VOLT City EV รถยนต์ไฟฟ้า คันจิ๋ว แต่วิ่งได้ถึง 200 กม. เริ่มต้นเพียง 325,000 บาท

หลังจากที่ EV Primus ได้นำเข้า และจัดจำหน่ายรถยนต์สัญชาติจีน จากค่าย Dongfeng (DFSK) แบรนด์รถยนต์อันดับ 2 ในจีน และ Seres แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียมมาได้สักระยะนึง ล่าสุด EV Primus ได้เดินหน้าต่อเนื่องด้วยการประกาศเปิดตัวแบรนด์น้องใหม่ Volt EV แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด ในรุ่น Volt City EV ครับ ซึ่งเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% สุดน่ารัก ที่ไม่ได้น่ารักแค่หน้าตานะครับ แต่ราคายังเป็นมิตรอีกด้วย โดยมีราคาเริ่มต้นเพียง 325,000 บาทเท่านั้น แถมราคานี้ยังมาพร้อมกับการรับประกันเป็นอย่างดี ให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจ

Volt EV
Volt EV แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าราคาประหยัด

ดังนั้นใครที่เน้นการขับขี่ภายในเมืองเป็นหลัก เช่น ขับไปรับไปส่งลูก ๆ ขับไปทำงาน ขับไปจ่ายตลาด หรือขับไปช้อปปิ้งที่ห้างฯ เจ้ารุ่นนี้มันเหมาะมาก ๆ ครับ และยิ่งถ้าคุณมีแผนจะเปลี่ยนไปใช้ รถยนต์ไฟฟ้า เพื่อตัดค่าน้ำมัน ที่นับวัน ยิ่งแพงขึ้นเรื่อย ๆ อยู่แล้ว รถรุ่นนี้ถือว่าเหมาะกับการเริ่มต้นที่สุดครับ เพราะด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 325,000 บาทเท่านั้น แต่สามารถวิ่งไกลสุดถึง 200 กิโลเมตร พร้อมมีฟังก์ชันต่าง ๆ และความปลอดภัยอีกครบครัน เพราะฉะนั้นเดี๋ยววันนี้เราขอพาทุก ๆ คนไปเจาะลึก VOLT City EV อย่างละเอียดกันครับว่า เจ้ารุ่นนี้มันมีดีอะไร ? มีจุดไหนที่น่าสนใจบ้าง ? และมันคุ้มค่ากับราคาหรือไม่ ? ไปดูกันครับ

VOLT City EV รถยนต์ไฟฟ้า 100 % สำหรับคนเมือง

VOLT City EV
VOLT City EV

โดย Volt City EV เกิดขึ้น โดยการร่วมทุนกันของ 3 ยักษ์ใหญ่ ในประเทศจีนครับ ประกอบด้วย Beijing Hongrui Automotive Technology บริษัทเทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าระดับชั้นนำของจีน และผลิตในโรงงานที่เป็นการร่วมทุนกัน 50 : 50 ระหว่างกลุ่มทุน Dongfeng Motor Group แบรนด์รถยนต์อันดับ 2 ของจีน และ Nissan Motors ที่เรารู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพื่อร่วมมือกันผลิตรถยนต์ภายใต้แบรนด์ทั้ง Nissan, Dongfeng และ Volt City EV ครับ ดังนั้นขึ้นตอนการผลิต ได้มาตรฐานอย่างแน่นอน

ซึ่งต้องยอมรับเลยครับว่า VOLT City EV (โวลต์ ซิตี้ อีวี) 2022 เป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% ขนาดซูเปอร์มินิ ที่สามารถสร้างแรงกระเพื่อมให้กับตลาด EV car ของเมืองไทยได้เป็นอย่างมาก เพราะด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบร้อยและน่ารักมาก ๆ มิติตัวรถที่กะทัดรัด ทำให้มีความคล่องตัวสูงมาก ๆ แถมยังวิ่งได้ไกลถึง 200 กิโลเมตร ซึ่งแน่นอนครับว่านอกจากจะช่วยลดค่าน้ำมันได้แล้ว ด้วยตัวรถที่เล็ก ทำให้ไม่ว่าคุณจะขับไปที่ไหน ๆ ก็ง่าย เวลาจะกลับรถ หรือหาที่จอดก็สะดวกมาก ๆ ครับ

โดย Volt City EV มีให้เลือก 2 รุ่น ครับ แบ่งเป็น รุ่น 3 ประตู และรุ่น 5 ประตู วางจำหน่ายในเริ่มต้นเพียง 325,000 – 385,000 บาท (ราคานี้ได้เข้าร่วม โครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า จากมาตรการรัฐเรียบร้อยแล้ว) ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง EV Primus ได้เปิดให้จองล่วงหน้า ผ่านช่องทางออนไลน์ จำนวน 1,000 คัน ไปแล้ว แต่ล่าสุดได้ออกมาประกาศยอดจองล็อตแรก ทะลุ 1,000 คัน ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งยังระบุอีกว่า พร้อมทยอยส่งมอบ City EV ได้ตั้งแต่ปลายเดือนกันยายนปีนี้ เป็นต้นไปครับ

ราคาอย่างเป็นทางการ

โดย บริษัทอีวี ไพรมัส จำกัด (EV Primus) ได้ออกมาเผย ราคาค่าตัวของ Volt City EV เจ้ารถยนต์ไฟฟ้า สุดน่ารักแล้วครับ ซึ่งจะมีให้เลือกทั้งหมด 2 รุ่น แบ่งออกเป็น 4 เกรด ดังต่อไปนี้ครับ

VOLT City EV FOR – Two (2 ประตู)
VOLT City EV FOR – Two (3 ประตู)
VOLT City EV FOR – Two (3 ประตู)
รุ่น ราคา
FOR – Two Classic 325,000 ฿
FOR – Two Top (Premium Deal) 355,000 ฿

VOLT City EV FOR – Four (4 ประตู)
VOLT City EV FOR – Four (5 ประตู)
VOLT City EV FOR – Four (5 ประตู)
รุ่น ราคา
FOR – Four Classic 385,000 ฿
FOR – Four Top (Premium Deal) 415,000 ฿

การรับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty)

ในส่วนของการรับประกันคุณภาพตัวรถ (Warranty) ของ VOLT City EV จะแบ่งตามรุ่นรถครับ ซึ่งถ้าเทียบกับราคามันถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ ครับ โดยจะมีรายละเอียดดังนี้ครับ

รุ่น Classic รุ่น Top
(Premium Deal)
  • รับประกันคุณภาพตัวรถ 3 ปี หรือ 80,000 กิโลเมตร
  • รับประกันคุณภาพตัวรถ 5 ปี หรือ 120,000 กิโลเมตรรับ
  • บำรุงรักษาฟรีที่ศูนย์บริการ 28 โชว์รูม ทั่วประเทศ นาน 2 ปี
  • แพ็คเกจช่วยเหลือฉุกเฉิน และชาร์จไฟฉุกเฉินนอกสถานที่
  • ประกันภัยชั้น 1 นาน 1 ปี
  • ส่วนลด 20,000 สำหรับกล่องชาร์ตไฟ Wallbox E-Volt

มิติตัวถัง (Dimension)

มิติตัวถังของ VOLT City EV ทั้ง 2 รุ่น
มิติตัวถังของ VOLT City EV ทั้ง 2 รุ่น

อย่างที่บอกไปในตอนต้นครับว่า VOLT City EV เป็นรถยนต์ไฟฟ้า ขนาดกะทัดรัด จัดอยู่ในกลุ่มซิตี้คาร์ ที่มีราคาสบายกระเป๋า ออกแบบมาเพื่อการใช้งานในเมืองโดยเฉพาะ ซึ่งถ้าคุณดูจากภาพในอินเตอร์เน็ตเพียงอย่างเดียว มันก็อาจจะทำให้คุณรู้สึกว่า มันจะต้องเล็กมากแน่ ๆ และภายในจะต้องแคบอย่างแน่นอนครับ แต่ถ้าหากไปดูที่มิติตัวถังของเจ้ารุ่นนี้ คุณก็จะเห็นว่า มันไม่ได้เล็กมากขนาดนั้นครับ ซึ่งนี่ก็คือ มิติตัวถังของ VOLT City EV โดยละเอียดครับ

มิติตัวถัง VOLT City EV
City EV FOR-TWO
(3 ประตู)
City EV FOR-FOUR
(5 ประตู)
ความยาว (มม.) 2,920 3,880
ความกว้าง (มม.) 1,499
ความสูง (มม.) 1,610
ระยะฐานล้อ (มม.) 1,980 2,440
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หน้า (มม.) 1,310
ระยะห่างระหว่างล้อคู่หลัง (มม.) 1,310
ความสูงใต้ท้องรถ (มม.) 150
จำนวนที่นั่ง / ประตู 2 ที่นั่ง / 3 ประตู 4 ที่นั่ง / 5 ประตู
ขนาดยาง 155/65 R13 155/65 R13
น้ำหนักรถเปล่า (กก.) 690 795

เทียบขนาด VOLT City EV กับรถเครื่องยนต์ปกติที่มีในตลาด

สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้สินค้าลดราคาในช้อปปี้ & ลาซาด้า - ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

ถ้าคุณยังนึกภาพไม่ออก เราขอนำ Volt City EV มาเปรียบเทียบมิติตัวถัง กับรถยนต์ในกลุ่มเดียวกัน นั่นก็คือ B-Segment ที่มีวางจำหน่ายอยู่ในบ้านเราครับ ซึ่งจากตารางนี้คุณจะเห็นว่า แต่ละรุ่นจะต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้นครับ แต่ถ้านำไปเทียบกับรถในกลุ่ม Eco Car มันก็จะเล็กกว่าค่อนข้างเยอะครับ ซึ่งสำหรับอีโค่คาร์ ส่วนตัวเราก็มองว่ามันคล่องตัวมาก ๆ แล้วนะครับ ดังนั้น Volt City EV ที่เล็กกว่า มันต้องคล่องตัวกว่าแน่นอนครับ ถ้าใครกำลังมองหารถเล็ก ๆ ไปใช้งานในเมืองรุ่นนี้เหมาะมาก ๆ ครับ

เทียบมิติตัวถัง เทียบกับรถรุ่นอื่น ๆ ในตลาด
รุ่น ยาว (มม.) กว้าง (มม.) สูง (มม.) ฐานล้อ (มม.)
Volt City EV For-Two 2,920 1,499 1,610 1,980
Suzuki Celerio 3,600 1,540 1,600 2,425
Honda Brio 3,610 1,485 1,680 2,345
Nissan March 3,780 1,515 1,665 2,345
Suzuki Swift 3,840 1,495 1,735 2,345
Volt City EV For-Four 3,880 1,499 1,610 2,440
Honda Jazz 3,989 1,525 1,695 2,425

สีตัวถัง มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี

VOLT City EV ใช้สีตัวถังแบบทูโทน มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี
VOLT City EV ใช้สีตัวถังแบบทูโทน มีให้เลือกทั้งหมด 6 สี

VOLT City EV มาพร้อมสีตัวถังแบบทูโทนครับ ตัดกันที่เสา A ขึ้นไปถึงหลังคา ทำให้มันดูน่ารัก และให้อารมณ์สปอร์ตหน่อย ๆ ส่วนกระจกมองข้าง ที่มาพร้อมไฟเลี้ยวในตัว จะใช้สีเดียวกับตัวรถครับ พร้อมกับติดตั้งฝาครอบล้อ แบบ Plum Blossom มาให้ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้ล้อสีเดียวกับตัวรถครับ โดยสีแบบทูโทนของรุ่นนี้ จะมีให้เลือกมากถึง 6 สีเลยทีเดียวครับ ซึ่งจะเน้นไปในโทนสีที่ดูน่ารัก สดใส ได้แก่ Cream Coke, Peach Pink, Gentle Green, Wisdom White, Ruby Red และ Spark Silver

ดีไซน์การออกแบบภายนอก

Volt City EV
Volt City EV

แน่นอนครับ ด้วยมิติของตัวรถที่กะทัดรัดมาก ๆ ของ Volt City EV ไม่ต้องบอกก็รู้ครับว่า รุ่นนี้เป็นรถที่ถูกดีไซน์มาเพื่อการขับขี่ภายในเมืองเป็นหลักครับ เนื่องจากรถคันเล็ก ๆ มันช่วยให้เรามีความคล่องตัวมากขึ้น ขับขี่ง่ายขึ้น วงเลี้ยวแคบ ๆ ทำให้เรากลับรถได้ง่าย หาที่จอดก็สะดวก ช่องแคบ ๆ ก็สามารถเข้าได้ครับ แถมด้วยความที่เป็นรถไฟฟ้า มันยังช่วยตัดค่าน้ำมันไปได้อีกด้วย ทำให้มันเหมาะจะเป็นรถที่ใช้ทุก ๆ วันมาก ๆ ไม่ว่าจะขับไปทำงาน ขับไปรับไปส่งลูก ๆ หรือขับไปช้อปปิ้งที่ห้างฯ ซึ่งก่อนหน้านี้เรามีรถไฟฟ้าสุดน่ารัก นั่นก็คือ ORA Good Cat ครับ ซึ่งได้รับกระแสตอบรับที่ดีมาก แต่หลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยขับรถไฟฟ้ามาก่อน ก็คงจะกล้า ๆ กลัว ๆ ที่จะซื้อมาขับอย่างแน่นอน เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง

ดีไซน์การออกแบบภายนอก
ดีไซน์การออกแบบภายนอก

แต่ในวันนี้เรามี Volt City EV รถไฟฟ้าที่มาพร้อมกับดีไซน์สุดน่ารัก ในแบบมินิมอลเช่นกันครับ แต่จะมาในราคาที่ย่อมเยาว์กว่ามาก โดยจะมี 2 ตัวถังให้เลือก คือ ตัวถัง 2 ที่นั่ง 3 ประตู (For-Two) และ 4 ที่นั่ง 5 ประตู (For-Four) ซึ่งใช้สีทูโทน โดยสีตัวรถจะตัดกับสีหลังคา ส่วนด้านหน้าตกแต่งด้วยกระจังแบบทึบ มีลวดลายบาง ๆ ทำให้ดูมีรายละเอียดมากขึ้น ส่วนกันชนหน้าก็มีการทำช่องอากาศลวดลายรังผึ้งเอาไว้ด้วยครับ เพื่อให้อารมณ์สปอร์ตมากขึ้น สอดรับกับไฟหน้าทรงไข่ ที่มีการตัดขอบสีดำ ช่วยให้ดูเหมือนดวงตาของตัวการ์ตูนมาก ๆ ครับ สำหรับด้านหลัง มาแบบคลีน ๆ ครับ ใช้ไฟท้ายสี่เหลี่ยมที่มีความโค้งมน และตัดขอบสีดำเช่นกัน ช่วยให้ดูลงตัวมากขึ้น

โดยทั้ง 2 ตัวถังในรุ่น Top จะติดตั้งไฟหน้าแบบ LED และไฟท้าย Ruby Style มาให้ครับ ส่วนในรุ่น Classic จะให้ไฟหน้าแบบ Halogen และไฟท้ายธรรมดา ในด้านกระจกมองข้างใช้สีเดียวกับตัวรถ มาพร้อมไฟเลี้ยวในตัว และล้อจะใช้กระทะขนาด 13 นิ้ว พร้อมฝาครอบลาย Plum Blossom

ดีไซน์การออกแบบภายใน

ห้องโดยสารของ Volt City EV
ห้องโดยสารของ Volt City EV

สำหรับห้องโดยสารของ Volt City EV ก็มีการตกแต่งด้วยสีทูโทนเช่นกันครับ เพื่อสอดรับกับสีสันภายนอกของตัวรถ โดยในรุ่น Top จะติดตั้งหน้าจอแสดงผลข้อมูลแบบ Double Screen ขนาดใหญ่ 7 นิ้ว 2 จอ ลากยาวจากหน้าปัดเรือนไมล์จนถึงคอนโซลกลาง แยกเป็นมาตรวัดดิจิทัล และหน้าจอแสดงผลในส่วนของระบบอินโฟเทนเมนท์ต่าง ๆ ติดตั้งพวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน ส่วนในรุ่น Classic จะใช้พวงมาลัยธรรมดาพร้อมกับใช้หน้าจอแบบมาตรฐาน แต่ก็ยังคงสามารถใช้แสดงผลกล้องมองหลังในขณะถอย พร้อมเซ็นเซอร์กะระยะได้เช่นกันครับ

ดีไซน์การออกแบบภายใน
ดีไซน์การออกแบบภายใน

ในส่วนของตำแหน่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ทุก ๆ อย่างถูกจัดเรียงไว้ในกรอบเดียวกันทั้งหมดครับ ทำให้ดูสอดรับกันไปหมด ตรงกลางที่เคยเป็นที่อยู่ของชุดเกียร์ปกติถูกนำออกไป ทำให้ดูโล่ง และสะอาดตา โดยตรงคอนโซลกลางจะเหลือที่วางแก้วน้ำและเบรคมือแบบแมนนวลเอาไว้ ส่วนระบบเกียร์ จะถูกออกแบบมาเป็นแบบปุ่มกด (Shift by Wire) ย้ายไปไว้ตรงคอนโซลหน้า เหมือนกับรถหรูราคาแพง ๆ เลย นอกจากนี้ยังมีเซ็นทรัลล็อค และกุญแจรีโมทมาให้ด้วย โดยสิ่งที่ต่างกันระหว่าง ตัวถัง 2 ที่นั่ง 3 ประตู (For Two) และ 4 ที่นั่ง 5 ประตู (For Four) ก็คือ วัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในครับ โดย For Two จะให้เบาะผ้า ส่วน For Four จะใช้เบาะหนังสังเคราะห์ครับ ซึ่งก็จะให้ความรู้สึกที่ต่างกัน

สมรรถนะเครื่องยนต์

สมรรถนะเครื่องยนต์
สมรรถนะเครื่องยนต์

สำหรับเจ้า VOLT City EV มาพร้อมสมรรถนะที่กำลังดีครับ ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไป โดยจะมีการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า และแบตเตอรี่ 2 ขนาด ดังต่อไปนี้

VOLT City EV FOR – Two (3 ประตู) ใช้พละกำลังจาก มอเตอร์ซิงโครนัส ชนิดแม่เหล็กถาวร ขับเคลื่อนล้อหลัง มอบพละกำลังสูงสุดที่ 40 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 90 นิวตัน-เมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ลิเทียม ไอออนฟอสเฟต ที่มีกำลังไฟฟ้า 11.8 กิโลวัตต์/ชั่วโมง โดยทางผู้ผลิตเคลมไว้ว่า ในโหมด Eco สามารถวิ่งได้สูงสุด 165 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง และ โหมด Sport จะวิ่งได้สูงสุด 115 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ที่ความเร็วสูงสุด 105 กิโลเมตร/ชั่วโมง

VOLT City EV FOR – Four (5 ประตู) จะใช้กำลังจากมอเตอร์ซิงโครนัส ชนิดแม่เหล็กถาวร ขับเคลื่อนล้อหลัง เหมือนกันครับ แต่เนื่องจากมิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ทำให้มอเตอร์ของ ตัวถัง 5 ประตู จะมีพละกำลังสูงกว่าอยู่เล็กน้อยครับ โดยจะให้กำลังสูงสุด 46 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 102 นิวตัน-เมตร จ่ายไฟด้วยแบตเตอรี่ลิเทียมไอออนฟอสเฟต ที่มีกำลังไฟฟ้า 16.5 กิโลวัตต์/ชั่วโมง ซึ่งทางผู้ผลิตเคลมว่า ในโหมด Eco สามารถวิ่งได้สูงสุดถึง 200 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง เลยทีเดียว ส่วน ในโหมด Sport จะวิ่งได้สูงสุด 135 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ที่ความเร็วสูงสุด 105 กิโลเมตร/ชั่วโมง

ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่

ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่
ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่

ในส่วนแบตเตอรี่ของ Volt City EV ทั้งสองรุ่น จะใช้แบตเตอรี่ชนิดเดียวกันครับ ต่างกันที่กำลังไฟฟ้า โดยมันถูกออกแบบมาให้คุณสามารถชาร์จแบตเตอรี่ด้วยไฟบ้านได้เลย (มีแรงดันไฟฟ้าอยู่ที่ 115 โวลท์) โดยที่ชาร์จจะเป็นปลั๊ก 3 ขา มาให้เลย ส่งผลให้คุณไม่จำเป็นต้องติดตั้ง Wallbox หรือเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าไว้ที่บ้านอีกแล้ว

ในส่วนการชาร์จ ทั้งสองรุ่นนี้ จะใช้เวลาชาร์จ 0-100 % ประมาณ 5-6 ชั่วโมง เท่ากัน ครับ นั่นหมายความว่า คุณก็ไม่จำเป็นต้องรีบกลับบ้านเพื่อมาชาร์จแบตฯ ทิ้งไว้ 10-12 ชั่วโมง เหมือนรถไฟฟ้ารุ่นอื่น ๆ แต่คุณสามารถจะกลับบ้านมาตอน 5 ทุ่ม เที่ยงคืนได้ จากนั้นก็เสียบชาร์จเอาไว้ ตื่นเช้ามาแบตฯ ของคุณจะเต็มพอดีครับ

ระบบความปลอดภัย

ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน Volt City EV
ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน Volt City EV

ในด้าน ระบบความปลอดภัยพื้นฐาน Volt City EV ใส่มาให้ทั้ง ถุงลมนิรภัยด้านหน้า, ระบบเตือนการชนขณะขับขี่ที่ความเร็วต่ำ, เข็มขัดนิรภัยแบบ 3 จุด ทั้งด้านหน้า และหลัง, ระบบล็อคนิรภัยสำหรับเด็กที่ประตูหลัง, ไฟแจ้งเตือนเมื่อประตูปิดไม่สนิท, ระบบเบรค ABS พร้อมระบบกระจายแรงเบรค EBD และระบบวัดลมยางอัตโนมัติ TPMS นอกจากนี้มันยังมีป้ายแจ้งเตือนสามเหลี่ยม และชุดอุปกรณ์ช่วยเหลือฉุกเฉินมาให้ด้วยครับ

ซึ่งเท่านี้ก็ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีแล้วครับ เพราะด้วยความเร็วของรถรุ่นนี้ไม่ได้สูงมากนัก โดยล็อกความเร็วไว้ที่ 80-105 กม./ชม. เท่านั้น ทำให้ความปลอดภัยในระดับนี้ เพียงพอแล้วครับ และด้วยราคาที่ถูกที่สุด ในบรรดารถไฟฟ้าทั้งหมด และเกือบจะมีราคาถูกที่สุด ในบรรดารุ่นรถยนต์ในตลาดด้วย จะมีก็แค่ Suzuki Celerio ที่มีราคาค่าตัวพอ ๆ กัน แต่ฟังก์ชันที่ใส่มาใน Volt City EV จะมีครบกว่าครับ

บทส่งท้าย 

ต้องยอมรับเลยว่าในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กระแสของรถไฟฟ้า นั้นมาแรงจนฉุดไม่อยู่แล้วจริง ๆ ครับ สังเกตุได้จากการที่เราสามารถพบเห็นรถไฟฟ้าวิ่งบนท้องถนนมากขึ้น มีทั้ง จักรยานไฟฟ้า, มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า และโดยเฉพาะ รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งก็เป็นผลราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นในทุก ๆ วัน และค่ายรถทั้งค่ายเล็ก ค่ายใหญ่ ต่างก็พัฒนารถไฟฟ้าของตัวเองออกมา เพื่อเตรียมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมยานยนต์ ทำให้ตลาดมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด ช่วยให้รถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลงเรื่อย ๆ อีกทั้งทางภาครัฐยังมี โครงการสนับสนุนรถยนต์ไฟฟ้า ด้วย ฉะนั้นการซื้อรถไฟฟ้าในช่วงนี้ ถือว่ามันน่าสนใจมาก ๆ ครับ


ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ VOLT City EV : www.voltthailand.com

Palm PN

Palm PN

I with a bachelor degree in Computer Science from Songkhla Rajabhat University. I live in Songkhla. I like to write articles about in IT products and motorcycle accessories.

Next Post