ปัจจุบันนี้เหล่ามิจฉาชีพต่างเริ่มพัฒนาทักษะการหลอกเอาเงินจากเหยื่อในรูปแบบใหม่ ๆ ที่มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น แก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ปลอมตัวเป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาล ไปจนถึงเหล่าสแกมเมอร์ที่หลอกให้เหยื่อหลงรักแล้วชวนลงทุนต่าง ๆ นานา นอกจากนี้ก็ยังมีสแกมเมอร์แนวติดเรทที่หลอกให้เหยื่อกดลิ้งก์ดาวน์โหลดแอปฯ เถื่อนโดยอ้างว่าเป็นแอปฯ สำหรับไลฟ์สดโชว์แนว 18+ และวิธีโกงล่าสุดก็มาในรูปแบบคูปองส่วนลดของสายการบินต่าง ๆ ด้วยค่ะ บอกได้เลยว่ามิจฉาชีพเหล่านี้ขยันสร้างเว็บไซต์ปลอมและแอปฯ ดูดเงินกันเก่งมาก จนทำให้เหยื่อหลายรายหลงเชื่อและตายใจ

โดยส่วนมาก เหยื่อที่มักโดนหลอกให้ติดตั้งแอปฯ เถื่อนจะเป็นผู้ใช้มือถือระบบ Android เนื่องจากการติดตั้งแอปฯ ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดจาก Google Play Store เสมอไป แต่ทั้งนี้ก็ทางเพจ “ตำรวจตรวจสอบกลาง” ก็แนะนำให้ตรวจสอบแอปฯ ให้ดีก่อนกดดาวน์โหลด แม้ว่าแอปฯ เหล่านั้นจะมาจาก App Store และ Google Play Store ก็ตาม โดยให้ดูจากรีวิวผู้ใช้งานและยอดดาวน์โหลดการติดตั้งของแอปฯ นั้น ๆ เป็นหลัก

และวิธีใหม่ล่าสุดที่เหล่ามิจฉาชีพคิดค้นได้ก็คือการหลอกให้เหยื่อเสียบสายชาร์จมือถือเพื่อแฮกข้อมูลในโทรศัพท์ หลาย ๆ คนอาจไม่เชื่อว่าสายชาร์จโทรศัพท์ธรรมดา ๆ ขนาดเล็กกระจิ๋วหลิวจะสามารถควบคุมโทรศัพท์ของเราได้ แต่ได้โปรดเชื่อเราเถอะค่ะ!!! เพราะตอนนี้มีจำนวนผู้เสียหายเพิ่มมากขึ้นทุกวัน

โดยวิธีการหลอกล่อก็ไม่ได้มีอะไรยุ่งยาก แค่ให้เหยื่อเสียบสายชาร์จที่มีการฝังตัวส่งสัญญาณไร้สายกับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน เดสก์ท็อป หรือแท็บเล็ต จากนั้นเหล่าแฮกเกอร์ก็จะโจรกรรมข้อมูลของเราได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะเป็น เลขบัญชีหรือแม้แต่รหัสผ่านธนาคาร โดยเจ้าสายชาร์จที่ว่านี้รูปร่างหน้าตาก็เหมือนสายชาร์จทั่ว ๆ ไป ซึ่งจะมีตั้งแต่สายชาร์จพอร์ต Lightning, Micro-USB หรือ USB-C นอกจากนี้ตัวอะแดปเตอร์ (หัวเสียบ) ก็มีความเสี่ยงเช่นเดียวกันค่ะ รวมถึงเต้าเสียบที่เป็นแบบ USB ตามที่สาธารณะด้วยค่ะ
วิธีป้องกันง่าย ๆ คือห้ามใช้สายชาร์จและตัวอะแดปเตอร์ของคนแปลกหน้า หรือใช้ช่องเสียบสาย USB ในสาธารณะ เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่า สายชาร์จหรือตัวอะแดปเตอร์อันไหนเป็นของมิจฉาชีพ แนะนำว่าคุณควรพกสายชาร์จของตัวเอง และก็ควรซื้อสายชาร์จของแท้จากแบรนด์มือถือที่คุณใช้ หากซื้อจากร้านค้าออนไลน์ก็ควรเลือกร้านค้าที่เป็นทางการของแบรนด์นั้น ๆ (Official Store) หรือไม่หากโทรศัพท์ของคุณสามารถใช้วิธีชาร์จจากแท่นชาร์จไร้สายได้ ก็เลือกชาร์จด้วยวิธีนี้ก็ได้ค่ะ
นอกจากนี้หากเป็นไปได้เราขอแนะนำให้คุณพกแบตเตอรี่สำรอง (PowerBank) ติดตัวไปด้วยก็จะปลอดภัยมากที่สุด แน่นอนว่า PowerBank ที่ซื้อมาก็ควรเป็นแบรนด์หรือร้านค้าที่น่าเชื่อถือด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้ก็ยังมีวิธีดูดเงินแบบใหม่ ๆ นอกเหนือจากการใช้สายชาร์จแล้ว ก็คือการใช้ WiFi ฟรีแต่เป็นของปลอมในที่สาธารณะด้วยนะคะ พยายามตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็น WiFi ที่มีความปลอดภัย หากการจะเข้า Login ใช้ WiFi มีการถามข้อมูลส่วนตัวของเรามากเกินไป ก็ขอให้หลีกเลี่ยงที่จะใช้ WiFi ตัวนั้น แต่หากคุณไม่มั่นใจและรู้สึกไม่ปลอดภัยจริง ๆ ก็ให้ใช้สัญญาณเครือข่ายจากค่ายมือถือ (3G, 4G, 5G) ที่ตนเองใช้บริการอยู่จะปลอดภัยมากที่สุด

ทั้งนี้อยากให้ทุกคนระวังตัว อย่าเสียบสายชาร์จโทรศัพท์ของใครมั่ว ๆ และโปรดจำไว้ว่าหน่วยงานรัฐหรือเจ้าหน้าที่จากรัฐบาลไม่มีทางติดต่อประชาชนทางแอปฯ LINE เด็ดขาด หากคุณมีความสงสัยเกี่ยววิธีการหลอกล่อ รวมถึงอยากได้วิธีป้องกันจากเหล่ามิจฉาชีพ แนะนำให้อ่านบทความ “รู้ทันโลกออนไลน์ เผยวิธีป้องกันไม่ให้ถูกหลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต” ค่ะ
References :
- เพจ ตำรวจสอบสวนกลาง
- เพจ Drama-addict