เป็นที่ทราบกันดีว่าเมื่อประเทศไทยเข้าสู่หน้าร้อนทีไรจะต้องมีข่าวผู้คนเป็นฮีตสโตรกหรือโรคลมแดดจนถึงขั้นเสียชีวิตกันมากมาย แม้ว่าปัจจุบันนี้เครื่องปรับอากาศจะกลายเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าขั้นพื้นฐานสำหรับทุกบ้านไปแล้ว แต่อย่างไรก็ตามก็ยังมีอีกหลายครัวเรือนที่ไม่สะดวกจะติดตั้งเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง ดังนั้น “แอร์เคลื่อนที่” จึงอีกหนึ่งทางเลือกตอบโจทย์ เพราะสามารถให้ความเย็นได้ไม่ต่างเครื่องปรับอากาศแบบติดผนัง และยังเคลื่อนย้ายไปไหนมาไหนได้อย่างสะดวก เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัดหรือผู้ที่ต้องการเพิ่มความเย็นเฉพาะจุด

สำหรับในปี 2023 นี้เราถือโอกาสอัปเดตบทความนี้ใหม่ โดยได้ทำการเลือกสินค้ารุ่นใหม่ ๆ มาทำการรีวิว มาดูกันว่าจะมีรุ่นไหน/ยี่ห้อไหน ที่เราเลือกมากบ้าง
แอร์เคลื่อนที่ ยี่ห้อไหนดี?
- เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ขนาดเล็ก มีระบบกรองอากาศ เปลี่ยนเป็นพัดลมไอน้ำได้: Wiman Air แอร์เคลื่อนที่ 3000 BTU
- เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ อายุการใช้งานยาวนาน: GREE แอร์เคลื่อนที่ 9000 BTU รุ่น GPC09AK
- เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ราคาประหยัด: TIL แอร์เคลื่อนที่ 7000 BTU รุ่น B2PAC07
- เครื่องปรับอากาศเคลื่อนที่ เหมาะสำหรับห้องไม่เกิน 35 ตารางเมตร: Astina แอร์เคลื่อนที่ 30000 BTU รุ่น AS300HAPB
![]() Wiman Air แอร์เคลื่อนที่ 3000 BTU | ![]() GREE แอร์เคลื่อนที่ 9000 BTU รุ่น GPC09AK | ![]() TIL แอร์เคลื่อนที่ 7000 BTU รุ่น B2PAC07 | ![]() Astina แอร์เคลื่อนที่ 30000 BTU รุ่น AS300HAPB |
แอร์เคลื่อนที่ ติดตั้งอย่างไร ?
จริง ๆ หากจะบอกว่าแอร์เคลื่อนที่มีการติดตั้งง่ายดายก็ไม่ถือว่าใช่สักทีเดียว เนื่องจากมันจะต้องมีท่อส่งลมร้อนออกไปนอกตัวห้อง ดังนั้นคุณจึงต้องติดตั้งแอร์เคลื่อนที่ไว้ใกล้ ๆ กับหน้าต่างเพื่อที่ดัดแปลงช่องเล็ก ๆ ตรงหน้าต่างให้สามารถส่งลมร้อนออกนอกห้องได้โดยที่อากาศเย็นไม่ได้รั่วไหลออกไปด้วย

อย่างไรก็ตามในกรณีที่ห้องของคุณไม่มีหน้าต่าง คุณก็จำเป็นต้องเจาะกำแพงเพื่อระบายความร้อนอยู่ดี ดังนั้นก่อนจะซื้อแอร์เคลื่อนที่ คุณจะต้องตรวจสอบพื้นที่ติดตั้งของตัวเองให้เรียบร้อยว่าต้องการให้แอร์เคลื่อนที่อยู่ส่วนไหนของห้อง
นอกจากนี้หาหน้าต่างของคุณอยู่ไกลเกินไปจากตำแหน่งที่คุณต้องการให้แอร์ส่งลมมาถึง คุณจะต้องเปลี่ยนท่อส่งลมร้อนให้ยาวกว่าเดิม เนื่องจากแอร์เคลื่อนจะให้ความเย็นแบบเฉพาะจุดเท่านั้นไม่ได้ทำให้เย็นทั่วทั้งห้อง ยกเว้นว่าห้องนั้นมีขนาดที่เล็กมาก ๆ ก็จะเย็นอย่างทั่วถึง อย่างไรก็ตามหากคุณไม่ต้องการติดตั้งให้ยุ่งยากแนะนำให้ซื้อเต็นท์แอร์มาใช้แทนกันก็ได้
แอร์เคลื่อนที่ กับ แอร์ติดผนัง แตกต่างกันอย่างไร?
ในปัจจุบันก็มีหลายทางเลือกให้คุณได้เลือกใช้กัน แต่ที่ได้รับความนิยมมาตลอด คือ แอร์ติดผนัง และ แอร์เคลื่อนที่ ซึ่งแต่ละแบบก็มี ข้อดี ข้อเสีย แตกต่างกันไป เรามาดูกันดีกว่าครับ ว่าคุณเหมาะสำหรับแอร์ประเภทไหนมากที่สุด
1. แอร์ติดผนัง / แอร์ที่มีระบบฟอกอากาศ
ถือเป็นแอร์ที่ทุกคน ๆ คุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันก็มีฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย เลือกพิจารณาไม่ว่าจะเป็น การกรองอากาศในตัว ระบบตัวจับเซ็นเซอร์การเคลื่อนไหว การเชื่อมต่อผ่าน App สำหรับเปิดใช้งานระยะไกล เป็นต้น ซึ่งนอกจากฟังก์ชันเหล่านี้แล้ว ก็จะมีรูปลักษณ์และการดีไซน์ที่ทันสมัย ในส่วนของขนาดนั้นก็จะขึ้นอยู่กับขนาดบีทียู (BTU) ซึ่งหากมี BTU ไม่มาก ก็จะมีขนาดกระทัดรัดและประหยัดไฟมากกว่าขนาด BTU สูง ๆ

|
|
2. แอร์เคลื่อนที่
ใช้ในการปรับอาศเพื่อสร้างความเย็นแบบเดียวกับแอร์ติดผนังทั่วไป แต่จะมีจุดเด่นตรงที่การติดตั้งง่ายกว่า และการเคลื่อนย้ายได้สะดวกกว่า นอกจากนี้ยังไม่ต้องติดตั้งเจาะผนังเหมือนแอร์ติดผนัง เพียงแค่เสียบปลั๊ก คุณก็สามารถใช้งานเพิ่มความเย็นได้ทันที แต่ขนาดบีทียู (BTU) จะมีให้เลือกน้อยว่าเมื่อเทียบกับแอร์แบบปกติ ในส่วนเสียงดังรบกวนนั้นถือว่าเป็นเรื่องปกติของแอร์เคลื่อนที่ ดังนั้นคุณไม่ควรนำแอร์แบบติดผนังมาเปรียบเทียบกัน เนื่องจากแอร์แบบติดผนังมีการติดตั้งเครื่องทำความเย็นไว้ภายนอกบ้าน ในขณะที่แอร์เคลื่อนที่มีระบบทำความเย็นอยู่ในเครื่องเลย ดังนั้นมันจึงมีเสียงดังเป็นธรรมดา นอกจากนี้ตัวเครื่องนั้นก็มีขนาดเล็กจึงเคลื่อนย้ายจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้สะดวก

|
|
เลือกแอร์เคลื่อนที่ BTU เท่าไหร่ดี?
สูตรการคำนวณ ความกว้าง x ความยาว x ประเภทของห้อง = ขนาด BTU ของแอร์
โดยความกว้างและความยาวของห้องนั้น ต้องมีหน่วยเป็น “ตารางเมตร” โดยเพดานที่สูงไม่เกิน 3 เมตร และสำหรับคัวแปรที่ชื่อ “ประเภทของห้อง” นั้น จะแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่
- ห้องที่โดดแดด มีความร้อนสูง หรือเน้นใช้งานในกลางวัน ค่า = 600 ถึง 700
- ห้องที่ไม่ค่อยโดดแดด มีความร้อนน้อย หรือเน้นใช้งานในตอนกลางคืน ค่า = 700 ถึง 800
ตัวอย่าง
ห้องขนาด กว้าง 4 ตารางเมตร และยาว 5 ตารางเมตร เป็นห้องที่โดดแดดพอดี เน้นใช้งานกลางวัน เพราะร้อนมาก จะได้ว่า 4 x 5 x 600 = 12,000 BTU
ตารางการเลือกขนาด BTU |
||
---|---|---|
ขนาด BTU | ห้องปกติ | ห้องโดนแดด |
9,000 BTU | 12-15 ตารางเมตร | 10-14 ตารางเมตร |
12,000 BTU | 16-20 ตารางเมตร | 14-18 ตารางเมตร |
18,000 BTU | 24-30 ตารางเมตร | 21-27 ตารางเมตร |
21,000 BTU | 28-35 ตารางเมตร | 25-32 ตารางเมตร |
24,000 BTU | 32-40 ตารางเมตร | 28-36 ตารางเมตร |
25,000 BTU | 35-44 ตารางเมตร | 30-39 ตารางเมตร |
30,000 BTU | 40-50 ตารางเมตร | 35-45 ตารางเมตร |
BTU ของแอร์เคลื่อนที่ สำคัญอย่างไร?
หากเลือก BTU สูง ๆ มาใช้ในห้องขนาดเล็ก แน่นนอนว่าแอร์จะใช้เวลาในการทำความเย็นรวดเร็ว เมื่อทำให้เย็นตรงตามอุณหภูมิที่ตั้งค่าไว้แล้ว คอมเพรสเซอร์ก็จะหยุดทำงาน การที่คอมเพรสเซอร์หยุดบ่อย ๆ ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะลดลง ทำให้อายุการใช้งานสั้นลง และสิ้นเปลืองพลังงานอีกด้วย
หากเลือก BTU ต่ำเกินไป มาใช้ในห้องขนาดกว้าง คอมเพรสเซอร์ก็จะต้องทำงานตลอดเวลา เพราะทำอย่างไรความเย็นก็ไม่ถึงตามที่ตั้งค่าอุณหภูมิไว้ ทำให้อายุการใช้งานสั้นลงอีกเช่นกันและสิ้นเปลืองพลังงาน (กินไฟ) ด้วย
Wiman Air แอร์เคลื่อนที่ 3000 BTU

ราคา 8,380 บาท*
สำหรับตัวนี้จะมีขนาดเล็กมาก ๆ ทำให้เคลื่อนย้ายได้สะดวกเหมาะสำหรับใช้คนเดียวในพื้นที่เล็ก ๆ อาทิเช่น คุณอาจจะซื้อมุ้งแอร์เพิ่มจากทางแบรนด์ หรือไม่หากคุณมีเต็นท์สนามอยู่แล้วจะเอามาใช้ในช่วงหน้าร้อนก็ได้ค่ะ และด้วยขนาดเพียง 3000 BTU นั้น แอร์รุ่นนี้จึงช่วยให้คุณประหยัดไฟได้เยอะมากจริง ๆ โดยจะมีระบบการทำงาน 3 อย่างหลัก ๆ คือเป็นทั้งแอร์เคลื่อนที่ เครื่องกรองอากาศ และยังเปลี่ยนตัวเองเป็นพัดลมไอน้ำได้ด้วย

ข้อดี
- ฟังก์ชันใช้งานครอบคลุม 5 โหมด ทำความเย็นแบบแอร์, กรองอากาศ, พัดลมธรรมดา, พัดลมไอน้ำ, เครื่องลดความชื้น
- ขนาดเล็ก ติดตั้งง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก
- ทำงานเสียงเบา เหมาะสำหรับการนอนหลับพักผ่อน
- กินไฟน้อย ไม่มีการไม่กระซากไฟขณะเปิดเครื่องใหม่
ข้อควรพิจารณา
- ราคาสูงไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาด 3000 BTU
- ให้ความเย็นในระดับที่พอดี ๆ เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็กเท่านั้น
ขนาด BTU | 3000 BTU |
---|---|
ขนาด | 38 x 298 x 48 cm |
ระดับความดังเสียง | 38-55 dB |
GREE แอร์เคลื่อนที่ 9000 BTU รุ่น GPC09AK

ราคา 16,590 บาท*
ข้อดี
- ระบบทำงานมีประสิทธิภาพอากาศเย็นเร็วเย็นนาน
- เสียงทำงานไม่ได้ดังมาก
- เหมาะสำหรับใช้ในห้องนอนมี Sleep Mode
- คุณภาพเยี่ยม มีมาตรฐานรับรอง เป็นแบรนด์เครื่องปรับอากาศชั้นนำในประเทศจีน
- สะดวกต่อการเคลื่อนย้าย
- มีแผงควบคุมป้องกันไฟลาม
- ช่องส่งลมเย็นมีขนาดใหญ่ ปรับทิศได้กว้าง กระจายทั่วทั้งห้อง
- มีระบบฟอกอากาศ Pre Filter (กรองฝุ่นอย่างหยาบ)
ข้อควรพิจารณา
- รับประกันคอมเพรสเซอร์ 2 ปี
- ราคาสูงไปหน่อยเมื่อเทียบกับขนาด 9000 BTU
ขนาด BTU | 10,000 BTU |
---|---|
ขนาด | 32 x 37 x 73 cm |
ระดับความดังเสียง | ต่ำกว่า 47 dB |
TCL แอร์เคลื่อนที่ 9000 BTU รุ่น TAC-09CPA

ราคา 6,330 บาท*
ข้อดี
- ดีไซน์ตัวเครื่องเป็นสี่เหลี่ยมมน ๆ ให้ความรู้สึกมินิมอลหน่อย ๆ สามารถติดตั้งได้อย่างกลมกลืนกับทุกมุมห้อง
- ช่องส่งความเย็นมีขนาดกว้างและใหญ่ขึ้นกว่าเดิม เป็นการส่งความเย็นแนวนอนทำให้กระจายความเย็นได้ดีกว่ารุ่นเก่า ๆ
- มีล้อเลื่อนที่ฐานเครื่อง ช่วยให้เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก
ข้อควรพิจารณา
- เสียงทำงานดังมาก
- แผงควบคุมอยู่ที่ด้านบนตัวเครื่อง
- ท่อส่งลมร้อนสั้น ต้องหามุมติดตั้งที่อยู่ใกล้หน้าต่างมากที่สุด
- รุ่นใหม่ช่องส่งความเย็นจะต้องอยู่ด้านหน้าตัวเครื่องเท่านั้น หากได้รับสินค้าที่ไม่ตรงตามรุ่นที่สั่งไว้ กรุณาแจ้งร้านค้าทันที
ขนาด BTU | 9000 BTU |
---|---|
ขนาด | 32 x 32 x 67 cm |
ระดับความดังเสียง | 54 dB ขึ้นไป |
Aconatic แอร์เคลื่อนที่ 9000 BTU รุ่น AN-PAC09A1

ราคา 9,865 บาท*
จริง ๆ แล้วเว็บไซต์ของเราได้แนะนำ แอร์เคลื่อนที่จากแบรนด์ Aconatic รุ่น AN-PAC12S ติดต่อกันมาประมาณ 2-3 ปี เห็นจะได้ค่ะ เนื่องจากแบรนด์มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดี บวกกับราคาที่ไม่แพงเกินไป แต่น่าเสียดายที่รุ่นนี้ไม่มีการผลิตอีกแล้ว

ข้อดี
- อายุการใช้งานยาวนาน
- ทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว
- ช่องส่งลมเย็นมีขนาดใหญ่ กระจายทั่วทั้งห้อง
ข้อควรพิจารณา
- ดีไซน์ไม่ค่อยสวย
- เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก
ขนาด BTU | 9000 BTU |
---|---|
ขนาด | 27 x 70 x 50 cm |
ระดับความดังเสียง | ไม่ระบุ |
Central Air แอร์เคลื่อนที่ 20000 BTU รุ่น CTP-CB20

ราคา 17,339 บาท*
ข้อดี
- ขนาด 20000 BTU ทำความเย็นได้รวดเร็ว
- ปรับความเย็นได้ 4 ระดับ / ปรับแรงลมได้ 3 ระดับ
- ทำงานเปิด-ปิดอัติโนมัติ
- ช่องส่งความเย็นมีขนาดกว้างและใหญ่
ข้อควรพิจารณา
- เสียงดังมาก
- ไม่เหมาะสำหรับติดตั้งห้องนอน
- ท่อส่งลมร้อนสั้น ต้องหามุมติดตั้งที่อยู่ใกล้หน้าต่างมากที่สุด
ขนาด BTU | 20000 BTU |
---|---|
ขนาด | 37 x 78 x 57 cm |
ระดับความดังเสียง | ไม่ระบุ |
Midea แอร์เคลื่อนที่ 120000 BTU

ราคา 10,900 บาท*
ข้อดี
- ดีไซน์สวย
- มีการระบบฟอกอากาศในตัว
- ช่องส่งลมเย็นมีขนาดใหญ่ กระจายทั่วทั้งห้อง
- มี Ionizer ไอออนประจุลบกำจัดเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในอากาศ
ข้อควรพิจารณา
- เสียงทำงานดัง
- ค่อนข้างกินไฟ
- ให้ความเย็นในระดับที่พอดี ๆ เหมาะสำหรับพื้นที่ขนาดเล็ก
ขนาด BTU | 12000 BTU |
---|---|
ขนาด | 46 x 37 x 78 cm |
ระดับความดังเสียง | 54 dB ขึ้นไป |
TIL แอร์เคลื่อนที่ 7000 BTU รุ่น B2PAC07

ราคา 5,490 บาท*
ข้อดี
- ราคาไม่แพง
- ดีไซน์สวย
- ปรับแรงลมได้ 2 ระดับ
- มีแผ่นกรองฝุ่นและกรองกลิ่น
- มีล้อเลื่อนที่ฐานเครื่อง ช่วยให้เคลื่อนย้ายได้อย่างสะดวก
ข้อควรพิจารณา
- เหมาะกับพื้นที่จำกัด
- เสียงทำงานค่อนข้างดัง
ขนาด BTU | 7000 BTU |
---|---|
ขนาด | 31 x 31 x 64 cm |
ระดับความดังเสียง | 54 dB ขึ้นไป |
Astina แอร์เคลื่อนที่ 30000 BTU รุ่น AS300HAPB

ราคา 37,733 บาท*
ข้อดี
- มีขนาด 30000 BTU ทำความเย็นได้รวดเร็ว
- เหมาะสำหรับห้องขนาดกลาง ๆ ไม่เกิน 35 ตารางเมตร
- ปรับมุมได้ง่าย มีระบบสวิงขึ้น/ลง/ซ้าย/ขวา
- ดีไซน์สวยงาม ไม่เปลืองพื้นที่ใช้สอย
- มีล้อ เคลื่อนย้ายสะดวก
ข้อควรพิจารณา
- ราคาค่อนข้างสูง
- ขนาดแอร์เคลื่อนที่ค่อนข้างใหญ่มาก
- ทำงานเสียงดังมาก
- ค่อนข้างกินไฟ (ใช้พลังงาน 2,500 วัตต์)
ขนาด BTU | 30000 BTU |
---|---|
ขนาด | 50 x 65 x 110 cm |
ระดับความดังเสียง | 52 dB |
* หมายเหตุ: ราคาสินค้าอาจมีการเปลี่ยนแปลง ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข และโปรโมชั่นของแต่ละร้านค้า
การเปิดแอร์กับพัดลมพร้อมกันช่วยประหยัดไฟหรือไม่?
เคล็ดลับการเพิ่มความเย็นภายในห้องที่ใช้เครื่องปรับอากาศหรือแอร์นั้น ให้คุณเปิดพัดลมไอเย็น, พัดลมทาวเวอร์, พัดลมติดผนัง หรือพัดลมขนาดเล็ก ควบคู่ไปด้วย เพื่อให้แอร์กระจายความเย็นได้ทั่วถึงทั้งห้อง โดยที่แอร์ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป เพราะเราจะตั้งอุณหภูมิของแอร์ไว้ที่ 26-27 องศา การเปิดพัดลมช่วยอีกแรงจะทำให้อุณหภูมิลดลงอีก 1-2 องศา ดังนั้นวิธีนี้จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างดีเยี่ยม สำหรับแอร์รุ่นเก่าที่ไม่มีฟังก์ชันกรองอากาศในตัวนั้นสามารถใช้แผ่นกรองอากาศทำเอง จะช่วยให้อากาศภายในห้องสดชื่นปลอดโปร่งขึ้นได้
ใช้แอร์เคลื่อนที่อย่างไร ให้ประหยัดไฟ
1. ต้องประหยัดพลังงาน เลือกฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 จะช่วยให้คุณเลือกเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ที่ประหยัดพลังงานได้ดี การประหยัดพลังงานนั้นหมายถึง เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพและไม่กินไฟ
2. ตำแหน่งที่ตั้ง
เลือกที่สามารถกระจายความเย็นได้ดี ไม่มีอะไรมากีดขวางบังทางลม และควรจะตั้งอยู่ใกล้ที่เราใช้งานบ่อย ๆ มากที่สุด หลีกเลี่ยงตั้งข้าง ๆ หน้าต่างหรือประตู เพราะแสงแดดสามารถส่องถึง หรือบางทีอาจจะมีอากาศจากภายนอกเข้ามารบกวนการทำงานของแอร์เคลื่อนที่
3. เลือกขนาด BTU ให้พอดีกับห้อง
การเลือกขนาดของ BTU ให้เหมาะสมนั้น โดยการคำนวณจากสูตร ความกว้าง x ความยาว x ประเภทของห้อง = ขนาด BTU ของแอร์ โดยคุณสามารถคำนวณด้วยตัวเองหรือดูจากตารางที่เราได้ให้มาแล้วก็ได้ครับ ขนาด BTU ที่เหมาะสมกับห้องจะช่วยคุณประหยัดพลังงานได้
4. การตั้งอุณหภูมิ
ควรตั้งอุณหภูมิให้พอเหมาะประมาณ 25-26 องศา แต่หากคุณเปิดพัดลมควบคู่ไปด้วย ก็อาจจะเลื่อนอุณหภูมิไปที่ 26-27 องศา วิธีนี้จะช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างดี เพราะแอร์จะไม่ต้องทำงานหนักเกินไป
5. ไม่ควรมีเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนอยู่ในห้อง
อาทิเช่น กาน้ำร้อนไฟฟ้า, หม้อหุงข้าว, ตู้เย็น, เครื่องชงกาแฟ หรือ เครื่องปิ้งขนมปัง เป็นต้น รวมถึงกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำให้เพิ่มความร้อน อาทิเช่นการใช้เครื่องหนีบผมตรงหรือดัดลอนผม, ไดร์เป่าผม และการสูบบุหรี่ด้วยครับ เพราะสิ่งเหล่านี้จะทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น ส่งผลให้แอร์ทำงานหนัก และสิ้นเปลืองพลังงาน
6. ผ้าม่านกันแสงแดด
สำหรับที่ห้องนั้นมีแสงแดดส่องพอดี การเลือกผ้าม่านที่กันแสงได้ ก็เป็นอีกทางเลือกที่จพช่วยให้คุณประหยัดไฟได้ คุณควรเลือกผ้าม่านที่หนา กรองแสง ป้องกันแสงยูวี หรือสามารถเก็บความเย็นได้ เป้นต้น

เพื่อเป็นการเตรียมรับมือกับฤดูร้อนที่กำลังมา ในบทความนี้เราได้คัดเลือกแอร์เคลื่อนที่รุ่นต่าง ๆ มาแนะนำให้คุณได้เปรียบเทียบได้อย่างชัดเจน และช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
บทส่งท้าย
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับแอร์เคลื่อนที่รุ่นต่าง ๆ ที่เราได้รวบรวมมาให้คุณในวันนี้ เริ่มต้นตั้งแต่ราคาถูก ๆ ไปจนถึงราคาเป็นหมื่น ซึ่งแต่ละรุ่นก็จะมีฟังก์ชันที่ให้มาแตกต่างกันไป อยู่ที่คุณต้องการฟังก์ชันนั้น ๆ หรือไม่ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถตัดสินใจได้แล้วว่าแอร์เคลื่อนที่รุ่นไหนที่เหมาะสมกับบ้านของคุณมากที่สุด