วันที่ 16 กันยายน 2566 นี้จะเริ่มต้นการแข่งขันเพื่อคัดเลือกทีมไปแข่งวอลเลย์บอลหญิงโอลิมปิก 2024 ซึ่งประเทศไทยเป็นหนึ่งใน 24 ทีมที่ได้โควต้าในการคัดเลือกครับ และในทัวร์นาเมนต์นี้จะแบ่งสายการแข่งขันออกเป็นทั้งหมด 3 กลุ่ม ได้แก่ สาย A, สาย B และ สาย C โดยทีมชาติไทยนั้นได้ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม C ที่มีทีมชาติโปแลนด์, อิตาลี, สหรัฐอเมริกา, เยอรมัน, โคลอมเบีย, เกาหลี และสโลวีเนีย

สายนี้ถือเป็นสายที่ยากไม่แพ้ไปกว่าสายอื่น เพราะในกลุ่มมีทีมชั้นนำอย่าง โปแลนด์, อิตาลี และสหรัฐอเมริกาที่เป็นจ่าฝูง ทั้งยังมีทีมชาติเยอรมันที่หากฟอร์มเข้าฝักก็สามารถล้มทีมยักษ์ใหญ่ได้ทั่วโลก แม้ว่าทีมวอลเลย์บอลหญิงของไทยเป็นทีมที่สร้างเซอร์ไพร์สได้เสมอ บวกกับฟอร์มล่าสุดที่เพิ่งคว้าแชมป์เอเชียมาก็อาจทำให้ไทยกลายเป็นทีมม้ามืดในการคว้าตั๋วได้ แต่ก็ต้องโฟกัสแบบแมตช์ต่อแมตช์ ซึ่งในบทความนี้ผมจะมา ‘วอลเลย์บอลไทย วิเคราะห์โอกาสชนะวอลเลย์บอลหญิงทีมเยอรมนี’ อย่างละเอียดสำหรับแมตช์แรกในวันที่ 16 ก.ย. นี้

ฟอร์มของเยอรมนีและไทยในทัวร์นาเมนต์ล่าสุด

ทั้งไทยและเยอรมันได้แข่งขันชิงแชมป์ทวีปของตัวเองก่อนที่จะมาเข้าร่วมแข่งขันคัดเลือก โดยผลงานของเยอรมันในชิงแชมป์ยุโรปสามารถทะลุเข้าไปในรอบ 8 ทีมสุดท้าย แต่ไปพ่ายให้กับทีมโปแลนด์ 3 – 0 เซ็ต (ซึ่งอยู่ในกลุ่ม C ของการคัดเลือกไปโอลิมปิก) ในขณะที่ประเทศไทยของเราสามารถคว้าแชมป์เอเชียได้ครองได้สำเร็จด้วยการเอาชนะญี่ปุ่นในรอบรองชนะเลิศและล้มยักษ์ใหญ่อย่างจีนในรอบชิงชนะเลิศ

แต่การบัญญัติไตรยางค์ว่าทีมไทยได้แชมป์เอเชียแล้วจะมีโอกาสชนะเยอรมันแบบง่าย ๆ ที่ตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายในการแข่งชิงแชมป์ยุโรปก็คงจะไม่ใช่แบบนั้น เพราะต้องยอมรับว่าการแข่งขันในทวีปยุโรปค่อนข้างจะดุเดือด เป็นทวีปที่เหมือนกับการรวมเอาทีมสุดยอดระดับโลกมาแข่งขันกัน ให้อารมณ์เหมือนกับการชิงแชมป์โลกแบบย่อม ๆ เลยครับ ต้องไปวัดฟอร์มกันหน้างานในวันที่ 16 ก.ย. นี้

ไทยมีโอกาสชนะเยอรมนี ไหม? และทำอย่างไรถึงไทยจะชนะเยอรมนี

การที่จะบอกว่าไทยจะชนะแน่ ๆ หรือเยอรมันชนะแน่ ๆ คงคาดการณ์ยากเล็กน้อย แต่สิ่งที่เราได้เปรียบอยู่อยางหนึ่งคือผู้เล่นของไทยไม่ว่าจะเป็น Line Up (ตัวจริง) หรือสำรองมีร่างกายที่สมบูรณ์มาก ในขณะที่ตัวหลักทำแต้ม ‘Hanna Orthmann’ เกิดอาการบาดเจ็บไม่สามารถมาลงเล่นได้ จนโค้ชทีมชาติเยอรมันต้องดึงบีหลังมือซ้ายอย่าง ‘Kimberly Drewniok’ อดีตเพื่อนร่วทีมสโมสรของชัชชุอรและอัจฉราพรกลับมาเข้าช่วยหลังจากประกาศเลิกเล่นทีมชาติไปก่อนหน้านี้

ในเรื่องของเกมส์บุก Kimberly ยังไม่สามารถเทียบเคียงกับ Hanna ได้ อีกทั้งชัชชุอรและอัจฉราพรทราบถึงสไตล์การบุกของ Kimberyly เป็นอย่างดี ซึ่งตรงนี้ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่ไทยนำหน้าไปครึ่งก้าว

แต่สิ่งที่ไทยยังคงต้องทำการบ้านในการเจอเยอรมันครั้งนี้คือการบล็อคบอลเร็วและวางแผนเกมส์รับบริเวณตำแหน่ง 1 และ 2 ให้ดี (รับบอลไหลหลัง) เพราะจากหลาย ๆ แมตช์ที่ผ่านมาเยอรมันใช้บอลเร็วเล่นงานทีมไทยอยู่เสมอ สังเกตได้จากสถิติในรายการ VNL 2023 ล่าสุดที่บอลเร็วของเยอรมันอย่าง Weitzel ทำไปได้ถึง 17 คะแนน และ Schölzel ทำไปได้ถึง 15 คะแนน สถิตินี้ทำให้เราเห็นเยอรมันเจาะบล็อคและเกมส์รับทั้งบอลสั้นและบอลไหลหลังของเราได้เป็นกอบเป็นกำ

ถ้าหากใครดูวอลเลย์บอลจะทราบกันดีว่า Top Score ในแต่ละแมตช์ส่วนใหญ่แล้วจะหนีไม่พ้นตำแหน่ง OH (หัวเสา) หรือ OPP (บีหลัง) ซะมากกว่า การที่ตำแหน่งบอลกลางของเยอรมันทำแต้มได้ในระดับนี้ นั่นหมายความว่าเขาสเก๊าท์จุดอ่อนของเรามาเป็นอย่างดี ซึ่งตรงนี้ทีมงานสต๊าฟโค้ชคงจะต้องทำการบ้านหนักในการปิดจุดอ่อนดังกล่าว ด้วยการวางแผนปิดบอลของเยอรมันให้ได้ ดังนั้นทัดดาวและหัตถยา 2 บอลกลางของไทยเป็นผู้เล่นคีย์สำคัญที่มีผลแพ้ชนะในแมตช์นี้อย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกันถ้าหากไทยอยากจะชนะ ตำแหน่ง OH, OPP และโดยเฉพาะ MB ของเราจะต้องมาในฟอร์มที่พร้อมกันทำแต้มได้ทุกหน้า เพราะถึงแม้ตัวปิดแต้มของเยอรมันในตอนนี้จะไม่เด็ดขาดเท่ากับตัวจริงที่บาดเจ็บไป แต่บล็อคของเยอรมันยังคงเป็นบล็อคใหญ่ตามสไตล์ยุโรป การที่ไทยจะสร้างความได้เปรียบคือการเล่นแบบผสมผสาน สามารถบุกได้ทุกตำแหน่ง ยิงเราบุกได้มากเท่าไหร่นั่นหมายความว่าโอกาสในการชนะของเราจะมากขึ้นตามไปด้วย

ไทยชนะ/แพ้เยอรมัน จะมีผลอะไรบ้าง ?

การแพ้เยอรมันส่งผลเสียต่อไทยในหลายมิติ อย่างแรกเลยคือโอกาสในการคว้าตั๋วไปโอลิมปิคในรายการนี้จะลดลงไปมากกว่า 50% เพราะอย่าลืมว่าทีมที่เหลือยังมีโปแลนด์, อิตาลี และสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นก้างชิ้นยักษ์ รวมไปถึงทีมเหล่านี้ถ้าหากวัดกันตามฟอร์มและสถิติจะเหนือกว่าเยอรมันค่อนข้างเยอะ ถ้าหากเราพลาดโอกาสทองที่แพ้กับเยอรมันไปก็เหมือนกับการปิดประตูไปแล้วครึ่งบาน

นอกจากจะพลาดตั๋วในทัวร์นาเมนต์นี้แล้วยังส่งผลต่ออันดับโลกด้วย เพราะถ้าหากไทยแพ้เยอรมันแบบขาด ๆ 3 – 0 ไทยจะโดนหัก 9.32 คะแนน ในทางกลับกันถ้าหากไทยชนะ 3 – 0 ไทยจะได้คะแนนเพิ่มมากถึง 8.18 คะแนน และไทยจะเปลี่ยนอันดับ 14 ขึ้นไปอันดับ 13 ทันที ถึงแม้ว่ารายการนี้เราอาจจะไม่ได้ตั๋วแต่เรายังคงมีโอกาสลุ้นในการเข้าไปเล่นโอลิมปิคด้วยอันดับโลก โดยเป้าหมายสำคัญที่ถ้าหากเราอยากเข้าไปเล่นโอลิมปิคคือการคว้าตั๋วโอลิมปิคในรายการนี้ด้วยการจบที่ 2 อันดับแรกของกลุ่ม C และทำอย่างไรก็ได้ให้เข้าไปอยู่ใน Top 10 ของโลกหลังจากจบรายการ VNL 2024

สถิติการแพ้ชนะ ไทย VS เยอรมนี

ตั้งแต่มีการแข่งขันวอลเลย์บอลมาไทยและเยอรมนีพบกันมาแล้วถึง 15 ครั้ง เยอรมนีสามารถเอาชนะไทยไปได้ 10 ครั้ง และไทยเอาชนะเยอรมนีได้ 5 ครั้ง (เยอรมนี 15 : 5 ไทย) โดย 6 ครั้งล่าสุดที่พบกันมีผลแพ้ชนะดังนี้

จากสถิติภาพรวมถึงแม้ว่าเยอรมันจะดูได้เปรียบกว่า แต่การเจอในแต่ละครั้งจะค่อนข้างสูสีและมีในหลายครั้งที่ไทยสามารถคว่ำเยอรมนีได้ ดังนั้นถ้าหากไทยวางแผนในการสู้ครั้งนี้เชื่อว่าไทยมีโอกาสคว้าชัยชนะได้อย่างแน่นอน แต่ผลการแข่งขันที่ออกมาน่าจะสูสีและเข้มข้นพอสมควร