เส้นผมเป็นส่วนที่สำคัญรองมาจากผิวหน้า เพราะถ้าเรามีเส้นผมที่สวยเราก็จะยิ่งสวยขึ้นนั่นเอง ปัจจุบันเทรนด์ดูแลเส้นผมให้สวยมีน้ำหนักกำลังมาแรง หลายคนนั้นมีผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมเก็บไว้เป็นคลังแสงเลยก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นแชมพู, ดรายแชมพู, ครีมนวดผม, ไอเทมดูแลเส้นผมที่แห้งเสีย ฯลฯ แต่แน่นอนค่ะทุกคนมีอีกเทรนด์นึงที่ไม่เคยดรอปลงไปกว่าเทรนด์การดูแลเส้นผมนั่นก็คือ “เทรนด์การเปลี่ยนสีผม” นั่นเอง
การเปลี่ยนสีผมเป็นที่นิยมมากของสาวเอเชีย เพราะสาวเอเชียส่วนใหญ่มักมีผมสีดำ น้ำตาลเข้มหรือน้ำตาลอ่อนไม่เหมือนกับสาว ๆ โซนยุโรปที่จะมีผมสีบลอนด์ สีทองที่ดูสวยสะดุดตา แต่การเปลี่ยนสีผมแต่ละครั้งก็ทำให้เราสูญเสียเงินไปมิใช่น้อย เพราะบางคนผมยาวมากจะให้ทำเองด้วยผลิตภัณฑ์แบบครีมก็คงไม่ไหว เลยต้องตัดสินใจไปร้านทำผมแต่ราคาก็แพงแสนแพงซะเหลือเกิน แต่วันนี้คุณไม่ต้องกังวลอีกต่อไปเพราะเรามี “ผลิตภัณฑ์โฟมเปลี่ยนสีผม” ด้วยตัวเองมาแนะนำให้คุณได้เลือกซื้อ
การย้อมผมด้วยโฟมเป็นวิธีที่ง่ายแสนง่าย เพราะเพียงแค่สระผมแบบเดียวกับการใช้แชมพูคุณก็จะได้สีผมที่ดูสวยสะดุดตาแล้ว ไม่ว่าผมจะยาวจะสั้นแค่ไหนก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินในราคาแพงแพงค่ะ การทำสีผมนั้นมีประโยชน์มาก หลายคนอาจจำเป็นต้องใช้แชมพูเปลี่ยนสีผมเพื่อปิดผมขาวหรือใช้เพื่อเปลี่ยนรูปแบบสีผมให้กับตัวเองเพื่อให้มีความมั่นใจมากขึ้น โฟมย้อมผมเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันมากในญี่ปุ่นและเกาหลี แต่จุดกำเนิดจริง ๆ ของผลิตภัณฑ์นี้ก็คือประเทศญี่ปุ่นค่ะ แบรนด์โฟมย้อมผมที่ได้รับความนิยมมากในญี่ปุ่นคือโฟมย้อมผมแบรนด์ Liese ค่ะ เมื่อนำแบรนด์นี้มาวางขายในประเทศไทยก็ได้รับความนิยมมากเพราะใช้งานได้ง่าย แน่นอนว่าถึงแม้โฟมย้อมผมบางยี่ห้อจะมีราคาแพงกว่าครีมย้อมผมแต่ก็คุ้มค่าที่จะได้ลองใช้ค่ะ หากวันนี้คุณต้องการเปลี่ยนสีผมด้วยวิธีง่าย ๆ เราก็มีผลิตภัณฑ์ย้อมผมชนิดโฟมมาแนะนำกันค่ะ
ความแตกต่างของผลิตภัณฑ์ย้อมผมแบบครีม VS แบบโฟม
ผลิตภัณฑ์ย้อมผมแบบครีม
ผลิตภัณฑ์ชนิดนี้มีลักษณะเป็น 2 ส่วนในกล่องผลิตภัณฑ์นั่นก็คือ ครีมเปลี่ยนสีผม 1 หลอด และดีเวลลอปเปอร์ที่มีลักษณะเป็นน้ำใส ๆ เมื่อนำมาผสมกันก็จะกลายเป็นเนื้อครีมละเอียด การย้อมผมด้วยครีมย้อมผมจะทำยากกว่าการใช้แบบโฟม เพราะต้องทาให้ทั่วทุกเส้นผม อีกทั้งยังมีกลิ่นค่อนข้างฉุน บางคนอาจเกิดอากาศแพ้ได้ แต่ที่สำคัญคือผลิตภัณฑ์แบบครีมจะให้สีที่ทนทานกว่านั่นเองค่ะ
ผลิตภัณฑ์ย้อมผมแบบโฟม
การย้อมผมแบบโฟมเหมาะสำหรับสาว ๆ ที่ชอบเปลี่ยนสีผมบ่อย ๆ แต่ไม่อยากไปเข้าซาลอนแพง ๆ โดยผลิตภัณฑ์นี้จะมีส่วนผสม 2 ส่วนเช่นกันแต่ที่แตกต่างคือจะเป็นลักษณะของเหลว และจะมีขวดหัวปั๊มมาให้ เพียงแค่เปลี่ยนฝาเป็นฝาปั๊มโฟมก็จะทำให้มีโฟมคล้าย ๆ แชมพูออกมา ทำให้เราใช้งานได้ง่าย ล้างออกง่ายแบบครีม แต่มีข้อเสียคือสีไม่ทนทานเท่าแบบครีมและมีราคาแพงกว่าค่ะ
วิธีเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ย้อมผมชนิดโฟมที่ดีที่สุด
เฉดสีที่คุณต้องการ
ส่วนใหญ่แล้วโฟมย้อมผมจะมีให้เลือกหลายสี ในบางยี่ห้ออาจจะมีเฉดสีที่แตกต่างกันไปประมาณ 20 เฉดสี ในขณะนี้บ้านเราโฟมย้อมผมสีเทา สีน้ำตาลเทาและสีน้ำตาลชมพูกำลังได้รับความนิยม แต่โปรดจำไว้เสมอว่าถึงแม้แต่ละยี่ห้อจะมีเฉดสีที่เหมือนกันแต่เมื่อนำมาใช้งานแล้วเฉดสีที่ได้อาจดูแตกต่างกันได้ขึ้นอยู่กับแบรนด์ด้วย โฟมย้อมผมนั้นมีสีผมมากมายให้เลือก มีตั้งแต่สีธรรมชาติไปจนถึงเทรนด์ที่แปลกใหม่ แต่แน่นอนว่าในบางครั้งเฉดสีที่คุณเลือกมันไม่ได้ตรงกับหน้ากล่องเสมอไปนั่นเป็นเพราะเฉดสีผมเดิมของคุณเป็นปัจจัยสำคัญในการเปลี่ยนสีผม หากคุณต้องการย้อมผมสีอ่อนแต่พื้นฐานเดิมคุณมีเส้นผมสีเข้ม โฟมย้อมผมนั้นก็ไม่สามารถให้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการได้ แต่ถ้าคุณอยากได้สีผมตามหน้ากล่องเป๊ะ ๆ แนะนำให้กัดสีผมก่อนเสมอ
ส่วนผสมบำรุงเส้นผม
เมื่อซื้อโฟมย้อมผมองค์ประกอบของโฟมย้อมผมเป็นสิ่งสำคัญมาก บางครั้งโฟมย้อมผมที่คุณเลือกซื้ออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อหนังศีรษะและเส้นผมของคุณ ขอแนะนำให้เลือกโฟมย้อมผมที่มีส่วนผสมบำรุงผมอย่างน้ำมันโจโจ้บาและโปรตีน โดยทั่วไปแล้วสารเหล่านี้มักจะอ่อนโยนต่อหนังศีรษะ และแน่นอนว่าคุณควรหลีกเลี่ยงโฟมย้อมผมที่ทำจากแอมโมเนียและเปอร์ออกไซด์ เพราะสารเหล่านี้อาจจะสะสมบนหนังศีรษะของคุณและทำให้ผมร่วงค่ะ นอกจากนี้อย่าลืมเลือกโฟมย้อมผมที่มีทรีตเมนต์มาให้ในตัวเพราะจะได้บำรุงเส้นผมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ปกติแล้วโฟมย้อมผมเกือบทุกยี่ห้อมักจะมีทรีตเมนต์มาให้อยู่แล้ว แต่ก็ควรสำรวจก่อนซื้อเสมอ
ความติดทนนาน
สิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ของโฟมย้อมผมที่ดีที่สุดคืออายุการใช้งานยาวนาน โฟมย้อมผมบางชนิดสามารถให้สีผมที่อยู่ได้นานถึง 2 เดือน แต่แน่นอนว่าทั้งนี้ทั้งนั้นมักจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมและการใช้ชีวิตของคุณด้วย หากคุณสระผมบ่อย ๆ ใช้แชมพูขจัดรังแค ออกแดดบ่อยโดยไม่ได้ปกป้องเส้นผมเลย สีผมที่คุณทำมาก็จะเปลี่ยนสีเร็ว ดังนั้นเมื่อทำสีผมเสร็จแล้วคุณจำเป็นต้องดูแลเส้นผมให้ดีที่สุด วิธีนี้จะทำให้อายุการใช้งานของโฟมย้อมผมเพิ่มขึ้นและคุณเองก็ไม่จำเป็นต้องทำสีผมบ่อย ๆ อีกต่อไปค่ะ
เคล็ดลับในการเปลี่ยนสีผม
- เลือกสีผมที่เหมาะกับตัวเอง การเลือกสีผมให้เหมาะกับตัวเองเป็นเรื่องที่สำคัญมาก สีผมที่ชอบอาจจะไม่ใช่สีผมที่ทำแล้วดูดีก็เป็นได้ สีผมที่ดีควรเหมาะและเข้ากับผิวของเรา ถ้าหากคุณมีผิวโทนขาวอมชมพู ควรย้อมผมสีโทนน้ำตาลแดง น้ำตาลเทา น้ำตาลชมพู เพราะจะทำให้คุณโดดเด่นมากยิ่งขึ้น ส่วนคนที่มีผิวโทนเหลือง คุณเหมาะกับสีทอง เช่น น้ำตาลทอง บลอนด์ทอง หรืออาจจะเป็นน้ำตาลช็อกโกแลต เพราะสีเหล่านี้จะช่วยให้ผิวคุณสว่างมากยิ่งขึ้น
- ก่อนย้อมผมไม่ควรสระผม หรืออาจจะสระโดยไม่ลงครีมนวดและควรเป่าให้แห้ง เพื่อป้องกันผมเสียจากการย้อม
- ควรมีวาสลีน โลชั่นหรือเบบี้ออยล์ ก่อนที่จะย้อมผมควรทาวาสลีนบริเวณกรอบหน้า ใบหูและหลังคอ เพราะจะช่วยไม่ให้ยาย้อมผมติดซึมบริเวณผิว ถ้าใครไม่มีวาสลีนอาจจะใช้เป็นเบบี้ออยก็ได้แต่ประสิทธิภาพอาจจะไม่เทียบเท่า
- ควรใช้ถุงมือทุกครั้งขณะย้อม ถุงมือเป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการย้อมผม เพราะจะช่วยป้องกันสีผมติดบริเวณฝ่ามือได้
- แบ่งผมออกเป็นส่วน ๆ ก่อนย้อม การแบ่งผมจะช่วยทำให้สีผมติดอย่างสม่ำเสมอ ถ้าหากไม่แบ่งผมอาจจะทำให้สีผมกระดำกระด่างได้
- ก่อนจะล้างผมควรชโลมน้ำซักนิดแล้วนวดผมประมาณ 5 นาที วิธีนี้จะช่วยให้สีผมติดอย่างสม่ำเสมอด้วยเช่นกัน
- หมักผมด้วยทรีตเมนต์หลังย้อมผม การหมักผมจะช่วยป้องกันผมแห้งเสีย ช่วยให้ผมนุ่มลื่นและจะช่วยให้สีผมติดทนมากขึ้น
รีวิว โฟมเปลี่ยนสีผม Palty Foam Pack Hair Color

ราคา 250 บาท*
ปริมาณ | แฮร์ คัลเลอร์ 38 ml. และ ดีเวลลอปเปอร์ 75 ml. |
---|---|
เฉดสี | 12 เฉดสี |
มีทรีตเมนต์บำรุงผมมาให้ | ✔ |
มีถุงมือมาให้ | ✔ |
รีวิว โฟมเปลี่ยนสีผม Liese Creamy Bubble Color

ราคา 259 บาท*
ปริมาณ | แฮร์ คัลเลอร์ 34 ml. และ ดีเวลลอปเปอร์ 66 ml. |
---|---|
เฉดสี | 10 เฉดสี |
มีทรีตเมนต์บำรุงผมมาให้ | ✔ |
มีถุงมือมาให้ | ✔ |
รีวิว โฟมเปลี่ยนสีผม Mise En Scene Hello Bubble Foam Color

ราคา 269 บาท*
ปริมาณ | แฮร์ คัลเลอร์ 40 ml. และ ดีเวลลอปเปอร์ 80 ml. |
---|---|
เฉดสี | 17 เฉดสี |
มีทรีตเมนต์บำรุงผมมาให้ | ✔ |
มีถุงมือมาให้ | ✔ |
รีวิว โฟมเปลี่ยนสีผม Schwarzkopf Freshlight foam

ราคา 249 บาท*
ปริมาณ | แฮร์ คัลเลอร์ 30ml. และ ดีเวลลอปเปอร์ 60 ml. |
---|---|
เฉดสี | 12 เฉดสี |
มีทรีตเมนต์บำรุงผมมาให้ | ✔ |
มีถุงมือมาให้ | ✔ |
รีวิว โฟมเปลี่ยนสีผม Beautylabo Whip Hair Color

ราคา 280 บาท*
ปริมาณ | แฮร์ คัลเลอร์ 40 ml. และ ดีเวลลอปเปอร์ 80 ml. |
---|---|
เฉดสี | 15 เฉดสี |
มีทรีตเมนต์บำรุงผมมาให้ | ✔ |
มีถุงมือมาให้ | ✔ |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
ตารางเปรียบเทียบ รีวิว ผลิตภัณฑ์โฟมเปลี่ยนสีผมด้วยตัวคุณเอง ไม่ต้องง้อร้าน ยี่ห้อไหนดี ปี 2021 | ||||
---|---|---|---|---|
ยี่ห้อ/รุ่นสินค้า | คุณสมบัติ | ดูเพิ่มเติม | ||
| ||||
| ||||
| ||||
| ||||
|
วิธีใช้โฟมย้อมผมที่ถูกต้อง
- ผสมส่วนผสมให้เข้ากันดีโดยการคว่ำขวดขึ้นลงช้า ๆ ประมาณ 5 ครั้ง ห้ามเขย่าเด็ดขาดเลยค่ะ เพราะจะเสียประสิทธิภาพ (บางยี่ห้ออาจจะมีวิธีผสมที่แตกต่าง ควรอ่านวิธีใช้อย่างละเอียดก่อนทำ)
- เปลี่ยนเป็นฝาให้เป็นฝาปั๊มโฟม แล้วบีบตรงกลางขวดเบา ๆ
- ชโลมโฟมให้โดยเริ่มจากโคนผมไปยังปลายผมให้ชุ่ม ๆ จนทั่วศีรษะ
- ค่อย ๆ นวดศีรษะเบา ๆ จนเนื้อโฟมเปลี่ยนเป็นครีมโฟมหนานุ่ม
- พักผมทิ้งไว้ประมาณ 20-30 นาทีหรืออาจะมากกว่านั้นก็ได้
- ล้างโฟมออกให้หมด จากนั้นสระผมโดยไม่ใช้แชมพู แล้วใช้ทรีตเมนต์บำรุงตามค่ะ
วิธีดูแลเส้นผมหลังจากการทำสี
- ไม่ควรสระผมบ่อย ๆ การสระผมบ่อย ๆ จะทำให้สีผมจางได้เร็ว โดยเฉพาะช่วงที่เพิ่งเริ่มทำสีผมใหม่ ๆ ควรสระผมสัปดาห์ละ 2 – 3 ครั้งก็เพียงพอแล้ว โดยในการสระผมขอแนะนำให้ใช้แชมพูสำหรับผมทำสีค่ะ
- ควรใช้ครีมนวดหรือทรีตเมนต์สูตรเข้มข้น หลังจากทำสีผมเส้นผมจะอ่อนแอมากเป็นพิเศษโดยเฉพาะช่วงปลายผม ซึ่งครีมนวดผมที่มีเนื้อบางเบาอาจจะไม่สามารถช่วยได้ดีเท่าที่ควร จึงควรใช้ครีมนวดผมหรือทรีตเมนต์สูตรเข้มข้นเพื่อล็อกสีผมให้ผมดูมีน้ำหนักและนุ่มสลวยมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการใช้ความร้อนกับเส้นผม ในช่วงนี้เส้นผมกำลังอ่อนแอคุณควรหลีกเลี่ยงการไดร์ ดัด หนีบ ม้วน เพราะจะทำให้ผมแห้ง กรอบและขาดได้ง่าย
- หมั่นใช้เซรั่มบำรุงผม เซรั่มบำรุงผมเป็นสิ่งจำเป็นมากสำหรับสาวทำสีผมเพราะจะช่วยทำให้ผมเงาลื่นและสวยงาม หลังจากสระผมเสร็จควรชโลมเซรั่มหรือน้ำมันบำรุงผมที่ปลายผมทุกครั้ง เซรั่มบำรุงผมสูตรที่สาว ๆ ควรใช้คือเซรั่มสูตรที่ช่วยถนอมสีผมและมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ นั่นเองค่ะ
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ ถูกใจยี่ห้อไหนหรือสีไหนเป็นพิเศษกันบ้างหรือเปล่า เราหวังว่าคุณคงมีสีที่ชอบอยู่ในใจแล้วอย่างแน่นอน ขณะเลือกสินค้าอย่าลืมนำเคล็ดลับที่เราได้บอกไว้ด้านบนไปปรับใช้นะคะ เพราะจะทำให้คุณทำสีผมได้ง่ายขึ้นนั่นเองค่ะ ทั้งนี้ทั้งนั้นคุณไม่ควรทำสีผมหรือเปลี่ยนสีผมบ่อยจนเกินไปนะคะเพราะอาจจะทำให้เส้นผมของเราอ่อนแอ เปราะบางและขาดได้ง่ายค่ะ และทุกครั้งหลังทำสีผม ควรบำรุงผมอยู่เสมอ เพราะจะช่วยให้สีผมของเราติดทนนานเป็นประกายและเงางามค่ะ