ในปัจจุบันโลกมีความก้าวหน้ามากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะระบบอินเทอร์เน็ตที่ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งแทบจะทุกกิจกรรมในชีวิตประจำวันของเราไม่ว่าจะเป็น การติดต่อสื่อสาร การค้นหาข้อมูล การใช้สื่อออนไลน์เพื่อความบันเทิง รวมไปถึงบริการอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยอุปกรณ์ทุกเครื่องใช้ไฟฟ้าแทบทุกอย่างก็ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานหรือควบคุมด้วยระบบออนไลน์ได้ เช่น พัดลมไร้สาย ตู้เย็น โทรทัศน์ กล้องวงจรปิด ก็สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi และสั่งใช้งานผ่าน สมาร์ทโฟน ได้ทันที หากเป็น แล็ปท็อป หรือ คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ในปัจจุบันต่างก็มีอุปกรณ์เพื่อรับสัญญาณ Wi-Fi มาให้แทบทุกเครื่องอยู่แล้ว แต่บางรุ่นก็อาจจะต่อเน็ตได้ช้าหรือเกิดปัญหาตัวรับสัญญาณใช้งานไม่ได้ทำให้อุปกรณ์ Wireless USB Adapter หรือ USB Wi-Fi จึงถูกนำใช้เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้นั่นเอง
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่มีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นเก่าหรือแล็ปท็อปที่ตัวรับสัญญาณมีปัญหาแล้วต้องการใช้งาน Wi-Fi โดยวันนี้ผู้เขียนได้รวบรวม USB Wi-Fi ที่สามารถรับสัญญาณ Wi-Fi ได้ ราคาเป็นมิตร ใช้งานง่าย เน้นความสะดวก เพียงแค่ต่อตัวอะแดปเตอร์เข้ากับอุปกรณ์ก็สามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ตได้ทันที แต่จะมีรุ่นไหนสเปกแบบไหนเหมาะกับเพื่อน ๆ บ้าง ตามไปดูได้บทความนี้กันได้เลยครับ
Wireless USB Adapter คืออะไร ? และทำหน้าที่อะไร ?

Wireless USB Adapter หรือ USB Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับช่วยเพิ่มความแรงและประสิทธิภาพของการสัญญาณ Wi-Fi ในอุปกรณ์ต่าง ๆ โดยเป็นอุปกรณ์ที่ใช้เชื่อมต่อเข้ากับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะหรือแล็ปท็อปผ่านพอร์ต USB ได้ ถึงแม้ปัจจุบันอุปกรณ์รุ่นใหม่ ๆ จะมีตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ติดมาให้แบบสำเร็จรูปอยู่แล้ว แต่ USB Wi-Fi ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่เจอปัญหาอุปกรณ์รุ่นเก่าไม่มีตัวรับสัญญาณ Wi-Fi หากจะใช้สาย LAN ก็ไม่สะดวก รวมไปถึงอุปกรณ์บางรุ่นมีตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ที่คุณภาพต่ำ หรือตัวรับสัญญาณเสีย ซึ่ง USB Wi-Fi จะทำให้เราสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันที นอกจากการใช้งานที่ง่ายไม่มีอะไรซับซ้อนแล้วยังถูกออกแบบให้มีขนาดที่เล็ก พกพาได้สะดวก ทำให้การนำออกไปใช้งานนอกสถานที่ได้อย่างสบาย ๆ เลยทีเดียว
Wireless USB Adapter (ยูเอสบีไวไฟ) ยี่ห้อไหนดี ?
- Wireless USB Adapter รุ่นยอดนิยม ราคาประหยัด สามารถใช้คลื่น 2.4 GHz และ 5 GHz: UGREEN รุ่น 20204 AC650
- Wireless USB Adapter รองรับการใช้งานแบบ Dual Band มีพอร์ต USB 3.0: UGREEN รุ่น 50340
- Wireless USB Adapter จากแบรนด์คุณภาพ ใช้งานได้ทั้งระบบ Windows และ MacOS: TP-Link รุ่น Archer T3U
- Wireless USB Adapter สเปกแรง มีความเสถียร พร้อมเสาอากาศรับส่งสัญญาณ: TP-Link รุ่น Archer T4U
- Wireless USB Adapter Nano ขนาดเล็กกะทัดรัด ไม่กินพื้นที่ พกพาสะดวก: D-Link รุ่น DWA-181 Nano
![]() UGREEN รุ่น 20204 AC650 | ![]() UGREEN รุ่น 50340 | ![]() TP-Link รุ่น Archer T3U | ![]() TP-Link รุ่น Archer T4U | ![]() D-Link รุ่น DWA-181 Nano |
วิธีการเลือก Wireless USB Adapter
1. ความต้องการในการใช้งาน

สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ Wireless USB Adapter สิ่งแรกที่ควรพิจารณาเป็นอันดับแรก คือ ความเหมาะสมในการใช้งานนั่นเองครับ เพราะหากเรามีคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะรุ่นเก่าที่ไม่มีตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ไม่ได้มีความรู้เรื่องการประกอบคอมพิวเตอร์ที่ซับซ้อน หรือมีอุปกรณ์แล็ปท็อปที่ตัวรับสัญญาณเสีย ตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ไม่ดี ทำให้รับส่งข้อมูลได้ช้า หากเพื่อน ๆ เจอปัญหาเหล่านี้แนะนำให้ซื้อ USB Wi-Fi ได้เลยครับ เนื่องจาก USB Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ที่ใช้งานง่าย บางรุ่นไม่จำเป็นต้องติดตั้งซอฟต์แวร์เพียงแค่ต่อ USB เข้ากับอุปกรณ์ก็สามารถใช้งานได้ทันที เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากมาก ๆ ครับ
2. คลื่นความถี่และความเร็วในการรับส่งสัญญาณ
อินเทอร์เน็ตที่เราใช้งานในปัจจุบันจะมีการปล่อยสัญญาณผ่านคลื่นหลัก ๆ อยู่ 2 แบบ คือ 2.4 GHz และ 5 GHz ภายในอุปกรณ์ USB Wi-Fi ก็มีการรองรับคลื่นที่ต่างกัน รวมไปถึงอุปกรณ์ที่ปล่อยสัญญาณ Wi-Fi ซึ่งเราสามารถเลือกเชื่อมต่อได้ โดยคลื่นทั้ง 2 แบบมีจุดเด่นดังนี้
- 2.4 GHz รองรับความเร็วในการรับส่งข้อมูล 300 – 600 Mbps จุดเด่น คือ สามารถส่งสัญญาณได้ในระยะกว้างไกล คลื่นทะลุสิ่งกีดขวางได้ดี แต่ก็มีข้อจำกัดในเรื่องของสัญญาณที่ถูกรบกวนได้ง่าย เหมาะกับการใช้งานในทั่วไปที่มีอุปกรณ์น้อยหรือต้องการใช้สัญญาณที่กว้างและครอบคลุมพื้นที่มากกว่า
- 5 GHz รองรับความเร็วในการรับส่งข้อมูล 1200 – 1300 Mbps จุดเด่น คือ สามารถรับส่งข้อมูลได้เยอะและรวดเร็วกว่า 2.4 GHz โดยคลื่น 5 GHz ถูกรบกวนได้ยาก แต่มีข้อจำกัด คือ กระจายคลื่นความถี่ได้สั้น ครอบคลุมพื้นที่ได้แคบ เมื่อเจอสิ่งกีดขวางหรือกำแพงหนา ๆ ประสิทธิภาพจะลดลง เหมาะกับการใช้งานสื่อบันเทิง สตรีมมิง เล่นเกม รวมไปถึงการดาวน์โหลดไฟล์ที่มีขนาดใหญ่
3. การเชื่อมต่อตาม Interface ของพอร์ต USB
การใช้งาน USB Wi-Fi เรียกได้ว่าเป็นอุปกรณ์ที่สามารถใช้งานได้ง่ายและสะดวกมาก ๆ เพราะเราเพียงแค่เชื่อมต่อเข้ากับพอร์ต USB ของอุปกรณ์ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ทันที แต่ความเร็วในการเชื่อมต่อรวมไปการรับส่งข้อมูลก็มีความแตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับพอร์ตการเชื่อมต่อของ USB โดยจะมีตั้งแต่ USB 2.0 แบบ USB-A ซึ่งพอร์ต USB ประเภทนี้จะเป็นพอร์ตแบบมาตรฐานที่นิยมใช้ เพราะสามารถใช้งานร่วมกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปทั่ว ๆ ไปได้ ถึงแม้จะเป็นพอร์ตที่มีความเร็วต่ำสุด แต่ก็เพียงพอสำหรับการใช้งานทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันก็ได้มีการพัฒนาเวอร์ชันเป็น USB 3.0, USB 3.1, USB 3.2 และ USB4 ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น

4. ดีไซน์และการออกแบบ
สเปกการใช้งานนับว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือก USB Wi-Fi มาใช้งาน แต่ในส่วนของการดีไซน์และการออกแบบของอุปกรณ์ USB Wi-Fi ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เพราะการเลือกให้ดีไซน์ที่เหมาะกับขนาดของอุปกรณ์ย่อมทำให้การใช้งานสะดวกยิ่งกว่า หากเราจำเป็นต้องใช้งานกับอุปกรณ์ที่ต้องใช้งานนอกสถานที่อย่างแล็ปท็อป การใช้ USB Wi-Fi ที่มีขนาดเล็ก ไม่กินพื้นที่ ไม่เกะกะตอนใช้งาน ดีไซน์ให้จัดเก็บง่าย และพกพาสะดวก ก็จะทำให้ไม่เกิดปัญหาและอุปสรรคในการใช้งานครับ
UGREEN รุ่น 20204 AC650

ราคา 358 บาท*
UGREEN เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์สินค้าอุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ที่มีวัสดุที่ทนทาน มีคุณภาพ ราคาจับต้องได้ ทำให้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดย USB Wi-Fi ของ UGREEN ก็เป็นหนึ่งในสินค้าที่ทำยอดขายได้ดีเช่นกัน ซึ่งรุ่นที่จะนำมาแนะนำ คือ UGREEN รุ่น 20204 AC650 เป็น USB Wi-Fi มาพร้อมระบบ Dual Band สามารถรองรับคลื่นความถี่ได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz พร้อมกัน โดยที่ 2.4 GHz มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลสูงสุดอยู่ที่ 200 Mbps และ 5 GHz ความเร็วอยู่ที่ 433 Mbps ทำให้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างลื่นไหลไม่ว่าจะดูหนังหรือใช้เพื่อความบันเทิงก็ทำได้อย่างสบาย ๆ
โดย USB Wi-Fi รุ่นนี้มีขนาดเล็กเพียง 40 x 19 x 9 mm ทำให้พกพาได้สะดวก ตอนนำไปเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เพื่อใช้งานก็ไม่เกะกะ มีไฟ LED เพื่อบอกสถานะขณะกำลังใช้งาน แถมยังมาพร้อมกับฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB มาให้อีกด้วย และในส่วนของการใช้งานก็ไม่มีอะไรยุ่งยากหากเป็น Windows 10 หรือ 11 ก็สามารถเสียบ USB Wi-Fi รุ่นนี้เพื่อใช้งานได้เลยทันทีไม่จำเป็นต้องลง Driver ให้เสียเวลา รวมไปถึงยังครอบคลุมการทำงานทั้งในระบบ Windows, Linux และ MacOS อีกด้วย แต่ก็มีข้อจำกัดในส่วนของพอร์ต USB ที่ยังมีการใช้แบบ USB 2.0 ทำให้เหมาะกับการใช้งานทั่ว ๆ ไปมากกว่าครับ
จุดเด่น
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- รองรับระบบปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง Windows และ MacOS
- การรับส่งสัญญาณทำได้ดี มีความเสถียร
- มีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน
- มีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาได้สะดวก มาพร้อมกับฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB เมื่อไม่ได้ใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่รองรับระบบ Mac 11 ขึ้นไป
- มีเฉพาะ Windows 10 / 11 เท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ Driver ในการติดตั้ง
- เป็นพอร์ต USB แบบ 2.0 ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่เร็วมาก เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 200 Mbps ใน 2.4 GHz / 433 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 11 / 10 / 8.1 / 8 / 7 / Linux 2.6.18 - 5.3 / MacOS 10.11 - 10.15 |
UGREEN รุ่น 50340

ราคา 594 บาท*
UGREEN รุ่น 50340 เป็น USB Wi-Fi ถูกออกแบบมาให้มีความบางเบา มีดีไซน์ที่เรียบหรู พร้อมลวดลายเป็นเส้นตรงตัดสลับกัน รุ่นนี้มีฝาปิดพอร์ต USB ช่วยป้องกันฝุ่น และไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน มาพร้อมกับ Dual Band ทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz โดยรุ่นนี้มีพอร์ตแบบ USB 3.0 ทำให้สามารถถ่ายโอนข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ มีความเสถียร และรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 1300 Mbps ไม่ว่าจะใช้ค้นหาข้อมูล ทำงาน สตรีมมิง หรือดาวน์โหลดไฟล์ใหญ่ ๆ ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็วไม่มีสะดุด
สำหรับการใช้งาน USB Wi-Fi รุ่นนี้สามารถครอบคลุมการใช้งานทั้งระบบ MacOS, Linux และ Windows ซึ่งใน Windows 10 และ 11 สามารถเสียบเข้ากับพอร์ต USB และใช้งานได้ทันที หากเป็นระบบอื่น ๆ ก็จำเป็นต้องลง Driver ให้เรียบร้อยก่อนใช้งาน ซึ่งภายในกล่องก็จะมีแผ่น CD แถมมาให้หรือสามารถโหลดจากเว็บไซต์ของ UGREEN ได้ แต่รุ่นนี้หากนำมาเทียบกับ UGREEN รุ่น 20204 AC650 จะมีขนาดที่ยาวกว่า ทำให้เมื่อนำใช้กับแล็ปท็อปค่อนข้างที่จะเกะกะเล็กน้อย หากไม่ระวังอาจจะทำให้มือไปโดนและเกิดความเสียหายได้ ซึ่งหากใช้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะก็ไม่มีปัญหา แต่ในส่วนของคุณภาพและความเร็วรุ่น 50340 นี้ทำออกมาได้ดีกว่าครับ
จุดเด่น
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- รองรับระบบปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง Windows และ MacOS
- การรับส่งสัญญาณทำได้ดี รวดเร็ว มีความเสถียร
- มีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน
- ใช้พอร์ต USB 3.0 Type-A
- มาพร้อมกับฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB เมื่อไม่ได้ใช้งาน
- มีปุ่ม WPS เข้ารหัสความปลอดภัยแบบไร้สายได้
ข้อควรพิจารณา
- มีเฉพาะ Windows 10 / 11 เท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ Driver ในการติดตั้ง
- USB Wi-Fi มีขนาดที่ยาวกว่ารุ่นอื่น ๆ
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 400 Mbps ใน 2.4 GHz / 867 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 11 / 10 / 8.1 / 8 / 7 / Linux 2.6.18 - 5.3 / MacOS 10.11 - 12 |
Vention Adapter 2.4 GHz & 5 GHz

ราคา 249 บาท*
Vention Adapter 2.4 GHz & 5 GHz เป็น USB Wi-Fi ที่ราคาไม่แรง วัสดุทำจาก ABS มีขนาดเล็กกะทัดรัด ทำให้เหมาะสำหรับการพกพา หรือนำไปใช้งานโดยที่ไม่เป็นจุดเด่นหรือกินพื้นที่เลย แต่ถึงรุ่นนี้จะมีขนาดเล็กแต่ต้องบอกเลยว่าคุณภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ารุ่นอื่น ๆ เพราะในรุ่นนี้สามารถรองรับการสลับใช้งานแบบ Dual Band ทำให้สามารถรับคลื่นความถี่ได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz โดยความเร็วในการรับส่งข้อมูลของ 2.4 GHz อยู่ที่ 150 Mbps และ 5 GHz ความเร็วอยู่ที่ 433 Mbps ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น ดูหนัง เล่นโซเชียล ก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาครับ
สำหรับความพิเศษของรุ่นนี้ก็คือ การลง Driver ที่ง่ายและสะดวก ซึ่งภายใน USB ถูกออกแบบมาให้มี Driver ในตัว ซึ่งไม่จำเป็นต้องใช้แผ่น CD หรือ ต้องโหลดตัวโปรแกรมในเว็บไซต์ เพียงแค่ต่อ USB เข้ากับอุปกรณ์ และคลิกติดตั้งตัวซอฟต์แวร์ ก็สามารถใช้งานได้ทันที ซึ่งรุ่นนี้รองรับระบบปฏิบัติการ Windows 11 / 10 / 8.1 / 8 / 7, Vista, XP และ etc แต่น่าเสียดายที่รุ่นนี้เป็นพอร์ต USB 2.0 และบริเวณพอร์ตเชื่อมต่อไม่ได้มีฝาปิดสำหรับป้องกันฝุ่นมาให้แบบ UGREEN รุ่น 20204 AC650 ทำให้ตอนพกพาไปด้านนอกหรือใส่กระเป๋าอาจจะไปกระแทกกับของชิ้นอื่นจนเกิดความเสียหายได้ ดังนั้นจึงควรเก็บใส่กระเป๋าหรือแยกช่องใส่ USB ไว้ไม่รวมกับของชิ้นอื่น ๆ จะดีที่สุดครับ
จุดเด่น
- มี Driver ในตัว USB ไม่จำเป็นต้องใช้ CD หรือดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- ราคาประหยัด
- มีขนาดเล็ก พกพาสะดวก
ข้อควรพิจารณา
- เป็นพอร์ต USB แบบ 2.0 ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่เร็วมาก เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- ไม่มีฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 150 Mbps ใน 2.4 GHz / 433 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 11 / 10 / 8.1 / 8 / 7, Vista, XP และ etc |
TP-Link รุ่น Archer T3U

ราคา 790 บาท*
เมื่อพูดถึงอุปกรณ์สำหรับ Wi-Fi แบรนด์ TP-Link ต้องเป็นชื่อที่ในโลกของ IT ต้องนึกถึงขึ้นมาเป็นอันดับต้น ๆ อย่างแน่นอน เนื่องจากแบรนด์นี้มีการผลิต Router และอุปกรณ์เครือข่ายอินเทอร์เน็ตมากมาย โดย USB Wi-Fi ของ TP-Link รุ่น Archer T3U เป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ด้วยดีไซน์การออกแบบที่มีความสวยงาม วัสดุมีความมันเงา มีขนาดเล็ก น่าใช้งาน เหมาะกับการพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ มาพร้อมไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน โดยรุ่นนี้ใช้พอร์ต USB Type-A แบบ 3.0 ทำให้มีการถ่ายข้อมูลเร็วกว่า USB 2.0 ถึง 10 เท่า และยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ที่เป็นพอร์ต USB 2.0 ได้อย่างสบาย
USB Wi-Fi รุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทั้งคลื่น 2.4 GHz ความเร็ว 400 Mbps และคลื่น 5GHz ในความเร็ว 867 GHz ทำให้เหมาะสำหรับดูหนังหรือสตรีมมิงที่มีคุณภาพระดับระดับความชัดแบบ HD ไม่ว่าจะเล่นเกมออนไลน์ ท่องเว็บ หรือดาวน์โหลดไฟล์งานที่มีขนาดใหญ่ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และการใช้งานก็ไม่ยุ่งยาก เพราะรุ่นนี้รองรับระบบ Windows และ MacOS โดยเมื่อเสียบพอร์ตเข้ากับ Windows 10 อุปกรณ์ก็สามารถใช้งานได้ทันที หากเป็น Windows รุ่นอื่น ๆ ก็สามารถลง Driver ใน CD ที่แถมมาให้ในกล่อง หรือสามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จากทางเว็บไซต์เพื่อเพิ่มความเสถียรให้กับการใช้งานได้อีกด้วยครับ
จุดเด่น
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- รองรับระบบปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง Windows และ MacOS
- มีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน
- ใช้พอร์ต USB 3.0 Type-A
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 400 Mbps ใน 2.4 GHz / 867 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 10 / 8.1 / 8 / 7, XP และ MacOS X |
TP-Link รุ่น Archer T4U

ราคา 990 บาท*
TP-Link รุ่น Archer T4U เป็นอีกหนึ่งตัวท็อปที่ราคาไม่แรงจนเกินไป แถมคุณภาพดีไม่แพ้ตัวรับสัญญาณในราคาหลักพัน โดยรุ่นนี้รองรับการเชื่อมต่อ Dual Band 2.4 GHz และ 5 GHz ความเร็วไร้สาย 1300 Mbps โดย 2.4 GHz ความเร็ว 400 Mbps และ 5 GHz ความเร็ว 867 Mbps มีพอร์ตแบบ USB 3.0 ทำให้ความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูลสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากกว่า USB 2.0 งานประกอบของรุ่นนี้ทำได้ดี เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรงทนทานและน้ำหนักเบา มาพร้อมกับเสาอากาศขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการรับส่งสัญญาณให้มีคุณภาพที่ดีมากยิ่งขึ้น เสาอากาศสามารถพับเก็บได้เมื่อไม่ได้ใช้งาน อีกทั้งมีปุ่ม WPS ทำให้เข้ารหัสความปลอดภัยแบบไร้สายได้
สำหรับรุ่นนี้รองรับการใช้งานทั้งระบบ Windows, Linux และ MacOS X โดยจะมีตัว Drive แถมมาให้ในกล่อง หรือสามารถโหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์ได้ แต่มีข้อควรพิจารณา คือ มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ ซึ่งหากใช้งานกับแล็ปท็อปที่ต้องพกพาแน่นอนว่าค่อนข้างเกะกะเลยทีเดียว แต่ด้วยคุณภาพการใช้งานที่มีความเสถียรเกือบจะเท่ากับใช้สาย LAN เหมาะสำหรับการใช้สตรีมมิง เล่นเกมออนไลน์ ดูหนังคุณภาพระดับ HD และดาวน์โหลดไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว ที่สำคัญราคาไม่ถึงพันถือว่าเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่ามาก ๆ ครับ
จุดเด่น
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- รองรับระบบปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง Windows, Linux และ MacOS
- มีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน
- ใช้พอร์ต USB 3.0 Type-A
- มีเสาอากาศเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ตัวเสาสามารถพับเก็บได้
- มีปุ่ม WPS เข้ารหัสความปลอดภัยแบบไร้สายได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB
- มีขนาดที่ค่อนข้างใหญ่ แต่สามารถรับส่งสัญญาณได้เร็วและมีประสิทธิภาพ
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 400 Mbps ใน 2.4 GHz / 867 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 10 / 8.1 / 8 / 7, XP, Linux และ MacOS X 10.7 - 10.10 |
TP-Link TL-WN823N

ราคา 270 บาท*
TP-Link TL-WN823N เป็น USB Wi-Fi รุ่นราคาประหยัด ของทางแบรนด์ TP-Link โดยวัสดุเป็นพลาสติกมีเนื้อสัมผัสที่มันเงา มีฝาปิดพอร์ต USB ช่วยป้องกันเศษฝุ่นและสิ่งสกปรกได้ อุปกรณ์มีขนาดเล็กกะทัดรัดประมาณ 39 x 18.35 x 7.87 mm ทำให้เหมาะสำหรับการพกพา ถึงแม้จะเป็นรุ่นเล็กแต่ก็สามารถรับสัญญาณได้เป็นอย่างดี มีความเสถียร และภายในตัว USB มีเสาอากาศในตัวถึง 2 ต้น ความเร็วอยู่ที่ 300 Mbps รวมไปถึงมีปุ่ม WPS เข้ารหัสความปลอดภัยแบบไร้สายได้ อีกทั้งยังมีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับการนำไปใช้งานทั่วไปและใช้เป็นอุปกรณ์สำรองในการรับส่งสัญญาณ Wi-Fi ได้เป็นอย่างดี
โดยรุ่นนี้สามารถใช้งานได้ทั้งในระบบ Windows, Linux และ MacOS โดยสามารถโหลด Driver จาก CD หรือหากอุปกรณ์ไม่มีช่องใส่แผ่น CD ก็สามารถโหลดซอฟต์แวร์จากเว็บไซต์โดยตรงได้ แต่โดยรวมแล้ว USB Wi-Fi รุ่นนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นอุปกรณ์เชื่อมต่อ Wi-Fi แบบสำรองหรือใช้งานทั่ว ๆ ไปมากกว่า เพราะเนื่องจากเป็นพอร์ตแบบ USB 2.0 และรองรับการทำงานของคลื่นความถี่เพียง 2.4 GHz หากใช้งานทั่ว ๆ ไป หรือใช้รับชมวิดีโอต่าง ๆ ก็สามารถใช้งานได้อย่างเพียงพอแล้วครับ
จุดเด่น
- มีปุ่ม WPS เข้ารหัสความปลอดภัยแบบไร้สายได้
- รองรับระบบปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง Windows, Linux และ MacOS
- มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบาเพียง 0.1 kg
- มาพร้อมกับฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB เมื่อไม่ได้ใช้งาน
- มีไฟ LED แสดงสถานะการทำงาน
- ราคาประหยัด
ข้อควรพิจารณา
- มีเฉพาะ Windows 10 / 11 เท่านั้นที่ไม่จำเป็นต้องใช้ Driver ในการติดตั้ง
- รับสัญญาณได้เร็วสุดเพียง 300 Mbps
- เป็นพอร์ต USB แบบ 2.0 ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่เร็วมาก เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- รองรับการใช้งานเฉพาะคลื่น 2.4 GHz
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 300 Mbps ใน 2.4 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 10 / 8.1 / 8 / 7, XP, Linux และ MacOS X 10.7 - 10.10 |
Comfast รุ่น CF-812AC

ราคา 269 บาท*
Comfast รุ่น CF-812AC เป็น USB Wi-Fi ขนาดเล็กที่ราคาประหยัด ตัวดีไซน์ทำออกมาให้มีขนาด 37.5 x 17 x 8.5 mm ซึ่งมีขนาดเล็กมากไม่ว่าจะใช้งานกับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปก็ไม่เกะกะ แต่รุ่นนี้จะไม่มีไฟแสดงสถานะการทำงานให้นะครับ จุดเด่นของรุ่นนี้ คือ สามารถใช้งานแบบ Dual Band ได้ โดยรับสัญญาณได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5GHz ด้วยความเร็วมากถึง 1300 Mbps โดยความเร็ว 400 Mbps ใน 2.4 GHz และความเร็ว 867 Mbps ใน 5 GHz รุ่นนี้ใช้พอร์ต USB 3.0 ทำให้สามารถใช้งานดูหนังหรือวิดีโอได้อย่างลื่นไหล
รุ่นนี้มี 2 โหมดการทำงาน คือโหมด Station Mode เพื่อรับสัญญาณ Wi-Fi ทำให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อสามารถรับสัญญาณ Wi-Fi เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพสัญญาณอินเทอร์เน็ตให้กับคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อปได้ ส่วนอีกโหมด คือ การสร้าง Wi-Fi Hotspot โดยจะเปิดสัญญาณ Wi-Fi จากคอมพิวเตอร์หรือแล็ปท็อป เพื่อให้อุปกรณ์อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็นมือถือหรือแท็บเล็ตสามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบไร้สายได้ ซึ่ง USB Wi-Fi รุ่นนี้สามารถใช้งานร่วมกับระบบ Windows และ MacOS โดยจะมีตัว Driver แถมมาให้ภายในกล่องหรือสามารถดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ได้ เพียงเท่านี้ก็สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเสถียรมากยิ่งขึ้น
จุดเด่น
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- รองรับระบบปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง Windows และ MacOS
- ใช้พอร์ต USB 3.0 Type-A
- สามารถใช้เป็นตัวรับสัญญาณ Wi-Fi และสร้าง Wi-Fi Hotspot ได้
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีไฟ LED บอกสถานะการทำงาน
- ไม่มีฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 3.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 400 Mbps ใน 2.4 GHz / 867 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 10 / 8.1 / 8 / 7, XP และ MacOS 10.9 -10.14 |
Asus รุ่น USB-AC53 Nano

ราคา 550 บาท*
สำหรับใครที่ต้องใช้แล็ปท็อปออกไปข้างนอกแนะนำเป็นรุ่นนี้เลยครับ Asus รุ่น USB-AC53 Nano เป็นอุปกรณ์ที่ใช้รับส่งสัญญาณ Wi-Fi ที่มีขนาดเล็ก สามารถรองรับสัญญาณได้ถึง 2 คลื่นแบบ Dual Band ที่รับได้ทั้ง 2.4 GHz และ 5 GHz มีความเร็วการรับส่งข้อมูลจะอยู่ที่ 1200 Mbps โดยจะแบ่งเป็น 867 Mbps ใน 5 GHz และ 300 Mbps ใน 2.4 GHz รุ่นนี้มีจุดเด่นที่มีขนาดเล็กกะทัดรัดมาก ๆ ขนาดประมาณ 20 x 14 x 7 mm ทำให้สะดวกในการใช้งาน เหมาะกับการใช้คู่กับแล็ปท็อปหรือพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ อีกทั้งตัวรับสัญญาณรุ่นนี้มีเทคโนโลยี MU-MIMO สามารถกระจายสัญญาณให้กับหลาย ๆ อุปกรณ์ได้โดยที่ไม่ดึงความเร็วของกันและกันทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตมีความเสถียร
แต่ในรุ่นนี้ยังคงใช้พอร์ตแบบ USB 2.0 อยู่ และความเร็วของการรับส่งข้อมูลโดยรวมเพียง 1200 Mbps ซึ่งรุ่นอื่น ๆ ในราคาใกล้เคียงกันอย่าง TP-Link รุ่น Archer T3U มีความเร็วของการรับส่งข้อมูลรวมไปถึงใช้พอร์ต USB 3.0 ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้รวดเร็วกว่านั่นเอง แต่หากเป็นในด้านของการดีไซน์หรือขนาดของความสะดวกในการใช้งาน Asus รุ่นนี้จะมีขนาดที่เล็กกว่าทำให้ใช้งานได้อย่างสบายไม่กินพื้นที่หรือดูเกะกะเลย ที่สำคัญมีความเสถียร ทำให้ใช้งานแบบทั่ว ๆ ไปไม่ว่าจะดูหนัง เล่นเกมก็สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหาเลยครับ
จุดเด่น
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- รองรับระบบปฏิบัติการครอบคลุมทั้ง Windows และ MacOS
- มีเทคโนโลยี MU-MIMO ทำให้กระจายสัญญาณให้กับหลาย ๆ อุปกรณ์ได้อย่างเสถียร
- มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาได้สะดวก ไม่เกะกะเวลาใช้งาน
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB
- เป็นพอร์ต USB แบบ 2.0 ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่เร็วมาก เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 300 Mbps ใน 2.4 GHz / 867 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 10 / 8 / 7 และ MacOS 10.7 -10.12 |
D-Link รุ่น DWA-181 Nano

ราคา 550 บาท*
D-Link รุ่น DWA-181 Nano เป็นอุปกรณ์รับสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบไร้สายขนาดเล็ก พกพาง่าย ใช้งานได้สะดวก สามารถใช้งานแบบ Dual Band และรับสัญญาณจาก Router รุ่นเก่าได้ ซึ่งจะมีความเร็วของการรับส่งสัญญาณ 400 Mbps ในคลื่น 2.4 GHz และ 867 Mbps ในคลื่นความถี่ 5 GHz ที่มีประสิทธิภาพทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตได้อย่างเพลิดเพลินไม่ว่าจะเป็นการชมภาพยนตร์ เล่นเกม การติดต่อสื่อสาร การท่องเว็บไซต์ ก็สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็ว โดยรุ่นนี้เป็นพอร์ต USB 2.0 ซึ่งเป็นพอร์ตมาตรฐานทำให้สามารถใช้งานได้ทั้งคอมพิวเตอร์และแล็ปท็อป
รุ่นนี้มีจุดเด่นตรงที่มีขนาดที่เล็กมาก ๆ รวมไปถึงการใช้งานที่ง่ายเพียงแค่เสียบเข้ากับอุปกรณ์แล้วทำการดาวน์โหลดซอฟต์แวร์จาก Driver ใน CD หรือ ดาวน์โหลดจากเว็บไซต์ของ D-Link จากนั้นทำการติดตั้งก็สามารถใช้งานได้ทันที เรียกได้ว่าเป็น USB Wi-Fi อีกหนึ่งรุ่นที่เหมาะสำหรับคนที่ใช้งานแล็ปท็อปมาก ๆ เพราะด้วยดีไซน์ที่มีขนาดเล็กทำให้ไม่กินเนื้อที่และไม่ดูสะดุดตาจนเกินไปขณะใช้งาน ที่สำคัญสามารถใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน มีความเร็วการรับส่งสัญญาณที่เสถียร ได้มาตรฐาน หากเทียบกับ Asus รุ่น USB-AC53 Nano ที่เป็นตัวรับสัญญาณขนาดเล็กและสเปกที่ไม่ต่างกันมาก D-Link รุ่นนี้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่าและราคาประหยัดกว่าครับ
จุดเด่น
- รองรับคลื่นความถี่ 2.4 GHz และ 5 GHz
- มีขนาดเล็ก กะทัดรัด พกพาได้สะดวก ไม่เกะกะเวลาใช้งาน
- มีไฟ LED บอกสถานะการทำงาน
- มีเทคโนโลยี MU-MIMO ทำให้กระจายสัญญาณให้กับหลาย ๆ อุปกรณ์ได้อย่างเสถียร
ข้อควรพิจารณา
- ไม่มีฝาปิดป้องกันฝุ่นและรอยของพอร์ต USB
- เป็นพอร์ต USB แบบ 2.0 ทำให้ความเร็วในการรับส่งข้อมูลไม่เร็วมาก เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
พอร์ตเชื่อมต่อ | USB 2.0 |
---|---|
ความถี่ | 2.4 GHz / 5 GHz |
อัตราการส่งข้อมูล | 400 Mbps ใน 2.4 GHz / 867 Mbps ใน 5 GHz |
ระบบปฏิบัติการที่รองรับ | Windows 10 / 8.1 / 8 / 7 |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ยังมีคำถามคาใจว่าจะซื้อ Wireless USB Adapter รุ่นไหนมาใช้ดี ? USB Wi-Fi ยังจำเป็นอยู่ไหม ? การรับส่งสัญญาณ Wi-Fi ดีไหม ? ซึ่งจากมุมมองของผู้เขียน USB Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการตัวรับสัญญาณ Wi-Fi ที่สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวก รวดเร็ว รวมไปถึงคนที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของการรับสัญญาณ Wi-Fi ในอุปกรณ์รุ่นเก่า ๆ หรืออุปกรณ์รับส่งสัญญาณ Wi-Fi ช้ามีปัญหาบ่อย USB Wi-Fi จึงเป็นอุปกรณ์ที่จะทำให้เราสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ดียิ่งขึ้น ผู้เขียนหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้เพื่อน ๆ ที่กำลังตัดสินใจเลือกซื้อ USB Wi-Fi ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่ารุ่นไหนเหมาะกับการใช้งานของตัวเองและนำไปใช้งานได้อย่างคุ้มค่าที่สุดครับ