เมื่อพูดถึงรถที่สามารถพาคนหลาย ๆ คน โดยสารไปแบบพร้อมหน้าพร้อมตากัน ในตลาดรถยนต์เมืองไทยยังนับว่ามีตัวเลือกอยู่ค่อนข้างน้อยครับ ซึ่งประเภทรถที่ใกล้เคียงและตอบโจทย์นี้ได้ ก็จะเป็น รถ PPV คันใหญ่ เครื่องแรง สมรรถนะสูง แต่อัตราการกินน้ำมันถือว่าสูง และรถอีกประเภทคือ รถตู้ MPV ที่มีทั้ง รถตู้ธรรมดา และรถตู้แบบ VIP ซึ่งมักจะมาพร้อมห้องโดยสารที่กว้างขวาง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน แถมยังนั่งได้เป็น 10 คน แต่ข้อเสียของรถตู้ทั้ง 2 ประเภทนี้คือ ราคาเริ่มต้นหลักล้านบวก ๆ ครับ ดังนั้นถ้าคุณกำลังมองหารถครอบครัวที่สามารถพาสมาชิกทุก ๆ คนไปเที่ยวพร้อมกันได้ ภายในก็มีความสะดวกสบายในระดับนึง ราคาไม่แพง แถมยังประหยัดน้ำมัน เราขอแนะนำ รถตู้ครอบครัว (MPV) หรือ รถ Mini MPV เท่านั้นครับ

โดย รถ Mini MPV จะถูกจัดอยู่กึ่งกลางระหว่างรถ Crossover SUV หรือรถ SUV กับ รถตู้ MPV ช่วยให้มันเป็นรถที่มีความอเนกประสงค์มาก ๆ มิติตัวรถก็ไม่ได้ใหญ่จนเกินไป ช่วยมอบการขับขี่ที่คล่องตัวยิ่งขึ้น แต่ในด้านฟังก์ชันการใช้งานก็จะเน้นเป็นรถ MPV ซะมากกว่า โดยจะมีเบาะนั่งให้ 3 แถว ที่พับได้หลายรูปแบบ ทำให้สามารถโดยสารได้สูงสุด 7 คน หรือคุณพับเบาะลง เพื่อใช้ขนของขนาดใหญ่ก็ได้เช่นกันครับ ซึ่งนี่ก็คือ ประโยชน์บางส่วนที่คุณจะได้จากรถประเภทนี้ครับ เดี่ยววันนี้เราจะพาทุกคนมาดูกันว่า ในปี 2023 นี้ มีรถ Mini MPV รุ่นใหม่อยู่กี่รุ่น ? และแต่ละรุ่นน่าสนใจอย่างไร ? ตามไปดูกันครับ
รถ MPV หรือรถ Compact MPV แบบ 7 ที่นั่ง คือรถอะไร ?

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักรถประเภทนี้กันก่อน โดย รถ MPV (Multi-Purpose Vehicle) เป็นรถที่มีความอเนกประสงค์มาก ๆ ครับ ถูกออกแบบให้มาพร้อมคุณสมบัติที่หลากหลาย โดยเฉพาะการโดยสาร ซึ่งสามารถรองรับผู้โดยสารได้หลายคน เหมือน ๆ กับรถตู้ แต่ฟังก์ชันอำนวยความสะดวกต่าง ๆ จะให้มามากกว่า พร้อมทั้งยังให้ช่วงล่างที่รู้สึกว่า นิ่มนวล ยึดเกาะถนนได้ดีกว่า ไม่เหวี่ยงเหมือนรถตู้หรือรถกระบะคันใหญ่ ๆ ดังนั้นอารมณ์จะไม่ต่างจากนั่งรถเก๋ง C-Segment เลยครับ หากครอบครัวไหนที่มีผู้สูงอายุ เด็ก ๆ หรือคนที่คุณรัก มีอาการเมารถอยู่บ่อย ๆ รถ MPV จะเหมาะสุด ๆ ครับ
โดยในปัจจุบัน รถ MPV เริ่มจะมีการแบ่งแยกกันชัดเจนขึ้นเรื่อย ๆ ครับ โดยมีตั้งแต่ รถ MPV คันเล็ก ๆ ราคาไม่แพงที่หลายคนเรียกว่า Mini MPV หรือ Compact MPV ไปจนถึงรถ MPV คันใหญ่ ๆ ที่หรูหรา ออกแบบมาเพื่อผู้โดยสาร VIP เท่านั้น ซึ่งราคาก็จะสูงมาก ๆ ตามไปด้วยครับ ดังนั้นในบทความนี้เราจึงขอมาพูดถึง รถ Mini MPV ที่มีราคาประหยัด ๆ ในปีนี้ เป็นหลักครับ เนื่องจากมันตอบโจทย์การใช้งานในเมืองมากกว่า แถมยังประหยัดน้ำมัน และราคาก็ไม่ถึงล้านบาท ซึ่งปีนี้ก็มีหลายรุ่นครับ
รถ MPV ขนาดเล็ก 7 ที่นั่ง รุ่นไหนเหมาะกับคุณที่สุด ?
![]() New Mitsubishi Xpander Cross 2023 | ![]() The new Hyundai Stargazer 2023 |
![]() New Suzuki Ertiga Smart Hybrid 2023 | ![]() All-new Honda BR-V 2023 | ![]() All-new Toyota Veloz 2022 |
สิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยพื้นฐาน ที่คุณควรรู้เอาไว้ครับ เพราะมันจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น ได้รถที่ตรงกับความต้องการ เหมาะกับการใช้งานของคุณที่สุด ซึ่งก็อย่างที่บอกครับว่า รถทุกคันจะมีคาแรคเตอร์เป็นของตัวเอง ฉะนั้นสิ่งสำคัญที่สุดคือการทดลองขับครับ บางคนเคยขับเฉพาะรถใหญ่มา ทำให้เท้าจะหนักเวลาเหยียบเบรคหรือคันเร่ง แต่พอมาขับอีโค่คาร์แล้วรู้สึกไม่มั่นใจเลย ซึ่งก็ไม่แปลกครับ เพราะมันมีช่วงที่สั้นกว่า เบากว่า แถมกำลังเครื่องยนต์ก็น้อยกว่าด้วย ดังนั้นต้องปรับตัวสักระยะนึง แต่พอปรับตัวได้แล้ว คุณจะรู้สึกคล่องตัวมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเวลาขับขี่ในเมืองที่รถติดมาก ๆ และที่ต่างสุด ๆ คือ อัตราการประหยัดน้ำมัน
New Mitsubishi Xpander Cross 2023

รุ่นย่อย | ราคา |
Xpander GLS-LTD | 799,000 บาท |
Xpander GT | 895,000 บาท |
New Xpander Cross | 946,000 บาท |
New Xpander Cross เป็นโฉม Minorchange ที่เปิดตัวมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ต่อยอดจาก Xpander รถครอบครัวอเนกประสงค์ยอดนิยม โดยรุ่นนี้เป็นตัวปรับดีไซน์ใหม่ตอบโจทย์สายลุยมากยิ่งขึ้น พร้อมเพิ่มระบบต่าง ๆ เข้ามา ช่วงล่างก็ถูกอัพเกรดโชคอัพ และสปริง พร้อมปรับจูนมาใหม่
ส่วนหน้าตาจะมีดีไซน์ที่ดูใหญ่บึกบึนขึ้น มาพร้อมกับคำว่า Xpander Cross สีดำที่ขอบ ๆ ฝากระโปรงหน้า รับกับกันชนทั้งหน้า-หลังที่มาในดีไซน์ใหม่ กระจังหน้าทรงเหลี่ยม ๆ สีดำที่ดูดุดัน ขนาบข้างด้วยโคมไฟหน้า LED ดีไซน์เฉียบคม กระจกมองข้างมีไฟเลี้ยว LED ในตัว ส่วนไฟท้ายก็มาในดีไซน์ใหม่ที่รับกับเส้นสายข้างตัวรถ และตกแต่งด้วยราวหลังคา พร้อมล้ออัลลอย 17 นิ้ว สีทูโทน ช่วยให้มันดูดุดัน และสปอร์ตขึ้น
เปิดเข้ามาภายในจะตกแต่งด้วยสีทูโทนดำ-น้ำเงิน หุ้มเบาะด้วยหนังสังเคราะห์ ที่มีคุณสมบัติสะท้อนความร้อนในตัว ช่วยให้อากาศถ่ายเทดีขึ้น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น และหัวเกียร์ หุ้มด้วยหนังอย่างดี จอแสดงข้อมูลการขับขี่ ขนาดใหญ่ 8 นิ้ว ที่บอกข้อมูลได้ครบ พร้อมตรวจสอบระบบ AYC ได้ง่าย ๆ ได้กลิ่นอายของรุ่นพี่อย่าง Pajero Sport มาเต็ม ๆ ส่วนจอกลางติดตั้งจอสัมผัสขนาด 9 นิ้ว ที่รองรับทุกการเชื่อมต่อ
มีระบบปรับอากาศดิจิตอล พร้อมแผ่นกรอง PM2.5 ที่ด้านหน้า พร้อมกับมีแผงควบคุม และช่องแอร์แยกมา สำหรับผู้โดยสารตอนหลังมาให้ด้วย ส่วนที่นั่งในแต่ละแถวก็พับได้ถึง 7 รูปแบบ เลยทีเดียว โดยจะพับให้แบนราบไปเลยก็ได้ เพื่อวางของชิ้นใหญ่ ๆ ส่วนพอร์ตชาร์จ รุ่นนี้ก็มีครบครันครับ ทั้ง ที่ชาร์จไร้สาย, ช่องไฟ DC 12V (หน้า-หลัง) และช่อง USB-A และ USB-Cินอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีช่วยในการขับขี่ และความปลอดภัยที่จัดเต็มมาก ๆ ครับ ในราคาไม่ถึงล้าน มันจึงถือว่าคุ้มค่ามาก ๆ
ในด้านสมรรถนะรุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ความจุ 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว วาล์วแปรผัน MIVEC DOHC ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ ECO-Dynamic CVT ขับหน้า ทำกำลังสูงสุด 105 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 141 นิวตัน-เมตร โดยรองรับน้ำมันสูงสุดที่ E20 บนถังน้ำมันขนาดความจุ 45 ลิตร มอบอัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิง ประมาณ 15 กม./ลิตร ซึ่งเป็นค่าที่ไม่เป็นทางการนะครับ
เครื่องยนต์ | 1.5L MIVEC DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว |
---|---|
อัตราสิ้นเปลือง | 15 กม./ลิตร (ไม่เป็นทางการ) |
รองรับน้ำมัน | E20 / 45 ลิตร |
ระบบเกียร์ | ECO-Dynamic CVT |
กำลังสุงสุด | 105 PS (6,000 RPM) |
แรงบิดสูงสุด | 141 N·m (4,000 RPM) |
กำลังมอเตอร์ | |
แรงบิดมอเตอร์ | |
ระบบเบรก |
|
ระบบกันสะเทือน |
|
ล้อและยาง |
|
วันเปิดตัว | 17 กุมภาพันธ์ 2023 |
The new Hyundai Stargazer 2023

รุ่นย่อย | ราคา |
Trend IVT (7 ที่นั่ง) | 769,000 บาท |
Style IVT (7 ที่นั่ง) | 829,000 บาท |
Smart 7 IVT (7 ที่นั่ง) | 869,000 บาท |
Smart 6 IVT (6 ที่นั่ง) | 889,000 บาท |
Hyundai Stargazer เป็นรถรุ่นล่าสุด ที่ทาง Hyundai ได้เปิดตัวออกมาในไทยไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยจัดเป็นรถ Compact MPV หรือรถครอบครัวอเนกประสงค์ แบบ 3 แถว 6-7 ที่นั่ง ด้านหน้ามีดีไซน์ แบบ Futuristic ที่ดูเป็นรูปตัว X โดยกระจังหน้ามาในทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาบข้างด้วยไฟหน้าดีไซน์โค้งมน ซึ่งเป็นไฟมัลติรีเฟล็กเตอร์ LED และมีไฟ DRL ลากตามแนวฝากระโปรง กระจกข้างสีตัวรถ พร้อมไฟเลี้ยว ส่วนไฟท้าย LED ดีไซน์ H-shape ที่ลากเส้นเชื่อมต่อกัน และเพิ่มความสปอร์ตด้วยตัวสปอยเลอร์หลัง และล้ออัลลอย 16 นิ้ว
เมื่อเปิดมาดูภายใน จะสัมผัสได้ถึงความหรูหรา และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ครบครัน โดยจะมีให้เลือก 2 รุ่น คือ รุ่น 6 ที่นั่ง และรุ่น 7 ที่นั่ง แตกต่างกันที่เบาะแถว 2 ในรุ่น 6 ที่นั่ง จะเป็นเบาะ Captain Seat (แยกซ้าย-ขวา) ส่วนรุ่น 7 ที่นั่ง เป็นเบาะนั่งที่ติดกันเป็นแถว พับได้ สำหรับดีไซน์ภายในจะไม่ต่างกันมาก เน้นโทนสีดำตกแต่งด้วยสีเงิน โดยคอนโซลจะเน้นเรียบ ๆ แต่ดูล้ำสมัย จอข้อมูลขับขี่ Supervision TFT 4.2 นิ้ว ที่มีบอกลมยางได้ด้วย, จอสัมผัส กลาง 8 นิ้ว ที่รองรับทุกการเชื่อมต่อ, ระบบแอร์อัตโนมัติ ส่วนที่ชาร์จด้านหน้ามีทั้ง ที่ชาร์จไร้สาย ช่องจ่ายไฟ 12V และช่องต่อ USB ส่วนด้านหลังก็มีช่องเก็บของ พร้อมช่อง USB ให้ด้วยเช่นกันครับ และมีอีกหลายฟังก์ชันเลย
ขุมพลังได้จากเครื่องยนต์ Smartstream ขนาด 1.5 ลิตร MPI 4 สูบ 16 วาล์ว DOHC D-CVVT ขับหน้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ iVT (คล้ายกับ CVT แต่ทนกว่า) มีกำลังสูงสุด 115 แรงม้า และแรงบิด 144 นิดตัน-เมตร แถมยังให้อัตราสิ้นเปลืองที่ 16.1 กม./ลิตร ถือว่าประหยัดมาก ส่วนโหมดการขับขี่จะมีให้ 4 โหมด คือ Eco (ประหยัด), Normal, Sport และ Smart (ปรับเปลี่ยนให้อัตโนมัติ ตามนิสัยผู้ขับขี่) ดังนั้นมันตอบสนองทุกการขับขี่ได้แน่นอนครับ ส่วนระบบความปลอดภัยต่าง ๆ รุ่นนี้มีมาให้อย่างจุใจเลย โดยเฉพาะ Hyundai SmartSense
เครื่องยนต์ | 1.5L DOHC D-CVVT 4 สูบ 16 วาล์ว |
---|---|
อัตราสิ้นเปลือง | 16.1 กม./ลิตร |
รองรับน้ำมัน | Gasoline E10 / 40 ลิตร |
ระบบเกียร์ | Intelligent Variable Transmission (IVT) |
กำลังสุงสุด | 115 PS (6,300 RPM) |
แรงบิดสูงสุด | 144 N·m (4,500 RPM) |
กำลังมอเตอร์ | |
แรงบิดมอเตอร์ | |
ระบบเบรก |
|
ระบบกันสะเทือน |
|
ล้อและยาง |
|
วันเปิดตัว | 20 มีนาคม 2023 |
New Suzuki Ertiga Smart Hybrid 2023

รุ่นย่อย | ราคา |
GL | 783,000 ลดเหลือ 699,000 บาท |
GX | 839,000 ลดเหลือ 765,000 บาท |
Suzuki Ertiga Smart Hybrid เป็นรถครอบครับ Mini MPV 6-7 ที่นั่ง ที่ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ทุก ๆ การเดินทาง โดยเฉพาะการเดินทางแบบพร้อมหน้าพร้อมตาเป็นครอบครัว หรือกลุ่มเพื่อน ๆ ส่วนความพิเศษก็คือเทคโนโลยีไมล์ดไฮบริด ที่เข้ามาช่วยให้อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันทำได้ถึง 17.9 กม./ลิตร เลยทีเดียวครับ เพิ่มขึ้นจากโฉมก่อนหน้าพอสมควรครับ
ซึ่งก็ตามสไตล์รถ Mini MPV เลยก็คือ จะเน้นดีไซน์เรียบหรู ดูสะอาดตาทั้ง ภายนอก และภายใน กระจังหน้าใช้ดีไซน์ใหม่สีดำ ตกแต่งด้วยสีโครเมียม สอดรับกับไฟหน้าโปรเจคเตอร์ดีไซน์เฉียบคม พร้อมระบบเปิดปิดอัตโนมัติ และระบบ GuideMe ซึ่งจะช่วยเพิ่มทัศนวิสัยในเวลากลางคืน ส่วนไฟท้าย LED จะมีขนาดใหญ่ มาในแบบ Light Guides ส่วนกระจกมองข้างเป็นระบบพับออโต้สีเดียวกับตัวรถ และมีไฟเลี้ยวในตัว และล้อทั้ง 2 รุ่นย่อยจะให้ ขนาด 15 นิ้ว เท่ากัน เพียงแต่รุ่นท๊อปเป็นล้อสีทูโทน

ส่วนภายในจะเน้นความพรีเมียมเป็นหลัก โดยจะตกแต่งในโทนสีดำ แทรกด้วยลายไม้สีเทา ๆ เบาะนั่งเป็น 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่พับได้อิสระหลากหลายรูปแบบ จะขนคนก็ได้ หรือขนของก็ไม่มีปัญหาครับ ส่วนอุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็ให้มาครบครัน ตั้งแต่ มาตรวัดพร้อมจอ LCD ที่แสดงข้อมูลได้ครบ ทั้ง แบตเตอรี่ และข้อมูลสำคัญต่าง ๆ พวงมาลัยมัลติฟังก์ชัน D-Shape มีท้ายตัดให้อารมณ์สปอร์ต
คอนโซลกลางก็จะมีระบบปรับอากาศอัตโนมัติ มาพร้อมช่องแอร์ และแผงควบคุมแยกสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง จอสัมผัสตรงกลางขนาด 10 นิ้ว พร้อมพอร์ต USB, HDMI และช่องจ่ายไฟ 12V พร้อมแท่นชาร์จไร้สายในรุ่นท๊อป ส่วนความปลอดภัยรุ่นนี้ได้ผ่านมาตรฐานมาครบครัน พร้อมเทคโนโลยี Smart Safety ให้คุณขับขี่ได้อย่างปลอดภัย
สำหรับสมรรถนะรุ่นนี้ถือว่าเป็นครั้งแรกในไทย กับเทคโนโลยี Smart Hybrid ที่ติดตั้งอยู่ในรถ Mini MPV ขนาด 7 ที่นั่ง โดยจะมาพร้อมเทคโนโลยี SHVS ระบบสมาร์ทไฮบริด ที่พลังขับเคลื่อนหลักจะมากจากเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร 4 สูบ 16 วาล์ว ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ ขับเคลื่อนล้อหน้า มอบพละกำลังสูงสุด 105 แรงม้า และทำแรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร ทำงานผสานกับมอเตอร์ไฟฟ้า ISG (Integrated Starter Generator) ที่มาคู่กับแบตเตอรี่ Lithium-ION เพื่อช่วยเสริมพละกำลังให้กับเครื่องยนต์ รุ่นนี้จึงมีอัตราสิ้นเปลืองเชื่อเพลิงที่ 17.9 กม./ลิตร เท่านั้น
เครื่องยนต์ | 1.5L K15B 4 สูบ 16 วาล์ว |
---|---|
อัตราสิ้นเปลือง | 17.9 กม./ลิตร |
รองรับน้ำมัน | E20 / 45 ลิตร |
ระบบเกียร์ | เกียร์อัตโนมัติ |
กำลังสุงสุด | 105 PS (6,000 RPM) |
แรงบิดสูงสุด | 138 N·m (4,400 RPM) |
กำลังมอเตอร์ | 3.08 PS (ISG 2.3 kW) |
แรงบิดมอเตอร์ | 50 N·m |
ระบบเบรก |
|
ระบบกันสะเทือน |
|
ล้อและยาง |
|
วันเปิดตัว | 30 พฤศจิกายน 2022 |
All-new Honda BR-V 2023

รุ่นย่อย | ราคา |
E - Taffeta White | 915,000 บาท |
E – Crystal Black | 921,000 บาท |
EL - Crystal Black | 973,000 บาท |
EL – Premium Sunlight | 977,000 บาท |
อีกหนึ่งรุ่นที่มาพร้อมหน้าตาที่ดูสปอร์ตมาก ๆ มีดีไซน์ที่โดดเด่น จนดูเหมือนจะเป็นรถ SUV ซะมากกว่ากับ All-new Honda BR-V 2023 ยนตรกรรมอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สำหรับครอบครัว ที่ออกมาเป็นเจเนอเรชันที่ 2 แล้ว ใครที่อยากได้รถครอบครัวดีไซน์แบบ SUV ที่ดูสปอร์ต แถมแข็งแกร่ง รุ่นนี้ดูลงตัวในทุกมิติครับ พร้อมกับสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยม ตามสไตล์ Honda ซึ่งมีม้ากว่า 120 ตัว และอัดแน่นด้วยเทคโนโลยี Honda SENSING มาเป็นพื้นฐาน ให้คุณขับขี่อย่างมั่นใจ
สำหรับดีไซน์ภายนอกรุ่นนี้มี DNA ของ Honda อยู่ชัดเจนมากครับ ซึ่งเน้นความเรียบง่าย แต่ดูสปอร์ตแบบพรีเมียม มาพร้อมกระจังหน้าหลังดีไซน์ใหม่ เน้นทรงเหลี่ยม ๆ รุ่นท๊อปจะเน้นสีเปียโนแบล็คตัดกับวัสดุตกแต่งที่เป็นโครเมียม สอดรับกับดีไซน์ของโคมไฟหน้าและไฟท้าย LED ที่มาด้วยดีไซน์ดูเฉียบคม พร้อมมีไฟ DRL และระบบเปิด-ปิดอัตโนมัติ ด้านล่างได้ใส่ไฟตัด หมอก LED มาให้ด้วย ส่วนกระจกมองข้างเป็นแบบมีไฟเลี้ยวในตัว มาพร้อมระบบไฟฟ้า พับเก็บอัตโนมัติ มีการตกแต่งสเกิร์ตข้างด้วยคิ้วสีเงิน และราวหลังคา มาพร้อมกับล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต 17 นิ้ว ส่วนรุ่น E จะได้ล้อขนาด 16 นิ้ว ครับ

รุ่นนี้มาพร้อมห้องโดยสารที่ดูกว้างขวางมาก ๆ ครับ โดยจะมี 3 แถว 7 ที่นั่ง ที่พับได้หลายรูปแบบเลย ส่วนภายในจะมาในโทนดำ ตกแต่งด้วยวัสดุสีเปียโนแบล็ค และสีเงิน พร้อมกับหุ้มด้วยหนังแท้ผสานเข้ากับหนังสังเคราะห์ โดยรุ่นท๊อปจะมีหนัง สีมอคค่าเกรย์มาสลับเป็นทูโทน ทำให้ดูสปอร์ต และมีสัมผัสที่พรีเมียม อุปกรณ์อำนวยความสะดวกก็มีให้ครบ ไล่ตั้งแต่หน้าจอข้อมูลการขับขี่ TFT ขนาด 4.2 นิ้ว กระจกมองหลังแบบตัดแสง ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ พร้อมกับมีช่องปรับอากาศสำหรับที่นั่งด้านหลังด้วย พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชัน ระบบสตาร์ทเครื่องยนต์ และเปิดแอร์ผ่านกุญแจรีโมท
ส่วนอุปกรณ์เอนเตอร์เทนเมนต์ต่าง ๆ ก็ให้จอสัมผัส ขนาด 7 นิ้ว ที่รองรับได้ทั้งหมด มาพร้อมพอร์ตเชื่อมต่อ USB 2 ช่อง ส่วนช่องจ่ายไฟสำรองมีให้ที่แถวหน้า และแถวกลาง ส่วนรุ่นท๊อปจะได้แถวที่ 3 ด้วย แถมที่วางแก้วมีให้ถึง 8 ตำแหน่ง ด้านเทคโนโลยี และความปลอดภัย ทั้ง 2 รุ่นมี Honda SENSING ให้เหมือนกันทุกอย่างเลย ต่างกันตรงจุดเดียวคือ รุ่นท๊อปจะมีม่านถุงลมด้านข้างมาให้แค่นั้นครับ
รุ่นนี้ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 1.5 ลิตร ดับเบิ้ลโอเวอร์เฮดแคมชาฟท์ 4 สูบ 16 วาล์ว จ่ายน้ำมันด้วยหัวฉีด PGM-FI ที่แม่นยำสูง พร้อมระบบ i-VTEC ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT พร้อมระบบ Shifting Control of Cornering Gravity และระบบ G Design Shift ช่วยมอบกำลังสูงสุด 121 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 145 นิวตัน-เมตร และรุ่นนี้ก็ยังมี Paddle Shift มาให้ด้วย ช่วยให้คุณขับสนุกยิ่งขึ้น ส่วนอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ยน จะอยู่ที่ 16.1 กม./ลิตร ครับ ก็ยังถือว่า ประหยัดอยู่
เครื่องยนต์ | 1.5L 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC |
---|---|
อัตราสิ้นเปลือง | 16.1 กม./ลิตร |
รองรับน้ำมัน | E20 / 42 ลิตร |
ระบบเกียร์ | CVT พร้อม Shifting Control |
กำลังสุงสุด | 121 PS (6,600 RPM) |
แรงบิดสูงสุด | 145 N·m (4,300 RPM) |
กำลังมอเตอร์ | |
แรงบิดมอเตอร์ | |
ระบบเบรก |
|
ระบบกันสะเทือน |
|
ล้อและยาง |
|
วันเปิดตัว | 28 กรกฎาคม 2022 |
All-new Toyota Veloz 2022

รุ่นย่อย | ราคา |
Smart | 795,000 บาท |
Premium | 875,000 บาท |
เรามาต่อกันที่ Toyota Veloz ที่ได้เปิดตัวมาสักพักแล้ว ซึ่งรุ่นนี้เป็นรถครอบครัว ยนตรกรรม Premium Crossover 7 ที่นั่ง ที่มาในโฉมดีไซน์ใหม่หมดจด โดยหน้าตาก็จะมาในสไตล์เดียวกัน กับรุ่นอื่น ๆ ในค่ายของ Toyota ครับ ที่จะมีกระจังหน้าขนาดใหญ่ 2 ช่อง มาในทรงหกเหลี่ยมสีดำ พร้อมลวดลายที่ดูพรีเมียม ขนาบข้างด้วยโดมไฟหน้าดีไซน์เฉียบคม แบบมัลติรีเฟลกเตอร์ LED รับกับคิ้วโครเมียม ซึ่งไฟหน้าจะพร้อมระบบติดค้างเมื่อดับเครื่อง และไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED Light Guiding มาคู่กับไฟเลี้ยวแบบไฟวิ่ง ซีเควนเชียล และไฟตัดหมอกคู่หน้า ส่วนกระจกมองข้างที่มีไฟเลี้ยวในตัว และมือจับเปิดประตู จะมีสีเดียวกับตัวรถ และมีการตกแต่งด้วยราวหลังคา พร้อมสปอยเลอร์หลัง มาคู่กับล้ออัลลอย สีทูโทน ขนาด 17 นิ้ว
เมื่อเข้ามาในห้องโดยสาร เราจะพบกับความกว้างขวาง และสะดวกสบาย โดยภายในมีการตกแต่งด้วยสีทูโทน (ดำ-เทา) ที่เบาะนั่งหุ้มด้วยหนังสลับผ้า พร้อมเดินตะเข็บด้วยด้ายสีเทา คอนโซล และแผงประตูมีการตกแต่งด้วยวัสดุที่เป็นเปียโนแบล็กและแถบโครเมียม และเพิ่มความล้ำสมัยด้วยไฟแอมเบียนท์ไลท์ที่สวยงามสุด ๆ มีหน้าจอ TFT แบบสี ขนาด 7 นิ้ว สำหรับแสดงข้อมูลในการขับขี่ พร้อมติดตั้งระบบเบรกมือไฟฟ้าที่มี Auto brake hold ส่วนระบบปรับอากาศ แบบอัตโนมัติ มีแยกให้กับผู้โดยสารตอนหลังด้วย ในด้านเอนเตอร์เทนเมนก็มีหน้าจอสัมผัส 9 นิ้ว ที่รองรับทุกการเชื่อมต่อ ทุกระบบ ช่องเชื่อมต่อ USB และช่องชาร์จไฟ 12V มี 2 จุด ที่เบาะแถว 3 พร้อมช่อง USB ที่ด้านหน้า และเบาะนั่งแถว 2 และยังมีแท่นชาร์จไร้สายที่ด้านหน้าด้วย

เครื่องยนต์ | 1.5L 4 สูบ 16 วาล์ว Dual VVT-i |
---|---|
อัตราสิ้นเปลือง | 17.9 กม./ลิตร |
รองรับน้ำมัน | E20 / 43 ลิตร |
ระบบเกียร์ | CVT พร้อม Sequential Shift |
กำลังสุงสุด | 106 PS (6,000 RPM) |
แรงบิดสูงสุด | 138 N·m (4,200 RPM) |
กำลังมอเตอร์ | |
แรงบิดมอเตอร์ | |
ระบบเบรก |
|
ระบบกันสะเทือน |
|
ล้อและยาง |
|
วันเปิดตัว | 24 กุมภาพันธ์ 2022 |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
รถยนต์ Mini MPV หรือรถครอบครัว 7 ที่นั่ง มีอะไรน่าสนใจบ้าง ?
1. ความสะดวกสบาย
หนึ่งในคุณสมบัติเด่นที่ทำให้รถ Mini MPV หรือรถ MPV น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ ความสะดวกสบายภายในห้องโดยสารครับ ซึ่งจะมีพื้นที่กว้างขวางมาก ๆ มาพร้อมเบาะนั่ง 3 แถว นั่งได้ 6-7 ที่นั่ง แถมยังออกแบบมาให้สามารถพับได้หลากหลายรูปแบบ หากคุณไม่มีผู้โดยสาร คุณก็สามารถพับเบาะทั้งหมดให้ราบได้ คุณก็จะได้พื้นเรียบ ๆ อยู่ในรถ โดยคุณจะใช้นอนแคมป์ปิ้ง หรือใช้ขนของก็ได้ครับ
2. ความปลอดภัย
อีกด้านที่รถ MPV ทำได้น่าสนใจมาก ๆ ก็คือ ความปลอดภัยที่สูง ครับ อย่างที่บอกไปว่า รถประเภทนี้มาพร้อมที่นั่งสูงสุด 7 ที่นั่ง ดังนั้นในการออกแบบผู้ผลิตจะต้องคำนึงถึงผู้โดยสารทุกตำแหน่งอยู่แล้ว เพื่อคุ้มครองให้มีความปลอดภัยสูงสุด แต่ด้วยขนาดที่จำกัด การเสริมโครงสร้างจึงไม่เหมาะ ผู้ผลิตรถ MPV ส่วนใหญ่จึงเน้นไปที่การใช้เทคโนโลยี และระบบความปลอดภัยที่ล้ำสมัยต่าง ๆ แทน โดยพื้นฐานหลัก ๆ ก็จะมีระบบเบรก ABS, ระบบกระจายแรงเบรก (EBD), ระบบควบคุมการทรงตัว และก็มีระบบความปลอดภัยอื่น ๆ อีก ขึ้นอยู่กับรุ่นย่อยที่คุณเลือก เพื่อให้คุณมั่นใจในการขับขี่ที่สุด
3. เครื่องยนต์ที่กำลังดี มีสมรรถนะเพียงพอ
รถ MPV มักมาพร้อมกับเครื่องยนต์ที่กำลังพอดี ๆ ครับ ให้สมรรถนะที่ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป เพื่อให้ได้กำลังขับเคลื่อนที่มากพอในการบรรทุกผู้โดยสารแบบเต็มพิกัด ในขณะเดียวกันก็ต้องมีอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงที่ดีด้วย ดังนั้นหากคุณนำมาใช้ในครอบครัว 5-6 คน มันก็มีกำลังสบาย ๆ อย่างแน่นอนครับ นอกจากนี้รถ MPV รุ่นใหม่ ๆ บางรุ่น ได้หันมาใช้เครื่องยนต์ไฮบริดกันแล้ว มันจึงประหยัดเชื้อเพลิง และยังแรงกว่าเดิมด้วย
4. ความคุ้มค่าในงบประมาณที่จำกัด
ในเรื่องของราคา รถ Mini MPV เป็นรถประเภทเดียวที่มีราคาประหยัดที่สุดแล้ว อยู่หลาย ๆ รุ่นมีราคาไม่เกิน 1 ล้านบาท ทั้งยังประหยัดน้ำมันมากที่สุดด้วย ในบรรดารถยนต์ 5-7 ที่นั่งทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น รถ SUV, รถ PPV หรือรถตู้ MPV ซึ่งอย่างที่บอกไปในข้อ 2 เรื่องความปลอดภัยว่า มันถูกออกแบบมาเพื่อครอบครัวโดยเฉพาะ ดังนั้นเมื่อเทียบราคากับ คุณสมบัติ คุณภาพ และรวมถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยสุดล้ำ ที่มาพร้อมกับรถ Mini MPV ทั้งหมดคือความคุ้มค่าที่คุณควรพิจารณา เมื่อเลือกซื้อรถ MPV
บทส่งท้าย
รถตู้ครอบครัว 7 ที่นั่ง หรือ รถ Mini MPV จัดเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม สำหรับทุก ๆ ครอบครัว หรือกลุ่มคนที่มีทีมงานหลาย ๆ คนที่ต้องเดินทางไปพร้อม ๆ กัน 5-7 คน ด้วยภายในห้องโดยสารที่กว้างขวาง ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกมาครบครัน มีเทคโนโลยีความปลอดภัยที่น่าเชื่อถือ ได้สมรรถนะเครื่องยนต์ที่มีประสิทธิภาพ แต่ประหยัดน้ำมัน อักทั้งยังมีช่วงล่างที่นุ่มนวลนั่งสบาย เหมาะมากกับผู้สูงอายุและเด็ก ๆ ทั้งหมดนี้มาในรถที่มีราคาแพงกว่ารถ Eco car แค่เล็กน้อยเท่านั้นครับ ดังนั้นใครกำลังหารถที่ตอบโจทย์การเดินทางหลาย ๆ คน รถ Mini MPV คือตัวเลือกที่น่าสนใจสุด ๆ ไปเลยครับ