Best Review Asia
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ
No Result
View All Result
Best Review Asia
No Result
View All Result

Home » สุขภาพและความงาม » สุขภาพทั่วไป » อาหารเสริม » วิตามินรวม (Multivitamins) ช่วยอะไรได้บ้าง? สำหรับผู้ชาย/ผู้หญิง

วิตามินรวม (Multivitamins) ช่วยอะไรได้บ้าง? สำหรับผู้ชาย/ผู้หญิง

Mine Melody โดย Mine Melody
March 4, 2023
ใน อาหารเสริม
วิตามินรวม
Share on FacebookShare on Twitter

สารบัญ

  • ข้อควรรู้สำหรับ อาหารเสริมวิตามินรวม (Multivitamins) (1,2,3)
  • วิตามินรวมสำหรับผู้ชาย
  • สิ่งที่ควรมองหาในวิตามินรวมสำหรับผู้ชายโดยทั่วไป
  • วิตามินรวมสำหรับผู้หญิง
  • สิ่งที่ควรมองหาในวิตามินรวมสำหรับผู้หญิงโดยทั่วไป
  • วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย
    • วิตามิน A (32)
    • วิตามิน B9 กรดโฟลิก ( Folic acid) (31)
    • วิตามิน B12 (12)
    • วิตามิน C (17)
    • วิตามิน D (5)
    • วิตามิน E (33)
    • โพแทสเซียม (15)
    • แคลเซียม (4)
    • สังกะสี Zinc (ซิงค์) (19)
    • แมกนีเซียม (20)
    • โอเมก้า 3 (7,27)
    • ธาตุเหล็ก (22)
    • สารต้านอนุมูลอิสระ (9) 
  • สาเหตุของคนที่เลือกทานวิตามินรวม
  • ข้อควรรู้ก่อนทานวิตามินรวม
  • อาหารเสริมของผู้สูงอายุทั้งผู้ชายและผู้หญิง(10,11)
  • ร่างกายของเรามีต้องการอาหารเสริมวิตามินรวมหรือไม่
  • บทสรุป

บ่อยครั้งที่เรารู้สึกว่าร่างกายของเรามีความผิดปกติบางอย่าง แต่เราไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าเกิดจากอะไร? นั่นเป็นเพราะบางครั้งคุณอาจจะไม่รู้ตัวว่าร่างกายกำลังตกอยู่ในภาวะขาดสารอาหารบางชนิด เพราะการทานอาหารในแต่ละมื้อก็ไม่ได้การันตีว่าคุณจะได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ อีกทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถผลิตขึ้นเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องได้รับวิตามินและแร่ธาตุจากการทางอื่นร่วมด้วย เพื่อส่งเสริมสุขภาพโดยรวมที่ดี ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้จึงทำให้มี “ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม” ขึ้นมาเพื่อให้ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารได้ตามที่ต้องการในรูปแบบที่ทานง่ายและสะดวกกว่าเดิม

เช็กโปรโมชั่น Lazada  ลดราคาสินค้าสิ้นเดือนพฤษภาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada  ลดราคาสินค้าสิ้นเดือนพฤษภาคมเช็กโปรโมชั่น Lazada  ลดราคาสินค้าสิ้นเดือนพฤษภาคม

อาหารเสริมเหล่านี้จะมาในสูตรของวิตามินที่ต่างกันตามแต่ปัญหาของแต่ละคน อาทิเช่น หากคุณต้องการดูแลผิวพรรณคุณจะต้องทานวิตามิน C คู่กับคอลลาเจนไปพร้อม ๆ กัน หรือหากคุณต้องการเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงก็ต้องทานแคลเซียมเพิ่มเข้าไป ซึ่งมันยังมีอาหารเสริมชนิดต่าง ๆ อีกมากมายที่ช่วยปรับปรุงระบบการทำงานของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอาหารเสริมพวกวิตามิน B รวม, วิตามิน E, ซิงค์, แมกนีเซียม, ธาตุเหล็ก และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งคุณจะเห็นว่าปัจจุบันนี้เรามีอาหารเสริมที่ผลิตออกมาเยอะมาก ซึ่งในบางครั้งคุณก็คงไม่มีเวลามากพอจะมานั่งศึกษารายละเอียดทุกตัว รวมถึงการทานแยกทีละเม็ดก็ทำให้เสียเวลาอีกด้วย

มันคงจะดีกว่านี้หากมีอาหารเสริมที่สามารถรวมทุกอย่างไว้ในเม็ดเดียว เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องกังวลว่าตัวเองขาดวิตามินและแร่ธาตุตัวไหนบ้าง แน่นอนว่าค่ะมันมีอาหารเสริมแบบที่เรากล่าวถึงหรือที่เรียกว่า “อาหารเสริมวิตามินรวม”

อาหารเสริมวิตามินรวม ได้ครอบคลุมวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ที่จำเป็นไว้ในเม็ดเดียว อาหารเสริมวิตามินรวมยังสามารถแยกออกเป็น อาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับผู้ชาย, อาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับผู้หญิง และอาหารเสริมวิตามินรวมสำหรับผู้สูงอายุอีกด้วย เพราะด้วยเพศและวัยที่ต่างกัน ทำให้แต่ละคนมีความต้องการวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่ไม่เท่ากันอย่างแน่นอน ดังนั้นบทความนี้เราจะให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิตามินรวมทั้งหมดที่คุณอยากรู้ ว่าแท้จริงแล้วคุณต้องการวิตามินและแร่ธาตุประเภทไหนบ้าง? และต้องการในปริมาณมากน้อยเพียง? อย่างละเอียดกันเลยค่ะ

ข้อควรรู้สำหรับ อาหารเสริมวิตามินรวม (Multivitamins) (1,2,3)

หลาย ๆ คนมองว่าการทานอาหารเสริมวิตามินรวมอาจจะเข้ามาปรับเปลี่ยนความสมดุลต่าง ๆ ในร่างกายได้หรือไม่? เพราะวิตามินและแร่ธาตุบางชนิดเราจะได้รับจากมื้ออาหารในแต่ละวันอยู่แล้ว และการทานอาหารเสริมวิตามินรวมเพิ่มเข้ามาอีก จะทำให้ร่างกายของได้รับวิตามินและแร่ธาตุบางตัวในปริมาณที่เกินความจำเป็นหรือไม่?

ข้อควรรู้ ก่อนอาหารเสริมวิตามินรวม

เราต้องขอบอกเลยว่าอาหารเสริมวิตามินรวมนั่น จะมีวิตามินและแร่ธาตุแต่ละชนิดที่ร่างกายต้องการใช้ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ เพราะด้วยคุณสมบัติของมันคือการรวมหลาย ๆ ตัวไว้ในเม็ดเดียว มันจึงเป็นไม่ได้อัดแน่นไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่สูงอย่างแน่นอน เพราะอาหารเสริมวิตามินรวมเป็นเพียงการเสริมวิตามินและแร่ธาตุเข้าไปอย่างละนิดอย่างละหน่อยตามที่ร่างกายของผู้หญิงหรือผู้ชายต้องการเท่านั้น เพื่อให้ร่างกายของคุณไม่ขาดวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นตัวใดตัวหนึ่งไป ดังนั้นเราจึงเห็นได้ว่ามีผู้คนจำนวนมากที่เลือกที่จะทานอาหารเสริมวิตามินรวมและตามด้วยการทานอาหารเสริมตัวอื่น ๆ ที่เฉพาะเจาะจงตามที่พวกเขาต้องต้องการ

นอกจากนี้อาหารเสริมวิตามินรวมจะเป็นตัวการันตีได้ว่าหากคุณทานไปแล้วจะไม่เกิดความผิดพลาดใด ๆ อย่างแน่นอน เพราะในบางครั้งหากคุณทานอาหารเสริมหลายตัวพร้อม ๆ กัน ประสิทธิภาพของตัวยาก็อาจจะตีกันเอง จนทำให้ส่วนผสมบางตัวถูกขัดขวางการดูดซึมกันได้เช่นกัน

วิตามินรวมสำหรับผู้ชาย

ทุกคนทราบดีว่าวิตามินมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวม เพราะมันมีส่วนช่วยทำให้ระบบต่าง ๆ ภายในร่างกายของคุณทำงานได้อย่างปกติ หากคุณได้รับสารอาหารบางตัวไม่เพียงพอ มันอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ในระยะยาวและยังเป็นต้นเหตุทำให้เกิดโรคเรื้อรังอื่น ๆ ตามมาได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทุกคนมีความต้องการทางโภชนาการแตกต่างกัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้เกิดความต้องการที่หลากหลายเช่นนี้คือ “เพศ” และ “อายุ” สำหรับผู้ชายแต่ละช่วงอายุนั้นก็จะมีความต้องการวิตามินและแร่ธาตุที่ต่างกันออกไปด้วย ซึ่งเราจะมาดูกันค่ะว่าร่างกายของผู้ชายโดยส่วนใหญ่แล้วมีต้องการวิตามินและแร่ธาตุตัวไหนเป็นพิเศษบ้าง? รวมถึงข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงในผู้ชายที่อาจเกิดขึ้นจากการทานวิตามินบางชนิดในปริมาณที่มากเกินไป

สำหรับผู้ชายในช่วงวัยรุ่น

สำหรับวัยรุ่นที่ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับการพัฒนากระดูก ดังนั้นหลัก ๆ เลยก็ต้องเป็นแคลเซียมและวิตามิน D ที่เป็นสารอาหารที่จำเป็นมาก ๆ ในวัยนี้ (วิตามิน D ใช้ในการดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น)

  • ควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย : 1,300 mg ต่อวัน (4,14)
  • ควรได้รับวิตามิน D อย่างน้อย : 600 IU ต่อวัน (5,14)

สำหรับผู้ชายอายุ 20-30 ปี 

ต้องยอมรับว่าพฤติกรรมการทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพในวัยนี้อาจทำให้คุณเสี่ยงเป็นโรคมากกว่าวัยอื่น ๆ ดังนั้นการรักษาสุขภาพด้วยการทานอาหารเสริมวิตามินรวมจึงเป็นที่สำคัญเพราะมีสารประกอบที่หลากหลาย เพื่อให้คุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน นอกเหนือจากแคลเซียมและวิตามิน D ที่เราระบุไปแล้วนเพื่อให้ฟันและกระดูกแข็งแรง ก็ยังมีโพแทสเซียม จำเป็นต่อการควบคุมความดันโลหิตและการสร้างกระดูกที่แข็งแรงค่ะ (5,4,15)

  • ควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย : 1,000 mg ต่อวัน (4,14)
  • ควรได้รับวิตามิน D อย่างน้อย : 600 IU ต่อวัน (5,14)
  • โพแทสเซียมของผู้ชายจะเพิ่มขึ้นจากเดิมเป็น : 3,400 mg ต่อวัน (15)

ผู้ชายในอายุ 30-40 ปี

ผู้ชายในวัยนี้เป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนเพศชายลดลง ทำให้ความแข็งแรงลดลง, สูญเสียกล้ามเนื้อง่าย รวมถึงมีความต้องการในเรื่องเพศน้อยลง ดังนั้นคุณจะต้องรักษาระดับฮอร์โมนเพศชายไว้ด้วยการทานอาหารที่มีประโยชน์และออกกำลังกายเป็นประจำรวมถึงทานสังกะสีและแมกนีเซียมรวมด้วย เพราะมีสังกะสีบทบาทต่อสุขภาพฮอร์โมนของผู้ชาย (18) ส่วนแมกนีเซียมมีความจำเป็นต่อการทำงานของร่างกายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นความดันโลหิต, โรคหัวใจและหลอดเลือด หรือโรคเบาหวานประเภทที่ 2 (21)

  • ควรได้รับแมกนีเซียม 420 mg ต่อวัน (20)

สำหรับผู้ชายวัย 50-70 ปี

ผู้ชายอายุ 50 ปีขึ้นไป เป็นวัยที่เริ่มมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้นกรดไขมันโอเมก้า 3 และสารต้านอนุมูลอิสระในอาหารเสริมบางตัว อาจช่วยป้องกันโรคที่เกี่ยวกับหัวใจรวมถึงปัญหาด้านการมองเห็นจากอายุที่เพิ่มขึ้นได้ (6,7,8) นอกจากนี้การดูดซึมวิตามิน B12 ที่ลดลงก็ยังพบได้ในผู้สูงอายุ และการบริโภควิตามิน B12 ในอาหารอาจไม่เพียงพอสำหรับผู้สูงอายุอีกต่อไป (13) 

  • ควรได้รับกรดโอเมก้า 3 อย่างน้อย : 1.6 g ต่อวัน (7) 
  • ควรได้รับวิตามิน B12 อย่างน้อย : 2.4 µg ต่อวัน (12)

สำหรับผู้ชายวัยสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป

สำหรับผู้ชายสูงอายุ ก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระดูกพรุนสูง ดังนั้นแคลเซียมและวิตามิน D จะสามารถป้องกันและเสริมสร้างกระดูกของคุณให้แข็งแรงได้ สำหรับผู้ชายที่มีอายุมากกว่า 70 ​​ปี จะมีความต้องการวิตามิน D ที่สูงขึ้นกว่าวัยรุ่นถึงสามเท่า ดังนั้นจำเป็นต้องได้รับวิตามิน D เพิ่มขึ้น (5,14)  รวมถึงมีความต้องการต้องแคลเซียมมากกว่าเดิม เพราะร่างกายดูดซึมได้น้อยลง (4,14)

  • ควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย : 1,200 mg ต่อวัน (4,14)
  • ควรได้รับวิตามิน D อย่างน้อย : 800 IU ต่อวัน (5,14)

สำหรับผู้ชายที่สูบบุหรี่

สำหรับผู้ที่สูบบุหรี่เป็นประจำมักจะพบวิตามิน C ในร่างกายต่ำมากเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ ซึ่งจะทำให้ร่างกายของคุณเข้าสู่ภาวะแทรกซ้อนและเกิดเป็นโรคอื่น ๆ ตามมาได้ โดยปกติแล้วเพศชายอายุระหว่าง 14-18 ปี จะต้องการวิตามิน C อย่างน้อย 75 mg ต่อวัน และสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 19 ปี ต้องการวิตามิน C อย่างน้อย 90 mg ต่อวัน (17) แต่อย่างไรก็ตามสำหรับผู้ชายที่สูบบุหรี่นั้นมีความต้องการวิตามิน C ที่สูงกว่าปกติคือ

  • ควรได้รับวิตามิน C : บวกเพิ่มจากช่วงอายุเดิมอีก 35 mg ต่อวัน (17)

สำหรับผู้ชายที่ทานมังสวิรัติ 

ทานมังสวิรัติ  การทานมังสวิรัตินั้นส่งผลทำให้คุณขาดวิตามิน B12 ได้ เพราะโดยส่วนใหญ่แล้ววิตามิน B12 มักจะพบได้ในเนื้อสัตว์ (12) ดังนั้นผู้ที่ทานมังสวิรัติจึงจำเป็นต้องทานอาหารเสริมเพื่อให้ร่างกายของคุณได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนนะคะ ดังนั้นสำหรับผู้ชายที่ทานมังสวิรัติอายุ 14 ปีขึ้นไป

  • ควรได้รับวิตามิน B12 : 2.4 mcg ต่อวัน (12)

หมายเหตุ : พฤติกรรมการทานอาหารที่มีปัจจัยเสี่ยงขาดสารอาหาร อาทิเช่นผู้ที่ทานมังสวิรัติหรือคีโตเจนิกคุณจะต้องศึกษาเป็นพิเศษ เนื่องจากความต้องการแตกต่างกันไปตามลักษณะการกิน

สำหรับผู้ชายที่ชอบออกกำลังกาย

โดยปกติแล้วผู้ชายจะมีการเผาผลาญแคลอรี่ที่สูง แต่เมื่อคุณเป็นผู้ชายที่ชอบออกกำลังกายด้วย การเผาผลาญแคลอรี่ก็จะยิ่งสูงมากกว่าบุคคลทั่วไปขึ้นอีก สิ่งนี้ทำให้คุณจำเป็นต้องกินมากขึ้นเพื่อให้ร่างกายรักษาสมดุล แม้ว่าจะไม่มีข้อพิสูจน์ต่าง ๆ ว่านักกีฬาหรือคนที่ชอบออกกำลังกายจำเป็นต้องทานอาหารเสริมหรือไม่ แต่อย่างน้อย ๆ คุณจะต้องได้รับวิตามิน D ที่เพียงพอ เพราะมันจะส่งผลต่อสุขภาพกระดูก, ช่วยฟื้นตัวจากความเสียหายของกล้ามเนื้อหลังออกกำลังกาย, เข้ามาช่วยเสริมสร้างการทำงานของหัวใจ และมีผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน (16)

  • ควรได้รับวิตามิน D อย่างน้อย : 600 IU ต่อวัน (5,14)

นอกจากนี้ยังต้องเน้นทานโปรตีนในปริมาณมาก ที่ส่วนใหญ่มักจะทานเป็นเวย์โปรตีนหรือโปรตีนบาร์ เพื่อสร้างมวลกล้ามเนื้อจากการออกกำลังกาย รวมถึงอาหารเสริมแอลคาร์นิทีน, อาหารเสริมครีเอทีน, อาหารเสริม BCAAs หรืออาหารเสริมก่อนออกกำลังกายร่วมด้วย เพื่อให้การออกกำลังกายของคุณมีประสิทธิภาพที่ดียิ่งขึ้น

สิ่งที่ควรมองหาในวิตามินรวมสำหรับผู้ชายโดยทั่วไป

คุณจะเห็นได้ว่าหัวข้อก่อนหน้านี้เรามีการแบ่งแยกประเภทวิตามินที่ควรได้รับของผู้ชายออกเป็นหลายหมวดหมู่ ซึ่งถือว่าเป็นความโชคดีที่ปัจจุบันนี้มี “วิตามินรวม” หลายชนิดที่ออกแบบมาโดยเฉพาะไม่ว่าจะเป็น วิตามินรวมสำหรับผู้ชายที่ชอบออกกำลังกาย,​ วิตามินรวมสำหรับผู้ชายวัย 50+ เพื่อช่วยให้ผู้ชายได้รับสารอาหารทั้งหมดตามที่ต้องการได้ในเม็ดเดียว แต่หากคุณไม่แน่ใจว่าตัวเองจัดอยู่ในประเภทไหน เพราะดูเหมือว่าคุณจะเป็นผู้ชายที่มีไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ดังนั้นเรามาดูวิตามินและแร่ธาตุที่สำคัญ ๆ หลัก ๆ ของผู้ชายโดยทั่วไปกันค่ะว่ามีอะไรบ้าง

โดยส่วนใหญ่แล้วผู้ชายควรมองหาวิตามินรวมที่มีสารอาหารสำคัญ ๆ อย่างเช่น แคลเซียม, วิตามิน B12, วิตามิน D และ แมกนีเซียม สำหรับแร่ธาตุที่จำเป็นสำหรับผู้ชายมี 2 ชนิดที่ควรมองหาคือสังกะสีและซีลีเนียมค่ะ สำหรับธาตุเหล็กนั้นเป็นแร่ธาตุที่สามารถสะสมในร่างกายได้เมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าผลดี ผู้ชายส่วนใหญ่จะต้องการธาตุเหล็กอย่างน้อย 8 mg ต่อวัน ซึ่งถือว่าน้อยมาก ๆ จนคุณไม่จำเป็นต้องหาทานเสริมมันแฝงมาในมื้ออาหารอยู่แล้ว เว้นแต่คุณจะได้รับคำแนะนำจากแพทย์ว่าสุขภาพของคุณจำเป็นต้องได้รับธาตุเหล็กเพิ่มอย่างเช่นคุณเป็นโรคโลหิตจางเป็นต้น

แต่การเลือกวิตามินรวมแต่ละตัวที่เหมาะสมกับคุณนั้น อาจจะต้องอาศัยการพิจารณาปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย อาทิเช่น หากคุณรู้ตัวว่าร่างกายของคุณมีความไวต่อสิ่งต่าง ๆ เป็นพิเศษ คุณอาจจะต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนซื้อวิตามินรวมทานเอง และนอกจากนี้โปรดทราบว่าวิตามินรวมส่วนใหญ่ จะไม่มีค่อยแคลเซียมหรือแมกนีเซียมใส่มาให้นัก เนื่องจากปริมาณที่ต้องการใช้จริง ๆ มันมีมากเกินไปที่จะบรรจุในอาหารเสริมวิตามินรวมได้อย่างครอบคลุม หากคุณรู้ตัวร่างกายต้องการแคลเซียมหรือแมกนีเซียมเพิ่มเติมในด้านสุขภาพของกระดูก คุณอาจจะต้องซื้ออาหารเหล่านี้แยกต่างหาก

หมายเหตุ : วิตามินรวมส่วนใหญ่ควรรับประทานวันละครั้งหรือสองครั้งต่อวัน ดังนั้นอย่าลืมอ่านฉลากและข้อปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาที่แนะนำด้วยนะคะ


วิตามินรวมสำหรับผู้หญิง

สำหรับผู้หญิงวัยรุ่น

ช่วงวัยรุ่นเป็นช่วงที่ผู้หญิงทุกคนจะได้รับการการพัฒนากระดูกให้แข็งแรงเช่นเดียวกับผู้ชายเลยค่ะ ดังนี้ควรจะมุ่งเน้นไปที่การบริโภคแคลเซียมและวิตามิน D ในปริมาณที่เพียงพอสามารถกระตุ้นการเจริญเติบโตของกระดูก  (5,4)

  • ควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย : 1,300 mg ต่อวัน (4,14)
  • ควรได้รับวิตามิน D อย่างน้อย : 600 IU ต่อวัน (5,14)

สำหรับผู้หญิงอายุ 20-30 ปี

ผู้หญิงในวัยเจริญพันธุ์มีความต้องการสารอาหารอย่างธาตุเหล็กที่เพิ่มมากขึ้น เพราะทุก ๆ เดือนผู้หญิงจะต้องสูญเสียเลือดในปริมาณที่มากจากประจำเดือน

  • ผู้หญิงทั่วไปควรได้รับธาตุเหล็ก : 18 mg ต่อวัน (22)
  • ผู้หญิงมีครรภ์ควรได้รับธาตุเหล็ก : 27 mg ต่อวัน (22)
  • ผู้หญิงให้นมบุตรควรได้รับธาตุเหล็ก : 9 mg ต่อวัน (22)

สำหรับผู้หญิงในวัย 30-40 ปี

ผู้หญิงในวัย 40 ปีมีความต้องการทางโภชนาการที่ไม่เหมือนใคร เพราะเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนและยังต้องเจอกับสัญญาณแห่งวัยต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ดังนั้นคอลลาเจนที่ช่วยในชะลอริ้วรอย เพิ่มความชุ่มชื้น และสร้างความยืดหยุ่นของผิวจึงสำคัญมาก (26) กรดไขมันโอเมก้า 3 ก็ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด ทั้งยังช่วยควบคุม HDL และความดันโลหิตได้ดี (27)

  • ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3  : 1.1 g ต่อวัน (27)
  • ควรได้รับคอลลาเจนอย่างน้อย : 5,000 mg ต่อวัน

สำหรับผู้หญิงวัย 50-70 ปี 

แคลเซียมและเคอร์คูมินเป็นหนึ่งในอาหารเสริมที่ดีที่สุดสำหรับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เพราะหลังหมดประจำเดือน ผู้หญิงหลายคนมีความเสี่ยงจะเป็นโรคกระดูกพรุนมากกว่าผู้ชาย (4) ส่วนเคอร์คูมินช่วยต้านการอักเสบมากมาย ทั้งยังช่วยสนุนการทำงานของสมองและข้อต่อ รวมถึงช่วยลดการเกิดโรคอัลไซเมอร์ด้วย (28,29)

  • ควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย : 1,200 mg ต่อวัน (4,14)
  • ควรได้รับวิตามิน D อย่างน้อย : 600 IU ต่อวัน (5,14)

สำหรับผู้หญิงวัยสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป

การดูแลรักษามวลกระดูกให้แข็งแรงในช่วงวัยนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นนอกเหนือจากแคลเซียมแล้ว วิตามิน D ก็มีส่วนช่วยเช่นกัน เพราะวิตามิน D จะช่วยทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น (5) นอกจากนี้โปรตีนก็ช่วยรักษามวลกล้ามเนื้อได้ด้วย (30)

  • ควรได้รับแคลเซียมอย่างน้อย : 1,200 mg ต่อวัน (4,14)
  • ควรได้รับวิตามิน D อย่างน้อย : 800 IU ต่อวัน (5,14)
  • ควรได้รับโปรตีน : 0.8 – 2.0 g ต่อวัน (ขึ้นกับน้ำหนักตัวด้วย) (30)

สำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์

กรดโฟลิกมีหน้าที่ในการจำลองแบบ DNA และมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ (23,31)  ซึ่งมีการแนะนำให้ผู้หญิงทานกรดโฟลิกอย่างน้อย 1-3 เดือน ก่อนตั้งครรภ์เพื่อเตรียมความพร้อม (24,25)  กรดไขมันโอเมก้า 3 เช่น DHA และ EPA มีความสำคัญต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ทั้งยังลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง และการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ (27)

  • ตั้งครรภ์ควรได้รับโฟเลต : 600 µg ต่อวัน (31)
  • ให้นมควรได้รับโฟเลต : 500 µg ต่อวัน (31)
  • ตั้งครรภ์ควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3  : 1.4 g ต่อวัน (27)
  • ให้นมควรได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3  : 1.3 g ต่อวัน (27)

สิ่งที่ควรมองหาในวิตามินรวมสำหรับผู้หญิงโดยทั่วไป

ความแตกต่างที่สำคัญในอาหารเสริมของผู้หญิงวัยทั่วไปกับผู้หญิงที่มีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป คือบริมาณของธาตุเหล็กที่ต่างกัน เพราะในวัยปกตินั้นคุณจำเป็นต้องการธาตุเหล็กสูง เนื่องจากคุณมีประจำเดือนที่ต้องที่ให้สูญเสียเลือดทุก ๆ เดือน แต่สำหรับผู้หญิงที่หมดประจำเดือนแล้ว ความต้องการของธาตุเหล็กจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด คือจากเดิมต้องการ 18 mg ก็ลดเหลือ 8 mg ต่อวันเท่านั้น ดังนั้นหากคุณหมดประจำเดือนแล้วจึงไม่ควรบริโภคธาตุเหล็กในปริมาณที่สูงมาก เพราะมันจะทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้ หรือท้องผูกเล็กน้อยได้ (22)

ทั้งยังมีปัจจัยอื่น ๆ เช่นคุณอยู่ในวัยหมดประจำเดือน, กำลังตั้งครรภ์, ให้นมบุตร หรือทานอาหารมังสวิรัติ หากคุณตกอยู่ในหมวดหมู่ของผู้หญิงที่ต้องการทั้งธาตุเหล็กและแคลเซียมเป็นพิเศษ คุณจะต้องทานวิตามินที่มีธาตุเหล็ก และแคลเซียม-วิตามิน D แยกกันในแต่ละช่วงเวลาของวัน เนื่องจากแคลเซียมสามารถป้องกันการดูดซึมธาตุเหล็กได้ ในขณะที่วิตามิน C จะช่วยให้คุณดูดซับธาตุเหล็กในอาหาร

นอกจากนี้อาหารเสริมสำหรับผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ก็อีกมีมากมายนอกจากวิตามิน B9 (กรดโฟลิกหรือที่เรียกว่าโฟเลต) ไม่ว่าจะเป็น สังกะสี, เหล็ก, แคลเซียม, วิตามิน C แต่สำหรับกรดโฟลิกนั้นต้องระวังด้วยนะคะ เพราะอาหารเสริมหลายชนิดมักจะมีกรดโฟลิกมากกว่าที่จำเป็น ซึ่งอาจทำให้คุณมีความเสี่ยงสูงต่อโรคหัวใจ และหลอดเลือด และโคลีนจะช่วยพัฒนาสมองของทารกในครรภ์ และอาจช่วยป้องกันการเกิดข้อบกพร่องในส่วนต่าง ๆ ได้ (31)

สำหรับใครที่อยากรู้ว่าต้องทานอาหารเสริมประเภทไหนที่จะช่วยเรื่องความสวยความงามอะไรเพิ่มเติมบ้าง สามารถเข้าไปอ่านบทความ “วิธีเลือกซื้อ วิตามินสำหรับผู้หญิง เพื่อสุขภาพ ผิวพรรณ และความงาม” ได้เลยค่ะ

วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย

เพื่อช่วยให้คุณสามารถพิจารณาเลือกซื้ออาหารเสริมวิตามินรวมได้ง่ายยิ่งขึ้น เราได้จัดทำคู่มือต่อไปนี้พร้อมบอกภาพรวมโดยย่อเกี่ยวกับวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ รวมถึงบอกที่มาจากแหล่งอาหาร และค่าปริมาณที่แนะนำต่อวัน

วิตามิน A (32)

  • วิตามิน A กับสุขภาพ : หลัก ๆ คือมีบทบาทในการป้องกันมะเร็ง, โรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ (AMD) และโรคหัด ทั้งยังความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการบำรุงและรักษาสายตา รวมถึงมีส่วนช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกัน
  • หากได้รับวิตามิน A มากเกินไป : อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ ปวดกระดูก และผลข้างเคียงอื่น ๆ
ปริมาณของวิตามิน A ต่อวัน (ต้องไม่น้อยกว่าและไม่ควรเกินค่าที่กำหนด)
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 900-2,800 µg 700-2,800 µg
19 ปีขึ้นไป 900-3,000 µg 700- 3,000 µg

วิตามิน B9 กรดโฟลิก ( Folic acid) (31)

  • กรดโฟลิกกับสุขภาพ : วิตามิน B9 หรือกรดโฟลิก ( Folic acid) มีชื่อเรียกอีกอย่างสั้น ๆ ว่า “โฟแลต” เป็นหนึ่งในสารอาหารที่คุณแม่ตั้งครรภ์หรือกำลังเตรียมตัวตั้งครรภ์รู้จักกันดี เพราะมันจะช่วยในเรื่องของการสร้างเซลล์รวมถึงช่วยป้องกันความผิดปกติของเด็กในครรภ์ได้ นอกจากนี้มันยังมีบทบาทต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด, มะเร็ง, ภาวะสมองเสื่อมอีกด้วย
ปริมาณของกรดโฟลิกต่อวัน (ต้องไม่น้อยกว่าและไม่ควรเกินค่าที่กำหนด)
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 400-800 μg 400-800 μg
19 ปีขึ้นไป 400-1,000 μg 400-1,000 μg

วิตามิน B12 (12)

  • วิตามิน B12 กับสุขภาพ : วิตามิน B12 หรือโคบาลามิน (Cobalamin) โดยส่วนมากมักพบได้ในสัตว์ ใครที่ทานเจหรือมังสวิรัติ มักมีปัญหาร่างกายขาดวิตามิน B12 ดังนั้นบุคคลกลุ่มนี้จะต้องหาอาหารเสริมวิตามิน B12 มาทานด้วยนะคะ นอกจากนี้วิตามิน B12 อาจจะมีส่วนช่วยเกี่ยวลดความเสี่ยงการเกิดโรคมะเร็ง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, ภาวะสมองเสื่อม เพราะมันเป็นตัวการพัฒนาการสร้างเยื่อหุ้มเซลล์และการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง รวมถึงการสร้างเม็ดเลือดแดงและการสังเคราะห์ DNA ฯลฯ
ปริมาณของวิตามิน B12 ต่อวัน
อายุ ชาย หญิง
14 ปีขึ้นไป 2.4 µg 2.4 µg

วิตามิน C (17)

  • วิตามิน C กับสุขภาพ : สามารถพบได้ทั่วไปในผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว วิตามิน C มีส่วนช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจน ทั้งยังเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน และทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกันและรักษา โรคมะเร็ง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ (AMD) + ต้อกระจก, และโรคไข้หวัด
  • หากได้รับวิตามิน C มากเกินไป : วิตามิน C ไม่ค่อยส่งผลร้ายใด ๆ ต่อร่างกายที่ร้ายแรง อย่างมากก็เกิดอาการท้องร่วง, คลื่นไส้, ปวดท้อง และอาจจะไปการรบกวนทางเดินอาหารอื่น ๆ
ปริมาณของวิตามิน C ต่อวัน (ต้องไม่น้อยกว่าและไม่ควรเกินค่าที่กำหนด)
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 75-1,800 mg 65-1,800 mg
19 ปีขึ้นไป 90-2,000 mg 75-2,000 mg

วิตามิน D (5)

  • วิตามิน D กับสุขภาพ : วิตามิน D มีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพของกระดูก เพราะวิตามิน D จะเป็นตัวช่วยทำให้ร่างกายของเราดูดซึมแคลเซียมได้ดียิ่งขึ้น เราจะเห็นว่าหากมีการแนะนำอะไรที่เกี่ยวกับปริมาณของแคลเซียมก็จะมีปริมาณวิตามิน D ควบคู่มาด้วยตลอด ดังนั้นมันจึงช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุนในผู้ใหญ่ได้ นอกจากนี้วิตามิน D ยังมีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำงานของกล้ามเนื้อ, โรคหัวใจและหลอดเลือด, เส้นโลหิตตีบ, โรคเบาหวานประเภทที่ 2 และการลดน้ำหนักอีกด้วย
  • หากได้รับวิตามิน D มากเกินไป : อาจส่งผลให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน, กล้ามเนื้ออ่อนแรง, เบื่ออาหาร ทั้งยังอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไต
ปริมาณของวิตามิน D ต่อวัน
อายุ ชาย หญิง
14-51 ปีขึ้นไป 15 µg (600 IU) 15 µg (600 IU)
71 ปีขึ้นไป 20 µg (800 IU) 20 µg (800 IU)

วิตามิน E (33)

  • วิตามิน E กับสุขภาพ : ทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และเพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย สามารถพบได้ในอาหารหลากหลายประเภทรวมถึงน้ำมันพืชและพืชผักใบเขียว วิตามิน E ช่วยในเรื่องของการบำรุงตับ และช่วยในเรื่องของระบบกล้ามเนื้อต่าง ๆ ทั้งยังทำหน้าที่เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
  • หากได้รับวิตามิน E มากเกินไป : อาจจะเกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน อ่อนเพลีย ท้องเสียได้
ปริมาณของวิตามิน E ต่อวัน
อายุ ชาย หญิง
14 ปีขึ้นไป 15 mg  15 mg

โพแทสเซียม (15)

  • โพแทสเซียมกับสุขภาพ : โพแทสเซียมมีบทบาทที่หลากหลายในร่างกาย หลัก ๆ คือช่วยในเรื่องของ ความดันโลหิตสูงและโรคหลอดเลือดสมอง, นิ่วในไต, สุขภาพกระดูก และการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด อย่างโรคเบาหวานประเภทที่ 2
  • หากได้รับโพแทสเซียมมากเกินไป : อาจทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแรงถึงขั้นเป็นอัมพาต มีอาการหัวใจสั่น, แขนขาชา และภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะซึ่งอาจเป็นอันตรายถึงชีวิต
ปริมาณของโพแทสเซียมต่อวัน
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 3,000 mg 2,300 mg
19–50 ปี 3,400 mg 2,600 mg
51 ปีขึ้นไป 3,400 mg 2,600 mg

แคลเซียม (4)

  • แคลเซียมกับสุขภาพ : แคลเซียมนั้นมีประโยชน์มากมายที่เกี่ยวกับสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมสุขภาพหรือการป้องกันและการรักษาโรค แต่หน้าที่หลัก ๆ ของแคลเซียมคือจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวมของกระดูก, ช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน, การควบคุมความดันโลหิต, ทำงานของกล้ามเนื้อ, การหดตัวของหัวใจ, การขยายหลอดเลือดเป็นต้น และป้องกันมะเร็งต่อมลูกหมาก
  • หากได้รับแคลเซียมมากเกินไป : อาจทำให้ท้องผูก, รบกวนการดูดซึมของเหล็กและสังกะสี และการได้รับแคลเซียมจากอาหารเสริมในปริมาณสูงอาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นนิ่วในไตได้ค่ะ
ปริมาณของแคลเซียมต่อวัน (ต้องไม่น้อยกว่าและไม่ควรเกินค่าที่กำหนด)
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 1,300-3,000 mg 1,300-3,000 mg
19–50 ปี 1,000-2,500 mg 1,000-2,500 mg
51–70 ปี 1,000-2,000 mg 1,200-2,000 mg
71 ปีขึ้นไป 1,200-2,000 mg 1,200-2,000 mg

สังกะสี Zinc (ซิงค์) (19)

  • ซิงค์กับสุขภาพ : แร่ธาตุสังกะสีหรือที่เรียกว่า Zinc (ซิงค์) มีส่วนช่วยในเรื่องของระบบภูมิคุ้ม, ช่วยรักษาบาดแผล และรักษาอาการท้องร่วงเฉียบพลันในวัยเด็ก
  • หากได้รับซิงค์มากเกินไป : อาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน, เบื่ออาหาร, ปวดท้อง, ท้องร่วง และปวดศีรษะ หากมีการรับซิงค์ในปริมาณสูงอย่างต่อเนื่องในระยะยาวอาจส่งผลเสียต่อสรีรวิทยาทางเดินปัสสาวะได้
ปริมาณของซิงค์ต่อวัน (ต้องไม่น้อยกว่าและไม่ควรเกินค่าที่กำหนด)
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 11-34 mg 9-34 mg
19–50 ปี 11-40 mg 8-40 mg

แมกนีเซียม (20)

  • แมกนีเซียมกับสุขภาพ : แมกนีเซียมมีส่วนเกี่ยวข้องกับสุขภาพร่างกายหลาย ๆ อย่าง หากร่างกายขาดแมกนีเซียม อาจจะเสี่ยงต่อโรคความดันโลหิตสูง, โรคหัวใจและหลอดเลือด, โรคเบาหวานชนิดที่ 2, โรคกระดูกพรุน และอาการปวดหัวไมเกรน
  • หากได้รับแมกนีเซียมมากเกินไป : ส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วง, มีอาการคลื่นไส้, เป็นตะคริวในช่องท้อง, รวมถึงการทานยาระบายและยาลดกรดที่มีแมกนีเซียมปริมาณมากเกินไป อาจจะมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง และหายใจลำบาก
ปริมาณของแมกนีเซียมต่อวัน 
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 410 mg 360 mg
19–30 ปี 400 mg 310 mg
31-50 ปีขึ้นไป 420 mg 320 mg

โอเมก้า 3 (7,27)

  • โอเมก้า 3 กับสุขภาพ : ถือเป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะประโยชน์ต่อสุขภาพมากมายหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น ลดปัจจัยเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือด, การป้องกันโรคมะเร็ง (มะเร็งต่อมลูกหมาก/มะเร็งเต้านม/มะเร็งลำไส้ใหญ่), โรคไขข้ออักเสบโอเมก้า 3 ไม่เพียงแต่ช่วยสนับสนุนสุขภาพของหัวใจเท่านั้น แต่ยังช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพเกี่ยวกับมองเห็นของผู้ที่มีอายุสูงอีกด้วย เพราะมีการศึกษามาแล้วว่าผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ที่ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3 อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง มีความความเสี่ยงในการเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อมที่เกี่ยวข้องกับอายุ (AMD) แบบลดลงอย่างเห็นได้ชัดประมาณ 53% เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้รับกรดไขมันโอเมก้า 3  ส่วนของคุณแม่ที่ตั้งครรภ์โอเมก้า 3 ก็มีส่วนช่วยในเรื่องสุขภาพและพัฒนาการทางระบบประสาทของทารกในครรภ์
ปริมาณของโอเมก้า 3 ต่อวัน
อายุ ชาย หญิง
14 ปีขึ้นไป 1.6 g 1.1 g

ธาตุเหล็ก (22)

  • ธาตุเหล็กกับสุขภาพ : ธาตุเหล็กมีส่วนช่วยให้ร่างกายสร้างโปรตีน, เซลล์เม็ดเลือดแดง, ฮอร์โมน และเนื้อเยื่อ ดังนั้นธาตุเหล็กจึงสำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์เพราะจะช่วยป้องกัน IDA ความผิดปกติใด ๆ ของทารกในครรภ์ได้ นอกจากนี้การได้รับธาตุเหล็กไม่เพียงพอเสียงต่อการเป็นโรคโลหิตจาง และสำหรับผู้หญิงวัยที่มีประจำเดือน, สตรีมีครรภ์, ผู้หญิงที่มีประจำเดือนมาก จะมีความต้องได้รับธาตุเหล็กสูงกว่าวัยอื่น ๆ ด้วยนะคะ สำหรับคุณผู้ชายไม่จำเป็นต้องทานอาหารเสริมที่มีธาตุเหล็กเป็นส่วนประกอบเพิ่มเติม เพียงแค่หาทานในมื้ออาหารก็ถือว่าเพียงพอแล้วค่ะ แต่หากคุณจัดอยู่ในกลุ่มผู้บริจาคโลหิตบ่อย, ผู้ที่เป็นมะเร็ง, ผู้ที่มีความผิดปกติของระบบทางเดินอาหารหรือเคยผ่าตัดระบบทางเดินอาหาร, ผู้ที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลว ถือว่าจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็กต้องดูแลใส่ใจเกี่ยวกับการรับธาตุเหล็กต่อวันเป็นพิเศษ
  • หากได้รับธาตุเหล็กมาเกินไป : อาจทำให้ปวดท้อง, ท้องผูก, คลื่นไส้อาเจียน และเป็นลมได้ ในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้ระบบอวัยวะภายในล้มเหลวและถึงขั้นเสียชีวิตได้
ปริมาณของธาตุเหล็กต่อวัน
อายุ ชาย หญิง
14–18 ปี 11 mg 15 mg
19–50 ปี 8 mg 18 mg
51 ปีขึ้นไป 8 mg 8 mg

สารต้านอนุมูลอิสระ (9) 

สารต้านอนุมูลอิสระขึ้นชื่อในเรื่องการป้องกันการเกิด โรคอัลไซเมอร์, โรคหัวใจและหลอดเลือด, และโรคเบาหวานได้ดี ซึ่งการรับประทานอาหารอย่างผักและผลไม้ที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ อย่าง วิตามิน E, วิตามิน C, ไลโคปีน และแคโรทีนอยด์ ได้เป็นอย่างดี

สาเหตุของคนที่เลือกทานวิตามินรวม

  • เพื่อแทนที่สารอาหารที่พวกเขาขาด
  • เพื่อลดความเสี่ยงของโรคเรื้อรัง
  • เพื่อปรับปรุงสุขภาพโดยรวมของพวกเขา

ข้อควรรู้ก่อนทานวิตามินรวม

  • ไม่ควรบริโภควิตามินหรือสารอาหารในปริมาณที่มากเกินไปต่อปริมาณที่กำหนดในแต่ละวัน
  • สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ควบคู่กับการทานอาหารเสริม
  • สำหรับบางคนร่างกายอาจจะต้องการสารอาหารวิตามินมากกว่า 1 ชนิด ดังนั้นการเลือกทานอาหารเสริมวิตามินรวมเป็นทางออกที่ดี โดยเลือกจากส่วนประกอบที่ร่างกายต้องการตามที่เราแนะนำไป

อาหารเสริมของผู้สูงอายุทั้งผู้ชายและผู้หญิง(10,11)

ผู้สูงอายุทั้งผู้ชายและผู้หญิงมีความเสี่ยงสูงต่อการขาดสารอาหาร เนื่องจากสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้น้อยลง ทำให้มีอัตราการเผาผลาญที่ลดลงตามไปด้วย ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ไม่มีค่อยความต้องการแคลอรี่หรือจะพูดว่าไม่ค่อยอยากทานอาหารก็ได้ค่ะ จนทำให้พวกเขาต้องทานอาหารเสริมสำหรับผู้สูงอายุควบคู่ไปด้วย อย่างพวกนมผงที่มีสามารถอาหารต่าง ๆ ครบถ้วน

นอกจากนี้ผู้สูงอายุยังสูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ง่าย และยังมีการวิจัยระบุอีกว่าอัตราการดูดซึมหรือการที่ร่างกายจะนำสารอาหารไปใช้นั้นจะลดลงเมื่ออายุมากขึ้น ดังนั้นอาหารเสริมกับผู้สูงอายุจึงมีความจำเป็นอย่างมาก แต่ทั้งนี้และทั้งนั้นจะต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนทานอาหารเสริมบางชนิด เพราะอาหารเสริมกับตัวยารักษาที่กินเป็นประจำอาจจะตีกันเองได้

ร่างกายของเรามีต้องการอาหารเสริมวิตามินรวมหรือไม่

หากคุณยังสงสัยว่าร่างกายของคุณขาดสารอาหารหรือไม่คุณสามารถปรึกษาแพทย์ของคุณก่อนได้ เพราะแพทย์อาจเจาะเลือด เพื่อตรวจสอบการขาดสารอาหารในร่างกายของคุณ และหากพบว่ามีข้อบกพร่องอย่างรุนแรง แพทย์อาจสั่งจ่ายอาหารเสริมตามที่ร่างกายของคุณต้องการ แต่หากพบข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อยคุณสามารถแก้ไขได้โดยการทานวิตามินรวม

บทสรุป

โดยปกติแล้วคุณควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยผักผลไม้และโปรตีนที่ดีต่อสุขภาพ รวมถึงควรงดอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง วิธีนี้จะเป็นการกำหนดสารอาหารในแต่ละวันที่ดีที่สุด แต่หากคุณรู้ตัวว่าไม่สามารถรับสารอาหารที่จำเป็นที่ต้องการต้องในแต่ละวัน เพราะเพราะอาจเป็นเรื่องยากสำหรับบางคนที่จะได้รับสารอาหารเพียงพอจากการรับประทานอาหารเพียงอย่างเดียว ดังนั้นอาหารเสิรมวิตามินรวมอาจช่วยแก้ปัญหาการขาดสารอาหารและส่งเสริมสุขภาพที่ดีขึ้นได้


References:

  1. Do multivitamins make you healthier?
  2. What You Need to Know about Dietary Supplements
  3. Dietary Supplements
  4. Vitamin D
  5. Calcium
  6. Age as a Cardiovascular Risk Factor
  7. Oily fish consumption, dietary docosahexaenoic acid and eicosapentaenoic acid intakes, and associations with neovascular age-related macular degeneration
  8. Oxidation of serum low-density lipoprotein (LDL) and antioxidant status in young and elderly humans
  9. Antioxidants: In Depth
  10. 5 Nutrition Concerns for Aging Populations
  11. Sarcopenia of aging and its metabolic impact
  12. Vitamin B12
  13. Dietary Reference Intakes (DRIs): Recommended Dietary Allowances and Adequate Intakes, Vitamins
  14. Osteoporosis in Men
  15. Potassium
  16. Vitamin D and the Athlete: Current Perspectives and New Challenges
  17. Vitamin C
  18. Zinc is an Essential Element for Male Fertility: A Review of Zn Roles in Men’s Health, Germination, Sperm Quality, and Fertilization
  19. Zinc
  20. Magnesium
  21. Magnesium in Prevention and Therapy
  22. Iron
  23. Folic Acid Supplementation and Pregnancy: More Than Just Neural Tube Defect Prevention
  24. Planning for Pregnancy
  25. Preconception health
  26. Significant Amounts of Functional Collagen Peptides Can Be Incorporated in the Diet While Maintaining Indispensable Amino Acid Balance
  27. Omega-3 Fatty Acids
  28. Curcumin: A Review of Its’ Effects on Human Health
  29. The effect of curcumin (turmeric) on Alzheimer’s disease: An overview
  30. Protein Consumption and the Elderly: What Is the Optimal Level of Intake?
  31. Folate
  32. Vitamin A
  33. Vitamin E
Previous Post

รีวิว สเปรย์กันยุง ยี่ห้อไหนไล่ยุงได้ดี ปี 2022

Next Post

รีวิว บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด แด่วันหวยออก

Mine Melody

Mine Melody

สวัสดีค่ะทุกคนนน ผู้เขียนขออนุญาตใช้นามแฝงว่า Mine Melody นะคะ แม้ว่าชื่อนี้จะไม่ใช่ชื่อจริง ๆ แต่ก็ยินดีที่ได้รู้จักคุณผู้อ่านที่น่ารักทุกท่าน 😘

ส่วนตัวแล้วผู้เขียนสนใจด้านเทคโนโลยีใหม่ ๆ และจะพยายามอธิบายให้เป็นภาษาที่เข้าใจง่าย 😎 อีกทั้งยังสนใจเรื่องต่าง ๆ ที่อยู่ในเทรนด์อย่าง สกินแคร์, เครื่องสำอาง, แฟชั่น ตลอดจนข่าวบันเทิง แน่นอนว่าเนื้อหาในทุก ๆ บทความที่เขียนไป ขอให้เพื่อน ๆ มั่นใจได้เลยว่ามีแหล่งอ้างอิงจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้จ้า!!

หากเพื่อน ๆ มีข้อสงสัย หรืออยากแชร์ไอเดียใด ๆ ร่วมกับผู้เขียน สามารถติดต่อผ่าน E-mail เว็บไซต์ของเราได้เลยค่ะ 😇

Next Post
บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด

รีวิว บะหมี่กึ่งสําเร็จรูป ยี่ห้อไหนอร่อยที่สุด แด่วันหวยออก

สินค้า ที่คุณอาจสนใจ

แนะนำ เวย์โปรตีน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ควบคุมน้ำหนัก ปี 2021
อาหารเสริม

เวย์โปรตีน เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ควบคุมน้ำหนัก ยี่ห้อไหนดี

March 8, 2023
รีวิว ซุปไก่สกัด อาหารเสริมบำรุงสมอง ที่ดีที่สุด
อาหารเสริม

เครื่องดื่มซุปไก่สกัด ยี่ห้อไหนดี ปี 2023 แบรนด์ สก๊อต

March 4, 2023
รีวิว วิตามินแบบเคี้ยวสำหรับเด็ก ยี่ห้อไหนดี
อาหารเสริม

วิตามินสำหรับเด็ก (แบบเคี้ยว/กัมมี่) ยี่ห้อไหนดี ทานง่าย อร่อย

March 8, 2023
รีวิว วิตามินเม็ดฟู่ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
อาหารเสริม

วิตามินเม็ดฟู่ ทานง่าย ดีต่อร่างกาย อย่างไร?

March 17, 2023
รีวิว คลอโรฟิลล์ ยี่ห้อไหนดีที่สุด
อาหารเสริม

อาหารเสริมคลอโรฟิลล์ ดีต่อสุขภาพอย่างไร?

January 10, 2023
รีวิว น้ำมันตับปลา ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2021
สุขภาพทั่วไป

รีวิว น้ำมันตับปลา ยี่ห้อไหนดีที่สุด ปี 2022

October 1, 2022

Recent Posts

  • 12 กระเป๋าสะพายไหล่ (Shoulder Bag) แบบไหนดี หลายสไตล์ แมทช์ได้ไม่เบื่อ ปี 2023
  • 8 ชีสสเปรด ยี่ห้อไหนดี รสชาติอร่อย หอมมัน เข้มข้น ปี 2023
  • รวม โทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัว ในปี 2023 (รวมทุกยี่ห้อ)
  • 10 เกมฝึกสมอง สนุกๆ โหลดฟรี น่าเล่นประลองปัญญา
  • 10 ไม้แขวนเสื้อประหยัดพื้นที่ แบบไหนดี ช่วยเพิ่มพื้นที่ในตู้เสื้อผ้า

Site Navigation

  • Affiliate Policy
  • Legal
  • เกี่ยวกับเรา
  • ข้อกำหนดและเงื่อนไขการใช้บริการ
  • สมัครงาน
  • ติดต่อเรา
  • ต้องการให้เรารีวิวสินค้า?

Best Review Asia

เว็บไซต์ให้ข้อมูลและแนะนำสินค้าที่ดีที่สุดในประเทศไทย ครอบคลุมสินค้าเกือบทุกประเภท

รีวิวสมาร์ทดีไวซ์รุ่นใหม่ๆ, สินค้าเพื่อสุขภาพ, เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน และครัวเรือน, อุปกรณ์สำนักงาน, อาหารเครื่องดื่ม, โรงแรม, แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว, แนะนำร้านอาหาร รวมไปถึงคำแนะนำ (How to) และเรื่องราวข่าวสารในชีวิตประจำวัน

Follow us: |



© 2023 Best Review Asia

No Result
View All Result
  •  
  • ซื้อยี่ห้อไหนดี ?
    • เทคโนโลยี
    • สุขภาพและความงาม
    • บ้านและห้องครัว
    • แม่และเด็ก
    • แฟชั่น
    • กีฬา
    • อาหารและเครื่องดื่ม
    • สัตว์เลี้ยง
    • อุปกรณ์สำนักงาน
    • เครื่องมือช่างและอุปกรณ์ทำสวน
    • เครื่องดนตรี
    • ยานยนต์
    • เทศกาลต่าง ๆ
    • แอปพลิเคชั่น
  • รีวิว สินค้า
  • สาระน่ารู้
    • แม่และเด็ก
    • สุขภาพ
    • ลดน้ำหนัก
    • การศึกษา
    • Life Style
    • แคปชั่นภาษาอังกฤษ
  • สูตรอาหาร
  • ท่องเที่ยว
    • ภาคเหนือ
    • ภาคใต้
    • ภาคกลาง
    • ภาคตะวันตก
    • ภาคตะวันออก
    • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
  • ซีรีส์/หนัง
    • ซีรีส์เกาหลี
    • ซีรีส์จีน
    • ซีรีส์ฝรั่ง
    • ละครไทย
    • ภาพยนตร์ฝรั่ง
    • การ์ตูน
    • เพลง-ศิลปิน
  • ข่าว
    • ข่าวบันเทิง
    • ไลฟ์สไตล์
    • ข่าวเศรษฐกิจ

© 2022 Best Review Asia