แฟชั่น Y2K คืออะไร ?
Y2K ย่อมาจาก Year 2000 เป็นแฟชั่นได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงกลางทศวรรษ 90 ไปจนถึงต้นทศวรรษ 2000 ซึ่งเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตกำลังเฟื่องฟูและได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ดังนั้นสไตล์ของ Y2K จึงเน้นไปที่ความล้ำยุคดูทันสมัยเหมือนโลกในอนาคต ซึ่งเสื้อผ้าและแฟชั่นที่นิยมในสมัยนั้จะเป็นพวกวัสดุแวววาว, รองเท้าส้นตึก, กางเกงวอร์มกำมะหยี่, กระโปรงเทนนิส, กระเป๋าทรง Baguette หรือแว่นกันแดดสีสันสดใส เราจะเห็นว่าแฟชั่น Y2K มีผสมผสานระหว่าง Popular Culture และเทรนด์สีสันที่ดูฉูดฉาด อย่างเฉดสีเงินประกายมุกหรือสีเมทัลลิคก็เป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมในยุคนั้นเลยก็ว่าได้

หลาย ๆ คนอาจมองว่าสไลต์การแต่งตัวแบบ Y2K เป็นหายนะทางแฟชั่น เพราะเทรนด์ Y2K จะเป็นแฟชั่นแห่งโลกอนาคต ที่มาพร้อมกลิ่นอายความวินเทจหน่อย ๆ การแต่งตัวแนวนี้จึงมีเส้นแบ่งกั้นบาง ๆ ระหว่าง “ความแปลก” และ “ความเก๋ไก๋” (ซึ่งก็ขึ้นอยู่มุมมองของแต่ละคน) แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เป้าหมายที่แท้จริงของแฟชั่น Y2K คือการปล่อยให้คุณแสดงตัวตนในรูปแบบของตัวเองมากที่สุดค่ะ
ต้นกำเนิดของแฟชั่น Y2K
หากคุณเกิดหลังทศวรรษ 2000 เป็นต้นไป คุณจะไม่ค่อยอินกับการเปลี่ยนแปลงในสมัยนั้นสักเท่าไหร่ แต่หากคุณเติบโตมากับยุค 2000 คุณจะทราบได้ทันทีว่ามันเป็นยุคที่มีการนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เรียกว่าเป็นยุคแห่งความหวังของโลกอนาคตเลยก็ว่าได้ เพราะในช่วงนั้นเกิดภาวะ “ฟองสบู่ดอทคอม (Dot-com Bubble)” ที่บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Microsoft ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็น โทรศัพท์แบบฝาพับ, คอนโซลเกม รวมถึงตัวอินเทอร์เน็ตที่เริ่มมีความเสถียรและเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
ซึ่งนักร้องและดาราระดับ Hollywood ที่มีอิทธิพลต่อแฟชั่นในยุคนั้นก็มีด้วยกันหลายคนเลยค่ะ อาทิเช่น Britney Spears, Paris Hilton, Christina Aguilera, Lindsay Lohan, Destiny’s Child หรือจะเป็นภาพยนตร์เรื่องดัง ๆ อย่าง The Matrix (1999) หรือ Mean Girls (2004) และทุกอย่างที่กล่าวมานั้น ได้ถูกหล่อหลอมจากเหล่าคนดังทั้งหลาย จนกลายมาเป็นแฟชั่น Y2K ในปัจจุบันนั้นเองค่ะ
ทำไมแฟชั่นยุค 2000 (Y2K) ถึงกลับมาเป็นนิยมอีกครั้ง ?
จริง ๆ แล้วมนุษย์เราทุกคนล้วนมีความทรงจำที่ดีกับอดีตนะคะ (แต่จะมากหรือน้อยนั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย) แต่สิ่งหนึ่งที่เราสามารถการันตีได้เลยก็คือคุณมักจะเก็บเสื้อผ้าตัวเก่งที่เคยนิยมมาก ๆ ในสมัยก่อนไว้ในส่วนลึกของตู้เสื้อผ้า เพราะเผื่อว่าในวันข้างหน้ามันจะกลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง และคุณจะได้หยิบชุดตัวโปรดมาสวมใส่ได้อย่างเฉิดฉาย
และแน่นอนค่ะ กับประโยคที่ว่า “แฟชั่นไม่มีวันตาย” นั้น ก็ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงซะด้วย เราทุกคนต่างก็โหยหาสิ่งเก่า ๆ ของเดิม ๆ เมื่อวันเวลาร่วงโรยไปตามกาลเวลา ดังนั้นแฟชั่นจึงเป็นเหมือนวัฏจักรที่มีการวนลูปซ้ำไปซ้ำมา ซึ่งเราจะเห็นได้จากนักออกแบบดีไซน์เนอร์ระดับแนวหน้าของวงการแฟชั่นที่มักนำแฟชั่นเก่า ๆ ในช่วงยุค 80-90 มาจุดประกายสร้างเทรนด์ใหม่อยู่เสมอ

ตัวอย่างล่าสุดคุณจะเห็นว่ามีเทรนด์บนแอปพลิเคชัน TikTok ที่ผู้คนเริ่มหยิบเสื้อผ้าตัวเก่า ๆ ช่วงปี 2000 มาสวมใส่เพื่อทำคอนเทนต์กันอย่างสนุกสนาน และมันก็เริ่มเป็นคลิปที่นิยมและแพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากมีการประยุกต์ดัดแปลงแฟชั่น Y2K ให้เข้ากับเทรนด์ในสมัยนี้ ซึ่งในคลิปเหล่านั้นก็จะมีผู้คนหลากหลายกลุ่มมาร่วมทำชาเลนจ์กัน ไม่ว่าจะเป็น กลุ่ม Gen Z หรือกลุ่ม Millennials ต่างก็เริ่มออกมาสร้างกระแสแฟชั่น Y2K ที่สะท้อนให้เห็นถึงสิ่งต่าง ๆ ที่น่าจดจำในยุค 2000 กันอีกครั้ง

ดังนั้นในบทความนี้ เราจึงอยากแนะนำคุณเกี่ยวกับพื้นฐานของแฟชั่น Y2K รวมถึงทุกสิ่งที่คุณจำเป็นต้องรู้ และวิธีที่จะนำแฟชั่นเหล่านั้นกลับมาใช้ได้อย่างไม่ตกเทรนด์กันค่ะ
รวมไอเดีย แต่งตัวสไตล์ Y2K แบบไม่ตกเทรนด์
1. เสื้อยืดเด็ก (เสื้อครอปท็อป)

จริง ๆ แล้วก็ไม่เชิงว่าคุณจะต้องเอาเสื้อยืดเด็กมาใส่หรอกนะคะ มันแค่เป็นชื่อเรียกเฉย ๆ ในความเป็นจริงดีไซน์ของเสื้อแนวนี้จะถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กจิ๋ว เมื่อสวมใส่แล้วจะทำให้เข้ารูปและเห็นสัดส่วนที่ชัดเจน ซึ่งจะให้ลุคที่ดูน่ารักสดใสเหมือนวัยทีน และโดยปกติแล้วเสื้อยืดประเภทนี้มักจะเป็นทรงครอปท็อปที่ถูกตัดส่วนล่างเหนือสะดือขึ้นไป ลักษณะคล้ายกับเสื้อเอวลอย แต่จะมีไซส์ที่พอดีกับหน้าอก ในส่วนของลวดลายเสื้อนั้นก็ไม่ได้มีข้อกำหนดตายตัว คุณอาจจะเลือกเสื้อที่เน้นตัวอักษรสวย ๆ ลายการ์ตูนน่ารัก ๆ หรือลายกราฟิกเท่ ๆ เก๋ ๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีค่ะ
![]() | เสื้อครอปแฟชั่น ลายน่ารัก โซคิ้วท์มาก ๆ มีให้เลือก 28 แบบ | |
![]() | เสื้อครอปท็อป คอกลม พิมพ์ลายสไตล์เกาหลี | |
![]() | Baby-T Croptop เสื้อครอปทูโทน สกรีนลาย |
หรือหากคุณอยากให้ลุคตัวเองดูเข้ากับเทรนด์ในสมัยปัจจุบันขึ้นมาหน่อย คุณอาจจะเปลี่ยนเสื้อเป็นสีพาสเทลหรือสีเอิร์ธโทนที่เรียบง่าย ๆ ก็ได้ลุคแบบมินิมอลแล้วค่ะ
![]() | เสื้อครอปแขนสั้น เนื้อผ้าคอตตอน สีทูโทน 20 สี | |
![]() | เสื้อครอป สีเอิร์ทโทน มีให้เลือก 3 ทรง (Slim / Regular / Oversize) |
2. เสื้อสายเดี่ยว / เสื้อเกาะอก / เสื้อกล้าม

สำหรับสาว ๆ ที่มีความมั่นใจขึ้นมาอีกหน่อย คุณอาจจะเปลี่ยนจากเสื้อยืดธรรมดามาเป็นเสื้อสายเดี่ยว เสื้อกล้าม หรือเกาะอกที่รัดรูปให้เห็นส่วนเว้าส่วนโค้งก็ได้นะคะ จริง ๆ แล้วแฟชั่น Y2K ก็ไม่มีกฎเกณฑ์อะไรมากมาย อยู่ที่ว่าคุณชอบใส่เสื้อผ้าแนวไหน หากคุณเป็นคนเหงื่อออกง่าย การสวมใส่เสื้อสายเดี่ยวก็จะช่วยระบายอากาศความร้อนได้ดี หรือว่าหากคุณเป็นสาวขี้อาย คุณอาจจะสวมเสื้อคลุมคาร์ดิแกนทับไว้อีกชั้น เพียงเท่านี้ก็สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ชุดให้เข้ากันได้อย่างลงตัวแล้วค่ะ จุดเด่นของแฟชั่น Y2K คือสีสันและลวดลายจะต้องเป็นลายตัวอักษร ลายผีเสื้อ หรือลายหัวใจเป็นต้นค่ะ
![]() | Y2K สายเดี่ยวแบบสุ่มลายสกรีน | |
![]() | เสื้อสายเดี่ยวไหมพรม ปักลายหัวใจตรงหน้าอก | |
![]() | เสื้อแขนกุดแบบครอป สีชมพู-ขาว | |
![]() | เสื้อเกาะอกสีชมพู ติดเพชรลายผีเสื้อ ผ้ากำมะหยี่ |
3. กระเป๋าบาแกตต์ (Baguette Bag)

กระเป๋าบาแกตต์ชื่อนี้มีที่มาที่ไปเพราะรูปทรงคล้ายกับขนมปังของฝรั่งเศส มันสามารถใช้สะพายตรงช่วงไหล่หัวไหล่หรือจะถือเฉย ๆ ก็ได้ มีขนาดเล็กกำลังดี จุของได้ไม่เยอะ แต่ก็ใส่ของที่จำเป็นได้ครบจดในใบเดียว ถือว่ากระเป๋าทรง Baguette เป็นอีกหนึ่งตำนานในยุค 90 ที่ดังมาก ๆ ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าปัจจุบันนี้เริ่มมีแบรนด์ชั้นนำหลายแบรนด์ออกแบบกระเป๋าทรง Baguette กันมากขึ้นอีกครั้ง แม้ว่าในด้านการใช้งานกระเป๋าทรง Baguette จะสู้กระเป๋าทรงอื่นไม่ได้ แต่ก็เรียกว่าเป็นกระเป๋าอเนกประสงค์ เพราะมันสามารถนำมาแมทช์ให้เข้าชุดประจำวันได้ทุกลุคเลยค่ะ ดังนั้นหากคุณอยากให้ Total Look ของตัวเองออกมาเป็นสาวยุค 2000 อย่างเพอร์เฟค แนะนำให้ลองซื้อ Louis Vuitton Pochette หรือ Fendi Baguette มาใช้ดูค่ะ เพราะทรงสวยจริงเข้ากันได้กับทุกชุด บอกเลยว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ามาก ๆ
4. เสื้อผ้าสีเทามันเงา (สีเงินเมทัลลิค)

หากจะพูดถึงสีที่เป็นเอกลักษณ์ของปี 2000 ก็ยกให้สีเทาเลยค่ะ ซึ่งไม่ใช่สีเทาธรรมดาทั่วไปด้วยนะคะ ต้องเป็นสีเทามันวาวที่มีประกายมุกด้วยถึงจะเรียกว่าเป็นสีแห่งปี 2000 เนื่องจากในยุคนั้นเต็มไปด้วยความเฟื่องฟูของเทคโนโลยี แนวแฟชั่นจึงคล้อยตามกระแสโลกในยุคอนาคตโดยการเน้นผลิตเสื้อผ้าที่มีวัสดุแวววาวในเฉดสีเงินออกมาเป็นจำนวนมาก ทำให้มันกลายเป็นสียอดนิยมในยุคนั้นเลยค่ะ
ทั้งนี้หากคุณรู้สึกว่าสไตล์มันดูโดดเด่นมากเกินไปก็สามารถเลือกจับคู่สี Silver Metallic กับสีอื่น ๆ ที่สดใสได้ อาทิเช่น ชมพู ฟ้า หรือม่วงค่ะ และพยายามประโคมเครื่องประดับให้น้อยที่สุด เนื่องจากสี Silver Metallic ค่อนข้างสะท้อนแสงได้ดีอยู่แล้วค่ะ นอกจากนี้คุณอาจจะจับคู่กับเสื้อตาข่ายสีดำก็ช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาเข้ากันมากเลยค่ะ
5. ชุดวอร์มผ้ากำมะหยี่
สำหรับแฟนชั่นชุดวอร์มกำมะหยี่ในไทยอาจจะไม่ค่อยฮิตมากเท่าไหร่ (เนื่องจากอากาศที่ร้อนมากเกินไป) แต่ในต่างประเทศนั้นเรียกว่าเป็นแฟชั่น Y2K ที่สาว ๆ นิยมใส่มากที่สุด ซึ่งปัจจุบันนี้ก็มีหลายแบรนด์ได้นำชุดวอร์มกำมะหยี่มาปรับปรุงออกแบบใหม่ให้สวยงามและดูทันสมัยขึ้น อาทิเช่น Juicy Couture และ Baby Phat

อย่างล่าสุดนี้!! เราจะเห็นได้ว่าสาวเจนนี่ วง BLACKPINK ได้ถ่ายรูปลง IG ส่วนตัวของเธอ ที่มาพร้อมกับชุดวอร์มกำมะหยี่สีเขียวอ่อนกับแว่นตาทรงวินเทจสุดปัง ที่ทำให้ชาวเน็ตหลายคนหวนนึกถึงแฟชั่น Y2K Old School ที่เหล่าเซเลบริตี้คนดังในอเมริกากำลังฮิตใส่กันมาก ๆ ในช่วงปี 2000 ไม่ว่าจะเป็น JLo (Jennifer Lopez), Paris Hilton และ Britney Spears และทางเราก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าสาวเจนนี่จะทำให้ชุดวอร์มกำมะหยี่กลับมาเป็นกระแสอีกครั้ง ดังนั้นหากคุณยังไม่อยากตกเทรนด์ Y2K Old School รีบต้องรีบจัดมาสักชุดแล้วค่ะ
6. กระโปรงจีบสั้น / กระโปรงพลีท / กระโปรงเทนนิส / มินิสเกิร์ต
|
ก่อนอื่นต้องขอท้าวความก่อนว่า Bratz Doll เป็นตุ๊กตาสัญชาติอเมริกา ซึ่งจะมีความแตกต่างจากตุ๊กตา Barbie อย่างสิ้นเชิง
ตุ๊กตา Bratz จะมีลักษณะหัวโตกว่า แถมยังมีดวงตาเป็นรูปอัลมอนด์ที่แต่งแต้มด้วยอายแชโดว์สีจัด ๆ และริมฝีปากหนา ๆ รวมถึงภาพลักษณ์การแต่งตัวของตุ๊กตา Bratz ก็ค่อนข้างทันสมัยกว่าด้วย ดังนั้นจึงทำให้ตุ๊กตา Bratz เป็นตุ๊กตาที่ขายดีที่สุดในช่วงต้นทศวรรษ 2000 และรวมถึง “กระโปรงจับจีบสั้น” สีสันสดใสที่ขายในเซตเสื้อผ้าของตุ๊กตา Bratz จึงทำให้กระโปรงทรงนี้กลายเป็นที่นิยมมากขึ้นอีกครั้ง |
จริง ๆ แล้วเจ้ากระโปรงจับจีบสั้นมีอีกชื่อว่า “กระโปรงเทนนิส หรือ กระโปรงพลีท” เป็นกระโปรงมินิสเกิร์ต (สั้นเหนือเข่าขึ้นไป) ที่สาว ๆ ใส่แล้วจะให้ความรู้สึกน่ารักดูอ่อนหวานแต่แอบเซ็กซี่หน่อย ๆ ยิ่งจับคู่กับเสื้อสเวตเตอร์ยิ่งเข้ากันมาก พร้อมทั้งสวมหมวกเบเร่ต์ และรองเท้าส้นตึกหนา ๆ เรียกว่าเป็นวัยรุ่น Y2K อย่างเต็มตัวเลยค่ะ นอกจากนี้หากเราเจาะลึกลงไปจะเห็นว่ากระโปรงพลีท (Pleated Skirts) นั้นเริ่มเปิดตัวครั้งแรกตั้งแต่ช่วงปี 1995 ที่มาในลวดลายผ้าลายสก๊อต ซึ่งผู้นำเทรนด์ในตอนนั้นคือนักแสดงหลักในภาพยนตร์เรื่อง Clueless (1995) จึงทำให้กระโปรงพลีทเป็นที่รู้จักมากขึ้นและยังคงความนิยมต่อมาจนถึงยุค 2000 เลยค่ะ

![]() | กระโปรงเทนนิสเอวสูง มีซับใน สีพาสเทลแบบแฟชั่นเกาหลี | |
![]() | กระโปรงสั้นแบบจับจีบ กระโปรงเทนนิสเอวสูง มีเชือกรัดด้านข้าง | |
![]() | กระโปรงเทนนิสเอวสูง กระโปรงพลีทจับจีบด้านล่าง |
แต่สิ่งเปลี่ยนไปเล็กน้อยก็คือกระโปรงพลีทยุค 2000 ได้ดัดแปลงจากผ้าลายสก๊อตมาเป็นเฉดสีที่หลากหลายกว่า ซึ่งเราจะสังเกตได้จากภาพยนตร์เรื่อง Mean Girls (2004) ในตัวละครผู้หญิงที่ Popular ที่สุดในโรงเรียน พวกเธอมักจะสวมกระโปรงทรงนี้กันแทบตลอดทั้งเรื่องเลยก็ว่าได้ แต่สาว ๆ ใน Mean Girls จะเน้นเป็นเอวต่ำ หากคุณอยากใส่กระโปรงจับจีบให้ดูทันสมัยมากขึ้น เราขอแนะนำให้เลือกแบบที่เป็น “กระโปรงเอวสูง” ค่ะ รับรองว่าจะใส่คู่กับเสื้อทรงไหนก็สวย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อสเวตเตอร์ขนาดใหญ่ เสื้อครอป หรือเสื้อยืดรัดรูปตัวจิ๋ว แถมยังช่วยทำให้ดูเอวเล็กลงด้วยนะคะคอนเฟิร์มเลยจ้า
7. เสื้อคาร์ดิแกน
หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าเสื้อคาร์ดิแกนคืออะไร ? และมันต่างจากเสื้อคลุมทั่วไปอย่างไร ? จริง ๆ แล้วเสื้อคาร์ดิแกนนั้นก็คือเสื้อกันหนาวชนิดหนึ่ง แต่จะมีเนื้อผ้าที่บางกว่า วัสดุที่ใช้ทำก็มีหลากหลายแบบ ซึ่งอาจจะทำจากไหมพรม, เส้นใยไลครา, เส้นใยธรรมชาติ หรือเนื้อผ้าลินินก็ได้ แต่โดยทั่วไปแล้วเสื้อคาร์ดิแกนจะมีเนื้อผ้ายืดหยุ่นสูงมาก ทั้งยังช่วยทำให้ร่างกายของคุณอบอุ่นได้แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกร้อนมากเกินไปด้วย ดังนั้นมันจึงเหมาะสำหรับสวมใส่ในทุกฤดู โดยเฉพาะกับชาวออฟฟิศที่ต้องนั่งทำงานในห้องแอร์ทุกวัน

ทั้งนี้ในการเลือกเสื้อคาร์ดิแกนมาใส่แบบไม่ให้ตกเทรนด์นั้น คุณสามารถใช้เสื้อคาร์ดิแกนทำเป็นเสื้อคลุมสวมทับแบบชั้นนอกก็ได้ หรือจะสวมเสื้อคาร์ดิแกนเฉย ๆ อย่างเดียวก็ได้เช่นกัน ในส่วนของดีไซน์นั้นอาจจะเป็นเสื้อคาร์ดิแกนที่มีกระดุมหน้า, เชือกผูกเป็นโบว์ข้างหน้า หรือจะเป็นตะขอเกี่ยวที่ทำจากเครื่องเงินเป็นต้น นอกจากนี้เสื้อคาร์ดิแกนก็ยังมีความยาวของแขนเสื้อให้เลือกหลากหลาย ทั้งแขนยาว แขนสั้น หรือแขนสามส่วนก็มีค่ะ
![]() | เสื้อไหมพรมแขนสั้นกระดุมหน้า เสื้อคาร์ดิแกน รุ่น เจนนี่ BLACKPINK | |
![]() | เสื้อคลุมคาร์ดิแกนแขนยาว สีเขียว L-XXL | |
![]() | เสื้อคลุมไหมพรมแขนยาว เสื้อคาร์ดิแกน เสื้อคลุมแหวกอก แซ่บเวอร์ |
แนะนำให้เลือกเสื้อคาร์ดิแกนที่มีขนาดพอดีกับตัว ไม่ควรเลือกเสื้อคาร์ดิแกนที่ใส่แล้วดูหลวมเกินไป คุณอาจจะใส่เสื้อข้างในเป็นสายเดี่ยวโทนสีอ่อนอย่างสีครีมหรือสีพีช แล้วจับคู่เสื้อคาร์ดิแกนกับกระโปรงจีบสั้น เพียงเท่านี้ก็จะได้ลุคสาว Y2K แล้วค่ะ หรือหากคุณมีความมั่นใจหน่อย ก็อาจจะใส่เฉพาะเสื้อคาร์ดิแกนอย่างเดียวแล้วติดกระดุมข้างหน้า 1-2 เม็ดเท่านั้น เพื่อโชว์ให้เห็นเนินอกและหน้าท้องสวย ๆ ก็จะได้ลุคสาวเซ็กซี่ขี้เล่นขึ้นมาเลยค่ะ แต่แต่!!!! อย่าลืมปิดจุกด้วยแผ่นปิดหน้าอกหรือบราปีกนกก่อนนะคะ 😛
8. ดับเบิ้ลเดนิม (Double Denim)

ดับเบิ้ลเดนิม (Double Denim) หากจะให้แปลแบบเข้าใจง่าย ๆ ก็คือการสวมยีนส์ทั้งตัว ไม่ว่าจะเป็น กางเกงยีนส์ทรงทั่วไป, กางเกงยีนส์ขาเดฟ, กางเกงยีนส์เอวสูง, กางเกงยีนส์ขาสั้น หรือ กระโปรงยีนส์ ก็ตาม สาเหตุที่ดับเบิ้ลเดนิมนับเป็นแฟชั่น Y2K ด้วยเนื่องจากช่วงนั้นมีคู่รักคนดังแห่งปี 2000 อย่าง Britney Spears และ Justin Timberlake ได้สวมใส่ยีนส์ทั้งตัวไปออกงานในปี 2001 จึงทำให้ดับเบิ้ลเดนิมกลายเป็นแฟชั่นของ Y2K ไปด้วย ซึ่งล่าสุดนี้เราจะเห็นว่าเริ่มมีดารานักร้องหลายคนกลับสวมดับเบิ้ลเดนิมอีกครั้ง ข้อแนะนำเดียวที่เราอยากบอกคุณในการใส่ดับเบิ้ลเดนิมให้ออกมาสวย ก็คือพยายามใส่โทนสีที่สอดคล้องกัน (โทนเดียวกัน) และอาจจะตัดด้วยเฉดสีอื่น ๆ อย่างรองเท้าบูทสีเข้ม, กระเป๋าทรงบาแกตต์ หรือแว่นกันแดดทรงสกินนี่ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ลุคสาวสายฝอแล้วค่ะ
![]() | iFashion กางเกงยีนส์ผู้หญิงขาเดฟ เอวสูง แต่งแถบข้าง | |
![]() | กางเกงยีนส์ขาเดฟเอวสูงผ้ายืด ลายปีกนก เข้ารูปสวยเป๊ะ ไซส์ S-36 | |
![]() | กางเกงยีนส์ขายาวทรงกระบอก ถอดขากางเกงได้ |

แต่หากคุณอยากใส่ดับเบิ้ลเดนิมในลุคเกาหลีเกาใจ คุณอาจจะแต่งตัวตามนักร้องสาว Rosé วง BLACKPINK ที่เธอได้มีการจับคู่เฉดสีของเดนิมทั้งสีเข้มและสีอ่อนเอาด้วยกัน หรืออาจจะให้ชิ้นใดชิ้นหนึ่งโดดเด่นมากกว่ากันด้วยการเพิ่มผ้าระบายและลูกไม้ลงไป หากคุณยังไม่มั่นใจก็ขอให้เลือกกระโปรงยีนส์หรือกางเกงยีนส์ขาสั้น แล้วสวมด้วยแจ็กเก็ตยีนส์อีกชั้น เพียงเท่านี้ก็เอาลุคดับเบิ้ลเดนิมได้อยู่หมัดแล้วค่ะ
9. กางเกงคาร์โก้ / กระโปร่งคาร์โก้

หลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทรงคาร์โก้ (Cargo) ที่ว่านี้คืออะไร ? จริง ๆ แล้วทรงคาร์โก้ก็คือเสื้อผ้าสไตล์หลวม ๆ แบบโอเวอร์ไซส์ ที่มีกระเป๋าข้างขนาดใหญ่อยู่บนตัวกางเกงหรือกระโปรง เหมาะสำหรับลุคสาวเท่แบบชิลล์ ๆ อย่าง (อดีต) นักร้องสาว Rihanna และนักแสดงสาว Zendaya ก็มักสวมใส่กางเกงหรือกระโปรงทรงคาร์โก้อยู่บ่อยครั้ง
![]() | กางเกงขายาวผู้หญิง กางเกงคาร์โก้ มีเชือกตรงเข็มขัด สไตล์ Y2K | |
![]() | คาร์โก้ กางเกงขายาวเอวสูงทรงกระบอก | |
![]() | กางเกงยีนส์ขากระบอกเอวสูง แต่งกระเป๋าข้าง |
กางเกงหรือกระโปรงทรงคาร์โก้จะทำจากวัสดุได้หลากหลาย อาทิเช่น ผ้าลูกฟู, ผ้าฝ้าย, ผ้าเดนิม หรืออาจจะเป็นผ้าเรยอนที่ยืดได้สบายสุด ๆ และโดยส่วนใหญ่กางเกงหรือกระโปรงทรงคาร์โก้จะเน้นไปที่สีเดียวเท่านั้น ซึ่งอาจจะเป็นโทนสีสดใส, สีฉูดฉาด ไปจนถึงสีเอิร์ธโทน (เป็นสีที่นิยมมากที่สุด) กางเกงหรือกระโปรงทรงคาร์โก้จะเหมาะกับเสื้อครอปและรองเท้าส้นตึกมาก ๆ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแฟชั่น Y2K ที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยค่ะ ดังนั้นหากคุณอยากย้อนวัยกลับไปยุค 2000 ก็ต้องจัดมาสักตัวแล้วนะคะ
![]() | กระโปรงสั้นผ้ายีนส์ แต่งกระเป๋า 2 ข้าง ทรงคาร์โก้ Y2K | |
![]() | กระโปรงกางเกงทรงคาร์โก้ เอวสูง มีเข็มขัดในตัว | |
![]() | กระโปรงกางเกงสั้น ทรงคาร์โก้ Y2K ผ้ายืดใส่สบาย |
10. กิ๊บติดผม สีสันสดใส

ที่คาดผมซิกแซก, กิ๊บติดผมรูปผีเสื้อ, ลูกปัดติดผมสีสันสดใส สิ่งเหล่านี้บ่งบอกถึงแฟชั่นสไตล์ Y2K ในยุคนั้นได้ดีเลยทีเดียวค่ะ ทั้งยังสามารถเข้ากันได้กับทุกชุดที่แราแนะนำมาในหัวข้อก่อน ๆ เครื่องประดับผมเหล่านี้ค่อนข้างใช้งานง่าย ถอดออกก็ง่าย แถมยังมีราคาไม่แพง แนะนำให้คุณลองรวบผมหางม้าครึ่งหัวแบบ Ariana Grande จากนั้นก็กิ๊บสีสันสดใสเหล่านี้ลงไปก็จะได้สาวลุค 2000 ที่น่ารักและดูอ่อนเยาว์แล้วค่ะ
11. รองเท้าผ้าใบหนา ๆ / รองเท้าส้นตึก

สำหรับสาว ๆ ไซส์มินิที่มีความสูงประมาณ 150-155 ซม. (รวมถึงตัวผู้เขียนด้วย อิอิ) จะต้องชอบแฟชั่น Y2K ในหัวข้อนี้อย่างแน่นอนค่ะ เพราะว่าเป็นรองเท้าส้นตึกที่หนามาก ๆ ยิ่งสูงยิ่งหนายิ่งสวย แต่ก็เสี่ยงข้อเท้าพลิกมากเลยค่ะ ต้องเดินอย่างระมัดระวังด้วยนะคะ
บอกเลยว่าสมัยนั้นผู้เขียนชอบรองเท้าทรงนี้มากค่ะ เพราะช่วยทำให้เราดูสูงขึ้น แต่ก็ยังคงสไตล์ความน่ารักสดใสวัยทีนไว้ได้ น่าเสียดายที่ในปัจจุบันนี้รองเท้าส้นตึกแบบดีไซน์ยุค 2000 หาซื้อไม่ได้แล้ว แต่ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเทรนด์แฟชั่นในปัจจุบันก็ออกแบบรองเท้าที่มีส้นหนา ๆ มาอย่างสวยงาม ทั้งยังมีหลายสไตล์ หลายสีสันให้เลือกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น รองเท้าหนัง, รองเท้าหนังแก้ว, รองเท้าแตะสูง ๆ หรือรองเท้าใบผ้าหนา ๆ ก็มีให้เลือกหมดเลยจ้า
![]() | รองเท้าแตะพื้นสูง น้ำหนักเบา ใส่สบาย | |
![]() | รองเท้าส้นตึก สีดำ | |
![]() | รองเท้าบูทส้นตึก (รุ่น BBS บูทส้นตึก) ส้นสูง 9 ซม. | |
![]() | Converse รุ่น Run Star Hike |
12. หูฟังครอบหัว
จริง ๆ แล้วในยุคปี 2000 “โซนี่วอล์คแมน (Sony Walkman)” ค่อนข้างเป็นนิยมมาก ๆ มันเป็นเครื่องเล่นเพลงขนาดเล็ก สามารถพกพาออกไปข้างนอกได้ ซึ่งจะมีตั้งแต่ เครื่องเล่นเพลงแบบเทป ไปจนถึง เครื่องเล่นเพลงแบบแผ่น CD

เครื่องเล่นเพลงเหล่านี้ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ที่เป็นก้อนเล็ก ๆ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นเครื่องเล่นเพลงที่กินแบตฯ มาก T^T (เสียเงินไปกับค่าแบตฯ มากกว่าเอาไปซื้อเทปอีกค่ะ) และเมื่อเรามีเครื่องเล่นเพลงแล้ว สิ่งขาดไม่ได้เลยก็คือ “หูฟัง” ซึ่งเราอาจจะใช้เป็นหูฟังอินเอียร์แบบธรรมดาทั่วไปก็ได้ค่ะ แต่หากใส่หูฟังแบบนั้นมันจะมีขนาดเล็กมาก ประเดี๋ยวผู้คนรอบข้างก็จะไม่รู้ว่าเรามีวอล์คแมน 😀 เพราะราคาวอล์คแมนต่อเครื่องก็หลายตังค์อยู่นะคะ ยิ่งเป็นแบบ CD ยิ่งแพงเป็น 2,000-5,000 บาท

ดังนั้นเพื่อให้ชาวบ้านรู้ว่าเรามีวอล์คแมน ก็ต้องสวมหูฟังแบบครอบหัวอันใหญ่ ๆ ที่เห็นได้ง่ายค่ะ (ฮ่า ๆ) ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องปกติของคนยุคนั้นเลยก็ว่าได้ แต่สมัยนี้มีหูฟังครอบหัวชนิดไร้สายแล้วก็เลยสะดวกมากขึ้นหน่อย เพราะไม่ต้องมานั่งแกะสายที่พันกันให้เสียเวลา ซึ่งคุณสามารถเลือกสีสันได้ตามใจชอบเพื่อนำไปใช้กับสมาร์ทโฟนของคุณได้เลยค่ะ