รถกระบะ 4 ประตู เกียร์ออโต้ ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 ตัวท๊อปสุด คันใหญ่ สมรรถนะสูง

ต้องยอมรับเลยครับว่า รถกระบะสมัยใหม่ ได้รับการพัฒนามาไกลมากเมื่อเทียบกับอดีตที่ผ่านมา จากเดิมรถกระบะจะเป็นรถที่เน้นใช้งาน ความสะดวกสบายแทบไม่มีเลย แต่ทุกวันนี้ไม่ใช่แล้วครับ รถกระบะได้ถูกแยกย่อยออกเป็นหลายประเภท ซึ่งกระบะที่เน้นใช้งานก็จะเป็นกระบะตอนเดียวราคาถูก ซึ่งภายในก็จะดิบ ๆ ไม่ให้อะไรเลย และกระบะแค็บ ที่ภายในจะมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากขึ้น โดยทั้ง 2 ประเภทนี้ ยังคงมีกระบะที่ใหญ่ ทำให้ส่วนใหญ่จะนิยมนำไปใส่ตู้ทึบ สำหรับขนของครับ และยังมีรถกระบะหนึ่งอีกประเภทที่กำลังได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ นั่นคือ รถกระบะ 4 ประตู ยกสูง ตัวท็อปสุด รุ่นพิเศษ จนบางรุ่นแพงกว่า รถ C-Segment และบางรุ่นก็มีราคาพอ ๆ กับรถ D-segment สุดหรูเลย

แต่ถึงอย่างนั้นรถประเภทนี้ก็ยังมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ครับ ส่วนเหตุผลที่ทำให้ราคาของรถประเภทนี้แพงส่วนนึงก็เพราะได้ถูกอัปเกรดให้ดีที่สุดในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะภายในที่สะดวกสบายขึ้นเยอะมาก จนเหมือนกับนั่งบนรถเก๋งหรู ๆ มากกว่า ทำให้เป็นรถที่มีทั้ง ความแกร่ง ความแรง ความนุ่มนวล ความสะดวกสบาย และความอเนกประสงค์ เมื่อนำมาบวกกับหน้าตาที่ดูเท่ ขนาดใหญ่บึกบึน ทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกสนใจรถประเภทนี้มากขึ้นเป็นพิเศษ

วันนี้รถได้รวม รถกระบะ 4 ประตู ตัวท๊อปสุด ที่มีจำหน่ายอยู่ในปี 2023 นี้ มารีวิวสั้น ๆ ให้ทุกคนเห็นความแตกต่างของรถแต่ละรุ่นครับ

1. Ford Ranger Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT ราคา 1,919,000 บาท

Ford Ranger Raptor 2023
Ford Ranger Raptor 3.0L V6 Twin-Turbo EcoBoost 4WD 10AT
เครื่องยนต์ 3.0L V6 Twin-Turbocharged
น้ำมันเชื้อพลิง เบนซิน (รองรับ E20)
แรงม้า-แรงบิด 397 PS / 5,650 RPM
583 N·m / 3,500 RPM
ระบบขับเคลื่อน 4WD
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 10 สปีด แบบ E-Shifter
ระบบเบรก ดิสก์เบรกขนาดใหญ่ พร้อมครีบระบายความร้อน หน้า/หลัง
ระบบกันสะเทือน โช้กอัพ FOX 2.5” Live Valve
อัตราสิ้นเปลือง 8-10 กม./ลิตร (ไม่เป็นทางการ)
ล้อและยาง ล้ออัลลอย 17 นิ้ว T285/70 R17

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • สมรรถนะสูง ให้การขับขี่ที่สนุก
  • กำลัง 397 แรงม้า 583 นิวตัน-เมตร แรงที่สุด
  • ท่อไอเสียไฟฟ้า ปรับเสียงได้ 4 รูปแบบ
  • การขับขี่ 7 โหมด รองรับทุกสภาพถนน
  • เทคโนโลยีที่จัดเต็ม
  • โช้คอัพ FOX Live Valve 2.5 นิ้ว
  • ดิสก์เบรก 4 ล้อ ระบบ ABS
  • eDiff-Lock ดิฟล็อกแบบไฟฟ้า หน้าหลัง

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ราคาแพง
  • มิติตัวรถที่ใหญ่มาก
  • ตัวรถค่อนข้างหนัก
  • ระยะเบรกที่ไกล
  • ค่อนข้างกินน้ำมัน
Ranger Raptor รถกระบะออฟโรดท๊อปสุดของ Ford ถูกพัฒนาให้เป็นกระบะพันธุ์แกร่งที่สุดในกลุ่มของ Ranger ดีไซน์มาในสไตล์อเมริกันแท้ ๆ เน้นใหญ่ สมรรถนะสูง มาพร้อมหน้าตาที่ดูแข็งแกร่งสมกับสโลแกนที่ว่า “ดุดัน ไม่เกรงใจใคร” โดยจะมี 2 รุ่นย่อย ได้แก่ รุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.0L ราคา 1,769,000 บาท และรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน 3.0L ราคา 1,919,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม

ส่วนภายในห้องโดยสารก็กว้างสุด ๆ ครับ มาในโทนสีดำตัดขอบสีแดง หุ้มวัสดุหนังแท้ และหนังสังเคราะห์ เอกลักษณ์เฉพาะใน Raptor เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ตรับสรีระ ปรับไฟฟ้า 10 ทิศทาง พร้อมระบบดิจิทัลสุดล้ำ หน้าปัดสี 12.4 นิ้ว หน้าจอกลางระบบสัมผัส 12 นิ้ว ที่รองรับทุกการเชื่อมต่อ ระบบเสียงจาก Bang & Olufsen ขับด้วยลำโพง 10 ตัว ติดตั้งระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา เกียร์อัตโนมัติ E-Shifter พร้อมเบรกมือไฟฟ้า กล้อง 360 องศา ช่วยให้ขับง่ายขึ้น และยังใส่พอร์ต USB ให้มาถึง 4 จุด พร้อมแท่นชาร์จแบบไร้สาย

โดยตัวท๊อปสุดจะใช้เครื่องยนต์เบนซินตัวใหม่ 3.0L V6 เทอร์โบคู่ที่รีดม้าได้ถึง 397 ตัว แรงบิด 583 นิวตัน-เมตร ส่วนรุ่นเริ่มต้นจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.0L V4 เทอร์โบคู่ มีแรงม้า 210 ตัว แรงบิด 500 นิวตัน-เมตร โดยทั้งคู่จะเป็นระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4A-4WD ส่งกำลังด้วยเกียร์ออโตฯ 10 สปีด มาพร้อมกับให้โหมดการขับขี่ถึง 7 โหมด ได้แก่ โหมดปกติ, โหมดสปอร์ต, โหมดถนนลื่น, โหมดหิน, โหมดทราย, โหมดโคลน และโหมดบาฮา (สายออฟโรด) โดยรุ่น 3.0L ช่วงล่างหน้า-หลังจะใช้ระบบกันสะเทือน FOX Live Valve ขนาด 2.5 นิ้ว แบบพิเศษ แถมยังใส่ eDiff-Lock ดิฟล็อกไฟฟ้ามาให้ทั้งด้านหน้าและด้านหลังเลย ถ้าใครเป็นสายออฟโรดอยู่แล้ว ไม่ผิดหวังแน่นอนครับ


2. Toyota Hilux Revo GR Sport Double Cab 4×4 2.8 AT ราคา 1,324,000 บาท

Toyota Hilux Revo Double Cab 4x4 2.8 GR Sport AT
Toyota Hilux Revo GR Sport Double Cab 4×4 2.8 AT
เครื่องยนต์ 2.8L V4 DOHC VN Turbo, Intercooler
น้ำมันเชื้อพลิง ดีเซล (รองรับ B20)
แรงม้า-แรงบิด 204 PS / 3,400 RPM
500 N·m / 1,600-2,800 RPM
ระบบขับเคลื่อน 4WD พร้อม Differential Lock
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Sequential Shift / Paddle Shift
ระบบเบรก -หน้า : ดิสก์เบรก
-หลัง : ดรัมเบรก
ระบบกันสะเทือน -หน้า : แบบอิสระปีกนกคู่ โช้กอัพ Monotube
-หลัง : แบบแหนบซ้อน โช้กอัพ Monotube
อัตราสิ้นเปลือง 25 กม./ลิตร (ทางการ)
ล้อและยาง ล้ออัลลอย 18 นิ้ว 265/60R18

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • สมรรถนะที่ดี กำลัง 204 แรงม้า 500 นิวตัน-เมตร
  • อึด ถึก ทน เซอร์วิสง่าย ไม่แพง
  • เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดี
  • อัตราการสิ้นเปลืองที่ยอดเยี่ยม
  • มีโช้กอัพ Monotube หน้าหลัง
  • มีตัวเลือกเป็นตัวเตี้ย ขับสอง ราคาไม่ถึงล้าน แต่ได้เครื่องยนต์เดียวกัน

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ภายในดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นปกติ
  • อุปกรณ์ภายในดีไซน์ดูเก่าไปหน่อย โดยเฉพาะจอ
  • ให้เบาะไฟฟ้าฝั่งคนขับ ตำแหน่งเดียว
  • ระบบความปลอดภัยต่าง ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ

Hilux Revo ถือเป็นรถกระบะที่ได้รับความนิยมสูงเป็นอันดับต้น ๆ ในบ้านเราครับ ซึ่งถ้าสังเกตุบนท้องถนน เราจะเห็นบ่อยมาก ๆ ทั้ง รถที่ใช้ในเชิงพาณิชย์ และรถสามัญประจำบ้าน ด้วยเหตุนี้ Toyota จึงเอามาอัพเกรดโดยใส่ DNA ของมอเตอร์สปอร์ตที่เรียกว่า GR Sport เข้าไปครับ ซึ่ง Hilux Revo GR Sport Double Cab จะมีอยู่ 2 รุ่น นั่นคือ รุ่น Lo-Floor 4×2 (ตัวเตี้ย) ราคา 889,000 บาท และรุ่น Hi-Floor 4×4 (ยกสูง) ราคา 1,324,000 บาท โดยใช้เครื่องยนต์ตัวเดียวกัน
อ่านเพิ่มเติม

ถ้าเทียบกับ Revo รุ่นปกติ เจ้า Revo GR Sport จะมาพร้อมกระจังหน้าดีไซน์แบบ Rocco เลย แต่มีการตกแต่งใหม่ ปรับโทนสีให้ดูสปอร์ตยิ่งขึ้น ช่องลมด้านหน้าใส่ตัวอักษร T O Y O T A มาคู่กับสัญลักษณ์ GR สีดำ-แดง ทำให้ดูสอดรับกับชุดแต่ง GR Sport สีดำเมทัลลิกที่ติดตั้งรอบคัน เมื่อมาบวกกับพื้นฐานที่แข็งแกร่ง อึด ถึก ทนอยู่แล้ว มันจึงดูลงตัวสุด ๆ ครับ ภายในก็มีการตกแต่งโทนสีดำตัดกับแดง เสริมด้วยวัสดุสี Smoke Silver และสีดำเมทัลลิค พร้อมกับมีสัญลักษณ์ GR เบาะนั่งคู่หน้าทรงแบบสปอร์ต หุ้มหนัง Suede สลับกับหนังสังเคราะห์ เป็นไฟฟ้าแค่ฝั่งคนขับปรับได้ 8 ทิศทาง พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน พร้อม Paddle Shift มาตรวัด Optitron หน้าปัด MID TFT แบบสี 4.2 นิ้ว ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา พร้อมกับช่องแอร์ผู้โดยสารตอนหลัง และอีกจุดนึงที่ไม่ชอบเลยคือ จอสัมผัส 8 นิ้ว ที่ดูขัดหูขัดตามาก ๆ เมื่อเทียบกับค่ายอื่น ๆ แต่ยังดีที่มีฟังก์ชันครบ

ส่วนขุมพลังใช้เครื่องยนต์ดีเซล 2.8L V4 VN-Turbo รหัส 1GD-FTV รีดพละกำลังได้ 204 แรงม้า ทำแรงบิด 500 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ขับเคลื่อน 4 ล้อ จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดไดเร็คอินแจ็คชั่น คอมมอนเรล (แบบ i-ART) พร้อมมีความจุถัง 80 ลิตร รองรับน้ำมันได้สูงสุด B20 ครับ ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างคือ อัตราการสิ้นเปลืองเครมไว้ถึง 25 กม./ล. เลยทีเดียว


3. Isuzu D-MAX V-Cross 4×4 3.0 Ddi M 4-door A/T ราคา 1,217,000 บาท

Isuzu D-MAX V-Cross 4×4 3.0 Ddi M 4-door A/T
Isuzu D-MAX V-Cross 4×4 3.0 Ddi M 4-door A/T
เครื่องยนต์ 3.0L V4 DOHC VGS-Turbo, Intercooler
น้ำมันเชื้อพลิง ดีเซล (รองรับ B20)
แรงม้า-แรงบิด 190 PS / 3,600 RPM
450 N·m / 1,600-2,600 RPM
ระบบขับเคลื่อน 4WD
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อม Rev Tronic
ระบบเบรก -หน้า : ดิสก์เบรก
-หลัง : ดรัมเบรก
ระบบกันสะเทือน -หน้า : อิสระปีกนก 2 ชั้น โช้กอัพแก๊ส
-หลัง : แหนบแผ่นรูปครึ่งวงรี พร้อมโช้กอัพแก๊ส
อัตราสิ้นเปลือง 13-14 กม./ลิตร (ไม่เป็นทางการ)
ล้อและยาง ล้ออัลลอย Matte Black 18 นิ้ว 265/60R18

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • ดีไซน์สวย ดูสปอร์ตทั้งภายนอก ภายใน แต่ยังดูแข็งแกร่ง
  • กำลัง 190 แรงม้า 450 นิวตัน-เมตร
  • อัตราการสิ้นเปลืองที่ดี
  • เครื่องยนต์ปรับแต่งได้ง่าย
  • ราคาถูก (เทียบกับกระบะที่แพงที่สุดของแต่ละค่าย)

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ภายในดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นปกติ
  • ให้เบาะไฟฟ้าฝั่งคนขับ ตำแหน่งเดียว
  • เบรกหลังเป็นดรัมเบรก
ทุกคนคงรู้จัก Isuzu D-MAX กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะนี่คือรถกระบะที่ทำยอดขายสูงที่สุดได้หลายสมัย ซึ่ง D-MAX V-Cross 4×4 ก็เป็นการนำกระบะขวัญใจคนไทย มาอัปเกรดใหม่ โดยการปรับโฉมใหม่ให้ดูแข็งแกร่งมากขึ้น อัปเกรดเครื่องยนต์ เพิ่มสมรรถนะการขับขี่ให้สูงขึ้น และมีการเพิ่มความล้ำสมัย เพื่อใช้ต่อสู้ในตลาดกระบะพรีเมี่ยม ซึ่งกำลังเป็นที่ได้รับความนิยมในบ้านเรา โดยตัวถัง 4 ประตู จะมีให้เลือกอยู่ 3 รุ่นย่อยครับ ได้แก่ รุ่น 3.0 Ddi Z M/T 4 Door ราคา 1,004,000 บาท, รุ่น 3.0 Ddi ZP M/T 4 Doors ราคา 1,119,000 บาท และท๊อปสุดรุ่น 3.0 Ddi M A/T 4 Doors ราคา 1,217,000 บาท
อ่านเพิ่มเติม

ถ้าเทียบกับ X-series หรือปิกอัพ 4 ประตู หน้าตาของ Isuzu V-Cross 4×4 MAGIC EYEs จะได้รับการตกแต่งใหม่ เพื่อให้ดูสปอร์ตดุดันขึ้น และเติมเต็มด้วยสมรรถนะออฟโรดอันทรงพลัง กระจังหน้าใหม่ดีไซน์ Double dimensions แบบทูโทนสีเทาดำ และ Black Chrome รับกับเส้นสายไฟหน้า Vision Bi-LED ที่มีไฟ Daylight ในตัว และไฟท้าย Dual-Sonic LED ทั้งยังติดตั้งชุดแต่งอื่น ๆ ที่ทั้งหมดก็ถูกดีไซน์มาเป็นสีเทาดำ ตัดกับสีตัวรถ

ในห้องโดยสารจะเน้นความกว้างขวาง และออกแบบ Usability Design เน้นความสะดวกสบาย ตกแต่งแบบ Sharp Horizontal Layers ที่มีการเล่นระดับ ช่วยให้ดูมีมิติขึ้น ส่วนต่าง ๆ มีการหุ้มหนังสังเคราะห์สีดำ เดินด้ายน้ำตาล เสริมด้วย Satin Silver และ Café Brown เบาะนั่ง Coolmax ดีไซน์กระชับมีใช้เทคโนโลยี AVEC ช่วยซับแรงสั่นสะเทือนลดอาการเมื่อย แต่จะเป็นไฟฟ้าที่คนขับเท่านั้น ปรับได้ 8 ทิศทาง ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้มาครบ ทั้ง มาตรวัด Super Vision จอข้อมูลการขับขี่ (Smart MID) 4.2 นิ้ว จอสัมผัสกลาง 9 นิ้ว พร้อมกล้องถอย ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ Dual Zone พร้อมระบบกรองอากาศ และช่องแอร์ตอนหลัง

ด้านขุมพลังรุ่นนี้มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล 3.0L V4 Ddi Blue Power รหัส 4JJ3-TCX ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่ในรุ่นปิกอัพ 4 ประตู Hi-Lander 3.0 Ddi M A/T ขับเคลื่อน 4 ล้อ มาพร้อมระบบ Terrain Command สามารถมอบแรงม้าได้สูงสุด 190 ตัว และแรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด แบบ Rev-Tronic นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบ Eletronic Diff-Lock หรือระบบล็อกเฟืองท้ายไฟฟ้ามาให้ด้วย ส่วนน้ำมันเชื้อเพลิงรุ่นนี้ถังมีความจุ 75 ลิตร รองรับได้สูงสุด B20 และรุ่นนี้สามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้ประมาณ 13-14 กม./ลิตร ครับ


4. New Nissan Navara DC PRO-4X 7AT  ราคา 1,160,000 บาท

New Nissan Navara DC PRO-4X 7AT
New Nissan Navara DC PRO-4X 7AT
เครื่องยนต์ 2.3L V4 DOHC Twin-Turbo Intercooler
น้ำมันเชื้อพลิง ดีเซล (รองรับ B20)
แรงม้า-แรงบิด 190 PS / 3,750 RPM
450 N·m / 1,500-2,500 RPM
ระบบขับเคลื่อน 4WD
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล
ระบบเบรก -หน้า : ดิสก์เบรก
-หลัง : ดรัมเบรก
ระบบกันสะเทือน -หน้า : อิสระปีกนกคู่
-หลัง : แหนบซ้อนพร้อมโช้คอัพ
อัตราสิ้นเปลือง 14-15 กม./ลิตร (ไม่เป็นทางการ)
ล้อและยาง ล้ออัลลอยสีดำแบบ Off-Road 17″ 255/65R17

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • ดีไซน์เรียบ ๆ ดูแข็งแกร่ง บึกบึน
  • กำลัง 190 แรงม้า 450 นิวตัน-เมตร กำลังดี
  • อัตราการสิ้นเปลืองที่ดี
  • เทคโนโลยีจัดเต็ม โดดเด่นด้วยกล้อง 360 องศา
  • ช่วงล่างดี ในกลุ่มรถกระบะด้วยกัน
  • ทำราคาได้ดี

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ภายในดีไซน์ไม่ต่างจากรุ่นปกติ
  • ให้เบาะไฟฟ้าฝั่งคนขับ ตำแหน่งเดียว
  • เบรกหลังเป็นดรัมเบรก
Nissan Navara เป็นกระบะอีกหนึ่งรุ่นที่อยู่คู่คนไทยมานานครับ ซึ่งมันมาแทนรถตำนานอย่าง Big-M โดยซีรี่ส์ท็อปสุดในปัจจุบันก็คือ Nissan Navara PRO series ที่มาพร้อมหน้าตาอันเรียบง่ายแต่ดูคมเข้ม บวกกับตัวถังขนาดใหญ่ ช่วงล่างแน่น ทำให้ภาพรวมมันดูแข็งแกร่งสุด ๆ ครับ ใครที่กำลังมองหากระบะออฟโรดจริง ๆ เอาไปใช้บุกตลุยตามเส้นทางต่าง ๆ ที่ไม่ว่าถนนจะเป็นอย่างไร มันก็พาคุณไปได้ครับ โดยในปี 2023 นี้ Navara PRO series มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ PRO-2X ราคา 1,030,000 บาท และ PRO-4X ราคา 1,160,000 บาท เท่านั้นครับ
อ่านเพิ่มเติม

ดีไซน์ภายนอกยังคงเอกลักษณ์ของ Navara เอาไว้อย่างชัดเจนครับ เน้นหน้าตาที่ดุดัน และแข็งแกร่ง โดดเด่นด้วยกระจังหน้า Interlock ขนาดใหญ่ มาในโทนสีดำ สอดรับกับไฟหน้า Quad-eye LED ที่มีเส้นไฟ Daytime Running Light พร้อมตัดขอบสีดำ ช่วยให้ดูหล่อเข้มขึ้น นอกจากนี้พวกชุดแต่งต่าง ๆ และล้ออัลลอย ขนาด 17 นิ้ว ที่ติดตั้งยางออฟโรด All Terrain ล้วนมาในโทนสีดำ เพื่อให้ตัดกับสีตัวรถ ส่วนภายในก็ยังคงเน้นความกว้างขวาง มาพร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ตกแต่งด้วยลาย Piano black เบาะทรงสปอร์ตหุ้มหนังสังเคราะห์ Quole modure ติดโลโก้ PRO-4X เป็นไฟฟ้าที่ปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมดันหลังไฟฟ้าเฉพาะฝั่งผู้ขับ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกอิสระซ้าย-ขวา คู่กับช่องแอร์ตอนตอนหลัง จอแสดงข้อมูลการขับขี่ 3 มิติ 7 นิ้ว ระบบความบันเทิงให้ NissanConnect ทำงานคู่กับจอสัมผัส 8 นิ้ว และมีกล้องมองรอบคัน 360° มาให้ด้วย

ด้านสมรรถนะมาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 2.3L V4 เทอร์โบคู่อินเตอร์คูลเลอร์ สามารถรีดแรงม้ามาได้สูงสุด 190 แรงม้า ที่ 3,750 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500-2,500 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล สำหรับตอบโจทย์ได้ทุกเส้นทาง โดยมีความจุถังน้ำมันอยู่ที่ 80 ลิตร สามารถจะทำอัตราสิ้นเปลืองได้ดีในระดับนึงเลยอยู่ที่ประมาณ 14-15 กม./ลิตร ครับ (ไม่เป็นทางการ)


5. All-new Mitsubishi Triton Double Cab 2.4 ULTRA 6AT ราคา 1,024,000 บาท

All-new Mitsubishi Triton Double Cab 2.4 ULTRA 6AT
All-new Mitsubishi Triton Double Cab 2.4 ULTRA 6AT
เครื่องยนต์ 2.4L V4 VG Turbo Intercooler
น้ำมันเชื้อพลิง ดีเซล (รองรับ B20)
แรงม้า-แรงบิด 184 PS / 3,500 RPM
430 N·m / 2,250-2,500 RPM
ระบบขับเคลื่อน 2WD
ระบบส่งกำลัง เกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
ระบบเบรก -หน้า : ดิสก์เบรก
-หลัง : ดรัมเบรก
ระบบกันสะเทือน -หน้า : อิสระปีกนก 2 ชั้น โช้กอัพ
-หลัง : แหนบแผ่นซ้อน พร้อมโช้กอัพ
อัตราสิ้นเปลือง N/a
ล้อและยาง ล้ออัลลอย 18 นิ้ว 265/60R18
ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดี เบสท์รีวิวเลือกให้

เหตุผลที่ควรซื้อ

  • รุ่นใหม่ล่าสุด
  • ดีไซน์คลาสสิค ดูแข็งแกร่ง
  • ภายในดีไซน์พรีเมียม
  • ฟังก์ชัยจัดเต็ม
  • ราคาถูก (เทียบกับกระบะที่แพงที่สุดของแต่ละค่าย)

เหตุผลที่ควรหลีกเลี่ยง

  • ยังเป็นรุ่นท็อปธรรมดาอยู่
  • ให้เบาะไฟฟ้าฝั่งคนขับ ตำแหน่งเดียว
  • เบรกหลังเป็นดรัมเบรก
  • ต้องรอรุ่นพิเศษว่าจะต่างรุ่นปกติอย่างไร
มาปิดท้ายกันกับ All-new Mitsubishi Triton 2024 กระบะอีกหนึ่งรุ่นที่ทำตลาดในไทยมานาน ซึ่งรุ่นนี้เพิ่งถูกเปิดตัวออกมาสด ๆ ร้อน ๆ เลย โดยนับเป็นเจเนอเรชัน 6 แล้ว สำหรับโฉมนี้เป็นการพัฒนามาใหม่ทั้งหมดครับ เรียกว่า All-new จริง ๆ ปรับโฉมในรอบ 9 ปี เปิดตัวในไทยเป็นครั้งแรกในโลก โดย ณ วันที่เราเขียนบทความนี้รุ่นพิเศษยังไม่มีนะครับ โดยรุ่นที่แพงที่สุดจะมี 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น Double Cab 2.4 PRIME 6MT เป็น 4WD ราคา 1,016,000 บาท และ Double Cab 2.4 ULTRA 6AT เป็น 2WD ราคา 1,027,000 บาท ครับ เอาไว้ถ้ามีการเปิดตัวออกมาเมื่อไหร่ เราจะมาอัพเดทกันอีกทีนะครับ
อ่านเพิ่มเติม

อย่างที่บอกครับ All-new Triton 2024 (เจนฯ 6) มาพร้อมดีไซน์แบบปรับโฉมใหม่หมดจดเลย มีการปรับปรุงพัฒนาเฟรมตัวรถ อัพเกรดแชสซีส์ ปรับช่วงล่างให้ดียิ่งขึ้น พร้อมยัดเครื่องยนต์ขุมพลังใหม่ พร้อมสำหรับการพจญภัยไปทุก ๆ เส้นทาง ซึ่งหน้าตายังคงมีเอกลักษณ์ Dynamic Shield แต่จะเน้นเหลี่ยมมุมมากขึ้น ดูแข็ง ๆ ทือ ๆ รับกับเส้นไฟหน้า LED และไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED ที่มีดีไซน์เฉียบคม ดูมีมิติ ด้านท้ายติดตั้งไฟ T-shaped ทรงเหลี่ยม ๆ เหมือนกัน ภายในก็เน้นความกว้างขวาง ที่มีทัศนวิสัยเปิดให้รู้สึกปลอดโปร่ง และตกแต่งมาในโทนสีดำตัดกับโครเมี่ยม ด้วยแนวเส้นตรงที่ดูเป็นเหลี่ยมมุม สอดรับกับหน้าตาภายนอก

มีการเลือกใช้วัสดุที่พรีเมียม บุนุ่ม พร้อมหุ้มหนังแท้สลับหนังสังเคราะห์สีดำ เพื่อให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยม เบาะนั่งคู่หน้าทรงสปอร์ต  โดยจะเป็นเบาะไฟฟ้าปรับได้ 8 ทิศทาง พร้อมระบบดันหลังไฟฟ้าเฉพาะฝั่งผู้ขับขี่ ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ก็มีมาให้ทั้ง หน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ 7 นิ้ว ที่ออกแบบมาให้ดูง่ายมาก ๆ จอสัมผัสกลาง 9 นิ้ว จัดวางแบบตั้ง ทำให้ดูล้ำสมัยยิ่งขึ้น พร้อมกับระบบปรับอากาศอัตโนมัติ แยกซ้าย-ขวา นอกจากนี้ที่ด้านหน้ายังมีที่ชาร์จไร้สาย และช่องจ่ายไฟ DC 12V 2 ช่อง แถมยังติดตั้งช่อง USB มาทั้ง Type-C และ Type-A อย่างละ 1 ช่อง มาให้ทั้ง ตอนหน้า และตอนหลังเลย

ในด้านสมรรถนะ All-new Triton มาพร้อมเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ Hyper Power 2.4L V4 Commonrail VG Turbo Intercooler สามารถรีดกำลังได้สูงสุด 184 แรงม้า ที่ 3,500 รอบ/นาที และแรงบิดสูงสุด 430 นิวตัน-เมตร ที่ 2,250-2,500 รอบ/นาที พร้อมส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ซึ่งคงต้องรอดูตัวรุ่นพิเศษแล้วล่ะครับว่าจะมีเพิ่มชุดแต่งมาให้อย่างไร ? มีแรงม้าเพิ่มขึ้นหรือไม่ ? และมีราคาอยู่ที่เท่าไหร่ ? ไว้เราค่อยมาอัพเดทนะครับ


หากคุณต้องการรถที่มีความอเนกประสงค์ แน่นอนครับ รถกระบะ 4 ประตู ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่สุดครับ ด้วยความดุดัน แข็งแกร่ง สมรรถนะสูง ทำให้ลุยได้ทุกที่ทุกสถาพถนน ด้านภายในห้องโดยสารก็กว้างขวาง อุปกรณ์อำนวยความสะดวกจัดเต็ม ทำให้นั่งสบายสุด ๆ สามารถเดินทางพร้อม ๆ กับครอบครัวได้ทุกที่ แถมขึ้นชื่อว่า รถกระบะ มันก็ยังสามารถจะบรรทุกได้เยอะอยู่ครับ ซึ่งด้วยความหลากหลาย ความอเนกประสงค์เหล่านี้ ทำให้รถกระบะ 4 ประตูจัดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสุด ๆ ครับ แต่ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกรถกระบะ มีข้อเสียใหญ่ที่คุณต้องรับให้ได้ก่อนนั่นก็คือ อัตราการสิ้นเปลือง

ดังนั้นถ้าหากคุณแบกรับค่าน้ำมันไม่ไหว แนะนำให้เลือกรถประเภทอื่น จะดีกว่าครับ และถ้าใครรู้สึกว่าแพงเกินไปในแต่ละค่ายก็ยังมี 4 ประตูตัวอื่น ๆ ให้เลือกอีกครับ


ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก :

  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Ford : www.ford.co.th
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Toyota : www.toyota.co.th
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Isuzu : www.isuzu-tis.com
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Nissan : www.nissan.co.th
  • เว็บไซต์อย่างเป็นทางการ Mitsubishi : www.mitsubishi-motors.co.th
Palm PN

Palm PN

I with a bachelor degree in Computer Science from Songkhla Rajabhat University. I live in Songkhla. I like to write articles about in IT products and motorcycle accessories.

Next Post
ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้ดีลดีเบสท์รีวิวเลือกให้