ประเภทรถยนต์ที่มาแรงที่สุดช่วง 2-3 ปีนี้ เราคงต้องยกให้กับ รถ Hatchback เลย ยิ่งในปี 2023 ดูเหมือนว่ามันจะทำให้ตลาดรถยนต์ในบ้านเรา
เดี่ยววันนี้เราขอพาทุกคนมาทำความรู้จักกับ รถ Hatchback ให้มากขึ้น เพื่อหาคำตอบกันว่ามันมีข้อดี-ข้อเสียอย่างไร ? มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้รถ Hatchback ได้รับความนิยม ? และในปี 2023 นี้ในตลาดมีรถ Hatchback รุ่นอะไรที่น่าสนใจและน่าจับจองเป็นเจ้าของบ้าง ? ซึ่งเราก็ได้เลือกมารีวิวหลายรุ่น หลายราคาเลยล่ะครับ
รถ Hatchback คืออะไร ? รถ Hatchback มิติตัวรถเล็กกว่า แต่บรรจุสัมภาระได้อเนกประสงค์กว่ารถ Sedan (Honda City Hatchback e:HEV RS ) รถ Hatchback เป็นรถยนต์นั่งขนาดเล็กมีพื้นฐานมาจากรถ Sedan 4 ประตู
โดยรถ Sedan จะแยกพื้นที่โดยสารกับพื้นที่เก็บของออกจากกันชัดเจน มันจึงต้องทำส่วนที่ยื่นออกมาจากซุ้มล้อหลัง เพื่อจะใช้เป็นพื้นที่เก็บของ แต่รถ Hatchback ต้องการจะให้รถสั้นลง จึงมีการรวมพื้นที่เก็บสัมภาระ เข้ากับห้องโดยสาร โดยการตัดส่วนท้ายทิ้งไป และปรับองศาของกระจกหลังให้ตัดตรงลงมาจากขอบหลังคารถ เหลือส่วนที่ยื่นออกมาจากซุ้มล้อหลังแค่เล็กน้อย พร้อมมีการย้ายบานพับของฝากระโปรงไปไว้ที่ขอบหลังคา ดังนั้นเวลาเปิดฝาท้ายมันก็จะเปิดขึ้นทั้งบาน พร้อมกระจกหลังเลย ซึ่งเราก็จะเปิดมาเจอกับเบาะนั่งแถวที่ 2 ซึ่งจะถูกออกแบบให้สามารถพับลงให้ลาดไปกับพื้นได้ ทำให้มีพื้นที่เก็บของเพิ่มมากขึ้นครับ
การเปิดฝาท้ายแบบนี้ มันจะเหมือนกับการที่เราเปิดประตูรถเลย เพราะงั้นฝาท้ายเลยถูกนับเป็นอีก 1 ประตู บางคนก็เลยเรียก รถ Hatchback ว่า รถ 5 ประตู นั่นเอง แต่ก็จะมีรถ Hatchback ที่มี 3 ประตู ด้วย ซึ่งขึ้นอยู่กับพื้นฐานของรถรุ่นนั้นว่าเป็นรถ 4 ประตู หรือ 2 ประตูครับ
Hatchback VS Sedan ข้อดี และข้อควรพิจารณา Hatchback VS Sedan ข้อดี และข้อควรพิจารณา (Mazda 3 Fastback & Mazda 3 Sedan) แน่นอนครับ สิ่งหนึ่งที่ทำให้หลาย ๆ คนชื่นชอบ รถ Hatchback นั่นคือ มิติตัวรถที่สั้นกว่า ดังนั้นสิ่งที่คุณจะได้แน่ ๆ คือความคล่องตัวในการขับขี่ ซึ่งหมายถึง การยูเทิร์น การกลับรถ การจอดเข้าซอง การมุด ฯลฯ จะทำได้ง่ายกว่ามาก เพราะด้วยช่วงรถที่สั้น ส่วนพื้นที่เก็บของ หากเทียบเป็นปริมาตร/ลิตร รถ Hatchback อาจจะมีความจุน้อยกว่ารถ Sedan ก็จริงครับ แต่ถ้าจะถามว่าอะไรใช้ขนของได้ดีกว่ากัน รถ Hatchback คือคำตอบครับ เนื่องจากฝาท้ายที่เปิดได้กว้างกว่า มันจึงใส่ของชิ้นใหญ่ ๆ ได้ ขณะที่รถ Sedan แม้บางรุ่นจะพับเบาะได้ แต่มันก็ยังมีกระจกหลังกั้นไว้อยู่ ทำให้การใส่ของชิ้นใหญ่ ๆ ทำไม่ได้ หรือทำได้ไม่สะดวก
แต่การรวมพื้นที่โดยสาร และพื้นที่เก็บสัมภาระ เข้าเป็นส่วนเดียวกัน โดยจะใช้เบาะนั่งแถวที่ 2 และแผ่นบังสายตาบาง ๆ มาแบ่งสัดส่วน ทำให้รถ Hatchback มีข้อเสียตามมาด้วยอย่างแรกคือ แอร์จะทำงานหนักกว่า เพราะภายในมันกว้างกว่ารถ Sedan ถัดมาคือ การป้องกันเสียงจากภายนอก ไม่ว่าจะเป็นเสียงลม เสียงหอนยาง เสียงผิวถนน ฯลฯ เนื่องจากส่วนท้ายรถเสียงเข้าได้ง่ายกว่า รวมถึงกลิ่นอาหารต่าง ๆ แม้จะเก็บอยู่หลังรถ มันก็จะเข้ามาภายในห้องโดยสารด้วย ถัดมาส่วนท้ายรถ ซึ่งด้วยความที่มีส่วนที่ยื่นออกมาจากซุ้มล้อหลังแค่นิดเดียว ทำให้เวลาโดนชนท้าย มันจะซับแรงกระแทกได้น้อยกว่า นอกจากนี้เวลาล้อหมุนน้ำจากล้อหลังจะดีดขึ้นถึงกระจกเลย ทำให้ด้านหลังรถสกปรกง่ายสุด ๆ ครับ ซึ่งทั้งหมดนี้เจอได้ในรถ Hatchback แทบทุกรุ่นครับ ดังนั้นถ้าคุณรับข้อเสียเหล่านี้ได้ เราไปดูกันเลยว่า ในปี 2023-2024 นี้ มีรถ Hatchback 5 ประตู รุ่นไหนน่าสนใจบ้าง ?
1. Mazda 3 Fastback 2023-2024
Mazda 3 Fastback 2.0 SP Sports
รุ่นย่อย
ราคา
2.0 C Sports
979,000 บาท
2.0 S Sports
1,069,000 บาท
2.0 SP Sports
1,198,000 บาท
2.0 Carbon Edition Sport
1,210,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ C Segment
เครื่องยนต์ Skyactiv-G 2.0L 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual S-VT
ความจุถัง น้ำมัน 51 ลิตร
แรงม้า 165PS / 6,000RPM
เกียร์ Skyactiv-Drive 6 Speed
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง 15.9 กิโลเมตร/ลิตร
VIDEO
จุดเด่น
ดีไซน์สปอร์ต พรีเมี่ยมสุด ๆ
ภายในเรียบหรู วัสดุให้สัมผัสที่ดี ดูมีระดับ
ยอดนิยมสำหรับคนรักการแต่งรถ
ช่วงล่างที่ดีที่สุด มั่นใจในความเร็วสูง ๆ
ความเร็วปลายที่ไหล
ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
ข้อควรพิจารณา
อัตราเร่งที่ต้องรอรอบ
เบาะนั่งแถวที่ 2 ค่อนข้างแคบ
Mazda 3 Fastback 2023 รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ในกลุ่ม C-Segment ที่จะมีขนาดใหญ่ และสมรรถนะที่สูงขึ้นมาหน่อย โดยรุ่นนี้ถือเป็นหนึ่งในรถที่มีคนหลงไหลมากที่สุดเลย ด้วยดีไซน์ที่ดูเรียบหรูสุด ๆ ตัวรถแบน ๆ ให้อารมณ์เหมือนรถสปอร์ตที่ต้องเหลียวมองทุกครั้ง บวกกับชื่อมาสด้าที่โดดเด่นด้านคุณภาพวัสดุที่ใช้ และงานประกอบที่ปราณีต ทำให้มันสามารถต่อสู้กับ Honda Civic ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อเลย ถึงแม้จะแพ้ในด้านความแรง ยิ่งโฉมใหม่ในปี 2023 นี้ ได้มีการปรับในหลาย ๆ จุด และเพิ่มอุปกรณ์ต่าง ๆ ช่วยเสริมภาพลักษณ์ความสปอร์ตพรีเมี่ยมยิ่งขึ้นไปอีก
โดยสมรรถนะได้จาก เครื่องยนต์ Skyactiv-G เบนซิน 2.0 ลิตร 4 สูบเรียง พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่อัจฉริยะ Dual S-VT มอบแรงม้าสูงสุด 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 213 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด Skyactiv-Drive ที่มีโหมดแมนนวล Activematic โดยสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยสูงสุดที่ 15.9 กิโลเมตร/ลิตร ใครต้องการความหล่อ ไม่เน้นแรงม้า รุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ
2. Honda Civic Hatchback 2022-2023
Honda Civic HATCHBACK TURBO RS
รุ่นย่อย
ราคา
HATCHBACK TURBO RS
1,229,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ C Segment
เครื่องยนต์ 1.5L 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTEC TURBO
ความจุถัง น้ำมัน 47 ลิตร
แรงม้า 173PS / 5,500RPM
เกียร์ CVT
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง 16.3 กิโลเมตร/ลิตร
VIDEO
จุดเด่น
ดีไซน์สปอร์ต สมกับความแรง
ยอดนิยมสำหรับคนรักการแต่งรถ
เครื่องยนต์ VTEC TURBO ที่ขับสนุก
ทำกำลังสูงสุด 173 แรงม้า และแต่งเพิ่มแรงม้าได้ง่าย
ช่วงล่างที่ดี มั่นใจในความเร็วสูง ๆ
ภายในกว้างขวาง ดูเรียบหรู
ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING
ข้อควรพิจารณา
โฉมใหม่ไม่มีการทำตลาดในไทย
มีรุ่นย่อยเพียงรุ่นเดียวคือ RS
ราคาแพงที่สุด ในกลุ่ม C-Segment
มีการยืนยันออกมาแล้วว่า Civic Hatchback FK จะเป็นโฉมสุดท้ายที่ทำตลาดในบ้านเรา ดังนั้นใครที่เป็นสาวก Civic และกำลังรอโฉมใหม่อย่างตัว FL อยู่อาจจะหมดหวังแล้ว
Civic Hatchback 2023 อีกขั้นของยนตรกรรม รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ในกลุ่ม C-Segment ด้วยดีไซน์ที่เน้นความสปอร์ตพรีเมียม ดูโฉบเฉี่ยว ปราดเปรียว ทั้ง ภายนอก และภายใน ซึ่งในปีนี้จะเหลือรุ่นย่อยแค่รุ่นเดียวก็ คือ รุ่น RS ที่มาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์สปอร์ตรอบคัน พร้อมท่อไอเสียคู่ออกตรงกลาง และล้ออัลลอยลายสปอร์ต 17 นิ้ว เมื่อบวกกับความหล่อที่มีอยู่แล้ว ทำให้ดูโดดเด่นขึ้นไปอีกส่วน ภายในก็กว้างขวาง แต่งมาในโทนสีดำตัดกับสีแดง และ วัสดุ Piano Black ให้อารมณ์ สปอร์ต เรียบหรู พร้อมอุปกรณ์อำนวยความสะดวกจัดเต็ม และระบบปลอดภัยอัจฉริยะ Honda SENSING ที่ให้คุณขับขี่ได้อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง
ส่วนขุมกำลังขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เบนซิน 1.5 ลิตร VTEC TURBO ที่มอบแรงม้าสูงสุด 173 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 220 นิวตัน-เมตร และส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมมอบความสนุกด้วยโหมดแมนนวลจากแป้น Paddle Shift ที่พวงมาลัย โดยสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยได้สูงสุดถึง 15.9 กิโลเมตร/ลิตร ใครต้องการความหล่อ ไม่เน้นแรงม้า รุ่นนี้ตอบโจทย์ครับ
3. ORA Good Cat 2023-2024
ORA Good Cat 500 ULTRA
รุ่นย่อย
ราคา
400 PRO
828,500 บาท
500 ULTRA
959,000 บาท
GT
1,286,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ B Segment
มอเตอร์ 400 PRO/ 500 ULTRA มอเตอร์ PMSM 105kWGT มอเตอร์ PMSM 126kW
แบตเตอรี่ 400 PRO LiFePO4 47.788 kWh500 ULTRA/ GT Lithium-ion ternary 63.139 kWh
แรงม้า 400 PRO/ 500 ULTRA 143PS / 210N·mGT 171PS / 250N·m
เกียร์ Electronic Shifter
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
ระยะทางวิ่งสูงสุด 400 PRO 400 กิโลเมตร500 ULTRA/ GT 500 กิโลเมตร
VIDEO
จุดเด่น
วิ่งด้วยไฟฟ้า 100%
ดีไซน์โดดเด่น มีเอกลักษณ์
ขนาดเล็ก เหมาะกับการขับในเมือง
เทคโนโลยีช่วยเหลือการขับขี่ และความปลอดภัยสุดล้ำ
การบำรุงรักษาที่น้อยกว่ารถน้ำมัน
ข้อควรพิจารณา
ยังคงใช้โฉมเดิม
ทุกอย่างปรับผ่านหน้าจอ ซึ่งบางครั้งซอฟต์แวก็ทำงานช้า
มีเสียงลม เสียงยาง เข้ารถมากพอสมควร
ORA Good Cat 2023 รถไฟฟ้า EV 100% สไตล์แฮทช์แบ็ก 5 ประตู ในกลุ่ม B-Segment ยอดนิยม ที่ยังคงมาในโฉมเดิม ซึ่งมีดีไซน์ที่โดดเด่น มีเอกลักษณ์โดยถูกออกแบบมาภายใต้แนวคิด Retro Futuristic ที่ผสมผสานเทคโนโลยีสุดล้ำเข้ากับความคลาสสิกได้อย่างลงตัว โดดเด่นด้วยเส้นสายโค้งมนดูสอดรับกับไฟหน้าทรงกลมทรง Cat-Eyes ทำให้มันดูน่ารักสุด ๆ และยังเสริมหล่าด้วย ล้ออัลลอย ขนาด 18 นิ้ว ส่วนภายในห้องโดยสารก็มีความกว้างขวาง ออกแบบ เน้นความ สปอร์ตเรียบหรู พร้อมมอบสัมผัสที่พรีเมี่ยม เสริมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พร้อม ให้คุณขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วย เทคโนโลยีช่วยขับขี่อัจฉริยะ และระบบความปลอดภัย ที่จัดเต็ม
ในส่วนของสมรรถนะ มาพร้อมกับมอเตอร์ Permanent Magnet Synchronous Motor 2 ขนาด ดังนี้ครับ
400 PRO และ 500 ULTRA มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูงสุด 105 กิโลวัตต์ รีดแรงม้าได้สูงสุด 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 210 นิวตัน-เมตร โดยสามารถทำความเร็วสูงสุด 152 กม./ชม.GT มาพร้อมมอเตอร์กำลังสูงสุด 126 กิโลวัตต์ รีดแรงม้าได้สูงสุด 171 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร โดยความเร็วสูงสุดล็อคไว้ที่ 152 กม./ชม. เช่นกัน
ส่วนแบตเตอรี่ก็มี 2 ชนิด เช่นกัน ครับ โดยรุ่น 400 PRO ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนฟอสเฟต 47.788kWh ที่ทำระยะทางวิ่งได้สุงสุด 400 กิโลเมตร (NEDC) ซึ่งการชาร์จ ถ้าชาร์จกับไฟบ้านจะใช้เวลา 8 ชม. แต่ถ้าชาร์จด้วยไฟ DC จะใช้เวลาแค่ 32-45 นาที เท่านั้น ส่วนรุ่น 500 ULTRA และรุ่น GT ใช้แบตเตอรี่ลิเธียม Ternary 63.139kWh ที่ดีกว่า ทำให้วิ่งได้สุงสุดถึง 500 กิโลเมตร (NEDC) เลยทีเดียว ซึ่งการชาร์จ ถ้าชาร์จกับไฟบ้านจะใช้เวลา 10 ชม. แต่หากชาร์จด้วยไฟ DC จะใช้เวลาแค่ 40-60 นาที ครับ
4. New Toyota Yaris 2023-2024
New Toyota Yaris Premium S
รุ่นย่อย
ราคา
Sport
559,000 บาท
Smart
619,000 บาท
Premium
679,000 บาท
Premium S
694,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ B Segment
เครื่องยนต์ 1.2L 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว Dual VVT-iE
ความจุถัง 42 ลิตร
แรงม้า 92PS / 6,000RPM
เกียร์ เกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i พร้อม Sequential Shift
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
VIDEO
จุดเด่น
ขนาดเล็ก ตอบโจทย์การขับในเมือง
ช่วงล่างนุ่มนวล ห้องโดยสารนั่งสบาย
ระบบอัจฉริยะมากมาย
ระบบ Toyota Safety Sense เทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร
ดูแลง่าย ซ่อมศูนย์ ซ่อมนอกได้หมด
มือสองราคาดี
ข้อควรพิจารณา
ปรับหน้าตาจากโฉมเก่าเล็กน้อย
ต้นอืด อัตราเร่งที่ไม่โดดเด่น
Toyota Yaris รถแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ที่ได้รับความนิยมมาก ๆ ในหมู่วัยรุ่น และกลุ่มคนทำงาน ซึ่งในปีนี้ได้มีการปรับโฉมใหม่ ทำให้ดูโฉบเฉี่ยว และให้อารมณ์สปอร์ตมากยิ่งขึ้น โดยด้านหน้ามาในสไตล์ Hammerhead เอกลักษณ์ของโตโยต้า กับชุดไฟหน้าโปรเจกเตอร์ LED รับกับเส้นสาย ตัดด้วยหลังคาสีดำ ส่วนภายในตกแต่งในสไตล์สปอร์ตพรีเมี่ยม พร้อมติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน และเสริมด้วยระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 1.2 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ ให้พละกำลังสูงสุด 92 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 109 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ Super CVT-i ที่เข้าได้อย่างรวดเร็ว และสมูท พร้อม Shift Lock แต่ผู้ใช้มักจะมีบ่นช่วงออกตัวที่จะอืดสักหน่อย และอัตราเร่งที่ไม่ตอบโจทย์คนเท้าหนัก ๆ ส่วนจุดเด่นอยู่ที่อัตราสิ้นเปลือง ที่ทำได้สูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียวครับ ทำให้มันตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้ในเมืองได้อย่างยอดเยี่ยม
5. Honda City Hatchback 2023-2024
Honda City Hatchback RS
รุ่นย่อย
ราคา
S+
599,000 บาท
SV
675,000 บาท
RS
749,000 บาท
e:HEV RS
849,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ B Segment
เครื่องยนต์ Turbo 1.0L 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว VTEC Turboe:HEV 1.5L 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC
ความจุถัง น้ำมัน 40 ลิตร
แรงม้า Turbo 78PS / 6,000RPM 100N·m / 4,000RPMe:HEV เครื่องยนต์ 98PS 127N·m มอเตอร์ 109PS 253N·m
เกียร์ Turbo CVTe:HEV E-CVT
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง Turbo 23.3 กิโลเมตร/ลิตรe:HEV 27 กิโลเมตร/ลิตร
จุดเด่น
ดีไซน์สปอร์ต โฉบเฉี่ยว
ยอดนิยมสำหรับคนรักการแต่งรถ
สมรรถนะสูง แถมแต่งเพิ่มแรงม้าง่าย
ช่วงล่างที่ดี มั่นใจในความเร็วสูง ๆ
ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย
ระบบความปลอดภัยที่ครบครัน
ดูแลรักษาง่าย ซ่อมศูนย์ ซ่อมนอกได้หมด
รุ่น Turbo ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร และรุ่น e:HEV 27 กม./ลิตร
มือสองราคาดี เป็นที่ต้องการของตลาด
ข้อควรพิจารณา
มีการปรับโฉมเล็กน้อย ตั้งแต่เปิดตัว
Honda Sensing มีเฉพาะรุ่น e:HEV RS
ราคาแพงที่สุดในกลุ่ม B-Segment
City Hatchback 2023 รถแฮทช์แบ็ก 5 ประตู ที่แรงที่สุดในกลุ่ม B-Segment เพียบพร้อมทั้ง หน้าตา และความแรง มันจึงเป็นรถยอดนิยมของเหล่านักศึกษา และคนทำงาน บวกกับชื่อฮอนด้าทำให้หลาย ๆ คนตัดสินใจได้ไม่ยากเลย โดยในปีนี้ยังใช้ดีไซน์ Energetic Hatchback โฉมเดิม ที่ให้ความสปอร์ต พรีเมียม มาพร้อมภายในที่กว้างขวาง เบาะทรงสปอร์ต นั่งสบาย พร้อมมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก ระบบความปลอดภัยครบครัน และเทคโนโลยีสุดล้ำมากมาย ใครรักในความเร็ว แต่ประหยัดน้ำมัน แนะนำตัวนี้เลยครับ
โดยสมรรถนะจะมีขุมพลังให้เลือก 2 ตัว ครับ ได้แก่
Turbo : เครื่องยนต์เบนซิน 1.0 ลิตร 3 สูบ พร้อม VTEC TURBO ให้แรงม้าสูงสุดถึง 122 แรงม้า แรงบิด 173 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT โดยทำอัตราสิ้นเปลืองสูงสุดที่ 23.3 กิโลเมตร/ลิตร e:HEV : เครื่องยนต์ไฮบริด 1.5 ลิตร 4 สูบ ทำกำลังสูงสุด 98 แรงม้า แรงบิด 127 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว ทำกำลังสูงสุด 109 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 253 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์ไฟฟ้า E-CVT โดยสามารถทำอัตราสิ้นเปลืองได้สูงถึง 27 กิโลเมตร/ลิตร
6. New Mazda2 Hatchback 2023-2024 (New Mazda2 Rookie Drive & Clap Pop (รุ่นพิเศษ))
New Mazda2 XDL SPORTS
รุ่นย่อย
ราคา
1.3 C Sports
599,000 บาท
1.3 S Sports
680,000 บาท
1.3 SP Sports
730,000 บาท
1.5 XD Sports
720,000 บาท
1.5 XDL Sports
830,000 บาท
Sports Rookie Drive (รุ่นพิเศษ)
662,000 บาท
Sports Clap Pop (รุ่นพิเศษ)
647,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ B Segment
เครื่องยนต์
SkyActiv-G 1.3L 4 สูบ 16 วาล์วSkyActiv-D 1.5L 4 สูบ 16 วาล์ว เทอร์โบแปรผัน
ความจุถัง
SkyActiv-G 35 ลิตรSkyActiv-D 44 ลิตร
แรงม้า
SkyActiv-G SkyActiv-D
เกียร์ เกียร์อัตโนมัติ SkyActiv-Drive
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง
SkyActiv-G 23.3 กิโลเมตร/ลิตรSkyActiv-D
VIDEO
จุดเด่น
ดีไซน์สปอร์ตพรีเมี่ยม โฉบเฉี่ยว
วัสดุภายในเรียบหรู ให้สัมผัสที่ดี
ช่วงล่างนุ่มนวล ยึดเกาะถนนดีเยี่ยม
ระบบอัจฉริยะมากมาย
อัตราเร่งช่วงปลายที่ไหล
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 26.3 กม./ลิตร
มีตัวเลือกหลายสไตล์ และเลือกเครื่องยนต์ได้
ข้อควรพิจารณา
ปรับหน้าตาจากโฉมเก่าเล็กน้อย
เบาะนั่งแถวที่ 2 ค่อนข้างแคบ
ราคาอะไหล่ศูนย์ค่อยข้างสูง
Mazda2 Hatchback รถยนต์แฮตช์แบ็ก 5 ประตู อีกหนึ่งรุ่นที่ราคาสูงหหน่อย แต่ก็ให้ความประทับใจกับทุกคนที่ได้ขับ ซึ่งภายนอกหน้าตาสไตล์ Kodo: Soul of Motion คงไม่ต้องพูดแล้วว่า ประสบความสำเร็จมากแค่ไหน ภายในสุดหรู และวัสดุที่พรีเมียม ทำให้ Mazda2 ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ ครับ โดยโฉมในปี 2023 นี้มีการตกแต่งใหม่ในบางจุด และมี 2 ดีไซน์ให้เลือก คือ Sport Design และ New Wave Design ซึ่งสำหรับทรงแฮตช์แบ็ก จะมีรุ่นพิเศษอีก 2 รุ่น ก็คือ Rookie Drive และ Clap Pop ที่จะนำเอารุ่น 1.3 C มาตกแต่งพิเศษ โดยจะเน้นสีสัน พร้อมมอบความสนุกมากขึ้น
ขุมพลังจะมีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ตัว คือ Skyactiv-G เครื่องยนต์ เบนซิน 1.3 ลิตร 4 สูบ ทำแรงม้าสูงสุด 93 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 123 นิวตัน-เมตร และ Skyactiv-D เครื่องยนต์ ดีเซล 1.5 ลิตร 4 สูบ เทอร์โบแปรผัน รีดแรงม้าสูงสุด 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด พร้อมโหมดแมนนวล พร้อมกับให้อัตราการสิ้นเปลืองที่ดีสุด ๆ โดย SkyActiv-G ทำได้สูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนเครื่องยนต์ SkyActiv-D สามารถทำได้สูงสุดถึง 26.3 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียวครับ นับว่าประหยัดสุด ๆ เลย
7. Suzuki Swift 2023-2024
Suzuki Swif GLX
รุ่นย่อย
ราคา
GL
528,000 บาท
GL NEXT
582,000 บาท
GLX
637,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ B Segment
เครื่องยนต์ 1.2L 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VVT
ความจุถัง 37 ลิตร
แรงม้า 83PS / 6,000RPM
เกียร์ เกียร์อัตโนมัติ CVT
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง 23 กิโลเมตร/ลิตร
VIDEO
จุดเด่น
หน้าตาที่สปอร์ต ไม่เหมือนใคร
มีอุปกรณ์ตกแต่งหน้าตาเยอะ
ขนาดเล็ก ตอบโจทย์การขับในเมือง
ขับง่าย ควบคุมง่าย
เทคโนโลยีและออฟชั่นที่คุ้มค่า
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23 กม./ลิตร
ข้อควรพิจารณา
ต้นอืด ไม่ตอบโจทย์คนเท้าหนัก
เบาะนั่งตอนหลังที่ค่อนข้างแคบ
พื้นที่เก็บของท้ายรถที่แคบ
การป้องกันเสียงลมภายนอก
Swift 2023 รถแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดเล็กอีกหนึ่งรุ่น ที่ได้รับความนิยมสูงมาก ๆ และมีการทำตลาดมาอย่างยาวนาน โดยดีไซน์ ภายนอกมีการปรับเปลี่ยนเล็กน้อย ให้อารมณ์สปอร์ตคลาสสิก ซึ่งในโฉมใหม่นี้มีการปรับแต่งในบางส่วน เพื่อให้ดูเข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น ภายในก็แทบไม่ได้เปลี่ยนจากโฉมที่แล้วเลย ซึ่งเห็นเล็ก ๆ แบบนี้ แต่ภายในกว้างใช้ได้เลยครับ ตกแต่งมาในสไตล์เรียบง่าย ที่แอบดูเก่าไปหน่อย แต่ก็ใช้งานได้ดีครับ โดยให้ความสะดวกสบายขั้นสุดด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มีให้ครบครัน
มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 4 สูบ พร้อมกับเทคโนโลยี DUALJET จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีดมัลติพอยท์ ซึ่งรีดแรงม้าได้สูงสุด 83 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 108 นิวตัน-เมตร ครับ ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT ซึ่งถึงแม้ตัวเลขจะค่อนข้างน้อย แต่อัตราเร่งก็ถือว่าทำได้ดีเลยครับ เพราะมิติตัวรถที่โฉบเฉี่ยว ขับสนุก พร้อมมีการตอบสนองที่ว่องไว
8. Mitsubishi Mirage 2023-2024
Mitsubishi Mirage 1.2 SMART CVT
รุ่นย่อย
ราคา
1.2 Active MT
474,000 บาท
1.2 Active CVT
509,000 บาท
1.2 SMART CVT
579,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ A Segment
เครื่องยนต์ 1.2L 3 สูบ DOHC MIVEC 12 วาล์ว
ความจุถัง น้ำมัน 35 ลิตร
แรงม้า 78PS / 6,000RPM
เกียร์ เกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVT พร้อมระบบ INC
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร
VIDEO
จุดเด่น
หนึ่งในรถที่มีราคาถูกที่สุดในตลาด
ขนาดเล็ก เหมาะกับการขับในเมือง
วงเลี้ยวแคบ ขับง่าย ควบคุมง่าย
ฟังก์ชันพื้นฐานครบครัน
ประหยัดน้ำมันสูงสุด 23.3 กม./ลิตร
ข้อควรพิจารณา
เป็นโฉมที่ใช้มานานแล้ว
อัตราเร่งที่ค่อนข้างช้า
ระบบอัจฉริยะให้มาตามราคา
Mirage 2023 รถยนต์ยอดนิยมของเหล่านักเรียน นักศึกษา และโดยเฉพาะคนโสด ซึ่งในปีนี้ยังคงใช้โฉมเดิม ดีไซน์ Advanced dynamic shield ที่ดูสปอร์ตมาในมิติตัวรถขนาดกะทัดรัด ให้การขับขี่ที่คล่องตัวและโฉบเฉี่ยวมากยิ่งขึ้น มันจึงพร้อมให้ประสบการณ์การขับขี่ในเมืองได้อย่างดีเยี่ยม ส่วนอุปกรณ์ต่าง ๆ ทั้งภายนอก ภายในห้องโดยสาร และระบบต่าง ๆ ก็มีมาให้ ครบครันตามมาตรฐาน ครับ ใครต้องการรถราคาถูก ประหยัดน้ำมัน แถมการขับง่าย จอดสะดวก แนะนำตัวนี้เลยครับ
มาพร้อมเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ 1.2 ลิตร ไม่มีเทอร์โบ มอบแรงม้าสูงสุด 78 แรงม้า ที่ 6,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 100 นิวตัน-เมตร ที่ 4,000 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ INVECS-III CVT พร้อมระบบ INC ซึ่งให้การเปลี่ยนเกีร์ยที่สมูท โดยถือว่ามันให้แรงบิดที่ดีในรอบต่ำ พร้อมกับอัตราเร่งที่กำลังดี แต่อาจจะไม่เหมาะกับคนเท้า ๆ หนักนะครับ แต่ข้อดีคือ อัตราการประหยัดน้ำมัน ที่ทำได้สูงสุดถึง 23.3 กิโลเมตร/ลิตร เลยทีเดียวครับ
9. MG MG3 Hatchback 2023
MG MG3 Hatchback 1.5L V
รุ่นย่อย
ราคา
1.5L C
519,000 บาท
1.5L D
549,000 บาท
1.5L X
589,000 บาท
1.5L V
629,000 บาท
สเปกเครื่องยนต์
ประเภทรถยนต์ B Segment
เครื่องยนต์ 1.5L 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว VTi-TECH
ความจุถัง 45 ลิตร
แรงม้า 112PS / 6,000RPM
เกียร์ เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด
ระบบเบรก ดิสก์เบรกหน้า
อัตราสิ้นเปลือง 13.5 กิโลเมตร/ลิตร (ไม่เป็นทางการ)
VIDEO
จุดเด่น
หนึ่งในรถมีราคาถูกที่สุดในตลาด
ขนาดใหญ่กว่ารถในกลุ่มเดียวกัน
ห้องโดยสารกว้าง เก็บของได้เยอะ
ระบบอัจฉริยะหลายตัว
รับประกันเครื่องยนต์ 7 ปี หรือ 100,000 กม.
ข้อควรพิจารณา
มีข่าวโฉมใหม่เตรียมเปิดตัว 2024
ช่วงรอบต้นที่ค่อนข้างอืด
การบำรุงรักษา รวมถึงอะไหล่
ราคามือสองน่าตกใจ
MG3 2023 รถแฮตช์แบ็ก 5 ประตู ขนาดซับคอมแพ็ค ที่มีมิติตัวรถที่ดูใหญ่กว่ารถในกลุ่ม Eco Car เล็กน้อย ให้พื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง แต่ยังคงมีความคล่องตัวอยู่ มาพร้อมการออกแบบภายใต้แนวคิด Brit Dynamic เน้นความสนุก โดดเด่นด้วยสีสันที่สนใดบนดีไซน์สปอร์ต ภายในกว้างขวาง นั่งสบาย เก็บสัมภาระได้เยอะ แถมมี Sunroof ไฟฟ้ามาให้ด้วย และยังจัดเต็มด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ i-Smart มากมาย เรียกได้ว่า เป็นรถที่มีออฟชันเยอะสุด ๆ ครับ ให้คุณขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทาง
ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ เบนซิน 4 สูบ 1.5 ลิตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ AMT 4 สปีด ให้กำลังสูงสุด 112 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตัน-เมตร โดยรวมถือว่ามีอัตราเร่งที่ดีเลยครับ แต่สิ่งที่ผู้ใช้หลาย ๆ คนบ่นก็คือ อัตราสิ้นเปลือง ครับ เนื่องจากเครื่องยนต์ค่อนข้างใหญ่ ทำให้มันมีอัตราสิ้นเปลืองอยู่ที่ประมาณ 13.5 กิโลเมตร/ลิตร ครับ
