่น 90531

ราคา 323 บาท*
เมาส์ไร้สายอีกหนึ่งรุ่นจากแบรนด์ UGREEN ที่ออกมาให้ใช้งานเชื่อมต่อได้กับหลากหลายอุปกรณ์ สามารถใช้งานได้ทั้งแบบ USB และ Bluetooth สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์พร้อมกันได้สูงสุดถึง 2 อุปกรณ์และมีปุ่มกดสลับการใช้งานอุปกรณ์ได้ ความไวของเมาส์รุ่นนี้สามารถปรับได้สูงถึง 4 ระดับ โดยเริ่มตั้งแต่ 1,000 DPI ไปจนถึง 4,000 DPI ทำให้ใช้งานร่วมกับหน้าจอที่มีคุณภาพความคมชัดแบบ 4K หรือ 8K ได้ รวมไปถึงหน้าจอที่มีขนาด ก็จะสามารถใช้งานได้สะดวกมากยิ่งขึ้น
การคลิกของเมาส์มีเสียงที่เงียบมาก ๆ สามารถลดเสียงรบกวนได้มากถึง 99% ช่วยขจัดปัญหาเสียงรบกวนจากการคลิกเมาส์ได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังมี Sleep Mode ที่จะช่วยประหยัดพลังงานเมื่อไม่ได้ใช้งานเมาส์ ทำให้ระยะการใช้งานของแบตเตอรี่จากถ่านใช้งานได้ยาวนานขึ้น ซึ่งรุ่นนี้มีการดีไซน์ที่เอาใจสำหรับคนที่ชอบเมาส์แบบเรียบ ๆ ไม่โค้งมนจนเกินไป เน้นเมาส์ที่เรียบบาง พกพาได้สะดวก เหมาะสำหรับคนที่ต้องทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ ซึ่งหากเทียบกับเมาส์ที่มีการรองรับการเชื่อมต่อแบบ USB และ Bluetooth ได้สองระบบเหมือนกันอย่าง Xiaomi Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition หรือ UGREEN รุ่น MU006 รุ่นนี้จะเห็นได้ชัดว่ามีรูปทรงที่บางกว่าเมาส์ไร้สายรุ่นอื่น ๆ ซึ่งหากใครที่กำลังมองหาเมาส์ไร้สายแบบพกพา เรียบ ๆ ที่ฟังก์ชันการใช้งานแบบจัดเต็ม UGREEN รุ่น 90531 ก็เป็นตัวเลือกที่ซื้อมาใช้งานแล้วไม่ผิดหวังอย่างแน่นอนครับ
จุดเด่น
- มี Sleep Mode ช่วยประหยัดพลังงาน
- สามารถลดเสียงรบกวนได้มากกว่า 99%
- ปรับค่า DPI ได้ 4 ระดับ
- รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ USB 2.4 GHz และ Bluetooth 5.0 / 3.0
- สามารถจับคู่กับอุปกรณ์ได้สูงสุดพร้อมกัน 2 เครื่อง
ข้อควรพิจารณา
- การเปลี่ยนจากใช้ตัวรับสัญญาณจาก USB ไปใช้ Bluetooth ปุ่มกดจะอยู่ใต้เมาส์
ขนาด | 109 x 62 x 30 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 100 ก. |
จำนวนปุ่ม | 3 ปุ่ม |
ความไว | 1,000 / 1,600 / 2,000 / 4,000 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz และ Bluetooth 5.0 / 3.0 |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AA x 1 |
เมาส์ไร้สาย HP รุ่น S4000

ราคา 383 บาท*
เมาส์จากแบรนด์ HP รุ่น S4000 เป็นเมาส์ที่ใช้ระบบการเชื่อมต่อแบบ USB ไม่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth มีดีไซน์ที่เรียบหรู พรีเมียม งานประกอบแน่นหนา ผิวสัมผัสเป็นแบบด้านทำให้จับใช้งานได้ถนัดมือ นอกจากดีไซน์ที่สวยแล้วเมาส์รุ่นนี้ยังมีจุดเด่นในเรื่องของความบางและน้ำหนักที่เบา ซึ่งมีน้ำหนักเพียงแค่ 30 กรัม เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ เน้นการใช้งานที่ง่ายและไม่ซับซ้อน สามารถปรับค่าความไวของเมาส์ได้ 3 ระดับ เพียงแค่กดปุ่มพิเศษที่อยู่บนเมาส์เพื่อปรับระดับได้ ตำแหน่งเคอร์เซอร์ของเมาส์มีความแม่นยำ รองรับการใช้งานพื้นฐานทั่วไปได้อย่างดีตั้งแต่การทำงานไปจนถึงการเล่นเกมครับ
ในส่วนของการใช้งานเสียงคลิกปุ่มเมาส์ รุ่นนี้เป็นแบบ Soft Click ที่มีเสียงที่ค่อนข้างเงียบ หากเทียบกับ Xiaomi Mi Dual Mode Wireless Mouse Silent Edition เมาส์ของ Xiaomi จะมีเสียงกดที่ค่อนข้างเงียบกว่า ซึ่งไม่ได้มีผลต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับใช้งานในออฟฟิศหรือที่ทำงานที่ต้องการใช้ความเงียบก็สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี แต่หากเป็นในเรื่องของดีไซน์เมาส์ไร้สาย HP รุ่น S4000 ทำออกมาได้ดีกว่า ซึ่งหากใครที่ต้องการเมาส์ที่มีความบาง น้ำหนักเบา และดีไซน์สวย เมาส์รุ่นนี้จะต้องทำให้เพื่อน ๆ ประทับใจได้อย่างแน่นอนครับ
จุดเด่น
- ดีไซน์ของเมาส์สวย มีความพรีเมียม มีให้เลือกหลายสี
- มีน้ำหนักเบา เน้นการใช้งานแบบพกพา
- ปุ่มคลิกเมาส์แบบ Soft Click มีเสียงเบา
- สามารถปรับค่า DPI ได้ 3 ระดับ
ข้อควรพิจารณา
- หากใช้งานเป็นระยะเวลานานติดต่อกันอาจจะทำให้ปวดเมื่อยมือ
- ต้องใช้พลังงานจากถ่าน AAA จำนวน 2 ก้อน
ขนาด | 100 x 130 x 40 มม. |
---|---|
น้ำหนัก | 30 ก. |
จำนวนปุ่ม | 4 ปุ่ม |
ความไว | 800 / 1,200 / 1,600 DPI |
การเชื่อมต่อ | USB 2.4 GHz |
แบตเตอรี่ | ถ่าน AAA x 2 |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ข้อควรพิจารณาสำหรับการเลือกเมาส์ไร้สาย
ในท้องตลาด เราจะเห็นได้ว่ามีเมาส์ให้เลือกออกมาหลายประเภท หลายราคา รูปร่างของเมาส์ก็จะมีลักษณะแตกต่างกันไปตามจุดเด่นและคุณสมบัติการใช้งาน โดยเมาส์ไร้สายจะมีจุดเด่น คือ เรื่องความสะดวกในการพกพาและน้ำหนักที่เบา แต่หากเราเลือกซื้อโดยไม่สำรวจดูความเหมาะสม ก็จะทำให้เมาส์ไร้สายกลายเป็นอุปสรรคต่อการใช้งาน ซึ่งหากใครที่กำลังจะเลือกซื้อเมาส์ไร้สายที่จะช่วยประหยัดพื้นที่ในการทำงาน หรือต้องการเมาส์สำหรับใช้พกพาไปทำงานนอกสถานที่ แต่ยังไม่ทราบว่าจะมีวิธีเลือกแบบไหนดี วันนี้ผู้เขียนมีเคล็ดลับดี ๆ จากประสบการณ์ตรงในการเลือกซื้อเมาส์ไร้สายมาฝากเพื่อน ๆ ครับ
1. ควรพิจารณาขนาดของเมาส์ที่เหมาะสมกับการใช้งาน

สำหรับการเลือกซื้อเมาส์แบบไร้สาย ดีไซน์หรือสีสันอาจจะเป็นสิ่งสำคัญก็จริง ซึ่งคนส่วนใหญ่ตอนเลือกซื้อคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องเลือกเมาส์จากความชอบเรื่องดีไซน์เป็นอันดับแรก แต่เพื่อน ๆ ทราบไหมครับว่า หากเราเลือกเมาส์ที่มีขนาดและรูปทรงของเมาส์ที่ไม่เหมาะกับมือของเรา เมื่อเราใช้งานติดต่อกันไปนาน ๆ จะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ทำให้เราปวดข้อมือ ปวดบ่า ปวดไหล่ หรือโรคที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย ๆ นั่นก็คือ ออฟฟิศซินโดรมนั่นเองครับ ซึ่งการเลือกซื้อเมาส์เราควรดูเมาส์ที่มีการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ที่เหมาะสมกับมือของผู้ใช้งาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานเมาส์ได้อย่างสบายมือ และเมาส์จำเป็นต้องมีขนาดพอดีกับมือของผู้ใช้งาน ไม่ควรจะเล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพื่อให้เราสามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกมากยิ่งขึ้นครับ
2. ควรพิจารณาจากค่า DPI
หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่ทราบว่า เมาส์จะมีค่า DPI ซึ่งเป็นค่าความเร็วของเมาส์ ในการขยับหรือเคลื่อนย้ายตำแหน่งเมาส์บนหน้าจอ โดยความเร็วการใช้งานส่วนใหญ่จะมีค่าเริ่มต้น DPI อยู่ที่ 800 – 1600 โดยค่า DPI แต่ละแบบก็จะมีความเหมาะสมในการใช้งานแตกต่างกัน เช่น เมาส์ที่มีค่า DPI 800 เหมาะสำหรับใช้งานประเภทโปรแกรมตัดต่ออย่าง เช่น Adoby PhotoShop เพราะค่า DPI น้อย การใช้ระยะของเมาส์ในการลากเส้นก็จะกว้างขึ้น สามารถทำงานหรือใช้งานกับโปรแกรมที่เน้นเก็บรายละเอียดได้ดีกว่า หากเป็นเมาส์ที่มีความเร็วระดับกลาง 1,200 DPI จะเหมาะสำหรับใช้งานทั่ว ๆ ไป และใช้โปรแกรมพื้นฐานอย่าง Microsoft Office ได้ และสำหรับใครที่ต้องการนำไปใช้สำหรับเล่นเกม ควรใช้เมาส์ที่มีค่า DPI สูง 1,600 – 1,800 เพราะการเคลื่อนไหวของเมาส์มีความเร็วสูง ทำให้ตอนนำไปเล่นเกม เมื่อต้องใช้ควบคุมตัวละครที่มีการเคลื่อนไหวหรือต้องเน้นใช้ความเร็ว ก็จะสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าครับ
3. ควรพิจารณาจากรูปแบบการใช้งานแบตเตอรี่

เมาส์ไร้สายจะใช้งานได้จำเป็นต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ ซึ่งเมาส์แต่ละรุ่นก็มีรูปแบบการใช้พลังงานที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่รูปแบบการใช้พลังงานของเมาส์ไร้สายที่คนมักนิยมใช้กันจะมี 2 รูปแบบ คือ เมาส์ไร้สายที่ใช้พลังงานจากถ่านไฟฉายและเมาส์ไร้สายที่ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่มีติดอยู่ภายในตัว โดยเมาส์แบบใช้พลังงานจากถ่านไฟฉายจะมีข้อดีตรงที่ไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะเสื่อม เมื่อพลังงานจากถ่านหมดก็สามารถถอดเปลี่ยนถ่านก้อนใหม่นำมาใส่ใช้งานต่อได้ ที่สำคัญสามารถใช้งานได้นานหลายเดือน แต่จะมีความยุ่งยากตรงที่อาจจะต้องเตรียมถ่านสำรอง หรือเมื่อถ่านหมดก็ต้องออกไปหาซื้อถ่านมาเปลี่ยน หากใครที่ไม่ชอบความยุ่งยาก เมาส์ที่ใช้พลังงานอาจจะไม่ตอบโจทย์ตรงจุดนี้ครับ ซึ่งเมาส์ไร้สายที่มีแบตเตอรี่ในตัวจะค่อนข้างสะดวกกว่าตรงที่สามารถชาร์จพลังงานของเมาส์ผ่านสาย USB เข้ากับอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เลยทันที แต่หากแบตเสื่อมสภาพ การใช้งานก็จะไม่เหมือนเดิม ไม่สามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่ การจะหาแบตเตอรี่มาเปลี่ยนก็เป็นเรื่องที่ทำได้ยาก คนส่วนใหญ่จึงใช้วิธีเปลี่ยนเป็นซื้อเมาส์ตัวใหม่แทนและทำให้เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มครับ
4. ควรพิจารณาเมาส์ที่ลดเสียงรบกวนได้
การใช้งานเมาส์แบบไร้สายนอกจากความต้องการในด้านของประสิทธิภาพการใช้งาน ความไวของเมาส์ หรือการพกพาที่สะดวกแล้ว อีกเหตุผลสำคัญที่ควรพิจารณาก่อนเลือกซื้อเมาส์แบบไร้สาย คือ ความเงียบของการใช้งาน ซึ่งหากเป็นที่ทำงานหรือสถานที่ที่เงียบ เสียงจากการคลิกเมาส์ของเราอาจจะสร้างความรำคาญหรือรบกวนคนอื่น ๆ ได้ ซึ่งเมื่อเราเลือกใช้เมาส์ที่มี Soft Click หรือเมาส์ที่ไร้เสียงมาใช้งาน ก็จะทำให้ไม่เกิดเสียงรบกวน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มสมาธิให้กับการทำงานหรือเล่นเกมได้
บทสรุปส่งท้าย
การเลือกซื้อเมาส์ไร้สายคู่ใจสักตัว นอกจากฟังก์ชันการทำงาน หรือดีไซน์ของเมาส์ที่มีความสำคัญแล้ว ควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานว่าเราจะนำเมาส์ไปใช้งานอย่างไร โดยเฉพาะหากคุณเป็นสายทำงานที่จำเป็นต้องออกไปใช้งานนอกสถานที่บ่อย ๆ เน้นการใช้งานแบบพกพา ต้องการประหยัดเนื้อที่การทำงาน ชอบความสะดวกสบาย ไม่ชอบอุปกรณ์ที่ใช้งานยาก เมาส์ไร้สาย จึงเป็นอุปกรณ์ที่ตอบโจทย์สำหรับการใช้งานตรงจุดนี้ได้ดีมาก ๆ ซึ่งข้อมูลและเคล็ดลับที่ผู้เขียนได้รวบรวมมาวันนี้ ผู้เขียนหวังว่าจะเป็นตัวช่วยที่ดีในการตัดสินใจสำหรับเพื่อน ๆ ที่กำลังจะตัดสินเลือกซื้อเมาส์ไร้สายแบบราคาประหยัดและมีคุณภาพได้นะครับ