เปิดตัว All New Toyota Innova ZENIX ใหม่ ขุมพลัง Hybrid 186 แรงม้า เริ่มต้น 1.379 ล้านบาท

เชื่อว่า คนไทยส่วนใหญ่น่าจะรู้จักเจ้า Toyota Innova กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เพราะนี่คือ รถ Mini MPV 7 ที่นั่ง รุ่นแรก ๆ ที่ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีมาก ๆ ครับ จนมันสามารถทำตลาดในบ้านเราได้ต่อเนื่องเป็นสิบปีเลย ซึ่งหลายปีมานี้มันก็มีข่าวโฉมใหม่พร้อมภาพหลุดออกมาเรื่อย ๆ ครับ แต่ก็ยังไม่เปิดตัวโฉมใหมออกมาสักที ทำให้แฟน ๆ ต่างก็ตั้งตารอกันมาตลอด และในที่สุดโตโยต้าก็ได้มีการเปิดตัว All New Toyota Innova ออกมาแล้ว ในอินโดนีเซีย และมาเลเซีย

จนล่าสุดทาง บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด ก็ได้ฤกษ์เปิดตัวเจ้า All New Toyota Innova ZENIX ในตลาดรถยนต์ประเทศไทยอย่างเป็นทางการ โดยออกแบบใหม่หมดทุกอย่าง ไล่มาตั้งแต่ การออกแบบ ภายนอก ภายใน อุปกรณ์อำนวยความสะดวก เทคโนโลยีความปลอดภัยต่าง ๆ รวมไปถึงระบบขับเคลื่อนใหม่ เครื่องยนต์เบนซิน Hybrid 2.0 ลิตร ซึ่งให้กำลังสูงสุดถึง 186 แรงม้า และประหยัดน้ำมันได้ถึง 21.3 ก.ม./ลิตรเลยทีเดียว โดยทางโตโยต้าจะมีมาให้เลือก 2 รุ่นย่อย ครับ เคาะราคาเริ่มต้นที่ 1,379,000 บาท ครับ

ราคาอย่างเป็นทางการ All-new Innova Zenix 2024

สำหรับ All-new Innova Zenix เป็นรถอเนกประสงค์ Mini MPV 7 ที่นั่ง ระดับพรีเมียม เจนเนอเรชั่นที่ 3 ของ Innova โดยจะมีการนำเข้าทั้งคันจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งโฉมนี้จะได้รับการพัฒนาบนแพล็ตฟอร์มโมโนค็อก TNGA (GA-C) ทำให้น้ำหนักลดลง และประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังไฮบริด ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหน้า ให้กำลังสูงสุด 186 แรงม้า พร้อมระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense ที่ให้เป็นมาตรฐานทั้ง 2 รุ่นย่อย

All-new Toyota Innova Zenix 2024 รุ่น ราคา 2.0 HEV Smart 1,379,000 ฿ 2.0 HEV Premium 1,479,000 ฿

มิติตัวถัง (Dimension)

ถ้าดูจากตารางสเปกด้านบนนี้ จะเห็นเลยว่า All-new Innova Zenix 2024 มีขนาดใหญ่พอสมควรเลยครับ ซึ่งจะใหญ่กว่าพวกรถ Crossover SUV อยู่เล็กน้อย แต่จะสั้นกว่ารถกระบะ 4 ประตู ซึ่งเพื่อคุณเห็นภาพ ขนาดมันจะใหญ่พอ ๆ กับรถ PPV เลยครับ และยังเพิ่มความสปอร์ต ด้วยล้ออัลลอย 18 นิ้ว ใหญ่กว่าโฉมก่อน เมื่อบวกกับหน้าตาที่เฉียบคมขึ้นจึงทำให้ดูลงตัวสุด ๆ เลย

เทียบมิติตัวถังกับคู่แข่งในตลาด

หากเทียบมิติตัวรถกับรุ่นน้องในค่ายอย่าง All New Toyota Veloz และคู่แข่งอื่น ๆ All new Innova Zenix 2024 ถือว่าใหญ่กว่าค่ายอื่นอยู่พอสมควรเลย โดยใหญ่กว่า Mitsubishi Outlander PHEV เสียอีกครับ ทำให้ภายในห้องโดยสารมีความกว้างขวางยิ่งขึ้น สามารถมอบความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารได้ทั้ง 3 แถวเลย ตอบโจทย์ครอบครัวขนาดใหญ่ได้เป็นอย่างดี

ดีไซน์การออกแบบภายนอก

อย่างที่บอกครับ Innova Zenix 2024 โฉมนี้เป็นโฉม All New ทำให้มันมีดีไซน์ทุกอย่างใหม่หมดจดทั้งภายนอกและภายใน โดยเฉพาะรูปลักษณ์ที่ได้ผสมผสานหน้าตาแบบใหม่ของโตโยต้าเข้าไปได้อย่างลงตัว ทำให้ดูสปอร์ตพรีเมียมและเฉียบคมมากยิ่งขึ้น ให้อารมณ์เดียวกับพวกรถ Crossover SUV หรือรถ SUV เลย แต่จะใหญ่กว่าเล็กน้อยครับ

โดยด้านหน้าจะมาพร้อมกระจังหน้าขนาดใหญ่ทรงหกเหลี่ยม ด้านในมีการทำลวดลายรังผึ้ง ตัดขอบด้วยเส้นสายโครเมียม ช่วยให้ดูมีมิติมากขึ้น สอดรับกับโคมไฟหน้า LED รูปทรงเฉียบคม และด้านล่างก็มีไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED แบบเส้น พร้อมมีไฟตัดหมอกหน้า LED อยู่บนกันชนหน้าที่มีดีไซน์เหลี่ยม ๆ ส่วนด้านท้ายมาพร้อมกับกันชนหลัง และประตูไฟฟ้าขนาดใหญ่ ติดตั้งระบบ Kick Activated ที่เปิด-ปิดได้ง่าย ๆ ส่วนไฟท้ายก็เป็น LED มาในทรงเรียวยาวรับกับเส้นสายด้านข้าง ช่วยดูดุดันยิ่งขึ้น

ถัดมาที่ด้านข้างตัวรถก็ต้องขอบอกเลยว่า ดูลงตัวสุด ๆ ครับ โดยเฉพาะเส้นสายที่ลากจากด้านหน้า ตัดผ่านที่ด้านข้างตัวรถ ยาวไปจนถึงโคมไฟท้ายรถ ทำให้ไม่ว่ามองจากมุมไหน มันก็ดูโฉบเฉียวและปราดเปรียวสุด ๆ ครับ พร้อมกับมีการตกแต่งด้วยซุ้มล้อสีดำที่หนากำลังดี และคิ้วสีตำที่ตัดด้วยโครเมียมตามจุดต่าง ๆ รอบคัน ทั้ง คิ้วด้านหน้า คิ้วกันกระแทกขนาดใหญ่ที่ประตู และคิ้วโครเมียมที่ท้ายรถ ช่วยเพิ่มความดุดันให้อารมณ์แบบรถ SUV เลย และยังเพิ่มความสปอร์ตด้วยล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว ซึ่งหากเทียบกับโฉมก่อนหน้านี้ที่มาเป็นกล่องเรียบ ๆ โฉมนี้จะดูหล่อเหลาขึ้นสุด ๆ ครับ

เปรียบเทียบสเปกภายนอกของทั้ง 2 รุ่นย่อย

อุปกรณ์ภายนอก	All-new Toyota Innova Zenix 2024
	2.0 HEV Smart	2.0 HEV Premium
ไฟหน้า / ไฟส่องสว่างเวลากลางวัน	LED
ไฟท้าย	LED
ไฟตัดหมอก	LED
ระบบปรับระดับไฟหน้า สูง-ต่ำ
ระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ	พร้อมระบบ Follow-Me-Home
กันชนหน้า-หลัง	สีเดียวกับตัวรถ
กระจังหน้า	สีดำเงา และโครเมียม
มือจับประตู	โครเมียม
กระจกมองข้าง	สีเดียวกับตัวรถ ไฟเลี้ยว LED ในตัว ปรับ-พับเก็บไฟฟ้าอัตโนมัติ และไฟ Welcome lamp
เสาอากาศ	แบบครีบฉลาม
หลังคาซันรูฟ		Panoramic Roof
ที่ปัดน้ำฝนด้านหน้า	แบบหน่วงเวลา และปรับตั้งเวลาได้
กระจกบังลมหน้า	แบบกันเสียงรบกวน (Acoustic Glass)
ราวหลังคา
สปอยเลอร์หลัง

จากตารางด้านบนเราก็จะเห็นเลยว่า ทั้ง 2 รุ่น 2.0 HEV Smart และ 2.0 HEV Premium ให้อุปกรณ์ภายนอกมาเหมือนกันหมดทุกอย่างเลย ต่างกันที่หลังคา Panoramic Roof เท่านั้น ที่จะให้มาเฉพาะรุ่นท๊อปสุด ดังนั้นส่วนต่าง 1 แสนบาท แต่ได้หลังคาที่เป็นซันรูฟมาก็ถือว่า คุ้มค่าพอสมควรครับ ยิ่งเมื่อบวกกับระบบและเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นท๊อป ส่วนตัวก็รับได้ครับ

ดีไซน์การออกแบบภายใน

มาต่อกันอีกหนึ่งจุดเด่นของ Innova ที่มีมาตั้งแต่โฉมก่อน ๆ ซึ่ง All-new Toyota Innova Zenix 2024 ก็ยังคงรักษาจุดเด่นนี้เอาไว้ นั่นก็คือ ภายในห้องโดยสารที่กว้างขวางครับ โดยยังคงตกแต่งมาในสไตล์คลาสสิคเน้นความเรียบหรู เหมาะกับทั้ง วัยรุ่น และผู้ใหญ่เลย โดยเฉพาะการออกแบบคอนโซลหน้าที่ยังคงเรียบง่าย ดูไม่ซับซ้อน แต่ตกแต่งเสริมความโมเดิร์นเข้าไป ซึ่งทั้งคอนโซลหน้า คอนโซลกลาง รวมถึงแผงประตู บางจุดจะมีการบุนุ่มและหุ้มหนังสังเคราะห์มาให้ ช่วยมอบสัมผัสที่ดี ซึ่งทั้ง 2 รุ่นจะต่างกันที่คู่สีเท่านั้นครับ

ส่วนเบาะนั่งคู่หน้า จะเป็นเบาะนั่งดีไซน์กระชับ ปรับไฟฟ้าได้เฉพาะฝั่งผู้ขับเท่านั้นนะครับ ส่วนเบาะแถว 2 มาเป็นแบบ Captain Seat แยกจากกัน เน้นความพรีเมียมนั่งสบาย เข้าออกง่าย มาพร้อมโต๊ะพับอีก 2 จุด ซึ่งรุ่น Premium เบาะแถวที่ 2 จะเป็นเบาะปรับไฟฟ้าทั้ง 2 ที่นั่งเลย และมีเบาะรองน่อง ปรับไฟฟ้า Ottoman มาด้วย แต่ในรุ่น Smart จะเป็นการปรับด้วยมือครับ ในขณะที่เบาะแถว 3 ของทั้ง 2 รุ่นย่อย เป็นเบาะแยกพับได้ 50:50 ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของด้านหลัง

เปรียบเทียบอุปกรณ์ภายในของทั้ง 2 รุ่นย่อย

อุปกรณ์ภายใน	All-new Toyota Innova Zenix 2024
	2.0 HEV Smart	2.0 HEV Premium
สีภายใน	สีดำ	ทูโทน (สีน้ำตาล – สีดำ)
วัสดุเบาะนั่ง	หนังสังเคราะห์
เบาะนั่งคนขับ	ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง
เบาะนั่งข้างคนขับ	ปรับธรรมดา
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 2	Captain seat และโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้	Captain seat ปรับไฟฟ้า พร้อมเบาะรองน่องปรับไฟฟ้า Ottoman และโต๊ะส่วนตัวแบบพับได้
เบาะนั่งผู้โดยสารแถวที่ 3	แบบพับเรียบ (50:50)
กระเป๋าหลังเบาะนั่งคู่หน้า
พวงมาลัย	ปรับได้ 4 ทิศทาง (สูง – ต่ำ และใกล้ – ไกล)
วัสดุตกแต่งพวงมาลัย	หุ้มหนัง พร้อมตกแต่งด้วยสีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งแผงคอนโซลหน้า	บุนุ่ม ตกแต่งด้วยตะเข็บ และสีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งแผงประตู	หุ้มหนังสังเคราะห์ บุนุ่มบริเวณที่วางแขน และตกแต่งด้วยสีเงินเมทัลลิก
วัสดุตกแต่งหัวเกียร์	หุ้มหนัง พร้อมตกแต่งด้วยแถบสีเงินเมทัลลิก
กล่องเก็บของบริเวณคอนโซลกลาง	พร้อมฝาปิดหุ้มหนังสังเคราะห์ บุนุ่ม และตกแต่งด้วยตะเข็บ
กระจกหน้าต่างไฟฟ้า พร้อมป้องกันการหนีบ 4 บาน
กระจกแต่งหน้า พร้อมไฟ LED ที่แผงบังแดดคู่หน้า
ไฟอ่านแผนที่ด้านหน้า
ไฟสร้างบรรยากาศในห้องโดยสาร
ไฟส่องสว่างบริเวณห้องเก็บสัมภาระ

สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกพื้นฐานต่าง ๆ ถ้าดูในตารางจะเห็นเลยว่า ทั้ง 2 รุ่นย่อย ให้มาเหมือนกันเลย ต่างกันแค่สี และเบาะนั่งแถวที่ 2 ครับ โดยทั้งคู่จะได้เป็นเบาะ Captain Seat แยก 2 ที่นั่งพร้อมโต๊ะพับส่วนตัวทั้ง 2 ที่นั่ง ซึ่งให้มาเหมือนกันเลยเพียงแต่ของรุ่นท๊อปจะเป็นเบาะปรับไฟฟ้า ที่มีเบาะรองนั่งปรับไฟฟ้าในตัว ซึ่งส่วนนี้ส่วนตัวมองว่าไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่ครับ

อุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความบันเทิงต่าง ๆ

สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และเครื่องเสียงความบันเทิงต่าง ๆ เจ้า All-new Innova Zenix ได้มีการเพิ่มอุปกรณ์มาให้ใกล้เคียงกับรถยนต์ในระดับพรีเมียมยิ่งขึ้นครับ โดยในรุ่นท๊อปสุดอย่าง 2.0 HEV Premium จะได้ทั้งหลังคาซันรูฟทั้งบานแบบ Panoramic Retractable Roof ทำให้ภายในดูโปร่งโล่งสบาย เสริมด้วยไฟ Ambient light คอนโซลกลาง ติดตั้งหน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว พร้อมระบบเชื่อมต่อ T-Connect ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อทั้ง Apple Car Play และ Anroid Auto มีแท่นชาร์จไร้สาย Wireless Charger มาให้ด้วย พร้อมพอร์ตชาร์จทั้ง ด้านหน้า ตรงกลาง และด้านหลัง นอกจากนี้ก็ยังมีระบบเบรกมือไฟฟ้า พร้อม Brake Hold มาด้วย

เทียบอุปกรณ์อำนวยความสะดวก และความบันเทิงของทั้ง 2 รุ่นย่อย

มาตรวัดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวก	All-new Toyota Innova Zenix 2024
	2.0 HEV Smart	2.0 HEV Premium
จอแสดงผลข้อมูลการขับขี่ (MID)	แบบจอสี TFT ขนาด 7 นิ้ว
ระบบ Smart Entry และ Push Start
โหมดการขับขี่	EV Mode / Power / Normal / ECO Mode
ระบบเบรกมือไฟฟ้า
ระบบหน่วงเบรกอัตโนมัติ
ระบบเครื่องเสียง	หน้าจอสัมผัสขนาด 10.1 นิ้ว
ลำโพง	6 ตำแหน่ง
สวิตช์ควบคุมเครื่องเสียง และโทรศัพท์บนพวงมาลัย
ระบบเชื่อมต่อ	Apple CarPlay และ Android Auto
ระบบเชื่อมต่อด้วย Bluetooth
USB Port ด้านหน้า	2 ตำแหน่ง (Type-A, Type-C) ที่คอนโซลหน้า
USB Port ด้านหลัง	2 ตำแหน่ง (Type-C) ที่คอนโซลกลาง
ช่อง DC 12V	2 ตำแหน่ง ที่คอนโซลหน้า และเบาะนั่งแถวที่ 3
ระบบปรับอากาศ	แบบอัตโนมัติ พร้อมช่องปรับอากาศตอนหลัง
กระจกมองหลัง	แบบปรับลดแสงสะท้อน	แบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ
เซ็นเซอร์เปิด-ปิด ฝาท้ายแบบ Kick Activated
การเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัย (Paddle Shift)
สัญลักษณ์ Zenix ด้านท้ายรถ

สำหรับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่าง ๆ ก็เป็นเช่นเดียวกับอุปกรณ์อื่น ๆ ครับ ที่ส่วนใหญ่จะเหมือนกันหมดเลย แต่รุ่นเริ่มต้นจะไม่มี Paddle Shift หรือการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยมาให้ นอกจากนี้ที่กระจกมองหลังจะให้มาเป็นแบบปรับลดแสงสะท้อนปกติครับ ในขณะที่รุ่นท๊อปสุดจะมี Paddle Shift และให้กระจกมองหลังแบบปรับลดแสงสะท้อนอัตโนมัติ

เทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ

ด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ทั้ง ระบบช่วยเหลือการขับขี่ และระบบความปลอดภัยมาตรฐานอย่าง Toyota Safety Sense ก็ล้วนให้มาเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดครับ มีทั้ง ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC), ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC), ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC), ระบบบังคับเลี้ยวไฟฟ้า (EPS), ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM), กล้องถอย, ระบบเตือนขณะถอยรถ (RCTA), ระบบแจ้งเตือนลมยาง (TPMS), ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) แบบ All-speed, ระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง, เซ็นเซอร์กะระยะ 8 ตําแหน่ง และถุงลมนิรภัย 6 ตําแหน่ง ทั้งหมดนี้ให้มาทั้ง 2 รุ่นย่อย เลยครับ ส่วนรุ่น 2.0 HEV Premium จะเพิ่มกล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor) มาให้

เทียบเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยต่าง ๆของทั้ง 2 รุ่นย่อย

เทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ	All-new Toyota Innova Zenix 2024
	2.0 HEV Smart	2.0 HEV Premium
สัญญาณเตือนกะระยะ	ด้านหน้า 4 ตำแหน่ง และด้านหลัง 4 ตำแหน่ง
สัญญาณไฟกระพริบ เมื่อเบรกกะทันหัน (Emergency Stop Signal)
ระบบเบรก	ดิสก์เบรกหน้า-หลัง ระบบ ABS พร้อมระบบเสริมแรงเบรก (BA) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD)
ระบบควบคุมการทรงตัว (VSC)
ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี (TRC)
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (HAC)
ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตาที่กระจกมองข้าง (BSM) และช่วยเตือนขณะถอยรถ (RCTA)
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)	ระบบ Dynamic Radar Cruise Control แบบ All-speed และระบบลดความเร็วอัตโนมัติขณะเข้าโค้ง
ระบบความปลอดภัยก่อนการชน (PCS)
ระบบเตือนเมื่อออกนอกเลนพร้อมพวงมาลัยหน่วงกลับอัตโนมัติ (LDA) และระบบควบคุมรถให้อยู่กลางเลน (LTA)
ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
เข็มขัดนิรภัย	7 ตำแหน่ง แบบดึงรั้งกลับ และผ่อนแรงอัตโนมัติ ELR 3 จุด พร้อมระบบเตือนคาดเข็มขัดนิรภัย
ถุงลมเสริมความปลอดภัย (SRS)	คู่หน้า / ด้านข้าง / ม่านด้านข้าง
จุดยึดเบาะนั่งสำหรับเด็ก (ISOFIX)
ไฟเบรกดวงที่สาม และไฟตัดหมอกหลัง
ระบบแจ้งเตือนลมยาง TPMS
กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor)
ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

สำหรับเทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยต่าง ๆ จากตารางด้านบนจะเห็นเลยว่า ทั้ง 2 รุ่นย่อยให้มาแทบจะเหมือนกันเลยครับ ต่างกันแค่ กล้องมองรอบคัน PVM (Panoramic View Monitor) 360 องศา เท่านั้น

สมรรถนะเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า

ในด้านสมรรถนะการขับขี่ All-new Innova Zenix จะขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ไฮบริดจ์ รหัส M20A-FXS ซึ่งจะใช้เครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์วแบบ Dual VVT-i ที่รีดแรงม้าสูงสุด 152 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 188 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400-5,200 รอบ/นาที ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า ซิงโครนัสแม่เหล็กถาวร ที่ให้กำลังสูงสุด 83 แรงม้า มีแรงบิด 206 นิวตัน-เมตร ซึ่งเมื่อทำงานร่วมกันทั้ง 2 ระบบ จะสามารถรีดแรงม้าได้สูงสุดถึง 186 แรงม้าเลยทีเดียว โดยจะเป็นระบบขับหน้า ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ e-CVT มาพร้อมแบตเตอรี่นิกเกิลเมทัลไฮดราย Ni-MH 1.3 kWh

ส่วนช่วงล่างมาพร้อมกับระบบกันสะเทือนล้อหน้าแบบอิสระแม็คเฟอร์สันสตรัท (MacPherson Strut) พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบทอร์ชั่นบีม (Torsion Beam) พร้อมเหล็กกันโคลงเช่นกัน ซึ่งให้ความนุ่มนวลเป็นพิเศษ ตอบโจทย์การขับขี่ภายในเมืองมาก ๆ ส่วนระบบเบรกก็ให้มาเป็นดิสก์เบรก ABS ทั้งล้อหน้าและล้อหลังเลย ซึ่งมาพร้อมกับระบบเสริมแรงเบรก (BA) และระบบกระจายแรงเบรก (EBD) ให้ความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น

เปรียบเทียบสมรรถนะเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้าของทั้ง 2 รุ่นย่อย

ทั้งสองรุ่นย่อยจะใช้ขุมพลังชุดเดียวกันครับ ซึ่งถือว่าทั้ง แรง และประหยัดเชื้อเพลิงขึ้นมาก ๆ ซึ่งถ้าเทียบกับโฉมเก่าที่จะมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยประมาณ 14.1 กิโลเมตร/ลิตร ในขณะที่โฉมใหม่ที่แรงกว่า สามารถมอบอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงเฉลี่ยสูงถึง 21.3 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียวครับ ดังนั้นมันสมกับเป็นเครื่องยนต์ไฮบริจด์ที่ตอบโจทย์ยุคนี้มาก ๆ ครับ

สรุป

และนี่คือทั้งหมดของ All-new Toyota Innova Zenix ที่เรารวบรวมมาเพื่อให้เพื่อน ๆ ใช้ประกอบการตัดสินใจ ซึ่งต้องยอมรับเลยว่า โฉมนี้เป็นโฉมออนิวที่สมบูรณ์แบบเลย ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น ดูสปอร์ตลงตัว มีความเท่ และบึกบึนหน่อย ๆ ในขณะที่ภายในก็ดูลงตัวมากขึ้น เบาะนั่งที่ออกแบบมาให้นั่งสบายทุกตำแหน่ง พร้อมระบบความปลอดภัย ของ Toyota ที่ใส่มาให้แบบจัดเต็มทั้ง 2 รุ่นย่อย นอกจากนี้แล้วขุมพลังจากเครื่องยนต์ไฮบริดใหม่ ที่ทั้งแรง แถมประหยัด ให้การขับขี่ที่สนุกขึ้น แต่เมื่อเทียบกับราคาเริ่มต้นที่สูงถึง 1.379 ล้านบาทแล้วก็อาจจะรู้สึกว่าสูงไปนิดนึงครับ แต่หากคุณกำลังมองหารถครอบครัวระดับพรีเมียมที่มีขนาดใหญ่ แต่ยังมีความคล่องตัวอยู่ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกให้ครบครัน เบาะนั่งสบายในทุกตำแหน่ง โดยเฉพาะแถวที่ 2 รูปร่างหน้าตาก็สปอร์ตสุด ๆ เสริมด้วยระบบความปลอดภัยสุดล้ำมาเพียบ พร้อมกับช่วงล่างนุ่มนวล ขับสนุก แถมยังประหยัดน้ำมัน ในตลาดปัจจุบันก็มีแต่เจ้า Innova Zenix รุ่นใหม่นี่แแหละครับ

ขอบคุณรูปภาพและข้อมูลจาก : เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ Toyota Motor Thailand : www.toyota.co.th