ความฝันสูงสุดของนักกีฬาทุกคนบนโลกใบนี้คือการเข้าไปร่วมรายการโอลิมปิกสักครั้งในชีวิตเพื่อเป็นเกียรติประวัติให้กับตัวเองและวงตระกูล แต่การเข้าไปแข่งขันโอลิมปิกนั้นไม่ได้เข้ากันง่าย ๆ เพราะในทุกชนิดกีฬาจะต้องมีรอบคัดเลือกหรือใช้เกณฑ์อันดับโลกในการคัดนักกีฬาหรือทีมเข้ามาแข่งขัน ไม่ใช่ว่าใครก็สามารถกรอกใบสมัครเข้ามาได้
ซึ่งวอลเลย์บอลเองก็เป็นหนึ่งกีฬาที่มีการแข่งขันอันดุเดือดมาก ในทุกรอบโอลิมปิกจะมีเกณฑ์การคัดที่แตกต่างกันออกไป อย่างเช่น โอลิมปิก 2012 จะเลือกทีมจากอันดับใน World Cup 2011 และ World Olympic Qualification Tournament ส่วนในปี 2020 จะเป็นรายการ Intercontinental Qualifier และการชิงตั๋วในทวีปของตัวเอง
แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ปีการคัดเข้าร่วมโอลิมปิกการคัดเลือกก็เปลี่ยนอีกครั้ง เพราะการจะเข้าไปเล่นจะมีโอกาส 2 ครั้ง คือการคว้าตัวในรายการ Olympic Qualification Tournaments โดยจะต้องติด 1 ใน 2 อันดับที่ดีของกลุ่มเท่านั้น (ในแต่ละกลุ่มมี 8 ทีม) ส่วนโอกาสอีกครั้งหนึ่งคือการทำอันดับโลกให้ติดอยู่ 1 ใน 10 ของโลกเพื่อคว้าตั๋วจากอันดับโลก
กรณีไหนบ้างที่จะทำให้วอลเลย์บอลหญิงไทยเข้าไปเล่นในรายการโอลิมปิก 2024
1. จบด้วย 2 อันดับแรกของกลุ่ม C ในรายการ Olympic Qualification Tournaments
ถ้าหากไทยอยากจะไปแข่งโอลิมปิกแบบเร็วที่สุดและไม่ต้องไปลุ้นอันดับโลกอะไรให้วุ่นวาย ไทยจะต้องจบด้วย 2 อันดับแรกในกลุ่ม C ของรายการคัดโอลิมปิกที่จะถึงนี้ แต่ถ้าหากวิเคราะห์กันตามฟอร์มและความเก่งของคู่แข่งในสายแล้วต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่าโอกาสในการเหยียบขึ้นไปอยู่ 2 อันดับแรกของกลุ่มนั้นยากมาก !! เนื่องจากในกลุ่มมีทีมยักษ์ใหญ่อย่าง สหรัฐอเมริกา (อันดับ 2 ของโลก), อิตาลี (อันดับ 5 ของโลก), โปแลนด์ (อันดับ 7 ของโลก) และยังมีทีมฝีมือดีจากยุโรปอย่าง เยอรมนี (อันดับ 12 ของโลก) อีกตังหาก
ในส่วนตัวของตัวผมเองคิดว่าโอกาสชนะเยอรมันในครั้งนี้ค่อนข้างเยอะกว่าครั้งก่อน เพราะตัวทำแต้มของเยอรมนีเกิดอาการบาดเจ็บไม่สามารถเข้ามาร่วมแข่งกับทีมได้ และด้วยฟอร์มการเล่นในช่วงนี้ที่เพิ่งได้แชมป์รวมไปถึงระบบการเล่นของไทยที่ปรับสปีดให้นักกีฬาเข้าทำแต้มดีมากขึ้น ดังนั้นโอกาสการชนะยังมีอยู่บ้าง
แต่สำหรับทีมอย่างโปแลนด์และอิตาลีอาจจะค่อนข้างยากหน่อย เนื่องจากทั้ง 2 ทีมมีสถิติการชนะทีมไทยอย่างขาดลอย ยิ่งโดยเฉพาะโปแลนด์ที่ฟอร์มกำลังเข้าฝักและตัวสูงมากจนตีเหนือบล็อคไทยการเอาชนะจึงค่อนข้างยาก ส่วนทีมอิตาลีแม้ว่าจะขาดอิโกนูแต่อย่าลืมว่าบอลเร็วและหัวเสาของอิตาลียังคงแกร่งพอสมควรที่จะเอาชนะไทยได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็อย่าลืมว่าไทยเป็นทีมที่สร้างเซอร์ไพร์สค่อนข้างบ่อย หากยุโปรระดับท็อปทีมไหนมาในฟอร์มที่ไม่ได้ดีที่สุด ไทยก็พร้อมที่จะคว้าโอกาสในการชนะได้บ่อยครั้ง
ส่วนสหรัฐอเมริกาแม้ว่าจะเป็นถึงอันดับ 2 ของโลก แต่ในหลาย ๆ ครั้งที่พบกับไทย ไทยจะเก็บเซ็ตได้ไม่ 1 ก็ 2 เซ็ต ในบางครั้งก็เกือบเอาชนะด้วยซ้ำ ดังนั้นใช่ว่าโอกาสของไทยเราจะไม่มีถ้าหากทุกตำแหน่งของเราพร้อมเล่น ไพ่อาจจะหงายมาที่ไทยก็เป็นได้ แต่ในขณะเดียวกันทีมรอง ๆ อย่าง เกาหลี, โคลอมเบีย หรือสโลวีเนียเองก็ไม่สามารถประมาทได้เลย ทางที่ดีเราควรชนะทีมเหล่านี้ด้วยสกอร์ 3 – 0 เซ็ตเพื่อเพิ่มคะแนนโลกให้มีโอกาสไปโอลิมปิกมากขึ้นหากพลาดตั๋วในครั้งนี้
2. เก็บคะแนนให้มากที่สุดเพื่อให้อันดับโลกอยู่ใน Top 10 เมื่อจบรายการ VNL 2024
คะแนนในทุกจุดทศนิยมมีผลต่อการเข้าไปโอลิมปิกทั้งหมด แม้ว่าเราจะไม่ได้ตั๋วไปโอลิมปิกในกรณีแรก แต่ยังมีเงื่อนไขที่ 2 ที่ไทยพอจะมีลุ้นไม่มากก็น้อยครับ โดยกรณีนี้จะใช้เกณฑ์อันดับโลกคัดเลือกทีมเข้าไปเล่น นั่นคือการเลือกทีมอันดับที่ดีที่สุด ถ้าจะอธิบายให้เข้าใจแบบไม่วุ่นวายคือไทยจะต้องเข้าไปอยู่ใน Top 10 ของโลกให้ได้เมื่อจบรายการ VNL ในปีหน้า เพราะเงื่อนไขแรกจะมีตั๋วทั้งหมด 6 ใบ ส่วนเงื่อนไขที่ 2 จะมีทั้งหมด 5 ใบ
สมมุติว่าทีมที่ได้ตั๋วในเงื่อนไขแรกเป็นทีมอันดับ 1 – 6 แสดงว่าทีมที่จะได้ตั๋วจากอันดับโลกจะเป็นทีมอันดับ 7 – 10 นั่นเอง แต่หลายคนก็อาจจะตั้งคำถามว่าทำไมไม่เป็น 7 – 12 เพราะโควต้าทีมที่เข้าแข่งขันวอลเลย์มีทั้งหมด 12 ทีม ?
ซึ่งเหตุผลนี้เป็นเพราะโควต้าจะให้กับทีมเจ้าภาพโอลิมปิกนั่นคือ ‘ฝรั่งเศส’ ในขณะที่อีกใบจะให้กับทวีปแอฟริกาซึ่งเป็นทีมที่ยังไม่มีประเทศเข้ารอบ นั่นหมายความว่าตั๋วจะเหลือ 4 ใบให้กับทีมที่อันดับโลกดีที่สุดนั่นเองครับ ดังนั้นตั้งแต่รายการคัดโอลิมปิกในวันที่ 16 กันยายนนี้ ไปจนถึงรายการ VNL 2024 ปีหน้า ในทุกแมตช์มีผลต่อทีมไทยของเราทั้งหมดเพราะทุกคะแนนมีผลต่อการขึ้นไปติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกครับ
