iPhone SE3 แม้ดีไซน์จะเก่า แต่ก็เก๋าด้วยขุมพลัง A15 ของ iPhone 13
ในช่วงค่ำของคืนวันที่ 8 มี.ค. 2022 ที่ผ่านมา ทาง apple ได้จัดงาน Peek Performance ขึ้นมา เพื่อทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ ๆ ออกมา ซึ่งต้องบอกเลยครับว่า พีคค ค..สมชื่อจริง ๆ โดยมีทั้ง iPhone 13 ที่เปิดตัวสีใหม่คือ สีเขียว (Alpine green), iPad Air 5 ที่ใช้ชิปเซ็ต Apple M1, Mac Studio, Studio Display และอีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เซอร์ไพรส์คือ iPhone SE 3 รุ่นใหม่ ซึ่งเป็นรุ่นน้องเล็กสุด แต่มาพร้อมกับ A15 Bionic ชิปเซ็ตของ iPhone13 สมาร์ทโฟนเรือธงของ Apple ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีที่แล้วนี่เองครับ
เพราฉะนั้น เรื่องความแรง ประสิทธิภาพ การประมวลผล และการใช้งานในด้านต่าง ๆ ของ iPhone SE 3 คุณสามารถวางใจได้เลยครับ เพราะด้วยสเปกระดับนี้มันสามารถตอบโจทย์ทุกการใช้งานได้เป็นอย่างดี และยังสามารถรองรับการอัปเดต iOS ได้อีกหลายเวอร์ชั่นอย่างแน่นอน
สำหรับวันนี้เราขอพาทุกคนมาเจาะลึก iPhone SE 3 กันครับว่า มีสเปกเป็นอย่างไร มีอะไรน่าสนใจบ้าง และมันคุ้มกับราคารึเปล่า ? มาหาคำตอบกันครับ
เปรียบเทียบสเปก iPhone SE 3 กับ iPhone SE 2 ต่างกันแค่ไหน ?
ถึงแม้ iPhone SE 3 จะยังคงมาในดีไซน์แบบเดิม ๆ ซึ่งถ้ามองแบบผ่าน ๆ แน่นอนครับมันแยกไม่ออกเลย แต่ถ้าคุณลองใช้งานคุณก็จะทราบทันทีว่า เครื่องไหนคือ iPhone SE 3 เพราะมันถูกอัปเกรดสเปกให้สูงขึ้นมากพอสมควรครับ โดยเฉพาะกับชิปเซ็ต A15 Bionic รองรับ 5G ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่ใน iPhone 13 และมีการเพิ่มแรม เป็น 4GB ส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานต่าง ๆ ของตัวเครื่องทั้ง CPU และ GPU เร็วยิ่งขึ้น อีกทั้งแบตเตอรี่ก็ได้รับการพัฒนาให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น ถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งตารางต่อไปนี้ เป็นตารางการเปรียบเทียบสเปกของ iPhone SE 3 และ iPhone SE 2 แบบจุดต่อจุดครับ
ข้อมูลจำเพาะ | ![]() |
![]() |
---|---|---|
ขนาดตัวเครื่อง | 138.4 × 67.3 × 7.3 มม. | |
น้ำหนัก | 144 ก. | 148 ก. |
หน้าจอแสดงผล (อัตราการรีเฟรช) | จอ LCD Retina HD 4.7 นิ้ว 60Hz | |
ความละเอียดหน้าจอ | 1,334 × 750 พิกเซล (326 ppi) | |
ระบบปฏิบัติการ | iOS 15 | iOS 13 |
พื้นที่จัดเก็บ | 64GB, 128GB, 256GB | 64GB, 128GB |
ช่องเสียบ Micro SD | ![]() |
|
โปรเซสเซอร์ | A15 Bionic | A13 Bionic |
แรม | 4GB | 3GB |
กล้อง | กล้องหลัง 12MP ƒ/1.8 กล้องหน้า 7MP ƒ/2.2 |
|
วีดีโอ | 4K ที่ 24, 30, 60 fps | |
เวอร์ชั่นบลูทูธ | Bluetooth 5.0 | |
Wi-Fi | Wi-Fi 6 | |
ระบบเซลลูลาร์ | 5G | 4G LTE |
พอร์ต | Lightning | |
เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือ | ![]() |
|
กันน้ำ | IP67 | |
แบตเอรี่ | สูงสุด 15 ชม. | สูงสุด 13 ชม. |
การชาร์จ | ชาร์จไว 20W | ชาร์จไว 18W |
สี | มิดไนท์, สตาร์ไลท์, (PRODUCT)ᴿᴱᴰ | ดำ, ขาว, (PRODUCT)ᴿᴱᴰ |
ราคาเริ่มต้น | 15,900 บาท | 14,900 บาท |
ดีไซน์การออกแบบ และหน้าจอแสดงผล
ในด้านดีไซน์การออกแบบก็เป็นไปตามที่หลาย ๆ คนคาดการณ์เอาไว้จริง ๆ ครับ โดย iPhone SE 3 5G นั้นมาในดีไซน์ที่แทบไม่ต่างไปจากเดิมเลย เหมือนกับ iPhone SE 2 ทุกประการ ที่เน้นความเรียบง่ายเป็นหลัก ใช้จอภาพ Retina HD ขนาด 4.7 นิ้ว พร้อมเทคโนโลยี IPS การแสดงผลแบบ true tone และจอภาพขอบเขตสีกว้าง (P3) อีกทั้งยังมีความสว่างสูงสุดที่ 625 นิต ให้คุณใช้งานได้ในทุกสภาพแสง ในขณะที่ปุ่ม Home ยังคงอยู่บนหน้าจอ ซึ่งมาคู่กับ Touch ID การสแกนลายนิ้วมือที่ปุ่ม Home
หน้าจอมีการครอบทับด้วยกระจกกันรอยขีดข่วน ทั้ง ด้านหน้า และหลัง พร้อมเคลือบสารกันรอยนิ้วมือ ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ใช้งานอยู่ใน iPhone 13 Series ทำให้มันมีความแข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ซึ่งทาง Apple ก็ได้ออกมายืนยันว่า นี่ถือเป็นกระจกหน้าจอที่แข็งแกร่งที่สุดแล้ว หากเทียบกับมือถือรุ่นอื่น ๆ ในปัจจุบัน
นอกจากนี้ตัวเครื่องยังได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น ที่ระดับ IP67 เลยทีเดียว ให้คุณพกพาได้อย่างมั่นใจ ในส่วนของสีสันตัวเครื่อง ก็ยังคงโทนสีเดิมเอาไว้ครับ นั่นคือ มิดไนท์, สตาร์ไลท์ และรุ่น (PRODUCT) RED ที่ทุกการจำหน่าย iPhone SE (PRODUCT) RED ทาง Apple จะนำไปสมทบทุนให้กองทุนโลกโดยตรง เพื่อต่อสู้กับ COVID‑19 ต่อไปครับ
ชิปเซ็ตระดับเรือธง A15 Bionic
A15 เป็นตัวเดียวกับที่ใช้งานอยู่ใน iPhone 13 ช่วยให้ iPhone SE 3 รุ่นใหม่นี้ประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิมมาก โดยมันเร็วกว่า iPhone 8 ถึง 1.8 เท่า แถมครั้งนี้ iPhone SE 3 ก็มาพร้อมกับเทคโนโลยี 5G แล้ว ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมาก ๆ ครับ และมีการเพิ่มอายุแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้นานขึ้นกว่าเดิมถึง 2 ชั่วโมง พร้อมกับรองรับชาร์จไวที่ 20 วัตต์ ซึ่งแม้ว่าจะตามหลังมือถือ Android ในระดับเดียวกันอยู่บ้าง แต่เมื่อเทียบกับประสิทธิภาพแล้ว ก็ถือว่ากันได้ครับ
กล้องธรรมดา แต่มีความพิเศษมากขึ้น
ส่วนกล้องหลัง ถึงแม้จะยังคงเป็นแค่ กล้องเลนส์เดี่ยว ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ส่วนกล้องหน้า ความละเอียดเพียง 7 ล้านพิกเซล เหมือนกับรุ่นเดิม ไม่เปลี่ยนแปลง แต่ถึงอย่างนั้น ด้วยประสิทธิภาพการประมวลผลภาพถ่ายจากชิปเซ็ต A15 ที่สามารถช่วยทำให้การถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็น ภาพนิ่ง หรือภาพเคลื่อนไหว ออกมาคมชัด สวยงาม ไม่ต่างไปจาก มือถือที่มีกล้องหลาย ๆ เลนส์เลยล่ะครับ แถมยังเสริมด้วยคุณสมบัติด้านการถ่ายภาพขั้นสูงและฟีเจอร์ต่าง ๆ ทั้ง Smart HDR 4 ที่ช่วยปรับคอนทราสต์ของภาพ แสง รวมไปถึงโทนสีผิวของบุคคลในภาพ (สูงสุด 4 คน) ให้สวยขึ้น โดยอัตโนมัติ เมื่อถ่ายภาพในสภาวะแสงน้อย ก็จะมี Deep Fusion คอยวิเคราะห์ค่าแสงแบบพิกเซลต่อพิกเซล ช่วยให้ภาพคมชัดเก็บรายละเอียดได้ดีขึ้น มีสไตล์ภาพถ่ายให้คุณเลือกหลากหลาย และอื่น ๆ
ทั้งหมดนี้ล้วนแล้วสามารถช่วยเสริมให้ภาพของคุณออกมาคมชัด สวยงาม พร้อมกับมีรายละเอียดครบถ้วน ทำให้คุณถ่ายภาพที่น่าประทับใจได้ง่าย ๆ ครับ ซึ่งเราขอบอกเลยครับว่า เห็นเป็นกล้องเลนส์เดี่ยว มีความละเอียดอันน้อยนิดแบบนี้ มันสามารถมอบภาพที่สวยงามกว่ามือถือบางรุ่น ที่มีกล้องหลาย ๆ เลนส์เสียอีกครับ ดังนั้นคุณจึงสามารถใช้ถ่ายภาพ อัพโหลดลงโซเชียลมีเดียได้สบาย ๆ
แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานยิ่งขึ้น
อานิสงส์ของชิปเซ็ต A15 Bionic ระดับเรือธงยังไม่หมดครับ เพราะอย่างที่เราได้บอกไปว่ามันยังช่วยให้ตัวเครื่องประหยัดแบตฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น บวกกับ iOS15 ทำให้คุณสามารถใช้งาน iPhone SE 3 ได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิมมาก โดยการเล่นวิดีโอ ทำได้สูงสุดถึง 15 ชั่วโมง หรือนานขึ้น 2 ชั่วโมง เมื่อเทียบกับ iPhone SE 2 อีกทั้งในการชาร์จเร็ว ก็ได้รับการพัฒนาเช่นกันครับ โดยสามารถชาร์จ 50% ได้ภายใน 30 นาที ด้วยสาย Lightning และอะแดปเตอร์ (ต้องซื้อเพิ่ม) รองรับสูงสุด 20 วัตต์ และชาร์จแบบไร้สาย (ใช้ร่วมกับแท่นชาร์จ Qi10)
มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ iOS 15
iPhone SE 3 มาพร้อมกับ iOS15 คุณสมบัติอันทรงพลังของ iPhone ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่ได้รับการพัฒนามาเป็นอย่างดีครับ สามารถช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้งานที่ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การ FaceTime ที่ปรับปรุงใหม่ ช่วยมอบความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ เหมือนคุณคุยอยู่ใกล้ ๆ กัน พร้อมกับ SharePlay ที่ช่วยให้คุณแชร์สื่อต่าง ๆ ให้กับเพื่อน คนที่คุณกำลังพูดคุยผ่าน FaceTime อยู่ได้ ทำให้คุณสามารถดูหนัง หรือฟังเพลงร่วมกับเพื่อน ๆ ได้เสมือนกับว่า อยู่บ้านด้วยกัน นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติยิบย่อยอีกมากมาย เพื่อให้คุณสนุกไปกับ iPhone ในทุก ๆ วัน
สรุปราคา และการวางจำหน่าย
iPhone SE 3 เป็นไอโฟนรุ่นที่เล็กที่สุดครับ ซึ่งถูกออกแบบมา โดยเน้นไปที่ราคาประหยัดเป็นหลักครับ ส่งผลให้มันมีข้อจำกัดในหลาย ๆ ด้าน อาทิเช่น ดีไซน์ ขนาดหน้าจอ และกล้อง แต่ถึงอย่างนั้น ในส่วนที่ Apple สามารถใส่เพิ่มได้ ก็ถือว่าไม่มีกั๊กครับ เพราะใส่มาทั้ง ชิปเซ็ต A15 เรือธง แรม 4GB ฟีเจอร์กล้อง แบตเตอรี่ และ iOS15 ที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ซึ่งด้วยสเปกขนาดนี้ มันสามารถอัพเดท iOS ได้อีกหลายเวอร์ชั่นอย่างแน่นอนครับ
ดังนั้น iPhone SE 3 จึงถือเป็นสมาร์ทโฟนอีกรุ่นนึงที่มีความคุ้มค่ากับราคามาก ๆ ครับ ทั้ง สเปกเครื่องแรง หน้าจอสวย กล้องก็เด็ด แถมแบตฯ ยังอึด จะใช้งานทั่วไปก็ได้ หรือจะเล่นเกมก็ไม่มีปัญหาครับ หากใครที่สนใจเจ้า iPhone SE 3 ก็สามารถเข้าไปสั่งซื้อล่วงหน้าได้ครับ โดยทาง Apple ได้ประกาศวันวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการไว้ในวันศุกร์ที่ 25 มีนาคม นี้ครับ
รุ่น | ความจุ | ราคา |
---|---|---|
![]() |
64GB | 15,900 บาท |
128GB | 17,900 บาท | |
256GB | 21,900 บาท |
ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Apple : www.apple.com